Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เยเรมียาห์ 26-29

บทเรียนของเยเรมียาห์ที่วิหาร

(ยรม. 7:1-15)

26 ในช่วงต้นรัชกาลของกษัตริย์เยโฮยาคิมลูกชายกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ มีข้อความนี้มาจากพระยาห์เวห์

นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด “เยเรมียาห์ ให้เจ้าไปยืนอยู่ในลานของวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดต่อว่าประชาชนจากเมืองทั้งหลายของยูดาห์ที่กำลังมานมัสการที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพูดกับพวกเขาตามที่เราสั่ง ให้เจ้าพูดกับพวกเขาทุกคำห้ามตกแม้แต่คำเดียว

บางทีพวกเขาอาจจะฟัง แล้วแต่ละคนก็หันหลังให้กับวิถีชีวิตบาปๆของพวกเขาก็ได้ ถ้าพวกเขาทำอย่างนั้น เราก็จะเปลี่ยนใจจากเรื่องความหายนะที่เราได้วางแผนจะให้เกิดขึ้นกับพวกเขา เพราะการกระทำที่ชั่วช้าต่างๆของพวกเขา

แล้วเจ้าก็ควรพูดกับพวกเขาว่า พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า ‘ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมฟังเรา และไม่ยอมเดินตามกฎของเราที่เราได้ให้ไว้ต่อหน้าเจ้า

และไม่ยอมฟังถ้อยคำต่างๆของผู้พูดแทนพระเจ้าผู้รับใช้ของเรา ที่เราได้ส่งมาให้เจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่พวกเจ้าไม่ยอมฟังเขา

เราก็จะทำให้วิหารนี้เป็นเหมือนชิโลห์ และให้ชนชาติต่างๆทั่วโลกใช้ชื่อของเมืองนี้เป็นคำสาปแช่ง’”

พวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้า และประชาชนทั้งหลายก็ได้ยินเยเรมียาห์พูดถ้อยคำต่างๆเหล่านี้ ในวิหารของพระยาห์เวห์

เมื่อเยเรมียาห์พูดทุกอย่างที่พระยาห์เวห์สั่งให้เขาพูดกับประชาชนเสร็จแล้ว พวกนักบวช พวกผู้พูดแทนพระเจ้า และประชาชนทุกคนก็รุมกันเข้ามาจับตัวเขาพร้อมกับพูดว่า “แกตายแน่ๆ ทำไมแกถึงอ้างชื่อพระยาห์เวห์มาพูดว่า วิหารนี้จะต้องเป็นเหมือนชิโลห์ และคนที่อยู่ในเมืองนี้จะต้องถูกทำลาย”

แล้วทุกคนก็เข้าไปรุมล้อมเยเรมียาห์ในวิหารของพระยาห์เวห์

10 พวกเจ้านายแห่งยูดาห์ได้ยินถ้อยคำนี้เหมือนกัน พวกเขาก็เลยออกจากวังมาที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วก็ไปนั่งอยู่ตรงทางเข้าประตูบานใหม่ที่วิหารของพระองค์

11 แล้วพวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าก็พูดกับพวกเจ้านายและทุกคนที่อยู่ที่นั่นว่า “ไอ้หมอนี่น่าจะถูกตัดสินประหารชีวิต เพราะมันได้พูดให้ร้ายบ้านเมืองนี้เหมือนที่เราเคยได้ยินมาแล้ว”

12 แล้วเยเรมียาห์ก็พูดกับเจ้านายและชาวบ้านทุกคนว่า “พระยาห์เวห์ส่งให้ผมมาพูดสิ่งทั้งหมดนี้ที่เกี่ยวกับบ้านนี้และเมืองนี้ตามที่พวกคุณได้ยิน

13 ตอนนี้ขอให้พวกคุณแก้ไขวิถีทางและการกระทำต่างๆของพวกคุณ และให้เชื่อฟังพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกคุณ บางทีพระองค์อาจจะเปลี่ยนใจไม่ทำร้ายพวกคุณตามที่พระองค์ได้วางแผนไว้

14 แต่ตอนนี้ผมอยู่ในเงื้อมมือคุณแล้ว จะทำยังไงกับผมก็ได้แล้วแต่จะเห็นสมควร

15 แต่ให้รู้ไว้ว่า ถ้าพวกคุณคิดจะฆ่าผม พวกคุณกำลังทำให้เลือดของผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งตกอยู่บนตัวคุณเอง บ้านเมืองนี้ และประชาชนของเมืองนี้ด้วย เพราะพระยาห์เวห์ส่งผมมาจริงๆ เพื่อพูดคำเหล่านี้ทุกคำให้พวกคุณฟัง”

16 แล้วพวกเจ้านายและชาวบ้านทั้งหลายก็บอกกับพวกนักบวชและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “อย่าตัดสินประหารคนคนนี้เลย เพราะว่าเขาพูดกับเราในนามของพระยาห์เวห์”

17 ผู้ชายบางคนและผู้อาวุโสบางคนของแผ่นดิน ก็ลุกขึ้นยืนและพูดกับคนทั้งกลุ่มที่ออกันอยู่ว่า

18 “มีคาห์แห่งโมเรเชทเคยพูดแทนพระเจ้าในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ ท่านได้พูดกับคนทุกคนในยูดาห์ว่า

‘พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ว่า
    เมืองศิโยนจะถูกไถเหมือนไถนา
และเมืองเยรูซาเล็มจะกลายเป็นซากปรักหักพัง
    ภูเขาที่เป็นที่ตั้งของวิหารก็จะถูกถอนรากถอนโคน’[a]

19 แล้วกษัตริย์เฮเซคียาห์และชาวเมืองยูดาห์ทั้งหมดได้ฆ่าท่านหรือเปล่า ก็เปล่า แต่กษัตริย์กลับเกรงกลัวพระยาห์เวห์แล้วอ้อนวอนพระองค์ให้เมตตา แล้วพระยาห์เวห์ก็เปลี่ยนใจไม่นำภัยพิบัติมาถึงพวกเขาทั้งๆที่พระองค์เคยพูดไว้ว่าจะลงโทษพวกเขา แต่ตอนนี้เรากำลังจะนำความหายนะอันใหญ่หลวงมาสู่ตัวเอง”

20 (ยังมีชายอีกคนหนึ่งชื่ออุรียาห์ลูกชายของเชไมอาห์จากคิริยาทเยอาริม มาพูดแทนพระยาห์เวห์ เขาพูดให้ร้ายเมืองนี้และแผ่นดินนี้เหมือนที่เยเรมียาห์พูดนั่นแหละ 21 แล้วกษัตริย์เยโฮยาคิม พวกเจ้านาย และทหารทุกคนของพระองค์ได้ยินคำพูดของเขา กษัตริย์ก็เลยคิดฆ่าเขา แต่อุรียาห์ได้ยินเสียก่อน ก็เลยกลัวและหนีไปอียิปต์ 22 กษัตริย์เยโฮยาคิมก็ส่งเอลนาธันลูกชายของอัคโบร์ และคนอีกจำนวนหนึ่งไปอียิปต์ 23 แล้วพวกเขาก็นำอุรียาห์กลับมาจากอียิปต์ พวกนั้นนำเขาไปให้กษัตริย์เยโฮยาคิม พระองค์ก็ฆ่าเขาแล้วโยนศพเขาทิ้งในสุสานของสามัญชน

24 แต่อาหิคัมลูกชายของชาฟานป้องกันไม่ให้เยเรมียาห์ถูกชาวบ้านฆ่าตาย)

พระยาห์เวห์แต่งตั้งเนบูคัดเนสซาร์

27 ในช่วงต้นรัชกาลของเศเดคียาห์[b]ลูกชายของกษัตริย์โยสิยาห์แห่งยูดาห์ ถ้อยคำของพระยาห์เวห์ได้มาถึงเยเรมียาห์ว่า พระยาห์เวห์พูดกับผมว่า “ให้ทำสายรัดและแอก แล้วก็เอามาแขวนคอเจ้าไว้ แล้วให้ส่งข้อความไปให้กับกษัตริย์แห่งเอโดม โมอับ อัมโมน ไทระ และไซดอน โดยฝากไปกับพวกผู้ส่งข่าวที่มาที่เมืองเยรูซาเล็ม เพื่อมาหากษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ ให้เจ้าสั่งคำสั่งนี้ไปให้กับพวกเจ้านายของพวกเขาว่า พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอล พูดว่า ‘เจ้าไปบอกกับพวกเจ้านายของเจ้าว่า เราสร้างโลก มนุษย์ และสัตว์ทั้งหลายไว้บนแผ่นดินโลก ด้วยฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่ของเราและแขนของเราที่เหยียดออกมา เราอยากจะให้มันกับใครก็เป็นเรื่องของเรา แล้วตอนนี้ เราก็ได้ให้แผ่นดินเหล่านี้ทั้งหมดให้ตกอยู่ในมือของผู้รับใช้เราคือกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน สัตว์ต่างๆเราก็ได้ยกให้กับเขาไว้คอยรับใช้เขาด้วย และชนชาติทั้งหมดจะต้องรับใช้เขา ลูกชายและหลานชายของเขา ไปจนกว่าจะถึงเวลาที่แผ่นดินของเขาเองก็จะต้องพ่ายแพ้ และจะมีหลายๆชนชาติและกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่หลายๆองค์ทำให้บาบิโลนตกไปเป็นผู้รับใช้ของพวกเขา’”

“แต่ถ้าชนชาติไหนหรืออาณาจักรไหนไม่ยอมรับใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน หรือถ้าชนชาติไหนไม่ยอมจำนนต่อกษัตริย์แห่งบาบิโลนคนนี้ เราจะทำโทษชนชาตินั้นด้วยสงคราม ความอดอยากและโรคร้าย จนกว่าเราจะใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทำลายมันไปอย่างสิ้นซาก” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น “แต่พวกเจ้าจะต้องไม่ฟังพวกผู้พูดแทนพระเจ้า โหรของพวกเจ้า คนที่ได้เห็นอนาคตในความฝัน พวกนักทำนาย และพ่อมดของพวกเจ้าที่พูดว่า ‘อย่าไปรับใช้กษัตริย์บาบิโลนนั่นเลย’ 10 ที่เราพูดเรื่องนี้ก็เพราะพวกเขากำลังโกหกเจ้าอยู่ ซึ่งจะทำให้เจ้าถูกกำจัดไปจากแผ่นดินของเจ้าเอง เราจะขับไล่เจ้า และเจ้าจะพินาศ”

11 “แต่ถ้าชนชาติไหนยอมจำนนต่อกษัตริย์บาบิโลนและรับใช้เขา เราจะยอมให้ชนชาตินั้นอยู่ต่อไปในแผ่นดินของตนและเพาะปลูกในแผ่นดินนั้น” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

12 “สำหรับกษัตริย์เศเดคียาห์แห่งยูดาห์ เราขอพูดอย่างนี้ว่า ‘ให้ยอมกษัตริย์บาบิโลนซะ รับใช้เขาและประชาชนของเขา แล้วเจ้าจะรอดชีวิต’ 13 ทำไมเจ้าและประชาชนของเจ้าจะต้องมาตายด้วยคมดาบ ความอดอยาก และโรคระบาด ตามที่พระยาห์เวห์เตือนไว้แล้วสำหรับชนชาติที่ไม่ยอมกษัตริย์บาบิโลนด้วยล่ะ 14 อย่าไปฟังสิ่งที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าบอกเจ้า ที่ว่า ‘ไม่ต้องไปเป็นขี้ข้ากษัตริย์บาบิโลนหรอก’ เพราะว่าผู้พูดแทนพระเจ้าพวกนั้นกำลังหลอกเจ้า” 15 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราไม่ได้ส่งพวกผู้พูดแทนพระเจ้าพวกนั้นมา พวกนั้นอ้างว่าพวกเขาพูดในนามของเรา แต่พวกเขากำลังโกหก ดังนั้นเราจะขับไล่พวกเจ้าไปและทำลายพวกเจ้า ทั้งพวกเจ้าและพวกผู้พูดแทนพระเจ้าจอมปลอมที่พูดกับเจ้านั้น”

16 แล้วผมก็พูดกับพวกนักบวชและประชาชนทั้งหลายว่า พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า “อย่าไปฟังสิ่งที่พวกผู้พูดแทนพระเจ้าของพวกเจ้าพูด ที่ว่า ‘พวกภาชนะที่ใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์กำลังจะกลับมาจากบาบิโลนเร็วๆนี้’ เพราะพวกมันโกหกเจ้า 17 อย่าไปฟังพวกมัน ให้รับใช้กษัตริย์บาบิโลน แล้วเจ้าจะรอดชีวิต ทำไมจะต้องปล่อยให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองร้างด้วยล่ะ 18 แต่ถ้าพวกผู้พูดแทนพระเจ้าพวกนั้นเป็นตัวจริง และพวกมันมีถ้อยคำของพระยาห์เวห์จริง ก็ให้พวกมันมาอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น เพื่อว่าภาชนะที่เหลืออยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์และอยู่ในวังของกษัตริย์ยูดาห์และอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม จะได้ไม่ตกไปอยู่ที่บาบิโลน”

19 เพราะว่าพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้พูดไว้อย่างนี้ “เกี่ยวกับเรื่องเสาต่างๆ ขันทะเลสัมฤทธิ์ แท่นรองของมัน และพวกภาชนะที่เหลืออยู่ในเมืองนี้ 20 ของที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลนไม่ได้เอาไปตอนที่เขาต้อนเยโคนิยาห์[c] ลูกชายของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งยูดาห์และเจ้านายทั้งหลายของทั้งยูดาห์และเยรูซาเล็มไปบาบิโลน 21 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พูดเกี่ยวกับเรื่องภาชนะที่ยังเหลืออยู่ในวิหารของพระองค์ ในวังของกษัตริย์ และในเมืองเยรูซาเล็มว่า 22 ‘ของพวกนั้นจะถูกย้ายไปบาบิโลน แล้วจะอยู่ที่นั่นจนถึงเวลาที่เราจะระลึกถึงพวกมัน’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “แล้วเราจะพาของพวกมันกลับมาที่นี่เอง”

ฮานันยาห์ ผู้พูดแทนพระเจ้าปลอม

28 ในปีเดียวกันนั้น ซึ่งเป็นช่วงต้นรัชกาลเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ตรงกับเดือนที่ห้า ปีที่สี่ ฮานันยาห์ลูกชายของอัสซูร์ ผู้พูดแทนพระเจ้าจากกิเบโอน เขาได้พูดกับผมต่อหน้าพวกนักบวชและทุกคนในวิหารของพระยาห์เวห์ว่า “พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า ‘เราได้หักแอกของกษัตริย์แห่งบาบิโลนแล้ว ภายในสองปีนี้ เราจะนำพวกภาชนะที่ใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์ทั้งหมดกลับมาไว้ที่นี่ เป็นภาชนะที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้เอาไปจากที่นี่ และเอาไปไว้ที่บาบิโลน และเราจะนำเยโคนิยาห์[d] กษัตริย์ของยูดาห์ลูกชายของเยโฮยาคิม กลับมาที่นี่ พร้อมกับชาวยูดาห์ทั้งหมดที่ตกไปเป็นเชลยอยู่ในบาบิโลนด้วย เพราะเราจะทำลายแอกของกษัตริย์บาบิโลน พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น’”

หลังจากนั้นเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็พูดกับฮานันยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า ต่อหน้าพวกนักบวช และทุกคนที่ยืนอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าพูดว่า “อาเมน ขอให้เป็นอย่างนั้น ขอให้พระยาห์เวห์ทำเหมือนกับที่ท่านพูดเถอะ ขอให้พระยาห์เวห์ทำให้คำทำนายของท่านเป็นจริง ขอให้พระองค์นำภาชนะที่ใช้ในวิหารของพระองค์ รวมทั้งคนเหล่านั้นทั้งหมดที่ถูกกวาดต้อนไปบาบิโลนกลับมาที่นี่ด้วยเถิด

แต่ให้ฟังสิ่งที่ผมกำลังจะพูดกับท่านและกับทุกๆคน เท่าที่ใครต่อใครจำได้ พวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่มีชีวิตอยู่ก่อนหน้าผมและท่าน ล้วนแต่พยากรณ์ต่อต้านแผ่นดินทั้งหลายและอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ต่างๆว่า จะเกิดสงคราม ความอดอยากและโรคภัยไข้เจ็บกันทั้งนั้น แต่สำหรับผู้พูดแทนพระเจ้าที่พยากรณ์ว่าจะเกิดความสงบสุขขึ้นนั้น จะต้องคอยให้เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นจริงตามที่เขาพูดเสียก่อน คนถึงจะได้รู้ว่าพระยาห์เวห์เป็นผู้ที่ส่งผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้นมาจริงๆ”

10 แล้วฮานันยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า ก็เอาแอกไม้จากคอของเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้ามาหัก 11 และเขาก็พูดต่อหน้าทุกคนที่นั่นว่า พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะหักแอกของเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน ที่วางไว้บนคอของชนชาติต่างๆให้หมดไปภายในสองปีนี้ เหมือนที่เราได้หักแอกอันนี้” แล้วเยเรมียาห์ก็ไปตามทางของท่าน

12 หลังจากที่ฮานันยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า ได้หักแอกจากคอของเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าแล้ว พระคำของพระยาห์เวห์ก็มีมาถึงเยเรมียาห์ว่า 13 “ไปบอกกับฮานันยาห์ว่า พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เจ้าหักแอกไม้นั้นแล้วก็จริง แต่เจ้าได้สร้างแอกเหล็กขึ้นมาแทน’” 14 ที่ผมพูดอย่างนี้ก็เพราะพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “เราได้ใส่แอกเหล็กไว้บนคอของชนชาติเหล่านี้ทั้งหมด เพื่อทำให้พวกมันรับใช้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งบาบิโลน และพวกมันก็จะเป็นทาสรับใช้เขา นอกจากนั้นแล้ว เรายังได้มอบพวกสัตว์ป่าให้กับเขาด้วย”

15 แล้วเยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็พูดกับฮานันยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “ฟังนะ ฮานันยาห์ พระยาห์เวห์ไม่ได้ส่งเจ้ามา แถมเจ้ายังทำให้คนพวกนี้หลงเชื่อในสิ่งที่ผิดๆเสียอีก 16 ดังนั้น พระยาห์เวห์จึงพูดว่าอย่างนี้ ‘เราจะขับไล่เจ้าออกไปจากแผ่นดินนี้ เจ้าจะต้องตายในปีนี้ เพราะเจ้าได้พูดขัดกับพระยาห์เวห์’”

17 แล้วฮานันยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าก็ตายในเดือนที่เจ็ดของปีนั้น

จดหมายจากเยเรมียาห์ถึงพวกเชลย

29 เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า ได้ส่งหนังสือม้วนจากเยรูซาเล็มไปให้กับพวกผู้อาวุโสที่ยังเหลือรอดชีวิตท่ามกลางเชลยศึกทั้งหลายในบาบิโลน รวมทั้ง พวกนักบวช พวกผู้พูดแทนพระเจ้า และคนอื่นๆด้วย ที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้กวาดต้อนจากเยรูซาเล็มไปไว้ที่บาบิโลน เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กษัตริย์เยโคนิยาห์[e] พร้อมกับแม่ของพระองค์ และพวกข้าราชสำนัก พวกเจ้านายของยูดาห์ และของเยรูซาเล็ม รวมทั้งพวกช่างฝีมือและช่างเหล็ก ได้ถูกกวาดต้อนออกไปจากเยรูซาเล็มแล้ว เศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ได้ส่งเอลาสาห์และเกมาริยาห์ไปหากษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ที่บาบิโลน เอลาสาห์เป็นลูกชายของชาฟาน ส่วนเกมาริยาห์เป็นลูกชายของฮิลคียาห์ เยเรมียาห์ได้ฝากหนังสือม้วนนี้ไปบาบิโลนกับเอลาสาห์ และเกมาริยาห์ ข้อความในหนังสือม้วนนั้นพูดว่า

พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอล พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ถึงทุกคนที่เราได้ส่งไปจากเยรูซาเล็มให้ไปเป็นเชลยที่บาบิโลน ให้พวกเจ้าสร้างบ้านเรือนขึ้นมาอยู่อาศัย ให้ปลูกสวน และกินผลผลิตของพวกมันที่ออกมา ให้แต่งงานและเกิดลูกชายลูกสาว ให้หาเมียให้กับพวกลูกชายของเจ้า และยกลูกสาวเจ้าให้ไปเป็นเมียคนอื่น และให้พวกเขาเกิดลูกชายลูกสาว ให้เกิดลูกเต็มบ้านเต็มเมือง อย่าได้กลายเป็นกลุ่มเล็กๆ ให้ส่งเสริมบ้านเมืองที่เราได้ขับไล่ให้เจ้าไปอยู่กันนั้นเจริญรุ่งเรืองด้วย อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์สำหรับเมืองนั้นด้วย เพราะถ้าเมืองนั้นเจริญรุ่งเรือง เจ้าก็จะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วย” เพราะพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “อย่าให้พวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางเจ้า และหมอดูหลอกเจ้าได้ แล้วอย่าไปหลงฟังความฝันต่างๆที่พวกมันได้ฝันด้วย เพราะพวกนั้นกำลังอ้างชื่อเราไปทำนายอย่างผิดๆ เราไม่ได้ส่งพวกมันมา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

10 เพราะพระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “เมื่อเจ็ดสิบปีของบาบิโลนครบถ้วนแล้ว เราก็จะไปหาเจ้า และทำดีกับเจ้าตามที่เราได้สัญญาไว้ คือเราจะนำเจ้ากลับมาที่เยรูซาเล็มนี้” 11 พระยาห์เวห์พูดว่า “เพราะเรารู้แผนงานต่างๆที่เราวางไว้ให้กับเจ้า เป็นแผนงานสำหรับความเจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่สำหรับความหายนะ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังกับเจ้า 12 เจ้าจะเรียกหาเรา เจ้าจะมาอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า 13 เจ้าจะแสวงหาเรา แล้วเจ้าก็จะพบเรา เมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสิ้นสุดใจของเจ้า 14 แล้วเจ้าก็จะหาเราเจอ” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “เราจะคืนสิ่งที่เจ้าถูกยึดไป และเราจะเก็บรวบรวมเจ้ากลับมาจากทุกชนชาติและทุกที่ที่เราได้เนรเทศเจ้าไป และเราจะนำเจ้ากลับไปยังที่ที่เราได้เนรเทศเจ้าออกไป” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

15 แต่เจ้าอาจจะพูดว่า “พระยาห์เวห์ได้ให้พวกพูดแทนพระเจ้ากับเราในบาบิโลน” 16 แต่พระยาห์เวห์ได้พูดเกี่ยวกับกษัตริย์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของดาวิดและทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม และพวกพี่น้องของเจ้า ที่ไม่ได้ถูกเนรเทศไปกับเจ้านั้น 17 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูดอย่างนี้ว่า “เราจะส่งคมดาบ ความอดอยากและโรคภัยไข้เจ็บมาทำลายพวกเขา และเราจะทำให้พวกเขาเป็นเหมือนลูกมะเดื่อที่เสียจนกินไม่ลง 18 เราจะไล่ตามพวกเขาไปด้วยคมดาบ ความอดอยาก และโรคภัยไข้เจ็บ และเราจะทำให้พวกเขาดูน่าสยดสยอง ในสายตาของอาณาจักรทั้งหมดในโลกนี้ เราจะทำให้ชื่อของพวกเขากลายเป็นคำที่คนใช้ในการแช่งสาป เขาจะเป็นหายนะอย่างน่าตกใจ เป็นที่น่ารังเกียจ ถูกเยาะเย้ยจากทุกๆชนชาติที่เราได้เนรเทศพวกเขาไป 19 ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะพวกมันไม่ยอมฟังถ้อยคำต่างๆของเรา” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น “นี่คือถ้อยคำต่างๆที่เราพูดแล้วพูดอีกกับพวกเขาผ่านทางผู้รับใช้และผู้พูดแทนเรา แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น 20 “พวกเจ้าทั้งหลายที่ถูกกวาดต้อนจากเยรูซาเล็มไปบาบิโลน ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์”

21 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพระเจ้าของอิสราเอลพูดเกี่ยวกับอาหับ ลูกชายของโคลายาห์ และเศเดคียาห์ลูกชายของมาอาเสอาห์ พระองค์พูดว่า “พวกผู้พูดแทนพระเจ้าสองคนนี้ได้พูดกับพวกเจ้าในนามของเรา แต่พวกมันโกหก เราจะส่งพวกมันให้ไปอยู่ในเงื้อมมือของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ แห่งบาบิโลน แล้วเขาก็จะฆ่าพวกมันให้เจ้าเห็นกับตา 22 พวกเชลยศึกชาวยูดาห์ทุกคนที่ยังอยู่ในบาบิโลน จะใช้ชื่อพวกมันสำหรับสาปแช่งกันว่า ‘ขอให้พระยาห์เวห์ทำให้เจ้าเป็นเหมือนเศเดคียาห์ และเหมือนอาหับ ที่กษัตริย์บาบิโลนเผาตายด้วยเถอะ’ 23 ผู้พูดแทนพระเจ้าสองคนนั้นได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจในอิสราเอล พวกเขาได้มีชู้กับเมียของเพื่อนบ้าน และอ้างชื่อเราไปพูดทั้งที่เราไม่ได้สั่ง เรารู้เรื่องนี้ และเราเป็นพยานเอง” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น

พระเจ้าส่งข่าวสารไปให้กับเชไมอาห์

24 และให้เจ้าไปพูดกับเชไมอาห์ชาวเนเฮลามว่า 25 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้เป็นพระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดว่า “เพราะเจ้าใช้อำนาจของตัวเองส่งพวกจดหมายไปถึงทุกคนในเยรูซาเล็ม และส่งไปให้กับนักบวชเศฟันยาห์ลูกชายของมาอาเสอาห์ รวมทั้งนักบวชคนอื่นๆด้วยว่า 26 ‘พระยาห์เวห์ได้แต่งตั้งให้เจ้าเป็นนักบวชแทนนักบวชเยโฮยาดา จะได้มีคนดูแลวิหารของพระยาห์เวห์ ถ้าคนบ้าคนไหนไปทำตัวเป็นผู้พูดแทนพระเจ้า ก็ให้จับใส่ขื่อไว้ให้แน่นหนา’ 27 แต่ตอนนี้ทำไมเจ้าถึงไม่ต่อว่าเยเรมียาห์จากอานาโธท ที่ทำนายให้กับพวกเจ้า 28 เยเรมียาห์ได้ส่งข่าวสารนี้ถึงพวกเราที่อยู่ในบาบิโลนว่า ‘เจ้าจะอยู่ที่นั่นไปอีกนาน ให้สร้างบ้านอยู่ซะ ทำสวนและกินผลผลิตที่ได้จากพวกมัน’”

29 จากนั้นนักบวชเศฟันยาห์ ก็อ่านจดหมายนั้นให้เยเรมียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าฟัง 30 แล้วถ้อยคำของพระยาห์เวห์ ก็มาถึงเยเรมียาห์ว่า 31 “เยเรมียาห์ ให้ส่งจดหมายไปบอกกับทุกคนที่ถูกกวาดต้อนไปบาบิโลนว่า ‘พระยาห์เวห์พูดถึงเชไมอาห์ชาวเนเฮลามว่า เพราะเชไมอาห์ทำนายให้กับพวกเจ้า โดยที่เราไม่ได้ส่งเขาไป แล้วเขาทำให้เจ้าเชื่อเรื่องโกหกนั้น’

32 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงพูดว่า ‘เราจะทำโทษเชไมอาห์ชาวเนเฮลามและลูกหลานของเขา เขาจะไม่เหลือลูกหลานรอดชีวิตท่ามกลางคนเหล่านี้สักคนเดียว และเขาจะไม่ได้เห็นสิ่งดีๆที่เรากำลังจะทำให้กับคนของเรา เพราะเขาได้พูดส่งเสริมให้กบฏต่อพระยาห์เวห์’” พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International