Chronological
ชาวกิเบโอนหลอกโยชูวา
9 เมื่อกษัตริย์ทั้งหลายที่อยู่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน ได้ยินเรื่องนี้ พวกนี้เป็นกษัตริย์ของชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์ และ ชาวเยบุส ซึ่งเป็นเผ่าต่างๆที่อาศัยอยู่ตามแถบเทือกเขา และที่ลุ่มเชิงเขาด้านตะวันตก[a] ตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขึ้นไปจนถึงเทือกเขาเลบานอน 2 พวกเขาจึงได้รวมตัวกันขึ้นและวางแผนที่จะต่อสู้กับโยชูวาและประชาชนชาวอิสราเอล
3 แต่เมื่อชาวกิเบโอนได้ยินเรื่องที่โยชูวาได้ทำกับเมืองเยริโคและเมืองอัยแล้ว 4 พวกเขาก็ได้ออกกลอุบายขึ้นมา ส่งกลุ่มทูตออกไป ที่มีลาแบกกระสอบขาดๆและถุงหนังเหล้าองุ่นที่เก่าและปะไว้ 5 พวกเขาสวมรองเท้าเก่ามีรอยปะ และใส่เสื้อผ้าเก่าๆขาดๆส่วนขนมปังที่เตรียมไว้ก็แห้งและมีราขึ้น
6 พวกเขาเดินทางไปหาโยชูวาที่ค่ายในเมืองกิลกาล และพูดกับโยชูวาและชาวอิสราเอลว่า “พวกเรามาจากแผ่นดินที่อยู่ห่างไกล ขอทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับพวกเราด้วยเถิด”
7 แต่ชาวอิสราเอลพูดกับชาวฮีไวต์เหล่านั้นว่า “ไม่แน่พวกเจ้าอาจจะอาศัยอยู่แถวๆนี้ก็ได้ แล้วพวกเราจะทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับพวกเจ้าได้ยังไง”
8 ชาวฮีไวต์จึงพูดกับโยชูวาว่า “พวกเราเป็นผู้รับใช้ของท่าน” โยชูวาจึงถามว่า “พวกเจ้าเป็นใคร และมาจากไหน”
9 พวกเขาตอบว่า “ชื่อเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน ทำให้พวกเราผู้รับใช้ของท่าน เดินทางมาจากดินแดนอันไกลโพ้น พวกเราได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์และทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ได้ทำในประเทศอียิปต์ 10 และได้ยินถึงสิ่งต่างๆที่พระองค์ได้ทำต่อกษัตริย์สององค์ของชาวอาโมไรต์ ที่อยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน คือกษัตริย์สิโหนแห่งเมืองเฮชโบน และกษัตริย์โอกแห่งแคว้นบาชานที่ปกครองอยู่ที่เมืองอัชทาโรท 11 ดังนั้น พวกผู้นำอาวุโสกับชาวเมืองทั้งหลายของประเทศของเรา ได้พูดกับพวกเราว่า ‘ให้นำเสบียงอาหารติดตัวไป และเดินทางไปหาพวกเขา’ และให้พูดกับพวกเขาว่า ‘พวกเราคือคนรับใช้ของท่าน ขอช่วยทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับพวกเราด้วยเถิด’
12 ขนมปังของพวกเรานี้ พวกเราห่อมันตอนที่มันยังอุ่นๆในวันที่พวกเราออกจากบ้านเดินทางมาหาท่าน และตอนนี้ ดูสิ มันแห้งและขึ้นราแล้ว 13 นี่คือถุงหนังใหม่ๆของพวกเรา ที่พวกเราได้เติมเหล้าองุ่นใหม่ลงไป และดูสิ พวกมันขาดเสียแล้ว และเสื้อผ้าเหล่านี้กับรองเท้าของพวกเราก็เก่าลงจากการเดินทางอันยาวนานของพวกเรา”
14 ชาวอิสราเอลจึงชิมเสบียงอาหารของพวกเขาดู แต่ไม่มีใครขอคำแนะนำจากพระยาห์เวห์ 15 และโยชูวาก็ได้ทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับพวกเขาว่าจะไม่ฆ่าพวกเขา และพวกผู้นำของประชาชนได้รับรองข้อตกลงนั้นด้วยคำสาบาน
16 หลังจากได้ทำข้อตกลงกับชาวกิเบโอนแล้วสามวัน ชาวอิสราเอลได้ยินว่า พวกนั้นเป็นเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ๆพวกเขา 17 ดังนั้น ชาวอิสราเอลจึงออกเดินทางและในวันที่สามก็ได้มาถึงเมืองต่างๆของคนพวกนั้น คือ เมืองกิเบโอน เมืองเคฟีราห์ เบเอโรท และคิริยาทเยอาริม 18 แต่ชาวอิสราเอลไม่ได้โจมตีพวกนั้น เพราะพวกผู้นำของประชาชนได้สาบานกับพวกนั้นไว้แล้วต่อหน้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล
แต่ชาวอิสราเอลทั้งหมดต่างบ่นต่อว่าพวกผู้นำ 19 พวกผู้นำทั้งหลายจึงพูดกับประชาชนทั้งหมดว่า “เราได้สาบานกับพวกเขาโดยอ้างพระยาห์เวห์พระเจ้าของชาวอิสราเอลไปแล้ว ดังนั้น ตอนนี้พวกเราจึงไม่สามารถแตะต้องพวกเขาได้ 20 พวกเราจะปล่อยให้พวกเขามีชีวิตต่อไป ไม่อย่างนั้นความโกรธของพระเจ้าจะตกลงบนพวกเรา ที่ได้ผิดคำสาบานที่พวกเราได้ให้กับพวกเขา 21 ปล่อยให้พวกเขามีชีวิตต่อไป แต่ให้มาเป็นคนตัดฟืนและคนตักน้ำให้กับประชาชนชาวอิสราเอล” ดังนั้นพวกผู้นำก็ได้ทำตามที่ได้สาบานไว้
22 โยชูวาได้เรียกพวกชาวกิเบโอนเหล่านั้นมาและพูดกับพวกเขาว่า “ทำไมพวกเจ้าถึงได้มาหลอกเรา โดยพูดว่า ‘พวกเรามาจากที่ห่างไกลจากท่านมาก’ ในเมื่อความจริงแล้ว พวกเจ้าอาศัยอยู่ใกล้ๆพวกเรานี่เอง 23 ดังนั้น ตอนนี้ พวกเจ้าจะต้องถูกสาปแช่ง พวกเจ้าจะต้องเป็นทาส เป็นคนตัดฟืน และเป็นคนตักน้ำให้กับบ้านของพระเจ้า[b] ของข้าตลอดไป”
24 พวกเขาตอบโยชูวาว่า “มีคนบอกพวกเรา ผู้รับใช้ของท่านว่า ‘พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ได้สั่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ให้มอบแผ่นดินทั้งหมดนี้ให้กับท่าน และให้กวาดล้างประชาชนทั้งหมดที่อยู่ในแผ่นดินนี้ออกไปต่อหน้าท่าน’ พวกเรากลัวว่าท่านจะฆ่าพวกเรา พวกเราก็เลยทำอย่างนี้ 25 ตอนนี้ พวกเราก็อยู่ในกำมือของท่านแล้ว ทำกับพวกเราตามที่ท่านเห็นว่าดีและถูกต้องเถิด”
26 โยชูวาได้ทำอย่างนี้กับพวกเขาคือ ช่วยชีวิตชาวกิเบโอนไว้จากชาวอิสราเอล และพวกชาวอิสราเอลก็ไม่ได้ฆ่าคนเหล่านั้น 27 แต่ในวันนั้น โยชูวาได้ทำให้พวกเขาเป็นคนตัดฟืนและคนตักน้ำสำหรับชาวอิสราเอล และสำหรับแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือก และพวกเขาก็ยังเป็นทาสอยู่จนถึงทุกวันนี้
วันที่ดวงอาทิตย์หยุดนิ่ง
10 เมื่อกษัตริย์อาโดนีเซเดกแห่งเมืองเยรูซาเล็มได้ข่าวว่า โยชูวาได้ยึดเมืองอัยและได้ทำลายถวายให้กับพระยาห์เวห์ และโยชูวาทำกับเมืองอัยและกษัตริย์ของเมืองอัยอย่างเดียวกับที่ได้ทำกับเมืองเยริโคและกษัตริย์ของมัน และเขายังรู้อีกว่าชาวเมืองกิเบโอน ได้ทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับชาวอิสราเอล และได้อาศัยอยู่ใกล้ๆกับชาวอิสราเอล 2 กษัตริย์อาโดนีเซเดกและประชาชนของท่านก็หวาดกลัวมาก เพราะกิเบโอนเป็นเมืองใหญ่เมืองหนึ่งเหมือนกับเมืองหลวง[c] ทั้งหลาย มีขนาดใหญ่กว่าเมืองอัย และผู้ชายของเมืองนั้นก็เป็นนักรบที่ดี 3 ดังนั้นกษัตริย์อาโดนีเซเดกแห่งเมืองเยรูซาเล็ม จึงได้ขอความช่วยเหลือไปยังกษัตริย์โฮฮัมแห่งเมืองเฮโบรน กษัตริย์ปิรามแห่งเมืองยารมูท กษัตริย์ยาเฟียแห่งเมืองลาคีช และกษัตริย์เดบีร์แห่งเมืองเอกโลนว่า 4 “ขึ้นมาช่วยข้าพเจ้าตีเมืองกิเบโอนด้วย เพราะเมืองนั้นได้เข้าเป็นพันธมิตรกับโยชูวาและชาวอิสราเอลแล้ว”
5 ดังนั้น กษัตริย์ของอาโมไรต์ทั้งห้าองค์คือ กษัตริย์เมืองเยรูซาเล็ม เมืองเฮโบรน เมืองยารมูท เมืองลาคีช และเมืองเอกโลน จึงได้รวบรวมกำลังพลและยกขึ้นไป และได้ตั้งค่ายอยู่ตรงข้ามกับเมืองกิเบโอนและโจมตีเมืองนั้น
6 ประชาชนเมืองกิเบโอนจึงส่งข่าวไปถึงโยชูวาที่ค่ายในกิลกาลว่า “อย่าได้ทอดทิ้งพวกเราเหล่าผู้รับใช้ของท่าน รีบขึ้นมากู้พวกเรา ช่วยพวกเราด้วย เพราะพวกกษัตริย์ชาวอาโมไรต์ ที่อาศัยอยู่ตามเทือกเขา ได้รวบรวมพลมาต่อสู้กับพวกเรา”
7 ดังนั้น โยชูวาจึงเดินทัพจากเมืองกิลกาล ด้วยกองทัพทั้งหมดของเขา นักรบชั้นเยี่ยมทุกคนก็อยู่กับเขา 8 พระยาห์เวห์ได้สั่งโยชูวาว่า “อย่ากลัวพวกมัน เพราะเราได้มอบพวกมันไว้ในกำมือของเจ้าแล้ว จะไม่มีใครสักคนในพวกมันที่จะต่อต้านเจ้าได้”
9 หลังจากเดินทางตลอดทั้งคืนจากเมืองกิลกาล โยชูวาก็ได้เข้าโจมตีทันทีไม่ให้พวกนั้นรู้ตัว
10 พระยาห์เวห์ได้ทำให้พวกนั้นแตกตื่นตกใจ ต่อหน้าชาวอิสราเอล ทำให้ชาวอิสราเอลได้รับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่เมืองกิเบโอน และพวกอิสราเอลได้ไล่ล่าพวกนั้นไปตามถนนที่ขึ้นไปเบธโฮโรน และฆ่าฟันพวกเขาไปตลอดทางจนถึงเมืองอาเซคาห์และมักเคดาห์ 11 ขณะที่พวกเขาหนีอยู่ข้างหน้าของชาวอิสราเอลไปตามเส้นทางสู่เมืองเบธโฮโรนนั้น พระเจ้าได้โยนลูกเห็บขนาดยักษ์ลงมาจากฟ้า ตลอดไปจนถึงเมืองอาเซคาห์ พวกเขาก็ตาย คนที่ตายด้วยลูกเห็บยังมีมากกว่าคนที่ถูกชาวอิสราเอลฆ่าด้วยดาบเสียอีก
12 ในวันนั้นที่พระยาห์เวห์ได้มอบชาวอาโมไรต์ให้กับชาวอิสราเอล โยชูวาได้พูดกับพระยาห์เวห์ต่อหน้าชาวอิสราเอลว่า
“ดวงอาทิตย์เอ๋ย หยุดนิ่งที่เมืองกิเบโอน
และดวงจันทร์เอ๋ย หยุดอยู่ตรงหุบเขาอัยยาโลนเถิด”
13 และดวงอาทิตย์ก็หยุดอยู่กับที่ และดวงจันทร์ก็ไม่เคลื่อนไหว จนประชาชนอิสราเอลได้ชัยชนะเหนือศัตรูทั้งหลายของพวกเขา เรื่องนี้ได้บันทึกไว้ในหนังสือของยาชาร์ ดวงอาทิตย์หยุดนิ่งกลางท้องฟ้า และไม่ได้ตกไปเกือบหนึ่งวัน 14 ไม่เคยมีวันไหนเหมือนกับวันนั้น ไม่ว่าจะก่อนหน้านั้นหรือหลังจากนี้ เป็นวันที่พระยาห์เวห์ได้ฟังเสียงของมนุษย์คนหนึ่ง พระยาห์เวห์ได้ต่อสู้เพื่อชาวอิสราเอลแน่
15 แล้วโยชูวากับชาวอิสราเอลทั้งหมดก็กลับไปค่ายที่เมืองกิลกาล 16 กษัตริย์ทั้งห้าคนได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำที่มักเคดาห์ 17 มีคนมาบอกโยชูวาว่า “พวกเราได้พบกษัตริย์ทั้งห้าหลบซ่อนอยู่ในถ้ำที่ มักเคดาห์” 18 โยชูวาได้พูดว่า “กลิ้งพวกหินใหญ่ๆไปปิดปากถ้ำนั้นไว้ และจัดคนให้คอยเฝ้าพวกเขาไว้ 19 แต่พวกท่านไม่ต้องอยู่คอยที่นั่น ให้ไล่ตามศัตรูของพวกท่านไป ให้โจมตีพวกเขาจากข้างหลัง อย่ายอมให้พวกเขากลับเข้าเมืองทั้งหลายของพวกเขาได้อีก เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านได้มอบพวกเขาไว้ในมือของพวกท่านแล้ว”
20 โยชูวาและชาวอิสราเอลได้ฆ่าทำลายพวกนั้นจนเกือบหมดเกลี้ยง มีไม่กี่คนที่หนีเข้าไปในเมืองของพวกเขาที่มีป้อมปราการ 21 ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหมดได้กลับมาหาโยชูวาที่ค่ายพักมักเคดาห์อย่างปลอดภัย และไม่มีใครกล้ากระดิกลิ้นต่อว่าชาวอิสราเอลอีกเลย
22 แล้วโยชูวาได้พูดว่า “เปิดปากถ้ำ และนำตัวกษัตริย์ทั้งห้าออกมาพบเรา” 23 พวกเขาจึงนำกษัตริย์ทั้งห้าออกมาจากถ้ำ คือกษัตริย์แห่งเยรูซาเล็ม แห่งเฮโบรน แห่งยารมูท แห่งลาคีช และแห่งเอกโลน 24 เมื่อพวกเขานำตัวกษัตริย์เหล่านั้นออกมายังโยชูวา โยชูวาจึงเรียกประชุมชาวอิสราเอลทั้งหมด และเขาได้พูดกับพวกแม่ทัพที่ได้ร่วมออกรบกับเขาว่า “มานี่สิ และเอาเท้าของพวกท่านเหยียบคอกษัตริย์เหล่านี้ไว้” พวกเขาจึงเข้ามาและเอาเท้าวางไว้บนคอของกษัตริย์ทั้งห้าคนนั้น
25 โยชูวาพูดกับพวกเขาว่า “อย่ากลัวหรือท้อแท้ ให้เข้มแข็งและกล้าหาญไว้ เพราะพระยาห์เวห์จะทำอย่างนี้กับศัตรูทั้งหลายที่ท่านกำลังจะสู้รบด้วย”
26 หลังจากนั้น โยชูวาได้ฆ่ากษัตริย์พวกนั้นและเสียบพวกเขาไว้บนเสาไม้ห้าต้น พวกเขาถูกเสียบอยู่อย่างนั้นจนถึงเย็น 27 เมื่อดวงอาทิตย์ตกดิน โยชูวาได้สั่งให้เอาศพทั้งห้าลงมา และนำไปโยนไว้ในถ้ำที่พวกเขาเคยหลบซ่อนตัว แล้วเอาหินใหญ่ๆปิดปากถ้ำไว้ หินพวกนั้นยังอยู่จนถึงทุกวันนี้
28 ในวันนั้น โยชูวาได้ยึดเมืองมักเคดาห์ และเขาได้ฆ่าประชาชนและกษัตริย์ของเมืองนั้น เขาได้ทำลายเมืองนั้นอย่างราบคาบ ไม่มีใครเหลือรอดชีวิตเลย เขาได้ทำกับกษัตริย์เมืองมักเคดาห์อย่างกับที่เขาเคยทำกับกษัตริย์เมืองเยริโค
การยึดเมืองทางใต้
29 โยชูวาและชาวอิสราเอลทั้งหมดได้ยกทัพออกจากเมืองมักเคดาห์ไปถึงเมืองลิบนาห์ และได้สู้รบกับเมืองลิบนาห์ 30 พระยาห์เวห์ได้มอบเมืองและกษัตริย์ของเมืองนี้ไว้ในกำมือของชาวอิสราเอล โยชูวาได้ฆ่าทุกคนที่อยู่ในเมือง ไม่มีใครรอดชีวิตในเมืองนั้นเลย และเขาได้จัดการกษัตริย์ของเมืองนี้อย่างกับที่เขาเคยทำกับกษัตริย์เมืองเยริโค
31 แล้วโยชูวาและชาวอิสราเอลทั้งหมดก็ได้เคลื่อนทัพต่อจากเมืองลิบนาห์ไปยังเมืองลาคีช แล้วตั้งค่ายล้อมเมืองไว้และเข้าโจมตีเมืองนั้น 32 พระยาห์เวห์ได้มอบเมืองลาคีชไว้ในกำมือของชาวอิสราเอล แล้วโยชูวายึดเมืองไว้ได้ในวันที่สอง เขาได้ฆ่าทุกคนที่อยู่ในเมืองอย่างกับที่เขาเคยทำกับเมืองลิบนาห์ 33 กษัตริย์โฮรามแห่งเมืองเกเซอร์ได้ขึ้นมาช่วยเมืองลาคีช แต่โยชูวาก็ได้เอาชนะเขากับกองทัพของเขา จนไม่มีใครเหลือรอดชีวิต
34 จากนั้น โยชูวากับชาวอิสราเอลก็ยกทัพต่อจากเมืองลาคีชไปยังเมืองเอกโลน พวกเขาได้ตั้งค่ายล้อมเมืองไว้และโจมตีเมืองนั้น 35 พวกเขายึดเมืองนั้นได้ ในวันนั้นพวกเขาได้ใช้ดาบฆ่าฟันทุกคนในเมือง โยชูวาได้ฆ่าทุกคนที่อยู่ในเมืองนั้น อย่างกับที่เขาเคยทำกับเมืองลาคีช
36 แล้วโยชูวากับชาวอิสราเอลทั้งหมดก็ยกทัพออกจากเมืองเอกโลนขึ้นไปยังเมืองเฮโบรน และโจมตีเมืองนั้น 37 พวกเขายึดเมืองนั้นไว้ได้ และได้ฆ่ากษัตริย์และทุกคนที่อยู่ในเมืองนั้น รวมทั้งผู้คนที่อยู่ในหมู่บ้านต่างๆของมัน โยชูวาไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิตไปได้ อย่างเดียวกับที่เขาเคยทำกับเมืองเอกโลน เขาได้ทำลายเมืองและทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นลงอย่างราบคาบ
38 แล้วโยชูวากับชาวอิสราเอลทั้งหมดก็หันกลับไปทางเมืองเดบีร์ และเข้าโจมตีเมืองนั้น 39 โยชูวาได้เข้ายึดเมือง และจับตัวกษัตริย์ของเมืองนั้นไว้ รวมทั้งหมู่บ้านต่างๆของมัน พร้อมกับฆ่าทุกคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น ไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิตไปได้เลย เขาจัดการกับชาวเมืองเดบีร์และกษัตริย์ของเมืองนี้ อย่างกับที่เขาเคยทำกับเมืองเฮโบรน และทำกับเมืองลิบนาห์กับกษัตริย์ของเมืองนั้น
40 โยชูวาได้เอาชนะดินแดนทั้งหมด ได้แก่ แถบเนินเขา บริเวณเทือกเขาเนเกบ ที่ลุ่มเชิงเขาด้านตะวันตก และที่ลาดเขา รวมทั้งกษัตริย์ทั้งหมดของเมืองเหล่านั้น เขาไม่ปล่อยให้มีใครรอดชีวิตเลย เขาได้ทำลายทุกสิ่งที่มีลมหายใจ ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของชาวอิสราเอลได้สั่งไว้
41 โยชูวามีชัยเหนือพวกเขาตั้งแต่เมืองคาเดชบารเนียไปจนถึงเมืองกาซา และตั้งแต่แผ่นดินทั้งหมดของเมืองโกเชนไปจนถึงเมืองกิเบโอน 42 โยชูวาได้ปราบกษัตริย์ทั้งหมดของพวกเขาและยึดแผ่นดินของพวกเขาทั้งหมดไว้ในคราวเดียวกัน เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของชาวอิสราเอล ได้ต่อสู้เพื่อชาวอิสราเอล 43 แล้วโยชูวากับชาวอิสราเอลทั้งหมดก็ยกทัพกลับมายังค่ายที่กิลกาล
พวกกษัตริย์ทางเหนือพ่ายแพ้
11 เมื่อกษัตริย์ยาบินแห่งเมืองฮาโซร์ได้ยินข่าวนี้ ก็ได้ส่งข่าวไปถึงกษัตริย์โยบับแห่งเมืองมาโดน กษัตริย์เมืองชิมโรน และกษัตริย์เมืองอัคชาฟ 2 และยังส่งข่าวไปถึงพวกกษัตริย์ที่อยู่ในแถบเนินเขาทางตอนเหนือ ในหุบเขาจอร์แดนทางตอนใต้ของเมืองคินเนเรท[d] ในแถบที่ลุ่มเชิงเขาด้านตะวันตก และในที่ราบสูงโดร์ทางทิศตะวันตก 3 และส่งข่าวไปถึงชาวคานาอันที่อยู่ทางทิศตะวันออกและตะวันตก ชาวอาโมไรต์ ชาวฮิตไทต์ ชาวเปริสซี และชาวเยบุสในแถบเนินเขา และชาวฮีไวต์ที่อาศัยอยู่ที่เชิงเขาเฮอร์โมนในแคว้นมิสปาห์ 4 พวกกษัตริย์เหล่านี้ได้ยกทัพออกมา เป็นกองทัพขนาดมหึมา เหมือนเม็ดทรายที่ชายฝั่งทะเล พร้อมกับม้าและรถรบจำนวนมหาศาล
5 กษัตริย์ทั้งหมดมารวมทัพกัน และตั้งค่ายอยู่ที่ลำธารเมโรม เพื่อจะสู้รบกับชาวอิสราเอล
6 พระยาห์เวห์ได้พูดกับโยชูวาว่า “ไม่ต้องกลัวพวกเขา เพราะพรุ่งนี้ในเวลาเดียวกันนี้ เราจะมอบพวกเขาทั้งหมดให้ชาวอิสราเอลฆ่า เจ้าจะต้องตัดเอ็นที่ขาม้าของพวกเขา และเผาพวกรถรบของพวกเขา”
7 ดังนั้น โยชูวากับทหารอิสราเอลก็ยกทัพขึ้นมา และโจมตีพวกเขาที่ลำธารเมโรม โดยไม่ให้พวกนั้นได้ทันตั้งตัว 8 พระยาห์เวห์ได้มอบพวกนั้นไว้ในกำมือของชาวอิสราเอล พวกอิสราเอลได้โจมตีและไล่ล่าพวกนั้นไปไกลถึงมหาไซดอนและมิสเรโฟทมาอิม และไปทางตะวันออกเลยไปถึงหุบเขามิสปาห์ จนไม่เหลือศัตรูสักคนรอดชีวิต 9 โยชูวาได้ทำกับพวกเขาตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่ง คือ ตัดเส้นเอ็นขาของม้าของพวกเขา และเผาพวกรถรบของพวกเขาทิ้ง
10 ในเวลานั้น โยชูวาได้กลับมายึดเมืองฮาโซร์ และได้ฆ่ากษัตริย์ของเมืองนั้นด้วยดาบ เพราะแต่ก่อนนั้น ฮาโซร์เคยเป็นหัวหน้าของอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดที่ต่อต้านชาวอิสราเอล 11 พวกเขาได้ฆ่าทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองฮาโซร์ และทำลายพวกเขาลงอย่างย่อยยับ ทุกสิ่งที่มีลมหายใจไม่เหลือรอดชีวิตเลย และโยชูวาได้เผาเมืองฮาโซร์ทิ้ง
12 โยชูวาได้ยึดเมืองของกษัตริย์เหล่านั้นทั้งหมด และได้จับตัวกษัตริย์ของเมืองต่างๆมาฆ่า เขาได้ทำลายพวกนั้นลงอย่างราบคาบถวายให้กับพระยาห์เวห์ ตามที่โมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ได้สั่งไว้ 13 แต่พวกทหารไม่ได้เผาพวกเมืองต่างๆที่อยู่บนเนิน ยกเว้นเมืองฮาโซร์ ที่ถูกโยชูวาเผาไป 14 ส่วนสิ่งของทั้งหมดในเมืองเหล่านี้และพวกสัตว์เลี้ยง ชาวอิสราเอลได้ยึดไว้เป็นของพวกเขา แต่ประชาชนในเมืองถูกฆ่าหมดไม่เหลือใครรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว 15 พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสผู้รับใช้พระองค์ยังไง โมเสสก็สั่งโยชูวาอย่างนั้น และโยชูวาก็ได้ทำตาม ไม่มีสักอย่างที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้ แล้วโยชูวาไม่ได้ทำตาม
16 โยชูวายึดดินแดนทั้งหมดนี้ไว้ คือ ดินแดนแถบเนินเขา เนเกบทั้งหมด แผ่นดินโกเชนทั้งหมด ที่ลุ่มเชิงเขาด้านตะวันตก หุบเขาจอร์แดน และดินแดนแถบเนินเขาของอิสราเอล รวมทั้งเชิงเขาของอิสราเอล 17 ตั้งแต่ภูเขาฮาลักขึ้นไปจนถึงเสอีร์ไกลไปจนถึงบาอัลกาดในหุบเขาเลบานอน ตอนล่างของเทือกเขาเฮอร์โมน และโยชูวาได้จับกษัตริย์ของเมืองเหล่านั้นทั้งหมดมาฆ่า 18 โยชูวาได้ทำสงครามกับกษัตริย์เหล่านั้นเป็นเวลานาน 19 ชาวอิสราเอลรบชนะพวกนั้นทั้งหมด ไม่มีสักเมืองได้ทำข้อตกลงเป็นพันธมิตรกับชาวอิสราเอล ยกเว้นชาวฮีไวต์ที่อาศัยอยู่ในเมืองกิเบโอน 20 เป็นเพราะพระยาห์เวห์เอง ที่ทำให้คนเหล่านั้นอยากจะสู้รบกับชาวอิสราเอล เพื่อพวกเขาจะได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นซาก ไม่ได้รับความเมตตา และถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งโมเสสไว้
21 เวลานั้น โยชูวาไปทำลายล้างชาวอานาค[e] ที่อาศัยอยู่ตามดินแดนแถบเนินเขา ที่เฮโบรน ที่เดบีร์ ที่อานาบ พื้นที่ทั้งหมดแถบเนินเขาของยูดาห์ และพื้นที่ทั้งหมดแถบเนินเขาของอิสราเอล โยชูวาได้ทำลายชาวอานาคและเมืองต่างๆของพวกเขาทิ้งไป 22 ไม่มีชาวอานาคหลงเหลืออยู่ในแผ่นดินอิสราเอล มีเพียงบางส่วนที่หลงเหลืออยู่ในกาซา กัท และอัชโดด 23 ดังนั้น โยชูวาจึงได้ยึดเอาดินแดนทั้งหมดไว้ตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้กับโมเสสทุกอย่าง และโยชูวาก็ได้มอบดินแดนแห่งนั้นให้เป็นมรดกกับชาวอิสราเอล ตามสัดส่วนของเผ่าต่างๆ แล้วแผ่นดินก็ได้หยุดพักจากสงคราม
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International