Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เยเรมียาห์ 10-13

พระยาห์เวห์กับรูปเคารพ

10 คนอิสราเอล ให้ฟังสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดกับเจ้า พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้คือ

“อย่าไปเรียนรู้วิถีทางของชนชาติต่างๆ
    และอย่ากลัวปรากฏการณ์ต่างๆบนท้องฟ้า
    ใช่ ชนชาติต่างๆพากันเกรงกลัวสิ่งเหล่านั้น
ประเพณีต่างๆของคนต่างชาตินั้นไม่มีประโยชน์
คนหนึ่งในพวกนั้นจะตัดต้นไม้จากป่า
    มันเป็นผลงานที่ช่างแกะสลักทำขึ้นมากับมือและกับเครื่องมือของเขา
เขาตกแต่งมันด้วยเงินและทอง
    เขาเอาค้อนตอกตะปูยึดมันไม่ให้โคลงเคลง
พวกมันเป็นเหมือนหุ่นไล่กาในไร่แตงกวา
    พวกมันพูดไม่ได้
ต้องให้คนอุ้มไปเพราะเดินเองก็ไม่ได้
    อย่าไปกลัวพวกมัน
เพราะมันทำร้ายเจ้าไม่ได้หรอก
    และมันก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้เหมือนกัน”

พระยาห์เวห์ ไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าพระองค์อีกแล้ว
    ชื่อของพระองค์ยิ่งใหญ่และทรงพลัง
จะมีใครกันที่ไม่ยำเกรงพระองค์ พระองค์เป็นกษัตริย์ของชนชาติต่างๆ
    พระองค์สมควรจะได้รับความยำเกรง
เพราะไม่มีใครเหมือนกับพระองค์แม้แต่คนฉลาดของทุกชนชาติ
    และคนฉลาดของอาณาจักรทั้งหลาย

พวกนั้นทั้งโง่ทั้งทึ่ม
    พวกเขาร่ำเรียนในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์
    และครูผู้สอนของเขาก็คือต้นไม้นั่นเอง
เงินที่ถูกทุบเป็นแผ่นนั้นก็เอามาจากทารชิช
    ส่วนทองก็เอามาจากอุฟาส
รูปเคารพต่างๆที่ชนชาติทั้งหลายกราบไหว้บูชานั้นก็เป็นผลงานของช่างแกะสลักและเป็นฝีมือของช่างทอง
    เสื้อผ้าของรูปเคารพนั้นทำจากผ้าสีม่วง
    พวกมันทั้งหมดเป็นผลงานของช่างผู้ชำนาญ
10 แต่พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าที่เที่ยงแท้
    พระองค์เป็นพระเจ้าที่มีชีวิตจริงๆและเป็นกษัตริย์ตลอดกาล
แผ่นดินสั่นสะเทือนเมื่อพระองค์โกรธ
    และชนชาติต่างๆย่อมไม่สามารถต้านทานความโกรธของพระองค์ได้

11 พระยาห์เวห์พูดว่า “นี่คือสิ่งที่พวกเจ้าจะต้องบอกกับพวกเขา ในเมื่อพระพวกนั้นไม่ได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกขึ้นมา พวกมันก็จะต้องพินาศไปจากแผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์”

12 แต่พระยาห์เวห์เป็นผู้สร้างแผ่นดินโลกด้วยพละกำลังของพระองค์
    พระองค์เป็นผู้ก่อตั้งโลกนี้ขึ้นมาด้วยสติปัญญาของพระองค์
    และเป็นผู้กางฟ้าสวรรค์ออกด้วยความรู้ของพระองค์เอง
13 เมื่อพระองค์พูดมันเหมือนกับเสียงน้ำบนฟ้าสวรรค์
    แล้วเมฆหมอกก็ลอยขึ้นมาจากสุดขอบโลก
พระองค์สร้างสายฟ้าแลบขึ้นสำหรับฝน
    ส่วนสายลมก็พัดออกมาจากคลังของพระองค์

14 มนุษย์ทุกคนโง่เขลาเบาปัญญา
    พระองค์ทำให้ช่างทองทุกคนต้องละอายใจที่ทำรูปเคารพขึ้นมา
เพราะรูปเคารพเหล่านั้นของเขาเป็นสิ่งหลอกลวง
    พวกมันไม่หายใจเสียด้วยซ้ำ
15 พวกมันไม่มีความหมาย เป็นผลงานที่น่าหัวเราะเยาะ
    เมื่อเราลงโทษพวกมัน พวกมันก็จะพินาศไป
16 ส่วนพระเจ้าของยาโคบนั้น ไม่เหมือนรูปเคารพพวกนี้
    เพราะพระองค์เป็นผู้สร้างทุกสิ่ง
และอิสราเอลก็เป็นเผ่าที่เป็นสมบัติส่วนตัวของพระองค์
    พระนามของพระองค์คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น

การทำลายล้างกำลังมา

17 ชาวเมืองทั้งหลายที่อยู่ในป้อมปราการ
    เก็บกระเป๋าของเจ้าขึ้นจากพื้น
18 เพราะพระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้
“เรากำลังเหวี่ยงคนบนโลกตอนนี้
    และเราจะทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมาน
    แบบที่พวกเขาจะต้องรู้สึกจริงๆ”

19 สงสารผมด้วย เพราะผมได้รับบาดเจ็บ
    แผลของผมนั้นเจ็บปวดยิ่งนัก
แล้วผมก็พูดว่า แน่ล่ะ นี่คือความเจ็บปวดของผม
    และผมก็ต้องอดทนกับมัน
20 เต็นท์ของผมถูกทำลาย
    เชือกเต็นท์ของผมก็ขาดหมด
พวกลูกๆทิ้งผมไป
    ไม่มีลูกเหลือสักคน
ไม่เหลือใครไว้คอยขึงเต็นท์ของผมเลย
    คนยกม่านเต็นท์ขึ้นก็ไม่มี
21 เพราะคนเลี้ยงแกะนั้นโง่เขลา
    พวกเขาไม่แสวงหาพระยาห์เวห์
นั่นเป็นเหตุที่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จ
    และฝูงแกะของพวกเขาก็กระจัดกระจายไปหมด
22 มีเสียงรายงานดังมา มันกำลังมาทางนี้
    เสียงกระหึ่มจากทางแผ่นดินทางเหนือ
มันจะเปลี่ยนบ้านเมืองของยูดาห์ให้เป็นซาก
    และให้กลายเป็นโพรงหมาไน

23 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ผมรู้ว่าคนเราไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองได้
    คนเราไม่สามารถบอกได้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้างและไม่สามารถบอกได้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้างในอนาคต
24 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดตีสอนผมเถิดแต่ขอให้ทำอย่างยุติธรรม
    อย่าได้ทำด้วยความโกรธเลย ไม่อย่างนั้นพระองค์จะทำให้ผมถึงจุดจบ
25 ขอให้ระบายความโกรธเกรี้ยวของพระองค์กับชนชาติต่างๆที่ไม่รู้จักพระองค์
    และกับตระกูลต่างๆที่ไม่ได้อธิษฐานต่อพระองค์
เพราะชนชาติพวกนั้นได้กลืนกินยาโคบ
    พวกเขาได้กำจัดเขา
    แถมยังพังบ้านของเขาด้วย

ฝ่าฝืนพันธสัญญา

11 นี่คือถ้อยคำที่เยเรมียาห์ได้รับจากพระยาห์เวห์ พระองค์พูดว่า “ฟังถ้อยคำเหล่านี้ที่เกี่ยวกับพันธสัญญาไว้ให้ดี แล้วเอาไปบอกชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็ม ให้บอกพวกเขาว่า นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลพูดไว้คือ ‘คนที่ไม่ยอมฟังถ้อยคำที่เกี่ยวกับพันธสัญญานี้ จะต้องถูกสาปแช่ง’ เป็นถ้อยคำที่เราได้สั่งกับบรรพบุรุษของเจ้าไว้ ตอนที่เราพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์ ออกจากเตาไฟเหล็ก เราได้บอกกับพวกเขาว่า ‘ให้เชื่อฟังเรา และให้ทำตามสิ่งต่างๆเหล่านี้ที่เราได้สั่งให้เจ้าทำ แล้วเจ้าจะเป็นคนของเรา และเราก็จะเป็นพระเจ้าของเจ้า’”

ที่เราทำอย่างนี้ก็เพื่อทำให้คำสัญญาที่เราได้สาบานไว้กับบรรพบุรุษของเจ้าเป็นจริง คำสัญญานั้นคือ “เราจะให้แผ่นดินที่มีน้ำนมและน้ำเชื่อมผลไม้อุดมสมบูรณ์เหมือนกับที่มันเป็นอยู่ตอนนี้” แล้วผมก็ตอบว่า “อาเมน ขอให้เป็นตามนั้นเถิดพระยาห์เวห์”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “ให้ประกาศถ้อยคำเหล่านี้ตามเมืองต่างๆของยูดาห์และตามถนนหนทางของเยรูซาเล็มว่า ‘ฟังถ้อยคำแห่งคำสัญญานี้ และให้ทำตามถ้อยคำเหล่านั้น’

ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะเราเตือนบรรพบุรุษของเจ้า นับตั้งแต่วันที่เรานำพวกเขาออกมาจากแผ่นดินอียิปต์จนถึงทุกวันนี้ เราเตือนพวกเขาอย่างไม่หยุดหย่อนว่าให้ฟังเสียงของเรา

แต่พวกเขาไม่ยอมฟัง หรือเอียงหูมาฟัง แต่ละคนก็หันไปตามจิตใจที่ดื้อดึงชั่วร้ายของเขา ดังนั้นเราจะนำการลงโทษทั้งสิ้นที่เกี่ยวข้องกับคำสัญญานี้ ให้มาตกลงบนพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ยอมทำตามสิ่งที่เราสั่งให้พวกเขาทำในคำสัญญานี้”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “เราพบแผนชั่วของคนยูดาห์และชาวเยรูซาเล็ม 10 พวกเขาได้หันไปทำสิ่งชั่วร้ายที่พวกบรรพบุรุษของพวกเขาทำ พวกบรรพบุรุษนี้เป็นพวกแรกที่ไม่ยอมฟังถ้อยคำต่างๆของเรา พวกเขาไปติดตามรับใช้พระอื่นๆ พวกคนอิสราเอลและคนยูดาห์ได้ละเมิดคำสัญญาที่เราได้ทำไว้กับบรรพบุรุษของพวกเขา”

11 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด คือ “เรากำลังจะนำความหายนะมาสู่พวกเขา และพวกเขาจะไม่มีทางหลบหนีไปได้ พวกเขาจะร้องขอความช่วยเหลือจากเรา แต่เราจะไม่ฟังพวกเขา 12 หลังจากนั้นชาวเมืองต่างๆของยูดาห์และชาวเมืองเยรูซาเล็มก็จะไปร้องไห้คร่ำครวญเอากับพระต่างๆที่พวกเขาเผาเครื่องหอมถวาย แต่พระปลอมพวกนั้นจะไม่ช่วยพวกเขา ในเวลาที่พวกเขากำลังเดือดร้อน

13 ยูดาห์ ที่เราพูดอย่างนี้ ก็เพราะตามเมืองต่างๆของเจ้า มีแต่พระต่างๆมากมาย และตามท้องถนนในเมืองเยรูซาเล็ม เจ้าก็ตั้งแท่นบูชาให้กับรูปเคารพที่น่าอับอายไปทั่วทุกหนแห่ง พวกมันใช้สำหรับเผาเครื่องหอมให้พระบาอัล

14 ส่วนเจ้า เยเรมียาห์ อย่าได้อธิษฐานให้กับคนพวกนี้ และอย่าได้คร่ำครวญหรือวิงวอนให้กับพวกเขาด้วย เพราะเราจะไม่ฟังในเวลาที่พวกเขาร้องหาเราตอนที่เดือดร้อน

15 ยูดาห์ ที่รักของเรา มาทำอะไรในวิหารของเรา
    เห็นๆอยู่ว่านางได้ทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากมาย
เครื่องเซ่นไหว้ของเจ้าจะถูกเอาไปจากเจ้า
    เพราะเจ้าสนุกสนานกับความชั่วช้าของเจ้า”

16 ครั้งหนึ่งพระยาห์เวห์เคยเรียกเจ้าว่า
    “ต้นมะกอกเขียวสวยสดพร้อมผลที่เอร็ดอร่อย”
แต่เดี๋ยวนี้ ด้วยเสียงที่เหมือนกับพายุใหญ่ พระองค์จะจุดไฟเพื่อเผาเจ้า
    และกิ่งก้านของเจ้าก็จะหักลง
17 และพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ที่ปลูกเจ้า
    ได้สั่งให้ความหายนะนี้เกิดขึ้นกับเจ้า
ที่พระองค์ทำอย่างนี้ก็เพราะ
    ความชั่วร้ายที่ชาวอิสราเอลและยูดาห์ทำ
พวกเขายั่วโมโหพระองค์
    ด้วยการเผาเครื่องหอมให้กับพระบาอัล

แผนชั่วร้ายต่อเยเรมียาห์

18 พระยาห์เวห์ได้เปิดเผยแผนการของพวกเขาให้กับผม เพื่อผมจะได้รู้

19 ผมเป็นเหมือนแกะว่าง่ายที่กำลังถูกลากไปเชือด ผมไม่รู้ว่าพวกเขาได้วางแผนชั่วร้ายต่อผม พวกเขาพูดว่า “ให้พวกเราทำลายต้นไม้กับผลของมันและให้เราตัดเยเรมียาห์ออกจากแผ่นดินของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ และอย่าให้ใครจดจำชื่อของเขาอีกต่อไป”

20 แต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้พิพากษาที่เที่ยงธรรม ผู้ที่ทดสอบความคิดและจิตใจของมนุษย์

ขอให้ผมได้เห็นพระองค์แก้แค้นพวกเขาด้วยเถิด เพราะผมได้ร้องเรียนต่อพระองค์แล้ว

21 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับคนอานาโธท คนที่กำลังพยายามจะฆ่าเยเรมียาห์ คนที่พูดว่า “ถ้าแกหยุดพูดแทนพระยาห์เวห์ พวกเราก็จะไว้ชีวิตแก”

22 ดังนั้นนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด “เรากำลังจะลงโทษพวกเขา คนหนุ่มของพวกเขาจะถูกฆ่าตายในสงคราม พวกลูกชายลูกสาวของพวกเขาจะตายเพราะความหิวโหย

23 จะไม่มีใครรอดชีวิตสักคน เพราะเราจะนำความหายนะมาให้กับชาวอานาโธท ตอนที่เราลงโทษพวกเขา”

เยเรมียาห์บ่นให้พระเจ้าฟัง

12 พระยาห์เวห์ เมื่อข้าพเจ้าโต้แย้งกับพระองค์ในศาล
    พระองค์ได้รับการตัดสินว่าถูกเสมอ
แต่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงความยุติธรรมกับพระองค์
    ทำไมคนหลอกลวงถึงได้เจริญเอาเจริญเอา
    ทำไมพวกวางแผนชั่วถึงประสบความสำเร็จ
พระองค์ปลูกพวกเขาแล้วพวกเขาก็หยั่งรากลงไป
    และเจริญงอกงามแถมยังออกลูกด้วย
พวกเขาพูดถึงพระองค์บ่อยๆ
    แต่พวกเขาไม่จริงใจต่อพระองค์เลย
แต่พระยาห์เวห์ พระองค์รู้จักข้าพเจ้า
    พระองค์เคยเห็นข้าพเจ้าและพระองค์เองก็เคยทดสอบจิตใจของข้าพเจ้าแล้ว
ขอให้พระองค์ลากพวกนั้นไปเหมือนลากแกะไปเชือดเถิด
    คัดพวกมันไว้รอวันเชือดเถิด
แผ่นดินจะแห้งแล้งไปอีกนานแค่ไหน
    และหญ้าในท้องทุ่งทุกที่จะเหี่ยวแห้งไปถึงเมื่อไหร่
เพราะความชั่วช้าของคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น
    พวกสัตว์และนกถึงถูกกวาดไปเรียบ
    สิ่งนี้ก็จะเกิดขึ้นด้วย เพราะพวกเขาพูดว่า “พระองค์ไม่เห็นหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา”

พระเจ้าตอบเยเรมียาห์

พระยาห์เวห์พูดว่า
“ถ้าเจ้าวิ่งแข่งกับมนุษย์ที่มีเท้าเหมือนกับเจ้าและพวกเขาทำให้เจ้าหมดแรง
    เจ้าจะไปวิ่งแข่งกับม้าได้ยังไง
ถ้าเจ้ายังสะดุดล้มลงในแผ่นดินที่มีความปลอดภัย
    แล้วเจ้าจะทำยังไงในป่าทึบริมแม่น้ำจอร์แดน
ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะแม้แต่พี่น้องและญาติสนิทของเจ้า
    ยังวางแผนทรยศเจ้าเลย
    ถึงพวกเขาจะร้องเรียกหาเจ้าสุดเสียง
ก็อย่าได้ไปหลงเชื่อพวกเขา
    ถึงแม้พวกเขาจะพูดหวานกับเจ้า

พระยาห์เวห์ได้ทอดทิ้งยูดาห์คนของพระองค์

พระยาห์เวห์พูดว่า
    เราได้ทอดทิ้งวิหารของเราไป
เราได้ละทิ้งมรดกของเราไป
    เราได้ทิ้งยูดาห์คนที่เรารักไว้ในเงื้อมมือศัตรูของนาง
คนที่เราเรียกว่าคนของเราได้กลายเป็นเหมือนสิงโตป่าต่อเรา
นางได้ส่งเสียงคำรามใส่เรา
    ดังนั้น เราจึงเกลียดนาง
คนของเรากลายเป็นเหมือนนกล่อเหยื่อสำหรับเราหรือยังไง
    หรือมีนกล่อเหยื่อรายล้อมนางอยู่หรือ
รวบรวมสัตว์ป่าทั้งหมดเข้ามา
    เพื่อว่าพวกมันจะได้กินนาง
10 คนเลี้ยงแกะหลายคนทำลายไร่องุ่นของเรา
    พวกเขาได้เหยียบย่ำส่วนแบ่งของเราจนราบเรียบ
พวกเขาได้ทำให้ส่วนแบ่งที่เรารักกลายเป็นทะเลทรายร้าง
11 พวกเขาได้ทำให้มันกลายเป็นที่ดินเปล่าประโยชน์
    ดังนั้นที่ดินที่เปล่าประโยชน์นั้นจึงร้องทุกข์ต่อเรา
ที่ดินทั้งหมดถูกปล่อยร้างว่างเปล่า
    แต่ก็ไม่มีใครสนใจใยดี
12 ดังนั้นนักทำลายจึงเดินทางมาจากที่แห้งแล้งในทะเลทราย
    ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะดาบของพระยาห์เวห์กำลังกลืนกินจากสุดปลายโลกด้านหนึ่งไปสุดปลายอีกด้านหนึ่ง
    ไม่มีสันติสุขสำหรับสิ่งมีชีวิตหน้าไหนทั้งสิ้น
13 พวกเขาปลูกข้าวสาลี
    แต่กลับเก็บเกี่ยวหนาม
พวกเขาทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อย
    แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ
แล้วพวกเขาจะต้องอับอายกับผลผลิตของตัวเอง
    เพราะพระยาห์เวห์จะระบายความโกรธใส่พวกเขา”

คำสัญญาที่พระยาห์เวห์ให้กับเพื่อนบ้านของอิสราเอล

14 พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ คือ “เกี่ยวกับพวกคนชั่วช้าที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินที่อยู่ใกล้กับมรดก ที่เราได้ให้กับคนอิสราเอลนั้น เราจะถอนรากพวกเขาจากแผ่นดินของตัวเอง และถอนรากครอบครัวของยูดาห์ออกไปจากพวกเขาด้วย

15 หลังจากถอนรากพวกเขาแล้ว เราก็จะแสดงความเมตตากับพวกเขาอีกครั้ง เราจะพาพวกเขากลับมา ให้แต่ละคนกลับไปยังมรดกของตัวเอง และแต่ละคนก็จะได้กลับไปยังที่ดินของตัวเอง

16 ในอดีตพวกเขาเคยสอนคนของเราให้สาบานกับพระบาอัล แต่ตอนนี้ถ้าพวกเขาเรียนรู้วิถีทางของคนของเราจริงๆโดยสาบานในนามของเรา ด้วยการพูดว่า ‘พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่แน่ฉันใด …’ ถ้าทำอย่างนี้ พวกเขาก็จะเจริญขึ้นท่ามกลางคนของเรา

17 แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอมฟัง เราก็จะถอนรากชนชาตินี้ และทำลายมันทิ้งอย่างแน่นอน” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้

ผ้าคาดเอวของเยเรมียาห์

13 พระยาห์เวห์พูดกับผมอย่างนี้ว่า “ไปซื้อผ้าคาดเอวที่ทำจากผ้าลินินมาผืนหนึ่ง แล้วเอามาคาดเอวเจ้าไว้ แต่อย่าเอามันไปแช่น้ำ”

ผมก็เลยไปซื้อผ้าตามที่พระยาห์เวห์สั่ง แล้วเอามันมาคาดเอวผมไว้

หลังจากนั้นพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมเป็นครั้งที่สองว่า

“ให้เอาผ้าที่เจ้าซื้อมา ที่คาดเอวเจ้าอยู่ ไปที่แม่น้ำยูเฟรติส แล้วเอามันไปซ่อนไว้ในซอกหิน”

ผมจึงไป และเอามันไปซ่อนไว้แถวแม่น้ำยูเฟรติสตามที่พระยาห์เวห์สั่งผมไว้

หลังจากผ่านไปหลายวัน พระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า “ลุกขึ้นแล้วให้ไปที่แม่น้ำยูเฟรติส ไปเอาผ้าที่เราสั่งให้เจ้าเอาไปซ่อนไว้ที่นั่น”

ดังนั้น ผมจึงไปที่แม่น้ำยูเฟรติส แล้วไปหาผ้าผืนนั้น และเอามันออกมาจากที่ซ่อน แต่ผ้านั้นเปื่อยหมดแล้ว จะเอาไปใช้ทำอะไรก็ไม่ได้

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับผมว่า

“นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด ‘เราจะทำลายความเย่อหยิ่งของยูดาห์และเยรูซาเล็มเหมือนผ้าชิ้นนี้แหละ

10 คนชั่วช้าพวกนี้ ที่ไม่ยอมฟังเสียงเรา ที่ไปเดินตามจิตใจที่ดื้อดึงของพวกเขา และที่ไปติดตามรับใช้พระอื่น และไปก้มกราบอยู่ต่อหน้าพวกพระนั้น คนพวกนี้ก็จะเป็นเหมือนผ้าผืนนี้ ที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

11 ผ้านี้ติดอยู่ที่เอวของคนใส่ยังไง เราก็ทำให้คนอิสราเอลและคนยูดาห์ทุกคนติดอยู่กับเราอย่างนั้นเหมือนกัน’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

“เราอยากให้พวกเขาเป็นคนของเรา และนำชื่อเสียง คำสรรเสริญ และสง่าราศีมาให้กับเรา แต่พวกเขากลับไม่ยอมฟัง”

คำเตือนต่อยูดาห์

12 “ดังนั้นให้เอาข่าวนี้ไปบอกกับพวกเขา พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลพูดไว้ว่าอย่างนี้ ‘ไหทุกใบควรจะมีเหล้าองุ่นอยู่เต็ม’ แล้วพวกนั้นก็จะพูดกับเจ้าว่า ‘พวกเราไม่รู้หรือยังไงว่าไหทุกใบควรจะมีเหล้าองุ่นอยู่เต็ม’

13 เจ้าก็จะต้องบอกพวกนั้นว่า พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ ‘เรากำลังจะทำให้คนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้เมามายกันหมด ทั้งกษัตริย์ทุกคนที่นั่งบนบัลลังก์ของดาวิด พวกนักบวช พวกผู้พูดแทนพระเจ้า และคนทั้งหมดในเยรูซาเล็ม

14 และเราจะบดขยี้ผู้คนเข้าใส่กัน และบดขยี้แม้แต่พ่อแม่เข้าใส่ลูกๆของเขา’” พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น

“เราจะไม่ละเว้น สงสาร หรือเมตตาปรานีต่อพวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้พินาศไป”

15 เอียงหูเข้ามา อย่าได้หยิ่งผยอง
    เพราะพระยาห์เวห์ได้เตือนไว้แล้ว
16 ถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านก่อนที่จะค่ำมืด
    และก่อนที่เท้าท่านจะสะดุดล้มบนเนินเขาตอนพลบค่ำ
ในช่วงที่พวกท่านรอคอยแสงอรุณนั้น
    พระองค์จะทำให้มันกลับกลายเป็นความมืดมิดและมืดมัว
17 ถ้าพวกท่านไม่ยอมฟังสิ่งนี้
    ผมก็จะร้องไห้ให้กับความหยิ่งผยองของท่าน
ผมจะหลั่งน้ำตาอย่างขมขื่นและน้ำตาก็จะไหลพรากจากตาของผม
    เพราะฝูงแกะของพระยาห์เวห์ถูกจับเอาไปเป็นเชลยแล้ว
18 ให้บอกกษัตริย์และแม่ของกษัตริย์ว่า
    “ให้ลงมานั่งในที่นั่งที่ต่ำต้อย
เพราะมงกุฎอันแสนสวยของพวกเจ้าได้หล่นจากหัวของพวกเจ้าแล้ว
19 พวกเมืองต่างๆของเนเกบก็ถูกปิดไปหมดแล้ว
    และก็ไม่มีใครไปเปิดมัน
ยูดาห์ถูกไล่ออกไปแล้วหมดทุกคน
    ถูกไล่ออกไปจนหมดเกลี้ยง”

20 พระยาห์เวห์พูดว่า “เงยหน้าดูพวกที่กำลังมาจากทางทิศเหนือสิ
    ฝูงแกะที่เจ้าได้มา ไปอยู่ที่ไหนหมดแล้ว
    แกะที่สวยงามของเจ้าอยู่ที่ไหน
21 เจ้าจะว่ายังไงเมื่อคนที่เจ้าเคยฝึกอบรมเพื่อจะได้มาเป็นมิตรกับเจ้า
    แต่พวกเขากลับแต่งตั้งคนเหล่านั้นให้มาเป็นหัวหน้าเจ้า
    เจ้าจะไม่เจ็บเหมือนผู้หญิงที่กำลังจะคลอดลูกหรือ
22 และถ้าเจ้าสงสัยในใจว่า
    ‘ทำไมเรื่องพวกนี้ถึงได้เกิดขึ้นกับฉัน’
มันเป็นเพราะความผิดอันใหญ่หลวงของเจ้าเอง
    ที่กระโปรงของเจ้าถูกถลกขึ้นมา
    และเจ้าก็ถูกข่มขืน
23 ชาวเอธิโอเปียเปลี่ยนสีผิวตัวเองได้หรือ
    เสือดาวเปลี่ยนลายจุดของมันได้หรือ
ถ้าได้ พวกเจ้าที่ได้รับการเรียนรู้ให้ทำในสิ่งที่ชั่วช้า
    ก็เปลี่ยนมาทำดีได้เหมือนกัน

24 ดังนั้นเราจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไป
    เหมือนแกลบที่ถูกลมของทะเลทรายพัดปลิวไป
25 นี่คือส่วนแบ่งของเจ้า
    ที่เราได้ชั่งออกมาให้กับเจ้า”
พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น
    “ส่วนแบ่งที่เราได้ชั่งให้กับเจ้า
    เราทำอย่างนี้ก็เพราะเจ้าได้ลืมเรา
    แล้วหันไปไว้วางใจในสิ่งที่ไม่จริง
26 เราเองจะยกกระโปรงขึ้นคลุมหัวเจ้า
    เพื่อคนจะได้เห็นความอัปยศอดสูของเจ้า
27 เราได้เห็นการสำส่อนของเจ้า
    การให้ท่าของเจ้า
อุบายแยบยลที่เจ้าใช้สำส่อนบนเนินเขาต่างๆ
    เราได้เห็นพิธีกรรมที่น่าขยะแขยงที่เจ้าได้ทำในท้องทุ่งนั้น
แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ เยรูซาเล็มเอ๋ย
    เจ้าจะไม่บริสุทธิ์ไปอีกนานเท่าไหร่”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International