Chronological
ดาวิดตัดสินใจนับกองทัพของเขา
(1 พศด. 21:1-6)
24 ความโกรธของพระยาห์เวห์ลุกขึ้นต่อต้านชาวอิสราเอลอีกครั้ง พระองค์ยุให้ดาวิดไปต่อต้านคนอิสราเอล พระยาห์เวห์บอกดาวิดว่า “ไปนับชาวอิสราเอลและยูดาห์”
2 กษัตริย์ดาวิดจึงพูดกับโยอาบและพวกแม่ทัพ[a] ที่อยู่กับเขาว่า “ไปหาชาวอิสราเอลทุกเผ่าตั้งแต่ดานจนถึงเบเออร์เชบา[b] และลงทะเบียนนักรบเหล่านั้นเพื่อเราจะได้รู้ว่าพวกเขามีจำนวนเท่าใด”
3 แต่โยอาบตอบกษัตริย์ว่า “ขอให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพิ่มจำนวนกองทัพขึ้นอีกหนึ่งร้อยเท่า และขอให้ดวงตาของกษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าได้มองเห็นเรื่องนี้ แต่กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าต้องการนับพลอย่างนี้ไปทำไมกัน”
4 แต่อย่างไรก็ตาม คำพูดของกษัตริย์ก็มีอำนาจเหนือโยอาบและบรรดาแม่ทัพเหล่านั้น พวกเขาจึงออกไปเพื่อไปลงทะเบียนนักรบของอิสราเอล 5 หลังจากข้ามแม่น้ำจอร์แดนมา พวกเขาตั้งค่ายอยู่ใกล้อาโรเออร์ในช่องแคบทางใต้ของเมือง จากนั้นก็ผ่านไปยังกาดและต่อไปที่ยาเซอร์
6 พวกเขาไปที่กิเลอาดและแคว้นตะทิมโหดฉิ และได้ไปถึงดานยาอันและอ้อมไปยังไซดอน 7 แล้วพวกเขาตรงไปที่ป้อมของไทระและเมืองทั้งหมดของชาวฮีไวต์และชาวคานาอัน ในที่สุด พวกเขาก็ไปถึงเบเออร์เชบาในเนเกบของยูดาห์ 8 หลังจากที่พวกเขาไปทั่วแผ่นดินแล้ว พวกเขากลับเยรูซาเล็มโดยใช้เวลาทั้งหมดเก้าเดือนกับอีกยี่สิบวัน
9 โยอาบรายงานจำนวนนักรบให้กษัตริย์ ในอิสราเอลมีคนที่ร่างกายสมบูรณ์ที่สามารถถือดาบได้ทั้งหมดแปดแสนคน และในยูดาห์มีห้าแสนคน
พระยาห์เวห์ลงโทษดาวิด
(1 พศด. 21:7-17)
10 ดาวิดรู้สึกสำนึกผิดขึ้นหลังจากที่เขาได้นับนักรบ และเขาพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าได้ทำบาปอย่างใหญ่หลวงในสิ่งที่ข้าพเจ้าทำไป ตอนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าขอให้พระองค์เอาความผิดของข้าพเจ้าผู้รับใช้ไปด้วยเถิด ข้าพเจ้าได้ทำในสิ่งที่โง่เขลามาก” 11 ในวันรุ่งขึ้นตอนดาวิดตื่น พระยาห์เวห์ส่งคำพูดมาถึงกาดผู้พูดแทนพระเจ้าผู้ที่เห็นนิมิตของดาวิด ให้ไปพูดกับดาวิดว่า 12 “ไปบอกดาวิดว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ พูด เราจะให้ทางเลือกแก่เจ้าสามทาง เลือกมาหนึ่งทางที่เจ้าจะให้เราทำกับเจ้า’”
13 กาดจึงไปพบดาวิดและพูดกับเขาว่า “จะให้สิ่งใดเกิดขึ้นกับท่านบ้างในสามสิ่งนี้ คือ
ความอดอยากหิวโหยสามปี[c] บนแผ่นดินของท่าน
หรือการหลบหนีจากศัตรูของท่านสามเดือนในขณะที่พวกเขาตามล่าท่าน
หรือโรคระบาดบนแผ่นดินของท่านสามวัน
ตอนนี้ คิดให้ดีและตัดสินใจว่า ข้าพเจ้าควรจะตอบผู้ที่ส่งข้าพเจ้ามาว่าอย่างไรดี”
14 ดาวิดพูดกับกาดว่า “เรากำลังทุกข์ทรมานอย่างหนัก ปล่อยให้พวกเราอยู่ในกำมือของพระยาห์เวห์เถิด เพราะความเมตตาของพระองค์ยิ่งใหญ่ แต่อย่าให้เราตกอยู่ในกำมือมนุษย์เลย”
15 พระยาห์เวห์จึงส่งโรคระบาดให้อิสราเอลตั้งแต่เช้าจนกระทั่งสิ้นสุดวันตามที่กำหนดไว้ และมีประชาชนตั้งแต่ดานจนถึงเบเออร์เชบา ล้มตายไปเจ็ดหมื่นคน 16 เมื่อทูตสวรรค์ยื่นมือของตนออกเพื่อทำลายเยรูซาเล็ม พระยาห์เวห์เปลี่ยนใจเรื่องการทำลายนั้น และพูดกับทูตสวรรค์ผู้ที่กำลังทำให้ประชาชนเจ็บป่วยอยู่นั้นว่า “พอแล้ว เก็บมือท่านกลับคืนได้แล้ว” ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์จึงอยู่ที่ลานนวดข้าวของอาราวนาห์[d] ชาวเยบุส
ดาวิดถวายเครื่องบูชาที่ลานนวดข้าว
(1 พศด. 21:18-27)
17 เมื่อดาวิดเห็นทูตสวรรค์ผู้ทำลายประชาชน เขาพูดกับพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าคือคนที่ทำบาปและทำผิดคนนั้น พวกนั้นเป็นเพียงแกะเท่านั้น พวกเขาได้ทำอะไรลงไปเล่า ขอให้มือพระองค์ตกลงมาที่ข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าเถิด”
18 ในวันนั้น กาดไปหาดาวิดและพูดกับเขาว่า “ให้ขึ้นไปสร้างแท่นบูชาให้พระยาห์เวห์ ที่บนลานนวดข้าวของ อาราวนาห์ชาวเยบุสนั้น” 19 ดาวิดจึงขึ้นไปตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งผ่านมาทางกาดถึงเขา 20 เมื่ออาราวนาห์มองเห็นกษัตริย์และคนของเขากำลังตรงมา เขาออกไปและก้มหน้ากราบลงถึงพื้นต่อหน้ากษัตริย์ 21 อาราวนาห์พูดว่า “กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้ามาหาผู้รับใช้ของพระองค์ทำไมหรือ”
ดาวิดตอบว่า “เพื่อที่จะซื้อลานนวดข้าวของเจ้า เราจะได้สร้างแท่นบูชาให้พระยาห์เวห์ โรคระบาดของประชาชนจะได้หายไป”
22 อาราวนาห์พูดกับดาวิดว่า “กษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าจะเอาอะไรก็ได้ตามที่พระองค์พอใจ และไปถวายเครื่องบูชาตามที่ท่านเห็นสมควร นี่คือพวกวัวตัวผู้เอาไว้ใช้เป็นเครื่องเผาบูชา และนี่คือเลื่อนนวดข้าวและแอก เอาไว้ใช้เป็นฟืน 23 ข้าแต่กษัตริย์ ข้าพเจ้าขอยกของทั้งหมดนี้ให้กับกษัตริย์” อาราวนาห์พูดกับกษัตริย์ด้วยว่า “ขอให้พระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน ยอมฟังคำอธิษฐานของท่านเถิด”
24 แต่กษัตริย์ตอบอาราวนาห์ว่า “ไม่ได้หรอก เรายืนกรานที่จะจ่ายเงินให้เจ้า เราจะไม่ถวายเครื่องเผาบูชาที่เราได้มาฟรีๆให้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเรา”
ดาวิดจึงซื้อลานนวดข้าว และซื้อพวกวัวตัวผู้ เป็นเงินมากกว่าครึ่งกิโลกรัม 25 ดาวิดสร้างแท่นบูชาให้พระยาห์เวห์ขึ้นที่นั่นและถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆเพื่อคืนดีกับพระเจ้า แล้วพระยาห์เวห์ก็ตอบรับคำอธิษฐานของเขาสำหรับคนในแผ่นดิน และโรคระบาดในอิสราเอลก็หยุดลง
ดาวิดบาปเพราะนับชาวอิสราเอล
(2 ซมอ. 24:1-25)
21 ซาตานได้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอิสราเอล และยุให้ดาวิดนับประชาชนชาวอิสราเอล 2 ดาวิดได้พูดกับโยอาบและพวกแม่ทัพว่า “ให้ไปนับประชาชนชาวอิสราเอลตั้งแต่เบเออร์เชบาไปจนถึงดาน แล้วกลับมารายงานเรา เราจะได้รู้จำนวนของพวกเขา”
3 แต่โยอาบพูดว่า “ขอให้พระยาห์เวห์เพิ่มจำนวนของประชาชนของพระองค์ขึ้นอีกร้อยเท่าจากที่พวกเขาเป็นอยู่ขณะนี้เถิด ท่านกษัตริย์ คนอิสราเอลทั้งหมดล้วนเป็นคนรับใช้ของท่านมิใช่หรือ ทำไมท่านถึงต้องการทำอย่างนี้ด้วย ทำไมถึงให้สิ่งนี้ต้องกลายเป็นความบาปของชนชาติอิสราเอลด้วยเล่า”
4 แต่กษัตริย์ยังคงยืนกรานคำสั่งที่ให้กับโยอาบไป ดังนั้นโยอาบจึงได้ออกเดินทางไปทั่วทั้งแผ่นดินอิสราเอล แล้วจึงกลับมาเมืองเยรูซาเล็ม 5 โยอาบได้เสนอรายงานการนับประชาชนให้กับดาวิด ชาวอิสราเอลทั้งหมดมีผู้ชายหนึ่งล้านหนึ่งแสนคนที่สามารถใช้ดาบได้ และผู้ชายชาวยูดาห์ที่ใช้ดาบได้มีจำนวนสี่แสนเจ็ดหมื่นคน 6 โยอาบไม่ได้นับชาวเลวีและชาวเบนยามินรวมไปด้วย เพราะเขาไม่ชอบคำสั่งนี้ของกษัตริย์ 7 พระเจ้าก็ไม่พอใจคำสั่งนี้ด้วย ดังนั้นพระองค์จึงลงโทษชาวอิสราเอล
8 ดาวิดพูดกับพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าได้ทำบาปอย่างใหญ่หลวงที่ได้ทำสิ่งนี้ลงไป แต่ตอนนี้ขอโปรดเอาความผิดของข้าพเจ้าผู้รับใช้พระองค์ไปด้วยเถิด เพราะข้าพเจ้าได้ทำตัวโง่เขลาไป”
9 พระยาห์เวห์ได้พูดกับกาด ผู้ที่เห็นนิมิตของดาวิดว่า 10 “ให้ไปบอกกับดาวิดว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า เรามีสามทางให้เจ้าเลือก เลือกมาทางหนึ่ง แล้วเราจะทำกับเจ้าตามนั้น’”
11 ดังนั้น กาดจึงไปพบดาวิดและได้พูดกับเขาว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์พูด เลือกมาอย่างหนึ่ง 12 คือ อดอยากสามปี หรือ วิ่งหนีศัตรูที่เอาดาบไล่ล่าเจ้าสามเดือน หรือสามวันของดาบของพระยาห์เวห์ ซึ่งก็คือโรคระบาดร้ายแรงในแผ่นดินนี้ พร้อมกับทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ที่จะลงมาทำลายล้างประชาชนที่อยู่ทั่วทั้งเขตแดนของชนชาติอิสราเอล ตอนนี้ ให้ท่านคิดดูว่าจะให้ข้าพเจ้านำคำตอบอันไหนไปให้กับผู้ที่ส่งข้าพเจ้ามา”
13 ดาวิดจึงตอบกาดไปว่า “เรากลุ้มใจมาก เราขอตกอยู่ในกำมือของพระยาห์เวห์ เพราะความเมตตาของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่นัก แต่ขออย่าให้เราตกไปอยู่ในกำมือของพวกมนุษย์เลย”
14 ดังนั้นพระยาห์เวห์จึงได้ส่งโรคระบาดร้ายแรงมาสู่ชนชาติอิสราเอลทำให้มีคนตายเจ็ดหมื่นคน 15 และพระเจ้าก็ได้ส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาที่เยรูซาเล็มเพื่อทำลายมัน แต่เมื่อทูตสวรรค์ได้เริ่มต้นการทำลาย พระยาห์เวห์มองดูแล้วก็เปลี่ยนใจไม่ทำลายล้างเยรูซาเล็ม พระองค์พูดกับทูตสวรรค์ที่กำลังทำลายเยรูซาเล็มอยู่นั้นว่า “พอเถิด รามือของท่านเถิด” ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์กำลังยืนอยู่ที่ลานนวดข้าวของโอรนันชาวเยบุส[a]
16 ดาวิดมองขึ้นไปและได้เห็นทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ยืนอยู่ระหว่างสวรรค์กับพื้นโลก มือของท่านชักดาบออกมาและชี้ไปที่เมืองเยรูซาเล็ม แล้วดาวิดกับพวกผู้ใหญ่ที่แต่งกายด้วยผ้ากระสอบ[b] ก็ก้มหน้าลงถึงพื้นดิน 17 ดาวิดพูดกับพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนสั่งให้นับประชาชนพวกนี้เอง ข้าพเจ้าเป็นคนที่ได้ทำบาป และได้ทำความผิดลงไป แต่พวกลูกแกะพวกนี้ได้ทำอะไรผิดเล่า ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า โปรดลงโทษข้าพเจ้ากับครอบครัวของข้าพเจ้าเถิด อย่าไปลงโทษประชาชนของพระองค์ด้วยโรคระบาดร้ายแรงอย่างนี้เลย”
18 (ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์ได้บอกกับกาดให้ไปบอกกับดาวิดให้ไปตั้งแท่นบูชาให้แก่พระยาห์เวห์บนลานนวดข้าวของโอรนันชาวเยบุส 19 ดังนั้น ดาวิดจึงได้ขึ้นไปทำตามคำพูดของกาดซึ่งเขาได้พูดไว้ในนามของพระยาห์เวห์)
20 โอรนันกำลังนวดข้าวสาลีอยู่ เขาได้หันมาเห็นทูตสวรรค์องค์นั้น พวกลูกชายทั้งสี่คนของเขาซึ่งอยู่กับเขาต่างก็วิ่งไปแอบ 21 เมื่อดาวิดมาหาเขา โอรนันเห็นดาวิด เขาก็เดินออกมาจากลานนวดข้าว ก้มลงกราบดาวิดจนหน้าจดพื้น
22 ดาวิดพูดกับโอรนันว่า “ขายลานนวดข้าวแห่งนี้ให้กับเราเถิด ขายให้กับเราเต็มราคาเลย เราจะได้สร้างแท่นบูชาให้แก่พระยาห์เวห์ขึ้นที่นี่ เพื่อที่ว่าโรคระบาดร้ายแรงจะได้หายไปจากประชาชน”
23 แล้วโอรนันก็ตอบดาวิดไปว่า “รับมันไปเถิด ขอให้กษัตริย์ผู้เป็นนายของข้าพเจ้าทำในสิ่งที่ท่านเห็นว่าดีเถิด ข้าพเจ้ายังจะให้วัวผู้อีกหลายตัวเป็นเครื่องเผาบูชา ให้เลื่อนนวดข้าวเป็นฟืน และให้ข้าวสาลีเพื่อเป็นเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช ข้าพเจ้าขอมอบทั้งหมดนี้ให้”
24 แต่กษัตริย์ดาวิดได้พูดกับโอรนันว่า “อย่าเลย เราจะขอซื้อของเหล่านี้เต็มราคา เพราะเราจะไม่เอาของๆท่านมาถวายบูชาพระยาห์เวห์ และเราจะไม่ยอมบูชาเครื่องเผาบูชาที่เราได้มาฟรีๆ”
25 ดังนั้น ดาวิดจึงจ่ายโอรนันไปด้วยทองคำหนักเจ็ดกิโลกรัม[c] เป็นค่าสถานที่ 26 แล้วดาวิดก็ได้สร้างแท่นบูชาขึ้นแท่นหนึ่งที่นั่นให้กับพระยาห์เวห์ และได้บูชาเครื่องเผาบูชากับเครื่องบูชาอื่นๆเพื่อคืนดีกับพระเจ้า ดาวิดได้เรียกพระยาห์เวห์ และพระองค์ก็ได้ตอบเขาด้วยไฟจากสวรรค์ที่ลงมาบนแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชานั้น 27 แล้วพระยาห์เวห์ได้สั่งทูตสวรรค์องค์นั้นให้เก็บดาบของท่านเข้าฝัก
28 ในเวลานั้น ดาวิดเห็นว่าพระยาห์เวห์ตอบรับเขาแล้วที่ลานนวดข้าวของโอรนันชาวเยบุส หลังจากที่เขาได้ถวายเครื่องบูชาให้กับพระองค์ที่นั่น 29 (ขณะนั้น เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ที่โมเสสได้สร้างขึ้นในทะเลทราย และแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชาอยู่ในสถานที่สูงที่กิเบโอน 30 แต่ดาวิดไม่สามารถไปอยู่ต่อหน้าแท่นนั้นเพื่อขอคำปรึกษาจากพระเจ้าได้ เพราะเขาเกรงกลัวดาบของทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์)
22 ดาวิดพูดว่า “สถานที่นี้จะได้เป็นบ้าน[d] ของพระยาห์เวห์ผู้เป็นพระเจ้าและนี่จะเป็นแท่นสำหรับเครื่องเผาบูชาของชาวอิสราเอล”
ดาวิดวางแผนสำหรับการสร้างวิหาร
2 ดาวิดได้สั่งให้รวบรวมชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอิสราเอล และได้แต่งตั้งพวกเขาให้เป็นช่างตัดหิน[e] เพื่อไปตัดหินมาใช้สร้างวิหารที่จะเป็นบ้านของพระเจ้า 3 ดาวิดยังได้จัดเตรียมเหล็กจำนวนมากเพื่อใช้เป็นตะปู และบานพับสำหรับบานประตู เหล็กหนีบและใช้ทองสัมฤทธิ์จำนวนมากมายมหาศาลเกินกว่าที่จะชั่งน้ำหนักได้ 4 และใช้ไม้ซุงจากสนซีดาร์จำนวนมากจนไม่สามารถนับได้ เพราะชาวไซดอนและชาวไทระได้ส่งไม้ซุงจากสนซีดาร์จำนวนมากมายมาให้ดาวิด
5 ดาวิดคิดว่า “ซาโลมอนลูกชายของเรายังเด็กและยังไม่ประสีประสา และบ้านที่จะสร้างให้กับพระยาห์เวห์ต้องยิ่งใหญ่ รุ่งโรจน์และมีชื่อเสียงไปทั่วทุกประเทศ ดังนั้นเราจะต้องเตรียมการไว้ให้” แล้วดาวิดก็ได้จัดเตรียมสิ่งที่จะต้องใช้ในการก่อสร้างไว้มากมายก่อนที่เขาจะตาย
6 เขาได้เรียกตัวซาโลมอนลูกชายของเขาเข้ามา และสั่งเขาให้สร้างบ้านให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล 7 ดาวิดพูดกับซาโลมอนว่า “ลูกเอ๋ย พ่อเองตั้งใจที่จะสร้างบ้านให้กับชื่อของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพ่อ 8 แต่พระยาห์เวห์ได้ส่งข่าวมาถึงพ่อว่า ‘เจ้าได้ฆ่าคนไปมากมายและตัวเจ้าเองก็ได้ต่อสู้ในสงครามหลายครั้ง ดังนั้นเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้ที่สร้างบ้านให้กับชื่อของเรา เพราะเจ้าได้ทำให้เลือดมากมายต้องไหลนองบนแผ่นดินต่อหน้าเรา 9 ดูเถิด ลูกชายคนหนึ่งของเจ้าจะเกิดมาจากเจ้า เขาจะได้เป็นคนแห่งสันติภาพ และเราจะให้เขาได้หยุดพักจากการสู้รบกับศัตรูรอบด้าน เพราะเขาจะมีชื่อว่าซาโลมอน[f] และเราจะให้เกิดสันติภาพและความสงบสุขกับชนชาติอิสราเอลในช่วงเวลาของเขา 10 เขาจะได้สร้างบ้านให้กับชื่อของเรา และจะได้เป็นลูกชายของเรา และเราก็จะเป็นพ่อของเขา เราจะทำให้บัลลังก์ของอาณาจักรของเขามั่นคงอยู่เหนือชนชาติอิสราเอลตลอดไป’
11 ตอนนี้ ลูกพ่อ ขอให้พระยาห์เวห์อยู่กับลูก เพื่อที่ลูกจะได้ประสบความสำเร็จและได้สร้างบ้านของพระยาห์เวห์พระเจ้าของลูก เหมือนกับที่พระองค์ได้พูดไว้เกี่ยวกับตัวลูก 12 ขอเพียงพระยาห์เวห์มอบสติปัญญาและความเข้าใจให้กับลูก เมื่อพระองค์วางลูกไว้อยู่เหนือชนชาติอิสราเอลเพื่อว่าลูกจะได้เชื่อฟังกฎของพระยาห์เวห์พระเจ้าของลูก 13 แล้วลูกจะประสบความสำเร็จถ้าลูกระมัดระวังที่จะทำตามคำสั่งสอนและกฏที่พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้กับโมเสสเพื่อชนชาติอิสราเอล ให้ลูกเข้มแข็งและกล้าหาญไว้ อย่าได้กลัวหรือท้อถอย
14 ดูเถิด พ่อได้ทำงานหนักเพื่อเตรียมของไว้สำหรับบ้านของพระยาห์เวห์ มีทองคำประมาณสามพันสี่ร้อยห้าสิบตัน[g] เงินประมาณสามหมื่นสี่พันห้าร้อยตัน และทองสัมฤทธิ์กับเหล็กอีกมากมายจนนับไม่ถ้วน ยังมีไม้และก้อนหินด้วย ลูกจะเพิ่มเติมลงไปอีกก็ได้ 15 ลูกก็มีคนงานมากมายอยู่แล้ว มีทั้งช่างตัดหิน ช่างก่อตึก ช่างไม้และช่างฝีมือประเภทอื่นอีกจำนวนมาก 16 พวกเขาล้วนแต่มีความชำนาญในด้านการใช้ทองคำ เงิน ทองสัมฤทธิ์และเหล็ก ลูกก็มีคนที่ชำนาญงานมากมายจนนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว ให้ลงมือทำงานเถิด และขอให้พระยาห์เวห์สถิตอยู่กับลูก”
17 ดาวิดได้สั่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดของอิสราเอลให้คอยช่วยเหลือซาโลมอนลูกชายของเขา ดาวิดสั่งว่า 18 “พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านสถิตอยู่กับพวกท่านไม่ใช่หรือ และพระองค์ก็ได้ให้สันติภาพกับพวกท่านในทุกด้านแล้วไม่ใช่หรือ เพราะพระองค์ได้มอบคนในแผ่นดินนี้ให้อยู่ในมือเรา และเราก็ได้ชัยชนะเหนือแผ่นดินนี้ต่อหน้าพระยาห์เวห์และประชาชนของพระองค์ 19 ตอนนี้ ให้ตั้งจิตตั้งใจแสวงหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ให้ลุกขึ้นและสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระยาห์เวห์ผู้เป็นพระเจ้า[h] เพื่อว่าหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ และของศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของพระองค์จะได้มาอยู่ในบ้านที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติกับชื่อของพระองค์”
เพลงขอบพระคุณที่รอดตาย
เพลงสดุดีของดาวิด บทเพลงที่ใช้ในการอุทิศวิหาร
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ดึงข้าพเจ้าออกมาจากหลุมลึก
พระองค์ไม่ได้ปล่อยให้พวกศัตรูของข้าพเจ้าได้เฉลิมฉลองกัน
2 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
แล้วพระองค์ก็รักษาเยียวยาข้าพเจ้า
3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ยกข้าพเจ้าออกมาจากหลุมศพ
พระองค์รักษาชีวิตของข้าพเจ้าไว้และไม่ให้ข้าพเจ้าตกลงไปในหลุมแห่งความตาย
4 ท่านทั้งหลายที่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ ให้ร้องเพลงสรรเสริญต่อพระยาห์เวห์
ให้ขอบพระคุณแด่ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
5 ความโกรธเกรี้ยวของพระองค์อยู่เพียงชั่วคราว
แต่ความปรานีของพระองค์นำชีวิตมาให้
เราอาจจะร้องไห้ในยามค่ำคืน
แต่ในวันรุ่งขึ้น เราจะชื่นบาน
6 ในยามที่ข้าพเจ้ามั่นคงปลอดภัย
ข้าพเจ้าคิดว่า ไม่มีอะไรสั่นคลอนข้าพเจ้าได้
7 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ตอนที่พระองค์ปรานีต่อข้าพเจ้า
พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามั่นคงเหมือนภูเขา
แต่ตอนที่พระองค์ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าก็กลัวจนตัวสั่น
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
ข้าพเจ้าร้องขอความเมตตากรุณาจากพระองค์
9 ข้าพเจ้าพูดว่า ถ้าข้าพเจ้าตายไป มันจะมีประโยชน์อะไรหรือ
พวกที่อยู่ในหลุมศพจะสรรเสริญพระองค์ได้หรือ
พวกเขาจะพูดกันถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์ได้หรือ
10 ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดฟังคำร้องขอของข้าพเจ้าและแสดงความเมตตากรุณาต่อข้าพเจ้า
ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดเป็นผู้ช่วยของข้าพเจ้าด้วยเถิด
11 แล้วพระองค์ก็เปลี่ยนการคร่ำครวญของข้าพเจ้าให้กลายเป็นการโลดเต้น
พระองค์ถอดเสื้อผ้าไว้ทุกข์ของข้าพเจ้าออกและเอาความสุขมาสวมใส่ข้าพเจ้าแทน
12 เพื่อข้าพเจ้าจะได้ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ไม่นิ่งเงียบอีกต่อไป
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International