Beginning
พันธสัญญาแห่งสันติสุขอันเป็นนิรันดร์
54 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า
“จงร้องเพลงเถิด หญิงที่เป็นหมัน เจ้าไม่เคยตั้งครรภ์
จงร้องเพลงและตะโกนด้วยเสียงอันดังเถิด
เจ้ายังไม่เคยปวดครรภ์
เพราะหญิงที่ถูกทอดทิ้ง
จะมีบุตรมากกว่าหญิงที่มีสามี[a]
2 จงขยายกระโจมของเจ้าให้ใหญ่ขึ้น
และให้ม่านในที่อยู่อาศัยของเจ้าแผ่กว้างออกไป
ไม่ต้องยับยั้งไว้
ทำเชือกของเจ้าให้ยาวขึ้น
และทำหมุดให้แข็งแรง
3 เพราะเจ้าจะแผ่ขยายออกไปได้กว้างไกล ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา
และเชื้อสายของเจ้าจะได้เป็นเจ้าของบรรดาประชาชาติ
และพวกเขาจะเป็นเจ้าของเมืองร้างทั้งหลาย
4 อย่ากลัวเลย ด้วยว่า เจ้าจะไม่ต้องอับอาย
อย่าสับสนเพราะเจ้าจะไม่ต้องอัปยศอดสู
ด้วยว่า เจ้าจะลืมความขายหน้าที่มีในวัยแรกรุ่น
และความเป็นม่ายซึ่งทำให้เจ้าถูกตำหนิติเตียนก็จะไม่อยู่ในความทรงจำอีกต่อไป
5 ด้วยว่า องค์ผู้สร้างของเจ้าเป็นสามีของเจ้า
พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาคือพระนามของพระองค์
และองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอลคือองค์ผู้ไถ่ของเจ้า
พระองค์มีชื่อว่า พระเจ้าแห่งโลกทั้งโลก
6 ด้วยว่า พระผู้เป็นเจ้าได้เรียกเจ้า
เจ้าเป็นเหมือนภรรยาที่ถูกทอดทิ้งและโศกเศร้าในจิตวิญญาณ
เหมือนอย่างภรรยาในวัยแรกรุ่นที่ถูกผลักไส”
พระเจ้าของท่านกล่าวดังนั้น
7 “เราละเลยเจ้าเพียงชั่วขณะ
แต่เราจะโอบรวบรวมเจ้าไว้ด้วยความสงสาร
8 เราซ่อนหน้าไปจากเจ้า
ด้วยความโกรธมหันต์เพียงชั่วขณะ
แต่เราจะมีความสงสารต่อเจ้า
ด้วยความรักอันเป็นนิรันดร์”
พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้ไถ่ของท่านกล่าวดังนั้น
9 “เราเห็นว่า นี่เป็นเหมือนกับสมัยของโนอาห์
เหมือนกับที่เราปฏิญาณว่า น้ำที่เคยท่วมในยุคของโนอาห์
จะไม่ควรท่วมโลกอีกแล้ว[b]
ดังนั้นเราจึงได้ปฏิญาณว่า เราจะไม่โกรธเจ้า
และจะไม่ห้ามเจ้าอีก
10 ด้วยว่า เทือกเขาจะสั่นคลอน
และเนินเขาจะถูกขยับเขยื้อน
แต่ความรักอันมั่นคงของเราจะไม่สั่นคลอน
และพันธสัญญาแห่งสันติสุขของเราจะไม่ถูกพรากไป”
พระผู้เป็นเจ้าผู้มีความสงสารต่อท่านกล่าวดังนั้น
11 “โอ เจ้าผู้รับความลำบาก ผู้ที่ถูกพายุพัดพาไปและไม่ได้กำลังใจ
ดูเถิด เราจะสร้างเจ้าด้วยพลอยสีฟ้า
และวางฐานรากของเจ้าด้วยนิลสีคราม
12 เราจะทำเชิงเทินของเจ้าด้วยทับทิม
ทำประตูด้วยแก้วผลึก
และกำแพงทุกด้านด้วยเพชรพลอย
13 พระผู้เป็นเจ้าจะสั่งสอนบุตรของเจ้าทุกคน[c]
และบรรดาบุตรของเจ้าจะมีสันติสุขยิ่งนัก
14 เจ้าจะได้รับความมั่นคงในความชอบธรรม
เจ้าจะอยู่ห่างจากการถูกบีบบังคับ
เพราะเจ้าจะไม่กลัว
และเจ้าจะอยู่ห่างจากความหวาดกลัว
เพราะมันจะไม่เข้าใกล้ตัวเจ้า
15 ถ้าหากว่ามีผู้ใดก่อการทะเลาะวิวาท
ก็ไม่ใช่เกิดจากเรา
ใครก็ตามที่ก่อการทะเลาะวิวาทกับเจ้า
เขาก็จะล้มเพราะเจ้า
16 ดูเถิด เราได้สร้างช่างตีเหล็ก
ซึ่งพัดไฟให้ลุกขึ้นจากถ่านหิน
และสร้างอาวุธตามจุดประสงค์
เราได้สร้างผู้ก่อความพินาศขึ้นเพื่อทำลายจนไม่ให้เหลือซาก
17 ไม่มีอาวุธใดที่ยกขึ้นต่อต้านเจ้าจะทำได้สำเร็จ
และทุกลิ้นที่กล่าวหาเจ้าจะถูกกล่าวโทษ
นี่คือมรดกของบรรดาผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า
และความชอบธรรมของพวกเขามาจากเรา”
พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
ความสงสารของพระผู้เป็นเจ้า
55 “ทุกคนที่กระหายจงมาเถิด
มาที่แหล่งน้ำ
และผู้ที่ไม่มีเงินจงมา
และซื้ออาหารรับประทาน
จงมา และซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนม
โดยไม่ต้องใช้เงินและค่าแลกเปลี่ยน
2 ทำไมเจ้าจึงใช้เงินของเจ้าเพื่อสิ่งเหล่านั้นซึ่งไม่ใช่อาหาร
และใช้เรี่ยวแรงของเจ้าเพื่อสิ่งเหล่านั้นซึ่งไม่ทำให้อิ่มเอิบใจ
จงเชื่อฟังเราให้ดี และรับประทานสิ่งที่ดี
และยินดีกับอาหารอันดีเลิศ
3 จงเงี่ยหูฟัง และมาหาเราเถิด
จงฟัง เพื่อให้จิตวิญญาณของเจ้ามีชีวิต
และเราจะทำพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์กับเจ้า
ความมั่นคงของเรา ความรักอันแท้จริงที่มีแก่ดาวิด[d]
4 ดูเถิด เราให้เขาเป็นพยานแก่บรรดาชนชาติ
ให้เป็นผู้นำและผู้บัญชาการบรรดาชนชาติ
5 ดูเถิด เจ้าจะเรียกประชาชาติที่เจ้าไม่รู้จักมา
และประชาชาติที่ไม่รู้จักเจ้าจะวิ่งมาหาเจ้า
เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า และเพราะองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
เพราะพระองค์ได้โปรดให้เจ้าได้รับความยิ่งใหญ่”
6 จงแสวงหาพระผู้เป็นเจ้าขณะที่ยังหาพระองค์ได้
จงร้องเรียกถึงพระองค์ขณะที่พระองค์อยู่ใกล้
7 ให้คนชั่วละจากวิถีทางของเขา
และคนไร้ความชอบธรรมทิ้งความคิดของเขา
ให้เขากลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระองค์จะมีความสงสารต่อเขา
และมาหาพระเจ้าของพวกเรา เพราะพระองค์จะยกโทษอย่างมากมาย
8 “เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า
และทางของเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเราเช่นกัน”
พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
9 “เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกเช่นไร
วิถีทางของเราก็สูงกว่าวิถีทางของเจ้า
และความคิดของเราสูงกว่าความคิดของเจ้าเช่นนั้น
10 เพราะฝนและหิมะตกจากฟ้า
และไม่ย้อนกลับขึ้นไป แต่รดแผ่นดินโลก
ทำให้พืชงอกเติบโต
ให้เมล็ดแก่ผู้หว่านและอาหารแก่ผู้รับประทานเช่นไร
11 คำของเราก็จะเป็นอย่างนั้น คำซึ่งออกไปจากปากของเรา
จะไม่หวนกลับมาเปล่าๆ
แต่จะสำเร็จผลตามจุดประสงค์ของเรา
และจะสำเร็จในสิ่งที่เรามุ่งหมายไว้เช่นนั้น
12 เพราะเจ้าจะออกไปด้วยความยินดี
และถูกนำออกไปด้วยสันติสุข
เทือกเขาและเนินเขาที่อยู่เบื้องหน้าเจ้า
จะแซ่ซ้องด้วยเสียงเพลง
และต้นไม้ทั้งมวลในทุ่งนาจะปรบมือกัน
13 ต้นสนจะงอกขึ้นแทนไม้หนาม
ต้นเมอร์เทิลจะงอกขึ้นแทนพุ่มไม้หนาม
สิ่งเหล่านี้จะทำให้พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่รู้จัก
เป็นสัญลักษณ์อันเป็นนิรันดร์ที่ไม่มีวันจะถูกทำลายลง”
ความรอดสำหรับชนต่างชาติ
56 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า
“จงรักษาความเป็นธรรม
และปฏิบัติด้วยความชอบธรรม
เพราะความรอดพ้นที่มาจากเราจะมาในไม่ช้า
และความชอบธรรมของเราจะเป็นที่ประจักษ์
2 ผู้ที่เป็นสุขได้แก่ผู้ที่ปฏิบัติตามนี้
และบุตรมนุษย์ที่เคร่งครัดทำตาม
ผู้รักษาวันสะบาโต ไม่ดูหมิ่นวันสะบาโต
และมือของเขาไม่กระทำสิ่งชั่วร้ายใดๆ”
3 อย่าให้ชนต่างชาติที่หันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้าพูดว่า
“พระผู้เป็นเจ้าจะแยกเราออกจากชนชาติของพระองค์อย่างแน่นอน”
และอย่าให้ขันทีพูดว่า
“ดูเถิด เราเป็นต้นไม้แห้ง”
4 เพราะพระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า
“สำหรับบรรดาขันทีที่รักษาวันสะบาโตของเรา
ผู้เลือกสิ่งที่ทำให้เราพอใจ
และเคร่งครัดทำตามพันธสัญญาของเรา
5 เราจะมอบอนุสรณ์และชื่อที่ดียิ่งกว่า
บรรดาบุตรชายบุตรหญิงในบ้านของเรา
และภายในกำแพงของเรา
เราจะมอบชื่ออันเป็นนิรันดร์
ซึ่งจะไม่มีวันถูกตัดทิ้งให้แก่พวกเขา
6 และบรรดาชนต่างชาติที่หันเข้าหาพระผู้เป็นเจ้า
เพื่อปรนนิบัติรับใช้พระองค์ เพื่อรักพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
และเพื่อเป็นบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์
ทุกคนที่รักษาวันสะบาโตและไม่ดูหมิ่นวันสะบาโต
และเคร่งครัดทำตามพันธสัญญาของเรา
7 เราจะนำคนเหล่านี้ไปยังภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา
และให้พวกเขามีใจยินดีอยู่ในตำหนักแห่งการอธิษฐานของเรา
สัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายและเครื่องสักการะของพวกเขา
จะเป็นที่ยอมรับบนแท่นบูชาของเรา
เพราะตำหนักของเราจะได้ชื่อว่า
ตำหนักอธิษฐานสำหรับชนชาติทั้งปวง”
8 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
ผู้รวบรวมอิสราเอลที่ถูกเนรเทศกล่าวดังนี้ว่า
“นอกจากบรรดาผู้ที่ถูกรวบรวมไว้แล้ว
เรายังจะรวบรวมผู้อื่นให้กับพวกเขาอีกด้วย”
บรรดาผู้นำที่ไม่มีความรับผิดชอบของอิสราเอล
9 เจ้าสัตว์ป่าทั้งปวงในทุ่งนา
และในป่า พวกเจ้าจงมากิน
10 ผู้เฝ้ายามของเขาตาบอด
เขาทุกคนขาดความรู้
เขาทุกคนเป็นสุนัขใบ้
เห่าไม่ได้
เอาแต่นอน ช่างฝัน
และชอบหลับนอน
11 สุนัขพวกนี้เจริญอาหารมาก
กินไม่เคยอิ่ม
แต่พวกเขาเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะที่ไม่มีความเข้าใจ
พวกเขาทุกคนได้เดินไปตามทางของเขาเอง
เพื่อผลประโยชน์ของตัวเขาเอง ไม่เว้นสักคน
12 พวกเขาพูดว่า “มาเถิด เราจะหาเหล้าองุ่นมา
เรามาดื่มสุรากันให้หนัก
และวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นอย่างวันนี้
สุขสำราญเกินคาด”
รูปเคารพไร้ประโยชน์ของอิสราเอล
57 ผู้มีความชอบธรรมสิ้นชีวิต
และไม่มีใครใส่ใจ
พวกที่เชื่อในพระเจ้าถูกพรากจากไป
โดยไม่มีใครเข้าใจ
เพราะผู้มีความชอบธรรมถูกนำไปจากความวิบัติ
2 เขาไปสู่ความสงบ
พวกเขาพักผ่อนบนเตียงนอน
ผู้ดำเนินในความเที่ยงธรรม
3 “แต่พวกเจ้าที่เป็นบุตรของหญิงใช้วิทยาคม จงมานี่
เจ้าเป็นเชื้อสายของผู้ผิดประเวณีและผู้หญิงปล่อยตัว
4 เจ้ากำลังล้อเลียนใคร
เจ้าเปิดปากกว้าง
และแลบลิ้นต่อว่าใคร
เจ้าเป็นลูกๆ ของพวกฝ่าฝืน
เชื้อสายแห่งความหลอกลวงมิใช่หรือ
5 พวกเจ้ามัวเมาอยู่ในความใคร่ท่ามกลางต้นโอ๊ก
ที่ใต้ต้นไม้เขียวชอุ่มทุกต้น
เจ้าสังหารลูกๆ ของเจ้าในหุบเขา
ที่ใต้ผาหิน
6 ส่วนแบ่งที่เจ้าจะได้รับอยู่ท่ามกลางหินเรียบของหุบเขา
เจ้าเทเครื่องดื่มบูชา
และเจ้านำเครื่องธัญญบูชามาให้สิ่งเหล่านั้น
นั่นแหละที่เป็นของเจ้า
เราควรจะเปลี่ยนใจเพราะสิ่งเหล่านี้หรือ
7 เจ้าตั้งเตียงของเจ้าไว้บนภูเขาสูงและตระหง่าน
และเจ้าขึ้นไปมอบเครื่องสักการะที่นั่น
8 เจ้าได้ติดเครื่องหมายของชาติอื่น
ที่หลังประตูและวงกบประตู
เพราะเจ้าทิ้งเราไป จึงได้เลิกที่นอนของเจ้าขึ้น
เจ้าขึ้นไปบนนั้นและเบิ่งกว้าง
และเจ้าได้ทำพันธสัญญาระหว่างเจ้ากับพวกเขา
เจ้ารักเตียงนอนของพวกเขา
เจ้าได้มองดูความเปลือยเปล่า
9 เจ้านำน้ำมันไปมอบให้แก่กษัตริย์
และเพิ่มน้ำหอมให้มากขึ้น
เจ้าให้บรรดาผู้ส่งสาสน์ไปไกล
และให้ลงไปจนถึงแดนคนตาย
10 เจ้าเหนื่อยอ่อนเพราะการเดินทางที่ยาวไกล
แต่เจ้าไม่ได้พูดว่า ‘สิ้นความหวัง’
เจ้าพบชีวิตใหม่ให้กับพละกำลังของเจ้า
เจ้าจึงไม่เป็นลมล้มเจ็บ
11 เจ้าหวาดหวั่นและกลัวใคร
เจ้าจึงได้พูดปด
และไม่ได้นึกถึงเรา
ไม่ได้ใส่ใจ
เราคงนิ่งอยู่เป็นเวลานานใช่ไหม
จึงทำให้เจ้าไม่เกรงกลัวเรา
12 เราจะประกาศความชอบธรรมของเจ้าและการกระทำของเจ้า
แต่มันก็จะไม่เป็นประโยชน์ต่อเจ้า
13 เมื่อเจ้าส่งเสียงร้อง
ก็จงให้รูปเคารพที่เจ้าสะสมไว้มากมายช่วยเจ้าให้รอดปลอดภัยเถิด
ลมจะพัดมันไป
ลมหายใจเฮือกหนึ่งก็จะพัดพามันไป
แต่ผู้ที่พึ่งพิงเรา
จะได้เป็นเจ้าของแผ่นดิน
และจะได้รับภูเขาอันบริสุทธิ์ของเราเป็นมรดก”
ผู้รู้สำนึกผิดได้รับการปลอบประโลม
14 และจะมีผู้กล่าวว่า
“จงสร้างถนนขึ้น สร้างถนนขึ้น จงเตรียมถนน
จงยกสิ่งขวางกั้นออกจากทางของชนชาติของเรา”
15 เพราะองค์ผู้สูงส่ง ผู้ได้รับการยกย่อง ผู้ดำรงชีวิตชั่วนิรันดร์กาล
ซึ่งมีพระนามว่า องค์ผู้บริสุทธิ์ กล่าวดังนี้ว่า
“เราอาศัยอยู่ในที่สูงและบริสุทธิ์
และอยู่กับผู้ที่สำนึกผิด และถ่อมตัวในฝ่ายวิญญาณด้วย
เพื่อให้วิญญาณของผู้ถ่อมตนฟื้นขึ้นมาอีก
และเพื่อให้ใจของผู้สำนึกผิดฟื้นขึ้นมาอีก
16 เพราะเราจะไม่ราวีไปตลอดกาล
หรือจะโกรธกริ้วเสมอไป
มิฉะนั้นจิตวิญญาณของมนุษย์จะสิ้นไป
ลมหายใจแห่งชีวิตที่เราสร้างขึ้นมา
17 เพราะสิ่งที่เขาได้มาจากความไม่เป็นธรรมเป็นความชั่ว
เราจึงโกรธกริ้วและลงโทษเขา เราซ่อนหน้าและโกรธนัก
แต่เขาก็หันออกห่างไปในทางที่หัวใจของเขาเรียกร้อง
18 เราได้เห็นวิถีทางของเขา แต่เราจะรักษาเขาให้หายขาด
เราจะนำทางเขาไปและให้กำลังใจเขาและคนที่ร้องคร่ำครวญ
19 จะทำให้เขากล่าวคำสรรเสริญ
สันติสุข สันติสุขจงบังเกิดแก่ผู้ที่อยู่ใกล้และไกล”
พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนั้น
“และเราจะรักษาเขาให้หายขาด”
20 แต่พวกคนชั่วเป็นเหมือนทะเลที่ซัดไปมา
เพราะทะเลจะเงียบสงบไม่ได้
และคลื่นทะเลซัดตม และขี้ดินตลบขึ้นมา
21 พระเจ้าของข้าพเจ้ากล่าวว่า
“ไม่มีสันติสุขสำหรับคนชั่ว”
การอดอาหารที่แท้จริงและปลอม
58 “จงส่งเสียงร้องดัง ไม่ต้องยับยั้งไว้
ส่งเสียงร้องของเจ้าเหมือนเสียงแตร
จงประกาศแก่ชนชาติของเราถึงการล่วงละเมิดของเขา
แก่พงศ์พันธุ์ยาโคบถึงบาปของพวกเขา
2 พวกเขาแสวงหาเราวันแล้ววันเล่า
และยินดีที่จะรู้วิถีทางของเรา
เหมือนกับว่า พวกเขาเป็นประชาชาติที่กระทำสิ่งอันเป็นความชอบธรรม
และไม่ได้ทอดทิ้งคำบัญชาของพระเจ้าของเขา
พวกเขาถามเราถึงการตัดสินอันชอบธรรม
พวกเขายินดีเดินเข้าใกล้พระเจ้า
3 พวกเขาพูดว่า ‘พวกเราอดอาหารไปทำไม
ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่เห็น
พวกเราเจียมตัวไปทำไม
ทั้งๆ ที่พระองค์ไม่รับทราบ’
ดูเถิด ในวันที่เจ้าอดอาหาร เจ้าก็ทำไปเพียงเพื่อตนเอง
แล้วก็บีบบังคับลูกจ้างของเจ้าทุกคน
4 ดูเถิด เจ้าอดอาหารก็เพื่อจะก่อการวิวาทและต่อสู้เท่านั้น
และเพื่อชกด้วยหมัดที่มุ่งร้าย
การอดอาหารอย่างที่พวกเจ้ากระทำในวันนี้
จะไม่ทำให้เสียงของเจ้าเป็นที่ได้ยินในเบื้องสูงหรอก
5 การอดอาหารแบบนี้น่ะหรือที่เราเลือก
เป็นวันที่ให้คนถ่อมตนหรือ
ให้เขาก้มศีรษะลงอย่างไม้อ้อ
และนอนบนผ้ากระสอบและขี้เถ้าหรือ
เจ้าจะเรียกว่านั่นเป็นการอดอาหาร
และเป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้ายอมรับได้หรือ
6 การอดอาหารแบบที่เราเลือกมิใช่อย่างนี้หรือ
คือแก้สิ่งผูกมัดของความชั่ว
แก้สายรัดของแอก
ปล่อยผู้ถูกบีบบังคับให้เป็นอิสระ
และปลดแอกทั้งหมดออก
7 เพื่อแบ่งปันอาหารของเจ้าให้กับผู้ที่หิว
และนำผู้ยากไร้ที่ไม่มีบ้านอยู่เข้าไปในบ้านของเจ้า
เมื่อเจ้าเห็นผู้ที่ไร้เครื่องนุ่งห่ม ก็จัดหาให้เขา
และไม่ซ่อนตัวเจ้าจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเจ้า มิใช่หรือ
8 แล้วแสงสว่างของเจ้าก็จะสาดส่องดั่งอรุณรุ่ง
และการเจ็บไข้ของเจ้าจะหายขาดอย่างรวดเร็ว
ความชอบธรรมของเจ้าจะนำหน้าเจ้าไป
บารมีของพระผู้เป็นเจ้าจะคุ้มกันที่ข้างหลังเจ้า
9 เวลาที่เจ้าร้องเรียก พระผู้เป็นเจ้าก็จะตอบ
เจ้าจะร้องให้ช่วย พระองค์ก็จะกล่าวว่า ‘เราอยู่นี่’
ถ้าเจ้าเอาแอกนั้นออกไปจากท่ามกลางพวกเจ้า
และเลิกจากการตำหนิติเตียนผู้อื่น หรือการพูดว่าร้าย
10 ถ้าเจ้าช่วยเหลือผู้หิวกระหาย
และให้ผู้มีความลำบากได้รับจนพอใจ
แล้วแสงสว่างของเจ้าก็จะส่องในความมืด
และความมืดมนของเจ้าก็จะสว่างดั่งเที่ยงวัน
11 และพระผู้เป็นเจ้าจะนำทางเจ้าเสมอไป
และให้เจ้าได้รับจนพอใจในยามลำเค็ญ
และทำให้กระดูกของเจ้าแข็งแรง
และเจ้าจะเป็นอย่างสวนที่ได้น้ำรด
เป็นอย่างน้ำพุ
ที่ไม่มีวันแห้งเหือด
12 และสิ่งปรักหักพังโบราณของเจ้าจะได้รับการสร้างขึ้นใหม่
เจ้าจะสร้างฐานรากให้กับหลายชั่วอายุคน
เจ้าจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ซ่อมกำแพง
ผู้สร้างถนนขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยได้
13 ถ้าเจ้าหยุดละเมิดวันสะบาโต
หยุดจากการหาความสำราญในวันบริสุทธิ์ของเรา
และเรียกว่า วันสะบาโตเป็นวันที่น่ายินดี
และให้เกียรติวันบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
ถ้าเจ้าให้เกียรติวันนั้น คือเจ้าไม่ทำตามวิถีทางของเจ้า
หรือแสวงหาความสำราญของเจ้า หรือพูดพร่ำ
14 แล้วเจ้าจะยินดีในพระผู้เป็นเจ้า
และเราจะให้เจ้าขึ้นสู่ความสูงของแผ่นดินโลก
เราจะให้เจ้ารับมรดกของยาโคบบิดาของเจ้า
พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวด้วยปากของพระองค์”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation