Chronological
กษัตริย์โยธามปกครองยูดาห์
(2 พกษ. 15:32-38)
27 โยธามมีอายุยี่สิบห้าปีตอนที่เขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มเป็นเวลาสิบหกปี แม่ของเขามีชื่อว่าเยรูชา นางเป็นลูกสาวของศาโดก 2 โยธามทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่อุสซียาห์พ่อของเขาทำ แต่ก็ไม่เหมือนพ่อของเขาทั้งหมด คือเขาไม่ได้ล่วงล้ำเข้าไปในวิหารของพระยาห์เวห์ แต่ประชาชนก็ยังคงทำผิดอยู่เหมือนเดิม 3 โยธามสร้างประตูด้านบนของวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้นใหม่ และได้ทำการก่อสร้างมากมายที่กำแพงตรงเนินเขาโอเฟล 4 เขาสร้างเมืองหลายเมืองในแถบเนินเขาของยูดาห์ และสร้างป้อมกับหอคอยตามป่า 5 โยธามทำสงครามกับกษัตริย์ของพวกอัมโมนและสามารถเอาชนะพวกนั้นได้ ในปีนั้น ชาวอัมโมนได้จ่ายเงินหนักประมาณสามตันครึ่ง แป้งสาลีและข้าวบาร์เลย์อย่างละสองล้านสองแสนลิตร[a]ให้กับกษัตริย์โยธาม พวกอัมโมนได้นำสิ่งของจำนวนเดียวกันนี้มาให้เขาอีกในปีที่สองและปีที่สาม
6 โยธามมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆเพราะเขาเดินอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาอย่างซื่อสัตย์มั่นคง 7 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของโยธาม รวมทั้งพวกสงครามและสิ่งต่างๆที่เขาทำ ได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือของพงศ์กษัตริย์แห่งอิสราเอลและยูดาห์ 8 เขามีอายุยี่สิบห้าปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์และครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบหกปี 9 โยธามตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและศพของเขาถูกฝังอยู่ในเมืองของดาวิด และอาหัสลูกชายของเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเขา
วันใหม่กำลังมา
9 แต่จะไม่มีความเหน็ดเหนื่อยอีกต่อไป สำหรับคนเหล่านั้นที่ตั้งมั่นคงอยู่ในคำสอนนั้น ในอดีตนั้น พระองค์ทำให้ดินแดนของเศบูลุนและนัฟทาลีถูกดูหมิ่น แต่ในอนาคต พระองค์จะทำให้ดินแดนเหล่านั้นยิ่งใหญ่ คือดินแดนที่อยู่ใกล้ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และแคว้นกาลิลี อันเป็นที่อาศัยของคนต่างชาติ
2 คนที่เคยเดินอยู่ในความมืดได้เห็นความสว่างอันยิ่งใหญ่แล้ว
คนเหล่านั้นที่เคยอยู่ในแผ่นดินที่มืดมน แสงสว่างก็ได้ส่องลงมายังพวกเขาแล้ว
3 พระองค์เจ้าข้า พระองค์ได้ทำให้ชนชาติทวีคูณ
พระองค์ได้เพิ่มความสุขให้กับพวกเขา
พวกเขาชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์
อย่างกับความสุขที่คนมีกันในยามเก็บเกี่ยว
อย่างกับความสุขที่คนมีกันตอนแบ่งของที่ยึดมาได้จากสงคราม
4 เพราะพระองค์ได้หักแอกที่เป็นภาระของพวกเขาทิ้ง
และเอาคานที่พวกเขาแบกอยู่บนบ่าออกไป
และเอาไม้ตะบองที่ศัตรูใช้ลงโทษพวกเขาไป อย่างกับตอนที่พระองค์รบชนะชาวมีเดียน[a]
5 เพราะรองเท้าทหารทุกคู่ที่มุ่งหน้าสู่สนามรบอย่างกึกก้อง
และเสื้อทหารทุกตัวที่เกลือกกลิ้งเลือดมา จะต้องถูกเผาทิ้ง เป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟ
6 เพราะมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา
พระองค์ให้ลูกชายคนหนึ่งกับเรา
และสิทธิอำนาจก็จะตกอยู่ที่บ่าของเด็กคนนี้
และเขามีชื่อว่า “ที่ปรึกษาอันมหัศจรรย์ นักรบที่ทรงพลังเหมือนพระเจ้า พระบิดาตลอดกาล เจ้าชายแห่งสันติสุข”
7 สิทธิอำนาจของพระองค์ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
และจะมีสันติสุขสำหรับบัลลังก์ของดาวิดและอาณาจักรของพระองค์อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
พระองค์จะก่อตั้งอาณาจักรของพระองค์ขึ้นและพยุงมันไว้ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรมตั้งแต่เดี๋ยวนี้ไปจนตลอดกาล
ความรักอันหวงแหนของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นจะทำให้สิ่งนี้สำเร็จ
พระเจ้าจะลงโทษอิสราเอล
8 พระยาห์เวห์ส่งข้อความที่ต่อว่ายาโคบ
และมันตกอยู่บนอิสราเอล
9 ทุกคนรู้เรื่องนี้
ทั้งเอฟราอิมและคนที่อาศัยอยู่ในสะมาเรีย
แต่คนพวกนั้นมีจิตใจที่เย่อหยิ่งจองหอง พวกเขาพูดว่า
10 “ถึงพวกอิฐนี้จะพังลงแล้ว
แต่เราก็จะสร้างอาคารเหล่านี้ขึ้นมาใหม่ด้วยหินสกัด
ถึงพวกคานไม้มะเดื่อจะถูกตัดเป็นชิ้นๆแล้ว
แต่เราก็จะเอาไม้สนซีดาร์เข้าไปแทนที่พวกมัน”
11 พระยาห์เวห์ได้หนุนพวกข้าศึกขึ้นมาต่อสู้อิสราเอล[b]
พระองค์ได้ยุแหย่พวกศัตรูของเขา
12 มีคนอารามจากทางตะวันออกและคนฟีลิสเตียจากทางตะวันตก
และพวกเขาก็ได้อ้าปากกว้างกลืนกินอิสราเอลเข้าไป
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี
มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
13 ผู้คนก็ยังไม่ยอมหันกลับมาหาพระองค์ผู้ที่ตีสอนพวกเขา
พวกเขาก็ยังไม่ยอมแสวงหาพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
14 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงตัดหัวตัดหางของอิสราเอล
ตัดทั้งกิ่งปาล์มและต้นกกในวันเดียวกัน
15 หัวในที่นี้ หมายถึงพวกผู้นำอาวุโสและพวกที่มีเกียรติ
ส่วนหางในที่นี้หมายถึงพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่พูดโกหก
16 เพราะคนเหล่านั้นที่นำประชาชนพวกนี้ได้นำพวกเขาให้หลงทางไป
คนที่ถูกนำไปนั้นก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
17 เพราะอย่างนี้พระยาห์เวห์จึงไม่สงสารทหารหนุ่มของพวกเขา
และไม่เมตตาพวกเด็กกำพร้าและพวกแม่ม่ายของพวกเขา
เพราะประชาชนพวกนี้ทั้งหมดเป็นคนที่ไม่เคารพพระเจ้าและเป็นคนชั่วช้า
และปากแต่ละคนก็พูดแต่เรื่องโง่ๆ
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี
มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
18 เพราะความเลวทรามของพวกเขาเผาอยู่อย่างไฟ
ตอนแรกมันก็เผาหญ้าและหนาม
ต่อมาก็ลุกลามเผาพงไม้ใหญ่ในป่า
และพวกมันทุกคนถูกเผากลายเป็นควันม้วนขึ้นไปในอากาศ
19 เพราะความโกรธของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นทำให้แผ่นดินนั้นถูกเผาผลาญ
และประชาชนก็กลายเป็นเชื้อเพลิงสำหรับไฟนั้นไม่มีใครพยายามช่วยชีวิตใครเลย
20 ประชาชนหันไปทางขวาและกินอย่างตะกละตะกลามแต่ก็ยังหิวอยู่
พวกเขาก็เลยหันไปทางซ้ายและเขมือบเข้าไปแต่ก็ยังไม่พอ
แต่ละคนก็เลยหันไปกินเนื้อลูกหลานของตัวเอง
21 มนัสเสห์กัดกินเอฟราอิม เอฟราอิมก็กัดกินมนัสเสห์
และทั้งสองก็ไปต่อสู้กับยูดาห์
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี
มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
10 เฮ้ย ไอ้พวกที่ออกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม
ไอ้พวกที่เขียนกฎต่างๆที่กดขี่คนอื่น
2 เพื่อไม่ให้คนยากจนได้รับความยุติธรรม เพื่อปล้นเอาสิทธิของคนจนที่เป็นคนของเรา
เพื่อจะได้ไปปล้นพวกแม่ม่าย และเพื่อพวกเด็กกำพร้าจะได้เป็นเหยื่อของพวกแก
3 พวกแกจะทำยังไงในวันลงโทษ
ในวันที่ความหายนะมาจากที่ห่างไกล
พวกแกจะวิ่งหนีไปให้ใครช่วย
และจะเก็บทรัพย์สมบัติของพวกแกไว้ที่ไหน
4 พวกแกจะทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากหมอบลงในหมู่นักโทษ
หรือล้มลงในหมู่คนที่ถูกฆ่าฟัน
ถึงจะเกิดเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็ตาม พระองค์ก็ยังไม่หายโกรธอยู่ดี
มือของพระองค์ก็ยังคงเงื้อขึ้นมาฟาดพวกเขา
พระเจ้าจะลงโทษอัสซีเรียด้วย
5 พระยาห์เวห์พูดว่า “เฮ้ย ไอ้พวกอัสซีเรีย ซึ่งเป็นไม้ที่เราใช้ตีเมื่อเราโกรธ
ที่ถือไม้กระบองแห่งความโกรธแค้นของเราอยู่ในมือ
6 เราได้ส่งอัสซีเรียไปต่อสู้กับชนชาติที่ไม่เคารพพระเจ้า
และเราสั่งให้พวกเขาต่อสู้กับคนเหล่านั้นที่ทำให้เราโกรธ
เพื่อจะริบเอาทรัพย์สมบัติของพวกนั้น
และจะเหยียบย่ำพวกนั้นเหมือนโคลนตมบนถนนต่างๆ
7 แต่อัสซีเรียไม่รู้หรอกว่าเรากำลังใช้พวกเขาอยู่
ในใจของพวกเขาไม่ได้คิดอย่างนั้น
ในใจพวกเขาคิดแต่จะทำลายล้าง
และกำจัดชนชาติจำนวนมากให้สิ้นซากไป
8 เพราะอัสซีเรียพูดว่า
‘ผู้นำกองทัพของเราแต่ละคนก็มีอำนาจอย่างกับกษัตริย์ ไม่ใช่หรือ
9 เมืองคาลโนกลายเป็นเหมือนเมืองคารเคมิชไปแล้วไม่ใช่หรือ
เมืองฮามัทกลายเป็นเหมือนเมืองอารปัดไปแล้วไม่ใช่หรือ
เมืองสะมาเรียกลายเป็นเหมือนเมืองดามัสกัส[c]ไปแล้วไม่ใช่หรือ
10 มือของเราได้ยึดอาณาจักรทั้งหลายที่มีรูปเคารพครอบครองอยู่
และรูปเคารพเหล่านั้นยังมีฤทธิ์อำนาจมากกว่าพวกรูปเคารพของเยรูซาเล็มและสะมาเรียเสียอีก
11 เราจะไม่จัดการกับเยรูซาเล็มและพวกรูปเคารพต่างๆของมัน
เหมือนกับที่เราได้จัดการกับสะมาเรียและรูปเคารพต่างๆของมันหรือ’”
12 เมื่อองค์เจ้าชีวิตได้จัดการกับภูเขาศิโยนและเยรูซาเล็มเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระองค์ก็จะลงโทษกษัตริย์ของอัสซีเรีย ที่คุยโวโอ้อวดและมีสายตาที่หยิ่งผยอง 13 เพราะกษัตริย์ของอัสซีเรียพูดว่า
“ข้าทำสิ่งนี้ได้ด้วยพละกำลังและสติปัญญาของข้าเอง
เพราะข้ามีความเข้าใจ
ข้าได้รื้อเขตแดนของชนชาติต่างๆออกไปและได้ปล้นเอาทรัพย์สมบัติของพวกเขามา
ข้าเป็นเหมือนวัวตัวผู้ที่ได้ชนคนพวกนั้นที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ให้ล้มลง
14 ข้าใช้มือของข้าเองหยิบฉวยเอาทรัพย์สมบัติของชนชาติอื่นๆมา
เหมือนคนที่หยิบไข่จากรังนก
และข้าก็รวบรวมประเทศทั้งหลายทั่วโลกมา
เหมือนรวบรวมไข่ที่ถูกทิ้งแล้ว ไม่มีแม่นกมากระพือปีกหรืออ้าปากร้อง”
15 แต่พระเจ้าตอบเขาไปว่า
อ้าว ขวานจะอ้างว่าตัวมันเองยิ่งใหญ่กว่าคนที่ใช้มันฟันได้หรือ
หรือเลื่อยจะอ้างว่ามันสำคัญกว่าคนที่ใช้มันเลื่อยได้หรือ
หรือไม้พลองจะสามารถยกเจ้าของมันขึ้นมาได้หรือ
หรือไม้ตะบองสามารถยกผู้นั้นที่ไม่ใช่ไม้ขึ้นมาได้หรือ
16 ดังนั้น พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นผู้เป็นองค์เจ้าชีวิตจะส่งเชื้อโรคมาทำให้พวกทหารที่บึกบึนของอัสซีเรียซูบผอมไป
พระองค์ก็จะก่อไฟเผาผลาญสิ่งทั้งหมดที่ทำให้อัสซีเรียยิ่งใหญ่
17 แสงสว่างของอิสราเอลจะกลายเป็นไฟ พระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลจะเป็นเปลวเพลิง
พระองค์จะเผาผลาญและทำลายต้นหนามและหญ้าคาทั้งหลายหมดในวันเดียว
18 พระยาห์เวห์จะทำลายความสวยงามของผืนป่าและสวนของอัสซีเรียจนสิ้นซากไป
และมันจะเป็นเหมือนกับคนป่วยที่ซูบผอมไป
19 จะมีต้นไม้เหลืออยู่น้อยมาก
แม้แต่เด็กก็นับมันได้
20 ในวันนั้น คนที่ยังคงเหลืออยู่ในอิสราเอล คือผู้ที่รอดชีวิตจากครอบครัวของยาโคบจะไม่พึ่งกษัตริย์อัสซีเรียที่เคยทุบตีพวกเขา แต่พวกเขาจะพึ่งพระยาห์เวห์อย่างแท้จริง องค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งอิสราเอล 21 จะมีไม่กี่คนกลับมา[d] คือไม่กี่คนจากครอบครัวของยาโคบที่หันกลับมาหาพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์
22 คนอิสราเอลเอ๋ย ถึงแม้ว่าคนของเจ้าจะมีมากมายเหมือนกับทรายที่ชายหาด แต่จะมีเพียงไม่กี่คนในพวกนั้นที่กลับมา พระเจ้าได้ออกคำสั่งให้ทำลายชนชาตินี้ไปแล้ว การลงโทษอันยุติธรรมจะมาท่วมท้นเจ้า 23 เพราะพระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้ออกคำสั่งให้ความพินาศเกิดขึ้นกับแผ่นดินนี้ทั้งหมด และพระองค์จะทำตามนั้น
24 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้พูดไว้ “คนของเราที่อาศัยอยู่ในศิโยนเอ๋ย ไม่ต้องไปกลัวอัสซีเรีย พวกมันอาจจะตีเจ้าด้วยไม้พลองและยกไม้ตะบองขึ้นตีเจ้าเหมือนกับที่คนอียิปต์เคยทำ 25 แต่ในไม่ช้า ความโกรธของเราที่มีต่อเจ้าจะหมดลงและเราจะทำลายพวกมันด้วยความโกรธแค้นของเรา
26 และพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นก็จะเอาแส้ไปหวดพวกมัน เหมือนกับตอนที่พระองค์ทุบตีชาวมีเดียนที่หินของโอเรบ[e] ไม้เท้าของพระยาห์เวห์จะยื่นออกไปต่อต้านพวกมัน พระองค์จะยกมันขึ้นมาเหมือนกับที่พระองค์เคยทำในอียิปต์[f]
27 ในวันนั้นภาระของอัสซีเรียจะถูกยกออกไปจากบ่าเจ้า และแอกของมันที่อยู่บนคอเจ้าก็จะถูกทำลายไป”
กองทัพของอัสซีเรียมาบุกอิสราเอล
28 กองทัพของผู้รุกรานได้บุกขึ้นมาถึงซากปรักหักพังที่อัยยาทแล้ว
พวกเขาผ่านลานนวดข้าวที่มิโกรนมาแล้ว
พวกเขาสะสมเสบียงไว้ที่มิคมาช
29 พวกเขาได้ข้ามแม่น้ำตรงทางข้ามมาบาราห์แล้ว
พวกเขาพูดว่า “พวกเราจะตั้งค่ายค้างคืนที่เกบา”
เมืองรามาห์ก็กลัวจนตัวสั่น
ผู้คนที่กิเบอาห์ของซาอูลก็วิ่งหนีไปหมดแล้ว
30 นางสาวกัลลิม[g] เอ๋ย ให้ร้องตะโกนออกมา
ไลชาห์เอ๋ย ตั้งใจฟังให้ดี
อานาโธทเอ๋ย ตอบเรามาสิ
31 ชาวเมืองมัดเมนาห์กำลังวิ่งหนีกัน
ชาวเมืองเกบิมวิ่งหาที่หลบภัย
32 ในวันนี้เอง กองทัพผู้บุกรุกจะหยุดอยู่ที่โนบ
พวกเขาจะชูกำปั้นขึ้นเตรียมรบกับภูเขาแห่งนางสาวศิโยน
เตรียมเข้าประจัญบานกับเนินเขาของเยรูซาเล็ม
33 ดูสิ พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
กำลังจะตัดกิ่งไม้ใหญ่ด้วยกำลังอันน่าสะพรึงกลัวของพระองค์
พวกต้นที่อยู่สูงลิบลิ่วนั้น[h] ก็จะถูกโค่นลง
และพวกผู้สูงส่งจะถูกทลายลง
34 พระยาห์เวห์จะเอาขวานฟันป่าทึบลง
และต้นไม้อันยิ่งใหญ่อลังการของเลบานอนก็จะถูกโค่นลง
เจ้าชายแห่งสันติสุขกำลังมา
11 จะมีหน่อหนึ่ง[i] แตกออกมาจากตอแห่งเจสซี
จะมีกิ่งหนึ่งงอกออกมาจากรากทั้งหลายของเจสซี
2 พระวิญญาณของพระยาห์เวห์จะสถิตอยู่บนเขา
เป็นวิญญาณแห่งสติปัญญาและความเข้าใจ
เป็นวิญญาณแห่งการวางแผนและฤทธิ์อำนาจ
เป็นวิญญาณแห่งความรู้และการยำเกรงพระยาห์เวห์
3 และเขาก็จะมีความสุขที่จะยำเกรงพระยาห์เวห์
เขาจะไม่พิพากษาอย่างชุ่ยๆตามที่ตาเขามองเห็น
และเขาก็จะไม่ตัดสินตามข่าวลือที่เขาได้ยิน
4 แต่เขาจะพิพากษาคนจนอย่างยุติธรรม
และเขาจะตัดสินคนที่ต่ำต้อยที่สุดในแผ่นดินอย่างเป็นธรรม
เมื่อเขาออกคำสั่ง ชาวโลกก็จะถูกลงโทษ[j]
ด้วยคำพูดของเขา คนชั่วร้ายก็จะต้องถูกฆ่าตาย[k]
5 ความดีจะเป็นเข็มขัดคาดรอบเอวของเขา
ความยุติธรรมจะเป็นเข็มขัดคาดบั้นเอวของเขา
6 หมาป่าก็จะอยู่ด้วยกันกับลูกแกะ
เสือดาวก็จะนอนอยู่ข้างๆลูกแพะ
ลูกวัว สิงโต และวัวหนุ่มก็จะอยู่ด้วยกัน
และจะมีเด็กเล็กๆคนหนึ่งคอยดูแลพวกมัน
7 วัวและหมีจะหากินอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
และลูกๆของพวกมันก็จะนอนอยู่ด้วยกัน
และสิงโตก็จะกินฟางเหมือนวัว
8 เด็กทารกก็เล่นอยู่ที่ปากหลุมของงูเห่าได้
เด็กที่หย่านมแล้วก็เอามือแหย่เข้าไปในรังของงูพิษได้
9 พวกเขาจะไม่ทำร้ายหรือทำลายซึ่งกันและกันตลอดทั่วภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา
เพราะทั้งโลกก็จะเต็มไปด้วยความรู้เรื่องของพระยาห์เวห์ เหมือนกับน้ำที่ปกคลุมอยู่ทั่วท้องทะเลนั้น
10 ในเวลานั้น รากของเจสซี[l] ก็จะยืนขึ้นมาเหมือนธงให้กับชนชาติทั้งหลาย และชนชาติทั้งหลายก็จะมาปรึกษาเขา และที่อยู่ของเขาก็จะเต็มไปด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี
11 ในเวลานั้น องค์เจ้าชีวิตก็จะยกมือของพระองค์ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะเอาคนของพระองค์ที่ยังเหลืออยู่คืนมาจากอัสซีเรีย จากอียิปต์ทางเหนือ จากอียิปต์ทางใต้[m] จากเอธิโอเปีย จากเอลาม จากบาบิโลน[n] จากฮามัท และจากเกาะและชายฝั่งทะเล
12 พระองค์จะยกธงขึ้นให้กับชนชาติต่างๆ
และพระองค์ก็จะรวบรวมคนที่ถูกขับไล่ออกไปจากอิสราเอลกลับมา
และพระองค์ก็จะรวบรวมคนยูดาห์ที่เคยกระจัดกระจายไปนั้นจากทั่วทั้งสี่มุมโลก
13 เอฟราอิมก็จะเลิกอิจฉา
และยูดาห์ก็จะเลิกทำตัวเป็นศัตรู
เอฟราอิมก็จะไม่อิจฉายูดาห์
และยูดาห์ก็จะไม่เป็นศัตรูกับเอฟราอิม
14 แต่ทั้งอิสราเอลและยูดาห์
ก็จะโฉบเข้าโจมตีด้านหลังของคนฟีลิสเตีย[o]ไปทางด้านตะวันตก
และพวกเขาก็จะร่วมกันปล้นทรัพย์สมบัติของผู้คนทางตะวันออกด้วย
รวมทั้งเมืองเอโดม และโมอับ[p] ที่จะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขา
และคนอัมโมนก็จะเชื่อฟังพวกเขา
15 และพระยาห์เวห์ก็จะทำลายอ่าวของทะเลแห่งอียิปต์ให้สิ้นซากไป
และพระองค์จะซัดมือของพระองค์เหนือแม่น้ำยูเฟรติส ด้วยลมแรง
และพระองค์จะแบ่งแม่น้ำนั้นออกเป็นลำน้ำเล็กๆเจ็ดสาย
แม้แต่คนที่สวมรองเท้าสานก็เดินข้ามไปได้
16 จะมีถนนทางหลวงจากอัสซีเรียให้คนที่เหลือของพระองค์ใช้กลับมา
อย่างที่อิสราเอลมีตอนที่พวกเขาขึ้นมาจากแผ่นดินอียิปต์
เพลงสรรเสริญพระเจ้า
12 ในเวลานั้นเจ้าจะพูดว่า
“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์
ใช่แล้ว พระองค์โกรธข้าพเจ้าอยู่
ขอให้ความโกรธของพระองค์หันไปจากข้าพเจ้าด้วยเถิด
ขอให้พระองค์ปลอบโยนข้าพเจ้าด้วยเถิด[q]
2 ดูสิ พระเจ้าคือผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะไว้วางใจในพระองค์และข้าพเจ้าจะไม่กลัว
เพราะพระยาห์เวห์ พระยาห์เวห์นั่นแหละเป็นกำลังและที่ปกป้องของข้าพเจ้า
และพระองค์ได้มาเป็นผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า”
3 พวกเจ้าจะตักน้ำอย่างมีความสุข
จากพวกบ่อน้ำแห่งความรอด
4 และในตอนนั้น พวกเจ้าจะพูดว่า
“ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์กันเถิด ให้ร้องเรียกชื่อของพระองค์เถิด
ให้ประกาศให้ชนชาติทั้งหลายรู้ถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำนั้น
ให้ประกาศว่าพระองค์นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน
5 ร้องเพลงสรรเสริญให้กับพระยาห์เวห์ เพราะพระองค์ได้ทำสิ่งต่างๆที่ยิ่งใหญ่
ให้สิ่งนี้เป็นที่รู้กันไปทั่วโลก
6 ชาวศิโยนเอ๋ย โห่ร้องและร้องเพลงด้วยความสุขเถิด
เพราะองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลนั้นยิ่งใหญ่ท่ามกลางพวกเจ้า”
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International