Chronological
ตัวอย่างที่ดีของครอบครัวเรคาบ
35 ในสมัยที่เยโฮยาคิมเป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์[a] เยโฮยาคิมเป็นลูกชายของกษัตริย์โยสิยาห์ ถ้อยคำของพระยาห์เวห์มีมาถึงเยเรมียาห์ว่า 2 “ให้ไปหาครอบครัวเรคาบ และพูดคุยกับพวกเขา แล้วนำพวกเขามาที่วิหารของพระยาห์เวห์ และให้พาพวกเขาเข้าไปในห้องหนึ่งของวิหารนั้น แล้วให้พวกเขาดื่มเหล้าองุ่น”
3 ดังนั้นผมจึงได้พายาอาซันยาห์ลูกชายของเยเรมียาห์ ที่เป็นลูกชายของฮาบาซินยาห์ และพี่ชายน้องชายของเขา และลูกๆทุกคนของเขา รวมทั้งทุกคนในครอบครัวเรคาบ 4 ไปที่วิหารของพระยาห์เวห์ และเข้าไปที่ห้องของพวกลูกชายฮานัน ฮานันเป็นลูกชายของอิกดาลิยาห์ ฮานันเป็นคนของพระเจ้า ห้องนี้อยู่ใกล้กับห้องของพวกเจ้านายทั้งหลาย และอยู่เหนือห้องของมาอาเสอาห์ลูกชายของชัลลูม มาอาเสอาห์เป็นคนเฝ้าประตูวิหาร 5 แล้วผมก็เอาเหยือกที่เต็มไปด้วยเหล้าองุ่นมาหลายเหยือกพร้อมกับพวกถ้วยมาวางไว้ต่อหน้าสมาชิกในครอบครัวของเรคาบ แล้วผมก็บอกพวกเขาว่า “ดื่มเหล้าองุ่นสิ”
6 แต่พวกเขาตอบว่า “พวกเราไม่ดื่มเหล้าองุ่นครับ เพราะโยนาดับลูกชายของเรคาบ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของเราสั่งพวกเราไว้ว่า ‘พวกเจ้าและลูกหลานของเจ้าจะต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นตลอดไป 7 เจ้าจะต้องไม่สร้างบ้านอยู่ ต้องไม่หว่านพืชเพาะปลูก และต้องไม่ทำไร่องุ่น เจ้าต้องไม่ทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ แต่เจ้าจะต้องอาศัยอยู่ในเต็นท์ตลอดชีวิต เพื่อที่เจ้าจะได้อยู่นานๆในเขตแดนที่เจ้าอาศัยอยู่อย่างคนต่างถิ่น’ 8 และพวกเราก็ได้เชื่อฟังคำสั่งของโยนาดับบรรพบุรุษของเรา ที่เป็นลูกชายของเรคาบ พวกเราไม่เคยดื่มเหล้าองุ่นเลยตลอดชีวิต รวมทั้งเมียของพวกเรา และลูกชายลูกสาวของพวกเราก็ไม่เคยดื่มด้วย 9 พวกเราไม่เคยสร้างบ้านอยู่ และไม่เคยมีไร่องุ่น ไม่มีท้องทุ่ง และเมล็ดพืช 10 พวกเราอยู่เต็นท์มาตลอด และพวกเราก็ได้เชื่อฟังและทำตามสิ่งที่โยนาดับบรรพบุรุษของเราได้สั่งให้พวกเราทำ 11 แต่พอกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนบุกแผ่นดินยูดาห์ เราก็พูดกันว่า ‘ไปเยรูซาเล็มกันเถอะ เพราะเรากลัวพวกทหารของบาบิโลนและซีเรีย’ ดังนั้นพวกเราจึงมาอยู่ที่เยรูซาเล็ม”
12 ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ มีมาถึงเยเรมียาห์ว่า 13 “พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอล พูดไว้ว่าอย่างนี้ ‘ให้ไปบอกกับคนยูดาห์และทุกคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มว่า “พวกเจ้าจะไม่ยอมรับคำตักเตือนหรือ พวกเจ้าจะไม่ยอมฟังเราหรือ”’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น 14 “ขนาดคำพูดของโยนาดับ ลูกชายของเรคาบ ที่ได้สั่งพวกลูกชายของเขาไม่ให้ดื่มเหล้าองุ่น พวกลูกๆของเขาก็ยังทำตามเลย จนถึงทุกวันนี้ พวกเขาก็ไม่ดื่มเหล้าองุ่น เพราะเชื่อฟังคำสั่งของพ่อพวกเขา แต่พอเราสั่งพวกเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อน พวกเจ้าก็ไม่เห็นเชื่อฟังเราเลย 15 เราส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้า ที่เป็นพวกผู้รับใช้เราไปหาเจ้าอย่างไม่หยุดหย่อน ให้พวกเขาบอกกับเจ้าว่า ‘พวกเจ้าแต่ละคน ให้หันกลับจากทางชั่วๆของเจ้าและทำตัวให้ดีๆได้แล้ว ถ้าพวกเจ้าไม่ไปติดตามรับใช้พระอื่นๆ พวกเจ้าจะได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เราได้ให้กับเจ้าและบรรพบุรุษของเจ้าไว้’ แต่เจ้าก็ทำหูทวนลม ไม่ยอมฟังเรา 16 พวกลูกหลานของโยนาดับที่เป็นลูกชายของเรคาบได้ทำตามคำสั่งที่บรรพบุรุษของพวกเขาสั่งพวกเขาไว้ แต่คนพวกนี้ไม่ยอมเชื่อฟังเรา”
17 ดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอลได้พูดว่า “เราจะทำให้สิ่งชั่วร้ายทั้งหมดที่เราได้พูดไว้ เกิดขึ้นกับคนยูดาห์ และผู้ที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็มทุกคน เพราะเราได้พูดกับพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง เราได้เรียกพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาไม่ยอมตอบ”
18 แต่สำหรับครอบครัวของเรคาบ เยเรมียาห์พูดว่า “พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอล พูดว่า ‘เพราะพวกเจ้าเชื่อฟังคำสั่งของโยนาดับบรรพบุรุษของเจ้า และรักษาคำสั่งของเขาทุกข้อ และได้ทำทุกอย่างที่เขาสั่งให้พวกเจ้าทำ’ 19 ดังนั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอล จึงพูดว่า ‘จะมีคนจากครอบครัวของโยนาดับลูกชายของเรคาบ มายืนอยู่ต่อหน้าเราเสมอ’”
กษัตริย์เยโฮยาคิมเผาหนังสือม้วนของเยเรมียาห์
36 ในปีที่สี่[b] ที่เยโฮยาคิม เป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ เยโฮยาคิมเป็นลูกชายของกษัตริย์โยสิยาห์ ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ได้มาถึงเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า พระองค์พูดว่า 2 “เยเรมียาห์ ให้เอาหนังสือม้วนมา แล้วเขียนถ้อยคำทั้งหมดที่เราได้พูดกับเจ้าต่อว่าอิสราเอล ยูดาห์ และชนชาติทั้งหมด ตั้งแต่วันแรกที่เราพูดกับเจ้าคือตั้งแต่ช่วงที่โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ มาจนถึงวันนี้ 3 บางทีเมื่อชาวยูดาห์ได้ยินเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เราวางแผนจะทำให้เกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเขาแต่ละคนอาจจะได้เลิกทำชั่ว แล้วเราจะได้อภัยให้กับความผิดบาปของพวกเขา”
4 เยเรมียาห์จึงไปเรียกบารุคลูกชายของเนริยาห์ แล้วบารุคก็เขียนตามที่เยเรมียาห์บอกลงในหนังสือม้วน เยเรมียาห์บอกเขาทุกๆถ้อยคำที่พระยาห์เวห์ได้บอกกับเยเรมียาห์ไว้ 5 เยเรมียาห์สั่งบารุคว่า “ข้าถูกห้ามไม่ให้เข้าไปในวิหารของพระยาห์เวห์ 6 เจ้าจะต้องไปอ่านหนังสือม้วนนี้ที่เจ้าได้เขียนถ้อยคำของพระยาห์เวห์ลงไป ตามที่ข้าได้บอกเจ้านั้น เจ้าจะต้องไปอ่านหนังสือนี้ให้กับทุกคนในวิหารฟังในวันอดอาหาร และเจ้าจะต้องอ่านถ้อยคำเหล่านี้ให้ชาวยูดาห์ทุกคนที่มาจากเมืองต่างๆของเขา ฟังด้วย 7 บางทีคำร้องขอความเมตตาของพวกเขาอาจจะไปถึงพระยาห์เวห์ก็ได้ แล้วแต่ละคนก็จะหันกลับจากการทำชั่วของเขา เพราะความโกรธแค้นเดือดดาลที่พระยาห์เวห์มีต่อคนพวกนี้รุนแรงมาก” 8 แล้วบารุคลูกชายของเนริยาห์ก็ทำตามที่เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าสั่งทุกอย่าง เขาอ่านหนังสือที่มีถ้อยคำของพระยาห์เวห์ในวิหารของพระยาห์เวห์
9 ในเดือนเก้าของปีที่ห้าที่เยโฮยาคิมเป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ เยโฮยาคิมเป็นลูกชายของกษัตริย์โยสิยาห์ ทุกคนในเมืองเยรูซาเล็มและทุกคนที่เดินทางมาเยรูซาเล็มจากเมืองต่างๆของยูดาห์ ต่างพากันอดอาหารอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ 10 ในเวลานั้น บารุคได้อ่านหนังสือม้วนที่เขียนขึ้นตามคำพูดของเยเรมียาห์ในวิหารของพระยาห์เวห์ให้กับคนทั้งหมดฟัง เขาอ่านอยู่ในห้องของเกมาริยาห์ผู้เป็นเลขานุการ ที่อยู่บนโถงชั้นบนตรงทางเข้าประตูใหม่ของวิหาร เกมาริยาห์เป็นลูกชายของชาฟาน
11 มีคายาห์ได้ยินถ้อยคำทั้งหมดของพระยาห์เวห์ในหนังสือม้วน มีคายาห์เป็นลูกชายของเกมาริยาห์ และเกมาริยาห์เป็นลูกชายของชาฟาน
12 เขาก็เลยลงไปที่ห้องของเลขานุการที่ในวังของกษัตริย์ พวกเจ้านายทั้งหมดก็นั่งอยู่ที่นั่น มีทั้งเอลีชามาเลขานุการ และเดไลยาห์ลูกชายของเชไมอาห์ เอลนาธันลูกชายของอัคโบร์ เกมาริยาห์ลูกชายของชาฟาน เศเดคียาห์ลูกชายของฮานันยาห์ และพวกเจ้านายทั้งหมด 13 แล้วมีคายาห์ก็เล่าสิ่งที่เขาได้ยินมาทั้งหมด ตอนบารุคอ่านจากหนังสือม้วนให้ประชาชนฟัง
14 และพวกเจ้านายทั้งหมด ก็ได้ส่งเยฮูดีลูกชายของเนธานิยาห์ ซึ่งเป็นลูกของเชเลมิยาห์ เชเลมิยาห์เป็นลูกชายของคูชิ พวกเขาส่งเยฮูดีไปหามีคายาห์ พร้อมกับสั่งให้บอกบารุคว่า “ให้เอาหนังสือม้วนที่เจ้าอ่านให้ประชาชนฟัง แล้วให้มาที่นี่”
ดังนั้นบารุคลูกชายของเนริยาห์ ได้เอาหนังสือม้วนไปหาพวกเขา
15 แล้วคนพวกนั้นก็พูดกับบารุคว่า “นั่งลงสิ แล้วอ่านมันให้พวกเราฟังหน่อย”
บารุคจึงอ่านมันให้พวกเขาฟัง
16 เมื่อพวกเขาได้ยินถ้อยคำทั้งหมด พวกเขาก็มองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว แล้วพวกเขาก็พูดกับบารุคว่า “เราจะเอาถ้อยคำทั้งหมดนี้ไปบอกกับกษัตริย์อย่างแน่นอน” 17 แล้วพวกเขาก็ถามบารุคว่า “บอกพวกเราหน่อยสิว่า เจ้าเขียนข้อความนี้ขึ้นมาได้อย่างไร เจ้าเขียนตามที่เขาบอกหรือ”
18 บารุคตอบว่า “ใช่แล้วครับ ผมเขียนตามที่เขาบอก พอเขาพูดคำเหล่านี้ให้ผมฟัง ผมก็เขียนลงในหนังสือม้วนตามที่เขาต้องการ”
19 แล้วพวกเจ้านายก็บอกบารุคว่า “รีบหนีไปซะ เจ้ากับเยเรมียาห์ รีบไปหาที่ซ่อน และอย่าให้ใครรู้ว่าพวกเจ้าอยู่ที่ไหน”
20 แล้วพวกเจ้านายก็ได้วางหนังสือม้วนไว้ในห้องของเอลีชามาผู้เป็นเลขานุการ แล้วพวกเขาก็พากันไปหากษัตริย์ที่ลานของวัง แล้วพวกเขาก็ได้บอกกษัตริย์เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
21 แล้วกษัตริย์ก็ส่งเยฮูดี ไปเอาหนังสือม้วนนั้น แล้วเขาก็ไปเอามันมาจากห้องของเอลีชามาครูสอนศาสนานั้น แล้วเยฮูดีก็อ่านมันให้กับกษัตริย์ และพวกเจ้านายทุกคนที่ยืนอยู่ต่อหน้ากษัตริย์ฟัง 22 เวลานั้นตรงกับเดือนเก้าของปี กษัตริย์นั่งอยู่ในวังฤดูหนาวของพระองค์ กระถางไฟที่อยู่ตรงหน้าพระองค์จุดอยู่ 23 เมื่อเยฮูดีอ่านหนังสือม้วนไปได้สามสี่แถบ พระองค์ก็เอามีดกรีดหนังสือเป็นชิ้นๆแล้วโยนลงไปในกระถางไฟ พระองค์ตัดหนังสือไปเรื่อยๆจนพระองค์ได้เผาหนังสือม้วนทั้งเล่มในกระถางไฟนั้น 24 ทั้งกษัตริย์และพวกผู้รับใช้ของพระองค์ที่ได้ฟังถ้อยคำทั้งหมดนี้ของพระยาห์เวห์ ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวหรือสำนึกผิดด้วยการฉีกเสื้อผ้าของตัวเองเลย
25 ถึงแม้เอลนาธัน เดไลยาห์และเกมาริยาห์จะขอร้องไม่ให้พระองค์เผาหนังสือม้วน แต่พระองค์ก็ไม่ฟังพวกเขา 26 กษัตริย์สั่งเยราเมเอล ลูกชายของพระองค์ และเสไรอาห์ลูกชายของอัสรีเอล และเชลามิยาห์ลูกชายของอับเดเอลให้ไปจับตัวบารุคที่เป็นเสมียน และเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า แต่พระยาห์เวห์ซ่อนพวกเขาไว้
27 หลังจากที่กษัตริย์ได้เผาหนังสือม้วน ที่มีถ้อยคำที่บารุคได้เขียนไว้ตามคำพูดของเยเรมียาห์ ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ก็มีมาถึงเยเรมียาห์ว่า
28 “เยเรมียาห์ไปเอาหนังสือม้วนมาอีกเล่มหนึ่ง แล้วให้เขียนข้อความทุกอย่างลงไป เหมือนกับที่เจ้าเคยเขียนไว้ก่อนแล้วในหนังสือม้วนเล่มแรก ที่เยโฮยาคิมกษัตริย์แห่งยูดาห์เผาไป 29 และให้เจ้าต่อว่ากษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์ว่าพระยาห์เวห์พูดว่า ‘เจ้าได้เผาหนังสือม้วนเล่มนี้ และพูดว่า “ทำไมเจ้าถึงได้เขียนบนม้วนหนังนี้ว่ากษัตริย์แห่งบาบิโลนจะมาแน่ๆและเขาจะมาทำลายแผ่นดินนี้ และจะต้อนคนและสัตว์ไปเป็นเชลย”’” 30 ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงพูดเกี่ยวกับเยโฮยาคิมกษัตริย์แห่งยูดาห์ว่า “จะไม่มีลูกหลานของเขาได้นั่งบนบัลลังก์ของดาวิด ศพของเขาจะถูกทิ้งไว้อยู่กลางแดดที่ร้อนจัดในตอนกลางวันและหนาวเหน็บในตอนกลางคืน 31 เราจะทำโทษเขา ลูกหลานของเขา และพวกทาสรับใช้ของเขา สำหรับความผิดบาปที่พวกเขาทำ และเราจะทำให้สิ่งเลวร้ายทั้งหมดเกิดขึ้นกับพวกเขาและผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มรวมทั้งคนยูดาห์ เป็นสิ่งเลวร้ายที่เราได้ประกาศว่าจะเกิดขึ้นกับพวกเขา แต่พวกเขาไม่สนใจฟัง”
32 เยเรมียาห์จึงเอาหนังสือม้วนมาอีกเล่ม และเอาไปให้กับบารุคที่เป็นเสมียน ที่เป็นลูกชายของเนริยาห์ แล้วบารุคก็เขียนถ้อยคำทั้งหมดตามที่เยเรมียาห์บอก ซึ่งเหมือนกับถ้อยคำที่อยู่ในหนังสือม้วนเล่มที่เยโฮยาคิมกษัตริย์แห่งยูดาห์เอาไปเผาไฟ แถมเพิ่มข้อความอีกมากมายทำนองนั้นลงไปอีกด้วย
เยเรมียาห์ถูกขัง
37 เนบูคัดเนสซาร์เป็นกษัตริย์ของบาบิโลน พระองค์ได้แต่งตั้งให้เศเดคียาห์ ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองแผ่นดินยูดาห์ แทนกษัตริย์โคนิยาห์[c] ลูกชายของเยโฮยาคิม เศเดคียาห์เป็นลูกชายของกษัตริย์โยสิยาห์ 2 แต่กษัตริย์เศเดคียาห์ และผู้รับใช้ของพระองค์ รวมทั้งผู้คนในยูดาห์ ก็ไม่ยอมฟังถ้อยคำต่างๆของพระยาห์เวห์ ที่พระองค์ได้พูดผ่านมาทางเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า
3 กษัตริย์เศเดคียาห์ส่งเยฮูคัลลูกชายของเชเลมิยาห์ พร้อมกับนักบวชเศฟันยาห์ ลูกชายของมาอาเสอาห์ ไปหาเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า และบอกว่า “เยเรมียาห์ อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา แทนพวกเราด้วย”
4 ในเวลานั้นเยเรมียาห์ยังไปไหนมาไหนท่ามกลางผู้คนได้อย่างอิสระ พวกเขายังไม่ได้จับเยเรมียาห์ขังคุก 5 และตอนนี้กองทัพของฟาโรห์ก็ได้เคลื่อนทัพออกจากอียิปต์มาแล้ว และชาวบาบิโลนที่กำลังปิดล้อมเมืองเยรูซาเล็มอยู่รู้ข่าว ก็เลยถอนฐานที่มั่นออกไปจากเมืองเยรูซาเล็ม
6 แล้วถ้อยคำของพระยาห์เวห์ก็มาถึงเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า 7 พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “เยฮูคัลและเศฟันยาห์ เรารู้ว่าเศเดคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์ ได้ส่งให้พวกเจ้ามาร้องขอต่อเรา ให้ไปบอกกับเขาว่า กองทัพของฟาโรห์ที่กำลังออกจากอียิปต์เพื่อมาช่วยเจ้านั้น กำลังจะหันกลับไปอียิปต์แผ่นดินของพวกเขา 8 และชาวบาบิโลนก็จะกลับมาโจมตีเมืองเยรูซาเล็มอีก และพวกนั้นก็จะยึดเมืองเยรูซาเล็มและเผาเมืองทิ้ง” 9 พระยาห์เวห์พูดว่า “อย่าหลอกตัวเอง โดยพูดว่า ‘พวกบาบิโลนจะถอนไปแน่ๆ’ เพราะพวกเขาจะไม่ไปไหน 10 ถึงแม้ว่าพวกเจ้าจะทำให้กองทัพบาบิโลนทั้งกองที่กำลังต่อสู้กับเจ้าอยู่ ได้รับบาดเจ็บ และเหลือแต่พวกที่บาดเจ็บไว้ในเต็นท์ของพวกเขา พวกเขาก็จะลุกฮือขึ้นเผาเมืองนี้อยู่ดี”
11 เมื่อกองทัพบาบิโลนถอยทัพจากเมืองเยรูซาเล็มเพราะกองทัพของฟาโรห์บุกเข้ามา 12 เยเรมียาห์ก็ออกจากเมืองเยรูซาเล็มไปยังแผ่นดินเบนยามิน เพื่อไปรับส่วนแบ่งในมรดกที่ดินร่วมกับคนอื่นที่เหลืออยู่ที่นั่น 13 เมื่อเขามาถึงประตูเมืองเบนยามิน หัวหน้ายามรักษาประตูอยู่ที่นั่น เขามีชื่อว่าอิรียาห์ลูกชายของเชเลมิยาห์ ซึ่งเป็นลูกของ ฮานานิยาห์ อิรียาห์จับกุมตัวเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า พร้อมกับบอกว่า “เจ้ากำลังจะไปหาพวกบาบิโลนนี่นา” 14 เยเรมียาห์ตอบว่า “ไม่จริง ผมไม่ได้ไปหาพวกบาบิโลน” แต่อิรียาห์ก็ไม่ฟังเยเรมียาห์ และจับตัวเยเรมียาห์ไปให้พวกเจ้านาย 15 พวกเจ้านายโกรธเยเรมียาห์ พวกเขาก็เลยทุบตีเขา จากนั้นก็จับเขาไปขังไว้ในคุกที่บ้านของโยนาธานผู้เป็นเลขานุการ เพราะพวกเขาทำบ้านหลังนั้นเป็นคุกไว้แล้ว
กษัตริย์เศเดคียาห์ปรึกษากับเยเรมียาห์
16 เยเรมียาห์ถูกจับขังไว้ในบ่อเก็บน้ำที่แห้ง แล้วก็อยู่ที่นั่นหลายวัน 17 หลังจากนั้นกษัตริย์เศเดคียาห์ก็ส่งคนมาเอาตัวไปพบกษัตริย์ แล้วกษัตริย์ก็ถามเขาในวังเป็นการลับๆว่า “มีข่าวสารอะไรจากพระยาห์เวห์บ้างไหม” เยเรมียาห์ก็ตอบว่า “มีครับ” และเขาก็พูดต่อไปว่า “ท่านจะถูกส่งให้ไปอยู่ในเงื้อมมือของกษัตริย์บาบิโลน” 18 จากนั้นเยเรมียาห์ก็พูดกับกษัตริย์เศเดคียาห์อีกว่า “ข้าพเจ้าทำผิดอะไรต่อพระองค์ หรือต่อผู้รับใช้ของพระองค์ หรือต่อคนพวกนี้หรือ พระองค์ถึงได้จับข้าพเจ้าขังคุก 19 แล้วพวกผู้พูดแทนพระเจ้าของพวกท่านหายไปไหนกันหมดแล้ว พวกที่ทำนายให้กับพระองค์ว่า ‘กษัตริย์แห่งบาบิโลนจะไม่มาโจมตีพวกท่านและแผ่นดินนี้’ 20 ข้าแต่กษัตริย์ ขอได้โปรดเมตตาข้าพเจ้าด้วยเถิด อย่าได้ส่งข้าพเจ้ากลับไปที่บ้านของโยนาธานเลขานุการนั้นเลย เพราะข้าพเจ้าจะต้องตายที่นั่นแน่ๆ”
21 ดังนั้นกษัตริย์เศเดคียาห์จึงออกคำสั่ง และพวกเขาก็ส่งเยเรมียาห์ไปอยู่ภายใต้การดูแลของทหารยามที่ลาน พวกเขาให้ขนมปังกับเยเรมียาห์ทุกวัน ขนมปังนี้มาจากถนนของพวกทำขนมปัง จนไม่มีขนมหลงเหลืออยู่ในเมืองอีกแล้ว และเยเรมียาห์ก็ได้อาศัยอยู่ในลานของทหารยามนั้น
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International