Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Chronological

Read the Bible in the chronological order in which its stories and events occurred.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
2 ซามูเอล 5:1-10

ดาวิดเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล

ต่อจากนั้น ทุกเผ่าของอิสราเอลก็มาหาดาวิดที่เฮโบรน และพูดว่า “ดูเถิด พวกเราเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน ที่ผ่านมา เมื่อซาอูลเป็นกษัตริย์ปกครองพวกเรา ดาวิดเป็นผู้ที่นำทัพอิสราเอลออกไปและนำกลับเข้ามา และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับท่านว่า ‘เจ้าจะเป็นผู้เลี้ยงดูอิสราเอลชนชาติของเรา และเจ้าจะเป็นผู้นำของอิสราเอล’” เมื่อบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลมาหากษัตริย์ที่เฮโบรน กษัตริย์ดาวิดทำพันธสัญญากับเขาเหล่านั้นที่เฮโบรน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และเขาทั้งปวงเจิมดาวิดให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ดาวิดมีอายุ 30 ปีเมื่อเริ่มครองราชย์ และครองราชย์เป็นเวลา 40 ปี ที่เฮโบรนท่านปกครองยูดาห์ 7 ปี 6 เดือน และที่เยรูซาเล็มท่านปกครองทั่วอิสราเอลและยูดาห์ 33 ปี

กษัตริย์กับคนของท่านไปยังเยรูซาเล็ม เพื่อโจมตีชาวเยบุสซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยของเขตแดนนั้น ส่วนชาวเยบุสคิดว่า “ดาวิดเข้ามาในนี้ไม่ได้” จึงพูดกับดาวิดว่า “ท่านเข้ามาที่นี่ไม่ได้ แม้คนตาบอดและคนง่อยเปลี้ยก็จะกันท่านไว้ได้” อย่างไรก็ตาม ดาวิดยึดป้อมปราการอันแข็งแกร่งของศิโยนได้ซึ่งเรียกว่า เมืองของดาวิด และดาวิดพูดในวันนั้นว่า “ใครก็ตามที่จะโจมตีชาวเยบุส ก็ให้เขาขึ้นไปทางร่องน้ำในถ้ำ เพื่อโจมตี ‘คนตาบอดและคนง่อยเปลี้ย’ ซึ่งเป็นคำที่ดาวิดเกลียดชัง” ฉะนั้นจึงเป็นที่กล่าวกันว่า “คนตาบอดและคนง่อยเปลี้ยจะเข้ามาในพระตำหนักไม่ได้” และดาวิดอาศัยอยู่ในป้อมปราการอันแข็งแกร่ง และตั้งชื่อว่า เมืองของดาวิด ท่านสร้างเมืองไว้โดยรอบ เริ่มจากมิลโล[a]เข้าไปจนถึงเมืองชั้นใน 10 และดาวิดเข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้น เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธาสถิตกับท่าน

1 พงศาวดาร 11-12

ดาวิดรับเจิมเป็นกษัตริย์

11 ต่อจากนั้น ชาวอิสราเอลทั้งปวงก็มาหาดาวิดที่เฮโบรน และพูดว่า “ดูเถิด พวกเราเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของท่าน ที่ผ่านมา แม้เมื่อซาอูลเป็นกษัตริย์ปกครอง ดาวิดเป็นผู้ที่นำทัพอิสราเอลออกไปและนำกลับเข้ามา และพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกล่าวกับท่านว่า ‘เจ้าจะเป็นผู้เลี้ยงดูอิสราเอลชนชาติของเรา และเจ้าจะเป็นผู้นำของอิสราเอลชนชาติของเรา’”[a] เมื่อบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของอิสราเอลมาหากษัตริย์ที่เฮโบรน ดาวิดทำพันธสัญญากับเขาเหล่านั้นที่เฮโบรน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และเขาทั้งปวงเจิมดาวิดให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ตามที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวผ่านซามูเอลไว้แล้ว

ดาวิดยึดเยรูซาเล็ม

ดาวิดและชาวอิสราเอลทั้งปวงไปยังเยรูซาเล็ม ชื่อเดิมคือเยบุส ซึ่งชาวเยบุสอาศัยอยู่ เป็นผู้อยู่อาศัยของเขตแดนนั้น ผู้อยู่อาศัยของเยบุสพูดกับดาวิดว่า “ท่านเข้ามาที่นี่ไม่ได้” อย่างไรก็ตาม ดาวิดยึดป้อมปราการอันแข็งแกร่งของศิโยนได้ซึ่งเรียกว่า เมืองของดาวิด ดาวิดพูดว่า “ใครก็ตามที่จะโจมตีชาวเยบุสได้เป็นคนแรก ก็จะเป็นหัวหน้าและผู้บัญชาการ” โยอาบบุตรของนางเศรุยาห์บุกไปโจมตีเป็นคนแรก ดังนั้นเขาจึงได้เป็นหัวหน้า และดาวิดอาศัยอยู่ในป้อมปราการอันแข็งแกร่ง ฉะนั้นจึงเรียกเมืองนั้นว่า เมืองของดาวิด ท่านสร้างเมืองให้กว้างใหญ่ขึ้นโดยรอบ โดยเริ่มจากมิลโล[b]ขยับเข้าไปถึงกำแพงเมืองโดยรอบ และโยอาบซ่อมแซมเมืองส่วนที่เหลือ และดาวิดเข้มแข็งยิ่งๆ ขึ้น เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาสถิตกับท่าน

ทหารกล้าของดาวิด

10 เหล่าหัวหน้าของทหารกล้าของดาวิด เป็นผู้ที่ช่วยสนับสนุนท่านอย่างเต็มกำลังในอาณาจักรของท่าน ร่วมกับอิสราเอลทั้งปวง เพื่อเชิญท่านให้เป็นกษัตริย์ ตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับอิสราเอล 11 รายชื่อทหารกล้าของดาวิดคือ ยาโชเบอัมชาวฮัคโมนีเป็นหัวหน้าของทหารกล้าทั้งสาม เขาพุ่งหอกสู้รบกับคน 300 คน และฆ่าได้หมดสิ้นในศึกเดียว

12 คนรองจากเขาในกลุ่มทหารกล้าทั้งสามคือ เอเลอาซาร์บุตรของโดโดชาวอาโคค 13 เขาอยู่กับดาวิดที่ปัสดัมมิมเมื่อชาวฟีลิสเตียรวมตัวกันรบในสงคราม มีผืนดินแห่งหนึ่งมีข้าวบาร์เลย์เต็มไปหมด และบรรดาทหารต่างก็หนีชาวฟีลิสเตียไป 14 แต่เขากับดาวิดได้ยืนหยัดอยู่บนที่ดินผืนนั้น และป้องกันที่ดินไว้ ฆ่าฟันชาวฟีลิสเตีย และพระผู้เป็นเจ้าช่วยพวกเขาด้วยชัยชนะครั้งใหญ่

15 มีทหาร 3 คนในบรรดาหัวหน้าทหารกล้า 30 คนลงมาหาดาวิดที่ถ้ำที่อดุลลาม พอดีกับที่ชาวฟีลิสเตียกลุ่มหนึ่งตั้งค่ายอยู่ในหุบเขาเรฟาอิม 16 ขณะนั้นดาวิดอยู่ในที่หลบภัย และทางข้ามที่เนินเขาของชาวฟีลิสเตียก็อยู่ที่เบธเลเฮม 17 ดาวิดกล่าวด้วยความปรารถนายิ่งนักว่า “โอ อยากให้ใครสักคนเอาน้ำจากบ่อที่ข้างประตูที่เบธเลเฮมมาให้เราดื่ม” 18 ทหารกล้าทั้งสามจึงแหกค่ายของชาวฟีลิสเตีย และตักน้ำจากบ่อที่ข้างประตูที่เบธเลเฮม นำมาให้ดาวิด แต่ท่านไม่ยอมดื่มน้ำนั้น ท่านกลับเทถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า 19 และกล่าวว่า “ไม่มีวันที่ข้าพเจ้าจะกระทำเช่นนี้ต่อหน้าพระเจ้าของข้าพเจ้า สมควรหรือที่ข้าพเจ้าจะดื่มโลหิตจากชีวิตของทหารเหล่านี้ เพราะว่าพวกเขาเสี่ยงชีวิตไปเอาน้ำมา” ฉะนั้นท่านจึงไม่ยอมดื่มน้ำนั้น นี่แหละเป็นสิ่งที่ทหารกล้าทั้งสามกระทำ

20 ฝ่ายอาบีชัยน้องชายของโยอาบ เป็นหัวหน้าของทหารทั้งสามสิบ เขาพุ่งหอกสู้กับ 300 คน และฆ่าพวกเขาได้ ชื่อของเขาจึงเคียงคู่กับทหารทั้งสาม 21 เขาเป็นที่รู้จักมากที่สุดในหมู่ทหารทั้งสามสิบ และได้เป็นผู้บังคับกองพันทหารของกลุ่ม แต่เขามีชื่อเสียงไม่เท่าระดับของทหารทั้งสาม

22 เบไนยาห์บุตรของเยโฮยาดาเป็นชายผู้กล้าหาญคนหนึ่งของเมืองขับเซเอล และเป็นคนปฏิบัติการอันยิ่งใหญ่ เขาฆ่าบุตรทั้งสองของอารีเอลแห่งโมอับ[c] และเขาลงไปฆ่าสิงโตในหลุมลึกในวันที่หิมะตกด้วย 23 เขาฆ่าชาวอียิปต์รูปงามคนหนึ่งสูง 5 ศอก ชาวอียิปต์นั้นถือหอกเหมือนไม้กระพั่นของคนทอผ้า แต่เบไนยาห์ถือไม้ตะบองลงไปโจมตีเขา และยึดหอกออกจากมือของชาวอียิปต์ได้ และฆ่าเขาด้วยหอกของเขาเอง 24 เบไนยาห์บุตรของเยโฮยาดากระทำสิ่งเหล่านี้ ชื่อของเขาจึงเคียงคู่กับทหารกล้าทั้งสาม 25 เขาเป็นที่รู้จักในหมู่ทหารทั้งสามสิบ แต่เขามีชื่อเสียงไม่เท่าระดับของทหารทั้งสาม และดาวิดแต่งตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าองครักษ์

26 เหล่าทหารกล้ามีอาสาเฮลน้องชายของโยอาบ เอลฮานันบุตรของโดโดชาวเบธเลเฮม 27 ชัมโมทแห่งฮาโรด เฮเลสชาวเปโลน 28 อิราบุตรของอิกเขชแห่งเมืองเทโคอา อาบีเอเซอร์แห่งเมืองอานาโธท 29 สิบเบคัยชาวหุชาห์ อิลัยชาวอาโคค 30 มาหะรัยแห่งเนโทฟาห์ เฮเลดบุตรของบาอานาห์แห่งเนโทฟาห์ 31 อิททัยบุตรของรีบัยแห่งกิเบอาห์เชื้อสายของเบนยามิน เบไนยาห์แห่งปิราโธน 32 หุรัยแห่งลำธารกาอัช อาบีเอลชาวอาร์บัท 33 อัสมาเวทชาวบาฮารุม อาลียาบาชาวชาอัลโบน 34 ฮาเชมชาวกิโซน โยนาธานบุตรของชากีชาวฮาราร์ 35 อาหิอัมบุตรของสาคาร์ชาวฮาราร์ เอลีฟัลบุตรของเออร์ 36 เฮเฟอร์ชาวเมเคราธ อาหิยาห์ชาวเปโลน 37 เฮสโรชาวคาร์เมล นาอารัยบุตรของเอสบัย 38 โยเอลน้องของนาธาน มิบฮาร์บุตรของฮากรี 39 เศเลกชาวอัมโมน นาหะรัยแห่งเบเอโรท คนถืออาวุธของโยอาบบุตรของนางเศรุยาห์ 40 อิราชาวอิท กาเรบชาวอิท 41 อุรียาห์ชาวฮิต[d] ศาบาดบุตรของอัคลัย 42 อาดีนาบุตรของชิซาชาวรูเบน ซึ่งเป็นผู้นำของชาวรูเบน และทหารทั้งสามสิบที่อยู่กับเขา 43 ฮานานบุตรของมาอาคาห์ และโยชาฟัทชาวมิท 44 อุสซียาชาวอัชเทราธ ชามาและเยอีเอลบุตรของโฮธามชาวอาโรเออร์ 45 เยดียาเอลบุตรของชิมรี และโยฮาน้องของเขาชาวทิซ 46 เอลีเอลชาวมาหาบ เยรีบัยและโยชาวิยาห์บุตรของเอลนาอัม อิทมาห์ชาวโมอับ 47 เอลีเอล โอเบด และยาอาซีเอลชาวมาโซบัย[e]

ทหารกล้ากับดาวิด

12 มีพวกผู้ชายที่มาหาดาวิดที่ศิกลาก[f] ในเวลาที่ท่านไม่สามารถเดินทางได้อย่างอิสระเนื่องจากซาอูลบุตรของคีช ชายเหล่านี้อยู่ในกลุ่มทหารกล้าที่ช่วยท่านในการสู้รบ พวกเขาเป็นนักธนู สามารถยิงธนูและถนัดใช้สลิงเหวี่ยงก้อนหินได้ทั้งมือขวาและมือซ้าย เป็นชาวเบนยามินญาติของซาอูล อาหิเยเซอร์ซึ่งเป็นหัวหน้า และโยอาช ทั้งสองเป็นบุตรของเช-มาอาห์ชาวกิเบอาห์ เยซีเอล และเปเลธ บุตรของอัสมาเวท เบ-ราคาห์ เยฮูชาวอานาโธท อิชมัยยาห์ชาวกิเบโอนเป็นทหารกล้าผู้หนึ่งในกลุ่มทหารทั้งสามสิบ และเป็นผู้นำของกลุ่ม เยเรมีย์ ยาฮาซีเอล โยฮานาน โยซาบาดแห่งเกเดราห์ เอลูซัย เยรีโมท เบอัลลิยาห์ เช-มาริยาห์ เชฟาทิยาห์ชาวฮารูฟ เอลคานาห์ ยิชชียาห์ อาซาร์เอล โยเอเซอร์ และยาโชเบอัมชาวโคราห์ โยเอลาห์ และเศบาดิยาห์ บุตรของเยโรฮัมแห่งเกโดร์

ชาวกาดบางคนหนีไปหาดาวิดยังที่หลบภัยในถิ่นทุรกันดาร พวกเขาเป็นนักรบผู้เก่งกล้าและช่ำชอง เชี่ยวชาญในการใช้โล่และหอก มีใบหน้าเหมือนหน้าสิงโต เคลื่อนไหวรวดเร็วอย่างกับละองละมั่งบนภูเขา เอเซอร์เป็นหัวหน้า โอบาดีห์ที่สอง เอลีอับที่สาม 10 มิชมันนาห์ที่สี่ เยเรมีย์ที่ห้า 11 อัททัยที่หก เอลีเอลที่เจ็ด 12 โยฮานานที่แปด เอลซาบาดที่เก้า 13 เยเรมีย์ที่สิบ มัคบันนัยที่สิบเอ็ด 14 ชาวกาดเหล่านี้เป็นผู้บัญชากองทัพ คนด้อยสุดของพวกเขาคนเดียวก็จะสู้ได้กับ 100 คน และคนเก่งสุดก็จะสู้ได้กับ 1,000 คน 15 ผู้ชายเหล่านี้แหละที่ข้ามแม่น้ำจอร์แดนในเดือนแรก เมื่อน้ำท่วมฝั่งทุกแห่ง และพวกเขาทำให้ทุกคนที่อาศัยอยู่ในหุบเขาหนีเตลิดไปทั้งทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก

16 ผู้ชายจากเผ่าเบนยามินและเผ่ายูดาห์บางคนไปหาดาวิดที่ป้อมปราการอันแข็งแกร่ง 17 ดาวิดออกไปพบพวกเขา และพูดว่า “ถ้าพวกท่านมาหาเราอย่างสันติเพื่อช่วยเรา ใจของเราก็จะเป็นหนึ่งเดียวกับท่าน แต่ถ้ามาเพื่อจะทรยศเราให้กับศัตรูของเรา แม้ว่ามือของเราบริสุทธิ์ ก็ขอให้พระเจ้าของบรรพบุรุษของเราเห็นและห้ามท่านไว้เถิด”

18 ครั้นแล้วอามาสัยหัวหน้าของทหารทั้งสามสิบก็เปี่ยมด้วยพระวิญญาณ และพูดว่า

“โอ ท่านดาวิด พวกเราเป็นของท่าน
    โอ บุตรของเจสซี พวกเราอยู่กับท่าน
สันติภาพ สันติภาพจงมีแก่ท่าน
    และสันติภาพจงมีแก่ผู้ช่วยของท่าน
    เพราะว่าพระเจ้าของท่านช่วยท่าน”

และดาวิดก็รับพวกเขาไว้ และแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากองทหารของท่าน

19 ผู้ชายบางคนจากเผ่ามนัสเสห์หนีไปเป็นพวกของดาวิด เมื่อเขามากับพวกฟีลิสเตีย และไปสู้รบกับซาอูล (แต่ดาวิดกับพรรคพวกไม่ได้ช่วยพวกฟีลิสเตีย เพราะหลังจากที่บรรดาผู้นำของฟีลิสเตียปรึกษากันแล้ว ก็ให้ดาวิดกลับไป พวกเขาพูดว่า “ถ้าหากว่าดาวิดหันไปเข้าข้างซาอูลเจ้านายของเขา พวกเราต้องหัวหลุดจากบ่าแน่”) 20 ขณะที่ดาวิดกลับไปยังศิกลาก ชายชาวมนัสเสห์เหล่านี้หนีไปเป็นพวกของท่าน ตามรายชื่อดังต่อไปนี้ อัดนาห์ โยซาบาด เยดียาเอล มีคาเอล โยซาบาด เอลีฮู และศิลเลธัย พวกเขาแต่ละคนนำทหารจำนวน 1,000 คนจากเผ่ามนัสเสห์ 21 พวกเขาช่วยดาวิดสู้กับกลุ่มปล้นได้ เพราะล้วนแต่เป็นนักรบผู้กล้าหาญและเป็นผู้บัญชากองพัน 22 แต่ละวันก็มีผู้ชายที่เข้ามาช่วยดาวิด จนกระทั่งเป็นกองทัพใหญ่ เหมือนกองทัพของพระเจ้า

23 จำนวนทหารที่มาหาดาวิดในเฮโบรนมีอาวุธพร้อมที่จะสู้รบ เพื่อมอบอาณาจักรของซาอูลให้แก่ท่าน ตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า[g] 24 ชายชาวยูดาห์ถือโล่และหอกมี 6,800 คนที่มีอาวุธพร้อม 25 จากชาวสิเมโอน มีนักรบผู้กล้าหาญพร้อมที่จะสู้รบ 7,100 คน 26 จากชาวเลวี 4,600 คน 27 เยโฮยาดาหัวหน้าตระกูลอาโรนมีชาย 3,700 คนอยู่กับเขา 28 ศาโดกนักรบหนุ่มผู้กล้าหาญมีผู้บัญชาการจากตระกูลของเขา 22 คน 29 จากชาวเบนยามินญาติของซาอูล 3,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เคยสัตย์ซื่อต่อพงศ์พันธุ์ของซาอูลจนกระทั่งเวลานั้น 30 จากชาวเอฟราอิม มีนักรบผู้กล้าหาญที่มีชื่อในตระกูลของพวกเขา 20,800 คน 31 จากครึ่งเผ่าของมนัสเสห์ 18,000 คนที่มีชื่อเจาะจง ให้มาเชิญดาวิดไปเป็นกษัตริย์ 32 จากเผ่าอิสสาคาร์ คือบรรดาผู้ที่เข้าใจว่าอิสราเอลควรจะทำสิ่งอันควรอย่างไรในเวลาใด มีผู้นำ 200 คนพร้อมด้วยญาติทั้งสิ้นที่อยู่ใต้บัญชาของพวกเขา 33 จากเผ่าเศบูลุน 50,000 คนที่เป็นทหารชำนาญศึก พร้อมรบด้วยอาวุธสงครามทุกชนิด เพื่อช่วยดาวิดอย่างสัตย์ซื่อ 34 จากเผ่านัฟทาลี เป็นผู้บัญชา 1,000 คน พร้อมกับทหารใช้โล่และหอก 37,000 คน 35 จากชาวดาน 28,600 คนที่พร้อมรบ 36 จากเผ่าอาเชอร์ 40,000 คนที่เป็นทหารชำนาญศึก 37 ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน มี 120,000 คนจากชาวรูเบน ชาวกาด และครึ่งเผ่าของมนัสเสห์ ที่พร้อมรบด้วยอาวุธสงครามทุกชนิด

38 นักรบเหล่านี้กล้าหาญทุกคน และมายังเฮโบรนด้วยความตั้งใจที่จะเชิญดาวิดให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ชาวอิสราเอลทุกคนที่เหลืออยู่ก็มีความมุ่งมั่นพร้อมเพรียงกัน เพื่อเชิญดาวิดให้เป็นกษัตริย์ด้วย 39 ชายเหล่านั้นดื่มกินอยู่กับดาวิดเป็นเวลา 3 วัน เพราะว่าพี่น้องเตรียมเสบียงให้ 40 และคนใกล้ชิดของพวกเขามาจากแดนไกลเช่น อิสสาคาร์ เศบูลุน และนัฟทาลี ได้นำอาหารบรรทุกบนลา อูฐ ล่อ และโค จัดเสบียงแป้งสาลี มะเดื่อแห้ง พวงองุ่นแห้ง เหล้าองุ่น น้ำมัน โค และแกะอย่างอุดมสมบูรณ์ เพราะว่ามีความยินดีปรีดาในอิสราเอล

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation