Chronological
36 เบซาเลลและโอโฮลีอับกับช่างผู้ชำนาญงานก็ได้มาทำงานตามที่พระยาห์เวห์สั่งให้ทำทุกอย่าง พระยาห์เวห์ได้ให้ความชำนาญและสติปัญญากับพวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้รู้วิธีสร้างทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการรับใช้ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น 2 โมเสสได้เรียกเบซาเลล โอโฮลีอับกับช่างผู้ชำนาญทั้งหมดที่พระยาห์เวห์ได้ให้ความสามารถ คือทุกคนที่มีใจมาช่วยทำงานนี้ 3 โมเสสได้เอาของถวายทั้งหมดที่ลูกหลานชาวอิสราเอลเอามาถวายนั้นให้กับพวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้เอาไปใช้สำหรับงานรับใช้ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น ชาวอิสราเอลยังคงเอาของมาถวายให้ทุกๆเช้าด้วยความเต็มใจ 4 แล้วช่างผู้ชำนาญทุกคน จากแต่ละแผนก ที่ทำงานสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้มาหาโมเสส 5 และพูดกับโมเสสว่า “คนเอาของมาให้มากเกินไปแล้วสำหรับงานที่พระยาห์เวห์สั่งให้ทำ”
6 โมเสสจึงสั่งการไป และพวกเขาก็ประกาศไปทั่วค่ายว่า “ชายหญิงทั้งหลาย ไม่ต้องทำของถวายอะไรอีกแล้วสำหรับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์” ประชาชนก็เลยหยุดเอาของมาให้ 7 เพราะประชาชนได้เอาของมาให้เกินพอแล้วสำหรับงานที่จะทำทั้งหมด
เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์
(อพย. 26:1-37)
8 ช่างผู้ชำนาญทั้งหลาย ได้สร้างเต็นท์ที่ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยผ้าม่านสิบผืน ที่ทำจากผ้าลินินทอเนื้อดี และผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง และสีแดงเข้ม เขาได้ปักลายเครูบ ที่ได้ออกแบบมาอย่างประณีตลงบนผ้าม่านเหล่านั้น 9 ผ้าม่านแต่ละผืนยาวยี่สิบแปดศอก[a] และกว้างสี่ศอก[b] ทุกผืนมีขนาดเท่ากันหมด 10 เบซาเลลได้เอาผ้าม่านห้าผืนมาเกี่ยวเข้าด้วยกัน และเอาผ้าม่านอีกห้าผืนมาเกี่ยวเข้าด้วยกันอีกชุดหนึ่ง 11 เขาเอาผ้าสีน้ำเงินมาทำเป็นหู ติดไว้ที่ขอบของผ้าม่านชุดแรก และทำแบบเดียวกันกับขอบของผ้าม่านชุดที่สอง 12 เขาทำหูห้าสิบหูสำหรับผ้าม่านชุดแรก และทำอีกห้าสิบหูสำหรับผ้าม่านชุดที่สอง หูของผ้าม่านสองชุดนี้จะอยู่ตรงข้ามกัน 13 เขาเอาทองคำมาทำเป็นตะขอห้าสิบอัน เพื่อใช้เกี่ยวผ้าม่านสองชุดนั้นเข้าด้วยกัน เพื่อให้เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นชิ้นเดียวกัน
14 เขาทำผ้าม่านด้วยขนแพะสำหรับเต็นท์ ที่จะเอามาคลุมเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์อีกชั้นหนึ่ง เขาทำผ้าม่านขนแพะทั้งหมดสิบเอ็ดผืน 15 ผ้าม่านแต่ละผืนยาวสามสิบศอก[c] และกว้างสี่ศอก ทั้งสิบเอ็ดผืนมีขนาดเท่ากันหมด 16 เขาเอาผ้าม่านห้าผืนมาต่อติดกัน และเอาผ้าม่านอีกหกผืนมาต่อติดกัน 17 เขาได้ทำหูห้าสิบหูติดไว้ที่ขอบของผ้าม่านชิ้นบนสุดของชุดแรก และทำอีกห้าสิบหูติดไว้ที่ขอบของผ้าม่านชิ้นบนสุดของชุดที่สอง 18 เขาได้เอาทองสัมฤทธิ์ มาทำตะขอ ห้าสิบอัน เพื่อใช้เกี่ยวผ้าม่านทั้งสองชุดเข้าด้วยกัน เป็นเต็นท์หลังเดียวกัน 19 เขาได้ทำที่คลุมเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ไว้สองชั้น ชั้นในทำจากหนังแกะตัวผู้ ชั้นนอกทำจากหนังปลาโลมา
20 เขาได้สร้างกรอบไม้กระถินให้ตั้งขึ้นเพื่อค้ำเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ 21 กรอบแต่ละกรอบมีความยาวสิบศอก[d] กว้างหนึ่งศอกครึ่ง 22 กรอบไม้กระถินแต่ละกรอบมีเดือยกรอบละสองเดือย ซึ่งถูกยึดประกบติดกันไว้ เขาสร้างกรอบไม้กระถินทั้งหมดสำหรับเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยวิธีเดียวกันนี้ 23 เขาสร้างกรอบไม้กระถินยี่สิบกรอบสำหรับทางด้านใต้ของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ 24 แล้วทำฐานเงินสี่สิบฐานไว้ใต้กรอบไม้ยี่สิบกรอบ กรอบไม้หนึ่งกรอบมีฐานสองฐานรองรับเดือยสองเดือยของมัน 25 เขายังทำกรอบไม้กระถินอีกยี่สิบกรอบสำหรับทางทิศเหนือของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ 26 พร้อมทั้งฐานเงินอีกสี่สิบฐาน กรอบไม้หนึ่งกรอบใช้ฐานเงินสองฐาน 27 ส่วนทางทิศตะวันตก ที่เป็นด้านหลังของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์นั้น เขาก็ทำกรอบไม้ไว้หกกรอบ 28 เขาทำกรอบไม้อีกสองกรอบสำหรับมุมทางด้านหลังของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ 29 กรอบไม้นั้นมีมุมแยกกันข้างล่าง แต่ตอนบนมุมเหล่านั้นถูกยึดติดกันด้วยห่วง เขาทำสองชุดอย่างนั้น สำหรับสองมุม 30 รวมทั้งหมดมีกรอบไม้แปดกรอบ ฐานเงินสิบหกฐาน มีสองฐานอยู่ใต้กรอบแต่ละกรอบ
31 เขาทำไม้สำหรับขัดฝาห้าอันด้วยไม้กระถิน สำหรับขัดพวกกรอบไม้ด้านหนึ่งของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ 32 และอีกห้าอันสำหรับขัดพวกกรอบไม้อีกด้านหนึ่งของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และอีกห้าอันสำหรับขัดพวกกรอบด้านหลังทางทิศตะวันตกของเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ 33 เขาได้ทำไม้สำหรับขัดไว้สอดเข้าช่วงกลางของกรอบไม้ ตั้งแต่ปลายด้านนี้ไปสุดปลายอีกด้านหนึ่ง 34 เขาได้เคลือบกรอบไม้ด้วยทองคำ และทำห่วงทองคำเพื่อสอดไม้สำหรับขัดเหล่านั้นเข้าไป และเคลือบไม้สำหรับขัดเหล่านั้นด้วยทองคำ
35 เขาทำม่านกั้นด้วยผ้าทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินิน ที่ได้ปักลายเครูบไว้อย่างประณีต 36 เขาได้สร้างเสาสี่สิบเสาด้วยไม้กระถิน และเคลือบเสาเหล่านั้นและตะขอเกี่ยวเสานั้นด้วยทองคำ เขาหล่อฐานเงินสี่ฐานด้วยเพื่อรองรับเสา 37 เขาทำฉากกั้นไว้ที่ช่องทางเข้าเต็นท์ ด้วยผ้าทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินิน 38 เขาทำเสาห้าเสาและตะขอของเสาเหล่านั้น เขาเคลือบยอดเสาและห่วงของมันด้วยทองคำ และฐานเสาห้าฐานนั้นเป็นทองสัมฤทธิ์
หีบศักดิ์สิทธิ์
(อพย. 25:10-22)
37 เบซาเลลเอาไม้กระถินมาทำหีบ หีบนี้มีความยาวสองศอกครึ่ง[e] กว้างหนึ่งศอกครึ่ง[f] สูงหนึ่งศอกครึ่ง 2 แล้วเขาก็เอาทองคำบริสุทธิ์มาเคลือบหีบนี้ ทั้งด้านในและด้านนอก และเอาทองคำมาทำขอบรอบๆหีบด้วย 3 เขาเอาทองคำมาทำเป็นห่วงสี่ห่วง เอาไว้ติดที่สี่มุมของหีบ ด้านละสองห่วง 4 เบซาเลลเอาไม้กระถินมาทำคานหาม และเคลือบคานทั้งสองนั้นด้วยทองคำ 5 แล้วเขาก็เอาคานหามสองอันนั้นไปสอดเข้ากับห่วงที่อยู่ด้านข้างของหีบทั้งสองด้าน เพื่อเอาไว้หามหีบนั้น 6 เบซาเลลทำฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ ฝาหีบนี้ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ยาวสองศอกครึ่ง กว้างหนึ่งศอกครึ่ง 7 เขาเอาค้อนมาทุบทองคำขึ้นรูปเป็นรูปเครูบสององค์ แล้วเอาไปติดตั้งไว้ที่ปลายทั้งสองด้านตรงฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ 8 เขาวางเครูบองค์หนึ่งไว้ที่ปลายด้านหนึ่ง และอีกองค์ไว้อีกปลายหนึ่ง แล้วเขาก็ทำให้เครูบทั้งสองนี้ติดเป็นเนื้อเดียวกันกับฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ 9 เครูบทั้งสององค์นี้มีปีกทั้งสองข้างที่กางออก ปีกด้านหนึ่งของเครูบนั้น ทำให้เกิดเงาขึ้นบนฝาหีบที่ความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ และเครูบทั้งสองก็หันหน้าเข้าหากัน ทั้งสองได้หันหน้าไปทางที่ซึ่งความไม่บริสุทธิ์จากบาปจะถูกชำระ
โต๊ะวางขนมปัง
(อพย. 25:23-30)
10 เบซาเลลได้เอาไม้กระถินมาทำโต๊ะ ขนาดยาวสองศอก[g] กว้างหนึ่งศอก[h] และสูงหนึ่งศอกครึ่ง 11 เขาเคลือบโต๊ะนั้นด้วยทองคำบริสุทธิ์ และประดิษฐ์ลวดลายด้วยทองคำบริสุทธิ์รอบๆโต๊ะ 12 เขาทำกรอบกว้างหนึ่งฝ่ามือรอบๆโต๊ะ และทำลวดลายบนกรอบรอบๆโต๊ะนั้น 13 เขาเอาทองคำมาหล่อห่วงสี่ห่วง และติดมันไว้ตรงมุมขาโต๊ะทั้งสี่ขา 14 ห่วงทั้งสี่ห่วงจะต้องอยู่ติดกับกรอบเพื่อยึดคานไว้เวลาหามโต๊ะ 15 เขาเอาไม้กระถินมาทำคานหามสองอัน และเคลือบคานทั้งสองด้วยทองคำ คานนี้เอาไว้หามโต๊ะ 16 เขาเอาทองคำบริสุทธิ์มาทำภาชนะต่างๆที่จะใช้บนโต๊ะนั้น ซึ่งได้แก่ พวกจาน ชาม อ่าง และไหรินเครื่องดื่มบูชา
ตะเกียงที่มีขาตั้ง
(อพย. 25:31-40)
17 เขาทำตะเกียงที่มีขาตั้งด้วย จากทองคำบริสุทธิ์ เขาขึ้นรูปฐานและลำตัวของตะเกียงที่มีขาตั้งด้วยค้อน ส่วนฐานดอก ตัวดอก และกลีบดอกเขาทำติดเป็นเนื้อเดียวกัน
18 มีก้านหกก้านยื่นออกมาจากลำตัวของตะเกียงที่มีขาตั้งนั้น ข้างละสามก้าน 19 แต่ละก้านมีดอกไม้สามดอกที่เหมือนดอกอัลมอนด์ ทุกๆดอกมีฐานดอกและกลีบดอก เป็นอย่างนี้ทั้งหกก้าน 20 ส่วนลำตัวตะเกียงที่มีขาตั้งนั้น มีถ้วยสี่ใบที่มีรูปร่างเหมือนกับดอกอัลมอนต์และมีฐานดอกและกลีบดอก 21 ใต้กิ่งทุกๆคู่ ทั้งหกกิ่งที่ยื่นออกมาจากลำตัวโคมนั้นมีฐานดอกติดเป็นเนื้อเดียวกัน 22 ฐานดอกและก้านเหล่านั้นติดเป็นเนื้อเดียวกัน ทุกชิ้นส่วนของตะเกียงที่มีขาตั้งนั้น ใช้ค้อนตีขึ้นรูปจากทองคำบริสุทธิ์ 23 เบซาเลลได้ทำตะเกียง[i] เจ็ดดวง กรรไกรตัดไส้ตะเกียงและถาดใส่ไส้ตะเกียงที่ถูกตัดออกนั้น ทำจากทองคำบริสุทธิ์ 24 เขาใช้ทองคำบริสุทธิ์ไปทั้งหมดหนึ่งตะลันต์[j] ในการทำตะเกียงที่มีขาตั้งนี้ และอุปกรณ์ทั้งหมดของมัน
แท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องหอม
(อพย. 30:1-5)
25 เบซาเลลเอาไม้กระถินมาทำแท่นบูชาสำหรับเผาเครื่องหอม ซึ่งมีความยาวหนึ่งศอก กว้างหนึ่งศอก เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสูงสองศอก ส่วนปลายเชิงงอนทำจากไม้ชิ้นเดียวกัน 26 เขาเอาทองคำบริสุทธิ์มาเคลือบแท่นบูชานี้ ทั้งด้านบน ด้านข้างโดยรอบ และที่ปลายเชิงงอน และเขาเอาทองคำมาทำขอบโดยรอบ 27 เขาทำห่วงทองคำสองห่วงติดไว้ที่ใต้ขอบทั้งสองด้าน ตรงข้ามกัน เอาไว้สำหรับสอดคานเวลาหามแท่นบูชาขึ้น 28 เขาเอาไม้กระถินมาทำคานหาม แล้วเคลือบทองคำทับอีกทีหนึ่ง
29 เขาทำน้ำมันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเจิม[k] และเครื่องหอมบริสุทธิ์ ทั้งสองอย่างทำแบบเดียวกับที่คนทำน้ำหอมเขาทำกัน
แท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชา
(อพย. 27:1-8)
38 เบซาเลลได้เอาไม้กระถินมาสร้างแท่นบูชาเพื่อเผาเครื่องบูชา ซึ่งมีความยาวห้าศอก[l] กว้างห้าศอก เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูงสามศอก[m] 2 เขาทำเชิงงอนที่หัวมุมทั้งสี่ ติดเป็นเนื้อเดียวกับแท่นบูชาและเคลือบด้วยทองสัมฤทธิ์ 3 เขาทำเครื่องใช้ทั้งหมดสำหรับแท่นบูชาด้วยทองสัมฤทธิ์ เช่น พวกหม้อ ทัพพี ชามประพรม ส้อม และกระทะ 4 เขาใช้ทองสัมฤทธิ์มาทำตะแกรงหนึ่งอัน และเอาไปวางไว้ในแท่น ลึกจากขอบของแท่นบูชาลงไปครึ่งหนึ่ง
5 เขาเอาทองสัมฤทธิ์มาหล่อเป็นห่วงสี่อัน ห่วงสี่อันนี้ติดอยู่ที่มุมทั้งสี่ของตะแกรงที่ทำจากทองสัมฤทธิ์นั้น ห่วงนี้เอาไว้สอดคานเวลาหามแท่นบูชา 6 เขาเอาไม้กระถินมาทำคานหาม และเคลือบมันด้วยทองสัมฤทธิ์ 7 แล้วเอาไปสอดเข้ากับห่วงที่ติดอยู่ด้านข้างของแท่นบูชา เพื่อหามแท่นบูชากับคานสองอันนั้น เขาทำแท่นบูชานี้ให้กลวงตรงกลาง และด้านข้างปิดด้วยแผ่นกระดาน
8 เบซาเลลทำอ่างทองสัมฤทธิ์หนึ่งใบพร้อมฐานรองของมัน จากกระจกเงาของพวกผู้หญิง ที่รับใช้อยู่ที่ประตูเต็นท์นัดพบ
ลานรอบๆเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์
(อพย. 27:9-19)
9 เบซาเลล ใช้ผ้าทอลินิน ขนาดยาวหนึ่งร้อยศอก[n] มากั้นเป็นม่าน ทำเป็นลานขึ้นมาทางทิศใต้ 10 เขาเอาทองสัมฤทธิ์มาทำเสายี่สิบต้นและฐานรองยี่สิบฐานสำหรับม่านกั้นนั้น แต่ตะขอและห่วงที่ติดอยู่บนเสาทำจากเงิน 11 ทางทิศเหนือเขาทำม่านกั้นเหมือนลานทางทิศใต้ คือ ขึงผ้าทอลินิน ยาวหนึ่งร้อยศอกบนเสายี่สิบเสาที่ตั้งอยู่บนฐานทองสัมฤทธิ์ยี่สิบฐาน และมีตะขอและห่วงทำจากเงิน
12 ทางทิศตะวันตก เขาใช้ผ้าทอลินิน ยาวห้าสิบศอก[o] ใช้เสาสิบต้นบนฐานสิบฐาน ตะขอและห่วงที่ติดอยู่บนเสานั้นทำด้วยเงิน
13 ด้านหน้าของเต็นท์ ซึ่งเป็นทิศตะวันออก ยาวห้าสิบศอก ช่องทางเข้าอยู่ด้านนี้ 14 ด้านข้างของช่องทางเข้าด้านหนึ่ง มีม่านขนาดยาวสิบห้าศอก[p]ขึงอยู่ บนเสาสามต้นที่ตั้งอยู่บนฐานสามฐาน 15 อีกด้านหนึ่งของช่องทางเข้าก็ทำเหมือนกัน คือ ขึงม่านยาวสิบห้าศอก บนเสาสามต้นที่อยู่บนฐานสามฐาน 16 ม่านที่แขวนไว้รอบๆลานทั้งหมดนั้น ทำมาจากผ้าทอลินิน 17 ฐานของเสาเหล่านั้นทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ตะขอและห่วงทำด้วยเงิน ส่วนยอดของเสาเคลือบด้วยเงิน เสาทุกต้นของลาน จะมีการตกแต่งด้วยแผ่นเงินในส่วนที่เชื่อมติดกับฐาน
18 ทางเข้าลานใช้ฉากกั้นที่ทำด้วยผ้าที่ทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าทอลินิน มีขนาดยาวยี่สิบศอก[q] สูงห้าศอก ซึ่งมีส่วนสูงเท่ากับผ้าม่านรอบๆลาน 19 ม่านเหล่านี้ได้แขวนขึ้นบนเสาสี่เสาที่ตั้งอยู่บนฐานสี่ฐานที่ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ส่วนตะขอ ห่วง และยอดเสาทำด้วยเงิน 20 หมุดยึดเต็นท์และหมุดยึดผ้าม่านรอบๆลานทั้งหมดทำด้วยทองสัมฤทธิ์
21 ทั้งหมดนี้คือของที่ใช้ในการทำเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือเต็นท์ที่เก็บข้อตกลง ที่ถูกบันทึกไว้ตามคำสั่งของโมเสสเพื่องานของชาวเลวี ที่อยู่ใต้การนำของอิธามาร์ ลูกชายของนักบวชอาโรน 22 และเบซาเลล ลูกชายของอุรี อุรีเป็นลูกชายของเฮอร์ จากเผ่ายูดาห์ เบซาเลลได้สร้างทุกอย่างตามที่พระยาห์เวห์สั่งไว้กับโมเสส 23 ยังมี โอโฮลีอับที่อยู่กับเบซาเลลด้วย โอโฮลีอับเป็นลูกชายของอาหิสะมัค จากเผ่าดาน เขาเป็นช่างฝีมือ นักออกแบบ และยังเป็นช่างปักที่มีฝีมือในการใช้ผ้าทอจากด้ายสีน้ำเงิน สีม่วง สีแดงเข้ม และผ้าลินินเนื้อดี
24 ทองคำทั้งหมดที่ใช้ในงานก่อสร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ คือทองคำที่ได้มาจากการถวาย ใช้ไปทั้งสิ้นยี่สิบเก้าตะลันต์เจ็ดร้อยสามสิบเชเขล[r] ตามเชเขลมาตรฐานของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
25 เครื่องเงินที่รวบรวมได้จากชุมชน หนักหนึ่งร้อยตะลันต์กับหนึ่งพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบห้าเชเขล[s] ตามเชเขลมาตรฐานของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 26 โดยเก็บมาคนละหนึ่งเบคา (คือครึ่งเชเขล) เป็นเงินที่เก็บมาจากชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบปีขึ้นไป และได้ลงทะเบียนไว้ ซึ่งมีจำนวนหกแสนสามพันห้าร้อยห้าสิบคน 27 เงินหนักหนึ่งร้อยตะลันต์นั้น ได้นำไปใช้ในการหล่อฐานของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และฐานของผ้าม่าน ฐานหนึ่งร้อยฐานใช้เงินหนักหนึ่งร้อยตะลันต์ หนึ่งตะลันต์ต่อหนึ่งฐาน 28 เบซาเลลใช้เงินหนักหนึ่งพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบห้าเชเขล ทำตะขอสำหรับเสา และเคลือบยอดเสา และใช้ทำห่วงสำหรับเสาเหล่านั้น
29 ส่วนทองสัมฤทธิ์ที่ได้จากการถวาย มีน้ำหนักรวมเจ็ดสิบตะลันต์ กับสองพันสี่ร้อยเชเขล 30 เบซาเลลใช้ทองสัมฤทธิ์ทำฐานประตูเต็นท์นัดพบ ทำแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์ ทำตะแกรงทองสัมฤทธิ์ ทำเครื่องใช้ทั้งหมดของแท่นบูชานั้น 31 ทำฐานล้อมรอบลาน ทำฐานประตูลาน ทำหมุดทั้งหมดรอบๆเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และทำหมุดทั้งหมดรอบๆลานนั้น
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International