Chronological
ปัญหาเรื่องมรดก
27 เมื่ออิสอัคแก่ลง สายตาเริ่มพล่ามัวมองไม่เห็น เขาเรียกเอซาวลูกคนโตมาและพูดว่า “ลูกพ่อ”
เอซาวตอบว่า “ผมอยู่นี่ครับ”
2 อิสอัคพูดต่อไปว่า “ตอนนี้พ่อก็แก่แล้ว ไม่รู้จะตายเมื่อไร 3 ตอนนี้ให้ลูกไปหยิบอาวุธของลูก เอาลูกธนูและคันธนู แล้วออกไปล่าสัตว์ในท้องทุ่งมาให้พ่อกิน 4 เอาไปปรุงให้อร่อยๆแบบที่พ่อชอบ แล้วเอามาให้พ่อกิน เพื่อพ่อจะได้อวยพรให้เจ้า ก่อนพ่อจะตาย” 5 ตอนที่อิสอัคพูดอยู่กับลูกชายนี้ เรเบคาห์แอบฟังอยู่
ยาโคบหลอกอิสอัค
เมื่อเอซาวออกไปล่าสัตว์ในทุ่ง เพื่อเอากลับมาให้พ่อ 6 เรเบคาห์พูดกับยาโคบลูกชายนางว่า “ฟังนะ แม่ได้ยินพ่อเจ้าพูดกับเอซาวพี่ชายเจ้าว่า 7 ‘ออกไปล่าสัตว์มาให้พ่อ และเอาไปปรุงให้อร่อยๆมาให้พ่อกินด้วย แล้วพ่อจะอวยพรเจ้าต่อหน้าพระยาห์เวห์ ก่อนที่พ่อจะตาย’ 8 ตอนนี้ ลูกแม่ ฟังแม่ให้ดีและทำตามที่แม่สั่ง 9 ไปที่ฝูงสัตว์และเลือกลูกแพะที่ดีที่สุดมาสองตัว แม่จะเอามาปรุงเป็นอาหารที่อร่อยๆแบบที่พ่อของเจ้าชอบ 10 เจ้าจะได้เอาไปให้พ่อเจ้ากิน เพื่อเขาจะได้อวยพรเจ้าก่อนที่เขาจะตาย”
11 ยาโคบพูดกับเรเบคาห์แม่ของเขาว่า “แต่พี่ชายของลูกเป็นคนขนดก ส่วนลูกเป็นคนผิวเรียบ 12 บางทีพ่ออาจจะจับตัวลูก พ่อก็จะจับได้ว่าลูกพยายามจะหลอกลวงท่าน และพ่อก็จะสาปแช่งลูกแทนที่จะอวยพร”
13 แล้วแม่ของเขาบอกยาโคบว่า “ลูกเอ๋ย ขอให้คำสาปแช่งทั้งหมดตกอยู่กับแม่ ให้ทำตามที่แม่บอกก็แล้วกัน ไปเอาพวกแพะมาให้แม่ได้แล้ว”
14 ยาโคบจึงไปเอาแพะสองตัวมาให้แม่ของเขา และแม่ของเขาได้ปรุงอาหารอร่อยๆแบบที่พ่อเขาชอบ 15 แล้วเรเบคาห์ก็เอาเสื้อผ้าชุดที่ดีที่สุดของเอซาวลูกชายคนโตมาใส่ให้ยาโคบลูกคนเล็ก นางมีเสื้อผ้าของเอซาวอยู่ในบ้านแล้ว 16 นางได้เอาหนังแพะมาหุ้มที่แขนและที่ลำคอที่ราบเรียบของยาโคบ 17 และนางเอาอาหารที่อร่อยๆพร้อมกับขนมปังที่นางเตรียมไว้แล้ว ให้กับยาโคบ
18 ยาโคบไปหาพ่อของเขาและพูดว่า “พ่อครับ” และอิสอัคตอบว่า “พ่ออยู่นี่ เจ้าเป็นลูกคนไหนของพ่อหรือ”
19 ยาโคบบอกพ่อว่า “ผมคือเอซาว ลูกคนโตของพ่อไงครับ ผมได้ทำตามที่บอกแล้ว ลุกขึ้นนั่งกินเนื้อที่ผมล่ามาสิครับ แล้วพ่อจะได้อวยพรผม”
20 แล้วอิสอัคพูดกับลูกว่า “ลูกพ่อ ทำไมเจ้าถึงล่ามันมาได้เร็วอย่างนี้”
ยาโคบตอบว่า “เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าของพ่อ ช่วยลูกให้หามันเจอ”
21 อิสอัคจึงพูดกับยาโคบว่า “ลูกพ่อ เข้ามาใกล้ๆให้พ่อจับตัวลูกหน่อย พ่อจะได้รู้ว่าเจ้าคือเอซาวลูกชายของพ่อจริงๆ”
22 ยาโคบจึงเข้าไปใกล้ๆอิสอัคพ่อของเขา อิสอัคจับตัวยาโคบและพูดว่า “เสียงก็เหมือนยาโคบ แต่แขนเป็นแขนของเอซาว” 23 อิสอัคจำยาโคบไม่ได้ เพราะแขนของเขามีขนเต็มไปหมด เหมือนแขนของเอซาวพี่ชายเขา อิสอัคจึงอวยพรยาโคบ
24 อิสอัคพูดว่า “เจ้าคือเอซาวจริงๆหรือ”
ยาโคบตอบว่า “ครับพ่อ”
คำอวยพรสำหรับยาโคบ
25 อิสอัคจึงบอกว่า “ลูกพ่อ เอาเนื้อที่เจ้าล่ามาสิ พ่อจะได้กินมัน และจะได้อวยพรให้กับเจ้า” ยาโคบจึงเอาเนื้อนั้นมาให้กับพ่อ และเขาก็กิน แล้วยาโคบเอาเหล้าองุ่นมาให้พ่อ และเขาก็ดื่มมัน
26 แล้วอิสอัคพ่อของเขาพูดกับยาโคบว่า “ลูกพ่อ เข้ามาใกล้ๆและจูบพ่อสิ” 27 ยาโคบจึงเข้ามาใกล้ๆและจูบอิสอัค อิสอัคได้กลิ่นเสื้อผ้าของเอซาว และเขาอวยพรให้กับยาโคบ อิสอัคอวยพรว่า
“นี่แหละ กลิ่นของลูกชายข้า
เหมือนกลิ่นของท้องทุ่งที่พระยาห์เวห์ได้อวยพรไว้
28 ขอพระเจ้าประทานให้กับเจ้า
น้ำค้างจากท้องฟ้า
ท้องทุ่งที่อุดมสมบูรณ์
มีเมล็ดข้าวกับเหล้าองุ่นอย่างเหลือเฟือ
29 ขอให้คนทั้งหลายมารับใช้เจ้า
และขอให้ชนชาติต่างๆก้มกราบลงต่อหน้าเจ้า
ขอให้เจ้าเป็นเจ้านายเหนือพวกพี่น้องของเจ้า
ขอให้ลูกคนอื่นๆของแม่เจ้าก้มกราบเจ้า
ขอให้คนที่สาปแช่งเจ้าถูกสาปแช่ง
และขอให้คนที่อวยพรเจ้าได้รับพร”
พรสำหรับเอซาว
30 เมื่ออิสอัคอวยพรยาโคบเสร็จแล้ว และทันทีที่ยาโคบออกไป เอซาวพี่ชายของยาโคบก็กลับมาจากการล่าสัตว์ 31 เขาทำอาหารอร่อยๆมาด้วย และเอามาให้กับพ่อของเขา เอซาวบอกกับพ่อว่า “พ่อครับ ลุกขึ้นมากินเนื้อที่ผมล่ามาเถิดครับ พ่อจะได้อวยพรผม”
32 แล้วอิสอัคพ่อของเขาถามเขาว่า “เจ้าเป็นใคร”
เอซาวตอบว่า “ผม ลูกของพ่อ ลูกชายคนโตของพ่อ เอซาวไงครับ”
33 อิสอัคตัวสั่นสุดขีดและพูดว่า “อ้าว แล้วคนเมื่อกี้เป็นใครกัน ที่ล่าเนื้อมาให้พ่อ แล้วพ่อก็กินจนหมด แล้วก็อวยพรให้กับเขาไปแล้ว ก่อนที่เจ้าจะเข้ามา และพรนั้นก็จะตกเป็นของเขาตลอดไป”
34 เมื่อเอซาวได้ยินพ่อพูดอย่างนั้น เขาร้องออกมาดังมากและขมขื่น และพูดกับพ่อของเขาว่า “อวยพรผมด้วยสิครับพ่อ”
35 อิสอัคพูดว่า “น้องชายเจ้าเข้ามาหลอกลวงพ่อและเอาพรของเจ้าไปแล้ว”
36 เอซาวจึงพูดว่า “มิน่าล่ะ คนถึงได้เรียกเขาว่ายาโคบ[a] นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาโกงผม เขาเอาสิทธิพี่ชายคนโตของผมไป แล้วดูสิ ตอนนี้เขายังเอาพรของผมไปอีก” แล้วเอซาวก็พูดว่า “พ่อไม่เก็บคำอวยพรให้กับผมเลยหรือ”
37 อิสอัคตอบเอซาวว่า “พ่อได้ทำให้เขาเป็นเจ้านายเหนือลูก และยกพี่น้องของเขาทุกคนให้เป็นทาสของเขา และพ่อได้ให้เมล็ดพืชและเหล้าองุ่นกับเขา แล้วยังจะมีอะไรเหลือให้กับเจ้าอีกล่ะ ลูกพ่อ”
38 เอซาวจึงพูดกับพ่อของเขาว่า “พ่อครับ พ่อมีพรแค่อันเดียวเท่านั้นหรือ อวยพรให้กับผมด้วยสิครับพ่อ” แล้วเอซาวก็เริ่มร้องไห้เสียงดัง
39 แล้วอิสอัคพ่อของเขาจึงบอกกับเขาว่า
“ดูเอาเถอะ เจ้าจะอยู่ห่างไกลจากดินแดนที่อุดมสมบูรณ์
และไม่มีน้ำค้างตกจากฟ้า
40 เจ้าจะยืนหยัดอยู่ได้ด้วยดาบของเจ้า
เจ้าจะต้องรับใช้น้องของเจ้า
แต่เมื่อใดที่เจ้าดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้เป็นอิสระ[b]
เจ้าจะหลุดพ้นจากการควบคุมของเขาได้”
41 ตั้งแต่นั้นเอซาวจึงเกลียดยาโคบ เพราะพรที่พ่อให้กับเขา เอซาวคิดในใจว่า “ใกล้ถึงเวลาไว้ทุกข์ให้กับพ่อแล้ว หลังจากนั้นเราจะฆ่ายาโคบน้องชายของเราเสีย”
42 เรเบคาห์ล่วงรู้ถึงแผนของเอซาวลูกคนโตของนาง นางจึงเรียกยาโคบลูกคนเล็กมาหาและพูดว่า “เอซาวพี่ชายเจ้ากำลังวางแผนที่จะฆ่าเจ้าเพื่อแก้แค้น 43 ตอนนี้ ลูกแม่ ให้ทำตามที่แม่บอก รีบหนีไปเดี๋ยวนี้ ไปอยู่กับลาบันพี่ชายของแม่ ในเมืองฮาราน 44 ให้ไปอยู่กับเขาสักพักหนึ่งก่อน จนกว่าพี่ชายของเจ้าจะหายโกรธ 45 จนกว่าเขาจะหายโกรธและลืมเรื่องที่เจ้าได้ทำกับเขาไว้ แล้วแม่จะส่งคนไปรับเจ้ากลับมา เพราะแม่ไม่อยากเสียลูกทั้งสองคนในวันเดียวกัน[c]”
46 แล้วเรเบคาห์พูดกับอิสอัคว่า “ฉันเบื่อผู้หญิงฮิตไทต์พวกนี้เต็มทนแล้ว ถ้ายาโคบไปแต่งงานกับผู้หญิงฮิตไทต์สักคนในแผ่นดินนี้ ฉันคงต้องตายแน่ๆ[d]”
ยาโคบหาเมีย
28 แล้วอิสอัคเรียกยาโคบมา และอวยพรให้กับเขาและสั่งเขาว่า “ห้ามเอาลูกสาวของชาวคานาอันมาเป็นเมีย 2 ให้ไปที่แคว้น ปัดดาน อารัม ทันที ให้ไปบ้านเบธูเอลพ่อของแม่เจ้า และให้หาเมียที่นั่น ให้เอาลูกสาวคนหนึ่งของลาบัน พี่ชายของแม่เจ้ามาเป็นเมีย 3 ขอให้พระเจ้าผู้เต็มไปด้วยฤทธิ์เดชทั้งสิ้น[e] อวยพรเจ้า ให้เจ้ามีลูกหลานมากมายเพื่อว่าเจ้าจะได้กลายเป็นพ่อของหลายชนชาติ 4 และขอให้พระองค์อวยพรเจ้าเหมือนกับที่อวยพรให้อับราฮัม อวยพรเจ้าและลูกหลานของเจ้าด้วย เพื่อว่าเจ้าจะได้เป็นเจ้าของแผ่นดินที่เจ้าอาศัยอยู่เดี๋ยวนี้ในฐานะคนต่างชาติ ซึ่งพระเจ้าได้ยกให้กับอับราฮัม”
5 แล้วอิสอัคส่งยาโคบไป และยาโคบก็ไปที่ปัดดาน อารัม ไปหาลาบันลูกชายของเบธูเอลชาวอารัม ลาบันเป็นพี่ชายของเรเบคาห์ แม่ของยาโคบและเอซาว
6 ตอนนี้เอซาวเห็นว่าอิสอัคอวยพรให้ยาโคบ และได้ส่งเขาไปปัดดาน อารัม เพื่อเอาเมียจากที่นั่น เอซาวก็รู้ว่า เมื่อพ่ออวยพรให้น้อง พ่อสั่งน้องว่า “อย่าแต่งงานกับผู้หญิงชาวคานาอัน” 7 เอซาวก็รู้ว่า ยาโคบเชื่อฟังพ่อและแม่ของเขา และไปแคว้นปัดดาน อารัม 8 เอซาวเห็นว่า อิสอัคพ่อของเขาไม่พอใจผู้หญิงคานาอันเหล่านั้น 9 เขาจึงไปหาอิชมาเอลและเอามาหะลัทลูกสาวของอิชมาเอลมาเป็นเมีย อิชมาเอลเป็นลูกของอับราฮัม และมาหะลัทเป็นน้องสาวของเนบาโยธ เอซาวมีเมียอยู่ก่อนหน้านั้นหลายคนแล้ว
บ้านของพระเจ้า (เบธเอล)
10 ยาโคบจากเมืองเบเออร์เชบาเขามุ่งตรงไปยังเมืองฮาราน 11 เขาได้มาถึงที่แห่งหนึ่ง และพักค้างคืนที่นั่น เพราะตะวันตกดินแล้ว เขาเอาหินจากที่นั่นมาก้อนหนึ่ง แล้วเอามาหนุนหัวนอนที่นั่น 12 เขาได้ฝันว่า มีบันไดอันหนึ่งตั้งอยู่ที่พื้น ปลายของมันยื่นถึงสวรรค์ และมีทูตสวรรค์ของพระเจ้า กำลังขึ้นๆลงๆอยู่บนบันไดนั้น 13 และมีพระยาห์เวห์กำลังยืนอยู่ข้างๆเขา[f] และพูดว่า “เราคือยาห์เวห์ พระเจ้าของอับราฮัมและพระเจ้าของอิสอัคบรรพบุรุษของเจ้า เราจะยกแผ่นดินที่เจ้ากำลังนอนอยู่นี้ให้กับเจ้าและลูกหลานของเจ้า 14 และลูกหลานของเจ้าก็จะมีมากมายเหมือนฝุ่นบนโลกนี้ และพวกเขาจะขยายไปทางทิศตะวันตก ทิศตะวันออก ทิศเหนือและทิศใต้ แล้วทุกครอบครัวในโลกนี้จะได้รับพรผ่านทางเจ้าและลูกหลานของเจ้า
15 และดูเถิด เราจะอยู่กับเจ้า เราจะปกป้องเจ้าในทุกที่ที่เจ้าไป เราจะนำเจ้ากลับมายังแผ่นดินนี้ เพราะเราจะไม่ทอดทิ้งเจ้า แต่เราจะทำสิ่งที่เราได้สัญญาไว้กับเจ้า”
16 แล้วยาโคบก็ตื่นขึ้นมา พูดว่า “พระยาห์เวห์สถิตอยู่ในที่แห่งนี้แน่ๆแต่เราไม่รู้มาก่อน”
17 เขากลัวและพูดว่า “สถานที่แห่งนี้น่าเกรงขามยิ่งนัก จะต้องเป็นบ้านของพระเจ้า และเป็นประตูสวรรค์แน่ๆ”
18 ยาโคบจึงลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และเขาเอาก้อนหินที่เขาเอาหนุนหัว มาตั้งขึ้นเป็นแท่งหิน และเทน้ำมันบนยอดของหินนั้น เพื่ออุทิศให้กับพระเจ้า 19 และเขาเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “เบธเอล”[g] แต่เมืองนั้น เดิมมีชื่อว่า “ลูส”
20 แล้วยาโคบสาบานว่า “ถ้าพระเจ้าจะอยู่กับข้าพเจ้า และปกป้องข้าพเจ้าในการเดินทางครั้งนี้ และให้ข้าพเจ้ามีอาหารกินกับมีเสื้อผ้าใส่ 21 และนำข้าพเจ้ากลับไปยังบ้านของพ่อข้าพเจ้าอย่างปลอดภัยแล้วละก็ พระยาห์เวห์ก็จะเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า 22 และหินก้อนนี้ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งขึ้นเป็นเสาหิน ก็จะเป็นบ้านของพระเจ้า[h] ข้าพเจ้าก็จะถวายพระองค์หนึ่งในสิบจากทุกอย่างที่พระองค์ให้กับข้าพเจ้า”
ยาโคบพบนางราเชล
29 แล้วยาโคบก็เดินทางต่อ จนมาถึงแผ่นดินของคนทางฝั่งตะวันออก 2 เขามองดูไปรอบๆและเห็นบ่อน้ำแห่งหนึ่งในท้องทุ่ง มีแกะอยู่สามฝูงที่กำลังนอนอยู่ข้างบ่อน้ำนั้น เพราะฝูงแกะดื่มน้ำจากบ่อน้ำนั้น มีหินก้อนใหญ่ปิดปากบ่อน้ำอยู่ 3 เมื่อฝูงแกะทั้งหลายมาอยู่รวมกันที่นั่น คนเลี้ยงแกะก็จะกลิ้งหินนั้นออกจากปากบ่อน้ำ และตักน้ำให้ฝูงแกะกินกัน แล้วพวกเขาก็จะกลิ้งหินปิดปากบ่อน้ำเหมือนเดิม
4 ยาโคบพูดกับพวกเขาว่า “พวกพี่ มาจากที่ไหนกัน”
พวกเขาตอบว่า “พวกเรามาจากเมืองฮาราน”
5 ยาโคบก็ตอบพวกเขาว่า “แล้วรู้จักลาบัน ลูกชายของนาโฮร์ไหมครับ”
พวกเขาตอบว่า “รู้จักสิ”
6 ยาโคบจึงถามต่อว่า “เขาสบายดีไหมครับ”
พวกเขาตอบว่า “เขาสบายดี นั่นไง ราเชลลูกสาวของเขากำลังมาพร้อมกับฝูงแกะ” 7 ยาโคบจึงพูดว่า “นี่ก็ยังกลางวันอยู่เลย ยังไม่ถึงเวลาที่จะรวบรวมฝูงสัตว์ตอนเย็นเลย ให้น้ำกับแกะและเอามันกลับไปกินหญ้าเถอะ”
8 พวกคนเลี้ยงแกะตอบว่า “พวกเราทำอย่างนั้นไม่ได้หรอก จนกว่าแกะทุกฝูงจะมารวมกันอยู่ที่นี่ แล้วพวกเราถึงจะกลิ้งหินออกจากปากบ่อ แล้วเอาน้ำให้แกะดื่มได้”
9 ในขณะที่ยาโคบยังคุยอยู่กับพวกเขานั้น ราเชลก็มาถึงพร้อมกับแกะของพ่อนาง เพราะนางเป็นคนเลี้ยงแกะ 10 เมื่อยาโคบเห็นราเชล ลูกสาวของลาบันพี่ชายของแม่เขาและฝูงแกะของลาบัน ยาโคบจึงเข้าไปใกล้และกลิ้งหินจากปากบ่อ และเอาน้ำให้ฝูงแกะของลาบันพี่ชายของแม่เขาดื่ม 11 แล้วยาโคบก็จูบราเชลและเริ่มร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง 12 แล้วยาโคบก็บอกราเชลว่า พ่อของนางเป็นญาติกับเขา และเขาเองเป็นลูกของนางเรเบคาห์ นางก็วิ่งไปบอกพ่อของนาง
13 เมื่อลาบันได้ยินเรื่องยาโคบลูกของน้องสาวเขา เขาวิ่งออกไปหายาโคบ แล้วกอดจูบยาโคบ และพายาโคบไปที่บ้านของเขาแล้วยาโคบก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ลาบันฟัง
14 ลาบันจึงพูดกับเขาว่า “อันที่จริงแล้ว หลานก็เป็นกระดูกและเนื้อของลุง” แล้วยาโคบก็อยู่กับเขาทั้งเดือน
ลาบันหลอกลวงยาโคบ
15 แล้วลาบันก็พูดกับยาโคบว่า “หลานต้องทำงานกับลุงฟรีๆเพราะเป็นญาติหรือยังไง บอกลุงมาสิว่าจะเอาอะไรเป็นค่าจ้างดี”
16 ลาบันมีลูกสาวสองคน คนโตชื่อเลอาห์ คนเล็กชื่อราเชล
17 ดวงตาของนางเลอาห์น่ารัก[i] แต่ราเชลนั้นมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามไปหมด 18 ยาโคบรักราเชล เขาจึงพูดว่า “ผมจะทำงานให้กับลุงเจ็ดปี เพื่อแลกกับราเชลลูกสาวคนเล็กของลุง”
19 ลาบันตอบว่า “ลุงจะยกนางให้กับหลาน ก็ยังดีกว่ายกให้กับชายอื่น อยู่กับลุงที่นี่แหละ”
20 ดังนั้นยาโคบจึงทำงานเจ็ดปีเพื่อราเชล แต่สำหรับยาโคบ เจ็ดปีนั้นก็ดูเหมือนไม่กี่วัน เพราะความรักที่เขามีกับนาง
21 แล้วยาโคบก็พูดกับลาบันว่า “ผมทำงานครบแล้ว ขอยกเมียให้กับผมด้วย เพื่อผมจะได้หลับนอนกับนาง”
22 ลาบันก็รวบรวมคนแถวนั้นมาทั้งหมด และจัดงานเลี้ยงให้พวกเขา 23 แต่ในคืนนั้น เขาได้เอาเลอาห์ลูกสาวของเขาไปให้กับยาโคบ ยาโคบก็ได้หลับนอนกับเลอาห์ 24 (ลาบันก็ยกสาวใช้ของตนชื่อศิลปาห์ให้เป็นสาวใช้ของเลอาห์) 25 ในตอนเช้า ยาโคบเห็นว่าเป็นเลอาห์ ดังนั้นเขาจึงถามลาบันว่า “ทำไมลุงถึงทำกับผมอย่างนี้ ที่ผมทำงานเจ็ดปี ก็เพื่อราเชลไม่ใช่หรือ ลุงหลอกลวงผมทำไม”
26 ลาบันตอบว่า “คนที่นี่เขาไม่ทำกันอย่างนั้นหรอก ที่จะให้น้องสาวแต่งงานก่อนพี่สาว 27 ขอให้ครบเจ็ดวันของงานแต่งงาน[j]กับคนพี่ก่อนนะ แล้วลุงจะยกคนน้องให้กับหลาน แล้วหลานจะทำงานตอบแทนให้กับลุงอีกเจ็ดปี”
28 ยาโคบก็ทำตาม และรอให้ครบเจ็ดวันสำหรับเลอาห์ แล้วลาบันก็ยกราเชลลูกสาวของเขาให้เป็นเมียยาโคบ 29 (ลาบันได้ยกบิลฮาห์สาวใช้ของเขาให้เป็นสาวใช้ของราเชล) 30 แล้วยาโคบก็ร่วมหลับนอนกับราเชลด้วย ยาโคบรักราเชลมากกว่าเลอาห์ แล้วยาโคบก็ทำงานให้กับลาบันอีกเจ็ดปี
ครอบครัวของยาโคบเติบโตขึ้น
31 พระยาห์เวห์เห็นว่า ยาโคบเกลียดเลอาห์ พระองค์จึงเปิดครรภ์ของเลอาห์ แต่ราเชลเป็นหมัน
32 นางเลอาห์ก็ตั้งท้องและคลอดลูกชาย นางตั้งชื่อเขาว่ารูเบน[k] เพราะนางพูดว่า “พระยาห์เวห์มองเห็นความอัปยศอดสูของฉันจริงๆ ตอนนี้สามีของฉันต้องรักฉันแน่ๆ”
33 เลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ได้ยินว่าฉันเป็นที่เกลียดชัง พระองค์จึงให้ลูกชายคนนี้กับฉัน” แล้วนางจึงตั้งชื่อเด็กว่าสิเมโอน[l]
34 เลอาห์ได้ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคน นางพูดว่า “คราวนี้สามีฉันต้องใกล้ชิดกับฉัน เพราะฉันคลอดลูกชายให้กับเขาถึงสามคน” นางจึงตั้งชื่อลูกชายคนนี้ว่าเลวี[m]
35 แล้วเลอาห์ก็ตั้งท้องอีก และคลอดลูกชายอีกคนหนึ่ง นางพูดว่า “ครั้งนี้ฉันจะสรรเสริญพระยาห์เวห์” นางจึงตั้งชื่อเด็กว่ายูดาห์ แล้วนางก็ไม่มีลูกอีก
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International