Chronological
ใช้แต่สัตว์ดีๆเป็นเครื่องบูชา
17 ท่านต้องไม่เอาวัวตัวผู้หรือแกะที่มีตำหนิหรือมีสิ่งผิดปกติมาถวายเป็นเครื่องบูชาให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะนั่นเป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเกลียด
การลงโทษคนที่บูชารูปเคารพ
2 ถ้าเจอว่าในเมืองหนึ่งเมืองใดของท่านที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน มีชายหรือหญิงในหมู่พวกท่านทำในสิ่งที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของของท่านเห็นว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายและฝ่าฝืนข้อตกลงของพระองค์ 3 คือว่าพวกเขาไปรับใช้พวกพระอื่นๆและกราบไหว้พระพวกนั้น ไม่ว่าจะเป็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์หรือดาวดวงต่างๆซึ่งเราไม่ได้สั่งให้ทำอย่างนั้น 4 ถ้ามีคนมารายงานเรื่องนี้ให้ท่านฟัง ท่านต้องสืบดูให้แน่นอน เมื่อพิสูจน์ว่าเป็นเรื่องจริง ที่มีคนทำเรื่องชั่วร้ายอย่างนี้ในอิสราเอล 5 ท่านต้องเอาตัวชายหรือหญิงคนนั้น ที่ทำเรื่องชั่วร้ายนี้มาที่ประตูเมือง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ต้องเอาหินขว้างให้ตาย 6 แต่จะต้องมีพยานสองหรือสามคนขึ้นไปถึงจะฆ่าคนๆนั้นได้ แต่ถ้ามีพยานแค่คนเดียวก็ห้ามฆ่าเขา 7 พยานพวกนั้นจะเป็นพวกแรกที่เอาหินขว้างเพื่อฆ่าเขา และตามด้วยประชาชนทั้งหมด ด้วยวิธีนี้ ท่านจะกำจัดความชั่วร้ายไปจากท่ามกลางพวกท่าน
การตัดสินคดียากๆในศาล
8 ถ้ามีเรื่องที่ยากเกินกว่าที่ท่านจะตัดสินได้ เช่น การตายนั้นเกิดจากความตั้งใจหรือเป็นอุบัติเหตุ เป็นการฆาตกรรมหรือไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน หรือเป็นเรื่องฟ้องร้องว่าใครเป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือเรื่องการทำร้ายร่างกายกัน เรื่องทะเลาะกัน ที่เกิดขึ้นในเมืองต่างๆของท่าน ท่านต้องไปในสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะเลือกไว้ 9 ท่านต้องไปหานักบวชที่เป็นชาวเลวีและไปหาผู้ตัดสินที่เข้าเวรอยู่ในตอนนั้น บอกปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วพวกเขาจะตัดสินปัญหานั้นให้ 10 ท่านต้องทำตามสิ่งที่เขาบอกท่าน จากสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์จะเลือกไว้ และท่านต้องทำตามคำสั่งของพวกเขาอย่างระมัดระวัง 11 ท่านต้องทำตามคำแนะนำที่พวกเขาให้กับท่านและยอมรับคำตัดสินที่พวกเขาบอกท่าน ท่านต้องไม่โยกโย้คำตัดสินที่พวกเขาได้ประกาศให้กับท่านไปทางซ้ายหรือทางขวา
12 คนที่เย่อหยิ่งจองหองไม่ยอมเชื่อฟังนักบวชที่ยืนอยู่ที่นั่น ที่คอยรับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน หรือไม่ยอมฟังผู้ตัดสิน คนๆนั้นจะต้องตาย ทำอย่างนี้ ท่านจะได้ขจัดความชั่วร้ายออกไปจากอิสราเอลได้ 13 และทุกคนจะได้ยินเรื่องนั้น แล้วจะได้ไม่กล้าเย่อหยิ่งจองหองอีกต่อไป
วิธีเลือกกษัตริย์
14 เมื่อท่านเข้าสู่แผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะให้ท่านและยึดมันเป็นเจ้าของแล้ว และได้ตั้งรกรากแล้ว และท่านได้พูดว่า ‘ให้เราตั้งกษัตริย์ปกครองเราเหมือนชนชาติอื่นๆที่อยู่รอบๆเรากันเถอะ’ 15 ท่านต้องแน่ใจว่ากษัตริย์ที่ท่านจะตั้งเหนือท่านนั้นเป็นคนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเลือก กษัตริย์องค์นั้นจะต้องมาจากพี่น้องร่วมชาติของท่านเท่านั้น ห้ามไม่ให้ตั้งคนต่างชาติที่ไม่ใช่พี่น้องร่วมชาติของท่านขึ้นมาเหนือท่าน 16 แต่กษัตริย์องค์นั้นจะต้องไม่สะสมม้ามากมายสำหรับตัวเอง และเขาจะต้องไม่ส่งคนกลับไปซื้อม้า[a]ที่อียิปต์มาเพิ่ม เพราะพระยาห์เวห์พูดกับพวกท่านไว้ว่า ‘พวกท่านจะต้องไม่หวนกลับไปทางนั้นอีก’ 17 เขาต้องไม่มีเมียหลายคน ไม่อย่างนั้นเขาจะหันเหไปจากพระยาห์เวห์ และเขาจะต้องไม่ทำให้ตนเองร่ำรวยด้วยเงินทอง
18 เมื่อเขาขึ้นนั่งบัลลังก์ เขาต้องลอกคำสอนนี้ไว้สำหรับตัวเอง เขียนลงบนม้วนกระดาษจากต้นฉบับคำสอนที่พวกนักบวชชาวเลวีเก็บรักษาไว้ 19 กษัตริย์ต้องเก็บหนังสือเล่มนั้นไว้กับตัวเขา และเขาต้องอ่านมันตลอดชีวิต เพื่อเขาจะได้เรียนรู้ที่จะเคารพยำเกรงพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา และจะได้ทำตามทุกๆคำพูดที่เขียนไว้ในกฎ และข้อบังคับพวกนี้อย่างระมัดระวัง 20 เพื่อเขาจะได้ไม่คิดว่าตัวเขาดีกว่าพี่น้องร่วมชาติของเขา และเพื่อที่เขาจะได้ไม่หันเหจากคำสั่งนั้นไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อกษัตริย์องค์นั้นและลูกหลานของเขาจะได้ปกครองเหนืออาณาจักรอิสราเอลไปนานๆ
สนับสนุนนักบวชและชาวเลวี
18 นักบวชชาวเลวี เผ่าเลวีทั้งหมดจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินเหมือนกับชาวอิสราเอลคนอื่นๆ ชาวเลวีจะกินจากพวกของขวัญที่นำมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ นั่นเป็นส่วนแบ่งของพวกเลวี[b] 2 แต่เผ่าเลวีจะไม่มีส่วนแบ่งในที่ดินในหมู่พี่น้องของเขา พระยาห์เวห์คือส่วนแบ่งของพวกเขาตามที่พระองค์ได้สัญญากับเขาไว้
3 เมื่อท่านฆ่าวัวหรือแกะเพื่อเอามาเป็นเครื่องถวาย ท่านจะต้องแบ่งส่วนต่างๆพวกนี้ให้กับนักบวช คือส่วนไหล่ ส่วนแก้ม และส่วนท้อง 4 ท่านต้องให้ข้าวที่เกี่ยวชุดแรก เหล้าองุ่นใหม่และน้ำมัน รวมทั้งขนแกะที่ตัดครั้งแรกจากแกะของท่านกับนักบวช 5 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้เลือกชาวเลวีและลูกหลานของเขาออกมาจากเผ่าทั้งหลายของท่าน เพื่อมายืนรับใช้พระยาห์เวห์ในฐานะนักบวชตลอดไป
6 ถ้าชาวเลวีคนหนึ่งจากเมืองหนึ่งของท่านมา ไม่ว่าจะมาจากที่ไหนก็ตามในอิสราเอล และมายังสถานที่นั้นที่พระยาห์เวห์ได้เลือกไว้ เขาอยากจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่เขาต้องการ 7 เขาก็มาทำหน้าที่รับใช้ในนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาได้ เหมือนกับที่พี่น้องชาวเลวีของเขายืนอยู่ที่นั่นต่อหน้าพระยาห์เวห์ 8 พวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งอาหารเท่าๆกัน นอกเหนือจากสิ่งที่พวกเขาได้รับจากการขายทรัพย์สมบัติของครอบครัวเขา[c]
ชาวอิสราเอลต้องแตกต่าง
9 เมื่อท่านเข้ามาอยู่ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่าน ท่านต้องไม่เลียนแบบชนชาติพวกนั้นที่ทำแต่สิ่งชั่วๆ 10 อย่าเอาลูกชายและลูกสาวของท่านไปบูชายัญ อย่าให้ใครทำนายโชคชะตา โหราพยากรณ์ หรือหมอดูอนาคต อย่าให้ใครทำตัวเป็นพ่อมดหมอผี 11 หรือพยายามใช้เวทมนตร์สะกดคนอื่น และอย่าให้ใครปรึกษากับผีหรือวิญญาณ หรือพยายามพูดกับคนที่ตายไปแล้ว 12 คนที่ทำแบบนี้เป็นคนที่พระยาห์เวห์รังเกียจ พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะขับไล่ชนชาติเหล่านี้ออกไปจากดินแดนนั้นต่อหน้าพวกท่าน เพราะพวกเขาทำสิ่งที่น่ารังเกียจพวกนี้ 13 ท่านต้องซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างครบถ้วน 14 เพราะชนชาติพวกนี้ที่ท่านกำลังจะขับไล่ออกไปนั้น ไปฟังพวกทำนายโชคชะตา และพวกโหราพยากรณ์ แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านไม่ยอมให้ท่านทำอย่างนั้น
ผู้พูดแทนพระเจ้าคนใหม่แทนโมเสส
15 แต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนเรา มาจากท่ามกลางพวกท่าน จากท่ามกลางพี่น้องของท่าน พวกท่านต้องเชื่อฟังเขา 16 นี่คือสิ่งที่ท่านได้ขอจากพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่ภูเขาซีนายในวันที่ท่านได้ชุมนุมกัน ท่านพูดว่า ‘ขออย่าให้เราได้ยินเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราอีกเลย และขออย่าให้เราเห็นไฟที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้อีกเลย เพื่อว่าเราจะได้ไม่ตาย’
17 แล้วพระยาห์เวห์ได้พูดกับเราว่า ‘ข้อเสนอของพวกเขานั้นดี 18 เราจะส่งผู้พูดแทนพระเจ้าเหมือนกับเจ้า ที่มาจากพี่น้องของพวกเขาเองมาให้พวกเขา และเราจะบอกเขาว่าจะพูดอะไร และเขาจะบอกคนพวกนั้นทุกอย่างที่เราสั่งเขา 19 ใครที่ไม่เชื่อฟังคำของเราที่พูดผ่านมาทางเขานั้น เราจะเป็นคนลงโทษคนนั้นเอง’
ลักษณะผู้พูดแทนพระเจ้าปลอม
20 แต่ผู้พูดแทนพระเจ้าคนไหนที่บังอาจพูดในสิ่งที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด แต่อ้างว่าเราพูด จะต้องตาย และผู้พูดแทนพระอื่นๆจะต้องตาย 21 ถ้าท่านนึกในใจว่า ‘แล้วพวกเราจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ได้มาจากพระยาห์เวห์’ 22 เมื่อผู้พูดแทนพระเจ้านั้นอ้างว่าเขาพูดแทนพระยาห์เวห์ แต่สิ่งนั้นไม่ได้เกิดขึ้นและมันไม่เป็นจริง ท่านก็รู้เลยว่าผู้พูดแทนพระเจ้านั้นพูดมั่วๆเอาเอง พระยาห์เวห์ไม่ได้บอกให้เขาพูด ท่านไม่ต้องไปกลัวเขา
เมืองสำหรับลี้ภัย
(กดว. 35:9-28; ยชว. 20:1-9)
19 เมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ทำลายชนชาติที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน และเมื่อท่านได้ขับไล่พวกเขาออกไป และเข้าไปตั้งรกรากในบ้านเมืองของพวกเขาแล้ว 2 ท่านต้องแยกสามเมืองออกมาจากดินแดนที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านจะยกให้กับท่าน 3 ท่านต้องคำนวณระยะทางที่จะไปสามเมืองนั้น[d] และแบ่งดินแดนที่พระยาห์เวห์ยกให้กับท่านออกเป็นสามส่วน เพื่อคนที่ฆ่าคนตายจะได้หนีไปอยู่ที่นั่น
4 มีกฎอยู่ว่า คนที่ฆ่าคนอื่นตายและหนีไปอยู่ที่นั่นเพื่อเอาชีวิตรอดนั้น จะต้องเป็นคนที่ฆ่าคนอื่นโดยไม่ได้เจตนา และเขาต้องไม่เคยเป็นศัตรูกับผู้ตายมาก่อน 5 ตัวอย่างเช่น มีคนๆหนึ่งเข้าไปตัดต้นไม้ในป่ากับเพื่อนอีกคน ตอนที่เขาเงื้อขวานขึ้นเพื่อตัดต้นไม้ เผอิญหัวขวานหลุดจากด้าม ลอยไปโดนอีกคน ทำให้เพื่อนเขาตาย เขาต้องหนีไปอยู่หนึ่งในสามเมืองนี้ เพื่อเอาชีวิตรอด 6 ไม่อย่างนั้น ญาติของคนตาย[e] จะไล่ตามคนฆ่า ถ้าระยะทางไปสามเมืองนั้นไกลเกินไป เขาก็จะจับคนฆ่านั้นได้ และด้วยความโกรธเขาก็จะฆ่าคนนั้น ทั้งๆที่คนฆ่านั้นไม่สมควรได้รับโทษถึงตาย เพราะคนฆ่านั้นไม่เคยเป็นศัตรูกับผู้ตายมาก่อน 7 นั่นเป็นเหตุที่เราสั่งให้ท่านแยกเมืองออกมาสามเมือง
8 แต่ถ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ขยายเขตแดนของท่านออกไป เหมือนกับที่พระองค์ได้สัญญาไว้กับบรรพบุรุษของท่าน และพระองค์ให้แผ่นดินทั้งหมดกับท่าน ตามที่พระองค์สัญญาว่าจะยกให้กับบรรพบุรุษของท่าน 9 พระองค์จะทำอย่างนี้ ถ้าท่านทำตามทุกอย่างที่เราได้สั่งท่านในวันนี้อย่างระมัดระวัง คือรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านและเดินในทางของพระองค์เสมอ เมื่อพระองค์ขยายเขตแดนของท่าน ท่านต้องหาเมืองลี้ภัยเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกสามเมือง 10 ด้วยวิธีนี้ จะได้ไม่มีผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าในแผ่นดินของท่าน ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่านเป็นมรดก และท่านจะได้ไม่มีความผิดเพราะทำให้คนบริสุทธิ์ต้องตาย
11 แต่ถ้ามีคนหนึ่งเป็นศัตรูกับอีกคนหนึ่ง แล้วคนนั้นมาดักซุ่มคอยทำร้าย หลังจากลอบตีอีกคนจนตายแล้ว ก็วิ่งหนีเข้าไปในเมืองลี้ภัยพวกนี้ 12 พวกผู้นำของเมืองที่เขาอยู่ จะต้องส่งคนไปเอาตัวเขาออกมาจากเมืองลี้ภัยนั้น และส่งเขาไปให้กับญาติของผู้ตายเพื่อเอาไปฆ่า 13 ท่านต้องไม่สงสารเขา ท่านต้องกำจัดความผิดบาปที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ให้ออกไปจากอิสราเอล เพื่อทุกสิ่งจะได้เป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน
เส้นแบ่งเขตที่ดิน
14 ท่านต้องไม่โยกย้ายหลักเขตหิน ที่แบ่งเขตแดนของเพื่อนบ้านท่าน ที่คนรุ่นก่อนๆได้ปักไว้ในที่ดินที่ท่านจะได้รับ ในแผ่นดินที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้กับท่าน
พยาน
15 พยานแค่คนเดียวไม่เพียงพอที่จะตัดสินโทษคนๆหนึ่งที่อาจจะไปทำความผิดบาปมา แต่จะต้องมีพยานสองหรือสามคนมายืนยันเรื่องนั้นถึงจะตัดสินได้
16 ถ้ามีพยานเท็จเกิดขึ้น กล่าวหาอีกคนหนึ่งอย่างผิดๆ 17 และทั้งสองคนที่ทะเลาะกันได้มาอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ ต่อหน้านักบวชและผู้ตัดสินที่เข้าเวรในวันนั้น 18 ผู้ตัดสินจะสอบถามอย่างละเอียด และถ้าพยานใส่ร้ายพี่น้องของเขา 19 พวกท่านต้องลงโทษเขาอย่างที่เขาวางแผนจะให้พี่น้องคนนั้นถูกลงโทษ ท่านต้องกำจัดความชั่วร้ายออกไปจากท่ามกลางท่าน 20 คนที่เหลือจะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วจะได้กลัว และพวกเขาจะได้ไม่กล้าทำสิ่งชั่วร้ายอย่างนั้นอีกในหมู่พวกท่าน 21 ท่านต้องไม่สงสารเขา ชีวิตต้องชดใช้ด้วยชีวิต ตาต่อตา ฟันต่อฟัน มือต่อมือ เท้าต่อเท้า
กฎของการทำสงคราม
20 เมื่อท่านออกไปทำสงครามกับศัตรู และท่านเห็นม้าและรถรบ และกองทัพที่ใหญ่กว่ากองทัพของท่าน ไม่ต้องกลัวพวกเขา เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านที่นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์อยู่กับท่าน
2 เมื่อท่านเข้าใกล้สนามรบ นักบวชจะมาอยู่ข้างหน้าและพูดกับกองทัพว่า 3 ‘ชาวอิสราเอล ฟังให้ดี พวกท่านกำลังจะเข้าสู่สนามรบกับศัตรูของท่านในวันนี้ อย่าเสียกำลังใจ อย่ากลัว อย่าแตกตื่นและอย่าตกใจกลัวพวกนั้น 4 เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านจะไปกับพวกท่าน และพระองค์จะต่อสู้กับศัตรูแทนพวกท่านและจะให้ท่านมีชัยชนะ’
5 เจ้าหน้าที่จะต้องพูดกับกองทัพว่า ‘มีใครบ้างในที่นี้ที่ได้สร้างบ้านใหม่ แต่ยังไม่ได้เข้าไปอยู่เลย เขาควรจะกลับบ้านไป ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายในสนามรบและคนอื่นจะเข้าไปอยู่แทน 6 หรือมีใครบ้างที่ปลูกองุ่นไปแล้วแต่ยังไม่ได้กินผลของมัน เขาควรจะกลับบ้านไป ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายในสนามรบและคนอื่นจะมากินแทน 7 หรือมีใครที่หมั้นสาวไว้แต่ยังไม่ได้แต่ง เขาควรจะกลับบ้านไป ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายในสนามรบ และคนอื่นจะมาแต่งงานกับนางแทน’
8 แล้วเจ้าหน้าที่จะพูดกับกองทัพว่า ‘มีใครบ้างที่ขี้ขลาดและกลัว เขาควรจะกลับบ้านไป จะได้ไม่พลอยทำให้คนอื่นกลัวไปด้วย’ 9 เมื่อเจ้าหน้าที่พูดกับกองทัพเสร็จแล้ว พวกเขาควรแต่งตั้งผู้บัญชาการเพื่อมานำกองทัพ
10 เมื่อท่านใกล้ถึงเมืองที่ท่านจะสู้รบด้วย สิ่งแรกที่ท่านต้องทำก่อน คือเสนอเงื่อนไขให้จำนน 11 ถ้าพวกเขายอมจำนน และเปิดประตูเมืองให้ท่าน ท่านต้องบังคับทุกคนที่ท่านพบในเมืองนั้นให้มาทำงานรับใช้ท่าน 12 แต่ถ้าเมืองนั้นไม่ยอมจำนน ให้ท่านล้อมเมืองนั้นไว้ 13 แล้วเมื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านมอบเมืองนั้นไว้ในมือท่าน ท่านต้องเอาดาบฆ่าผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคน 14 แต่ให้จับเอาผู้หญิง เด็กๆฝูงวัว และสิ่งอื่นๆที่อยู่ในเมืองนั้น รวมทั้งของที่มีค่าทั้งหมดมาเป็นของท่านได้ และท่านก็สามารถใช้สิ่งเหล่านี้ที่เป็นของศัตรูท่านที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ยกให้กับท่าน 15 ส่วนเมืองต่างๆที่ห่างไกลจากท่านมาก ที่ไม่ใช่เป็นของพวกชนชาติแถวนี้ ก็ให้ท่านทำแบบเดียวกัน
16 แต่ท่านต้องไม่ให้มีสิ่งมีชีวิตหลงเหลืออยู่เลยในเมืองต่างๆของคนพวกนี้ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านกำลังจะยกให้ท่านเป็นมรดก 17 เพราะท่านต้องทำลายคนพวกนี้ให้สิ้นซาก คือ ชาวฮิตไทต์ ชาวอาโมไรต์ ชาวคานาอัน ชาวเปริสซี ชาวฮีไวต์และชาวเยบุส ตามที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้สั่งท่านไว้ 18 เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่สอนพวกท่านให้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจที่พวกเขาได้ทำให้กับพระต่างๆของพวกเขา ซึ่งจะทำให้พวกท่านทำบาปอย่างนั้นต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
19 ถ้าท่านล้อมเมืองเมืองหนึ่งอยู่หลายวัน และต่อสู้กันเพื่อจะยึดเมืองนั้น อย่าเอาขวานโค่นพวกต้นไม้ เพราะท่านอาจจะได้กินผลของพวกมัน อย่าโค่นพวกต้นไม้ลง พวกต้นไม้ในทุ่งนาเป็นคนหรือยังไงถึงต้องไปต่อสู้กับมัน 20 แต่ถ้าท่านรู้ว่าต้นไหนไม่ใช่ต้นผลไม้ ท่านก็โค่นทิ้งได้ แล้วเอาไม้พวกมันมาสร้างกำแพงป้องกันภัยจากเมืองที่ทำสงครามกับท่านอยู่ จนกว่าจะยึดเมืองนั้นได้
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International