Chronological
หนังสือเล่มที่หนึ่ง
(สดุดี 1-41)
คนดีและคนชั่ว
1 คนอย่างนี้มีเกียรติจริงๆคือ
คนที่ไม่ทำตามคำแนะนำของคนชั่ว
คนที่ไม่เดินในทางของคนผิดบาป
คนที่ไม่เข้าไปนั่งอยู่ในที่ของคนที่หยิ่งยโส
2 แต่ เขามีความสุขในคำสอนของพระยาห์เวห์
เขาเฝ้าครุ่นคิดถึงแต่คำสอนของพระองค์ทั้งวันทั้งคืน
3 เขาเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารน้ำ
ซึ่งเกิดผลตามฤดูกาล ใบจะไม่เหี่ยวเฉา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ จะประสบผลสำเร็จ
4 แต่คนชั่วจะไม่เป็นอย่างนั้น
พวกเขาจะเป็นเหมือนแกลบที่ลมพัดปลิวฟุ้งไป
5 ดังนั้น คนชั่วจะไม่รอดในวันแห่งการพิพากษา
พวกคนบาปจะไม่มีส่วนในชุมชนของพวกคนบริสุทธิ์
6 เพราะพระยาห์เวห์ เฝ้าดูแลทางของคนบริสุทธิ์
แต่ทางของคนชั่วจะนำไปสู่ความพินาศ
กษัตริย์ที่พระยาห์เวห์ทรงเลือก
1 ทำไมชนชาติอื่นๆถึงชุลมุนวุ่นวายเหลือเกิน
ทำไมคนเหล่านั้นถึงวางแผนโง่ๆ
2 พวกกษัตริย์ในโลกต่างเตรียมพร้อมรบ
พวกผู้นำของประเทศเหล่านั้น
ร่วมกันต่อต้านพระยาห์เวห์และกษัตริย์ที่พระองค์ทรงเลือกไว้[a]
3 พวกเขาพูดว่า “ให้พวกเราหักโซ่ตรวนที่พระยาห์เวห์และกษัตริย์ของพระองค์ได้เอามามัดเราไว้
และโยนมันทิ้งไป”
4 แต่องค์เจ้าชีวิตนั่งอยู่บนสวรรค์
พระองค์หัวเราะเยาะใส่พวกเขา
5 แล้ว พระองค์ ก็ต่อว่าพวกเขาด้วยความเกรี้ยวกราด
จนทำให้พวกนั้นตกใจขวัญกระเจิง
6 พระองค์พูดว่า
“เราได้แต่งตั้งกษัตริย์ที่เราได้เลือกมาไว้บนศิโยน ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา”
7 กษัตริย์องค์นี้พูดว่า “ให้เราอธิบายให้เจ้าฟัง ถึงประกาศิตของพระยาห์เวห์
พระองค์บอกกับเราว่า ‘เจ้าคือลูกชายของเรา ในวันนี้ เราได้เป็นพ่อของเจ้าแล้ว’
8 แค่ขอเรามา แล้วเราจะมอบชนชาติต่างๆให้กับเจ้าเป็นมรดก
เราจะมอบโลกทั้งโลกให้เจ้าเป็นเจ้าของ
9 เจ้าจะทำลายชนชาติเหล่านั้นด้วยกระบองเหล็ก
เจ้าจะฟาดพวกเขา ให้แตกกระจายเหมือนหม้อดิน”
10 ตอนนี้ พวกเจ้า กษัตริย์ทั้งหลาย ให้ฉลาดขึ้น
พวกผู้นำทั้งหลาย ให้ฟังคำตักเตือนของเรา
11-12 ให้รับใช้พระยาห์เวห์ด้วยความเคารพยำเกรง
ให้กราบลงต่อหน้าพระองค์ด้วยตัวสั่นเทิ้ม
ไม่อย่างนั้นพระองค์จะโกรธ แล้วเจ้าจะต้องพินาศทันที
ให้ทำอย่างนี้ เพราะความโกรธของพระองค์ลุกเป็นไฟได้ในพริบตา
คนที่ลี้ภัยในพระองค์นั้น ก็เป็นคนที่มีเกียรติจริงๆ
คนที่พระยาห์เวห์ต้อนรับ
เพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ใครจะได้มาเป็นแขกในเต็นท์[a] ของพระองค์
ใครจะได้มาอาศัยบนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
2 คือคนเหล่านั้นที่ใช้ชีวิตอย่างไม่มีที่ติ
ทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง พูดความจริงจากใจ
3 ไม่ใช้ลิ้นใส่ร้ายป้ายสี ไม่ทำผิดต่อเพื่อน
ไม่ด่าเพื่อนบ้าน
4 รังเกียจคนชั่วที่พระเจ้าไม่ยอมรับ
ยกย่องคนที่ยำเกรงพระเจ้า
ทำตามสิ่งที่เขาได้สัญญาไว้แม้จะทำให้เขาเดือดร้อนก็ตาม
5 ไม่คิดดอกเบี้ยเมื่อให้ยืมเงิน
ไม่ยอมรับสินบนเพื่อปรักปรำคนบริสุทธิ์
คนที่ทำอย่างนี้จะยืนหยัดมั่นคงเสมอ
คำอธิษฐานของคนที่ทนทุกข์ทรมาน
ถึงหัวหน้านักร้อง ให้ร้องตามทำนองกวางในยามรุ่งเช้า[a] เพลงสดุดีของดาวิด
1 พระเจ้าของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์ถึงได้ละทิ้งข้าพเจ้าเสีย
ทำไมพระองค์ถึงได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้าเสียเหลือเกิน
ทำไมไม่ช่วยข้าพเจ้าให้รอด ทำไมไม่ได้ยินเสียงร้องขอให้ช่วยของข้าพเจ้า
2 พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกพระองค์ตลอดทั้งวัน แต่พระองค์ก็ไม่ตอบข้าพเจ้า
และข้าพเจ้าก็ยังร้องเรียกต่อไปตลอดทั้งคืน ข้าพเจ้าก็ไม่ได้รับการบรรเทาทุกข์
3 แต่อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ยังเป็นองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์
พระองค์นั่งอยู่บนบัลลังก์ของพระองค์ และชาวอิสราเอลสรรเสริญพระองค์
4 บรรพบุรุษของเราไว้วางใจในพระองค์
และพระองค์ช่วยกู้พวกเขา
5 พวกเขาตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ และได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์
พวกเขาวางใจในพระองค์ พวกเขาจึงไม่ผิดหวัง
6 ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวหนอน ไม่ใช่คน
ข้าพเจ้ามันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูถูก มันก็แค่ตัวอะไร ที่ผู้คนพูดดูหมิ่น
7 ทุกคนที่เห็นข้าพเจ้า ต่างก็เย้ยหยันข้าพเจ้า
พวกเขาพากันทำหน้าและส่ายหัวใส่ข้าพเจ้า
แล้วพูดว่า
8 “เขาวางใจในพระยาห์เวห์ไม่ใช่หรือ ให้พระยาห์เวห์ช่วยให้เขารอดสิ
ถ้าพระยาห์เวห์ชื่นชอบเขา ก็ให้พระยาห์เวห์ปลดปล่อยเขาสิ”
9 พระเจ้าของข้าพเจ้า ความจริงแล้ว พระองค์คือผู้ที่ดึงข้าพเจ้าออกมาจากครรภ์
พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัยในอ้อมอกของแม่
10 ตอนที่ข้าพเจ้าเกิดมา ข้าพเจ้าก็ถูกวางไว้ในอ้อมแขนของพระองค์แล้ว
พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าตั้งแต่ข้าพเจ้าคลอดออกมาจากท้องแม่แล้ว
11 ดังนั้น โปรดอย่าได้อยู่ห่างไกลจากข้าพเจ้า
เพราะความทุกข์ยากอยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้า และก็ไม่มีใครช่วยด้วย
12 มีวัวตัวผู้จำนวนมากที่ล้อมรอบข้าพเจ้าอยู่
วัวตัวผู้ที่ดุร้ายของบาชานกำลังรายล้อมข้าพเจ้าอยู่
13 พวกมันอ้าปากกว้างใส่ข้าพเจ้า
เหมือนกับสิงโตที่กำลังร้องคำรามฉีกกินเหยื่อของมัน
14 กำลังของข้าพเจ้าถูกเทออกเหมือนน้ำ
กระดูกของข้าพเจ้าหลุดออกจากข้อ
จิตใจของข้าพเจ้าได้หลอมละลาย
เหมือนขี้ผึ้งภายในตัวข้าพเจ้า
15 พละกำลังของข้าพเจ้าเหือดแห้งไปเหมือนหม้อดินแตก
ลิ้นของข้าพเจ้าจุกอยู่ที่เพดานปาก
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์วางข้าพเจ้าไว้ในฝุ่นของหลุมศพ
16 พวกหมาได้รายล้อมข้าพเจ้าไว้
กลุ่มคนชั่วร้ายได้รุมล้อมข้าพเจ้าไว้
พวกมันได้แทงมือแทงเท้าของข้าพเจ้า[b]
17 ข้าพเจ้าผ่ายผอมจนนับกระดูกของข้าพเจ้าได้หมด
พวกเขาจ้องมองข้าพเจ้าตาเขม็ง
18 พวกเขาก็เอาพวกเสื้อผ้าของข้าพเจ้ามาแบ่งปันกัน
พวกเขาเอาชุดของข้าพเจ้ามาจับสลากว่าใครจะได้
19 ข้าแต่พระยาห์เวห์ อย่าได้อยู่ห่างไกลข้าพเจ้า
พระองค์ผู้เป็นพละกำลังของข้าพเจ้า รีบมาช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด
20 ช่วยชีวิตข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากคมดาบ
ช่วยชีวิตเดียวที่ข้าพเจ้ามีอยู่จากฝูงหมาพวกนั้นด้วยเถิด
21 ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากปากสิงโต
พ้นจากคมเขาของฝูงวัวกระทิงเปลี่ยวด้วยเถิด พระองค์ได้ตอบข้าพเจ้าแล้ว
22 ดังนั้นข้าพเจ้าจะบอกพี่น้องของข้าพเจ้าถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ทำ ที่สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุม
23 พวกเจ้าที่เกรงกลัวพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของยาโคบ ถวายเกียรติให้กับพระองค์เถิด
พวกเจ้าที่เป็นลูกหลานของอิสราเอล ยำเกรงพระองค์เถิด
24 เพราะพระยาห์เวห์ไม่ได้ดูถูกหรือรังเกียจความทุกข์ของคนที่เดือดร้อนคนนี้
พระองค์ไม่ได้ซ่อนหน้าไปจากข้าพเจ้า
แต่เมื่อข้าพเจ้าร้องให้พระองค์ช่วย พระองค์ฟังข้าพเจ้า
25 ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ในที่ประชุมใหญ่สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำ
ข้าพเจ้าจะถวายพวกเครื่องบูชาแก้บนต่อหน้าคนทั้งหลายที่ยำเกรงพระองค์
26 คนยากจนทั้งหลาย มาเถิด มากินเครื่องบูชาแก้บนเหล่านั้นให้อิ่มหนำสำราญ
พวกเจ้าที่แสวงหาพระยาห์เวห์ สรรเสริญพระองค์เถิด
และขอให้จิตใจของพวกเจ้ามีความสุขตลอดไป
27 ขอให้คนทั่วทุกมุมโลก ระลึกถึงพระยาห์เวห์และหันมาหาพระองค์
ขอให้คนทุกชาติ ก้มกราบนมัสการต่อหน้าพระองค์
28 เพราะพระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์
และครอบครองอยู่เหนือชนชาติทั้งหลาย
29 คนเหล่านั้นที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง จะกินเลี้ยงกันและก้มกราบลงต่อหน้าพระองค์
ส่วนคนที่กำลังจะตายกลับไปสู่ผงธุลีดิน และแม้แต่คนเหล่านั้นที่ตายไปแล้วก็จะก้มกราบลงต่อหน้าพระเจ้าเหมือนกัน
30 เหล่าลูกหลานของพวกเขาจะรับใช้พระองค์
คนจะพากันพูดถึงชื่อเสียงขององค์เจ้าชีวิตให้กับคนรุ่นหลังฟัง
31 พวกเขาจะเล่าให้กับคนรุ่นหลังที่ยังไม่ได้เกิดมา
ฟังเกี่ยวกับการช่วยกู้ที่พระองค์ได้ทำไป
พระยาห์เวห์เป็นผู้เลี้ยงแกะ
เพลงสดุดีของดาวิด
1 พระยาห์เวห์เลี้ยงดูข้าพเจ้าเหมือนเลี้ยงแกะ
ดังนั้น ข้าพเจ้าไม่ขาดอะไรเลย
2 พระองค์นำข้าพเจ้าไปนอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี
พระองค์นำข้าพเจ้าไปยังลำธารที่สงบเงียบ
3 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ากลับมีเรี่ยวแรงเหมือนเดิม
พระองค์นำข้าพเจ้าเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องทั้งหลายเพื่อรักษาชื่อเสียงที่ดีของพระองค์
4 แม้ในยามที่ข้าพเจ้าเดินไปตามหุบเขาที่มืดมิดอย่างความตาย[c]
ข้าพเจ้าก็ไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆทั้งนั้น
เพราะพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า
ไม้กระบองและไม้เท้าเลี้ยงแกะของพระองค์ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกปลอดภัย
5 พระองค์จัดโต๊ะสำหรับข้าพเจ้าต่อหน้าพวกศัตรูของข้าพเจ้า
พระองค์ต้อนรับข้าพเจ้าอย่างแขกผู้มีเกียรติ[d] ถ้วยของข้าพเจ้าเต็มจนเอ่อล้น
6 ความดีและความรักมั่นคงของพระองค์ จะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
และข้าพเจ้าจะอาศัยอยู่ในบ้านของพระยาห์เวห์ไปนานแสนนาน
การเข้าสู่วิหาร
เพลงสดุดีของดาวิด
1 พระยาห์เวห์เป็นเจ้าของแผ่นดินโลกนี้และทุกอย่างที่อยู่ในมัน
พระองค์เป็นเจ้าของโลกนี้และมนุษย์ทุกคนที่อาศัยอยู่บนมัน
2 ด้วยว่า พระองค์ คือผู้ที่ได้ตั้งแผ่นดินโลกนี้ไว้บนน้ำ
พระองค์สร้างมันไว้อย่างมั่นคงบนมหาสมุทร
3 ใครเล่าจะขึ้นไปบนภูเขาของพระยาห์เวห์ได้
ใครเล่าจะยืนในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ได้
4 ก็มีแต่คนมือสะอาดและใจบริสุทธิ์
คนที่ไม่ได้รักการโกหก[e] คนที่ไม่ได้ผิดคำสาบาน
5 คนอย่างนี้จะได้รับพระพรจากพระยาห์เวห์ พระเจ้าจะช่วยคนอย่างนี้ให้รอด
และประกาศว่า “เขาเป็นฝ่ายถูก”
6 คนพวกนี้แหละที่แสวงหาพระเจ้าอย่างแท้จริง
พวกนี้แหละที่สามารถเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระเจ้าของยาโคบ[f] ได้ เซลาห์
7 ประตูทั้งหลาย ยกหัวของเจ้าขึ้นมา
ประตูโบราณเอ๋ย เปิดออก
เพื่อกษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีจะได้เข้ามา
8 กษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีองค์นี้คือใครกัน
คือพระยาห์เวห์ผู้ทรงพลังและแข็งแกร่งเกรียงไกร
คือพระยาห์เวห์ นักรบผู้แข็งแกร่งเกรียงไกร
9 ประตูทั้งหลาย ยกหัวของเจ้าขึ้นมา
ประตูโบราณเอ๋ย เปิดออกเถิด
เพื่อกษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีจะได้เข้ามา
10 กษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีองค์นี้คือใครกัน
คือพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น
พระองค์คือกษัตริย์ผู้เต็มไปด้วยสง่าราศีองค์นั้น เซลาห์
พระยาห์เวห์เป็นกษัตริย์เหนือชนชาติทั้งหลาย
ถึงหัวหน้านักร้อง สำหรับคนของตระกูลโคราห์ บทเพลงสดุดี
1 ชนชาติทั้งหลายให้ปรบมือ
โห่ร้องยินดีต่อพระเจ้า
2 เพราะ พระยาห์เวห์ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุดน่าเกรงขามยิ่งนัก
พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกครองทั้งโลกนี้
3 พระองค์ทำให้ชนชาติต่างๆอยู่ใต้อำนาจของพวกเรา
พระองค์ปราบชนชาติต่างๆนั้นให้สยบอยู่แทบเท้าของพวกเรา
4 พระองค์เลือกแผ่นดินนี้ให้เป็นมรดกของพวกเรา
แผ่นดินนี้เป็นความภาคภูมิใจของยาโคบผู้ที่พระองค์รัก เซลาห์
5 พระเจ้าขึ้นบนบัลลังก์ของพระองค์ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดี
พระยาห์เวห์ขึ้นพร้อมกับเสียงเป่าแตรเขาแกะ
6 ร้องเพลงสรรเสริญแด่พระเจ้า ร้องเพลงสรรเสริญเถิด
ร้องเพลงสรรเสริญแด่กษัตริย์ของพวกเรา ร้องเพลงสรรเสริญเถิด
7 เพราะพระเจ้าคือกษัตริย์ของทั้งโลก
ดังนั้น มาร้องเพลงอันไพเราะ[a] ถวายเกียรติแด่พระองค์เถิด
8 พระเจ้าปกครองอย่างกษัตริย์เหนือทุกชนชาติ
พระเจ้านั่งอยู่บนบัลลังก์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
9 พวกผู้นำของชนชาติต่างๆมารวมตัวกันกับคนของพระเจ้าของอับราฮัม[b]
เพราะพวกผู้ครอบครองของโลกนี้อยู่ภายใต้อำนาจของพระเจ้า
พระเจ้าคือผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด
ขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระเจ้า
ถึงหัวหน้านักร้อง บทเพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าแต่พระเจ้า ลุกขึ้นเถิด และทำให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป
ขอให้คนที่เกลียดชังพระองค์วิ่งหนีไปจากพระองค์
2 ไล่พวกเขาไป เหมือนลมไล่ควัน
ขอให้คนชั่วพินาศไปต่อหน้าพระเจ้า
เหมือนกับขี้ผึ้งหลอมละลายต่อหน้าไฟ
3 ขอให้คนดีมีความสุขและชื่นชมยินดีต่อหน้าพระเจ้า
ขอให้พวกเขาเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข
4 ร้องเพลงแด่พระเจ้า และสรรเสริญชื่อของพระองค์ด้วยบทเพลง
สรรเสริญพระองค์ผู้ที่ขี่อยู่บนหมู่เมฆ[a]
ให้ชื่นชมยินดีต่อหน้าพระองค์ผู้มีชื่อว่า “ยาห์เวห์”
5 พระเจ้าผู้สถิตอยู่ในที่พักอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระองค์เป็นพ่อของเด็กกำพร้าและเป็นผู้ปกป้องบรรดาหญิงหม้าย
6 พระองค์จัดให้ผู้โดดเดี่ยวเดียวดายเข้าไปอยู่ในครอบครัว
พระองค์ให้เสรีภาพกับนักโทษและทำให้พวกเขาเจริญรุ่งเรือง
แต่คนที่กบฏต่อพระองค์นั้นจะต้องอาศัยอยู่ในถิ่นที่แผดเผาแห้งแล้ง
7 ข้าแต่พระเจ้า ในยามที่พระองค์นำพาประชาชนของพระองค์ออกจากอียิปต์
เมื่อพระองค์เดินลุยเข้าไปในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้ง เซลาห์
8 โลกก็สั่นไหว ท้องฟ้าก็เทฝนลงมา
ต่อหน้าพระเจ้าแห่งภูเขาซีนาย
ต่อหน้าพระเจ้าแห่งอิสราเอล
9 พระองค์ทำให้ฝนตกลงมาอย่างเหลือเฟือบนแผ่นดินของพระองค์
พระองค์ฟื้นฟูดินแดนที่หมดสภาพขึ้นมาใหม่
10 คนของพระองค์มาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นั่น
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กับคนยากจนเหล่านั้น
11 องค์เจ้าชีวิตออกคำสั่งรบ
และคนจำนวนมากกระจายข่าวแห่งชัยชนะออกไปว่า
12 “พวกกษัตริย์ของฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งกองทัพของพวกเขาหนีไปแล้ว
และตอนนี้พวกผู้หญิงของอิสราเอลก็แบ่งทรัพย์สมบัติที่ยึดมาได้กัน
13 แม้แต่พวกเจ้าที่เฝ้าอยู่ที่บ้านคอยดูแลฝูงแกะ
ก็จะได้รับนกเขาเหล็กที่มีปีกเคลือบด้วยเงิน
และขนนกที่เคลือบทองคำเป็นประกาย”
14 สิ่งนี้เกิดขึ้น เมื่อพระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นได้ทำให้พวกกษัตริย์เหล่านั้นแตกกระเจิงไป
เหมือนหิมะที่กระจายไปทั่วทั้งภูเขาศัลโมน
15 ภูเขาบาชานเป็นภูเขาที่ทรงพลังยิ่งใหญ่
ที่มียอดเขามากมาย
16 ภูเขาที่มียอดมากมายเอ๋ย
ทำไมพวกเจ้าถึงได้มองอย่างอิจฉาริษยา
ต่อภูเขาที่พระเจ้าเลือกเป็นที่พักของพระองค์
เป็นที่ที่พระยาห์เวห์จะสถิตตลอดไป
17 องค์เจ้าชีวิตเสด็จมาจากภูเขาซีนาย
พร้อมกับรถม้าอันทรงพลังเป็นหมื่นเป็นแสน
เข้าไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
18 พระยาห์เวห์ ผู้เป็นพระเจ้า พระองค์ขึ้นไปบนที่สูง
และนำขบวนหมู่เชลยตามไปด้วย
พระองค์รับของขวัญจากผู้คน[b] รวมทั้งคนที่เคยต่อต้านพระองค์ด้วย
พระองค์ขึ้นไปอาศัยอยู่ที่นั่น
19 สรรเสริญองค์เจ้าชีวิต
พระเจ้าผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา
ผู้ที่แบกภาระของพวกเราทุกๆวัน เซลาห์
20 พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าผู้ช่วยกู้พวกเรา
พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิต ช่วยให้เรารอดพ้นจากความตาย
21 แต่พระเจ้าบดขยี้หัวของพวกศัตรูของพระองค์
พระองค์บดขยี้กะโหลกคนเหล่านั้นที่ยังคงเดินอยู่ในความผิดบาปของเขา
22 องค์เจ้าชีวิตพูดว่า
“เราจะนำศัตรูเหล่านั้นมาจากบาชาน และมาจากก้นทะเลลึก
23 เพื่อเจ้าจะได้เหยียบย่ำเลือดของพวกนั้น
และหมาของพวกเจ้าจะได้เลียกินส่วนแบ่งของพวกมันจากเลือดของศัตรูพวกนั้น”
24 ข้าแต่พระเจ้า คนเห็นขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระองค์
พวกนั้นได้เห็นขบวนแห่แห่งชัยชนะของพระเจ้าผู้เป็นกษัตริย์ของข้าพเจ้าที่กำลังแห่เข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
25 นำหน้าด้วยพวกนักร้อง ตามหลังด้วยเหล่านักดนตรี
ในท่ามกลางหญิงสาวที่เล่นกลองรำมะนาอันเล็ก
26 สรรเสริญพระเจ้าในที่ชุมนุมเถิด
ลูกหลานของอิสราเอลเอ๋ย สรรเสริญพระยาห์เวห์เถิด
27 ดูนั่นสิ เผ่าน้อยๆของเบนยามินเดินนำหน้า
พร้อมทั้งพวกผู้นำของยูดาห์จำนวนมาก
พวกผู้นำของเศบูลุน รวมทั้งพวกผู้นำของนัฟทาลี
28 พระเจ้าออกคำสั่งว่า เจ้าอิสราเอลจะมีอำนาจ
ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ช่วยเราในอดีตยังไง โปรดแสดงอำนาจของพระองค์ให้เราได้เห็นอีกครั้งอย่างนั้น
29 จากวิหารของพระองค์ ที่อยู่ในเยรูซาเล็ม
แล้วกษัตริย์ทั้งหลายก็จะนำเครื่องบรรณาการมาถวายแด่พระองค์
30 ข้าแต่พระเจ้า สั่งประจัญบานเลย ลุยเข้าไปรบกับสัตว์ร้ายที่อยู่ในพงอ้อ[c]
และกับชนชาติทั้งหลายที่รวมตัวกันเหมือนฝูงลูกวัวที่มีพวกวัวผู้นำอยู่
ขอให้พวกเขาถ่อมตัวลงและนำเงินมาเป็นเครื่องบรรณาการถวายต่อพระองค์
ขอให้ชนชาติเหล่านั้นที่กระหายสงครามถูกทำให้แตกกระเจิดกระเจิงไป
31 พวกที่ถือเครื่องบรรณาการ จะมาจากอียิปต์
ส่วนชาวเอธิโอเปีย จะรีบเร่งนำของขวัญมาให้กับพระองค์
32 อาณาจักรทั้งหลายบนโลกเอ๋ย ให้ร้องเพลงให้กับพระเจ้าเถิด
สรรเสริญองค์เจ้าชีวิตด้วยบทเพลงสดุดีเถิด เซลาห์
33 ร้องเพลงแด่พระเจ้า ผู้ขี่รถม้าข้ามฟ้าสวรรค์ที่มีมาแต่โบราณกาล
พระองค์เปล่งเสียงอันทรงพลังก้องกังวาน
34 ประกาศว่าพระเจ้านั้นทรงพลัง
พระบารมีของพระองค์ปกครองอยู่เหนืออิสราเอล
และพลังอำนาจของพระองค์ปกครองอยู่เหนือฟ้าสวรรค์
35 ข้าแต่พระเจ้า พระองค์นั้นน่าเกรงขามในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระเจ้าแห่งอิสราเอล
พระองค์เป็นผู้ที่มอบฤทธิ์อำนาจและพละกำลังแก่ประชาชนของพระองค์
สรรเสริญพระเจ้า
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International