Chronological
ข่าวสารของพระเจ้าเกี่ยวกับเมืองไทระและดินแดนฟีนีเซีย
23 นี่คือข่าวสารเกี่ยวกับเมืองไทระ
เรือบรรทุกทั้งหลายของทารชิช เอ๋ย
ร้องไห้คร่ำครวญซะ
เพราะท่าจอดเรือของเจ้าถูกทำลายหมดแล้ว
พวกเขาได้ข่าวเรื่องนี้ในระหว่างที่มาจากแผ่นดินไซปรัส
2 พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่ง คร่ำครวญซะ
พ่อค้าของเมืองไซดอนเคยข้ามน้ำข้ามทะเลมาทำให้เจ้าร่ำรวย
3 ข้าวสาลีแห่งเมืองชิโหร์ในแถบลุ่มแม่น้ำไนล์ส่งมาทางเรือผ่านทะเลอันกว้างใหญ่
รายได้ของเมืองไทระมาจากการเก็บเกี่ยวจากแถบลุ่มแม่น้ำไนล์
และไทระก็ได้กลายเป็นตลาดการค้าของชนชาติต่างๆ
4 ไซดอนเอ๋ย เจ้าควรจะอับอาย
ป้อมปราการของทะเลเอ๋ย
ทะเลได้พูดกับเจ้าว่า
“ข้าไม่เคยเจ็บปวดคลอดลูก ข้าไม่เคยคลอดลูก
ข้าไม่เคยเลี้ยงลูกจนเป็นหนุ่ม ข้าไม่เคยเลี้ยงลูกจนเป็นสาว”
5 เมื่อข่าวพวกนั้นมาถึงอียิปต์
พวกเขาจะเป็นทุกข์เพราะข่าวที่เกี่ยวกับเมืองไทระนั้น
6 พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล
ให้ร้องไห้คร่ำครวญและให้ขึ้นเรือหนีไปเมืองทารชิชเถิด
7 นี่หรือเมืองไทระที่เคยเป็นเมืองที่พวกเจ้าภูมิใจนักหนาซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาช้านานแล้ว
เป็นเมืองที่เคยส่งคนไปสร้างอาณานิคมทั้งหลายในแดนไกล
8 ไทระเคยมีอำนาจแต่งตั้งพวกกษัตริย์ได้
พวกนักธุรกิจของไทระเคยได้รับการยกย่องอย่างกับเป็นเจ้าชาย
พวกพ่อค้าของไทระเคยเป็นพวกที่ได้รับเกียรติมากที่สุดในโลก
ใครได้บังอาจวางแผนต่อต้านเมืองไทระอย่างนี้
9 พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเป็นผู้วางแผนนี้เอง
เพื่อทำลายความหยิ่งในศักดิ์ศรีทั้งหมดของมัน
เพื่อทำให้ผู้มีเกียรติทุกคนในโลกขายหน้าไป
10 พวกเรือทั้งหลายของทารชิชเอ๋ย
ข้ามกลับไปยังแผ่นดินของเจ้าได้แล้ว
เจ้าจะมาใช้ที่นี่เป็นท่าเรือไม่ได้อีกแล้ว[a]
11 พระองค์ได้ยื่นมือของพระองค์ออกเหนือทะเล
พระองค์เขย่าอาณาจักรต่างๆ
พระยาห์เวห์ออกคำสั่งให้ทำลายพวกป้อมปราการของคานาอัน[b]
12 พระองค์พูดว่า
“ไซดอนสาวพรหมจรรย์เอ๋ย เจ้าจะถูกข่มขืน
เจ้าจะไม่ชื่นชมยินดีอีกต่อไป
ลุกขึ้น ไปที่ไซปรัสสิ
แต่ที่นั่นก็จะไม่มีที่ให้เจ้าหยุดพักเหมือนกัน”
13 ดูแผ่นดินของคนบาบิโลนสิ เป็นชนชาตินี้แหละ ไม่ใช่คนอัสซีเรีย
ที่ทำให้ไทระเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่า
พวกเขาก่อเนินดินขึ้นมาบุกโจมตีป้อมปราการ
พวกเขารื้อวังต่างๆทิ้งไป พวกเขาทำให้มันกลายเป็นซากปรักหักพัง
14 เรือบรรทุกทั้งหลายของทารชิชเอ๋ย ร้องไห้คร่ำครวญซะ
เพราะท่าจอดเรือของเจ้าถูกทำลายหมดแล้ว
15 ในเวลานั้น ไทระจะถูกลืมไปเป็นเวลาเจ็ดสิบปี
นานเท่ากับชั่วชีวิตของกษัตริย์หนึ่งองค์ พอจบเจ็ดสิบปีนั้นแล้ว ไทระก็จะเป็นเหมือนโสเภณีในเพลงที่ร้องว่า
16 “หญิงโสเภณีที่ถูกลืมเอ๋ย
เอาพิณขึ้นมาและเดินไปให้ทั่วเมือง
เล่นพิณนั้นให้เพราะๆร้องเพลงหลายๆเพลง
เพื่อผู้ชายจะได้จดจำเจ้าได้”
17 เมื่อเจ็ดสิบปีนั้นจบไปแล้ว พระยาห์เวห์ก็จะมาฟื้นฟูเมืองไทระ แล้วไทระก็จะกลับมาค้าขายอีก และเธอก็จะขายตัวให้กับอาณาจักรทุกแห่งบนแผ่นดินโลกนี้ 18 แต่ว่าสินค้าและรายได้ของหล่อน หล่อนจะถวายให้กับพระยาห์เวห์ หล่อนจะไม่ได้เก็บสะสมกำไรของหล่อนเอาไว้ใช้เอง แต่สินค้าของหล่อนจะกลายเป็นอาหารอย่างเหลือเฟือ และเสื้อผ้าอย่างดีสำหรับพวกนักบวชที่อยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์
พระเจ้าจะลงโทษอิสราเอล
24 ดูสิ พระยาห์เวห์กำลังจะทำลายโลกนี้แล้วและปล่อยให้มันรกร้างว่างเปล่า
พระองค์จะทำให้พื้นผิวโลกบิดเบี้ยวไปและทำให้พลเมืองของมันกระจัดกระจายไป
2 เรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับทุกคนเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไปหรือนักบวช
ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือเจ้านาย
ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้หรือนายผู้หญิง
ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อหรือคนขาย
ไม่ว่าจะเป็นคนยืมหรือคนให้ยืม
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้
3 โลกจะถูกทำลายลงอย่างราบคาบทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกปล้นไปจนเกลี้ยง
เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนี้
4 โลกก็จะแห้งแล้งและเหี่ยวเฉาไป
โลกก็จะอ่อนกำลังลงและเหี่ยวเฉาไป
ฟ้าสวรรค์ก็จะอ่อนแอไปพร้อมกับโลก
5 ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกได้ทำให้แผ่นดินแปดเปื้อนไปในสายตาพระเจ้า
พวกเขาได้ฝ่าฝืนกฎต่างๆและละเมิดคำสั่งทั้งหลาย
และหักทิ้งคำมั่นสัญญานิรันดร์ที่เขากับพระเจ้ามีต่อกัน
6 เพราะอย่างนั้น โลกก็ถูกคำสาปกลืนกิน
และคนที่อาศัยอยู่ในโลกก็ถูกลงโทษเพราะความผิดของพวกเขา
ดังนั้น ผู้ที่อาศัยอยู่ในโลกจึงได้ร่อยหลอไป เหลือไม่กี่คน
7 เหล้าองุ่นใหม่ก็เศร้าโศกเสียใจ
เถาองุ่นก็อ่อนแอไป
ทุกคนที่เคยร่าเริงก็ครวญคราง
8 การเฉลิมฉลองกันด้วยกลองได้หยุดไป
เสียงของคนที่ดีอกดีใจก็ไม่มีอีกแล้ว
การเฉลิมฉลองด้วยพิณก็ได้หยุดไป
9 พวกเขาไม่ดื่มเหล้าองุ่นพร้อมกับร้องเพลงอีกแล้ว
รสชาติเบียร์ก็ขมเกินไปสำหรับคนที่ดื่มมัน
10 เมืองแตกกระจายและสับสนอลหม่านไป
บ้านทุกหลังก็ปิดไม่ให้คนเข้า
11 ตามท้องถนนก็มีเสียงร้องเพราะขาดเหล้าองุ่นดื่ม
ความสนุกสนานได้จางหายไป
ความยินดีของโลก[c]ถูกกวาดต้อนไป
12 ในเมืองไม่เหลืออะไรเลยนอกจากความรกร้างว่างเปล่า
ประตูเมืองก็โดนกระหน่ำซะเละไปหมด
13 มันจะเป็นอย่างนี้ในศูนย์กลางของโลก[d]
ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย
จะเป็นเหมือนตอนที่กิ่งต้นมะกอกถูกตีไปแล้วในช่วงเก็บเกี่ยว
หรือตอนที่เหลือองุ่นไม่กี่ลูกตอนที่ฤดูเก็บเกี่ยวองุ่นผ่านไปแล้ว
14 คนที่เหลือเหล่านั้นตะโกนเสียงดัง
พวกเขาร้องสรรเสริญความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์อย่างมีความสุข พวกเขาร้องว่า
15 “ตะโกนจากตะวันตก เฉลิมฉลองในทางตะวันออกถวายเกียรติให้กับพระยาห์เวห์
ที่แถบชายฝั่งทะเลถวายเกียรติให้กับชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล”
16 พวกเราได้ยินเสียงเพลงจากที่สุดปลายโลกว่า
“ถวายเกียรติให้กับพระองค์ผู้สัตย์ซื่อนั้น”
แต่ผมพูดว่า “ผมกำลังจะตาย ผมกำลังจะตาย
ผมรู้สึกอับอายขายหน้า
เพราะพวกที่ทรยศไม่สัตย์ซื่อ
พวกทรยศ ไม่สัตย์ซื่อเลย”
17 คนที่อาศัยอยู่ในโลกเอ๋ย
ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องตื่นตระหนกตกใจ ตกหลุมพรางและติดตาข่ายแล้ว
18 คนที่วิ่งหนีเสียงที่น่าตกใจกลัวก็จะตกลงไปในหลุมพราง
และคนที่ปีนขึ้นมาจากหลุมพรางก็จะติดตาข่ายอีก
เพราะพวกช่องสวรรค์ทั้งหลายถูกเปิดเทน้ำลงมา
และรากฐานต่างๆของโลกก็สั่นสะเทือน
19 โลกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
โลกฉีกเป็นชิ้นๆ
โลกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
20 โลกส่ายโซเซเหมือนคนเมา
และมันเอนเอียงไปมาเหมือนเพิงใต้พายุ
มันแบกความผิดของมันไว้จนหนักอึ้ง
และมันก็ล้มลงและจะไม่มีวันลุกขึ้นมาได้อีก
ชัยชนะของพระยาห์เวห์
21 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะลงโทษพวกพระแห่งดวงดาวบนสวรรค์เบื้องบน
และพวกกษัตริย์ในโลกเบื้องล่าง
22 และพวกเขาจะถูกรวบรวมเหมือนกับนักโทษในหลุม
พวกเขาจะถูกขังไว้ในคุก
และหลังจากนั้นอีกหลายวันพวกเขาก็จะถูกลงโทษ
23 พระจันทร์จะได้รับความอับอาย
พระอาทิตย์จะถูกทำให้ขายหน้า
เพราะพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะปกครองเป็นกษัตริย์บนภูเขาศิโยนในเมืองเยรูซาเล็ม
และสง่าราศีของพระองค์จะปรากฏต่อหน้าพวกผู้อาวุโสของเมืองนั้น
เพลงสรรเสริญพระเจ้า
25 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เป็นพระเจ้าของผม
ผมจะยกย่องพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์
เพราะสิ่งน่าทึ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ
พระองค์ได้วางแผนพวกมันมานานแล้วและพวกมันก็เกิดขึ้นจริงตามนั้น
2 พระองค์ทำให้เมืองกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
พระองค์ทำลายเมืองที่มีป้อมปราการลง
ป้อมปราการของคนต่างชาติก็ไม่เป็นเมืองอีกต่อไป
และมันจะไม่มีวันถูกสร้างขึ้นมาอีกแล้ว
3 ดังนั้น พวกชนชาติเข้มแข็งจึงถวายเกียรติให้กับพระองค์
พวกเมืองต่างๆของชนชาติที่โหดเหี้ยมทั้งหลายจะยำเกรงพระองค์
4 เพราะพระองค์ได้เป็นที่หลบภัยสำหรับคนจน
เป็นที่หลบภัยสำหรับคนที่ขัดสนเมื่อเขาเดือดร้อน
เป็นที่กำบังจากพายุ และเป็นร่มเงากันความร้อน
เมื่อคนโหดเหี้ยมโหมพัดเข้าใส่เหมือนกับพายุในหน้าหนาว
5 หรือเหมือนกับความร้อนในที่แห้งแล้ง
พระองค์หยุดเสียงเอะอะของพวกคนต่างชาติพวกนี้ลง
พระองค์ดับเสียงโห่ร้องแห่งชัยชนะของคนเหี้ยมโหดลง
เหมือนกับที่เมฆดับความร้อนลง
พระยาห์เวห์จะจัดงานเลี้ยงให้กับพวกผู้รับใช้ของพระองค์
6 บนภูเขานี้ พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะจัดงานเลี้ยงให้กับทุกชนชาติ
เป็นงานเลี้ยงที่มีอาหารเลิศรสและเหล้าองุ่นที่บ่มมาอย่างดี
มีเนื้อที่นุ่มนวลและเหล้าองุ่นที่กรองตะกอนแล้ว
7 และบนภูเขานี้พระองค์จะทำลายผ้าที่คลุมหน้าคนทั้งหลาย
ผ้าทอที่ครอบคลุมอยู่เหนือทุกชนชาติ
8 พระองค์จะกลืนกินความตายตลอดไปและพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตจะเช็ดน้ำตาจากทุกๆใบหน้า
และพระองค์จะขจัดความอับอายที่คนของพระองค์ได้รับให้หายไปจากทั้งโลก
เพราะพระยาห์เวห์ได้พูดไว้ว่าอย่างนั้น
9 ในเวลานั้นผู้คนจะพูดว่า
“ดูสิ นี่คือพระเจ้าของเรา
เรารอคอยพระองค์
และพระองค์ก็ได้มาช่วยกู้พวกเราแล้ว
นี่แหละพระยาห์เวห์ผู้ที่พวกเราได้ตั้งตารอคอย
ขอให้พวกเราชื่นชมยินดีและมีความสุขเมื่อพระองค์มาช่วยกู้พวกเรา”
10 เพราะมือของพระองค์จะวางปกป้องอยู่บนภูเขาของพระองค์
แต่พวกชาวโมอับจะถูกเหยียบย่ำลงในที่ของพวกเขานั้น เหมือนกับฟางที่ถูกเหยียบย่ำลงในกองขี้
11 และพวกชาวโมอับก็จะกางแขนของพวกเขาในกองขี้นั้นเหมือนกับนักว่ายน้ำกางแขนออกว่ายน้ำ
พระยาห์เวห์จะกดความหยิ่งจองหองของพวกเขาลง ถึงแม้จะมีฝีมือเก่งกาจแค่ไหนก็ตาม
12 ชาวโมอับ พระองค์จะรื้อป้อมปราการที่สูงใหญ่ของพวกเจ้า
ทำให้มันพังลง โยนลงกับพื้น คลุกฝุ่นไปเลย
เพลงที่ร้องสรรเสริญพระเจ้า
26 ในเวลานั้นจะมีการร้องเพลงนี้ในแผ่นดินของยูดาห์
“พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของเรา เป็นเมืองที่เข้มแข็งของเรา
พระองค์ประทานกำแพงและป้อมปราการต่างๆให้[e]
2 ให้เปิดประตูเมืองเถิด
เพื่อชนชาติที่ดีที่จงรักภักดีต่อพระองค์จะได้เข้ามา
3 พระยาห์เวห์เจ้าข้า พระองค์ประทานสันติสุขแท้จริงให้กับใจที่พึ่งพิงในพระองค์นั้น
เพราะพวกเขาไว้วางใจในพระองค์
4 ให้ไว้วางใจในพระยาห์เวห์เสมอ
เพราะในพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์นั้นแหละ เจ้ามีหินหลบภัยอันถาวร
5 พระองค์กดให้คนพวกนั้นที่อยู่สูงเลิศเลอตกต่ำลง
พระองค์ทำให้เมืองสูงส่งล้มลง
พระองค์ทำให้มันล้มลงกับพื้นดิน
และพระองค์ก็โยนมันลงไปคลุกฝุ่น
6 มีเท้าเหยียบย่ำไปบนมัน
คือเท้าของคนที่ถูกกดขี่ข่มเหง
คือย่างเท้าของคนที่ขัดสน”
คนของพระเจ้าร้องขอความช่วยเหลือ
7 ทางของคนดีถูกปรับให้ราบเรียบ
ข้าแต่องค์ผู้ยุติธรรม พระองค์ทำให้ถนนของคนดีนั้นราบรื่น
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พวกเราตั้งตารอคอยพระองค์
ในขณะที่เราเดินบนเส้นทางแห่งคำสั่งทั้งหลายของพระองค์
จิตวิญญาณของพวกเราอยากที่จะให้ชื่อเสียงและเกียรติของพระองค์เพิ่มขึ้น
9 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าใฝ่ฝันถึงพระองค์ในตอนกลางคืน
จิตวิญญาณภายในตัวข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์ตอนรุ่งอรุณ
เพราะเมื่อการตัดสินต่างๆของพระองค์เกิดขึ้นในโลกนี้
ชาวโลกเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง
10 ถ้าแสดงความเมตตาต่อคนชั่วช้า
พวกเขาก็ไม่เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างถูกต้องหรอก
ถึงแม้จะอยู่ในดินแดนที่คนใช้ชีวิตอย่างถูกต้องกัน พวกคนชั่วช้าก็ยังทำตัวเลวร้ายอยู่ดี
และพวกเขาก็ไม่เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ด้วย
11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เงื้อมือขึ้นมาเตรียมฟาด
แต่พวกเขามองไม่เห็น
ขอให้พวกเขาเห็นถึงความรักอันแรงกล้าที่พระองค์มีต่อคนของพระองค์ ขอให้พวกเขาอับอายต่อสิ่งที่เขาได้ทำกับพวกเรา
ขอให้เผาพลาญพวกเขาด้วยไฟที่พระองค์เตรียมไว้สำหรับศัตรูของพระองค์
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอพระองค์ให้พวกเราอยู่เย็นเป็นสุขด้วยเถิด
ทุกเรื่องที่เราได้ทำสำเร็จนั้น พระองค์เป็นผู้ทำให้มันสำเร็จเพื่อเรา
13 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา
พวกเจ้านายคนอื่นๆที่ไม่ใช่พระองค์ได้ครอบครองเหนือพวกเรา
แต่พวกเราให้เกียรติกับชื่อของพระองค์เท่านั้น
14 คนตายจะไม่มีชีวิตอยู่อีก
และผีก็จะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก
อย่างนั้นขอให้พระองค์ลงโทษและฆ่าทำลายพวกศัตรูของพวกเรา
ขอให้พระองค์ลบชื่อของพวกมันให้หมดไป
15 แต่ขอให้พระองค์เพิ่มพูนชนชาติของพวกเรา
ขอให้พระองค์เพิ่มพูนชนชาติของพวกเราให้มากขึ้น
ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้พระองค์ได้รับเกียรติ
ขอให้พระองค์ขยายเขตแดนของแผ่นดินทั้งหมด
16 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตอนที่พวกเราเดือดร้อน พวกเราแสวงหาพระองค์
ตอนที่พระองค์ตีสอนพวกเรา พวกเราก็ร้องด้วยความเจ็บปวด
17 เหมือนกับผู้หญิงท้องที่ดิ้นไปมาและร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อใกล้คลอด
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทำให้พวกเราเป็นอย่างนั้น
18 พวกเราตั้งท้อง พวกเราดิ้นไปมา
พวกเราคลอดลูก คลอดแต่ลมออกมา
เราไม่ได้นำความรอดมาให้กับแผ่นดิน
และเราไม่ได้คลอดพลเมืองใหม่ออกมาให้กับโลก
19 พระยาห์เวห์พูดว่า “พวกคนที่ตายไปแล้วของเจ้าจะมีชีวิตอยู่ พวกศพของคนของเราจะฟื้นขึ้น
พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ในฝุ่นเอ๋ย ตื่นขึ้นมา ร้องเพลงอย่างมีความสุขเถิด
เพราะพวกเจ้าจะงอกขึ้นมาเหมือนพืชที่ปกคลุมไปด้วยน้ำค้างในตอนเช้า
และผืนดินนี้จะคลอดคนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วออกมา”
ให้อดทนคอยความยุติธรรม
20 มาเถิด คนของเราเข้าไปในห้องส่วนตัวและปิดประตูซะ
ซ่อนตัวสักพักจนกว่าความโกรธของพระยาห์เวห์จะผ่านพ้นไป
21 เพราะพระยาห์เวห์กำลังออกมาจากสถานที่ของพระองค์
เพื่อมาลงโทษชาวโลกสำหรับความผิดบาปของพวกเขา
โลกนี้ก็จะเปิดโปงให้เห็นถึงเลือดที่เคยหลั่งบนมัน
และมันก็จะไม่ปกปิดคนที่ถูกฆ่าอีกต่อไป
27 ในเวลานั้น พระยาห์เวห์จะลงโทษเลวีอาธาน[f]
พญานาคตัวนั้นที่กำลังหนีไป
ด้วยดาบที่ยิ่งใหญ่ทรงพลังและทำลายล้างของพระองค์
เลวีอาธานเป็นพญานาคที่คดเคี้ยวไปมา
พระองค์จะฆ่าพญานาคตัวนั้นที่อยู่ในทะเล[g]
พระเจ้าจะช่วยกู้อิสราเอล
2 ในเวลานั้นจะมีสวนองุ่นที่น่าชื่นชมอยู่สวนหนึ่ง
ให้ร้องเพลงเกี่ยวกับสวนองุ่นนั้นกันเถอะ
3 “เรา ยาห์เวห์ เป็นคนเฝ้าดูแลมันเอง
เรารดน้ำมันสม่ำเสมอ
เราเฝ้ามันทั้งวันทั้งคืน
เพื่อจะได้ไม่มีใครมาทำร้ายมัน
4 เราไม่ได้เคียดแค้นมัน
แต่ถ้ามันเกิดหนามและหญ้าคาขึ้นมาให้กับเรา
เราก็จะบุกเข้าไปสู้รบกับพวกมัน
และจะเผาพวกหนามและหญ้าคาพวกนั้นทิ้งให้หมด
5 อย่างนั้น ให้มันมาหาเราเพื่อให้เราปกป้อง
ให้มันทำสัญญาสงบศึกกับเรา
ให้มันทำสัญญาสงบศึกกับเราดีกว่า”
6 ในวันเหล่านั้นที่จะมาถึง คนของยาโคบจะหยั่งราก
คนของอิสราเอลจะผลิดอกและแตกหน่อ
และทั้งโลกจะเต็มไปด้วยผลของพวกเขา
7 พระองค์ตีอิสราเอลเหมือนกับที่พระองค์ตีคนที่ตีอิสราเอลหรือ
คนอิสราเอลถูกฆ่าเท่ากับคนที่ฆ่าพวกเขาถูกฆ่าหรือ
8 พระองค์ได้ดำเนินคดีของพระองค์กับอิสราเอล
พระองค์ขับไล่ไสส่งอิสราเอลออกไปด้วยลมพายุของพระองค์อย่างกับวันที่ลมตะวันออกพัดมา
9 ด้วยวิธีนี้ ความผิดบาปของอิสราเอลจะได้รับการอภัย
แล้วนี่จะเป็นผลของการขจัดบาปของพวกเขานั้นด้วย
คือแท่นบูชาหินที่พวกเขาสร้างให้กับเทพเจ้าทั้งหลาย จะถูกบดให้เป็นผุยผง
และจะไม่มีพวกเสาเจ้าแม่อาเชราห์ หรือแท่นเผาเครื่องหอมตั้งอยู่
10 เมืองที่มีป้อมปราการนั้นก็ว่างเปล่า
มันกลายเป็นหมู่บ้านที่ถูกทอดทิ้งเหมือนกับทะเลทราย
และที่นั่น พวกลูกวัวก็จะมาเล็มหญ้ามานอนกัน
และกินใบของกิ่งไม้จนหมดเกลี้ยง
11 เมื่อกิ่งก้านพวกนั้นแห้งและหักไป
พวกผู้หญิงก็เอามาทำเป็นฟืนก่อไฟ
เพราะชนชาติพวกนี้ไม่มีหัวคิด
พระผู้สร้างพวกเขาก็เลยไม่สงสารพวกเขา
พระองค์ผู้ที่ปั้นพวกเขาขึ้นมาก็เลยไม่มีความเมตตาต่อพวกเขา
12 เวลานั้นกำลังมาถึง เมื่อพระยาห์เวห์จะแยกแกลบออกจากเมล็ดข้าว[h] ตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำยูเฟรติส ไปจนถึงลำธารอียิปต์[i] อิสราเอลเอ๋ย พระองค์จะรวบรวมเจ้าเข้ามาทีละคน 13 ในเวลานั้น เมื่อแตรเขาสัตว์อันใหญ่ถูกเป่าขึ้น คนเหล่านั้นที่หลงหายอยู่ในแผ่นดินอัสซีเรีย[j] และคนเหล่านั้นที่เป็นผู้อพยพอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ก็จะกลับมา และพวกเขาก็จะมานมัสการพระยาห์เวห์บนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ในเมืองเยรูซาเล็ม
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International