Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
กันดารวิถี 18-20

งานของนักบวชเลวี

18 พระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “ตัวเจ้า ลูกชายของเจ้าและคนในตระกูลของเจ้า จะต้องรับโทษ ถ้ามีใครมาทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เสื่อมเสีย ตัวเจ้าและลูกชายจะต้องรับโทษ ถ้าทำหน้าที่นักบวชบกพร่องทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ให้พาพี่น้องชาวเลวีคนอื่นๆที่อยู่เผ่าพันธุ์เดียวกับพ่อของเจ้ามาด้วย พวกเขาจะได้มาร่วมงานและช่วยเหลือเจ้าตอนที่เจ้าและลูกชายของเจ้าอยู่ต่อหน้าเต็นท์เก็บข้อตกลง พวกเขาจะต้องทำหน้าที่เป็นยามคอยเฝ้าระวังให้กับเจ้า คอยดูแลเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง แต่พวกเขาต้องไม่เข้าไปใกล้เครื่องใช้ต่างๆที่ศักดิ์สิทธิ์ในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์หรือแท่นบูชานั้น เพื่อว่าทั้งพวกเขาและเจ้าจะได้ไม่ตาย พวกเขาจะร่วมงานกับเจ้าและทำหน้าที่เป็นยามคอยเฝ้าระวังเต็นท์นัดพบ รวมทั้งงานหนักต่างๆที่เกี่ยวกับเต็นท์ด้วย แต่ห้ามคนที่ไม่มีสิทธิ์เข้ามาใกล้เจ้า

เจ้าต้องทำหน้าที่เป็นยามคอยเฝ้าระวังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแท่นบูชา เพื่อเราจะได้ไม่โกรธประชาชนชาวอิสราเอล ดูสิ เราได้เลือกพวกพี่น้องชาวเลวีของเจ้า ออกมาจากประชาชนชาวอิสราเอล พวกเขาเป็นของขวัญสำหรับเจ้า ที่มอบให้กับพระยาห์เวห์ เพื่อทำงานหนักในเต็นท์นัดพบ อาโรน มีแต่เจ้าและลูกชายของเจ้าเท่านั้นที่จะทำหน้าที่นักบวช คอยดูแลทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับแท่นบูชาและที่อยู่หลังม่านนั้น และเจ้าก็ต้องทำงานด้วย เราจะให้งานเจ้าให้สมกับฐานะนักบวช แต่คนที่ไม่มีสิทธิ์ แล้วบุกรุกเข้ามาจะต้องถูกฆ่า”

พระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “ดูสิ เราเองได้มอบหมายงานให้เจ้าเป็นยามคอยเฝ้าระวังของขวัญต่างๆที่คนเอามาให้กับเรา รวมทั้งของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ประชาชนชาวอิสราเอลเอามา เราจะแบ่งสิ่งเหล่านั้นให้เจ้าและลูกชายของเจ้า เป็นส่วนแบ่งที่พวกเจ้าจะได้ตลอดไป ผู้คนจะเอาเครื่องบูชาต่างๆมาถวายเรา มีทั้งเครื่องบูชาจากเมล็ดพืช เครื่องบูชาชำระล้าง เครื่องบูชาชดใช้ เครื่องบูชาพวกนี้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เจ้าจะได้ส่วนแบ่งจากเครื่องบูชาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนี้ จากส่วนที่เก็บไว้ ที่ไม่ได้เอาไปเผาบนแท่นบูชา ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับเจ้าและพวกลูกชายของเจ้า 10 เจ้าต้องกินมันในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ผู้ชายในครอบครัวเจ้ากินได้หมดทุกคน มันเป็นของศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจ้า

11 และของขวัญพิเศษอื่นๆที่ชาวอิสราเอลนำมายื่นถวายกับเรา ก็จะเป็นของเจ้าด้วย เราจะให้ของพวกนั้นกับเจ้า ลูกชายของเจ้าและลูกสาวของเจ้า นั่นเป็นส่วนแบ่งของเจ้า ในครอบครัวเจ้า ทุกคนที่บริสุทธิ์ตามพิธีกรรมก็กินได้

12 เมื่อชาวอิสราเอลนำผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้เป็นครั้งแรกมาถวายให้กับพระยาห์เวห์ มีน้ำมันมะกอกอย่างดี เหล้าองุ่นใหม่และเมล็ดข้าวทั้งหมด เราจะยกให้กับเจ้า 13 เมื่อพวกเขานำพืชผลที่สุกเป็นครั้งแรกในที่ดินของพวกเขามาถวายพระยาห์เวห์ ของถวายนั้นก็จะเป็นของพวกเจ้า ในครอบครัวเจ้า ทุกคนที่บริสุทธิ์ตามพิธีกรรม ก็กินได้

14 ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขานำมาถวายในอิสราเอล ก็จะเป็นของเจ้า

15 ลูกหัวปีไม่ว่าจะเป็นลูกคนหรือลูกสัตว์ ที่พวกเขาเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์จะเป็นของเจ้า แต่เจ้าจะต้องรับเงินที่เขาจ่ายเป็นค่าไถ่สำหรับลูกหัวปีของคน และลูกหัวปีของสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์[a] 16 เมื่อลูกหัวปีนั้นมีอายุได้หนึ่งเดือน เจ้าจะต้องมาซื้อคืนไปเป็นเงินหนักห้าเชเขล[b] ตายตัวตามมาตรฐานอย่างเป็นทางการ[c] โดยคิดหนึ่งเชเขลเท่ากับยี่สิบเกราห์[d]

17 แต่ลูกวัวหัวปี ลูกแกะหัวปี และลูกแพะหัวปี ห้ามไม่ให้เจ้าซื้อคืนไป พวกมันเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เจ้าต้องเอาเลือดของพวกมันมาพรมลงบนแท่นบูชาและต้องเผาไขมันของพวกมัน เป็นของขวัญ ที่มีกลิ่นหอมให้กับพระยาห์เวห์ 18 แต่ส่วนที่เป็นเนื้อจะเป็นของเจ้า รวมทั้งส่วนอกของเครื่องยื่นบูชา และส่วนสะโพกข้างขวา ก็เป็นของเจ้าด้วย 19 พวกของขวัญศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่ชาวอิสราเอลเอามายื่นถวายให้กับพระยาห์เวห์ เรามอบให้กับเจ้า ลูกชายและลูกสาวของเจ้า มันเป็นส่วนของเจ้าตลอดไป มันจะเป็นข้อตกลง[e] ของพระยาห์เวห์ สำหรับเจ้าและลูกหลานรุ่นหลังจากเจ้าตลอดไป”

20 พระยาห์เวห์พูดกับอาโรนว่า “เจ้าจะไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดินของพวกเขา และเจ้าจะไม่ได้เป็นเจ้าของในส่วนแบ่งที่ดินท่ามกลางพวกเขา เราคือส่วนแบ่งของเจ้าและมรดกของเจ้าในท่ามกลางประชาชนชาวอิสราเอล

21 พวกชาวอิสราเอลจะถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของพืชผลและสัตว์ที่เกิดใหม่ เรายกส่วนนี้ให้กับชาวเลวี นี่จะเป็นส่วนแบ่งของพวกเขา เป็นค่าตอบแทน ที่พวกเขาทำงานหนักในเต็นท์นัดพบ 22 ตั้งแต่นี้ไป ชาวอิสราเอลต้องไม่เข้าไปใกล้เต็นท์นัดพบ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะถูกลงโทษ เพราะบาปของพวกเขาและจะตาย 23 มีแต่ชาวเลวีเท่านั้นที่จะทำงานให้เต็นท์นัดพบ และพวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อความบาปที่เกิดขึ้น นี่จะเป็นกฎของพวกเจ้าตลอดไป และพวกเลวีก็จะไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดินของชาวอิสราเอล 24 ชาวอิสราเอลจะถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้เป็นของขวัญให้กับพระยาห์เวห์ แล้วเราจะให้ส่วนนี้กับชาวเลวี เป็นส่วนแบ่งแทนที่ดิน เพราะอย่างนี้ เราถึงได้บอกชาวเลวีว่า พวกเขาจะไม่ได้ส่วนแบ่งอะไรเลยในที่ดิน ท่ามกลางประชาชนชาวอิสราเอล”

25 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า 26 “ให้บอกชาวเลวีว่า ‘เมื่อคนอิสราเอลเอาสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้มาถวายให้กับเรา เราก็ได้มอบส่วนนี้ให้เป็นส่วนแบ่งของเจ้า เมื่อเจ้าได้รับส่วนแบ่งนี้แล้ว เจ้าต้องถวายสิบเปอร์เซ็นต์ของส่วนแบ่งนั้นให้กับพระยาห์เวห์ด้วย 27 ของขวัญของเจ้านี้ พระเจ้าก็จะนับให้กับเจ้าเหมือนกับว่ามันเป็นเมล็ดข้าวจากลานนวดข้าวและน้ำองุ่นที่เต็มล้นในบ่อย่ำองุ่น 28 ดังนั้น เมื่อเจ้าได้รับสิบเปอร์เซ็นต์ที่ชาวอิสราเอลเอามาถวายพระยาห์เวห์ เจ้าก็ต้องถวายของขวัญให้กับพระยาห์เวห์เหมือนกัน จากของขวัญที่เจ้าเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์นี้ เจ้าต้องเอาไปให้กับนักบวชอาโรน 29 เจ้าจะต้องแยกส่วนที่ดีที่สุดจากของขวัญแต่ละอย่างทั้งหมดที่เจ้าได้รับมา เอาไว้เป็นของขวัญจากเจ้าที่ให้พระยาห์เวห์’

30 และให้บอกกับพวกเลวีว่า ‘เมื่อเจ้าเอาส่วนที่ดีที่สุดของมันมาถวายแล้ว พระเจ้าก็จะถือว่าส่วนที่เหลือนั้น เป็นของเจ้าชาวเลวี เหมือนกับตอนที่เอาผลผลิตจากลานนวดข้าว และผลผลิตจากบ่อย่ำองุ่น มาถวายนั่นเอง 31 เจ้าและครอบครัวของเจ้าจะกินมันที่ไหนก็ได้ เพราะมันเป็นค่าแรงของเจ้าที่ทำงานในเต็นท์นัดพบ 32 และถ้าเจ้าถวายส่วนที่ดีที่สุดของมันให้กับพระยาห์เวห์ เจ้าจะไม่ต้องรับโทษบาปเพราะมัน เจ้าต้องไม่ทำให้ของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนชาวอิสราเอล เสื่อมเสียไป เพื่อเจ้าจะได้ไม่ตาย’”

ขี้เถ้าของวัวแดง

19 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า “นี่เป็นกฎข้อบังคับที่พระยาห์เวห์ได้สั่งไว้ ให้บอกกับประชาชนชาวอิสราเอลว่า ให้พวกเขาเอาวัวตัวเมียสีแดงหนึ่งตัวที่ไม่มีตำหนิหรือรอยฟกช้ำใดๆมาให้กับเจ้า และต้องเป็นวัวที่ไม่เคยถูกเทียมแอก[f] มาก่อน พวกเจ้าต้องเอาวัวตัวนั้นมาให้กับนักบวชเอเลอาซาร์ เขาจะจูงมันออกไปนอกค่าย และฆ่ามันต่อหน้าเขา แล้วนักบวชเอเลอาซาร์ต้องเอานิ้วมือจุ่มลงไปในเลือดของมัน และพรมเลือดไปที่หน้าเต็นท์นัดพบเจ็ดครั้ง แล้วต้องเผาวัวแดงนั้นต่อหน้าเขา ต้องเผาหนัง เนื้อและเลือด รวมทั้งขี้ของมันไปพร้อมๆกัน นักบวชต้องนำไม้สนซีดาร์ กิ่งหุสบ[g] และด้ายสีแดงเข้ม โยนลงไปในไฟที่กำลังเผาวัวแดงนั้น นักบวชต้องซักเสื้อผ้าของเขา และล้างตัวในน้ำ หลังจากนั้น นักบวชถึงกลับเข้ามาในค่ายได้ แต่เขาจะยังไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมจนกว่าจะถึงตอนเย็น คนที่เผาวัวแดงต้องเอาเสื้อผ้าไปซักและล้างตัวในน้ำ และเขาจะไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปจนถึงตอนเย็นเหมือนกัน

แล้วให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ยังบริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปโกยขี้เถ้าของวัวแดง และเอาไปเก็บไว้ในที่ที่สะอาดนอกค่าย ขี้เถ้านั้นจะถูกเก็บไว้ ผสมน้ำสำหรับชำระชุมชนชาวอิสราเอลให้บริสุทธิ์ มันคือเครื่องบูชาที่ทำให้คนบริสุทธิ์

10 คนที่ไปโกยขี้เถ้าวัวแดงนั้น ต้องซักเสื้อผ้าของเขา และจะไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปจนถึงตอนเย็น นี่จะเป็นกฎข้อบังคับที่จะใช้ตลอดไป ทั้งกับชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ร่วมกับพวกเขา 11 คนที่ไปแตะต้องร่างคนตายมา ไม่ว่าจะเป็นร่างของใครก็ตาม คนๆนั้นจะไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมไปเป็นเวลาเจ็ดวัน 12 เขาจะต้องล้างตัวเองให้บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมด้วยน้ำสำหรับชำระล้างนั้น แล้วเขาจะบริสุทธิ์ แต่ถ้าเขาไม่ล้างตัวเองให้บริสุทธิ์ในวันที่สามและในวันที่เจ็ด เขาจะยังคงไม่บริสุทธิ์ 13 คนที่ไปถูกศพมา และไม่ได้ชำระล้างตัวเองให้บริสุทธิ์ทางพิธีกรรม เขาก็จะทำให้เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ไม่บริสุทธิ์ไปด้วย คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากคนอิสราเอล ถ้าไม่ได้เอาน้ำสำหรับชำระล้างลาดลงบนตัวเขา เขาก็จะยังคงไม่บริสุทธิ์ทางพิธีกรรมต่อไป ความไม่บริสุทธิ์ยังคงติดตัวเขาอยู่

14 นี่เป็นกฎที่ใช้ เมื่อมีคนตายในเต็นท์ คนที่เข้าไปในเต็นท์นั้น หรือคนที่อยู่ในเต็นท์นั้น จะไม่บริสุทธิ์ไปเจ็ดวัน 15 หม้อทุกใบที่เปิดฝาทิ้งไว้หรือไม่มีฝาปิดก็จะไม่บริสุทธิ์ 16 ใครก็ตามที่อยู่ในท้องทุ่ง แล้วเกิดไปแตะต้องถูกคนที่ถูกฟันตาย หรือคนที่ตายตามธรรมชาติ หรือกระดูกคนหรือหลุมศพ คนๆนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ไปเจ็ดวัน

17 ดังนั้นเจ้าต้องเอาขี้เถ้าของวัวแดงจากเครื่องบูชาชำระล้างนั้น มาให้กับคนที่ไม่บริสุทธิ์และเอาน้ำบริสุทธิ์[h] มาเทผสมเข้ากับขี้เถ้านั้นที่อยู่ในชาม 18 ให้คนที่บริสุทธิ์เอากิ่งหุสบจุ่มลงในน้ำและพรมไปที่เต็นท์ และพวกถ้วยชามต่างๆ รวมทั้งคนที่อยู่ในเต็นท์นั้นด้วย และพรมให้กับคนที่ไปแตะต้องถูกของพวกนี้คือกระดูกคนตาย หรือคนที่ถูกฟันตาย หรือคนที่ตายตามธรรมชาติ หรือหลุมฝังศพ

19 คนที่บริสุทธิ์คนนั้น จะต้องพรมน้ำนั้นให้กับคนที่ไม่บริสุทธิ์ในวันที่สามและวันที่เจ็ด ด้วยวิธีนี้ เขาจะทำให้คนๆนั้นบริสุทธิ์ในวันที่เจ็ด แล้วคนที่ไม่บริสุทธิ์นั้นต้องซักล้างเสื้อผ้า และล้างตัวเองในน้ำ และเขาจะบริสุทธิ์ในตอนเย็น

20 คนที่กลายเป็นคนไม่บริสุทธิ์ และไม่ได้ทำให้ตัวเองบริสุทธิ์ คนๆนั้นจะต้องถูกตัดออกจากชุมชน เพราะคนๆนั้นทำให้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์ไม่บริสุทธิ์ เพราะยังไม่ได้เอาน้ำสำหรับการชำระล้างราดบนตัวเขา คนๆนั้นก็ยังไม่บริสุทธิ์อยู่ 21 กฎนี้จะใช้กับพวกเขาตลอดไป คนที่พรมน้ำชำระล้างให้กับคนอื่นนั้น จะต้องซักเสื้อผ้าของเขา และคนที่แตะถูกน้ำสำหรับชำระล้าง จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงตอนเย็น 22 คนที่ไม่บริสุทธิ์ไปแตะถูกอะไรก็ตาม สิ่งนั้นก็จะไม่บริสุทธิ์ไปด้วย และคนอื่นที่ไปแตะถูกตัวเขาก็จะไม่บริสุทธิ์ไปจนถึงเย็น”

มิเรียมตาย

20 ประชาชนชาวอิสราเอล ทั้งชุมชนมาถึงที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งศินในเดือนที่หนึ่ง ประชาชนอาศัยอยู่ที่เคเดช มิเรียมตายและถูกฝังไว้ที่นี่

โมเสสทำผิด

ที่นั่นไม่มีน้ำสำหรับชุมชน ดังนั้น พวกเขาจึงรวมตัวกันต่อต้านโมเสสและอาโรน ประชาชนมาถกเถียงกับโมเสสและพูดว่า “พวกเราน่าจะตายไปพร้อมๆกับพี่น้องของเรา ตอนที่พวกเขาตายไปต่อหน้าพระยาห์เวห์ พวกท่านพาชุมชนของพระยาห์เวห์มาในที่เปล่าเปลี่ยวแห้งแล้งนี้ทำไม เพื่อเราและสัตว์ของเราจะได้ตายกันที่นี่หรือยังไง ท่านนำเราออกมาจากอียิปต์เพื่อมาอยู่ในที่ห่วยๆอย่างนี้ทำไม ที่นี่ไม่มีเมล็ดพืช มะเดื่อ องุ่นหรือทับทิม และแม้แต่น้ำจะดื่มก็ยังไม่มีเลย”

โมเสสและอาโรนจึงจากชุมชนไปที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ ทั้งสองคนก้มหน้ากราบลง และรัศมี ของพระยาห์เวห์ก็ปรากฏกับพวกเขา

พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสว่า “เจ้าและอาโรนพี่ชายเจ้า ไปหยิบไม้เท้าและรวบรวมคนในชุมชนนั้น แล้วพูดกับก้อนหินต่อหน้าพวกเขา แล้วหินจะให้น้ำไหลออกมา ด้วยวิธีนี้ เจ้าจะได้ผลิตน้ำให้กับพวกเขาจากหินก้อนนั้น และเจ้าก็ได้จัดหาน้ำดื่มให้กับชุมชนและสัตว์เลี้ยงของพวกเขา”

โมเสสจึงไปหยิบไม้เท้าที่อยู่ตรงหน้าพระยาห์เวห์ ตามที่พระองค์สั่งเขา 10 โมเสสและอาโรนก็เรียกชุมนุมคนที่หน้าหินก้อนนั้น โมเสสพูดกับพวกเขาทั้งหลายว่า “ฟังให้ดี ไอ้พวกแข็งข้อ จะให้เราทำน้ำออกมาจากหินก้อนนี้หรือ” 11 แล้วโมเสสก็ยกมือขึ้น และตีหินก้อนนั้นด้วยไม้เท้าสองครั้ง และน้ำก็พุ่งออกมา ชุมชนและสัตว์เลี้ยงของเขาก็เข้าไปดื่มกัน

12 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนว่า “เจ้าไม่ได้ไว้วางใจเราเพียงพอ เจ้าถึงไม่ได้ให้เกียรติเราในฐานะผู้ศักดิ์สิทธิ์ ต่อหน้าประชาชนชาวอิสราเอล ดังนั้น เจ้าจะไม่ได้นำชุมชนนี้เข้าไปในแผ่นดินที่เรากำลังจะให้กับพวกเขานั้น”

13 สถานที่นี้ถูกเรียกว่าน้ำของเมรีบาห์[i] เป็นสถานที่ที่ประชาชนชาวอิสราเอลแข็งข้อต่อพระยาห์เวห์ และพระยาห์เวห์ได้แสดงให้พวกเขาเห็นว่าพระองค์เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์

เอโดมไม่อนุญาตให้อิสราเอลผ่าน

14 ตอนที่โมเสสอยู่ที่เคเดช เขาได้ส่งคนถือสารไปถึงกษัตริย์ของเอโดมมีใจความว่า

“น้องชายของท่าน ชาวอิสราเอล พูดกับท่านว่า ท่านก็รู้เกี่ยวกับความยากลำบากต่างๆที่เราได้พบมาแล้วว่า 15 บรรพบุรุษของเราได้ลงไปอยู่ที่อียิปต์และได้อาศัยอยู่ที่นั่นเป็นเวลาช้านาน และชาวอียิปต์ต่างก็โหดร้ายกับพวกเราและบรรพบุรุษของเรา 16 แต่เราได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อพระยาห์เวห์ และพระองค์ก็ได้ยินเสียงร้องของพวกเรา และได้ส่งทูตสวรรค์องค์หนึ่งมานำเราออกจากอียิปต์

และดูสิ ตอนนี้เราอยู่ที่เคเดช เมืองที่ติดทางชายแดนของท่าน 17 ได้โปรดอนุญาตให้พวกเราเดินผ่านประเทศของท่าน พวกเราจะไม่เดินผ่านไร่นาหรือไร่องุ่น พวกเราจะไม่ดื่มน้ำจากบ่อของท่าน พวกเราจะเดินอยู่แต่บนทางหลวงเท่านั้น และจะไม่แวะที่ใดจนกว่าจะผ่านประเทศของท่านไป”

18 แต่กษัตริย์เอโดมตอบมาว่า “พวกท่านต้องไม่ผ่านเข้ามาในดินแดนของเรา ไม่อย่างนั้น เราจะยกทัพออกมาต่อสู้กับพวกท่าน”

19 ประชาชนชาวอิสราเอลจึงบอกกับเขาว่า “พวกเราจะเดินอยู่แต่บนทางหลวงเท่านั้น และถ้าสัตว์เลี้ยงของพวกเราไปดื่มน้ำของท่านเข้า พวกเราจะจ่ายเงินให้ ขอเพียงท่านอนุญาตให้พวกเราเดินผ่านไปเท่านั้น มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”

20 แต่กษัตริย์ของเอโดมบอกว่า “ห้ามพวกท่านผ่านเข้ามา” เอโดมจึงยกกองทัพขนาดใหญ่ที่เข้มแข็งออกมาต้านชาวอิสราเอล 21 เอโดมไม่ยอมให้ชาวอิสราเอลผ่านดินแดนของพวกเขา ชาวอิสราเอลจึงต้องหันไปทางอื่น

อาโรนตาย

22 แล้วประชาชนชาวอิสราเอล ทั้งชุมชนก็จากเคเดช และมาถึงภูเขาโฮร์ 23 พระยาห์เวห์พูดกับโมเสสและอาโรนบนภูเขาโฮร์ ซึ่งติดกับชายแดนของเอโดม 24 “อาโรนจะตายและจะไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเขา เขาจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินที่เราจะให้กับประชาชนชาวอิสราเอล เพราะพวกเจ้าขัดคำสั่งเราเกี่ยวกับน้ำของเมรีบาห์

25 ให้นำตัวอาโรนและเอเลอาซาร์ลูกชายเขา ขึ้นมาบนภูเขาโฮร์ 26 และถอดเสื้อของอาโรนออก แล้วเอาไปสวมให้กับเอเลอาซาร์ลูกชายของเขา แล้วอาโรนจะได้ไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษของเขาและตายที่บนภูเขานั่น”

27 โมเสสจึงทำตามที่พระยาห์เวห์สั่ง พวกเขาเดินขึ้นไปบนภูเขาโฮร์ ต่อหน้าชุมชน 28 โมเสสถอดเสื้อพิเศษของอาโรนออก แล้วสวมให้กับเอเลอาซาร์ลูกชายของเขา แล้วอาโรนก็ตายอยู่บนยอดเขานั้น โมเสสและเอเลอาซาร์ลงมาจากภูเขา 29 และชุมชนทั้งหมดก็เห็นว่าอาโรนตายแล้ว ประชาชนชาวอิสราเอลทุกคนก็ไว้ทุกข์[j] ให้อาโรนสามสิบวัน

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International