Chronological
ดาวิดไปหานักบวชอาหิเมเลค
21 ดาวิดไปเมืองโนบเพื่อพบกับนักบวชอาหิเมเลค อาหิเมเลคกลัวจนตัวสั่นเมื่อออกมาพบเขา แล้วพูดว่า “ทำไมท่านถึงมาคนเดียว ทำไมถึงไม่มีใครมากับท่านด้วย”
2 ดาวิดตอบนักบวชอาหิเมเลคว่า “กษัตริย์สั่งให้เรามาทำงานสำคัญและกำชับว่า ‘อย่าให้ใครรู้ถึงงานที่เราส่งเจ้าไปทำ และหน้าที่ที่เราได้มอบหมายให้กับเจ้า’ ส่วนพวกคนหนุ่มๆของเรานั้น เราได้นัดพบกับพวกเขาไว้แล้วในที่แห่งหนึ่ง 3 ตอนนี้ท่านมีอะไรในมือบ้าง ขอขนมปังให้เราสักห้าก้อน หรืออะไรก็ได้ที่ท่านสามารถหาได้” 4 แต่อาหิเมเลคตอบดาวิดว่า “ข้าพเจ้าไม่มีขนมปังธรรมดาอยู่เลย มีแต่ขนมปังศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งถ้าหนุ่มๆทั้งหลายไม่ได้ไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงมาก็กินได้”
5 ดาวิดตอบว่า “ตามปกติเมื่อเราออกเดินทางพวกผู้หญิงก็จะถูกแยกออกจากพวกเราอยู่แล้ว ขนาดงานที่ธรรมดาๆร่างกายของพวกผู้ชายก็ยังบริสุทธิ์เลย ยิ่งงานพิเศษอย่างนี้ เราก็ต้องรักษาร่างกายให้บริสุทธิ์แน่”
6 นักบวชจึงให้ขนมปังศักดิ์สิทธิ์นั้นกับดาวิด เพราะไม่มีขนมปังอื่นนอกจากขนมปังนี้ที่เคยตั้งถวายอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ แต่ถูกเอาออกมาจากหน้าพระยาห์เวห์ ในวันที่เอาขนมปังใหม่ๆร้อนๆมาแทน
7 ในวันนั้นมีหัวหน้าคนเลี้ยงแกะ[a] ของซาอูลชื่อโดเอก ซึ่งเป็นชาวเมืองเอโดม เฝ้าอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ด้วย[b]
8 ดาวิดถามอาหิเมเลคว่า “ที่นี่ท่านไม่มีหอกหรือดาบสักเล่มเลยหรือ เราไม่ได้เอาดาบหรืออาวุธอื่นๆติดตัวมาเลย เพราะธุระที่กษัตริย์ให้ทำเป็นเรื่องเร่งด่วน”
9 นักบวชอาหิเมเลคก็ตอบว่า “ดาบของโกลิอัทชาวฟีลิสเตีย ที่ถูกท่านฆ่าตายในหุบเขาเอลาห์อยู่ที่นี่ ดาบนั้นห่อผ้าวางอยู่ด้านหลังเอโฟด ถ้าท่านต้องการก็เอาไปเลย ที่นี่ก็ไม่มีดาบอื่นแล้ว”
ดาวิดตอบว่า “ไม่มีดาบไหนเหมือนดาบนั้นอีกแล้ว เอามาให้เราหน่อย”
ดาวิดหนีไปพึ่งศัตรูที่เมืองกัท
10 ในวันนั้นดาวิดได้หนีจากซาอูลไปหาอาคีชกษัตริย์เมืองกัท 11 แต่พวกข้าราชการของอาคีชพูดกับดาวิดว่า “ท่านไม่ใช่กษัตริย์ดาวิดของอิสราเอลหรอกหรือ คนเดียวกับที่เขาร้องเพลงยกย่องกันว่า
‘ซาอูลฆ่าคนเป็นพันๆ
ส่วนดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ’”
12 ดาวิดได้ยินคำพูดอย่างนั้น เขาก็กลัวกษัตริย์อาคีชเมืองกัทมาก
13 ดาวิดจึงแกล้งทำเป็นบ้าต่อหน้าผู้คน ขณะที่เขาถูกจับไปนั้นเขาก็ทำท่าเหมือนคนบ้าขีดเขียนตามประตูเมือง และปล่อยให้น้ำลายไหลเปรอะเปื้อนเครา 14 อาคีชพูดกับพวกข้าราชการของเขาว่า “ดูชายคนนี้ซิ เป็นคนบ้าชัดๆเจ้าพามาพบเราทำไม 15 เจ้าเห็นว่าเราขาดแคลนคนบ้าหรือ ถึงได้พามันมาทำบ้าๆบอๆให้เราดู สมควรให้ไอ้บ้านี้เข้ามาในบ้านของเราหรือ”
ดาวิดไปตามที่ต่างๆ
22 ดาวิดออกจากเมืองกัทหนีไปที่ถ้ำ[c]อดุลลัม เมื่อพี่น้องและญาติฝ่ายพ่อของดาวิดรู้เรื่องเข้า ต่างก็พากันมาหาเขาที่ถ้ำ 2 คนที่เดือดร้อน คนที่มีหนี้สินหรือคนที่ขมขื่นใจ ต่างก็พากันมารวมตัวอยู่กับดาวิด และดาวิดก็ได้กลายเป็นผู้นำของพวกเขาซึ่งมีประมาณสี่ร้อยคน
3 จากถ้ำอดุลลัม ดาวิดก็ไปยังมิสปาห์ในเมืองโมอับและพูดขอร้องกษัตริย์เมืองโมอับว่า “ขออนุญาตให้พ่อแม่ของข้าพเจ้ามาอาศัยอยู่กับท่านด้วยเถิด จนกว่าข้าพเจ้าจะรู้ว่าพระเจ้าจะทำอะไรให้กับข้าพเจ้า” 4 ดาวิดจึงฝากพ่อแม่ของเขาไว้กับกษัตริย์เมืองโมอับ และพ่อแม่ของเขาก็อาศัยอยู่กับกษัตริย์ ตลอดเวลาที่ดาวิดอาศัยอยู่ในที่กำบังอันเข้มแข็ง
5 แต่กาดที่เป็นผู้พูดแทนพระเจ้าได้พูดกับดาวิดว่า “อย่าอาศัยอยู่ในป้อมปราการเลย เข้าไปอยู่ในแผ่นดินยูดาห์เถอะ” ดังนั้นดาวิดจึงจากไปอยู่ในป่าเฮเรท
ซาอูลทำลายลูกหลานของเอลี
6 ซาอูลได้ยินว่ามีคนพบดาวิดและผู้คนของเขา ในขณะที่ซาอูลนั่งอยู่ใต้ต้นสนบนภูเขากิเบอาห์และถือหอกอยู่ในมือโดยมีพวกข้าราชการยืนล้อมรอบเขาอยู่ 7 ซาอูลก็พูดกับพวกนั้นว่า “ฟังให้ดีนะ คนเบนยามินทั้งหลาย ไอ้ลูกชายคนนั้นของเจสซี[d] จะให้ที่ทุ่งนาหรือสวนองุ่นกับพวกเจ้าหรือ หรือว่ามันจะแต่งตั้งให้พวกเจ้าเป็นหัวหน้ากองพัน กองร้อยหรือยังไง 8 นั่นเป็นเหตุที่พวกเจ้าถึงได้แอบคบคิดกันต่อต้านเราใช่ไหม ไม่มีใครสักคนบอกเราเมื่อโยนาธานลูกเราได้ทำสัญญากับไอ้ลูกชายของเจสซี ไม่มีใครห่วงใยเราหรือบอกกับเราว่าโยนาธานได้ยุยงให้ไอ้คนรับใช้คนนั้นของเราคอยซุ่มเล่นงานเรา อย่างที่มันทำอยู่ทุกวันนี้”
9 แต่โดเอกคนเอโดม ซึ่งยืนอยู่กับพวกข้าราชการของซาอูลพูดว่า “ข้าพเจ้าเห็นดาวิดลูกชายของเจสซีมาหาอาหิเมเลคลูกชายของอาหิทูบที่เมืองโนบ 10 อาหิเมเลคได้ปรึกษากับพระยาห์เวห์เพื่อดาวิด เขาให้อาหารกับดาวิด และให้ดาบของโกลิอัทคนฟีลิสเตียกับเขาด้วย”
11 กษัตริย์ได้ส่งคนไปตามนักบวชอาหิเมเลคลูกชายของอาหิทูบ และเครือญาติทั้งหมดของพ่อเขาที่เป็นนักบวช ที่เมืองโนบ และพวกเขาก็มาหากษัตริย์ 12 ซาอูลได้พูดว่า “ฟังเราให้ดี ลูกชายของอาหิทูบ”
อาหิเมเลคตอบว่า “ครับ ท่านเจ้านาย”
13 ซาอูลพูดกับอาหิเมเลคว่า “ทำไมเจ้ากับไอ้ลูกชายของเจสซีถึงคบคิดกันต่อต้านเรา เจ้าให้ขนมปังและดาบกับมัน เจ้าได้ปรึกษาพระเจ้าเพื่อมัน ซึ่งทำให้มันลุกขึ้นกบฏต่อเรา และคอยดักซุ่มโจมตีเราอย่างที่มันทำอยู่ทุกวันนี้”
14 อาหิเมเลคตอบกษัตริย์ว่า “มีใครในหมู่พวกข้าราชการของท่าน ที่จงรักภักดีต่อท่านเท่ากับดาวิดบ้าง ดาวิดเป็นลูกเขยของท่าน เป็นหัวหน้าองครักษ์ของท่าน และเป็นที่นับถืออย่างยิ่งในครอบครัวของท่าน 15 แล้วนี่เป็นครั้งแรกหรือ ที่ข้าพเจ้าได้ปรึกษาพระเจ้าเพื่อดาวิด ไม่ใช่เลย ขอท่านอย่าได้กล่าวหาข้าพเจ้าผู้รับใช้ของท่านหรือเครือญาติฝ่ายพ่อข้าพเจ้าเลย เพราะข้าพเจ้าคนรับใช้ของท่านไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้”
16 แต่กษัตริย์พูดว่า “อาหิเมเลค ทั้งเจ้าและเครือญาติฝ่ายพ่อเจ้า จะต้องตายแน่” 17 กษัตริย์สั่งพวกทหารยามที่ยืนอยู่ข้างๆว่า “พาพวกนักบวชของพระยาห์เวห์เหล่านี้ไปฆ่าซะ เพราะพวกมันเข้าข้างดาวิด พวกมันรู้ว่ามันหนีไปแต่ไม่ยอมบอกเรา”
แต่พวกข้าราชการของกษัตริย์ไม่ยอมลงมือต่อพวกนักบวชของพระยาห์เวห์
18 กษัตริย์สั่งโดเอกว่า “เจ้าหันไปฟันพวกนักบวชเหล่านั้นเสียให้ตาย” โดเอกชาวเมืองเอโดมจึงหันไปฟันพวกนักบวช[e] ในวันนั้นเขาได้ฆ่าชายที่สวมผ้าป่านเอโฟดตายถึงแปดสิบห้าคน 19 เขาใช้ดาบฆ่าฟันคนในเมืองโนบซึ่งเป็นเมืองของนักบวช เขาใช้ดาบฆ่าฟันทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทั้งเด็กและทารก ทั้งวัว ลาและแกะ
20 แต่อาบียาธาร์ ลูกชายของอาหิเมเลค ที่เป็นลูกชายของอาหิทูบ หนีรอดไปหาดาวิด 21 เขาได้บอกกับดาวิดว่าซาอูลได้ฆ่าพวกนักบวชของพระยาห์เวห์ 22 ดาวิดพูดกับอาบียาธาร์ว่า “ในวันนั้น เมื่อโดเอกชาวเอโดมอยู่ที่นั่น เรารู้ว่าเขาต้องบอกกับซาอูลแน่ เราเองเป็นผู้ที่นำความตายมาสู่ทุกคนในครอบครัวของพ่อเจ้า 23 อยู่กับเราที่นี่แหละ เจ้าไม่ต้องกลัว คนที่ตามล่าชีวิตเจ้าก็ตามล่าชีวิตเราเหมือนกัน เจ้าจะปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา”
ดาวิดช่วยกู้เมืองเคอีลาห์
23 เมื่อมีคนบอกดาวิดว่า “ดูสิ ชาวเมืองฟีลิสเตียกำลังสู้รบกับชาวเมืองเคอีลาห์และปล้นข้าวสารไปจากลานนวดข้าว”
2 ดาวิดได้ถามพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าควรจะไปสู้รบกับชาวฟีลิสเตียเหล่านี้หรือไม่”
พระยาห์เวห์ตอบดาวิดว่า “ไปสิ ไปสู้กับชาวเมืองฟีลิสเตียและช่วยกู้เคอีลาห์ไว้”
3 แต่คนของดาวิดบอกกับเขาว่า “ขนาดในยูดาห์นี้พวกเรายังกลัวเลย แล้วถ้าต้องไปยังเคอีลาห์ เพื่อสู้รบกับชาวเมืองฟีลิสเตีย พวกเราจะไม่ยิ่งกลัวมากกว่านี้หรือ”
4 ดาวิดจึงถามพระยาห์เวห์อีกครั้งหนึ่ง และพระยาห์เวห์ได้ตอบเขาว่า “ลงไปที่เมืองเคอีลาห์ เพราะเรากำลังจะมอบชาวเมืองฟีลิสเตียนั้นไว้ในมือเจ้า” 5 ดังนั้นดาวิดและพวกจึงเดินทางไปยังเคอีลาห์ต่อสู้กับชาวฟีลิสเตีย และยึดสัตว์เลี้ยงของชาวฟีลิสเตียไป พวกเขาทำให้ชาวเมืองฟีลิสเตียเสียหายอย่างหนัก และช่วยกู้คนของเมืองเคอีลาห์ไว้ได้ 6 (ตอนที่อาบียาธาร์ลูกชายของอาหิเมเลคหนีมาหาดาวิดที่เคอีลาห์นั้น เขาได้นำเอาเอโฟด มาด้วย)
7 มีคนบอกซาอูลว่าดาวิดได้ไปถึงเมืองเคอีลาห์แล้ว เขาจึงพูดว่า “พระเจ้าได้มอบดาวิดไว้ในกำมือเราแล้ว เพราะดาวิดได้เข้ามาขังตัวเองในเมืองที่มีประตูและสลักประตู” 8 ซาอูลเรียกทหารของเขาทุกคนให้เตรียมพร้อมรบและเดินทางลงไปยังเมืองเคอีลาห์เพื่อไปล้อมจับดาวิดและพวกของดาวิด
9 เมื่อดาวิดรู้ว่าซาอูลวางแผนเพื่อทำร้ายเขา ดาวิดจึงบอกกับอาบียาธาร์ว่า “นำเอโฟดมาที่นี่”
10 ดาวิดอ้อนวอนว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล ผู้รับใช้ของพระองค์รู้อย่างแน่ชัดว่า ซาอูลวางแผนที่จะมาเคอีลาห์ เพื่อทำลายเมืองเคอีลาห์เพราะข้าพเจ้า 11 ขอถามว่า ชาวเคอีลาห์จะมอบข้าพเจ้าให้กับซาอูลหรือไม่ และซาอูลจะลงมาที่เมืองนี้เหมือนกับที่คนรับใช้ของพระองค์ได้ยินมาหรือไม่ ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ช่วยบอกคนรับใช้ของพระองค์ด้วยเถิด”
พระยาห์เวห์ตอบว่า “เขาจะมา”
12 ดาวิดถามอีกว่า “ชาวเมืองเคอีลาห์จะส่งข้าพเจ้าและคนของข้าพเจ้าให้กับซาอูลหรือไม่”
พระยาห์เวห์ตอบว่า “เขาจะทำอย่างนั้น”
13 ดังนั้นดาวิดและพวกหกร้อยคนจึงได้ออกจากเมืองเคอีลาห์และย้ายไปเรื่อยๆ เมื่อมีคนบอกซาอูลว่า ดาวิดได้หนีออกจากเมืองเคอีลาห์ไปแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปที่นั่น
ซาอูลตามล่าดาวิด
14 ดาวิดซ่อนอยู่ตามที่กำบังเข้มแข็งในเขตทะเลทราย และตามเทือกเขาในเขตทะเลทรายศีฟ ซาอูลเสาะหาดาวิดวันแล้ววันเล่า แต่พระเจ้าก็ไม่ได้ให้ดาวิดตกไปอยู่ในกำมือของซาอูล
15 ขณะที่ดาวิดอยู่ที่โฮเรชในทะเลทรายศีฟ เขารู้ว่าซาอูลกำลังตามล่าเพื่อฆ่าเขา 16 โยนาธานลูกชายของซาอูลไปหาดาวิดที่โฮเรช และช่วยดาวิดให้ไว้วางใจในพระยาห์เวห์มากขึ้น 17 โยนาธานบอกว่า “เจ้าไม่ต้องกลัวหรอก ซาอูลพ่อของข้าจะจับเจ้าไม่ได้หรอก เจ้าจะได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล และข้าจะได้เป็นที่สองรองจากเจ้า เรื่องนี้แม้แต่พ่อของข้าก็ยังรู้”
18 ทั้งสองคนได้ทำสัญญากันต่อหน้าพระยาห์เวห์ แล้วโยนาธานก็เดินทางกลับบ้าน ส่วนดาวิดยังคงอยู่ที่โฮเรชต่อไป
ชาวศีฟบอกซาอูลเกี่ยวกับดาวิด
19 พวกชาวศีฟได้ไปหาซาอูลที่กิเบอาห์ แล้วบอกว่า “ตอนนี้ดาวิดกำลังซ่อนตัวอยู่ในหมู่พวกเรา ตามถ้ำที่โฮเรช บนหุบเขาฮาคีลาห์ ทางตอนใต้ของเยชิโมน 20 ข้าแต่กษัตริย์ ท่านอยากจะลงไปเมื่อไหร่ก็ไปได้ และพวกเราชาวศีฟขอรับหน้าที่ในการจับตัวดาวิดมาให้ท่านเอง”
21 ซาอูลตอบว่า “ขอพระยาห์เวห์อวยพรพวกท่านทั้งหลายที่ห่วงใยเรา ไปเตรียมตัวให้พร้อมเถิด 22 ให้ไปหาดูว่าดาวิดอยู่ที่ไหน และมีใครเห็นเขาที่นั่นบ้าง มีคนบอกเราว่าดาวิดนั้นฉลาดนัก 23 ให้ไปหาที่ซ่อนทุกแห่งที่เขาใช้ และกลับมาบอกที่ซ่อนที่แน่นอนของเขากับเรา เมื่อนั้นเราจะไปกับพวกท่าน ถ้าดาวิดอยู่ที่นั่น เราจะตามล่าเขาท่ามกลางตระกูลทั้งหลายของยูดาห์”
24 ชาวศีฟจึงออกเดินทางมายังเมืองศีฟก่อนซาอูล
ขณะนั้นดาวิดและพวกอยู่ในทะเลทรายมาโอน ในอาราบาห์ตอนใต้ของเยชิโมน 25 ซาอูลและพวกเริ่มค้นหาดาวิด และเมื่อดาวิดรู้เรื่อง เขาก็เดินทางไปยังก้อนหินใหญ่และหลบอยู่ในทะเลทรายมาโอน เมื่อซาอูลรู้ถึงที่ซ่อนของดาวิด เขาก็เข้าไปในทะเลทรายมาโอนเพื่อตามล่าดาวิด
26 เมื่อซาอูลมาถึงด้านหนึ่งของภูเขา ดาวิดและคนของเขาก็จะรีบหนีจากซาอูลไปอีกด้านหนึ่งของภูเขา เมื่อฝ่ายของซาอูลและพวกเข้ามาใกล้เกือบจะจับดาวิดกับพวกได้แล้ว 27 ก็มีผู้ส่งข่าวมาแจ้งกับซาอูลว่า “รีบไปเร็วๆพวกฟีลิสเตียกำลังปล้นแผ่นดินของพวกเราแล้ว”
28 ซาอูลจึงเลิกไล่ตามดาวิด และไปปะทะกับชาวฟีลิสเตีย ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงเรียกที่นั่นว่า หินแห่งการหลบหนี 29 ดาวิดจึงออกจากทะเลทรายมาโอน และเข้าไปอาศัยอยู่ตามที่กำบังเข้มแข็งต่างๆของเอนเกดี
ดาวิดไว้ชีวิตซาอูล
24 หลังจากซาอูลได้ขับไล่ชาวฟีลิสเตียไปแล้ว มีคนบอกเขาว่า “ดาวิดอยู่ในทะเลทรายแห่งเอนเกดี”
2 ซาอูลจึงคัดเลือกผู้ชายสามพันคนจากคนอิสราเอลทั้งหมด และออกไปค้นหาดาวิดและพวกที่หินเลียงผา 3 ซาอูลมาถึงพวกคอกแกะที่อยู่ข้างทาง แล้วแถวนั้นมีถ้ำอยู่ถ้ำหนึ่ง ซาอูลก็เข้าไปขับถ่ายในถ้ำนั้น ส่วนดาวิดและพวกก็นั่งอยู่ลึกเข้าไปในถ้ำนั้น 4 คนของดาวิดพูดขึ้นว่า “วันนี้เป็นวันที่พระยาห์เวห์ได้พูดกับท่านว่า ‘เราจะมอบศัตรูของเจ้าไว้ในกำมือของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้จัดการกับเขาตามที่เจ้าเห็นสมควร’”
แล้วดาวิดก็คลานอย่างเงียบกริบเข้าไปตัดชายเสื้อคลุมของซาอูล 5 ภายหลังดาวิดก็รู้สึกผิด ที่ไปตัดชายเสื้อคลุมของซาอูล 6 ดาวิดบอกคนของเขาว่า “ขอให้พระยาห์เวห์ อย่ายอมให้ข้าพเจ้าทำสิ่งเหล่านี้ต่อนายของข้าพเจ้า ผู้ที่พระองค์ได้เจิมไว้ คือขอให้พระองค์อย่ายอมให้ข้าพเจ้ายกมือขึ้นต่อต้านเขา เพราะเขาเป็นคนที่พระยาห์เวห์ได้เจิมไว้” 7 ดาวิดได้ตักเตือนคนของเขาด้วยคำพูดนี้ และไม่ให้คนของเขาทำร้ายซาอูล แล้วซาอูลก็ลุกขึ้นออกจากถ้ำแล้วเดินทางต่อ
8 ดาวิดได้ออกจากถ้ำแล้วเรียกซาอูลว่า “กษัตริย์ผู้เป็นเจ้านายของข้าพเจ้า”
เมื่อซาอูลหันกลับมาดู ดาวิดก้มตัวลงกราบถึงพื้น 9 ดาวิดบอกซาอูลว่า “ทำไมท่านถึงไปฟังคนอื่นพูดว่า ‘ดาวิดนั้นมุ่งร้ายต่อท่าน’ 10 ในวันนี้ท่านคงเห็นกับตาแล้วว่า พระยาห์เวห์ได้ส่งท่านให้มาอยู่ในกำมือของข้าพเจ้าในถ้ำนั้น มีบางคนเร่งเร้าให้ข้าพเจ้าฆ่าท่าน แต่ข้าพเจ้าไว้ชีวิตท่าน ข้าพเจ้าได้พูดว่าข้าพเจ้าจะไม่ยกมือขึ้นต่อต้านนายของข้าพเจ้าเพราะเขาเป็นผู้ที่พระยาห์เวห์ได้เจิมไว้ 11 ดูนี่สิ ท่านพ่อ ดูชายเสื้อคลุมของท่านในมือข้าพเจ้าซิ ข้าพเจ้าได้ตัดมุมหนึ่งของเสื้อคลุมของท่านมาได้ แต่ข้าพเจ้าไม่ได้ฆ่าท่าน ให้ท่านเข้าใจและยอมรับเถอะว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดต่อท่านหรือก่อการกบฏ ข้าพเจ้าไม่ได้ทำบาปต่อท่าน แต่ท่านกลับไล่ล่าชีวิตของข้าพเจ้า 12 ขอให้พระยาห์เวห์ เป็นผู้ตัดสินเรื่องระหว่างข้าพเจ้ากับท่าน และขอให้พระองค์แก้แค้นแทนข้าพเจ้าต่อท่านสำหรับสิ่งที่ท่านได้ทำกับข้าพเจ้า แต่มือของข้าพเจ้าจะไม่ทำอะไรท่าน 13 ดังสุภาษิตโบราณที่ว่า
‘การทำเลวย่อมมาจากคนเลว’
ดังนั้นมือของข้าพเจ้าจะไม่ทำอะไรท่าน 14 กษัตริย์แห่งอิสราเอลกำลังออกมาสู้รบกับใครหรือ ท่านออกมาไล่ตามหมาที่ตายหรือยังไง ไล่ตามตัวหมัดหรือยังไง 15 ขอให้พระยาห์เวห์เป็นผู้พิพากษา ตัดสินเรื่องระหว่างท่านกับข้าพเจ้า ขอให้พระยาห์เวห์พิจารณาเรื่องนี้ และว่าความให้กับข้าพเจ้า และช่วยให้ข้าพเจ้ารอดพ้นจากกำมือของท่าน”
16 เมื่อดาวิดพูดจบ ซาอูลก็ร้องว่า “นั่นเสียงของเจ้าหรือดาวิดลูกชายเรา” แล้วซาอูลก็ร้องไห้ออกมา 17 “เจ้ามีคุณธรรมมากกว่าเราเสียอีก”
ซาอูลบอกว่า “เจ้าทำดีกับเราเหลือเกิน แต่เรากลับทำสิ่งเลวร้ายต่อเจ้า 18 เจ้าเพิ่งได้บอกสิ่งดีๆที่เจ้าได้ทำให้กับเราเมื่อกี้นี้เอง พระยาห์เวห์ส่งเราให้ตกอยู่ในกำมือของเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ฆ่าเรา 19 เมื่อคนหนึ่งพบศัตรูของเขา เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ศัตรูไปอย่างปลอดภัยหรอก ขอให้พระยาห์เวห์มอบสิ่งดีๆให้กับเจ้าเป็นการตอบแทนการกระทำของเจ้าที่ทำต่อเราในวันนี้ 20 เรารู้ว่าเจ้าจะต้องได้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอลอย่างแน่นอน และอาณาจักรแห่งอิสราเอลจะได้รับการจัดตั้งขึ้นในมือของเจ้า 21 ตอนนี้ ให้สาบานต่อเราในนามของพระยาห์เวห์ ว่าเจ้าจะไม่ทำร้ายลูกหลานของตระกูลเราและไม่ลบชื่อของเราออกจากตระกูลของพ่อเรา”
22 ดาวิดก็ได้สาบานต่อซาอูล ซาอูลก็กลับบ้านไป แต่ดาวิดกับพวกก็กลับขึ้นไปอยู่ในที่กำบังเข้มแข็ง
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International