Chronological
คำเตือนมายังอิสราเอลเหนือ
28 เฮ้ย ดูเมืองสะมาเรียซิ
เป็นมงกุฎดอกไม้ที่พวกขี้เมาของเอฟราอิม ภูมิใจนักหนา
เป็นดอกไม้ที่สวยงามที่กำลังจะเหี่ยวแห้งไป
ที่อยู่บนเนินเขาเหนือหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์
ที่อยู่บนหัวของคนที่โดนเหล้าองุ่นมอมล้มไป
2 ดูสิ องค์เจ้าชีวิตมีคนหนึ่งที่มีพลังและเข้มแข็ง[a]
เขาจะมาอย่างกับพายุลูกเห็บหรือพายุที่ทำลาย
เขาจะมาอย่างกับพายุที่นำน้ำมาท่วมท้นอย่างบ้าคลั่ง
เขาจะโยนมงกุฎนั้นซึ่งคือสะมาเรียลงกับพื้นด้วยมือของเขาเอง[b]
3 มงกุฎดอกไม้ที่พวกขี้เมาของเอฟราอิมภูมิใจนักหนานั้น
จะถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้า
4 ดอกไม้อันสวยงามที่กำลังจะเหี่ยวแห้งนั้น
ที่อยู่บนเนินเขาเหนือหุบเขาอันอุดมสมบูรณ์
จะเป็นเหมือนลูกมะเดื่อที่สุกชุดแรกก่อนหน้าร้อนจะมาถึง
ที่ใครเห็นเข้า ก็จะรีบเด็ดมากินทันที
5 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะเป็นเหมือนกับมงกุฎดอกไม้ที่มีสง่าราศี
จะเป็นเหมือนมงกุฎดอกไม้ที่สวยงามสำหรับคนของพระองค์ที่ยังเหลืออยู่
6 และพระองค์จะมอบวิญญาณแห่งความยุติธรรมให้กับคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พิพากษา
และพระองค์จะมอบพละกำลังให้กับคนเหล่านั้นที่หันการสู้รบให้พ้นไปจากประตูเมือง
พวกผู้นำยูดาห์ที่ไม่ได้เรื่องจะถูกลงโทษ
7 และคนพวกนี้ก็จะโซซัดโซเซไปเพราะเหล้าองุ่นและส่ายไปส่ายมาด้วยเบียร์
พวกนักบวช และพวกผู้พูดแทนพระเจ้าก็โซซัดโซเซไปเพราะเบียร์
พวกเขาก็มึนตื้อไปหมดเพราะเหล้าองุ่น
พวกเขาเดินส่ายไปส่ายมาเพราะเบียร์
พวกเขาเมาเหล้าตอนที่เห็นนิมิตต่างๆ
พวกผู้พิพากษาก็เมาหัวคะมำตอนตัดสินคดีต่างๆ
8 ทุกๆโต๊ะเลอะไปด้วยอ้วกเหม็นๆ
ไม่มีที่ไหนสะอาดเลย
9 คนหนึ่งในพวกเขาพูดว่า “ไอ้หมอนี่มันคิดว่ามันกำลังสอนใครอยู่หรือ มันคิดว่ามันกำลังอธิบายเรื่องนั้นให้ใครฟังหรือ มันคิดว่ากำลังสอนเด็กที่เพิ่งหย่านมหรือ มันคิดว่ากำลังสอนทารกที่เพิ่งแยกจากอกแม่หรือ 10 มันพูดอ้อแอ้ซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนพูดกับเด็กว่า
ซอ ราซอ ซอ ราซอ
คอ ราคอ คอ ราคอ
ซีเออร์แชม ซีเออร์แชม”[c]
11 อย่างนั้นแหละ พระยาห์เวห์จะพูดกับชนชาตินี้ด้วยเสียงพูดแปลกๆและภาษาของคนต่างชาติ
12 ในอดีต พระเจ้าพูดกับคนพวกนั้นว่า “ที่นี่เป็นที่ปลอดภัย ขอให้คนที่เหน็ดเหนื่อยมาพักที่นี่ ที่นี่เป็นที่ปลอดภัย” แต่พวกเขาไม่ยอมฟังพระองค์ 13 ดังนั้น เมื่อคนต่างชาติบุกเข้ามา เมื่อนั้นแหละข่าวสารจากพระยาห์เวห์ก็จะเป็นเหมือนเสียงพูดอ้อแอ้กับพวกเขา ที่ว่า
“ซอ ราซอ ซอ ราซอ
คอ ราคอ คอ ราคอ
ซีเออร์แชม ซีเออร์แชม”
แล้วพวกเขาจะไป และล้มหงายหลัง ได้รับบาดเจ็บ ติดกับ และถูกจับไปเป็นเชลย
ถึงเป็นพันธมิตรกับต่างชาติก็หนีไม่พ้นโทษจากพระยาห์เวห์
14 ดังนั้น พวกเจ้าที่เย่อหยิ่งจองหองที่ปกครองคนพวกนี้ในเยรูซาเล็ม
ให้ฟังถ้อยคำของพระยาห์เวห์ให้ดี
15 เพราะพวกเจ้าพูดว่า “พวกเรากับความตายได้ทำสัญญากัน
พวกเราได้ทำข้อตกลงไว้กับแดนคนตาย
เพื่อว่าเมื่อการลงโทษอย่างรุนแรงผ่านมา มันจะไม่ถึงตัวเรา
เพราะเราได้เอาคำโกหกต่างๆเป็นที่หลบภัยและเราได้หลบซ่อนอยู่หลังความเท็จ”
16 ดังนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดอย่างนี้ว่า
“ดูไว้ เราจะวางหินไว้เป็นรากฐานในศิโยน
เป็นหินที่ผ่านการทดสอบมาแล้ว เป็นหินหัวมุมที่มีค่า เป็นรากฐานที่มั่นคง
‘คนที่ไว้วางใจ จะไม่อกสั่นขวัญแขวน’[d]
17 เราจะใช้ความยุติธรรมเป็นสายวัด
ใช้ความถูกต้องเป็นลูกดิ่ง
ลูกเห็บจะกวาดที่หลบภัยแห่งการโกหกนั้น
และน้ำก็จะท่วมที่หลบซ่อนนั้นเสีย
18 และคำสัญญาที่พวกเจ้าและความตายทำร่วมกันก็จะถูกยกเลิกไป
และข้อตกลงที่เจ้าทำไว้กับแดนคนตายจะล้มเลิกไป
และเมื่อการลงโทษอย่างรุนแรงผ่านมา
เจ้าก็จะถูกมันเหยียบย่ำ
19 ไม่ว่าการลงโทษนั้นผ่านมากี่ครั้งก็ตาม มันก็จะจัดการกับพวกเจ้าทุกที
มันจะผ่านมาเช้าแล้วเช้าเล่า
มันจะผ่านมาทั้งกลางวันทั้งกลางคืน
เมื่อเจ้าเข้าใจข่าวนี้ เจ้าจะต้องขวัญหนีดีฝ่อ
20 ตามสุภาษิตที่ว่า ‘เตียงสั้นเกินไปที่จะยืดตัวได้
และผ้าห่มก็แคบเกินไปที่จะห่อตัวได้’”
21 เพราะพระยาห์เวห์จะลุกขึ้นมาต่อสู้เหมือนกับที่พระองค์ทำที่ภูเขาเปริซิม[e]
พระองค์จะเดือดดาลเหมือนกับที่พระองค์เดือดดาลที่หุบเขากิเบโอน
แล้วพระองค์จะจัดการกับเจ้าแบบที่เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน
แล้วพระองค์จะทำงานที่จำเป็นจะต้องทำนั้นถึงแม้ว่ามันจะดูแปลกในสายตาเจ้า
22 และตอนนี้ พวกเจ้าอย่าได้หัวเราะเยาะเรื่องพวกนี้
ไม่อย่างนั้นเชือกที่ผูกมัดรอบตัวเจ้าจะยิ่งแน่นขึ้น
เพราะผมได้ยินว่า พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ได้ออกคำสั่งให้ทำลายแผ่นดินนี้ทั้งหมด
พระยาห์เวห์วางแผนอย่างฉลาดและลงโทษอย่างยุติธรรม
23 ฟังให้ดี ฟังเสียงผม
ให้ความสนใจกับเรื่องนี้ ตั้งใจฟังสิ่งที่ผมจะพูดให้ดี
24 คนที่ไถนาเพื่อหว่านนั้น เขาไถไปเรื่อยๆโดยไม่หว่านสักทีเลยหรือ
พวกเขาเบิกหน้าดินและลงคราดไปเรื่อยๆโดยไม่ปลูกสักทีเลยหรือ
25 เมื่อเขาปรับหน้าดินแล้ว
เขาจะไม่โปรยเมล็ดผักชีฝรั่งและหว่านยี่หร่าลงไปหรือ
เขาจะไม่ปลูกข้าวสาลีเป็นแถวๆและข้าวบาร์เลย์ในที่ของมันหรือ
เขาจะไม่ปลูกข้าวสแปลต์ล้อมรอบทุ่งนาหรือ
26 พระเจ้าของพวกเขาก็ได้สอนพวกเขา
พวกเขาก็เลยรู้วิธีทำงานของเขา
27 ชาวนาไม่ใช้เลื่อนนวดข้าวมานวดเมล็ดผักชีเล็กๆหรอก
หรือใช้ล้อเกวียนมากลิ้งทับเมล็ดยี่หร่าเล็กๆหรอก
แต่เขาจะเอาไม้เล็กๆมาตีเมล็ดผักชีให้มันแตก
และใช้ไม้ตะบองเล็กๆตีเมล็ดยี่หร่าให้แตกออก
28 เมล็ดข้าวเขาเอามาบดทำขนมปังกัน
จะไม่มีใครโง่นวดมันตลอดไปเรื่อยๆหรอก
ถ้าคนเอาเกวียนเทียมม้ามานวดเมล็ดข้าว
เขาก็ไม่นวดไปเรื่อยๆจนมันบี้เป็นผงหรอก[f]
29 ความรู้นี้ก็มาจากพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นด้วยเหมือนกัน
พระองค์ให้คำแนะนำที่ยอดเยี่ยมและพระองค์ก็ให้ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
พระเจ้าโจมตีเยรูซาเล็มและช่วยกู้เยรูซาเล็ม
29 เฮ้ย อารีเอล[g] อารีเอล
เมืองที่ดาวิดตั้งค่ายอยู่
ขอให้ผ่านไปอีกปีสองปี
ขอให้เทศกาลประจำปีมาถึงอีกรอบ
2 หลังจากนั้นเราจะส่งความหายนะมาสู่อารีเอล
แล้วต่อจากนั้นก็จะมีความเศร้าโศกเสียใจและร้องไห้
และเมืองนั้นจะเป็นเหมือนแท่นบูชาสำหรับเรา
3 เราจะให้ศัตรูมาตั้งค่ายรายล้อมเจ้า
เราจะล้อมเจ้าด้วยหอคอยโจมตีเคลื่อนที่และเราจะสร้างเนินดินไว้บุกขึ้นโจมตีเจ้า
4 เจ้าจะถูกกดให้ต่ำลงและเจ้าจะพูดขึ้นมาจากโลกใต้ดิน
เจ้าจะส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอจากผงดิน
เสียงของเจ้าจะมาจากพื้นดินเหมือนเสียงผี
และเจ้าก็จะกระซิบออกมาจากผงดิน
5 แต่ศัตรูที่มากมายของเจ้าจะกลายเป็นเหมือนผงฝุ่นที่ละเอียด
พวกที่กดขี่ข่มเหงมากมายจะเป็นเหมือนแกลบที่ปลิวไป
สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นในทันทีทันใดในชั่วพริบตาเดียว
6 พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะมาพร้อมกับเสียงฟ้าร้อง แผ่นดินไหวและเสียงดังสนั่นหวั่นไหวด้วยพายุ
ลมแรงและเปลวไฟที่เผาผลาญ
7 แม้ว่ามีชนชาติมากมายที่มาต่อสู้กับอารีเอล คือมาต่อสู้กับเขา
และป้อมปราการของเขาและสร้างปัญหาให้กับเขา
พวกนั้นก็จะหายไปเหมือนฝัน เหมือนนิมิตในตอนกลางคืน
8 คนหิว ฝันว่าได้กิน แต่พอตื่นขึ้นก็ยังหิวอยู่
คนที่กระหายน้ำ ฝันว่าได้ดื่มน้ำแล้ว แต่พอตื่นขึ้นมาก็ยังอ่อนเพลียและคอแห้งผากอยู่
มันจะเป็นอย่างนั้นกับชนชาติมากมายที่มาต่อสู้กับภูเขาศิโยน
ที่ฝันว่ายึดเยรูซาเล็มได้แล้ว แต่มันจะไม่เป็นไปตามฝันนั้น
ยูดาห์ตาบอด
9 เชิญเลย เชิญงงและตะลึงงันไปได้เลย
ทำตัวเองให้บอด และบอดต่อไปซะ[h]
ให้เมาแต่ไม่ใช่จากเหล้าองุ่นนะ
เดินโซซัดโซเซ แต่ไม่ใช่เพราะดื่มเบียร์
10 พระยาห์เวห์ได้ทำให้เจ้านอนหลับสนิท
พระองค์ได้ปิดตาของเจ้าคือพวกผู้พูดแทนพระเจ้า
พระองค์ได้ครอบหัวของเจ้าคือพวกผู้ที่เห็นนิมิต
11 และสำหรับพวกเจ้านิมิตเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเหมือนคำเขียนต่างๆในหนังสือม้วนที่ปิดผนึกไว้ ถ้าเอาไปให้กับคนที่อ่านหนังสือเป็น และสั่งเขาว่า “อ่านเรื่องนี้ซิ” เขาจะตอบว่า “ข้าอ่านไม่ได้เพราะมันปิดผนึกไว้” 12 ถ้าเอาไปให้คนที่อ่านหนังสือไม่เป็น และบอกเขาว่า “อ่านเรื่องนี้ซิ” เขาจะตอบว่า “ข้าอ่านหนังสือไม่ออก”
13 องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
“คนพวกนี้เข้ามาใกล้เราด้วยปากของเขาเท่านั้น พวกเขาให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากเท่านั้น
แต่หัวใจของพวกเขาห่างไกลจากเรา
และที่พวกเขามานมัสการเรานั้นก็เป็นแค่ทำตามกฎของมนุษย์ที่ท่องจำกันมาเท่านั้น
14 ดังนั้น ดูไว้นะ เราจะทำสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆกับคนพวกนี้
สิ่งที่น่าตกใจและมหัศจรรย์
สติปัญญาของคนฉลาดก็จะสูญสิ้นไป
และความเข้าใจของคนที่เข้าใจก็จะถูกบังซ่อนไป”
15 เฮ้ย ไอ้พวกที่พยายามเก็บซ่อนแผนของเจ้าไว้ลึกเพื่อไม่ให้พระยาห์เวห์เห็น
ไอ้พวกที่แอบทำสิ่งต่างๆในความมืด
และพูดว่า “ไม่มีใครเห็นเราหรอก ไม่มีใครรู้หรอก”
16 เจ้าเข้าใจผิดกลับหัวกลับหางกันไปหมด
เจ้ามองว่าช่างปั้นหม้อเป็นดินเหนียวหรือ
สิ่งที่ถูกสร้างจะพูดถึงผู้ที่สร้างมันว่า
“เขาไม่ได้สร้างฉันซะหน่อย” ได้หรือ
สิ่งที่ถูกปั้นจะพูดถึงผู้ที่ปั้นมันว่า
“เขาไม่มีความเข้าใจอะไรเลย” ได้หรือ
อนาคตที่สดใสกำลังจะมา
17 เจ้าไม่รู้หรือว่า อีกไม่นานเลบานอนจะกลายเป็นสวนผลไม้
และสวนผลไม้ก็จะมีมากมายเหมือนผืนป่า
18 ในเวลานั้นคนหูหนวกจะได้ยินคำพูดต่างๆจากหนังสือได้
และคนตาบอดจะหลุดพ้นจากความมืดสลัวของพวกเขาและมองเห็นได้
19 คนยากจนก็จะชื่นชมยินดีอีกครั้งในพระยาห์เวห์
และคนที่ขัดสนที่สุดก็จะร่าเริงในองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอล
20 เพราะจะไม่มีผู้นำที่โหดร้ายอีกต่อไป
คนที่เย่อหยิ่งจองหองก็จะหมดไป
และคนพวกนั้นที่จ้องหาโอกาสทำชั่วก็จะถูกกำจัดไป
21 คือคนพวกนั้นที่ชอบกล่าวหาคนอื่นอย่างผิดๆ
และวางหลุมพรางให้กับผู้พิพากษาที่ประตูเมือง
และใช้ลมปากไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้บริสุทธิ์
22 ดังนั้น พระยาห์เวห์ ผู้ที่ช่วยกู้อับราฮัม ได้พูดสิ่งนี้กับครอบครัวของยาโคบว่า
“ยาโคบจะไม่ต้องอับอายขายหน้าอีกต่อไป
และหน้าของเขาก็จะไม่ต้องซีดอีกต่อไป
23 เมื่อพวกเขาเห็นลูกหลานของพวกเขาท่ามกลางพวกเขาซึ่งเป็นผลงานจากมือของเรา
พวกเขาจะถือว่าชื่อของเรานั้นศักดิ์สิทธิ์
พวกเขาจะเห็นด้วยกันว่าองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของยาโคบนั้นศักดิ์สิทธิ์จริง
และพวกเขาก็จะเคารพยำเกรงพระเจ้าของอิสราเอล
24 คนที่ชอบทำผิด ก็จะกลับมามีความเข้าใจ
และพวกคนขี้บ่น ก็จะกลับมายอมรับคำสั่งสอน”
ยูดาห์ควรไว้วางใจในพระเจ้าไม่ใช่ไว้วางใจในอียิปต์
30 พระยาห์เวห์พูดว่า “เฮ้ย ไอ้พวกลูกหลานที่ดื้อดึง
ไอ้พวกที่ทำตามแผน แต่ไม่ใช่แผนของเรา
ไอ้พวกที่ไปทำสนธิสัญญา ทั้งๆที่เราไม่ได้บอกให้เจ้าทำ
ไอ้พวกที่ทำบาปซ้ำแล้วซ้ำอีก
2 ไอ้พวกที่เดินทางไปอียิปต์โดยไม่ได้ขอคำแนะนำจากเรา
แล้วไปขอให้ฟาโรห์ปกป้อง
และไปหาที่พักพิงภายใต้ร่มเงาของอียิปต์นั้น
3 การคุ้มครองของฟาโรห์นั้นจะกลายเป็นความอับอายของพวกเจ้า
และที่พักพิงภายใต้ร่มเงาของอียิปต์นั้นจะกลายเป็นความอัปยศของเจ้า
4 ถึงแม้พวกข้าราชการของเจ้าจะอยู่ที่โศอัน[i]
และพวกตัวแทนของเจ้าได้ไปถึงเมืองฮาเนสแล้ว
5 แต่ทุกคนจะได้รับความอับอายเพราะชนชาตินั้นจะช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย
อียิปต์จะไม่เป็นประโยชน์หรือช่วยอะไรเจ้าได้เลย มีแต่จะนำความอับอายขายหน้าและความอัปยศอดสูมาให้เท่านั้น”
ส่งส่วยไปให้อียิปต์ไม่ช่วยอะไรได้เลย
6 นี่เป็นข่าวสารที่เกี่ยวกับพวกสัตว์ในแถบเนเกบ
ในแผ่นดินที่มีแต่ปัญหาและอันตราย
คือแผ่นดินที่เต็มไปด้วยสิงโตตัวเมียและตัวผู้
เต็มไปด้วยงูพิษ และงูที่โฉบบิน
พวกเขาบรรทุกทรัพย์สมบัติของพวกเขาบนหลังลา
และบรรทุกทรัพย์สินของพวกเขาบนโหนกพวกอูฐ
เดินทางไปหาชนชาติที่ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้
7 อียิปต์นั้นไม่มีประโยชน์และการช่วยเหลือของเธอนั้นไร้ค่า
เราถึงเรียกหล่อนว่า “พญานาคที่เอาแต่นั่ง”[j]
คำจารึกเพื่อให้คนในอนาคตเห็นว่าพระเจ้าได้เตือนแล้ว
8 ไปตอนนี้เลย ไปจารึกเรื่องนี้ลงบนแผ่นหินต่อหน้าพวกเขา
ให้เขียนเรื่องนี้ไว้บนหนังสือม้วน
เพื่อในอนาคตมันจะได้เป็นพยานต่อว่าพวกเขาไปตลอด
9 เพราะพวกเขาเป็นชนชาติที่ชอบกบฏ
พวกเขาเป็นลูกจอมโกหก
เป็นเด็กที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนของพระยาห์เวห์
10 พวกเขาพูดกับพวกผู้ที่เห็นนิมิตว่า “หยุดมองได้แล้ว”
และพูดกับพวกผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “ไม่ต้องเอานิมิตพวกนั้นมาสอนพวกเราหรอกว่าอะไรถูกต้อง
ให้พูดกับเราในสิ่งที่รื่นหูดีกว่าและเล่านิมิตปลอมๆให้กับพวกเราฟัง
11 เปลี่ยนเรื่องได้แล้ว หันไปจากทางเก่าๆนั้นได้แล้ว
พวกเราไม่อยากจะฟังแล้วเรื่องผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลนั้น”
12 เพราะอย่างนั้น องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล
จึงพูดอย่างนี้ว่า
“เพราะพวกเจ้าไม่ยอมรับข่าวสารนี้แต่กลับไปไว้วางใจในความโหดร้ายและการหลอกลวงและไปพึ่งในสิ่งเหล่านั้น
13 ดังนั้น ความผิดนี้ของเจ้าจะเป็นเหมือนรอยแตกในกำแพงสูงที่ปริออกมาใกล้จะพังแล้ว
และมันจะพังลงมาทันทีในชั่วพริบตา
14 มันจะแตกเหมือนกับหม้อดินที่แตกออกเป็นชิ้นๆ
จนไม่เหลือสักชิ้นที่ใหญ่พอจะเอาไปใส่ถ่านไฟร้อนๆจากเตา
หรือใช้ตักน้ำจากบ่อเก็บน้ำ”
15 เพราะนี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอลได้พูดไว้
“ถ้าพวกเจ้ากลับมาหาเราและพักพิงในเรา พวกเจ้าก็จะรอด
ถ้าพวกเจ้าจะใจเย็นๆและไว้วางใจในเรา พวกเจ้าก็จะมีพลัง
แต่พวกเจ้ากลับไม่ยอมทำอย่างนั้น”
16 พวกเจ้าบอกว่า “ไม่เอา พวกเราจะควบม้าหนีไป”
เพราะอย่างนั้น พวกเจ้าก็จะต้องหนีจริงๆซะแล้ว
และเจ้ายังพูดอีกว่า “พวกเราจะขี่ม้าที่วิ่งเร็วหนีไป”
เพราะอย่างนั้น เราจะให้คนไล่กวดเจ้าเร็วกว่าเจ้าอีก
17 พวกเจ้าพันคนจะหนีเพราะคำขู่ของคนๆเดียว
คำขู่ของห้าคนจะทำให้พวกเจ้าหนีไปหมด
จนกว่าพวกเจ้าจะถูกทิ้งให้เหลือตัวคนเดียว
เหมือนกับเสาธงที่ปักอยู่บนยอดเขา
เหมือนกับธงให้สัญญาณบนเนินเขา
พระเจ้าจะมาช่วยคนของพระองค์
18 อย่างนั้น พระยาห์เวห์กำลังเฝ้าคอยให้พวกเจ้ากลับมาหาพระองค์เพื่อพระองค์จะได้อวยพรเจ้า
พระองค์จะลุกขึ้นมาแสดงความเมตตากับพวกเจ้า
เพราะพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อยุติธรรม
พวกที่อดทนรอคอยพระองค์ถือว่าเป็นเกียรติจริงๆ
19 ชาวเมืองศิโยนเอ๋ย คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเอ๋ย ใช่แล้ว พวกเจ้าจะไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป พระองค์จะมาปลอบโยนเจ้าอย่างแน่นอน เมื่อพระองค์ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเจ้า พระองค์ก็จะมาช่วยเจ้าทันที 20 ถึงองค์เจ้าชีวิตจะให้เจ้ากินความทุกข์ยากลำบากอย่างกับอาหาร และดื่มความทุกข์ทรมานอย่างกับน้ำ แต่พระองค์ผู้เป็นครูของเจ้าก็จะไม่หลบซ่อนตัวเองอีกต่อไป และเจ้าจะได้เห็นครูของเจ้ากับตาตัวเอง 21 เมื่อพวกเจ้าหันไปทางขวาหรือหันทางซ้าย หูของเจ้าก็จะได้ยินเสียงข้างหลังเจ้าว่า “ทางอยู่นี่ เดินทางนี้สิ” 22 แล้วพวกเจ้าจะทำให้พวกรูปเคารพที่เคลือบเงินเคลือบทองของพวกเจ้าเสื่อมไป และพวกเจ้าจะเอาพวกมันไปทิ้งเหมือนทิ้งผ้าอนามัยเปื้อนเลือด และพูดกับมันว่า “ไปให้พ้น”
23 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะให้ฝนตกลงมาบนเมล็ดพืชที่เจ้าได้หว่านไปในดิน พระองค์จะให้อาหารซึ่งเป็นผลผลิตจากพื้นดิน และมันก็จะมีมากมายเหลือเฟือ และในเวลานั้นฝูงสัตว์เลี้ยงของเจ้าก็จะได้เล็มหญ้าในทุ่งกว้าง 24 พวกวัวตัวผู้และลาที่ทำไร่ไถนาอยู่นั้น ก็จะได้กินฟางอย่างดีที่ใช้พลั่วและสามง่ามทำให้มันกระจัดกระจายไป 25 บนภูเขาสูงทุกลูก และบนเนินเขาทุกแห่ง ก็จะมีลำธารน้ำไหล สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันที่ศัตรูถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก และพวกป้อมปราการของศัตรูพังทลายลงมา
26 ในเวลานั้น แสงของดวงจันทร์ก็จะเป็นเหมือนแสงอาทิตย์ และแสงของดวงอาทิตย์ก็จะสว่างขึ้นอีกเจ็ดเท่า เหมือนกับแสงของเจ็ดวัน สิ่งนี้จะเกิดขึ้นในวันที่พระยาห์เวห์ได้ดามกระดูกที่หักของคนของพระองค์ และได้รักษาบาดแผลที่พระองค์ทำให้เกิดขึ้น
อัสซีเรียจะพ่ายแพ้
27 ดูสิ พระยาห์เวห์เองกำลังมาแต่ไกล
ด้วยความโกรธที่เผาผลาญของพระองค์และด้วยควันหนาทึบ[k]
ริมฝีปากของพระองค์เต็มไปด้วยความโกรธ
และลิ้นของพระองค์ก็เหมือนกับไฟที่เผาผลาญอยู่
28 ลมปากของพระองค์เป็นเหมือนแม่น้ำที่ไหลท่วมท้นสูงถึงคอ
พระองค์จะเอาตะแกรงแห่งการทำลายมาร่อนชนชาติต่างๆ
และพระองค์จะเอาบังเหียนมาใส่เข้าที่ปากของชนชาติทั้งหลายเพื่อนำพวกเขาให้พินาศไป
29 แล้วพวกเจ้าจะร้องเพลงหนึ่งเหมือนกับร้องในคืนที่มีเทศกาลทางศาสนาและพวกเจ้าก็จะมีความสุขในใจเหมือนคนที่กำลังเดินตามเสียงขลุ่ยขึ้นไปที่ภูเขาของพระยาห์เวห์ ผู้เป็นศิลาลี้ภัยแห่งอิสราเอล 30 และพระยาห์เวห์จะทำให้ทุกคนได้ยินเสียงอันดังสนั่นหวั่นไหวของพระองค์ และเห็นแขนอันทรงพลังของพระองค์ฟาดลงมาด้วยความโกรธแค้น และด้วยเปลวไฟแห่งการเผาผลาญ พระองค์จะมาอย่างกับเสียงพายุฟ้าคะนอง มีทั้งฝนและลูกเห็บ 31 อัสซีเรียจะเกิดขวัญผวาเมื่อได้ยินเสียงจากพระยาห์เวห์ เมื่อพระองค์ตีด้วยไม้กระบองของพระองค์ 32 แต่ละจังหวะที่พระองค์หวดไม้กระบองลงโทษอัสซีเรียนั้น จะเข้ากับจังหวะของเสียงกลองและพิณ พระองค์จะกวัดแกว่งอาวุธของ พระองค์เพื่อต่อสู้กับพวกเขา 33 พระองค์ได้เตรียมที่เผาศพพวกเขาไว้แล้ว ใช่แล้ว พระองค์ได้เตรียมไว้สำหรับกษัตริย์ของพวกเขา หลุมนั้นลึกและกว้าง มีไฟกับฟืนอย่างเหลือเฟือ แล้วพระองค์จะจุดมันด้วยลมปากของพระยาห์เวห์ที่เป็นเหมือนลำธารไฟกำมะถัน
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International