Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
สดุดี 1-2

หนังสือเล่มที่หนึ่ง

(สดุดี 1-41)

คนดีและคนชั่ว

คนอย่างนี้มีเกียรติจริงๆคือ
    คนที่ไม่ทำตามคำแนะนำของคนชั่ว
คนที่ไม่เดินในทางของคนผิดบาป
    คนที่ไม่เข้าไปนั่งอยู่ในที่ของคนที่หยิ่งยโส
แต่ เขามีความสุขในคำสอนของพระยาห์เวห์
    เขาเฝ้าครุ่นคิดถึงแต่คำสอนของพระองค์ทั้งวันทั้งคืน
เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ
    ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล ใบจะไม่เหี่ยวเฉา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ จะประสบผลสำเร็จ

แต่คนชั่วจะไม่เป็นอย่างนั้น
    พวกเขาจะเป็นเหมือนแกลบที่ลมพัดปลิวฟุ้งไป
ดังนั้น คนชั่วจะไม่รอดในวันแห่งการพิพากษา
    พวกคนบาปจะไม่มีส่วนในชุมชนของพวกคนบริสุทธิ์
เพราะพระยาห์เวห์ เฝ้าดูแลทางของคนบริสุทธิ์
    แต่ทางของคนชั่วจะนำไปสู่ความพินาศ

กษัตริย์ที่พระยาห์เวห์ทรงเลือก

ทำไมชนชาติอื่นๆถึงชุลมุนวุ่นวายเหลือเกิน
    ทำไมคนเหล่านั้นถึงวางแผนโง่ๆ
พวกกษัตริย์ในโลกต่างเตรียมพร้อมรบ
    พวกผู้นำของประเทศเหล่านั้น
    ร่วมกันต่อต้านพระยาห์เวห์และกษัตริย์ที่พระองค์ทรงเลือกไว้[a]
พวกเขาพูดว่า “ให้พวกเราหักโซ่ตรวนที่พระยาห์เวห์และกษัตริย์ของพระองค์ได้เอามามัดเราไว้
    และโยนมันทิ้งไป”

แต่องค์เจ้าชีวิตนั่งอยู่บนสวรรค์
    พระองค์หัวเราะเยาะใส่พวกเขา
แล้ว พระองค์ ก็ต่อว่าพวกเขาด้วยความเกรี้ยวกราด
    จนทำให้พวกนั้นตกใจขวัญกระเจิง
พระองค์พูดว่า
“เราได้แต่งตั้งกษัตริย์ที่เราได้เลือกมาไว้บนศิโยน ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา”

กษัตริย์องค์นี้พูดว่า “ให้เราอธิบายให้เจ้าฟัง ถึงประกาศิตของพระยาห์เวห์
    พระองค์บอกกับเราว่า ‘เจ้าคือลูกชายของเรา ในวันนี้ เราได้เป็นพ่อของเจ้าแล้ว’
แค่ขอเรามา แล้วเราจะมอบชนชาติต่างๆให้กับเจ้าเป็นมรดก
    เราจะมอบโลกทั้งโลกให้เจ้าเป็นเจ้าของ
เจ้าจะทำลายชนชาติเหล่านั้นด้วยกระบองเหล็ก
    เจ้าจะฟาดพวกเขา ให้แตกกระจายเหมือนหม้อดิน”

10 ตอนนี้ พวกเจ้า กษัตริย์ทั้งหลาย ให้ฉลาดขึ้น
    พวกผู้นำทั้งหลาย ให้ฟังคำตักเตือนของเรา
11-12 ให้รับใช้พระยาห์เวห์ด้วยความเคารพยำเกรง
    ให้กราบลงต่อหน้าพระองค์ด้วยตัวสั่นเทิ้ม
ไม่อย่างนั้นพระองค์จะโกรธ แล้วเจ้าจะต้องพินาศทันที
    ให้ทำอย่างนี้ เพราะความโกรธของพระองค์ลุกเป็นไฟได้ในพริบตา

คนที่ลี้ภัยในพระองค์นั้น ก็เป็นคนที่มีเกียรติจริงๆ

สดุดี 15

คนที่พระยาห์เวห์ต้อนรับ

เพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระยาห์เวห์ ใครจะได้มาเป็นแขกในเต็นท์[a] ของพระองค์
    ใครจะได้มาอาศัยบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

คือคนเหล่านั้นที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีที่ติ
    ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง พูดความจริงจากใจ
ไม่ใช้ลิ้นใส่ร้ายป้ายสี ไม่ทำผิดต่อเพื่อน
    ไม่ด่าเพื่อนบ้าน
รังเกียจคนชั่วที่พระเจ้าไม่ยอมรับ
    ยกย่องคนที่ยำเกรงพระเจ้า
ทำตามสิ่งที่เขาได้สัญญาไว้แม้จะทำให้เขาเดือดร้อนก็ตาม
ไม่คิดดอกเบี้ยเมื่อให้ยืมเงิน
    ไม่ยอมรับสินบนเพื่อปรักปรำคนบริสุทธิ์

คนที่ทำอย่างนี้จะยืนหยัดมั่นคงเสมอ

สดุดี 22-24

คำอธิษฐานของคนที่ทนทุกข์ทรมาน

ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องตามทำนองกวางในยามรุ่งเช้า[a] เพลงสดุดีของดาวิด

พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์ถึงได้ละทิ้งข้าพเจ้าเสีย
    ทำไมพระองค์ถึงได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้าเสียเหลือเกิน
    ทำไมไม่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด ทำไมไม่ได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า
พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์ตลอดทั้งวัน แต่พระองค์ก็ไม่ตอบข้าพเจ้า
    และข้าพเจ้าก็ยังร้องเรียกต่อไปตลอดทั้งคืน ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับการบรรเทาทุกข์

แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ยังเป็นองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์
    พระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ และชาวอิสราเอลสรรเสริญพระองค์
บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์
    และพระองค์ช่วยกู้พวกเขา
พวกเขาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์
    พวกเขาวางใจในพระองค์ พวกเขาจึงไม่ผิดหวัง

ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวหนอน ไม่ใช่คน
    ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูถูก มันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูหมิ่น
ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้า ต่างก็เย้ยหยันข้าพเจ้า
    พวกเขาพากันทำหน้าและส่ายหัวใส่ข้าพเจ้า
แล้วพูดว่า
“เขาวางใจในพระยาห์เวห์ไม่ใช่หรือ ให้พระยาห์เวห์ช่วยให้เขารอดสิ
    ถ้าพระยาห์เวห์ชื่นชอบเขา ก็ให้พระยาห์เวห์ปลดปล่อยเขาสิ”

พระเจ้าของข้าพเจ้า ความจริงแล้ว พระองค์คือผู้ที่ดึงข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์
    พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัยในอ้อมอกของแม่
10 ตอนที่ข้าพเจ้าเกิดมา ข้าพเจ้าก็ถูกวางไว้ในอ้อมแขนของพระองค์แล้ว
    พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าคลอดออกมาจากท้องแม่แล้ว
11 ดังนั้น โปรดอย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
    เพราะความทุกข์ยากอยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้า และก็ไม่มีใครช่วยด้วย

12 มีวัวตัวผู้จำนวนมากที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่
    วัวตัวผู้ที่ดุร้ายของบาชานกำลังรายล้อมข้าพเจ้าอยู่
13 พวกมันอ้าปากกว้างใส่ข้าพเจ้า
    เหมือนกับสิงโตที่กำลังร้องคำรามฉีกกินเหยื่อของมัน

14 กำลังของข้าพเจ้าถูกเทออกเหมือนน้ำ
    กระดูกของข้าพเจ้าหลุดออกจากข้อ
จิตใจของข้าพเจ้าได้หลอมละลาย
    เหมือนขี้ผึ้งภายในตัวข้าพเจ้า
15 พละกำลังของข้าพเจ้าเหือดแห้งไปเหมือนหม้อดินแตก
    ลิ้นของข้าพเจ้าจุกอยู่ที่เพดานปาก
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์วางข้าพเจ้าไว้ในฝุ่นของหลุมศพ

16 พวกหมาได้รายล้อมข้าพเจ้าไว้
    กลุ่มคนชั่วร้ายได้รุมล้อมข้าพเจ้าไว้
พวกมันได้แทงมือแทงเท้าของข้าพเจ้า[b]
17 ข้าพเจ้าผ่ายผอมจนนับกระดูกของข้าพเจ้าได้หมด
    พวกเขาจ้องมองข้าพเจ้าตาเขม็ง
18 พวกเขาก็เอาพวกเสื้อผ้าของข้าพเจ้ามาแบ่งปันกัน
    พวกเขาเอาชุดของข้าพเจ้ามาจับสลากว่าใครจะได้

19 ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้อยู่ห่างไกลข้าพเจ้า
    พระองค์ผู้เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า รีบมาช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด
20 ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคมดาบ
    ช่วยชีวิตเดียวที่ข้าพเจ้ามีอยู่จากฝูงหมาพวกนั้นด้วยเถิด
21 ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากปากสิงโต
    พ้นจากคมเขาของฝูงวัวกระทิงเปลี่ยวด้วยเถิด พระองค์ได้ตอบข้าพเจ้าแล้ว

22 ดังนั้นข้าพเจ้าจะบอกพี่น้องของข้าพเจ้าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์
    ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
23 พวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของยาโคบ ถวายเกียรติให้กับพระองค์เถิด
    พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล ยำเกรงพระองค์เถิด
24 เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจความทุกข์ของคนที่เดือดร้อนคนนี้
    พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
    แต่เมื่อข้าพเจ้าร้องให้พระองค์ช่วย พระองค์ฟังข้าพเจ้า

25 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมใหญ่สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ
    ข้าพเจ้าจะถวายพวกเครื่องบูชาแก้บนต่อหน้าคนทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์
26 คนยากจนทั้งหลาย มาเถิด มากินเครื่องบูชาแก้บนเหล่านั้นให้อิ่มหนำสำราญ
    พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
    และขอให้จิตใจของพวกเจ้ามีความสุขตลอดไป
27 ขอให้คนทั่วทุกมุมโลก ระลึกถึงพระยาห์เวห์และหันมาหาพระองค์
    ขอให้คนทุกชาติ ก้มกราบนมัสการต่อหน้าพระองค์
28 เพราะพระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
    และครอบครองอยู่เหนือชนชาติทั้งหลาย

29 คนเหล่านั้นที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง จะกินเลี้ยงกันและก้มกราบลงต่อหน้าพระองค์
    ส่วนคนที่กำลังจะตายกลับไปสู่ผงธุลีดิน และแม้แต่คนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วก็จะก้มกราบลงต่อหน้าพระเจ้าเหมือนกัน
30 เหล่าลูกหลานของพวกเขาจะรับใช้พระองค์
    คนจะพากันพูดถึงชื่อเสียงขององค์เจ้าชีวิตให้กับคนรุ่นหลังฟัง
31 พวกเขาจะเล่าให้กับคนรุ่นหลังที่ยังไม่ได้เกิดมา
    ฟังเกี่ยวกับการช่วยกู้ที่พระองค์ได้ทำไป

พระยาห์เวห์เป็นผู้เลี้ยงแกะ

เพลงสดุดีของดาวิด

พระยาห์เวห์เลี้ยงดูข้าพเจ้าเหมือนเลี้ยงแกะ
    ดังนั้น ข้าพเจ้าไม่ขาดอะไรเลย
พระองค์นำข้าพเจ้าไปนอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี
    พระองค์นำข้าพเจ้าไปยังลำธารที่สงบเงียบ
พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ากลับมีเรี่ยวแรงเหมือนเดิม
    พระองค์นำข้าพเจ้าเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องทั้งหลายเพื่อรักษาชื่อเสียงที่ดีของพระองค์

แม้ในยามที่ข้าพเจ้าเดินไปตามหุบเขาที่มืดมิดอย่างความตาย[c]
    ข้าพเจ้าก็ไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆทั้งนั้น
เพราะพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า
    ไม้กระบองและไม้เท้าเลี้ยงแกะของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัย

พระองค์จัดโต๊ะสำหรับข้าพเจ้าต่อหน้าพวกศัตรูของข้าพเจ้า
    พระองค์ต้อนรับข้าพเจ้าอย่างแขกผู้มีเกียรติ[d] ถ้วยของข้าพเจ้าเต็มจนเอ่อล้น
ความดีและความรักมั่นคงของพระองค์ จะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
    และข้าพเจ้าจะอาศัยอยู่ในบ้านของพระยาห์เวห์ไปนานแสนนาน

การเข้าสู่วิหาร

เพลงสดุดีของดาวิด

พระยาห์เวห์เป็นเจ้าของแผ่นดินโลกนี้และทุกอย่างที่อยู่ในมัน
    พระองค์เป็นเจ้าของโลกนี้และมนุษย์ทุกคนที่อาศัยอยู่บนมัน
ด้วยว่า พระองค์ คือผู้ที่ได้ตั้งแผ่นดินโลกนี้ไว้บนน้ำ
    พระองค์สร้างมันไว้อย่างมั่นคงบนมหาสมุทร

ใครเล่าจะขึ้นไปบนภูเขาของพระยาห์เวห์ได้
    ใครเล่าจะยืนในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้
ก็มีแต่คนมือสะอาดและใจบริสุทธิ์
    คนที่ไม่ได้รักการโกหก[e] คนที่ไม่ได้ผิดคำสาบาน
คนอย่างนี้จะได้รับพระพรจากพระยาห์เวห์ พระเจ้าจะช่วยคนอย่างนี้ให้รอด
    และประกาศว่า “เขาเป็นฝ่ายถูก”
คนพวกนี้แหละที่แสวงหาพระเจ้าอย่างแท้จริง
    พวกนี้แหละที่สามารถเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระเจ้าของยาโคบ[f] ได้ เซลาห์

ประตูทั้งหลาย ยกหัวของเจ้าขึ้นมา
    ประตูโบราณเอ๋ย เปิดออก
    เพื่อกษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีจะได้เข้ามา
กษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีองค์นี้คือใครกัน
    คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงพลังและแข็งแกร่งเกรียงไกร
    คือพระยาห์เวห์ นักรบผู้แข็งแกร่งเกรียงไกร
ประตูทั้งหลาย ยกหัวของเจ้าขึ้นมา
    ประตูโบราณเอ๋ย เปิดออกเถิด
    เพื่อกษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีจะได้เข้ามา
10 กษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีองค์นี้คือใครกัน
    คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
    พระองค์คือกษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีองค์นั้น เซลาห์

สดุดี 47

พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์เหนือชนชาติทั้งหลาย

ถึงหัวหน้านักร้อง สำหรับคนของตระกูลโคราห์ บทเพลงสดุดี

ชนชาติทั้งหลายให้ปรบมือ
    โห่ร้องยินดีต่อพระเจ้า
เพราะ พระยาห์เวห์ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดน่าเกรงขามยิ่งนัก
    พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองทั้งโลกนี้
พระองค์ทำให้ชนชาติต่างๆอยู่ใต้อำนาจของพวกเรา
    พระองค์ปราบชนชาติต่างๆนั้นให้สยบอยู่แทบเท้าของพวกเรา
พระองค์เลือกแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของพวกเรา
    แผ่นดินนี้เป็นความภาคภูมิใจของยาโคบผู้ที่พระองค์รัก เซลาห์

พระเจ้าขึ้นบนบัลลังก์ของพระองค์ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี
    พระยาห์เวห์ขึ้นพร้อมกับเสียงเป่าแตรเขาแกะ
ร้องเพลงสรรเสริญแด่พระเจ้า ร้องเพลงสรรเสริญเถิด
    ร้องเพลงสรรเสริญแด่กษัตริย์ของพวกเรา ร้องเพลงสรรเสริญเถิด
เพราะพระเจ้าคือกษัตริย์ของทั้งโลก
    ดังนั้น มาร้องเพลงอันไพเราะ[a] ถวายเกียรติแด่พระองค์เถิด

พระเจ้าปกครองอย่างกษัตริย์เหนือทุกชนชาติ
    พระเจ้านั่งอยู่บนบัลลังก์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พวกผู้นำของชนชาติต่างๆมารวมตัวกันกับคนของพระเจ้าของอับราฮัม[b]
    เพราะพวกผู้ครอบครองของโลกนี้อยู่ภายใต้อำนาจของพระเจ้า
    พระเจ้าคือผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด

สดุดี 68

ขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระเจ้า

ถึงหัวหน้านักร้อง บทเพลงสดุดีของดาวิด

ข้าแต่พระเจ้า ลุกขึ้นเถิด และทำให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป
    ขอให้คนที่เกลียดชังพระองค์วิ่งหนีไปจากพระองค์
ไล่พวกเขาไป เหมือนลมไล่ควัน
    ขอให้คนชั่วพินาศไปต่อหน้าพระเจ้า
    เหมือนกับขี้ผึ้งหลอมละลายต่อหน้าไฟ
ขอให้คนดีมีความสุขและชื่นชมยินดีต่อหน้าพระเจ้า
    ขอให้พวกเขาเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข

ร้องเพลงแด่พระเจ้า และสรรเสริญชื่อของพระองค์ด้วยบทเพลง
    สรรเสริญพระองค์ผู้ที่ขี่อยู่บนหมู่เมฆ[a]
ให้ชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ผู้มีชื่อว่า “ยาห์เวห์”

พระเจ้าผู้สถิตอยู่ในที่พักอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
    พระองค์เป็นพ่อของเด็กกำพร้าและเป็นผู้ปกป้องบรรดาหญิงหม้าย
พระองค์จัดให้ผู้โดดเดี่ยวเดียวดายเข้าไปอยู่ในครอบครัว
    พระองค์ให้เสรีภาพกับนักโทษและทำให้พวกเขาเจริญรุ่งเรือง
    แต่คนที่กบฏต่อพระองค์นั้นจะต้องอาศัยอยู่ในถิ่นที่แผดเผาแห้งแล้ง

ข้าแต่พระเจ้า ในยามที่พระองค์นำพาประชาชนของพระองค์ออกจากอียิปต์
    เมื่อพระองค์เดินลุยเข้าไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง เซลาห์
โลกก็สั่นไหว ท้องฟ้าก็เทฝนลงมา
    ต่อหน้าพระเจ้าแห่งภูเขาซีนาย
    ต่อหน้าพระเจ้าแห่งอิสราเอล
พระองค์ทำให้ฝนตกลงมาอย่างเหลือเฟือบนแผ่นดินของพระองค์
    พระองค์ฟื้นฟูดินแดนที่หมดสภาพขึ้นมาใหม่
10 คนของพระองค์มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่น
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับคนยากจนเหล่านั้น

11 องค์เจ้าชีวิตออกคำสั่งรบ
    และคนจำนวนมากกระจายข่าวแห่งชัยชนะออกไปว่า
12 “พวกกษัตริย์ของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งกองทัพของพวกเขาหนีไปแล้ว
    และตอนนี้พวกผู้หญิงของอิสราเอลก็แบ่งทรัพย์สมบัติที่ยึดมาได้กัน
13 แม้แต่พวกเจ้าที่เฝ้าอยู่ที่บ้านคอยดูแลฝูงแกะ
    ก็จะได้รับนกเขาเหล็กที่มีปีกเคลือบด้วยเงิน
    และขนนกที่เคลือบทองคำเป็นประกาย”
14 สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อพระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้ทำให้พวกกษัตริย์เหล่านั้นแตกกระเจิงไป
    เหมือนหิมะที่กระจายไปทั่วทั้งภูเขาศัลโมน

15 ภูเขาบาชานเป็นภูเขาที่ทรงพลังยิ่งใหญ่
    ที่มียอดเขามากมาย
16 ภูเขาที่มียอดมากมายเอ๋ย
    ทำไมพวกเจ้าถึงได้มองอย่างอิจฉาริษยา
ต่อภูเขาที่พระเจ้าเลือกเป็นที่พักของพระองค์
    เป็นที่ที่พระยาห์เวห์จะสถิตตลอดไป

17 องค์เจ้าชีวิตเสด็จมาจากภูเขาซีนาย
    พร้อมกับรถม้าอันทรงพลังเป็นหมื่นเป็นแสน
    เข้าไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
18 พระยาห์เวห์ ผู้เป็นพระเจ้า พระองค์ขึ้นไปบนที่สูง
    และนำขบวนหมู่เชลยตามไปด้วย
    พระองค์รับของขวัญจากผู้คน[b] รวมทั้งคนที่เคยต่อต้านพระองค์ด้วย
    พระองค์ขึ้นไปอาศัยอยู่ที่นั่น
19 สรรเสริญองค์เจ้าชีวิต
    พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา
    ผู้ที่แบกภาระของพวกเราทุกๆวัน เซลาห์

20 พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าผู้ช่วยกู้พวกเรา
    พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ช่วยให้เรารอดพ้นจากความตาย
21 แต่พระเจ้าบดขยี้หัวของพวกศัตรูของพระองค์
    พระองค์บดขยี้กะโหลกคนเหล่านั้นที่ยังคงเดินอยู่ในความผิดบาปของเขา
22 องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
    “เราจะนำศัตรูเหล่านั้นมาจากบาชาน และมาจากก้นทะเลลึก
23 เพื่อเจ้าจะได้เหยียบย่ำเลือดของพวกนั้น
    และหมาของพวกเจ้าจะได้เลียกินส่วนแบ่งของพวกมันจากเลือดของศัตรูพวกนั้น”

24 ข้าแต่พระเจ้า คนเห็นขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระองค์
    พวกนั้นได้เห็นขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ของข้าพเจ้าที่กำลังแห่เข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
25 นำหน้าด้วยพวกนักร้อง ตามหลังด้วยเหล่านักดนตรี
    ในท่ามกลางหญิงสาวที่เล่นกลองรำมะนาอันเล็ก
26 สรรเสริญพระเจ้าในที่ชุมนุมเถิด
    ลูกหลานของอิสราเอลเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
27 ดูนั่นสิ เผ่าน้อยๆของเบนยามินเดินนำหน้า
    พร้อมทั้งพวกผู้นำของยูดาห์จำนวนมาก
    พวกผู้นำของเศบูลุน รวมทั้งพวกผู้นำของนัฟทาลี

28 พระเจ้าออกคำสั่งว่า เจ้าอิสราเอลจะมีอำนาจ
    ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ช่วยเราในอดีตยังไง โปรดแสดงอำนาจของพระองค์ให้เราได้เห็นอีกครั้งอย่างนั้น
29 จากวิหารของพระองค์ ที่อยู่ในเยรูซาเล็ม
    แล้วกษัตริย์ทั้งหลายก็จะนำเครื่องบรรณาการมาถวายแด่พระองค์
30 ข้าแต่พระเจ้า สั่งประจัญบานเลย ลุยเข้าไปรบกับสัตว์ร้ายที่อยู่ในพงอ้อ[c]
    และกับชนชาติทั้งหลายที่รวมตัวกันเหมือนฝูงลูกวัวที่มีพวกวัวผู้นำอยู่
    ขอให้พวกเขาถ่อมตัวลงและนำเงินมาเป็นเครื่องบรรณาการถวายต่อพระองค์
    ขอให้ชนชาติเหล่านั้นที่กระหายสงครามถูกทำให้แตกกระเจิดกระเจิงไป
31 พวกที่ถือเครื่องบรรณาการ จะมาจากอียิปต์
    ส่วนชาวเอธิโอเปีย จะรีบเร่งนำของขวัญมาให้กับพระองค์
32 อาณาจักรทั้งหลายบนโลกเอ๋ย ให้ร้องเพลงให้กับพระเจ้าเถิด
    สรรเสริญองค์เจ้าชีวิตด้วยบทเพลงสดุดีเถิด เซลาห์

33 ร้องเพลงแด่พระเจ้า ผู้ขี่รถม้าข้ามฟ้าสวรรค์ที่มีมาแต่โบราณกาล
    พระองค์เปล่งเสียงอันทรงพลังก้องกังวาน
34 ประกาศว่าพระเจ้านั้นทรงพลัง
    พระบารมีของพระองค์ปกครองอยู่เหนืออิสราเอล
    และพลังอำนาจของพระองค์ปกครองอยู่เหนือฟ้าสวรรค์
35 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์นั้นน่าเกรงขามในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
    พระเจ้าแห่งอิสราเอล
    พระองค์เป็นผู้ที่มอบฤทธิ์อำนาจและพละกำลังแก่ประชาชนของพระองค์

สรรเสริญพระเจ้า

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International