Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
อิสยาห์ 49-53

งานของผู้รับใช้ของพระองค์

49 พวกเจ้าที่อยู่แถบชายฝั่งและหมู่เกาะต่างๆฟังเราให้ดี
    ชนชาติทั้งหลายที่มาจากแดนไกล ตั้งใจฟังให้ดี
พระยาห์เวห์ได้เรียกผมให้มารับใช้พระองค์ก่อนที่ผมจะเกิดเสียอีก
    พระองค์ตั้งชื่อให้ผม ตั้งแต่ผมยังอยู่ในท้องแม่
พระองค์ทำให้ปากของผมเหมือนกับดาบที่คมกริบ
    พระองค์ซ่อนและปกป้องผมไว้ใต้มือพระองค์
พระองค์ทำให้ผมเป็นเหมือนลูกธนูที่ขัดมัน
    พระองค์ซ่อนผมไว้ในซองธนูของพระองค์
พระองค์พูดกับผมว่า “อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
    เราจะได้รับเกียรติเพราะเจ้า”
แต่ผมคิดว่า “ผมได้ทำงานเหนื่อยเปล่า”
    ผมได้ทุ่มแรงไปจนหมด เสียแรงเปล่าๆไม่ได้อะไรซักอย่าง
แต่อย่างไรก็ตามพระยาห์เวห์จะให้สิ่งที่ผมสมควรจะได้รับอย่างแน่นอน
    และรางวัลของผมอยู่กับพระเจ้าของผม
พระยาห์เวห์ได้ปั้นผมในครรภ์ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ทำอย่างนี้เพื่อพระองค์จะได้นำครอบครัวของยาโคบกลับมาหาพระองค์ และเพื่อรวบรวมคนอิสราเอลกลับมาหาพระองค์
ผมจะได้รับเกียรติในสายตาของพระยาห์เวห์
    และพระเจ้าของผมได้เป็นพละกำลังของผมแล้ว

ตอนนี้พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเราที่กำลังช่วยเราฟื้นฟูเผ่าต่างๆของยาโคบ
    และนำผู้รอดชีวิตของชนชาติอิสราเอลกลับมา
แค่นั้นยังน้อยเกินไป เราจะทำให้เจ้าเป็นแสงสว่างให้กับชนชาติต่างๆด้วย
    เพื่อความรอดของเราจะได้ไปถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”

พระยาห์เวห์พระผู้ไถ่และผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
    ได้พูดกับคนนั้นที่ถูกดูหมิ่นที่ชนชาติอื่นๆเกลียดชัง
    และที่เป็นทาสของผู้ครอบครองทั้งหลายอย่างนี้ว่า
“เมื่อพวกกษัตริย์เห็นเจ้า พวกเขาก็จะยืนขึ้นให้เกียรติเจ้า เมื่อพวกเจ้านายเห็นเจ้าก็จะโค้งคำนับเจ้า”
    เพราะพระยาห์เวห์องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลผู้ที่ได้เลือกเจ้ามานั้นรักษาคำสัญญาของพระองค์เสมอ

วันแห่งความรอด

พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ “ในเวลาที่เราแสดงความเมตตา เราจะตอบคำอธิษฐานของเจ้า
    ในวันแห่งความรอด เราจะช่วยเจ้าและปกป้องเจ้า
เราจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นตัวกลางแห่งคำสัญญาที่เรามีกับมนุษย์
    เพื่อว่าเราจะได้ฟื้นฟูแผ่นดินขึ้นมาใหม่ และคืนแผ่นดินที่ถูกทำลายกลับไปให้เจ้าของเดิม
เราจะบอกกับพวกนักโทษว่า ‘ออกมาได้แล้ว’
    เราจะบอกกับคนเหล่านั้นที่อยู่ในความมืดว่า
    ‘โผล่ออกมาได้แล้ว’
พวกเขาจะเป็นเหมือนแกะที่กินไปตามทางเดิน
    และพวกเขาจะมีทุ่งหญ้าบนเนินเขาโล้นทั้งหลาย
10 พวกเขาจะไม่ขาดอาหารหรือน้ำ
    แสงแดดและลมร้อนของทะเลทรายจะไม่โจมตีพวกเขา
เพราะพระองค์ผู้ปลอบโยนพวกเขาจะนำหน้าพวกเขา
    และพระองค์จะนำทางพวกเขาไปถึงตาน้ำทั้งหลาย
11 เราจะทำให้ภูเขาทั้งหลายของเราแบนเป็นถนน
    และถมที่ต่ำขึ้นมาเป็นทางหลวงของเรา
12 ดูสิ จะมีบางคนมาจากแดนไกล
    จะมีบางคนมาจากทิศเหนือและทิศตะวันตก
    และจะมีบางคนมาจากทางภาคใต้ของอียิปต์”

13 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย ร้องเพลงเถิด แผ่นดินโลกเอ๋ย ชื่นชมยินดีเถิด
    ภูเขาทั้งหลายเอ๋ย ระเบิดเป็นเสียงเพลงแห่งความชื่นชมยินดีเถิด
เพราะพระยาห์เวห์ได้ปลอบโยนคนของพระองค์
    และพระองค์จะให้ความรักกับคนของพระองค์ที่ทุกข์ยากลำบาก
14 แต่ศิโยน ได้พูดว่า
    “พระยาห์เวห์ทอดทิ้งฉัน องค์เจ้าชีวิตลืมฉัน”

15 พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้หญิงที่ให้นมลูก จะลืมลูกของเธอได้หรือ
    หรือ ผู้หญิงที่คลอดลูกออกมาจะไม่ให้ความรักต่อลูกของเธอ ได้หรือ
ถึงแม้ว่าพวกเขาอาจจะลืมได้
    แต่เราจะไม่มีวันลืมเจ้า
16 ดูสิ เยรูซาเล็ม เราวาดเมืองของเจ้าลงบนฝ่ามือของเรา
    กำแพงของเจ้าอยู่ต่อหน้าต่อตาเราเสมอ
17 ลูกๆของเจ้ากำลังรีบกลับมาหาเจ้า
    และคนพวกนั้นที่พังทลายเจ้าและทำลายเจ้าก็จะจากเจ้าไป
18 ลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ
    พวกลูกหลานของเจ้ากำลังรวมตัวกันกลับมาหาเจ้า”
พระยาห์เวห์พูดว่า “เจ้ารู้ว่าเรามีชีวิตอยู่แน่ ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า
    เจ้าจะได้สวมใส่ลูกหลานของเจ้าเหมือนเครื่องเพชร
    หรือเหมือนกับเจ้าสาวที่สวมใส่เครื่องเพชร

19 เราได้ทำลายเจ้าและทำให้เจ้ากลายเป็นซากปรักหักพัง และรื้อเจ้าลงกับพื้น
    แต่ต่อไปนี้แผ่นดินของเจ้าก็จะแคบเกินไปแล้วสำหรับประชาชนมากมายของเจ้า
    และคนพวกนั้นที่เคยกลืนกินเจ้าก็อยู่ห่างไกล
20 และลูกๆของเจ้าที่เจ้าคิดว่าสูญเสียไปแล้ว
    วันหนึ่งพวกเขาจะกลับมาพูดใส่หูเจ้าว่า
‘ที่นี่แคบเกินไปสำหรับเราแล้ว
    หาที่ใหม่ให้พวกเราอยู่กันหน่อย’
21 แล้วเจ้าก็จะพูดกับตัวเองว่า
    ‘ใครกันนะที่คลอดเด็กพวกนี้มาให้กับข้า
ข้าได้สูญเสียลูกของข้าไป และข้าเป็นหมัน
    ข้าถูกขับไล่ออกจากแผ่นดินของข้า
ข้าถูกสามีทิ้ง
    อย่างนั้น ใครได้เลี้ยงเด็กๆพวกนี้ขึ้นมา
ข้าถูกทิ้งไว้ตัวคนเดียว
    แล้วนี่ เด็กๆพวกนี้มาจากไหนกัน’”

22 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะยกมือของเราขึ้นเป็นสัญญาณให้กับชนชาติต่างๆ
    เราจะยกธงของเราขึ้นให้คนเห็น
และพวกเขาก็จะอุ้มพวกลูกชายของเจ้ามาในอ้อมอกของเขา
    และพวกเขาก็จะแบกพวกลูกสาวของเจ้าไว้บนบ่า
23 พวกกษัตริย์จะสอนพวกลูกๆของเจ้า
    พวกราชินีของพวกเขาก็จะดูแลลูกๆของเจ้า
พวกเขาจะก้มหน้ากราบลงถึงพื้นต่อหน้าเจ้า
    และพวกเขาก็จะเลียฝุ่นที่เท้าของเจ้า
แล้วเจ้าก็จะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
    คนพวกนั้นที่ไว้วางใจในเราจะไม่มีวันผิดหวัง”

24 จะแย่งของที่ยึดมาได้จากทหารได้หรือ
    หรือจะไปช่วยกู้เชลยจากผู้ก่อการร้ายได้หรือ
25 พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ได้สิ ของที่ยึดมาได้จะถูกแย่งไปจากผู้ก่อการร้าย
    และเชลยก็จะได้รับการช่วยกู้จากทหาร
เพราะเราจะต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ต่อสู้กับเจ้า
    และเราจะช่วยกู้ลูกๆของเจ้า
26 เราจะทำให้พวกที่กดขี่เจ้าต้องกินเนื้อตัวเอง
    และเมาเลือดของตัวเองเหมือนดื่มเหล้าองุ่น
และทุกคนจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์ พระผู้ช่วยให้รอดของเจ้า
    พระผู้ไถ่ของเจ้า ผู้มีฤทธิ์อำนาจของยาโคบ”

พระยาห์เวห์ช่วยกู้อิสราเอลได้

50 พระยาห์เวห์พูดอย่างนี้ว่า
“อิสราเอล เจ้าคิดว่าเราหย่ากับเยรูซาเล็มแม่ของเจ้าแล้วหรือ
    ไหนละใบหย่าของแม่เจ้าที่เราให้กับนางตอนส่งนางไป
หรือเราได้ขายพวกเจ้าไปจ่ายหนี้ใครหรือ
    ไม่เลย แต่ที่พวกเจ้าถูกขายไปนั้น
ก็เพราะความบาปต่างๆของเจ้าเอง
    และแม่ของเจ้าถูกส่งไปก็เพราะการกบฏต่างๆของเจ้า
ทำไมถึงไม่มีใครอยู่ที่นั่นตอนที่เรามา
    ทำไมถึงไม่มีใครตอบตอนที่เราเรียก
เจ้าคิดว่าแขนของเราสั้นเกินไป
    ที่จะเอื้อมออกมาช่วยเจ้าให้เป็นอิสระหรือ
หรือ เจ้าคิดว่าเราไม่มีแรงที่จะช่วยกู้เจ้าได้
    ถ้าเราตะโกนใส่ทะเล มันก็จะเหือดแห้งไป
เราสามารถทำให้พวกแม่น้ำกลายเป็นทะเลทราย
    ปลาของพวกมันก็จะเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำและตายไปเพราะกระหาย
เราเอาความมืดมาสวมท้องฟ้า
    และเราให้มันใส่ผ้ากระสอบ”

ผู้รับใช้พระยาห์เวห์พึ่งพระองค์จริงๆ

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตได้สอนผมว่าควรจะพูดอะไร
    เพื่อผมจะได้รู้ว่าจะพูดให้กำลังใจกับคนที่อ่อนแออย่างไร
ทุกๆเช้าพระองค์ปลุกผม
    พระองค์ทำให้หูผมพร้อมที่จะฟัง เหมือนกับพวกเด็กนักเรียน
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ได้เปิดหูผม
    และผมก็ไม่ได้กบฏต่อพระองค์
    ผมไม่ได้หันหลังไปจากพระองค์
ผมหันหลังให้คนตี
    ผมยอมให้คนดึงเคราจากแก้ม
ผมไม่ได้ซ่อนหน้าไว้
    เมื่อมีคนพูดดูถูกและถ่มน้ำลายใส่ผม
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ช่วยผม
    ผมจึงไม่รู้สึกขายหน้า
ผมจึงเชิดหน้าไว้
    และผมรู้ว่าผมจะไม่เสียหน้า
ผู้ที่จะกู้หน้าผมอยู่ใกล้ๆ
    ใครจะเอาเรื่องมาฟ้องร้องผมหรือ
ให้พวกเราไปยืนอยู่ต่อหน้าศาลด้วยกัน
    ใครเป็นผู้กล่าวหาผมหรือให้เขามาฟ้องผมต่อหน้า
ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต
    ช่วยผมไว้ ใครจะมาตัดสินว่าผมผิด
พวกเขาทั้งหมดจะเปื่อยยุ่ยไป
    เหมือนเสื้อผ้าที่ถูกตัวมอดกัดกิน
10 มีใครบ้างในพวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์
    และเชื่อฟังผู้รับใช้ของพระองค์
ใครก็ตามที่เดินอยู่ในความมืดโดยไม่มีแสงสว่าง
    ควรจะไว้วางใจในพระยาห์เวห์และพึ่งพิงพระเจ้าของเขา
11 แต่ดูสิ พวกเจ้าทุกคนทั้งก่อไฟและจุดดุ้นไฟเอง
    ไปเลย เดินเข้าไปในเปลวไฟของพวกเจ้านั้น
และท่ามกลางดุ้นไฟที่พวกเจ้าจุดขึ้นมานั้น
    นี่คือสิ่งที่เจ้าจะได้รับจากมือของเรา คือเจ้าจะต้องนอนลงด้วยความเจ็บปวด

พระยาห์เวห์จะช่วยกู้คนของพระองค์อีกครั้ง

51 พระยาห์เวห์พูดว่า “ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้อง
    พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์
ให้ดูหินนั้น ที่เจ้าถูกสกัดออกมาสิ
    ให้ดูบ่อหินนั้น ที่เจ้าถูกขุดออกมา
มองดู อับราฮัมบรรพบุรุษของพวกเจ้าและซาราห์คนที่คลอดเจ้ามาสิ
    ตอนที่เราเรียกอับราฮัมนั้น เขายังอยู่ตัวคนเดียวเลย
    แต่เราได้อวยพรเขา และทำให้เขามีลูกมากมาย”
พระยาห์เวห์จะปลอบโยนศิโยน
    พระองค์จะมองพวกตึกที่พังทลายพวกนั้นของเธอ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ
พระองค์จะทำให้ที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งของเธอกลายเป็นสวนเอเดน
    พระองค์จะทำให้ทะเลทรายของเธอเป็นเหมือนสวนของพระยาห์เวห์
ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความสุขและการเฉลิมฉลองกัน
    พวกเขาจะขอบพระคุณและร้องเพลงสรรเสริญ

พระยาห์เวห์พูดว่า “คนของเราเอ๋ย ฟังเราให้ดี
    ชนชาติของเราเอ๋ย ตั้งใจฟังเราให้ดี เพราะเราจะให้คำสั่งสอน
    และความยุติธรรมของเราจะส่องสว่างออกไปให้กับชนชาติต่างๆ
ชัยชนะของเรากำลังเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
    ความรอดที่มาจากเรากำลังเดินทางมาแล้ว ฤทธิ์อำนาจของเราจะนำความยุติธรรมมาให้กับชนชาติต่างๆ
แผ่นดินแถบชายฝั่งทะเลและหมู่เกาะต่างๆกำลังเฝ้าคอยเรา
    พวกเขาฝากความหวังไว้กับฤทธิ์อำนาจของเรา
เงยหน้าเงยตาขึ้นไปมองบนท้องฟ้าสิ
    มองลงไปยังโลกเบื้องล่าง
ให้รู้ว่าท้องฟ้าจะสูญหายไปเหมือนควัน
    โลกจะเปื่อยยุ่ยไปเหมือนเสื้อผ้า
    และคนที่อาศัยอยู่บนโลกก็จะตายเหมือนแมลงวัน
แต่ความรอดของเราจะอยู่ตลอดไป
    และการช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะไม่มีวันแตกสลายไป
ฟังเราให้ดี พวกเจ้าที่รู้ว่าอะไรถูกต้อง
    พวกเจ้าที่เก็บคำสั่งสอนของเราไว้ในใจ
ไม่ต้องไปกลัวคำพูดเหยียดหยามของคนอื่น
    ไม่ต้องไปวุ่นวายใจกับคำดูถูกทั้งหลายของเขา
เพราะพวกตัวมอดจะกัดกินพวกเขาเหมือนเสื้อผ้า
    และพวกตัวแมลงจะกัดกินพวกเขาเหมือนผ้าขนแกะ
แต่การช่วยกู้อันยุติธรรมของเราจะอยู่ตลอดไป
    และความรอดของเราจะอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน”

พลังของพระยาห์เวห์เองจะช่วยกู้คนของพระองค์

ตื่นเถิด ตื่นเถิด พระยาห์เวห์เจ้าข้า สวมพลังไว้
    ใช้พละกำลังของพระองค์เถิด[a]
    ตื่นขึ้นเหมือนกับในสมัยก่อนนานมาแล้ว
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ตัดราหับเป็นชิ้นๆ[b]
    เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่แทงมังกรทะลุไป[c]
10 เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ทะเลแห้งไป
    คือทำให้น้ำในมหาสมุทรที่ยิ่งใหญ่แห้งไป
เป็นพระองค์ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ส่วนลึกที่สุดของทะเล
    กลายเป็นทางให้กับคนที่พระองค์ไถ่ให้เป็นอิสระเดินข้ามไป
11 คนที่พระยาห์เวห์ได้ไถ่ให้เป็นอิสระ
    แล้วจะกลับมาที่ศิโยนด้วยเสียงโห่ร้องดีใจ
ความสุขจะสวมอยู่บนหัวของพวกเขาตลอดไป
    ความชื่นชมยินดีก็จะท่วมท้นพวกเขา
    ความเศร้าโศกและการครวญครางจะวิ่งหนีไปจากพวกเขา

12 พระยาห์เวห์พูดว่า “เรา คือเราเองเป็นผู้ที่ปลอบโยนพวกเจ้า
    เยรูซาเล็ม ทำไมเจ้าถึงได้กลัวมนุษย์ที่จะต้องตาย
    คือคนที่ถูกสร้างเป็นเหมือนหญ้า
13 ทำไมเจ้าถึงได้ลืมพระยาห์เวห์ผู้ที่สร้างเจ้ามา
    ผู้ที่กางแผ่นฟ้าออก
    ผู้ที่วางรากฐานของโลก
ทำไมเจ้าถึงได้หวาดกลัวคนพวกนั้นอยู่เรื่อยทั้งวัน คือพวกที่โกรธแค้นและข่มเหงเจ้า
    พวกที่ตั้งใจจะทำลายเจ้า
    แล้วตอนนี้ พวกที่โกรธแค้นและที่เคยข่มเหงเจ้าหายไปไหนกันหมดแล้ว
14 คนพวกนั้นที่ถูกข่มเหงในคุกจะได้รับการปลดปล่อยในไม่ช้า
    พวกเขาจะไม่ตายในคุกใต้ดินหรอก
    และพวกเขาก็จะไม่ขาดอาหาร
15 เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของเจ้า
    เราเป็นผู้ที่ทำให้ทะเลสงบลงตอนที่เกิดคลื่นคะนอง
    ชื่อของเราคือยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น”

16 “อิสราเอลเอ๋ย เราได้ใส่คำพูดของเราไว้ในปากของเจ้า
    เราได้ซ่อนและปกป้องเจ้าไว้ใต้มือของเรา
เราคือผู้ที่กางท้องฟ้าออกและวางรากฐานของโลก
    เราพูดกับศิโยนว่า ‘เจ้าเป็นชนชาติของเรา’”

ถึงตาคนอื่นถูกลงโทษแล้ว

17 เยรูซาเล็มเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด ลุกขึ้นเถิด
    ตอนนั้นพระยาห์เวห์โกรธเจ้ามาก พระองค์ถึงได้ลงโทษเจ้า
เจ้าได้ดื่มจากถ้วยในมือของพระยาห์เวห์ เป็นถ้วยแห่งความโกรธแค้นของพระองค์
    เจ้าได้ดื่มเข้าไปจนหมดถ้วย ถ้วยที่ทำให้ผู้คนต้องเมาโซเซ
18 จากลูกมากมายที่เยรูซาเล็มคลอด
    ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะนำทางเธอ
จากลูกมากมายที่เธอเลี้ยงจนเติบโตขึ้นมา
    ไม่เหลือซักคนที่นั่นที่จะจูงมือเธอ
19 มีสองสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับเจ้าคือแผ่นดินได้ถูกล้างผลาญและพินาศไป
    แล้วคนก็ตายจากกันดารอาหารและสงคราม
ไม่เหลือใครที่จะไว้ทุกข์ให้กับเจ้า
    ไม่เหลือใครที่จะปลอบโยนเจ้า
20 ลูกๆของเจ้าได้เป็นลมไป
    พวกเขาก็นอนอยู่ตามทุกหัวถนนเหมือนกับกวางที่ติดตาข่าย
ความโกรธแค้นของพระยาห์เวห์ตกบนพวกเขาอย่างเต็มที่
    พวกเขาได้ยินพระเจ้าของเจ้าตะคอกใส่พวกเขา
21 ดังนั้น ฟังสิ่งนี้ไว้ให้ดี เจ้าที่ทนทุกข์ทรมาน
    เจ้าที่เมา แต่ไม่ได้เมาด้วยเหล้าองุ่น
22 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตของเจ้า
    พระเจ้าของเจ้าที่ต่อสู้คดีให้กับคนของพระองค์
พูดว่าอย่างนี้ “เห็นไหม เราได้เอาถ้วยที่ทำให้ผู้คนเมาโซเซไปจากมือของเจ้าแล้ว
    เจ้าจะไม่ต้องดื่มจากชามแห่งความโกรธแค้นของเราอีกแล้ว[d]
23 เราจะเอาถ้วยนั้นไปใส่ไว้ในมือของคนพวกนั้นที่เคยทรมานเจ้า
    คนที่เคยสั่งเจ้าว่า ‘ก้มลงกับพื้น เราจะเหยียบเจ้าไป’
ในตอนนั้นเจ้าต้องยอมให้หลังของเจ้าเป็นเหมือนพื้น
    และเป็นเหมือนถนน ให้พวกเขาเดินเหยียบย่ำไป”

อิสราเอลจะรอด

52 ศิโยนเอ๋ย ตื่นเถิด ตื่นเถิด
    สวมพลังของเจ้าเถิด
เยรูซาเล็ม เมืองอันศักดิ์สิทธิ์เอ๋ย
    สวมใส่เสื้อผ้าที่สวยงามของเจ้าเถิด
    เพราะพวกคนต่างชาติที่ไม่ได้ทำพิธีขลิบและคนที่ไม่บริสุทธิ์จะไม่ได้เข้ามาในเจ้าอีกแล้ว
เยรูซาเล็ม ผู้เป็นเชลยเอ๋ย
    ปัดฝุ่นซะ ลุกขึ้นได้แล้ว
นางสาวศิโยน ผู้เป็นเชลยเอ๋ย
    ถอดพวกโซ่ที่ล่ามคอเจ้าออกได้แล้ว
เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด
    “เจ้าถูกขายไปแบบให้เปล่า
    และเจ้าก็จะได้รับการไถ่โดยไม่ต้องเสียเงินด้วยเหมือนกัน”

เพราะพระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต พูดไว้ว่าอย่างนี้ “ในตอนแรก คนของเราได้ลงไปที่อียิปต์ และไปอยู่เป็นคนต่างด้าวที่นั่น แล้วหลังจากนั้น ชาวอัสซีเรียก็ได้เอาพวกเขาไปเป็นทาสโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย” พระยาห์เวห์พูดว่า “แล้วตอนนี้ ดูสิว่าเราต้องเจอกับอะไร พวกเขาเอาคนของเราไปเปล่าๆ แล้วยังโอ้อวดหมิ่นประมาทชื่อของเราไปเรื่อยทั้งวัน”

แล้วเมื่อเรามาช่วยกู้คนของเรา พวกเขาจะได้สัมผัสกับฤทธิ์อำนาจอันโด่งดังของเรา ในตอนนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเป็นเราเองที่พูดว่า “เราอยู่นี่”

น่ายินดีขนาดไหน ที่จะได้เห็นเท้าของผู้ประกาศข่าวดีกำลังข้ามภูเขาทั้งหลายมา
    ผู้ที่มาประกาศสันติภาพ
ผู้ที่นำข่าวดีมา
    ผู้ที่มาประกาศชัยชนะ
    ผู้ที่มาบอกกับศิโยนว่า “พระเจ้าของท่านกำลังครอบครองอยู่”

ฟังให้ดี ทหารยามของท่านกำลังส่งเสียงร้อง
    พวกเขาโห่ร้องพร้อมกันด้วยความยินดี
เพราะพวกเขาได้เห็นกับตาตัวเองว่าพระยาห์เวห์กำลังกลับมาที่ศิโยน

พวกซากปรักหักพังของเยรูซาเล็มเอ๋ย
    ระเบิดเสียงเพลงแห่งความยินดีออกมาพร้อมกันเลย
เพราะพระยาห์เวห์ได้ปลอบโยนคนของพระองค์
    พระองค์ได้ไถ่เมืองเยรูซาเล็มแล้ว
10 พระยาห์เวห์ได้ถกเสื้อให้เห็นแขนอันศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังของพระองค์ต่อหน้าต่อตาชนชาติทั้งหมด
    และทุกคนบนโลกนี้จะได้เห็นการช่วยกู้ที่มาจากพระเจ้าของเรา

11 ไปซะ ไปซะ ออกไปจากบาบิโลนซะ
    อย่าได้จับอะไรที่ไม่บริสุทธิ์
ออกไปจากท่ามกลางเธอซะ
    เจ้าที่ถือข้าวของเครื่องใช้ที่ใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์ ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์
12 แต่เจ้าจะไม่ต้องจากไปอย่างเร่งรีบ
    เจ้าจะไม่ต้องวิ่งหนีเหมือนกับพวกอพยพ
เพราะพระยาห์เวห์จะนำหน้าพวกเจ้าไป
    พระเจ้าของอิสราเอลจะคุ้มครองด้านหลังให้กับเจ้า

ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ที่ทนทุกข์ทรมาน

13 พระยาห์เวห์พูดว่า “ดูสิ ผู้รับใช้ของเราจะประสบความสำเร็จ
    เขาจะได้รับการยกย่องเชิดชูอย่างสูง
14 ตอนนั้นเขาทำให้คนจำนวนมากตกตะลึง รูปร่างหน้าตาของเขาเสียโฉมมาก
    แทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนเลย
    รูปร่างของเขาแทบจะไม่เหมือนมนุษย์แล้ว
15 แล้วตอนนี้เขาก็จะทำให้หลายๆชนชาติสะดุ้ง
    พวกกษัตริย์จะต้องปิดปากอึ้งไปเพราะเขา
เพราะพวกเขาจะเห็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครบอกพวกเขามาก่อน
    และพวกเขาก็จะคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน”
53 ผู้คนพูดว่า ใครจะไปเชื่อว่าเรื่องที่เราได้ยินมาจะเกิดขึ้นได้
    ตอนนั้นใครจะไปเห็นฤทธิ์อำนาจของพระยาห์เวห์ในเหตุการณ์นี้
เขาเติบโตขึ้นมาเหมือนกับต้นไม้เล็กๆต่อหน้าพระยาห์เวห์
    เหมือนกับรากที่แตกหน่อในดินแห้งแล้ง
เขาไม่ได้หล่อเหลาหรือมีสง่าราศีถึงกับทำให้เราอยากมองเขา
    เขาไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดถึงกับทำให้เราชอบเขา
ผู้คนต่างพากันดูถูกและไม่คบด้วย
    เขาเป็นผู้ชายที่เจอกับความเจ็บปวดมากมายและคุ้นเคยกับความทุกข์ทรมาน
เป็นเหมือนคนหนึ่งที่คนทนดูไม่ได้
    เขาเป็นที่ดูถูกและเราไม่ได้เห็นว่าเขาสำคัญอะไรเลย
เขาได้แบกรับความทุกข์ทรมานของพวกเราอย่างแน่นอน
    เขาหอบหิ้วความเจ็บปวดของพวกเรา
แต่เรามองว่าพระเจ้าลงโทษเขา
    โบยตีเขา และทำให้เขาเจ็บปวด
เขาถูกแทงก็เพราะความผิดต่างๆที่เราทำไป
    เขาฟกช้ำก็เพราะความชั่วต่างๆที่พวกเราทำ
การตีสอนที่ทำให้เราหายดีก็ตกอยู่บนเขา
    พวกเราได้รับการรักษาเพราะบาดแผลทั้งหลายของเขา
พวกเราทุกคนได้หลงหายไปเหมือนแกะ
    พวกเราแต่ละคนต่างหลงไปคนละทิศละทาง
แต่พระยาห์เวห์ปล่อยให้ความผิดของพวกเราทุกคนโจมตีเขา
เขาถูกกดขี่ข่มเหง และถูกทำให้เจ็บปวด
    แต่เขาก็ไม่ปริปากบ่นเลย
เหมือนกับลูกแกะที่ถูกนำไปฆ่า
    เหมือนกับแกะที่นิ่งเงียบอยู่ต่อหน้าคนที่ตัดขนของมัน
    เขาไม่ได้ปริปากของเขาเลย
เขาก็ถูกเอาตัวไปหลังจากที่ถูกจับและถูกตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม[e]
    และไม่มีใครสนใจในชะตากรรมของเขา[f]
เพราะเขาถูกตัดออกจากโลกของคนเป็น
    เขาถูกลงโทษเพราะความผิดที่คนของเขาทำ[g]
พวกเขาได้ทำหลุมฝังศพของเขาไว้กับหลุมของคนชั่ว
    และทำอุโมงค์ฝังศพของเขาไว้กับอุโมงค์ของคนรวย[h]
ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ก่อความรุนแรง
    และเขาไม่ได้พูดหลอกลวง
10 แต่พระยาห์เวห์ก็ตัดสินใจที่จะบดขยี้คนของพระองค์
    และทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมาน
ถ้าผู้รับใช้ของพระองค์ยอมให้ชีวิตตัวเขาเองเป็นของถวายชดใช้ความผิด
    เขาก็จะได้เห็นลูกหลานของเขาและจะมีอายุยืนยาว
ความตั้งใจของพระยาห์เวห์ก็จะสำเร็จผ่านทางมือของเขา
11 หลังจากความทุกข์ทรมานอันเลวร้ายของเขาแล้ว เขาก็จะเห็นความสว่าง[i]
    และสิ่งที่เขาประสบมานั้นจะทำให้เขาพึงพอใจ
พระยาห์เวห์พูดว่า “ผู้รับใช้ของเราผู้ที่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ
    ทำให้หลายๆคนได้รับการตัดสินให้พ้นผิด
    และเขาก็จะแบกรับโทษสำหรับความผิดที่คนพวกนั้นทำ
12 ดังนั้น เราจะให้รางวัลกับเขาร่วมกับพวกผู้ยิ่งใหญ่
    และเขาก็จะได้รับส่วนแบ่งจากของที่ยึดมาได้ร่วมกับคนที่แข็งแรง
เพราะเขาได้เทตัวเองออกมาจนตาย
    เขาถูกนับรวมเข้ากับพวกคนบาป
และเขาก็แบกรับบาปของคนจำนวนมาก
    และได้ขอร้องอ้อนวอนแทนพวกคนบาป”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International