Chronological
เฮเซคียาห์ขอคำปรึกษาจากอิสยาห์
(2 พกษ. 19:1-13)
37 เมื่อกษัตริย์เฮเซคียาห์ได้ยินอย่างนั้น พระองค์ก็ฉีกเสื้อผ้าด้วยความโศกเศร้า แล้วเอาผ้ากระสอบมาสวมแทน และพระองค์ก็เข้าไปในวิหารของพระยาห์เวห์ 2 พระองค์ได้ให้เอลียาคิมผู้ดูแลวัง เชบนาเลขานุการของพระองค์ และพวกนักบวชอาวุโส สวมผ้ากระสอบไปหาผู้พูดแทนพระเจ้าชื่ออิสยาห์ ลูกชายของอามอส
3 พวกเขาพูดกับอิสยาห์ว่า “กษัตริย์เฮเซคียาห์พูดไว้อย่างนี้ว่า ‘นี่เป็นเวลาแห่งความเดือดร้อน การลงโทษ และความอับอาย พวกเราเป็นเหมือนผู้หญิงพร้อมคลอดแล้ว แต่ไม่มีแรงเบ่งลูกออกมา 4 ไม่แน่นะ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ยินคำพูดของแม่ทัพนั้นแล้ว กษัตริย์อัสซีเรียเจ้านายของเขาได้ส่งเขามาเพื่อเยาะเย้ยพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ และไม่แน่นะ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอาจจะลงโทษเขาเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ได้ อย่างนั้นช่วยอธิษฐานสำหรับคนของเราที่ยังเหลือรอดอยู่’”
5 เมื่อพวกข้าราชการของกษัตริย์เฮเซคียาห์มาหาอิสยาห์ 6 อิสยาห์บอกกับพวกเขาว่า “ให้บอกกับเจ้านายของพวกท่านว่า พระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่า ‘ไม่ต้องกลัวคำพูดต่างๆที่เจ้าได้ยินมา คือคำพูดที่พวกคนรับใช้ของกษัตริย์อัสซีเรียได้ลบหลู่เรานั้น 7 ตัวเราเองจะทำให้กษัตริย์อัสซีเรียกังวลใจ เพื่อว่าเมื่อเขาได้ยินข่าวลือ เขาจะได้รีบกลับไปยังแผ่นดินของเขา แล้วเราจะทำให้เขาล้มตายลงด้วยดาบในแผ่นดินของเขาเอง’”
กองทัพอัสซีเรียถอยทัพจากเยรูซาเล็ม
8 กษัตริย์ของอัสซีเรียได้ออกจากเมืองลาคีชไปยังเมืองลิบนาห์ เมื่อแม่ทัพได้ยินอย่างนั้น เขาก็ไปยังเมืองลิบนาห์ และพบว่ากษัตริย์อัสซีเรียกำลังสู้รบอยู่กับเมืองนั้น 9 ในเวลานั้น กษัตริย์อัสซีเรียได้ยินเกี่ยวกับกษัตริย์ทีระหะคาร์[a] แห่งเอธิโอเปียว่า “กษัตริย์ทีระหะคาร์ได้ยกทัพมาทำสงครามกับท่าน” เมื่อกษัตริย์อัสซีเรียได้ยินอย่างนั้น พระองค์ก็ส่งพวกผู้ถือสารไปหากษัตริย์เฮเซคียาห์ และสั่งพวกเขาว่า
10 “ให้ไปบอกกับกษัตริย์เฮเซคียาห์ของยูดาห์ด้วยว่า อย่าให้พระเจ้าที่เจ้าไว้วางใจนั้น หลอกลวงพวกเจ้า เมื่อพระองค์พูดว่า ‘เยรูซาเล็มจะไม่มีวันตกไปอยู่ในเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรียหรอก’[b] 11 ดูสิ เจ้าก็ได้ยินถึงสิ่งที่พวกกษัตริย์ของอัสซีเรียได้ทำกับแผ่นดินทั้งหมดนั้นแล้ว พวกเขาได้ทำลายพวกมันจนราบคาบ แล้วเจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีรอดพ้นหรือ 12 มีพวกพระของชนชาติไหนบ้าง ที่ช่วยพวกเขาให้รอด ตอนที่ถูกบรรพบุรุษของข้าทำลาย พวกเขาได้ทำลายเมืองโกซาน ฮาราน เรเซฟ และประชาชนของเอเดน[c] ที่อาศัยอยู่ในเทลอัสสาร์ 13 แล้วกษัตริย์ของฮามัท กษัตริย์ของอารปัด กษัตริย์ของเมืองเสฟารวาอิม กษัตริย์ของเฮนา หรือกษัตริย์ของอิฟวาห์ หายไปไหนกันหมดแล้ว”
เฮเซคียาห์อธิษฐานถึงพระเจ้า
(2 พกษ. 19:14-19)
14 เฮเซคียาห์รับจดหมายจากพวกผู้ถือสารและอ่านมัน แล้วพระองค์ก็ขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์ แล้วเขาก็คลี่จดหมายฉบับนั้นออกต่อหน้าพระยาห์เวห์ 15 แล้วเขาก็อธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ว่า
16 “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอล ผู้นั่งประทับบนบัลลังก์เหนือพวกเครูบ มีแต่พระองค์ผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นพระเจ้าของอาณาจักรทั้งหมดในโลก พระองค์เป็นผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก 17 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยเงี่ยหูของพระองค์ฟังด้วยเถิด ข้าแต่พระยาห์เวห์ ช่วยเปิดตาของพระองค์ดูด้วยเถิด ช่วยฟังคำพูดทั้งหมดของเซนนาเคอริบที่เขาได้ส่งมา เพื่อเยาะเย้ยพระเจ้าผู้มีชีวิตอยู่ด้วยเถิด
18 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ก็จริงอยู่ที่พวกกษัตริย์อัสซีเรียได้ทำลายชนชาติทั้งหลายรวมทั้งแผ่นดินของพวกเขาด้วย 19 และได้โยนพวกพระของพวกนั้นลงในไฟ แต่พระพวกนั้นไม่ได้เป็นพระเจ้าจริง แต่เป็นฝีมือมนุษย์ที่ทำขึ้นมาจากไม้และหิน พวกมันก็เลยถูกทำลายไป 20 ดังนั้น ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา ตอนนี้ช่วยกู้พวกเราให้พ้นจากมือของกษัตริย์อัสซีเรียด้วยเถิด เพื่ออาณาจักรทั้งหมดในโลกนี้จะได้รู้ว่า พระองค์ พระยาห์เวห์คือพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”
พระเจ้าตอบเฮเซคียาห์
(2 พกษ. 19:20-34)
21 จากนั้นอิสยาห์ลูกชายของอามอส ได้ส่งคนไปบอกเฮเซคียาห์ว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลพูด คือ ‘เจ้าได้อธิษฐานถึงเราเกี่ยวกับเซนนาเคอริบกษัตริย์ของอัสซีเรีย’
22 ดังนั้น ให้รู้ว่านี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับเขาว่า
‘เซนนาเคอริบเอ๋ย
ศิโยนสาวพรหมจรรย์ได้ดูถูกเจ้า
เธอหัวเราะเยาะเจ้า
นางสาวเยรูซาเล็มส่ายหัวเยาะเย้ยเจ้าในขณะที่เจ้าวิ่งหนี
23 เจ้าดูถูกใครหรือพูดหมิ่นประมาทใครรู้รึเปล่า
เจ้าขึ้นเสียงใส่ใครรู้รึเปล่า
เจ้าเหยียดตาใส่ใครรู้รึเปล่า
เจ้าได้ทำใส่เราผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
24 เจ้าได้เย้ยองค์เจ้าชีวิตผ่านทางพวกผู้รับใช้ที่เจ้าส่งมา
เจ้าพูดว่า “ข้าได้ปีนขึ้นไปถึงยอดเขา ยอดที่สูงที่สุดในเลบานอนด้วยรถรบมากมายของข้า
ข้าได้โค่นพวกต้นซีดาร์ที่สูงที่สุดของมันและต้นสนที่ดีที่สุดของมัน
ข้าได้ไปถึงยอดเขาที่ไกลลิบลิ่วของมัน ข้าไปถึงป่าที่ดีที่สุดของมัน
25 ข้าได้ขุดบ่อน้ำไปทั่วในต่างแดน[d]และดื่มจากบ่อน้ำพวกนั้น
ข้าได้เหยียบย่ำน้ำในลำธารทั้งหลายของอียิปต์จนมันเหือดแห้งไป”
26 กษัตริย์ของอัสซีเรีย เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเรื่องที่เราได้กำหนดไว้นานมาแล้ว
เรื่องที่เราได้วางแผนตั้งแต่สมัยโบราณ
แล้วตอนนี้เรากำลังทำให้มันเกิดขึ้น
คือเราได้ให้เจ้าทำลายป้อมปราการของเมืองต่างๆให้กลายเป็นกองซากปรักหักพัง
27 ในขณะที่พลเมืองที่ขาดกำลังของเมืองเหล่านั้นกำลังตกใจกลัวและอับอาย
พวกเขาเป็นเหมือนพืชที่ท้องทุ่ง เป็นเหมือนหญ้าอ่อน
เป็นเหมือนหญ้าที่ขึ้นบนดาดฟ้า
และถูกเผาแห้งไปด้วยลมตะวันออก[e]
28 เรารู้แม้กระทั่งเวลาที่เจ้ายืนขึ้นหรือนั่งลง
เวลาที่เจ้าออกไปหรือเข้ามา
และเราก็รู้ตอนที่เจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา
29 เพราะเจ้าเกรี้ยวกราดใส่เรา เราได้ยินคำพูดที่หยิ่งยโสของเจ้า
อย่างนั้น เราจะเอาขอเกี่ยวจมูกของเจ้า เอาบังเหียนของเราใส่ปากเจ้า
และเราจะนำเจ้ากลับไปตามทางที่เจ้ามา’”
30 เฮเซคียาห์ นี่จะเป็นเรื่องที่พิสูจน์ว่าสิ่งที่เราพูดนี้จะเกิดขึ้นจริง คือในปีแรกนี้จะปลูกอะไรไม่ได้เลย ก็ให้กินข้าวที่งอกขึ้นมาเองก่อน ในปีที่สอง ก็ให้กินสิ่งที่เกิดขึ้นเองอีก ในปีที่สาม ก็ให้เจ้าหว่านข้าว และเก็บเกี่ยวมันและให้ปลูกสวนองุ่นและกินผลของมัน 31 คนในครอบครัวยูดาห์ที่ยังหลงเหลืออยู่ จะเป็นเหมือนต้นไม้หยั่งรากลงข้างล่างและออกผลขึ้นข้างบน 32 แล้วคนที่ยังเหลืออยู่ก็จะแผ่ขยายออกไปจากเยรูซาเล็ม คนที่ยังรอดชีวิตบางคนก็จะออกมาจากภูเขาศิโยน ความรักอันแรงกล้าของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ
33 แล้วนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูดเกี่ยวกับกษัตริย์อัสซีเรีย
“เขาจะไม่ได้เข้ามาในเมืองเยรูซาเล็ม
เขาจะไม่ได้ยิงธนูใส่เมืองนี้หรอก
เขาจะไม่ได้ถือโล่มาเผชิญหน้ากับเมืองนี้
เขาจะไม่ได้สร้างเนินดินบุกขึ้นกำแพง
34 เขาจะต้องกลับไปทางเดิมที่เขามา
เขาจะไม่ได้เข้าเมืองหรอกพระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนี้
35 เพราะเราจะป้องกันเมืองนี้ เพื่อให้มันรอด
เราจะทำสิ่งนี้เพื่อเห็นแก่เราเอง และเพื่อเห็นแก่ดาวิดคนรับใช้ของเรา”
กองทัพของอัสซีเรียถูกทำลาย
(2 พกษ. 19:35-37)
36 แล้วทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ก็ออกไป และฆ่าทหารในค่ายของอัสซีเรียไปหนึ่งแสนแปดหมื่นห้าพันคน เมื่อคนตื่นขึ้นในตอนเช้า ก็เห็นศพเกลื่อนกลาดไปหมด 37 ดังนั้นเซนนาเคอริบ กษัตริย์ของอัสซีเรียก็กลับบ้าน และไปอาศัยอยู่ที่นีนะเวห์
38 วันหนึ่ง ในขณะที่ท่านกำลังนมัสการอยู่ในวัดของนิสรคพระของท่านอยู่นั้น พวกลูกชายของท่านคืออัดรัมเมเลค และชาเรเซอร์ ก็ได้ฆ่าท่านด้วยดาบ และพวกเขาก็หนีไปที่แผ่นดินอารารัต แล้วลูกของท่านคือ เอสารฮัดโดน ก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอัสซีเรียแทนท่าน
เฮเซคียาห์ป่วย
(2 พกษ. 20:1-11; 2 พศด. 32:24-26)
38 ในช่วงนั้นเฮเซคียาห์ป่วยใกล้ตายแล้ว อิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าลูกชายของอามอสก็ได้มาหาท่านและพูดว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด ‘ให้สั่งเสียคนในครัวเรือนของเจ้าให้เรียบร้อย เพราะเจ้ากำลังจะตาย เจ้าจะไม่หายหรอก’”
2 แล้วเฮเซคียาห์ก็หันหน้าเข้าข้างฝา และอธิษฐานต่อพระยาห์เวห์ 3 ท่านพูดว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอได้โปรดอย่าลืมว่าข้าพเจ้านั้นได้รับใช้พระองค์อย่างสัตย์ซื่อด้วยสุดหัวใจของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้ทำในสิ่งที่พระองค์เห็นว่าดี” แล้วเฮเซคียาห์ก็ร้องห่มร้องไห้เสียงดัง
4 แล้วอิสยาห์ก็ได้รับข้อความจากพระยาห์เวห์ว่า 5 “ไปหาเฮเซคียาห์และบอกกับเขาว่า พระยาห์เวห์ พระเจ้าของดาวิดบรรพบุรุษของท่าน พูดว่าอย่างนี้ ‘เราได้ยินคำอธิษฐานของเจ้า และได้เห็นน้ำตาของเจ้า เราจะต่อชีวิตให้กับเจ้าอีกสิบห้าปี 6 เราจะช่วยกู้เจ้าและเมืองนี้ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของกษัตริย์อัสซีเรีย และเราก็จะป้องกันเมืองนี้ไว้’”
7 แล้วนี่จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้ท่านเห็นว่า พระยาห์เวห์จะทำในสิ่งที่พระองค์ได้บอก 8 พระยาห์เวห์พูดว่า “คอยดูนะ เราจะทำให้เงาที่ทอดยาวไปบนขั้นบันไดของอาหัส[f] ย้อนถอยหลังกลับไปสิบขั้น” แล้วเงาของดวงอาทิตย์ที่ได้ทอดยาวไปแล้วนั้น ก็ได้ถอยหลังกลับไปสิบขั้น
เฮเซคียาห์ขอบคุณพระยาห์เวห์
9 ต่อไปนี้คือสิ่งที่เฮเซคียาห์กษัตริย์ของยูดาห์เขียนขึ้นมา หลังจากที่ท่านป่วยและหายดีแล้ว
10 ตอนนั้นข้าพูดว่า “ในช่วงกลางคน ข้าจะต้องไปซะแล้ว
แล้วใช้วันปีที่เหลือข้างในประตูแห่งแดนผู้ตาย”
11 ตอนนั้นข้าพูดว่า “ข้าจะไม่ได้เห็นพระยาห์เวห์ในแดนของคนเป็นอีกแล้ว
ข้าจะไม่ได้เห็นคนหรืออยู่กับคนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้อีกต่อไปแล้ว
12 ชั่วชีวิตของข้าก็ถูกรื้อลงและเอาไปจากข้าเหมือนเต็นท์ของผู้เลี้ยงแกะ
ชีวิตของข้าถูกม้วนเก็บเหมือนกับคนทอผ้าม้วนผ้า
พระองค์ตัดข้าออกจากหูกทอผ้า
พระองค์จบชีวิตของข้าในวันเดียว
13 ข้าร้องขอความช่วยเหลือจนถึงเช้า
พระองค์หักกระดูกทั้งหมดของข้าเหมือนสิงโต
พระองค์จบชีวิตของข้าในวันเดียว
14 ข้าร้องเหมือนกับนกนางแอ่นและนกกระเรียน
ข้าร้องคร่ำครวญเหมือนนกเขา
ตาของข้าเมื่อยล้าจากการมองขึ้นไปบนสวรรค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าถูกกดขี่ข่มเหง ช่วยประกันตัวข้าออกไปด้วยเถิด
15 เมื่อพระเจ้าบอกว่าจะทำอะไร ข้าจะทำอะไรได้
และพระองค์เป็นผู้ทำมันเอง
ข้านอนไม่หลับ[g] เพราะความทุกข์ในใจ
16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ มนุษย์เราอยู่ได้เพราะสิ่งที่พระองค์พูดและทำ
สิ่งทั้งหมดนั้นทำให้ข้าพเจ้ามีชีวิต
ขอคืนสุขภาพที่แข็งแรงให้กับข้าพเจ้า
และให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยเถิด”
17 ดูเถอะ ที่ข้ามีความทุกข์มากนั้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อข้า
พระองค์ได้ไว้ชีวิตของข้าไม่ให้ตกลงไปในหลุมแห่งความพินาศ
พระองค์ได้เอาความบาปทั้งหมดของข้าเหวี่ยงทิ้งไปด้านหลังพระองค์
18 คนในแดนคนตายไม่สามารถขอบคุณพระองค์ได้
คนตายก็ไม่สามารถสรรเสริญพระองค์ได้
คนเหล่านั้นที่ลงไปยังหลุมก็ไม่สามารถหวังพึ่งในความสัตย์ซื่อของพระองค์ได้
19 มีแต่คนเป็น คนเป็นเท่านั้นที่ขอบคุณพระองค์ได้เหมือนกับที่ข้าพเจ้าทำในวันนี้
พวกพ่อจะสอนลูกๆของเขาเกี่ยวกับความสัตย์ซื่อของพระองค์
20 พระยาห์เวห์พร้อมที่จะช่วยกู้ข้าพเจ้าเสมอ
ดังนั้น พวกเราจะเล่นเครื่องสายตลอดชีวิตของพวกเราที่วิหารของพระยาห์เวห์
21 อิสยาห์ได้บอกพวกคนรับใช้ของกษัตริย์เฮเซคียาห์ว่า “ให้เอามะเดื่อมาอัดกันเป็นก้อนแล้วโปะเข้าไปที่แผลเปื่อยของเขา แล้วเขาก็จะหาย” 22 เฮเซคียาห์ถามอิสยาห์ว่า “จะมีอะไรพิสูจน์ว่าข้าพเจ้าจะได้ขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์อีก”[h]
พวกทูตจากบาบิโลน
(2 พกษ. 20:12-19)
39 หลังจากนั้นไม่นาน กษัตริย์เมโรดัคบาลาดัน[i] ลูกชายของบาลาดันแห่งบาบิโลนได้ส่งพวกทูตถือพวกจดหมายและของขวัญมาให้กับเฮเซคียาห์ เพราะเมโรดัคบาลาดันได้ยินข่าวว่าเฮเซคียาห์ป่วยและตอนนี้หายดีแล้ว 2 เฮเซคียาห์ได้ต้อนรับพวกทูตเหล่านั้น และพาพวกเขาไปดูคลังสมบัติของเขา ทั้งเงินทองและเครื่องเทศต่างๆรวมทั้งน้ำมันที่มีค่า คลังอาวุธทั้งหมด และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในพวกคลังเก็บของ เฮเซคียาห์พาพวกเขาไปดูทุกซอกทุกมุมของวังและทั่วราชอาณาจักรของเขา
3 แล้วอิสยาห์ผู้พูดแทนพระเจ้า ก็ได้มาหากษัตริย์เฮเซคียาห์ และพูดกับเขาว่า “คนพวกนี้มาพูดอะไร และพวกเขามาหาท่านจากที่ไหนกัน”
เฮเซคียาห์ตอบว่า “พวกเขามาหาข้าจากแดนไกลโน้น มาจากบาบิโลน”
4 อิสยาห์ถามอีกว่า “พวกเขาเห็นอะไรบ้างในวังของท่าน”
เฮเซคียาห์ตอบว่า “พวกเขาเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในวังของข้า ไม่มีอะไรเลยในพวกคลังเก็บของของข้า ที่ข้าไม่ได้ให้พวกเขาดู”
5 แล้วอิสยาห์ก็บอกกับเฮเซคียาห์ว่า “ฟังให้ดี นี่คือข่าวสารจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น 6 เวลานั้นกำลังจะมาถึง ที่ทุกสิ่งทุกอย่างในวังของท่าน รวมทั้งทุกสิ่งที่บรรพบุรุษของท่านได้เก็บสะสมมาให้จนถึงทุกวันนี้ จะถูกขนย้ายไปที่บาบิโลน จะไม่มีอะไรเหลือเลย พระยาห์เวห์พูดไว้ว่าอย่างนั้น 7 พวกเขาจะเอาลูกๆของท่านบางคนไป พวกลูกชายของท่านเอง พวกเขาจะกลายเป็นพวกขันทีในวังของกษัตริย์บาบิโลน”
8 แล้วเฮเซคียาห์ก็พูดกับอิสยาห์ว่า “ข่าวสารของพระยาห์เวห์ที่ท่านพูดมานั้นดี” เพราะเขาคิดว่า “ในช่วงสมัยของข้า จะมีสันติสุขและความมั่นคงปลอดภัย”
พระเจ้าผู้น่าเกรงขาม
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ใช้เครื่องดนตรีประกอบ เพลงสดุดีของอาสาฟ
1 ในยูดาห์ พระเจ้าเป็นที่รู้จักกันทั่ว
ในอิสราเอล ชื่อของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่
2 ที่พัก[a] ของพระองค์อยู่ในเมืองซาเล็ม[b]
ส่วนที่ประทับของพระองค์อยู่บนภูเขาศิโยน
3 ที่นั่น พระองค์ได้หักลูกธนูไฟ
โล่กำบังและดาบของศัตรูที่ใช้รบจนหมดสิ้น เซลาห์
4 พระองค์ส่องรัศมีเจิดจ้า
และมีบารมีสูงส่งยิ่งกว่าภูเขาที่พระองค์ได้ฆ่าเหยื่อของพระองค์[c]
5 ทหารที่มีใจกล้าหาญเหล่านั้นถูกยึดของไปในขณะที่นอนตายอยู่
นักรบพวกนั้นไม่สามารถยกมือขึ้นมาปกป้องตัวเองได้อีกแล้ว
6 ข้าแต่พระเจ้าแห่งยาโคบเมื่อพระองค์ออกคำสั่งให้บุก
ทั้งม้าและคนขี่รถรบของศัตรูก็ล้มตายเหมือนกับหลับไป
7 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ช่างน่าเกรงขาม
ไม่มีใครสามารถยืนหยัดอยู่ต่อหน้าพระองค์ได้ตอนที่พระองค์โกรธเกรี้ยว
8-9 พระองค์ประกาศคำพิพากษาของพระองค์จากฟ้าสวรรค์ตอนที่พระเจ้ายืนขึ้นมาพิพากษา
เพื่อช่วยเหลือคนยากจนทุกคนในแผ่นดินโลกให้รอด
แผ่นดินโลกก็เงียบกริบด้วยความกลัว เซลาห์
10 แน่นอน ความเกรี้ยวโกรธของพระองค์ต่อมนุษย์ทำให้มนุษย์สรรเสริญพระองค์
คนเหล่านั้นที่รอดพ้นจากความเกรี้ยวโกรธของพระองค์ถูกยับยั้งไว้จากความชั่ว
11 ให้บนบานและแก้บนทั้งหลายนั้นที่ได้ทำไว้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้า
ขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนนำของขวัญมาให้พระองค์ผู้น่าเกรงขาม
12 พระเจ้าเป็นผู้ที่ทำให้จิตใจของพวกผู้นำถ่อมลง
กษัตริย์ทั้งหลายบนแผ่นดินโลกยำเกรงพระองค์
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International