Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
มาลาคี 1-4

คำพยากรณ์แห่งคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับอิสราเอลโดยมาลาคี[a]

ความรักของพระผู้เป็นเจ้ามีต่ออิสราเอล

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ “เรารักพวกเจ้า” แต่พวกเจ้าถามว่า “พระองค์รักพวกเราอย่างไร” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “เอซาวเป็นพี่ชายยาโคบมิใช่หรือ แม้ว่าเรารักยาโคบ แต่เราชังเอซาว[b] และเราได้ทำให้ดินแดนเนินเขาของเขากลายเป็นที่ร้างอันแร้นแค้น และยกมรดกของเขาให้แก่หมาในในถิ่นทุรกันดาร” ถ้าเอโดมพูดว่า “พวกเราถูกเหยียบย่ำ แต่เราก็จะสร้างสิ่งปรักหักพังขึ้นใหม่” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “พวกเขาจะสร้างก็ได้ แต่เราจะทำให้พังทลายลง และพวกเขาจะได้ชื่อว่า ‘ดินแดนชั่วร้าย’ และ ‘ประชาชนที่พระผู้เป็นเจ้ากริ้วตลอดไป’ พวกเจ้าจะเห็นด้วยตาเอง และจะพูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่แม้กระทั่งนอกเขตแดนอิสราเอล’”

เครื่องสักการะที่มีตำหนิของปุโรหิต

พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “บุตรชายให้เกียรติบิดาของเขา และผู้รับใช้ให้เกียรติเจ้านาย ถ้าเราเป็นบิดา เกียรติของเราอยู่ที่ไหน และถ้าเราเป็นเจ้านาย ความเคารพที่มีต่อเราอยู่ที่ไหน โอ บรรดาปุโรหิตเอ๋ย พวกเจ้านั่นแหละที่ดูหมิ่นนามของเรา แต่พวกเจ้าถามว่า ‘พวกเราดูหมิ่นพระนามของพระองค์อย่างไร’ พวกเจ้าถวายอาหารที่เป็นมลทินบนแท่นบูชาของเรา แต่พวกเจ้าถามว่า ‘พวกเราทำให้พระองค์เป็นมลทินได้อย่างไร’ การที่พูดเช่นนั้น โต๊ะของพระผู้เป็นเจ้าถูกดูหมิ่น การที่พวกเจ้ามอบสัตว์ตาบอดเป็นเครื่องสักการะนั้น ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายหรือ และเมื่อพวกเจ้ามอบเครื่องสักการะพิการหรือเป็นโรค นั่นไม่เลวร้ายหรือ ลองมอบของเหล่านั้นแก่ผู้ว่าราชการของเจ้า เขาจะพอใจในตัวเจ้าหรือเขาจะยอมรับเจ้าไหม” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า “จงอ้อนวอนพระเจ้าให้กรุณาต่อพวกเรา มือพวกท่านถวายของเช่นนี้ แล้วพระองค์จะพอใจผู้ใดในหมู่ท่านไหม” 10 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ “คนหนึ่งในพวกเจ้าจะปิดประตู เพื่อจะได้ไม่จุดไฟที่แท่นบูชาโดยไร้ประโยชน์ เราไม่พอใจในตัวพวกเจ้า และเราจะไม่รับของถวายจากมือของพวกเจ้า 11 นามของเราจะยิ่งใหญ่ในบรรดาประชาชาติตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตก ทั่วทุกแห่งจะมีคนนำเครื่องหอมและของถวายอันบริสุทธิ์มาให้เพื่อนามของเรา เพราะนามของเราจะยิ่งใหญ่ในบรรดาประชาชาติ” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น 12 “แต่พวกเจ้าดูหมิ่นเมื่อเจ้าพูดถึงโต๊ะของพระผู้เป็นเจ้าว่า ‘เป็นมลทิน’ และพูดถึงอาหารว่า ‘เป็นที่น่าดูหมิ่น’ 13 และพวกเจ้าพูดว่า ‘เป็นภาระเสียจริง’ และพวกเจ้าเหยียดหยามเชิดหน้าใส่” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “เมื่อพวกเจ้านำสิ่งที่เอามาได้ด้วยการกระทำผิด หรือสิ่งที่พิการ หรือเป็นโรค พวกเจ้านำมาให้เป็นของถวาย เราควรจะรับสิ่งเหล่านั้นจากมือของพวกเจ้าหรือ 14 คนโกงถูกแช่งสาป คนที่มีสัตว์ตัวผู้จากฝูง และสาบานว่าจะถวายให้ แต่แล้วก็มอบสัตว์มีตำหนิเป็นเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้า เพราะเราเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และนามของเราจะต้องเป็นที่เกรงขามในบรรดาประชาชาติ” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น

พระผู้เป็นเจ้าตักเตือนบรรดาปุโรหิต

“และบัดนี้ ปุโรหิตเอ๋ย คำสั่งนี้สำหรับเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า “ถ้าพวกเจ้าจะไม่ฟัง ถ้าพวกเจ้าจะไม่ใส่ใจเพื่อยกย่องนามของเรา เราก็จะให้คำสาปแช่งตกอยู่กับพวกเจ้า และเราจะแช่งสาปพรที่เป็นของพวกเจ้า จริงๆ แล้วเราได้แช่งสาปพรแล้ว เพราะพวกเจ้าไม่ใส่ใจเลย ดูเถิด เราจะห้ามเชื้อสายของพวกเจ้า และจะละเลงหน้าพวกเจ้าด้วยสิ่งปฏิกูลจากของถวายของพวกเจ้า และพวกเจ้าจะถูกรวมไปทิ้งด้วยกัน เจ้าจะรู้ว่า เราได้ส่งคำบัญชานี้มาให้พวกเจ้า เพื่อพันธสัญญาของเราที่มีกับเลวีนั้นจะคงอยู่ต่อไป” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “พันธสัญญาของเราที่มีกับเขาเป็นพันธสัญญาแห่งชีวิตและสันติสุขซึ่งเรามอบให้แก่เขา เป็นพันธสัญญาแห่งความเกรงกลัว และเขาเกรงกลัวเรา เขายำเกรงนามของเรา การสั่งสอน[c]ที่แท้จริงอยู่ในปากของเขา เขาไม่ได้พูดสิ่งใดผิด เขาดำเนินไปกับเราด้วยสันติสุขและความเที่ยงธรรม และเขาทำให้คนจำนวนมากหันไปจากบาป เพราะปากของปุโรหิตควรเป็นที่เก็บรักษาความรู้ และประชาชนควรแสวงหาการสั่งสอนจากปากของเขา เพราะเขาเป็นผู้ส่งข่าวของพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา แต่พวกเจ้าได้หันเหไปจากวิถีทาง พวกเจ้าเป็นเหตุให้คนจำนวนมากสะดุดด้วยการสั่งสอนของพวกเจ้า พวกเจ้าฝ่าฝืนพันธสัญญาที่มีกับเลวี” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “ดังนั้น เราได้ทำให้เจ้าเป็นที่ดูหมิ่นและอับอายต่อหน้าชนชาติทั้งปวง เพราะพวกเจ้าไม่ได้ดำเนินตามทางของเรา แต่กลับแสดงความลำเอียงในการสอนกฎบัญญัติ”

ยูดาห์ไม่เคารพพันธสัญญา

10 พวกเราทุกคนมีพระบิดาองค์เดียวมิใช่หรือ พระเจ้าองค์เดียวเป็นผู้สร้างพวกเรามิใช่หรือ แล้วทำไมพวกเราจึงไม่สัตย์ซื่อต่อกัน ซึ่งเป็นการไม่เคารพพันธสัญญาของบรรพบุรุษของเรา 11 ยูดาห์ไร้ความเชื่อ และได้กระทำสิ่งที่น่ารังเกียจในอิสราเอลและเยรูซาเล็ม เพราะยูดาห์ไม่เคารพสถานที่บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งพระองค์รัก และเขาได้แต่งงานกับบุตรสาวของเทพเจ้าต่างชาติ[d] 12 ชายใดก็ตามที่กระทำเช่นนี้ ขอให้พระผู้เป็นเจ้าตัดเขาออกจากกระโจมของยาโคบ แม้เขาจะนำของถวายมามอบแด่พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาก็ตาม

13 มีอีกสิ่งที่พวกท่านทำก็คือ พวกท่านทำแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้าเปียกโชกด้วยน้ำตา ท่านร้องไห้และโอดครวญเพราะพระองค์ไม่สนใจของถวายจากมือของพวกท่าน หรือรับมันไว้ด้วยความยินดี 14 แต่พวกท่านกลับถามว่า “ทำไมจึงไม่รับ” เพราะพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยานระหว่างท่านกับภรรยาที่ท่านมีตั้งแต่ยังหนุ่ม ซึ่งท่านไม่ซื่อสัตย์ต่อนาง แม้นางจะเป็นทั้งเพื่อนและภรรยาโดยพันธสัญญาก็ตาม 15 พระองค์ไม่ได้ให้เขาทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกันหรือ[e] ทั้งสองเป็นของพระองค์ทั้งฝ่ายกายและวิญญาณ และเหตุใดจึงเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เพราะพระองค์ต้องการเชื้อสายที่มีความภักดี ฉะนั้นพวกท่านจงระวังตัวด้วยฝ่ายวิญญาณ และอย่าให้คนใดในพวกท่านไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยาที่ท่านมีตั้งแต่ยังหนุ่ม 16 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า “เราเกลียดการหย่าร้าง และเราเกลียดคนที่คลุมกายด้วยการกระทำผิดดั่งเครื่องนุ่งห่ม” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น ฉะนั้นพวกท่านจงระวังตัวในฝ่ายวิญญาณ และอย่าเป็นคนไม่ซื่อสัตย์

ผู้ส่งข่าวของพระผู้เป็นเจ้า

17 พวกท่านทำให้พระผู้เป็นเจ้าเหนื่อยใจด้วยคำพูดของท่าน และท่านพูดว่า “พวกเราได้ทำให้พระองค์เหนื่อยใจอย่างไร” ก็ด้วยการพูดว่า “ทุกคนที่กระทำความชั่วเป็นคนดีในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ชื่นชอบในพวกเขา” หรือด้วยการที่ท่านถามว่า “พระเจ้าแห่งความยุติธรรมอยู่ไหน”

“ดูเถิด เราใช้ผู้ส่งข่าวของเราไป และเขาจะเตรียมทางล่วงหน้าเรา[f] และพระผู้เป็นเจ้าผู้ที่พวกเจ้าแสวงหาจะมายังพระวิหารของพระองค์ในทันใด และ ดูเถิด ผู้ส่งข่าวแห่งพันธสัญญาซึ่งพวกเจ้าชื่นชอบกำลังมา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น แต่ใครสามารถทนต่อวันนั้นได้เมื่อพระองค์มา และใครจะสามารถทนเมื่อพระองค์ปรากฏ เพราะพระองค์เป็นเหมือนเปลวไฟสำหรับหลอมเหล็ก และเหมือนผงซักฟอกของผู้ซักเสื้อผ้า พระองค์จะนั่งราวกับผู้หลอมเหล็กและผู้ทำให้เงินบริสุทธิ์ และพระองค์จะทำให้บรรดาบุตรของเลวีบริสุทธิ์ และหลอมพวกเขาเหมือนทองคำและเงิน และพวกเขาจะนำของถวายในความชอบธรรมมามอบแด่พระผู้เป็นเจ้า แล้วของถวายของยูดาห์และเยรูซาเล็มจะเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า เหมือนในสมัยดึกดำบรรพ์ เหมือนสมัยโบราณกาล

“เราจะมาใกล้พวกเจ้าเพื่อพิพากษา เราจะรีบเป็นพยานต่อต้านบรรดาผู้ใช้วิทยาคม ผู้ผิดประเวณี ผู้เป็นพยานเท็จ ผู้เอาเปรียบค่าจ้างของคนงานรับจ้าง หญิงม่ายและเด็กกำพร้า ผู้บิดเบือนความเป็นธรรมซึ่งคนต่างด้าวควรได้รับ และผู้ไม่เกรงกลัวเรา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น

การปล้นพระเจ้า

“เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราไม่เปลี่ยนแปลง ฉะนั้น โอ บรรดาผู้สืบเชื้อสายของยาโคบเอ๋ย พวกเจ้าจะไม่ถูกทำให้พินาศ นับตั้งแต่สมัยของบรรพบุรุษของพวกเจ้า พวกเจ้าหันเหไปจากกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ได้ปฏิบัติตาม จงกลับมาหาเรา และเราจะกลับมาหาพวกเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “แต่พวกเจ้าถามว่า ‘พวกเราจะกลับมาหาพระองค์อย่างไร’ คนจะปล้นพระเจ้าหรือไม่ แต่พวกเจ้ากำลังปล้นเรา แต่พวกเจ้าถามว่า ‘พวกเราปล้นพระองค์ได้อย่างไร’ ในของถวายหนึ่งในสิบ[g] และของถวายที่เจ้าบริจาค ประชาชาติของเจ้าอยู่ใต้คำสาปแช่ง เพราะพวกเจ้ากำลังปล้นเรา 10 จงนำของถวายหนึ่งในสิบเข้ามาในคลัง เพื่อให้มีอาหารในตำหนักของเรา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “จงทดสอบเราในเรื่องนี้ และดูซิว่า เราจะเปิดประตูสวรรค์ให้แก่พวกเจ้า และหลั่งพรให้แก่พวกเจ้าจนกระทั่งล้นที่เก็บหรือไม่ 11 เราจะป้องกันแมลงกินพืชให้พวกเจ้า เพื่อไม่ให้ทำลายพืชผลบนพื้นดิน และเถาองุ่นในไร่จะติดดอกออกผล” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น 12 “แล้วประชาชาติทั้งปวงจะเรียกพวกเจ้าว่า ผู้ได้รับพระพร เพราะแผ่นดินของพวกเจ้าจะเป็นที่น่าอยู่” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น

13 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “สิ่งที่พวกเจ้าพูดนั้นบาดใจเรา แล้วพวกเจ้ายังถามอีกว่า ‘พวกเราพูดสิ่งใดที่บาดใจพระองค์’ 14 พวกเจ้าพูดว่า ‘เป็นการไร้ประโยชน์ที่จะรับใช้พระเจ้า พวกเราได้รับประโยชน์อะไรในการกระทำตามคำสั่งของพระองค์ หรือดำเนินชีวิตด้วยการร้องคร่ำครวญ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา 15 และบัดนี้พวกเราเรียกคนยโสว่า ผู้ได้รับพระพร และพวกที่กระทำความชั่วไม่เพียงแต่จะรุ่งเรือง แต่เขาท้าทายพระเจ้าและก็ยังรอดตัวไปได้’”

หนังสืออนุสรณ์

16 ครั้นแล้วบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจึงพูดโต้ตอบกัน พระผู้เป็นเจ้าตั้งใจฟังและได้ยิน หนังสืออนุสรณ์ถูกบันทึก ณ เบื้องหน้าพระองค์ ถึงบรรดาผู้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าและเชิดชูพระนามของพระองค์

17 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ว่า “พวกเขาจะเป็นคนของเรา เป็นสมบัติอันมีค่าของเราในวันที่เราจะกระทำ เราจะไว้ชีวิตพวกเขาเช่นเดียวกับที่ชายคนหนึ่งไว้ชีวิตบุตรที่รับใช้เขา 18 และเจ้าจะเห็นอีกครั้งถึงความแตกต่างระหว่างผู้มีความชอบธรรมและผู้ชั่วร้าย ระหว่างบรรดาผู้ที่รับใช้พระเจ้าและบรรดาผู้ที่ไม่รับใช้พระองค์

วันอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า

วันนั้นแหละกำลังจะมาถึง มันจะร้อนดั่งเตาอบ ผู้หยิ่งยโสและผู้ชั่วร้ายทั้งปวงจะเป็นฟาง และวันนั้นกำลังจะมาถึงซึ่งจะเผาพวกเขาให้ลุกเป็นไฟ” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “จะไม่มีรากหรือกิ่งก้านเหลืออยู่ แต่สำหรับพวกเจ้าที่เกรงกลัวนามของเรา ดวงอาทิตย์แห่งความชอบธรรมจะขึ้นพร้อมด้วยปีกซึ่งรักษาให้หายขาด พวกเจ้าจะออกไปและโลดเต้นอย่างลูกโคที่ถูกปล่อยให้ออกไปจากคอก และพวกเจ้าจะเหยียบย่ำคนชั่วร้าย เพราะพวกเขาจะเป็นดั่งเถ้าใต้เท้าของพวกเจ้าในวันที่เรากระทำสิ่งเหล่านี้” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น

“จงระลึกถึงกฎบัญญัติของโมเสสผู้รับใช้ของเรา กฎเกณฑ์ และคำบัญชาที่เรามอบให้แก่เขาที่โฮเรบสำหรับอิสราเอลทั้งปวง

ดูเถิด เราจะส่งเอลียาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า ก่อนที่วันอันยิ่งใหญ่และน่าหวาดหวั่นของพระผู้เป็นเจ้าจะมาถึง และเขาจะทำให้บิดาทั้งหลายเปิดใจเข้าหาบรรดาบุตรของพวกเขา[h] และทำให้บุตรทั้งหลายเปิดใจเข้าหาบรรดาบิดาของพวกเขา มิฉะนั้นเราจะมาและทำให้แผ่นดินพินาศด้วยคำสาปแช่ง”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation