Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 59-63

คนของพระเจ้าต้องเปลี่ยนจากทางชั่วร้ายต่างๆ

59 อย่าคิดว่ามือของพระยาห์เวห์สั้นจนช่วยเจ้าไม่ได้
    หรือหูของพระองค์ตึงจนไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
แต่เป็นความผิดบาปทั้งหลายของพวกเจ้าต่างหากที่เป็นอุปสรรคระหว่างเจ้ากับพระเจ้าของเจ้า
เป็นพวกบาปของเจ้าที่ทำให้พระองค์ซ่อนหน้าไปจากเจ้า
    พระองค์จึงไม่ได้ยินเสียงของเจ้า
เพราะมือของเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
    และนิ้วของเจ้าเปรอะเปื้อนไปด้วยความผิด
ริมฝีปากของเจ้าพูดโกหก
    ลิ้นของเจ้ากระซิบวางแผนทำชั่ว
ไม่มีใครเอาเรื่องจริงมาขึ้นศาล
    และไม่มีใครเลยพูดความจริงในศาล
ทุกคนพึ่งคำพูดที่ไม่มีหลักฐานและพูดโกหก
    พวกเขาตั้งท้องความชั่วร้ายและคลอดความผิดบาปออกมา
พวกเขาฟักแผนร้ายเหมือนฟักไข่งู
    และทอแผนชั่วอย่างทอใยแมงมุม
ใครที่กินไข่เหล่านั้นของมันก็จะตาย
    แล้วถ้าไข่แตกก็จะมีงูพิษออกมา
ใยแมงมุมของพวกเขาจะเอามาใช้เป็นเสื้อผ้าก็ไม่ได้
    พวกเขาไม่สามารถเอาสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาคลุมตัวได้
งานต่างๆของพวกเขาเป็นงานชั่ว
    มือของพวกเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ
เท้าของพวกเขาวิ่งไปทำชั่ว
    พวกเขารีบไปทำให้เลือดของคนบริสุทธิ์หลั่งไหล
ความคิดต่างๆของพวกเขาเป็นความคิดชั่วร้าย
    พวกเขาไปถึงที่ไหน ความพินาศและการทำลายก็เกิดขึ้นที่นั่น
พวกเขาไม่รู้จักทางที่นำไปสู่สันติสุข
    ไม่มีความยุติธรรมในทางของพวกเขา
พวกเขาได้ทำทางของพวกเขาให้คดเคี้ยวไป
    ทุกคนที่เดินบนเส้นทางนั้นจะไม่ได้เจอกับสันติสุข
อย่างนี้ การตัดสินอย่างยุติธรรมของพระเจ้าจึงอยู่ห่างไกลจากพวกเรา
    ความรอดของพระองค์มาไม่ถึงพวกเรา
พวกเรารอคอยแสงสว่าง แต่มีแต่ความมืด
    พวกเรารอคอยแสงสว่างจ้า แต่พวกเราต้องเดินอยู่ในความมืดครึ้ม
10 พวกเราเดินคลำไปตามกำแพงเหมือนคนตาบอด
    เราคลำหาเหมือนคนไม่มีลูกตา
เราสะดุดล้มในตอนเที่ยงอย่างกับเป็นตอนกลางคืน
    ถึงคนอื่นแข็งแรง แต่พวกเราเป็นเหมือนศพ
11 เราทุกคนบ่นเหมือนหมีร้องคราง
    และร้องคร่ำครวญเหมือนนกเขาร้อง
พวกเรารอคอยการตัดสินอันยุติธรรมของพระองค์ แต่มันไม่มาสักที
    พวกเรารอคอยความรอด แต่มันห่างไกลจากพวกเรา
12 เพราะการกบฏต่างๆที่เราทำต่อพระองค์นั้นมีมากมาย
    และความบาปต่างๆของพวกเราเป็นพยานฟ้องพวกเราเอง
เพราะพวกเรารู้อยู่แก่ใจถึงการกบฏต่างๆของพวกเรา
    พวกเรารู้จักความผิดบาปของพวกเราเอง
13 พวกเราได้กบฏต่อพระยาห์เวห์และไม่สัตย์ซื่อต่อพระองค์
    พวกเราได้หันเหไปจากพระเจ้าของพวกเรา
พวกเราได้พูดถึงการกดขี่และการกบฏ
    ได้วางแผนด้วยคำพูดหลอกลวงและพูดสิ่งเหล่านั้นออกมาจากใจ
14 ความยุติธรรมก็เลยถูกไล่กลับไป
    ความถูกต้องก็อยู่ห่างไกล
ความจริงสะดุดล้มในลานเมือง
    ความสัตย์ซื่อเข้ามาในเมืองไม่ได้
15 ความจริงไม่อยู่แล้ว
    แล้วถ้าใครไม่ยอมทำชั่วก็จะถูกโจมตี

พระยาห์เวห์เห็นสิ่งเหล่านี้แล้วไม่พอใจมาก
    เพราะความยุติธรรมไม่มีเลย
16 พระองค์โกรธแค้นที่เห็นว่าไม่มีใครเลย
    ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง
แล้วพระองค์จึงใช้แขนอันทรงพลังของพระองค์เพื่อมาช่วยกู้
    และความยุติธรรมของพระองค์ทำให้พระองค์ประสบผลสำเร็จ
17 พระองค์สวมความยุติธรรมไว้เป็นเหล็กป้องกันอก
    และใส่ฤทธิ์ที่จะช่วยให้รอดเป็นหมวกเหล็ก
พระองค์สวมการแก้แค้นเป็นเสื้อผ้า
    ใส่ความเดือดดาลเป็นเสื้อคลุม
18 พระองค์จะตอบแทนศัตรูของพระองค์ตามที่เขาสมควรจะได้รับ
    คือผู้ที่ต่อสู้กับพระองค์จะได้รับความโกรธแค้น
    พวกศัตรูของพระองค์จะได้รับการลงโทษ
    พระองค์จะตอบแทนแผ่นดินตามแถบชายฝั่งทะเลและพวกเกาะตามที่พวกเขาสมควรจะได้รับ
19 คนพวกนั้นที่อยู่ทางตะวันตกจึงจะยำเกรงชื่อของพระยาห์เวห์
    และพวกที่อยู่ทางตะวันออกจะยำเกรงศักดิ์ศรีของพระองค์
    พระองค์จะซัดมาเหมือนแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวผ่านช่องแคบและโดนลมของพระยาห์เวห์พัดส่ง
20 พระยาห์เวห์บอกว่าพระองค์จะมาปลดปล่อยศิโยนให้เป็นอิสระ
    พระองค์จะมาช่วยกู้คนเหล่านั้นในครอบครัวของยาโคบที่กลับใจจากการกบฏ

21 พระยาห์เวห์พูดว่า “ตัวเราเองจะให้คำมั่นสัญญากับพวกเขาว่าอย่างนี้ ‘พระวิญญาณของเราที่อยู่ในเจ้า และคำพูดที่เราได้ใส่ไว้ในปากของเจ้า จะไม่พรากไปจากเจ้าหรือลูกๆของเจ้าหรือหลานๆของเจ้า ตั้งแต่นี้ไปจนตลอดกาล’” พระยาห์เวห์สัญญาว่าอย่างนั้น

เพลงเรื่องสง่าราศีที่เมืองเยรูซาเล็มกำลังจะได้รับ

60 ลุกขึ้น ส่องสว่างซะ เพราะแสงสว่างของเจ้ามาถึงแล้ว
    รัศมีของพระยาห์เวห์ขึ้นมาส่องลงบนเจ้า
ความมืดปกคลุมแผ่นดิน
    ความมืดมิดปกคลุมชนชาติต่างๆอยู่
แต่พระยาห์เวห์ได้ส่องสว่างอยู่บนเจ้า
    และรัศมีของพระองค์จะปรากฏอยู่เหนือเจ้า
ชนชาติต่างๆจะมาหาแสงสว่างของเจ้า
    และกษัตริย์ต่างๆจะมาถึงแสงรุ่งอรุณอันเจิดจ้าของเจ้า
เงยหน้าเงยตาขึ้น มองไปรอบๆ
    พวกเขาทุกคนกำลังรวบรวมกันเข้ามาหาเจ้า
พวกลูกชายของเจ้ากำลังมาจากแดนไกล
    พวกพี่เลี้ยงกำลังหนีบพวกลูกสาวของเจ้ามาบนเอว
เจ้าจะเห็นสิ่งเหล่านี้และเจ้าจะส่องประกายแห่งความสุขออกมา
    ใจของเจ้าจะตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสุข
เพราะความร่ำรวยของชนชาติต่างๆที่อยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลจะมาถึงเจ้า
    ใช่แล้ว ทรัพย์สมบัติของชนชาติต่างๆจะถูกยกให้กับเจ้า
พวกฝูงอูฐทั้งหลายจะปกคลุมแผ่นดินของเจ้า
    คืออูฐหนุ่มสาวจากมีเดียนและเอฟาห์
    ทุกคนจากเชบาจะมาหาเจ้า
พวกเขาจะนำทองและกำยานมาให้
    แล้วเล่าเรื่องการกระทำอันน่าสรรเสริญของพระยาห์เวห์
ฝูงแพะแกะทั้งหมดจากเคดาร์จะถูกรวบรวมมาหาเจ้า
    รวมทั้งพวกแกะตัวผู้จากเนบาโยธด้วย
พวกมันจะเป็นเครื่องสัตวบูชาที่เราจะยอมรับบนแท่นของเจ้า
และเราจะทำให้พระวิหารของเราสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก
พวกนี้เป็นใครกันนะ ที่บินมาหาเจ้าอย่างกับเมฆ
    บินมาเหมือนฝูงนกเขา ที่กำลังบินกลับรังของมัน
เรือทั้งหลายจากชายฝั่งทะเลอันไกลโพ้นกำลังรวบรวมกัน
    พวกเรือจากทารชิช จะมาเป็นกลุ่มแรก
เพื่อนำพวกลูกๆของพวกเจ้าจากแดนไกล
    พร้อมกับเงินทองของพวกเขาด้วย
เพื่อเป็นเกียรติให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
    เพื่อให้กับองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
    เพราะพระองค์ได้ให้เกียรติกับพวกเจ้า
10 พวกคนต่างชาติจะมาสร้างกำแพงต่างๆของเจ้าขึ้นมา
    และพวกกษัตริย์ของพวกเขาจะมาเป็นทาสเจ้า
ตอนที่เราโกรธเจ้านั้น เราได้ลงโทษเจ้า
    แต่ตอนนี้เราจะมีน้ำใจต่อเจ้าและเมตตาต่อเจ้า
11 พวกประตูเมืองของเจ้า จะเปิดต้อนรับเสมอ จะไม่ปิดทั้งวันทั้งคืน
    เพื่อความร่ำรวยของชนชาติทั้งหลายจะถูกนำมามอบให้กับเจ้า
    และพวกกษัตริย์ของพวกเขาจะถูกนำเข้าไปด้วย
12 ถ้าชนชาติไหนหรืออาณาจักรไหนไม่ยอมรับใช้เจ้า มันจะพินาศไป
    ชนชาติเหล่านั้นจะถูกทำลายอย่างสิ้นซาก
13 ความร่ำรวยของเลบานอนจะมาถึงเจ้า
    ทั้งไม้สน ไม้เฟอร์ และไม้ไซปรัสของมัน
เพื่อจะใช้ตกแต่งที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
    เราจะทำให้ที่วางเท้าของเราดูสง่างาม
14 ลูกหลานของพวกที่เคยกดขี่ข่มเหงเจ้าจะก้มลงเข้ามาหาเจ้า
    ทุกคนที่เคยดูหมิ่นเจ้าจะกราบอยู่แทบเท้าเจ้า
เขาจะเรียกเจ้าว่า “เมืองของพระยาห์เวห์
    เมืองศิโยน ขององค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล”
15 แต่ก่อนเจ้าถูกทอดทิ้ง คนเกลียดชัง
    และไม่มีใครเดินผ่านแผ่นดินเจ้า
แต่ตอนนี้เราจะทำให้เจ้ามีศักดิ์ศรีตลอดไป
    และคนจะชื่นชมในตัวเจ้าตลอดชั่วลูกชั่วหลาน
16     ชนชาติทั้งหลายจะให้สิ่งที่เจ้าต้องการเหมือนแม่ให้นมลูก
พวกเจ้าจะดื่มความร่ำรวยจากบรรดากษัตริย์
    แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเรา ยาห์เวห์ เป็นผู้ช่วยให้รอดของเจ้า เป็นผู้ไถ่เจ้าให้เป็นอิสระ เป็นองค์ผู้ทรงฤทธิ์ของยาโคบ
17 เราจะให้เจ้ามีทองคำแทนทองสัมฤทธิ์
    มีเงินแทนเหล็ก
มีทองสัมฤทธิ์แทนไม้
    และมีเหล็กแทนหิน
เราจะตั้งสันติสุขเป็นเจ้านายเหนือเจ้า
    และความยุติธรรมจะเป็นนายของพวกเจ้า
18 จะไม่มีความโหดร้ายทารุณในแผ่นดินของเจ้า
    จะไม่มีซากปรักหักพังหรือการทำลายภายในเขตแดนของเจ้า
เจ้าจะตั้งชื่อพวกกำแพงของเจ้าว่า “ความรอด”
    จะตั้งชื่อพวกประตูเมืองว่า “คำสรรเสริญ”
19 เจ้าจะไม่ต้องพึ่งแสงแดดในตอนกลางวันอีกแล้ว
    หรือแสงจันทร์ในตอนกลางคืน
เพราะพระยาห์เวห์จะเป็นแสงสว่างให้กับเจ้าตลอดไป
    พระเจ้าของเจ้าจะเป็นรัศมีของพวกเจ้า
20 ดวงอาทิตย์ของเจ้าจะไม่ตกอีกแล้ว
    หรือดวงจันทร์ของเจ้าจะไม่หายไป
เพราะพระยาห์เวห์จะเป็นแสงสว่างให้กับเจ้าตลอดไป
    วันเวลาแห่งความโศกเศร้าของเจ้านั้นจะจบสิ้นไป
21 คนของเจ้า หมดทุกคนจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    แล้วพวกเขาจะได้แผ่นดินเป็นกรรมสิทธิ์ตลอดไป
พวกเขาเป็นต้นไม้ที่เราปลูกไว้
    เป็นฝีมือของเราที่แสดงว่าเรายิ่งใหญ่
22 ครอบครัวที่เล็กที่สุดจะกลายเป็นตระกูลที่มีพันคน
    ตระกูลที่เล็กที่สุดจะกลายเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่
เราคือยาห์เวห์
    พอถึงเวลา เราจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้

ข่าวดีสำหรับคนที่ถูกข่มเหง

61 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต อยู่กับผม
    เพราะพระยาห์เวห์ได้เลือก[a] ผม
พระองค์ได้ส่งผมไปประกาศข่าวดีให้กับคนยากจน
    ไปรักษาจิตใจที่แตกสลาย
ไปประกาศเสรีภาพให้กับเชลย
    และประกาศการปลดปล่อยให้กับพวกนักโทษ
พระองค์ส่งผมให้ไปประกาศปีแห่งความเมตตาของพระยาห์เวห์
    และวันเวลาที่พระเจ้าของเราจะแก้แค้น ไปปลอบโยนทุกคนที่เศร้าโศกเสียใจ
พระองค์ส่งผมให้เอามาลัยไปให้กับคนที่โศกเศร้าในศิโยน
    เพื่อใส่แทนขี้เถ้า[b] บนหัว
ใส่น้ำมันแห่งความชื่นชมยินดีแทนชุดไว้ทุกข์
    และให้ชุดงานเลี้ยงแทนจิตใจที่ท้อแท้
พวกเขาจะได้ชื่อว่า ต้นโอ๊กแห่งความรอด
    ต้นไม้ของพระยาห์เวห์ที่แสดงว่าพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
พวกเขาจะสร้างเมืองต่างๆที่พังทลายไปในสมัยโบราณขึ้นมาใหม่
    และฟื้นสถานที่ต่างๆที่ถูกทำลายไปนานแล้วขึ้นมาใหม่
พวกเขาจะก่อเมืองที่เป็นซากปรักหักพังที่ถูกทำลายมาหลายชั่วคนแล้วขึ้นมาใหม่
คนต่างชาติก็จะยืนเฝ้าเลี้ยงดูฝูงแพะแกะของเจ้า
    และคนต่างชาติพวกนี้ก็จะทำงานในทุ่งนาและในสวนองุ่นของเจ้า
จะมีคนเรียกพวกเจ้าว่า พวกนักบวชของพระยาห์เวห์
    พวกเจ้าจะได้ชื่อว่า พวกผู้รับใช้ของพระเจ้าของเรา
พวกเจ้าจะได้ประโยชน์จากทรัพย์สมบัติของชนชาติต่างๆ
    และพวกเจ้าก็จะได้โอ้อวดในความร่ำรวยที่ได้มาจากพวกเขา
พวกเจ้าจะได้ส่วนแบ่งเป็นสองเท่าแทนที่จะต้องอับอาย
    พวกเจ้าจะชื่นชมยินดีกับส่วนแบ่งของพวกเจ้าแทนที่จะต้องขายหน้า
ใช่แล้ว พวกเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งเป็นสองเท่าในแผ่นดินของพวกเจ้า
    และความยินดีของพวกเจ้าจะอยู่ตลอดไป
พระยาห์เวห์พูดว่า “เรายาห์เวห์รักความยุติธรรม เราเกลียดการปล้นและการทำผิดทั้งหลาย
เราจะให้ค่าตอบแทนกับคนของเราตามที่เขาสมควรจะได้รับ
    และเราจะทำสัญญากับพวกเขาที่จะคงอยู่ตลอดไป
ลูกหลานของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
    เชื้อสายของเขา ก็จะเป็นที่รู้จักท่ามกลางเชื้อชาติต่างๆ
ทุกคนที่เห็นพวกเขาต่างก็จะยอมรับว่าพวกเขาเป็นชนชาติที่พระยาห์เวห์ได้อวยพร”

10 พระยาห์เวห์ทำให้ผมชื่นชมยินดีมาก
    จิตใจของผมมีความสุขเพราะพระเจ้าของผม
เพราะพระองค์ได้เอาชุดแห่งความรอดมาสวมผมไว้
    พระองค์ได้คลุมผมด้วยเสื้อคลุมแห่งการช่วยกู้
เป็นเหมือนกับเจ้าบ่าวที่ประดับหัวด้วยพวงมาลัย
    เป็นเหมือนกับเจ้าสาวที่ประดับตัวด้วยเพชรพลอยของนาง
11 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะทำให้ความรอดอันยุติธรรมของพระองค์และคำสรรเสริญจากมนุษย์งอกขึ้นมาต่อหน้าชนชาติทั้งหลาย
    เหมือนกับพืชที่งอกขึ้นมาจากดิน เหมือนกับเมล็ดที่โผล่ขึ้นมาในสวน

ชัยชนะของเมืองเยรูซาเล็ม

62 เพื่อจะช่วยศิโยน ผมจะไม่ยอมเก็บตัวเงียบ
    เพื่อจะช่วยเยรูซาเล็ม ผมจะไม่ยอมอยู่เฉย
จนกว่าชัยชนะของนางจะส่องสว่างออกมาเหมือนกับแสงรุ่งอรุณ
    และความรอดของนางส่องสว่างเหมือนกับคบเพลิง
แล้วชนชาติต่างๆจะได้เห็นชัยชนะของเจ้า
    กษัตริย์ทั้งหลายจะได้เห็นสง่าราศีของเจ้า
เจ้าจะมีชื่อใหม่ที่พระยาห์เวห์เองจะเป็นผู้ตั้งให้
เจ้าจะเป็นมงกุฎที่สวยงามในมือของพระยาห์เวห์
    เป็นมงกุฎของกษัตริย์ในมือของพระเจ้าของเจ้า
คนจะไม่เรียกเจ้าว่า ผู้ถูกผัวทิ้ง
    และแผ่นดินของเจ้าก็จะไม่ถูกเรียกว่าร้างเปล่าอีกต่อไป
เพราะคนจะเรียกเจ้าว่า คนที่พระเจ้ารัก
    และคนจะเรียกแผ่นดินของเจ้าว่า
    เจ้าสาวของพระเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์รักเจ้า
    และแผ่นดินของเจ้าจะแต่งงานกับพระยาห์เวห์
ผู้ที่จะสร้างเจ้าขึ้นมาใหม่ก็จะแต่งงานกับเจ้า
    เหมือนกับที่ชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงสาว
พระเจ้าของเจ้าจะชื่นชมในตัวเจ้า
    เหมือนกับเจ้าบ่าวชื่นชมในตัวเจ้าสาว
เยรูซาเล็มเอ๋ย เราได้ตั้งพวกยามไว้บนกำแพงทั้งหลายของเจ้า
    เขาจะร้องอธิษฐานตลอดวันตลอดคืนไม่นิ่งเงียบ
    พวกเจ้าที่ร้องขอให้พระยาห์เวห์ช่วยเหลือ อย่ายอมหยุดพักเลย
และอย่าให้พระองค์หยุดพักด้วย
    จนกว่าพระองค์จะตั้งเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่
    จนกว่าพระองค์จะทำให้เยรูซาเล็มเป็นเมืองที่คนทั่วโลกยกย่อง
พระยาห์เวห์ได้สาบานด้วยการยกมือขวาและแขนอันทรงพลังของพระองค์ว่า
    “เราจะไม่ให้เมล็ดข้าวของเจ้าตกไปเป็นอาหารของพวกศัตรูของเจ้าอีกต่อไป
เราจะไม่ให้พวกคนต่างชาติได้ดื่มเหล้าองุ่นใหม่ของเจ้า ที่เจ้าได้มาจากการทำงานอย่างหนัก
แต่พวกที่เก็บเกี่ยวเมล็ดข้าวก็จะได้กินมัน และพวกเขาจะสรรเสริญพระยาห์เวห์
    และคนพวกนั้นที่เก็บผลองุ่นจะได้ดื่มเหล้าองุ่นในลานวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา”

10 ออกไป ออกไปทางประตูเมือง
    ไปเตรียมถนนให้กับประชาชน
สร้างมันขึ้นมา สร้างทางหลวงขึ้นมา
    เก็บหินทิ้งข้างทางให้หมด
    ยกธงขึ้นเป็นสัญญาณให้ชนชาติทั้งหลายเห็น
11 ดูสิ พระยาห์เวห์ได้ประกาศไปถึงสุดปลายโลกว่า “ให้บอกนางสาวศิโยนว่า
    ‘ดูสิ ความรอดของเธอกำลังมา
พระองค์เอารางวัลมาให้
    พระองค์จะจ่ายค่าตอบแทนให้’
12 คนจะเรียกพวกเขาว่าคนของพระเจ้าโดยเฉพาะ
    พวกที่พระยาห์เวห์ได้ปลดปล่อยให้เป็นอิสระ
และศิโยน เจ้าจะได้ชื่อว่าผู้ที่พระเจ้าอยากได้
    เมืองที่พระเจ้าไม่ได้ทอดทิ้ง”

พระยาห์เวห์ลงโทษชนชาติต่างๆ

63 คนยามร้องตะโกนว่า ใครกันนั่นที่กำลังมาจากเอโดม
    ใครกันนั่นที่มาจากเมืองโบสราห์ เสื้อผ้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดง
ใครกันนั่น แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าอย่างดี
    มุ่งหน้ามาด้วยพลังอันแข็งแกร่ง

พระยาห์เวห์พูดว่า “เป็นเราเอง เราชนะแล้ว เรามีพลังอันเกรียงไกรที่จะช่วยให้เจ้ารอดได้”
ทำไมเสื้อผ้าของท่านถึงเปื้อนสีแดง
    ทำไมเสื้อผ้าของท่านถึงเหมือนกับคนเหล่านั้นที่เดินย่ำอยู่ในบ่อองุ่น
พระองค์ตอบว่า “เราเหยียบย่ำองุ่นอยู่ในบ่อเพียงคนเดียว
    ไม่มีชนชาติไหนช่วยเราเลย
เราเหยียบย่ำพวกชนชาติเหล่านั้นด้วยความโกรธ เราได้บดขยี้พวกมันด้วยความโกรธแค้น
    เลือดของพวกมันกระเด็นใส่เสื้อผ้าเรา
    เราได้ทำให้เสื้อผ้าของเราเปรอะเปื้อนไปหมด
ตอนนั้น เราได้กำหนดวันลงโทษชนชาติต่างๆ
    ตอนนั้น ปีที่จะปลดปล่อยคนของเราให้เป็นอิสระได้มาถึงแล้ว
เรามองไป แต่ไม่มีใครมาช่วย
    เราแปลกใจมากที่ไม่มีใครสนับสนุนเรา
เราก็เลยชนะด้วยแขนอันทรงพลังของเราเอง
    ความโกรธของเราเองสนับสนุนเรา
เราได้เหยียบย่ำชนชาติต่างๆด้วยความโกรธ
    เราได้บดขยี้พวกมัน[c] ด้วยความโกรธแค้น
    เราได้เทเลือดของพวกมันลงบนพื้น”

พระยาห์เวห์แสดงความเมตตาต่อคนของพระองค์

ผมจะเล่าถึงเรื่องต่างๆที่พระยาห์เวห์ได้แสดงความเมตตากับเรา
    เป็นเรื่องที่น่ายกย่องสรรเสริญ
เราควรจะสรรเสริญพระองค์สำหรับเรื่องทุกอย่างที่พระองค์ทำเพื่อพวกเรา
    สำหรับความดีงามที่ยิ่งใหญ่ที่พระองค์มีต่อครอบครัวของอิสราเอล
พระองค์ได้แสดงความเมตตาปรานีต่อพวกเรา
    พระองค์ได้ช่วยพวกเราด้วยความรักมั่นคงครั้งแล้วครั้งเล่า
พระองค์พูดว่า “ใช่แล้ว พวกนี้เป็นคนของเราแน่ เป็นลูกๆที่จะไม่มีวันทรยศเรา”
    พระองค์ถึงได้มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา
ไม่ใช่ผู้ส่งข่าว ไม่ใช่ทูตสวรรค์
    แต่เป็นพระองค์เองที่ช่วยพวกเขาจากความทุกข์ร้อนทั้งหมดของพวกเขา
พระองค์ได้ไถ่พวกเขาไว้เพราะพระองค์รักและสงสารพวกเขา
    ในอดีตนั้นพระองค์ยกพวกเขาขึ้นมาอุ้มอยู่เสมอ
10 แต่พวกเขากลับกบฏและทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เสียใจ
    พระองค์จึงกลายเป็นศัตรูของพวกเขา
    แล้วพระองค์เองได้ต่อสู้กับพวกเขา
11 ต่อมาพวกเขาก็ได้คิดถึงวันเก่าก่อน
    คนของพระองค์ได้คิดถึงโมเสส
พวกเขาคิดในใจว่า พระผู้นั้นที่นำฝูงแกะของพระองค์พร้อมพวกผู้เลี้ยงผ่านทะเลขึ้นมา ไปอยู่ไหนแล้ว
    พระผู้นั้นที่ใส่พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ไว้ในตัวโมเสส
12 และจูงท่านไปด้วยมือที่เต็มไปด้วยพลังและสง่าราศีของพระองค์ หายไปไหนแล้ว
    พระผู้นั้นที่แหวกน้ำต่อหน้าพวกเขาเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์เองตลอดไป หายไปไหนแล้ว
13 ผู้ที่นำพวกเขาเดินผ่านน้ำลึกไป หายไปไหนแล้ว
    พวกเขาไม่ได้สะดุดล้ม พวกเขาเป็นเหมือนม้าที่เดินอยู่ในที่ราบเรียบ
14 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์ให้พวกเขาพักผ่อน
    เหมือนกับฝูงวัวที่ลงไปอยู่ในหุบเขาเขียวชอุ่ม
อย่างนี้พระองค์ได้นำคนของพระองค์
    เพื่อพระองค์จะได้สร้างชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ให้กับพระองค์เอง

อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ให้ช่วยคนของพระองค์

15 ตอนนี้ขอโปรดมองลงมาจากฟ้าสวรรค์และสังเกตพวกเราสิ
    มองลงมาจากบ้านอันศักดิ์สิทธิ์และสง่างามของพระองค์เถิด
ความรักอันร้อนแรงของพระองค์และฤทธิ์อำนาจของพระองค์หายไปไหนหมดแล้ว
    ความรักใคร่และความเมตตาปรานีของพระองค์หายไปไหนหมดแล้ว
    ทั้งหมดนั้นถูกยั้งไว้จากพวกเรา
16 พระองค์คือพ่อของพวกเรา
    ถึงอับราฮัมจะจำพวกเราไม่ได้และอิสราเอลจะบอกว่าไม่รู้จักเรา
แต่พระองค์ พระยาห์เวห์ก็ยังจะเป็นพ่อของพวกเราอยู่ดี
    ชื่อของพระองค์ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้วคือ “ผู้ปกป้องเรา”
17 พระยาห์เวห์เจ้าข้า ทำไมพระองค์ถึงปล่อยให้เราหลงไปจากทางทั้งหลายของพระองค์
    และปล่อยให้จิตใจของเราแข็งกระด้างจนไม่ยำเกรงพระองค์
กลับมาเถิด เพื่อช่วยพวกผู้รับใช้ของพระองค์
    เพื่อช่วยเผ่าต่างๆซึ่งเป็นทรัพย์สมบัติของพระองค์เอง
18 ชนชาติศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้เป็นเจ้าของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แค่ช่วงสั้นๆ
    แต่ตอนนี้ศัตรูของพวกเราได้เหยียบย่ำสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์แล้ว
19 นานมาแล้วที่พวกเราเป็นเหมือนคนพวกนั้นที่พระองค์ไม่ได้ครอบครอง
    เหมือนคนเหล่านั้นที่ไม่ได้เป็นคนของพระองค์

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International