Chronological
ฮีรามสร้างวังให้ดาวิด
(1 พศด. 14:1-2)
11 ฮีรามกษัตริย์ของไทระได้ส่งคนส่งข่าวมาหาดาวิด พร้อมด้วยไม้สนซีดาร์และช่างไม้และช่างก่อหิน และพวกเขาได้สร้างวังให้กับดาวิด 12 ดาวิดรู้ว่าพระยาห์เวห์ได้ตั้งเขาเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และได้ทำให้อาณาจักรของเขาเจริญรุ่งเรืองขึ้น เพื่อประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์
ลูกชายดาวิดที่เกิดในเยรูซาเล็ม
(1 พศด. 3:5-9; 14:3-7)
13 หลังจากที่เขาออกจากเมืองเฮโบรน ดาวิดได้มีเมียน้อยและเมียเพิ่มขึ้นอีกหลายคนในเยรูซาเล็ม และมีลูกชายและลูกสาวเพิ่มขึ้น 14 ชื่อของพวกลูกชายของเขาที่เกิดที่นั่น คือ ชัมมุอา โชบับ นาธัน ซาโลมอน 15 อิบฮาร์ เอลีชูอา เนเฟก ยาเฟีย 16 เอลีชามา เอลียาดา และเอลีเฟเลท
ดาวิดสู้กับชาวฟีลิสเตีย
(1 พศด. 14:8-17)
17 เมื่อชาวฟีลิสเตียได้ยินว่าดาวิดได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล พวกเขาจึงยกทัพขึ้นมาสู้รบกับดาวิด แต่ดาวิดรู้เรื่องนี้ก่อนและได้เข้าไปอยู่ที่ป้อม 18 ขณะนั้น ชาวฟีลิสเตียได้มาถึงและกระจายกำลังอยู่ในหุบเขาเรฟาอิม
19 ดาวิดจึงถามพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าควรขึ้นไปโจมตีชาวฟีลิสเตียหรือไม่ พระองค์จะมอบพวกเขาไว้ในกำมือข้าพเจ้าหรือเปล่า”
พระยาห์เวห์ตอบเขาว่า “ไปเถิด เพราะเราจะมอบชาวฟีลิสเตียไว้ในกำมือเจ้าอย่างแน่นอน”
20 ดาวิดจึงไปที่บาอัล-เปราซิม และเขาก็สู้รบเอาชนะชาวฟีลิสเตียได้ และดาวิดพูดว่า “พระยาห์เวห์ได้บุกทะลวงศัตรูต่อหน้าข้าพเจ้าเหมือนกับน้ำที่พุ่งทะลวงเขื่อนออกมา” จึงเรียกสถานที่นั้นว่า บาอัล-เปราซิม[a] 21 ชาวฟีลิสเตียได้ทิ้งรูปเคารพของพวกเขาไว้ที่นั่น ดาวิดกับคนของเขาได้ขนพวกมันไป
22 ชาวฟีลิสเตียยกทัพขึ้นมาอีกและกระจายกำลังออกในหุบเขาเรฟาอิม
23 ดาวิดจึงถามพระยาห์เวห์อีก และพระองค์ก็ตอบเขาว่า “อย่าบุกเข้าไปตรงๆแต่ให้อ้อมไปด้านหลัง และโจมตีพวกเขาจากพุ่มไม้บาคา[b] 24 ทันทีที่เจ้าได้ยินเสียงเดินทัพที่ยอดพุ่มไม้บาคา ก็ให้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพราะนั่นหมายถึงพระยาห์เวห์ได้นำหน้าพวกเจ้าออกไปมีชัยเหนือกองทัพชาวฟีลิสเตียแล้ว”
25 ดาวิดจึงทำตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งเขาไว้ และเขาก็โจมตีชาวฟีลิสเตียได้ตลอดทางจากเมืองกิเบโอน[c] ไปจนถึงเกเซอร์
ดาวิดย้ายหีบศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
(1 พศด. 13:1-14; 15:26-16:3, 43)
6 ดาวิดได้เลือกทหารที่เก่งกาจของอิสราเอลมาทั้งหมดสามหมื่นคน 2 ดาวิดและคนของเขาออกเดินทางไปที่เมืองบาอาลาห์ในยูดาห์[d] เพื่อไปนำหีบของพระเจ้ามาจากที่นั่น หีบนั้นเป็นของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ระหว่างทูตสวรรค์ที่มีปีกสององค์ 3 พวกเขาตั้งหีบของพระเจ้าไว้บนเกวียนเล่มใหม่ และนำหีบนั้นไปจากบ้านของอาบีนาดับซึ่งอยู่บนเขา อุสซาห์และอาหิโยลูกชายของอาบีนาดับเป็นคนขับเกวียนเล่มใหม่นั้น
4 เกวียนนั้นบรรทุกหีบของพระเจ้าอยู่บนมัน และอาหิโยเดินนำหน้าเกวียนนั้น[e] 5 ดาวิดและครอบครัวอิสราเอลทั้งหมดกำลังเฉลิมฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยงต่อหน้าพระยาห์เวห์ พวกเขาร้องเพลง เล่นพิณเล็ก พิณใหญ่ กลองรำมะนา เครื่องเขย่า และฉาบ[f] 6 เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวของนาโคน วัวที่ลากเกวียนนั้นเกิดสะดุดขึ้นมา อุสซาห์จึงยื่นมือออกจับหีบของพระเจ้าไว้ 7 พระยาห์เวห์โกรธอุสซาห์ แล้วพระองค์ฟาดเขาตาย อุสซาห์ตายอยู่ที่นั้นต่อหน้าพระองค์ 8 ดาวิดจึงโกรธพระเจ้า เพราะความโกรธของพระยาห์เวห์ได้ระเบิดใส่อุสซาห์ สถานที่แห่งนั้นจึงมีชื่อเรียกว่า เปเรศ-อุสซาห์[g] มาจนถึงทุกวันนี้
9 ในวันนั้น ดาวิดกลัวพระยาห์เวห์ เขาพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ เราจะเอาหีบของพระยาห์เวห์มาถึงเราได้ยังไงกัน” 10 เขาจึงไม่ยอมที่จะนำหีบของพระยาห์เวห์มาอยู่กับเขาในเมืองของดาวิด เขาจึงนำหีบนั้นไปไว้ที่บ้านของโอเบด-เอโดมจากเมืองกัท 11 หีบของพระยาห์เวห์จึงอยู่ที่บ้านของโอเบด-เอโดมจากเมืองกัทเป็นเวลาสามเดือน และพระยาห์เวห์ได้อวยพรโอเบด-เอโดมกับครัวเรือนเขาทั้งหมด
12 ขณะนั้นมีคนไปบอกกษัตริย์ดาวิดว่า “พระยาห์เวห์ได้อวยพรครัวเรือนของโอเบด-เอโดมและทุกสิ่งที่เขามี เพราะหีบของพระเจ้าอยู่กับเขา” ดาวิดจึงได้ลงไปนำหีบของพระเจ้าขึ้นมาจากบ้านของโอเบด-เอโดม มาถึงเมืองของดาวิดด้วยความชื่นชมยินดี 13 เมื่อคนที่ทำหน้าที่หามหีบของพระยาห์เวห์เดินไปได้หกก้าว ดาวิดก็ถวายวัวตัวผู้หนึ่งตัวและลูกวัวอ้วนหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชา 14 ดาวิดสวมถุงผ้าทับอกลินินเต้นรำอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์อย่างสุดเหวี่ยง
15 ดาวิดและครอบครัวอิสราเอลทั้งหมดได้นำหีบของพระยาห์เวห์ ขึ้นมาพร้อมกับโห่ร้องและเป่าแตรไปด้วย 16 ในขณะที่หีบของพระยาห์เวห์กำลังเข้าสู่เมืองของดาวิด มีคาลลูกสาวซาอูลมองลงมาจากหน้าต่าง เมื่อนางเห็นกษัตริย์ดาวิดกระโดดโลดเต้นและเต้นรำต่อหน้าพระยาห์เวห์ นางนึกดูถูกเขาอยู่ในใจ
17 พวกเขาได้นำหีบของพระยาห์เวห์มาตั้งไว้ในที่เฉพาะของมันในเต็นท์ที่ดาวิดได้กางไว้ให้ และดาวิดได้เผาสัตว์ทั้งตัวถวายเป็นเครื่องบูชาและถวายเครื่องสังสรรค์บูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์
18 หลังจากที่เขาถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชาเสร็จ เขาได้อวยพรให้กับประชาชนในนามของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น 19 แล้วเขาก็แจกขนมปังหนึ่งก้อน เค้กอินทผลัมและเค้กลูกเกดให้กับแต่ละคนในฝูงชนชาวอิสราเอลทั้งหมด ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แล้วประชาชนทั้งหมดก็กลับบ้านของพวกเขา
20 เมื่อดาวิดกลับบ้านเพื่อมาอวยพรคนในครัวเรือนของเขา มีคาลลูกสาวซาอูลออกมาพบเขาและพูดว่า “วันนี้กษัตริย์ของอิสราเอลช่างทำตัวได้โดดเด่นเสียจริง ถอดเสื้อผ้าท่ามกลางสายตาของพวกทาสหญิงรับใช้[h] ของเขา เหมือนคนชั้นต่ำทำกัน”
21 ดาวิดพูดกับมีคาลว่า “เราทำต่อหน้าพระยาห์เวห์ผู้ที่เลือกเรา แทนที่จะเลือกพ่อของเจ้า หรือคนหนึ่งคนใดในบ้านของเขา พระยาห์เวห์เป็นผู้แต่งตั้งเราขึ้นปกครองเหนืออิสราเอลประชาชนของพระองค์ ดังนั้นเราจะเต้นรำและเฉลิมฉลองอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ 22 เราจะทำสิ่งที่น่าอับอายขายหน้ายิ่งกว่านี้อีก เจ้าอาจจะไม่เคารพเรา แต่พวกทาสหญิงที่เจ้าพูดถึงนั้น จะยังคงให้เกียรติเราอยู่”
23 แล้วมีคาลลูกสาวซาอูลก็ไม่มีลูกจนกระทั่งนางตาย
การนำหีบข้อตกลงกลับมา
(2 ซมอ. 6:1-11)
13 ดาวิดได้ปรึกษาหารือกับบรรดาผู้นำกองพันและผู้นำกองร้อย รวมทั้งเหล่าผู้นำของอิสราเอลทั้งหลาย 2 เขาได้พูดในที่ประชุมของอิสราเอลทั้งหมดว่า “ถ้าพวกท่านเห็นดีด้วยและเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราต้องการ เราจะส่งคนส่งข่าวไปถึงญาติๆของพวกเราทั่วทั้งแผ่นดินของอิสราเอล รวมทั้งเหล่านักบวชและชาวเลวีตามเมืองแห่งทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ทั้งหลายนั้น เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วมกับพวกเรา 3 แล้วพวกเราจะได้นำหีบของพระเจ้าของเรามาไว้ท่ามกลางพวกเรา เพราะตั้งแต่ในสมัยของซาอูลแล้ว พวกเราไม่เคยไปหาพระเจ้าเพื่อขอคำปรึกษาจากพระองค์เลย” 4 ที่ประชุมทั้งหมดต่างเห็นดีด้วย เพราะพวกเขาทุกคนชอบความคิดนี้
5 ดาวิดจึงเรียกประชุมอิสราเอลทั้งหมดตั้งแต่แม่น้ำชิโหร์ในประเทศอียิปต์ไปจนถึงเมืองเลโบฮามัท เพื่อที่จะร่วมกันนำหีบของพระเจ้ามาจากคิริยาท-เยอาริม 6 และดาวิดกับอิสราเอลทั้งหมดก็ได้ขึ้นไปที่เมืองบาอาลาห์ซึ่งก็คือเมืองคิริยาท-เยอาริมที่เป็นของชาวยูดาห์ เพื่อจะนำหีบของพระเจ้ามาจากที่นั่น ซึ่งก็คือหีบของพระยาห์เวห์ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์เหนือทูตสวรรค์มีปีกสององค์ เป็นหีบที่ได้รับการเรียกขานตามชื่อของพระองค์
7 พวกเขาได้ขนย้ายหีบใบนั้นมาจากบ้านของอาบีนาดับด้วยเกวียนเล่มใหม่ และอุสซาห์กับอาหิโยเป็นคนขับเกวียนเล่มนั้น
8 ดาวิดกับชาวอิสราเอลทั้งหมดต่างก็เฉลิมฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยงต่อหน้าพระเจ้า ด้วยการร้องเพลง เล่นพิณใหญ่ พิณเล็ก กลองรำมะนา ฉาบ และแตร
9 พวกเขามาถึงที่ลานนวดข้าวของคิโดน วัวเกิดเดินสะดุด อุสซาห์ก็ได้ยื่นมือของเขาออกไปจับหีบนั้นไว้ 10 ความโกรธของพระยาห์เวห์ได้จุดพลุ่งขึ้นต่ออุสซาห์ พระองค์จึงฟาดเขาที่นั่น เพราะอุสซาห์ได้ยื่นมือไปจับหีบศักดิ์สิทธิ์ อุสซาห์จึงตายอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระเจ้า 11 ดาวิดรู้สึกโกรธ เพราะพระยาห์เวห์ได้ระเบิดความโกรธใส่อุสซาห์ สถานที่นั้นจึงมีชื่อเรียกว่าเปเรศ-อุสซาห์[a] มาจนทุกวันนี้
12 ในวันนั้นดาวิดรู้สึกเกรงกลัวพระเจ้า เขาพูดว่า “อย่างนี้จะให้เรานำหีบของพระเจ้ากลับไปบ้านกับเราได้ยังไงกัน” 13 แล้วดาวิดก็ไม่ยอมนำหีบใบนั้นไปที่เมืองของดาวิดกับเขาด้วย แต่กลับทิ้งมันไว้ที่บ้านของโอเบดเอโดมซึ่งเป็นชาวกัท 14 หีบของพระเจ้ายังคงอยู่กับครอบครัวของโอเบดเอโดมในบ้านของเขาเป็นเวลาสามเดือน และพระยาห์เวห์ก็ได้อวยพรให้กับครอบครัวของโอเบดเอโดมและทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของเขา
กษัตริย์ฮีรามส่งคนมาช่วยสร้างวัง
(2 ซมอ. 5:11-12)
14 กษัตริย์ฮีรามแห่งเมืองไทระได้ส่งคนส่งข่าวมาหาดาวิด พร้อมกับส่งไม้ซุงสนซีดาร์มาหลายท่อน พวกช่างตัดแต่งหิน และพวกช่างไม้เพื่อมาสร้างวังให้กับเขา 2 ดาวิดรู้ว่าพระยาห์เวห์ได้ทำให้เขาเป็นกษัตริย์เหนือชนชาติอิสราเอล เพราะอาณาจักรของเขาเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างมาก พระเจ้าทำอย่างนี้เพราะเห็นแก่ประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์
ลูกๆดาวิดที่เกิดในเยรูซาเล็ม
(2 ซมอ. 5:13-16)
3 ดาวิดมีเมียมากขึ้นในเมืองเยรูซาเล็ม และมีลูกชาย ลูกสาวมากขึ้น 4 ต่อไปนี้คือชื่อของลูกๆเขาที่เกิดในเยรูซาเล็ม คือชัมมุอา โชบับ นาธัน ซาโลมอน 5 อิบฮาร์ เอลีชูอา เอลเปเลท 6 โนกาห์ เนเฟก ยาเฟีย 7 เอลีชามา เบเอลยาดา และเอลีเฟเลท
ดาวิดชนะชาวฟีลิสเตีย
(2 ซมอ. 5:17-25)
8 ชาวฟีลิสเตียได้ยินว่าดาวิดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลทั้งหมด พวกฟีลิสเตียทั้งหมดจึงได้บุกขึ้นมาหาเขา เมื่อดาวิดได้ยินเข้าจึงได้ออกมาเผชิญหน้ากับพวกเขา 9 พวกชาวฟีลิสเตียได้บุกขึ้นมาถึงหุบเขาเรฟาอิม 10 ดาวิดได้ถามพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าควรจะขึ้นไปต่อสู้กับพวกฟีลิสเตียหรือไม่ และพระองค์จะมอบพวกเขาไว้ในกำมือของข้าพเจ้าหรือเปล่า”
พระยาห์เวห์ตอบดาวิดว่า “ไปต่อสู้กับพวกเขาเถิด และเราจะมอบพวกนั้นไว้ในกำมือของเจ้า”
11 แล้วดาวิดกับคนของเขาก็ขึ้นไปสู้รบกับพวกฟีลิสเตียที่บาอัลเปราซิมและสามารถเอาชนะคนเหล่านั้นได้ ดาวิดพูดว่า “พระเจ้าได้ทะลุทะลวงศัตรูของเราไปผ่านทางมือเราเหมือนกับน้ำที่ทะลุทะลวงเขื่อนออกมา” ดังนั้นสถานที่นั้นจึงมีชื่อเรียกว่า บาอัล-เปราซิม[b] 12 พวกฟีลิสเตียได้ละทิ้งพระทั้งหลายของพวกเขาไว้ที่นั่น และดาวิดก็ได้สั่งให้เผาพวกมันทิ้งจนหมด
13 พวกฟีลิสเตียได้บุกมาที่หุบเขาอีกครั้งหนึ่ง 14 และดาวิดได้ปรึกษากับพระเจ้าอีก และพระเจ้าบอกกับเขาว่า “อย่าโจมตีพวกเขาตรงหน้า แต่ให้อ้อมไปโจมตีพวกเขาจากทางด้านพุ่มบาคา[c] 15 เมื่อเจ้าได้ยินเสียงฝีเท้าบนยอดของพุ่มบาคา ให้ออกไปสู้รบได้ทันที เพราะนั่นเป็นเสียงของพระเจ้าที่กำลังออกนำหน้าเจ้าไปมีชัยเหนือกองทัพของฟีลิสเตีย” 16 ดาวิดทำตามที่พระเจ้าสั่งเขาไว้ และดาวิดกับกองทัพของเขาก็สามารถเอาชนะกองทัพชาวฟีลิสเตียได้ทั้งหมดตลอดเส้นทางจากเมืองกิเบโอนไปจนถึงเมืองเกเซอร์ 17 ดังนั้นชื่อเสียงของดาวิดก็แพร่กระจายออกไปยังประเทศทั้งหลายและพระยาห์เวห์ทำให้ทุกๆชนชาติเกรงกลัวเขา
การนำหีบข้อตกลงเข้าเมืองเยรูซาเล็ม
(2 ซมอ. 6:12-19)
15 ดาวิดได้สร้างวังของเขาเองขึ้นในเมืองของดาวิด และเขาได้เตรียมสร้างสถานที่สำหรับหีบของพระเจ้าด้วย เขาได้ตั้งเต็นท์ขึ้นหลังหนึ่งสำหรับหีบใบนั้น 2 แล้วดาวิดพูดว่า “คนที่ไม่ใช่ชาวเลวีห้ามมาถือหีบของพระเจ้า เพราะพระยาห์เวห์ได้เลือกพวกเลวีให้มาเป็นผู้ถือหีบของพระยาห์เวห์ และให้มารับใช้พระองค์ตลอดไป”
3 ดาวิดเรียกประชุมชาวอิสราเอลทั้งหมดที่เมืองเยรูซาเล็ม เพื่อที่จะนำหีบของพระยาห์เวห์ไปไว้ยังสถานที่ที่เขาได้จัดเตรียมไว้ 4 และดาวิดก็ได้รวบรวมบรรดาลูกหลานของอาโรนและชาวเลวี
5 บรรดาลูกหลานของโคฮาท มีอุรีเอลเป็นหัวหน้า พร้อมกับญาติๆของเขาอีกหนึ่งร้อยยี่สิบคน
6 จากบรรดาลูกหลานของเมรารี มีอาสายาห์เป็นหัวหน้า พร้อมกับญาติๆของเขาอีกสองร้อยยี่สิบคน
7 จากบรรดาลูกหลานของเกอร์โชม มีโยเอลเป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกหนึ่งร้อยสามสิบคน
8 จากบรรดาลูกหลานของเอลีซาฟาน มีเชไมอาห์เป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกสองร้อยคน
9 จากบรรดาลูกหลานของเฮโบรน มีเอลีเอลเป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกแปดสิบคน
10 จากบรรดาลูกหลานของอุสซีเอล มีอัมมีนาดับเป็นหัวหน้าพร้อมกับญาติๆของเขาอีกหนึ่งร้อยสิบสองคน
11 แล้วดาวิดก็เรียกตัวนักบวชศาโดกและนักบวชอาบียาธาร์รวมทั้งชาวเลวีซึ่งประกอบด้วย อุรีเอล อาสายาห์ โยเอล เชไมอาห์ เอลีเอลและอัมมีนาดับเข้าพบ 12 และเขาก็ได้พูดกับคนเหล่านั้นว่า “พวกท่านคือหัวหน้าครอบครัวของชาวเลวี พวกท่านและญาติๆของพวกท่านจะต้องชำระตัวเองให้บริสุทธิ์[d] เพื่อจะได้เป็นผู้นำหีบของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลไปไว้ยังสถานที่ที่เราได้จัดเตรียมไว้ให้ 13 เพราะพวกท่านไม่ได้ไปกับพวกเราในครั้งแรกเพื่อไปหามหีบนั้น จึงทำให้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเราได้ระเบิดความโกรธใส่พวกเรา เพราะพวกเราไม่ได้ปรึกษากับพระองค์ว่าจะทำเรื่องนี้อย่างไรดีถึงจะเหมาะสม”
14 ดังนั้นเหล่านักบวชและชาวเลวีจึงได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์เพื่อที่จะไปนำหีบของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลขึ้นมา 15 และชาวเลวีก็ได้เป็นผู้หามหีบของพระเจ้าไว้บนบ่าด้วยคานหาม เหมือนกับที่โมเสสได้สั่งไว้ตามคำพูดของพระยาห์เวห์
16 ดาวิดยังได้บอกกับพวกหัวหน้าของชาวเลวี ให้แต่งตั้งญาติๆของพวกเขาขึ้นเป็นนักร้อง เพื่อคอยเปล่งเสียงร้องเพลงอย่างชื่นชมยินดีไปพร้อมกับเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ(มีทั้งเสียงพิณใหญ่ พิณเล็ก และฉาบ)
17 ดังนั้น ชาวเลวีจึงได้แต่งตั้งเฮมานลูกชายโยเอล และอาสาฟลูกชายของเบเรคิยาห์ ออกมาจากบรรดาญาติๆของเขา และยังได้แต่งตั้งเอธานลูกชายของคูชายาห์ออกจากบรรดาพี่น้องชาวเมรารีของพวกเขา 18 พวกเขาได้แต่งตั้งญาติๆของพวกเขาขึ้นเป็นผู้ช่วยคนเหล่านี้ คือ เศคาริยาห์ ยาอาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ เบไนยาห์ มาอาเสอาห์ มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุและมิกเนยาห์ และให้โอเบดเอโดมกับเยอีเอลเป็นคนเฝ้าประตู
19 เหล่านักร้องซึ่งประกอบไปด้วยเฮมาน อาสาฟและเอธานต้องเล่นฉาบทองสัมฤทธิ์ 20 เศคาริยาห์ อาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ มาอาเสอาห์และเบไนยาห์เล่นพิณใหญ่ในแบบของอาลาโมท[e] 21 ส่วนมัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม เยอีเอลและอาซาซิยาห์เล่นพิณเล็กในแบบของเชมินิท[f] 22 เคนานิยาห์ที่เป็นผู้นำในการร้องเพลงของชาวเลวีเป็นคนร้องนำเพราะเขามีความชำนาญในด้านนี้
23 เบเรคิยาห์และเอลคานาห์เป็นนายประตูเฝ้าหีบใบนั้น 24 เหล่านักบวช คือ เชบานิยาห์ โยชาฟัท เนธันเอล อามาสัย เศคาริยาห์ เบไนยาห์และเอลีเยเซอร์เป็นคนเป่าแตรต่อหน้าหีบของพระเจ้า โอเบดเอโดมและเยฮียาห์เป็นนายประตูเฝ้าหีบใบนั้นด้วยเหมือนกัน
25 ดาวิด เหล่าผู้นำของอิสราเอลและบรรดาผู้นำกองพันก็ได้ไปนำหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์มาจากบ้านของโอเบดเอโดมด้วยความชื่นชมยินดี 26 และพระเจ้าก็ได้ช่วยเหลือพวกชาวเลวีที่กำลังแบกหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์นั้น พวกเขาได้ถวายเครื่องบูชาเป็นวัวตัวผู้เจ็ดตัวและแกะตัวผู้เจ็ดตัว 27 ดาวิด ชาวเลวีทั้งหมดที่แบกหีบกับพวกนักร้องและเคนานิยาห์ผู้นำวงนักร้อง ต่างก็สวมเสื้อชุดยาวที่ทำจากผ้าลินินอย่างดี และดาวิดก็สวมเอโฟดที่ทำจากลินินด้วยเหมือนกัน
28 ดังนั้นอิสราเอลทั้งหมดจึงได้ร่วมขบวนไปกับหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์ พร้อมกับร้องตะโกนไปอย่างสนุกสนาน พวกเขาได้เป่าแตรเขาสัตว์ แตรธรรมดา เล่นฉาบ พิณใหญ่และพิณเล็กไปด้วย
29 เมื่อหีบข้อตกลงของพระยาห์เวห์กำลังจะเข้าในเมืองของดาวิด นางมีคาลลูกสาวของซาอูลได้มองออกไปที่หน้าต่างและเห็นดาวิดกำลังเต้นรำและเล่นสนุกสนานอยู่ นางจึงคิดดูถูกเขาในใจ
16 พวกเขาได้นำเอาหีบของพระเจ้าเข้ามาวางไว้ภายในเต็นท์ที่ดาวิดได้จัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ และพวกเขาก็ได้เผาสัตว์ทั้งตัวถวายเป็นเครื่องบูชา และถวายเครื่องสังสรรค์บูชาต่อหน้าพระเจ้า 2 เมื่อดาวิดได้ถวายเครื่องบูชาเหล่านั้นเสร็จแล้ว เขาก็ได้อวยพรให้กับประชาชนในนามของพระยาห์เวห์ 3 และเขาก็ได้แจกจ่ายขนมปังหนึ่งก้อน เค้กอินทผลัมกับขนมลูกเกดอัดให้กับชาวอิสราเอลทุกคนทั้งชายและหญิง
4 ดาวิดได้แต่งตั้งชาวเลวีบางคนให้ไปรับใช้อยู่ต่อหน้าหีบของพระยาห์เวห์ เพื่อให้เฉลิมฉลองพระเกียรติ ขอบคุณและสรรเสริญพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล 5 อาสาฟได้เป็นหัวหน้าและมีเศคาริยาห์เป็นผู้ช่วย ยังมี เยอีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล มัททีธิยาห์ เอลีอับ เบไนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอล เป็นผู้เล่นพิณใหญ่และพิณเล็ก ส่วนอาสาฟเป็นคนตีฉาบ 6 นักบวชเบไนยาห์กับนักบวชยาฮาซีเอลเป็นคนเป่าแตรอยู่ต่อหน้าหีบแห่งคำสัญญาของพระเจ้าเป็นประจำ 7 แล้วในวันนั้นเอง ดาวิดก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการขอบคุณพระยาห์เวห์ โดยอาศัยอาสาฟและญาติๆของอาสาฟคอยช่วยเหลือ
เพลงขอบคุณของดาวิด
(สดด. 105:1-15; 96:1-13; 106:47-48)
8 ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์ ให้กระจายชื่อเสียงของพระองค์ออกไป
ให้บอกชนชาติทั้งหลายถึงสิ่งที่พระองค์ทำ
9 ให้ร้องเพลงให้กับพระองค์ ให้ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์
ใคร่ครวญถึงสิ่งน่าทึ่งทั้งหมดที่พระองค์ได้ทำ
10 โอ้อวดถึงชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
ขอให้คนเหล่านั้นที่แสวงหาพระยาห์เวห์มีความสุขเถิด
11 ให้แสวงหาพระยาห์เวห์และพละกำลังที่มาจากพระองค์เถิด
ให้แสวงหาหน้าของพระองค์อยู่เสมอ
12 ให้ระลึกถึงเรื่องน่าทึ่งทั้งหลายที่พระองค์ทำ
ให้ระลึกถึงการอัศจรรย์ต่างๆที่พระองค์ทำและคำตัดสินทั้งหลายที่ออกมาจากปากของพระองค์
13 ลูกหลานของอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ย
ลูกหลานของยาโคบพวกที่พระองค์ได้เลือกไว้เอ๋ย
14 พระองค์คือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพวกเรา
คำตัดสินทั้งหลายของพระองค์จะเป็นจริงอย่างนั้นในทุกหนแห่งทั่วโลก
15 อย่างนั้น ให้จดจำข้อตกลงของพระองค์ตลอดไป
คือคำสัญญาที่พระองค์ทำไว้กับคนของพระองค์เป็นพันรุ่น
16 พระองค์จะรักษาคำสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม
และคำสาบานของพระองค์ที่ให้ไว้กับอิสอัค
17 พระองค์ทำให้มันเป็นกฎสำหรับยาโคบ
และเป็นข้อตกลงให้กับอิสราเอลตลอดไป
18 พระองค์พูดว่า “เราจะมอบดินแดนคานาอัน
ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าตลอดไป”
19 พระองค์ได้ทำสิ่งนี้ตอนที่พวกเขายังมีกันอยู่ไม่กี่คน
และยังเป็นคนต่างด้าวแค่กระจุกเดียวในดินแดนนั้นอยู่เลย
20 พวกเขาเร่ร่อนพเนจรจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง
จากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกอาณาจักรหนึ่ง
21 แต่พระเจ้าไม่ยอมให้ใครข่มเหงพวกเขา
พระองค์ได้เตือนพวกกษัตริย์ทั้งหลายว่า
22 “อย่าแตะต้องคนเหล่านั้นที่เราได้เลือกไว้แล้ว
อย่าได้ทำร้ายพวกผู้พูดแทนเรา”
23 ทุกคนบนโลกนี้ ร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์เถิด
ให้ประกาศวันแล้ววันเล่าถึงความรอดที่มาจากพระองค์
24 ประกาศให้ชนชาติต่างๆรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์
ประกาศให้ทุกคนรู้ถึงสิ่งน่าทึ่งต่างๆที่พระองค์ทำ
25 เพราะพระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง
พระองค์น่ายำเกรงกว่าพระเจ้าทั้งปวง
26 เพราะพระเจ้าทั้งสิ้นของชนชาติเหล่านั้นเป็นแค่รูปเคารพ
แต่พระยาห์เวห์เป็นผู้ที่สร้างฟ้าสวรรค์
27 รัศมีและบารมีของพระองค์แผ่กระจายออกมาจากพระองค์
อำนาจและความชื่นบานอยู่ในบ้านของพระองค์
28 ตระกูลของชนชาติต่างๆทั่วโลกเอ๋ย ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์
สำหรับสง่าราศีและพละกำลังของพระยาห์เวห์เถิด
29 ให้สรรเสริญพระยาห์เวห์สำหรับชื่ออันมีสง่าราศีของพระองค์
ให้นำเครื่องบูชาเข้ามาอยู่ต่อหน้าพระองค์
ให้ก้มกราบลงต่อหน้าพระยาห์เวห์ในวิหารอันสง่างามของพระองค์
30 มนุษย์บนแผ่นดินโลกทุกคนเอ๋ย ให้ตัวสั่นเทิ้มเมื่ออยู่เบื้องหน้าพระองค์เถิด
โลกทั้งใบก็อยู่อย่างมั่นคงจะไม่มีวันสั่นคลอน
31 ขอให้ฟ้าสวรรค์เฉลิมฉลองกัน ขอให้แผ่นดินโลกชื่นชมยินดี
ให้คนพูดกันท่ามกลางชนชาติทั้งหลายๆว่า “พระยาห์เวห์ทรงครอบครอง”
32 ขอให้ทะเลและทุกสิ่งทุกอย่างในทะเลนั้นโห่ร้องยินดี
ให้ท้องทุ่งและทุกสิ่งทุกอย่างในมันร่าเริงยินดี
33 ขอให้ต้นไม้ในป่าชื่นชมยินดีต่อหน้าพระยาห์เวห์
เมื่อพระองค์กำลังเสด็จมา พระองค์กำลังมาตัดสินแผ่นดินโลกนี้
34 ให้ขอบคุณพระยาห์เวห์เพราะพระองค์นั้นดีแท้
ความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป
35 ให้ท่านพูดว่า
“ข้าแต่พระเจ้า ผู้ช่วยให้รอดของพวกเรา ได้โปรดช่วยกู้พวกเราด้วยเถิด
โปรดรวบรวมและช่วยพวกเราให้รอดพ้นจากชนชาติต่างๆ
เพื่อพวกเราจะได้ขอบคุณชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
แล้วจะได้โอ้อวดถึงสิ่งน่าสรรเสริญทั้งหลายที่พระองค์ได้ทำ
36 ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
ผู้เป็นอยู่ตลอดมาและจะคงอยู่ตลอดไป
แล้วประชาชนทั้งหลายก็พูดว่า ‘อาเมน’ และพวกเขาได้สรรเสริญพระยาห์เวห์”
37 ดาวิดได้ทิ้งให้อาสาฟกับญาติๆของเขาไว้ ให้อยู่ต่อหน้าหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ เพื่อรับใช้ประจำต่อหน้าหีบตามงานที่ต้องทำในแต่ละวันนั้น 38 ดาวิดก็ได้ให้โอเบดเอโดมและเยฮียาห์กับญาติๆของพวกเขาอีกหกสิบแปดคน อยู่ที่นั่นด้วย โอเบดเอโดมลูกชายของเยดูธูนกับโฮสาห์เป็นคนเฝ้าประตู
39 และที่หน้าเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ของพระยาห์เวห์ ที่ตั้งอยู่ในสถานที่สูง ในกิเบโอน มีนักบวชศาโดกและเหล่านักบวชเพื่อนๆของเขา 40 ทำหน้าที่เผาสัตว์ทั้งตัวบนแท่นบูชาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์เป็นประจำทุกเช้าเย็นตามทุกสิ่งที่ได้เขียนไว้ในกฏของพระยาห์เวห์ ที่พระองค์ได้สั่งไว้กับชนชาติอิสราเอล 41 ยังมีเฮมาน เยดูธูนและคนอื่นๆที่ได้รับเลือกและถูกระบุชื่อไว้ให้อยู่ที่นั่นเพื่อร้องเพลงขอบคุณพระยาห์เวห์ อย่างเช่น “เพราะความรักมั่นคงของพระองค์คงอยู่ตลอดไป”[g] 42 มีพวกแตรและฉาบอยู่ที่นั่นกับเฮมานและเยดูธูนด้วย เพื่อให้คนเหล่านั้นใช้มันเล่นบรรเลงประกอบเพลงถวายให้กับพระเจ้า และบรรดาลูกชายของเยดูธูนเป็นคนเฝ้าประตู
43 แล้วประชาชนทั้งหมดก็กลับบ้าน และดาวิดก็กลับวังของเขาเพื่อที่จะไปอวยพรให้กับครอบครัวของเขา
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International