Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
โฮเชยา 8-14

อิสราเอลจะเก็บเกี่ยวลมพายุ

จงแตะริมฝีปากด้วยแตรงอน
    ดูเหมือนนกอินทรีตัวหนึ่งอยู่ที่พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
เพราะพวกเขาได้ละเมิดพันธสัญญาของเรา
    และฝ่าฝืนกฎบัญญัติของเรา
พวกเขาส่งเสียงร้องดังนี้ว่า
    ‘พระเจ้าของข้าพเจ้า พวกเราชาวอิสราเอลรู้จักพระองค์’
แต่อิสราเอลได้ปฏิเสธสิ่งที่ดี
    ศัตรูจะไล่ล่าเขา

พวกเขาแต่งตั้งบรรดากษัตริย์โดยไม่ได้ปรึกษาเรา
    พวกเขาเลือกบรรดาผู้นำโดยไม่ขอความเห็นจากเรา
พวกเขาหล่อรูปเคารพด้วยเงินและทองคำ
    ซึ่งก่อความพินาศให้แก่ตนเอง
โอ สะมาเรียเอ๋ย จงโยนรูปปั้นลูกโคทิ้งเสีย
    ความกริ้วของเราพลุ่งขึ้นต่อพวกเขา
พวกเขาจะคงความไม่บริสุทธิ์ไปอีกนานเพียงไร
ด้วยว่า รูปปั้นนั้นมาจากอิสราเอล
ช่างฝีมือทำมันขึ้นมา
    มันไม่ใช่พระเจ้า
รูปปั้นลูกโคของสะมาเรีย
    จะแตกหักเป็นชิ้นๆ

ด้วยว่า พวกเขาหว่านลม
    และพวกเขาจะเก็บเกี่ยวลมพายุ
ธัญพืชที่ยืนตั้งขึ้นไม่มีเมล็ด
    มันจะไม่ผลิตแป้งสาลี
แต่ถ้าหากว่ามันมีเมล็ดได้
    บรรดาคนต่างชาติก็จะกลืนกินมันเสีย
อิสราเอลถูกกลืน
    พวกเขาอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติแล้ว
    เหมือนกับภาชนะที่ไร้ประโยชน์
เพราะพวกเขาได้ขึ้นไปยังอัสซีเรีย
    ลาป่าตัวหนึ่งเร่ร่อนไปตามลำพัง
    เอฟราอิมได้ขายตัวให้กับคนรักทั้งหลาย
10 ถึงแม้ว่าพวกเขาได้ขายตัวให้กับบรรดาประชาชาติ
    เราจะรวบรวมพวกเขาเข้าด้วยกันในไม่ช้า
พวกเขาจะเริ่มเศร้าสลด
    ภายใต้การกดขี่ข่มเหงของกษัตริย์ผู้มีอานุภาพ

11 เพราะเอฟราอิมสร้างแท่นบูชามากมายเพื่อมอบเครื่องสักการะลบล้างบาป
    แต่แล้วมันก็กลับกลายเป็นแท่นบูชาสำหรับการกระทำบาป
12 มีหลายสิ่งที่เราเขียนในกฎบัญญัติของเราเพื่อพวกเขา
    แต่พวกเขานับว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาด
13 ส่วนเครื่องสักการะอันเป็นของถวายของเรา
    พวกเขาถวายเนื้อสัตว์แล้วก็กินเสียเอง
    แต่พระผู้เป็นเจ้าไม่พอใจพวกเขา
ฉะนั้นพระองค์จะจดจำความชั่ว
    และจะลงโทษบาปของพวกเขา
    พวกเขาจะกลับไปยังอียิปต์
14 ด้วยว่า อิสราเอลได้ลืมผู้สร้างของเขา
    และสร้างวังทั้งหลาย
ยูดาห์ได้สร้างเมืองที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น
    ดังนั้น เราจะจุดไฟเผาตามเมืองต่างๆ ของพวกเขา
    และไฟจะเผาไหม้ป้อมปราการของเมืองเสีย”

พระผู้เป็นเจ้าจะลงโทษอิสราเอล

โอ อิสราเอลเอ๋ย อย่ายินดีเลย
    อย่าโห่ร้องอย่างบรรดาชนชาติต่างๆ
เพราะท่านได้ทำตนเป็นแพศยาด้วยการทอดทิ้งพระเจ้าของท่าน
    ท่านรักค่าแรงหญิงแพศยา
    ที่ลานนวดข้าวทุกแห่ง
ลานนวดข้าวและเครื่องสกัดเหล้าองุ่นจะเลี้ยงดูประชาชนไม่ได้
    และเหล้าองุ่นใหม่จะช่วยพวกเขาไม่ได้
พวกเขาไม่อาจจะคงอยู่ในแผ่นดินของพระผู้เป็นเจ้า
    แต่เอฟราอิมจะกลับไปยังอียิปต์
    และพวกเขาจะรับประทานอาหารที่มีมลทินในอัสซีเรีย
พวกเขาจะไม่รินเหล้าองุ่นซึ่งเป็นเครื่องดื่มบูชาให้แด่พระผู้เป็นเจ้า
    และเครื่องสักการะของพวกเขาจะไม่ทำให้พระองค์พอใจ
มันจะเป็นเหมือนขนมปังของผู้ร้องคร่ำครวญ
    ทุกคนที่รับประทานก็จะมีมลทิน
เพราะขนมปังของพวกเขาจะแก้ความหิวของพวกเขาได้เท่านั้น
    มันจะไม่เข้ามาในพระวิหารของพระผู้เป็นเจ้า

พวกท่านจะทำอะไรในวันเทศกาลที่กำหนดไว้
    และในวันฉลองของพระผู้เป็นเจ้า
ดูเถิด พวกเขาจะหนีไปจากความพินาศ
    แต่อียิปต์จะรวบรวมพวกเขา
    เมมฟิสจะบรรจุศพพวกเขา
พุ่มไม้หนามจะงอกแทรกอยู่กับเครื่องเงินที่มีค่า
    หนามจะงอกอยู่ในกระโจมของพวกเขา
วันแห่งการลงโทษมาถึงแล้ว
    วันแห่งการตอบสนองมาถึงแล้ว
    อิสราเอลก็จะรู้
ผู้เผยคำกล่าวเป็นคนโง่
    คนซึ่งควรดำรงในฝ่ายวิญญาณกลับวิกลจริต
เพราะบาปและความจงเกลียดจงชัง
    ของท่านมากมายนัก
ผู้เผยคำกล่าวเป็นคนเฝ้ายาม
    ของเอฟราอิมร่วมกับพระเจ้าของเรา
แต่ก็ยังมีกับดักรออยู่ทุกทางที่เขาไป
    และความจงเกลียดจงชังอยู่ในพระตำหนักของพระเจ้าของเขา
พวกเขาได้ถลำลึกในการกระทำอันเสื่อมทราม
    อย่างที่เกิดขึ้นในสมัยกิเบอาห์[a]
พระองค์จะระลึกถึงความชั่วของพวกเขา
    พระองค์จะลงโทษบาปของพวกเขา

10 “เมื่อเราพบอิสราเอล
    เขาเป็นเหมือนผลองุ่นในถิ่นทุรกันดาร
เมื่อเราเห็นบรรพบุรุษของพวกเจ้า
    พวกเขาเป็นเหมือนผลแรก
    ของต้นมะเดื่อในฤดูแรกเริ่ม
แต่พวกเขามายังบาอัลเปโอร์[b]
    และอุทิศตนให้แก่สิ่งที่น่าอับอาย
    และกลายเป็นที่น่ารังเกียจเหมือนสิ่งที่พวกเขารัก
11 บารมีของเอฟราอิมจะบินหนีไปเหมือนนกบิน
    ไม่มีการให้กำเนิด ไม่มีการตั้งครรภ์ ไม่มีการปฏิสนธิ
12 ถึงแม้ว่าพวกเขาเลี้ยงดูลูกๆ
    เราก็จะพรากลูกทุกคนของพวกเขาไป
วิบัติจงเกิดแก่พวกเขา
    เมื่อเราไปจากพวกเขา
13 อย่างที่เราได้เห็นเอฟราอิมซึ่งเป็นเหมือนไทระ
    ที่ถูกปลูกสร้างไว้ในที่น่าอยู่
แต่เอฟราอิมจะนำลูกๆ
    ของพวกเขาไปยังผู้สังหาร”
14 โอ พระผู้เป็นเจ้า ให้แก่พวกเขาเถิด
    พระองค์จะให้อะไรแก่พวกเขา
ให้ครรภ์ที่แท้งลูก
    และอกที่ขาดน้ำนมแก่พวกเขา

15 “เพราะความชั่วทั้งปวงของพวกเขาที่กิลกาล
    เราจึงเกลียดชังพวกเขาที่นั่น
เพราะการกระทำที่เป็นบาปของพวกเขา
    เราจะขับไล่พวกเขาออกไปจากตำหนักของเรา
เราจะไม่รักพวกเขาอีกต่อไป
    บรรดาผู้นำของพวกเขาทุกคนเป็นพวกฝ่าฝืน
16 เอฟราอิมแห้งโรยรา
    รากเง่าของพวกเขาแห้งเหี่ยว
    พวกเขาจะไม่ออกผล
แม้ว่าพวกเขาจะตั้งครรภ์
    เราก็จะสังหารลูกๆ ที่พวกเขาทะนุถนอม”

17 พระเจ้าของข้าพเจ้าจะไม่ยอมรับพวกเขา
    เพราะพวกเขาไม่ยอมฟังพระองค์
    พวกเขาจะระหกระเหินอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
10 อิสราเอลเป็นเถาองุ่นงาม
    ที่แผ่ออกไปและออกผล
ยิ่งเกิดผลมากขึ้นเท่าใด
    อิสราเอลก็ยิ่งจะสร้างแท่นบูชามากขึ้นเท่านั้น
ในเวลาที่แผ่นดินอุดมสมบูรณ์
    อิสราเอลก็ตกแต่งเสาหินของเขา
จิตใจของพวกเขาลวงหลอก
    บัดนี้พวกเขาจะต้องรับความผิดของตน
พระผู้เป็นเจ้าจะพังทลายแท่นบูชาของพวกเขา
    และจะทำลายเสาหินของพวกเขา

แล้วพวกเขาจะพูดดังนี้ว่า
    “พวกเราไม่มีกษัตริย์
เพราะพวกเราไม่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    แต่ถึงแม้ว่า พวกเราจะมีกษัตริย์
    ท่านจะทำสิ่งใดให้พวกเราได้”
พวกเขาเพียงแต่พูดด้วยถ้อยคำ
    ทำพันธสัญญาด้วยคำสาบานลวง
ดังนั้น การตัดสินโทษปรากฏขึ้น
    เหมือนวัชพืชที่เป็นพิษในไร่นา
    ตามร่องที่ไถคราดไว้
บรรดาผู้อยู่อาศัยของสะมาเรียกลัวจนตัวสั่น
    เพราะรูปเคารพลูกโคของเบธอาเวน
ประชาชนของที่แห่งนั้นร้องรำพันถึงรูปเคารพนั้น
และบรรดาปุโรหิตที่บูชารูปเคารพ
    ก็จะร้องรำพันถึงความเรืองรองของมันเช่นกัน
    เพราะมันได้ไปจากพวกเขาแล้ว
สิ่งนั้นจะถูกแบกไปยังอัสซีเรีย
    เป็นเช่นของกำนัลแก่กษัตริย์ยาเรบ[c]
เอฟราอิมจะรับความอัปยศ
    และอิสราเอลจะละอายในรูปเคารพของเขา
กษัตริย์แห่งสะมาเรียจะเป็นอย่างกิ่งไม้
    ลอยไปบนผิวน้ำ
สถานบูชาบนภูเขาสูงของอาเวน[d]
    ซึ่งเป็นบาปของอิสราเอลจะถูกทำให้พินาศ
พุ่มไม้หนามและพืชพันธุ์ไม้มีหนาม
    จะงอกโตที่แท่นบูชาของพวกเขา
และพวกเขาจะพูดกับภูเขาดังนี้ว่า “กลบตัวเราเถิด”
    และพูดกับเนินเขาว่า “กลิ้งลงมาทับเราเถิด”

“โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าได้ทำบาปตั้งแต่สมัยกิเบอาห์[e]
    และพวกเขาก็ยังยืนหยัดต่อไป
สงครามไม่ได้กำจัดคนชั่ว
    ในกิเบอาห์หรอกหรือ
10 เราจะลงโทษพวกเขาตามที่เราต้องการ
    บรรดาชนชาติจะถูกรวบรวมไปต่อสู้กับพวกเขา
    เมื่อพวกเขาถูกมัดเพราะบาป 2 ประการของพวกเขา
11 เอฟราอิมเป็นลูกโคตัวเมียที่ได้รับการฝึกแล้ว
    นางชอบนวดข้าว
และเราจะวางแอก
    บนคออันงามของนาง
เราจะให้เอฟราอิมแบกแอกไป
    ยูดาห์จะต้องไถร่อง
    ยาโคบจะต้องไถคราดด้วยตนเอง
12 จงหว่านความชอบธรรมให้แก่พวกเจ้าเอง
    เก็บเกี่ยวผลแห่งความรักอันมั่นคง
จงพรวนที่ดินของเจ้าที่ยังไม่ได้ไถ
    เพราะถึงเวลาที่จะแสวงหาพระผู้เป็นเจ้า
เพื่อพระองค์จะมา
    และหลั่งความชอบธรรมลงบนพวกเจ้า
13 พวกเจ้าปลูกความชั่ว
    พวกเจ้าเก็บเกี่ยวความไม่ยุติธรรม
    พวกเจ้ารับประทานผลแห่งความลวงหลอก
เพราะพวกเจ้าวางใจในวิถีทางของตนเอง
    และในนักรบจำนวนมากของเจ้า
14 ฉะนั้น เสียงชุลมุนของสงครามจะดังขึ้นในหมู่ประชาชนของเจ้า
    และป้อมปราการของเจ้าทุกแห่งจะถูกพังทลาย
อย่างที่ชัลมันได้พังเบธอาร์เบลในวันสงคราม
    แม่ทั้งหลายกับลูกๆ ของพวกนางถูกทำร้ายอย่างเหี้ยมโหด
15 โอ เบธเอลเอ๋ย พวกเจ้าจะถูกกระทำเหมือนอย่างนั้น
    เพราะความชั่วร้ายของเจ้ามากมายเหลือเกิน
เมื่ออรุณรุ่ง กษัตริย์แห่งอิสราเอล
    ก็จะถูกกำจัดโดยสิ้นเชิง

ความรักของพระผู้เป็นเจ้ามีต่ออิสราเอล

11 เมื่ออิสราเอลยังเป็นเด็ก เรารักเขามาก
    และเราเรียกบุตรของเราออกมาจากประเทศอียิปต์[f]
ยิ่งเขาถูกเรียกให้มา
    พวกเขายิ่งหนีห่างออกไป
พวกเขามอบเครื่องสักการะให้แก่บาอัล
    และเผาเครื่องบูชาให้แก่รูปเคารพทั้งหลาย
แต่ก็เป็นเรานั่นแหละที่สั่งสอนเอฟราอิมให้เดิน
    เราจูงมือจูงแขนของพวกเขา
แต่พวกเขาไม่ตระหนักใจเลยว่า
    เราได้รักษาพวกเขาให้หายขาด
เรานำพวกเขาไปด้วยสายใยของความเป็นมนุษย์
    ด้วยความผูกพันแห่งความรัก
และเราคลายแอกจากคอของพวกเขา
    และเราก้มลงให้อาหารแก่พวกเขา

พวกเขาจะไม่กลับไปยังแผ่นดินอียิปต์
    แต่อัสซีเรียจะเป็นกษัตริย์ของพวกเขา
    เพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะกลับมาหาเรา
ดาบจะห้ำหั่นเมืองต่างๆ
    และจะพังดาลประตูของพวกเขา
    และทำให้แผนการของพวกเขาพินาศ
ชนชาติของเราได้ตัดสินใจหันเหไปจากเรา
    และถ้าแม้ว่าพวกเขาจะร้องเรียกถึงองค์ผู้สูงสุด
    พระองค์ก็จะไม่ช่วยพวกเขาให้ลุกขึ้นมาได้อีก

โอ เอฟราอิมเอ๋ย เราจะไม่แยแสเจ้าได้อย่างไร
    โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะยกเจ้าให้ผู้อื่นได้อย่างไร
เราจะทำให้เจ้าเป็นอย่างอัดมาห์ได้อย่างไร
    เราจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเศโบยิมได้อย่างไร[g]
ส่วนลึกในใจของเราเปลี่ยนไป
    พร้อมกับความเมตตาของเราที่ถูกกระตุ้นขึ้น
เราจะไม่ปฏิบัติตามความกริ้วของเราที่คุขึ้น
    เราจะไม่ทำลายเอฟราอิมอีก
เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์
    เราเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ท่ามกลางเจ้า
    และเราจะไม่มาพร้อมกับการลงโทษ[h]

10 พวกเขาจะตามพระผู้เป็นเจ้าไป
    พระองค์จะคำรามเหมือนสิงห์
เมื่อพระองค์คำราม
    บรรดาลูกๆ ของพระองค์จะมาด้วยตัวสั่นเทาจากทิศตะวันตก
11 พวกเขาจะมาด้วยตัวสั่นเทาเหมือนนกจากอียิปต์
    และเหมือนนกพิราบจากแผ่นดินของอัสซีเรีย
และเราจะให้พวกเขากลับไปยังบ้านของพวกเขา”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
12 เอฟราอิมเต็มด้วยความเท็จ
    และพงศ์พันธุ์อิสราเอลมีแต่ความหลอกลวง
ยูดาห์ไม่ดำเนินในทางของพระเจ้า
    และไม่ภักดีต่อองค์ผู้บริสุทธิ์
12 เอฟราอิมไขว่คว้าลม
    เขาตามล่าลมทะเลทรายตลอดวัน
พวกเขาทวีความเท็จและความรุนแรง
    พวกเขาทำพันธสัญญากับอัสซีเรีย
    และส่งน้ำมันมะกอกไปให้อียิปต์

พระผู้เป็นเจ้ามีข้อกล่าวหาอิสราเอลและยูดาห์

พระผู้เป็นเจ้ามีข้อกล่าวหายูดาห์
    พระองค์จะลงโทษยาโคบตามวิถีทางของเขา
    พระองค์จะสนองตอบเขาตามการกระทำของเขา
เขาบีบส้นเท้าพี่ชายของเขาขณะยังอยู่ในครรภ์
    และได้สู้กับพระเจ้าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่[i]
เขาสู้กับทูตสวรรค์และได้ชัยชนะ
    เขาร้องไห้และอ้อนวอนท่าน
เขาพบกับพระเจ้าที่เบธเอล
    และพระเจ้ากล่าวกับพวกเราที่นั่น
พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา
    พระผู้เป็นเจ้าคือพระนามอันเลื่องลือของพระองค์
“แต่เจ้าต้องกลับไปหาพระเจ้าของเจ้า
    จงคงไว้ซึ่งความรักอันมั่นคงและความเป็นธรรม
    และรอพระเจ้าของเจ้าเสมอ”

พ่อค้าใช้ตาชั่งไม่เที่ยงตรง
    เขาชอบกดขี่ข่มเหง
เอฟราอิมได้พูดว่า “ฉันร่ำรวยมาก
    ฉันหาความมั่งมีให้กับตัวเองแล้ว
พวกเขาไม่อาจพบความชั่วหรือบาปในงานที่ฉันลงแรงทำทั้งสิ้น”

“เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
    ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์
เราจะให้เจ้าอาศัยอยู่ในกระโจมอีก
    เหมือนเมื่อครั้งที่มีเทศกาลที่กำหนดไว้
10 เรากล่าวกับบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
    เราให้พวกเขามีภาพนิมิตมากมาย
    และตั้งปริศนาหลายครั้งแก่บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า”

11 ถ้ามีความชั่วในกิเลอาด
    พวกเขาก็จะไร้ค่า
พวกเขาสักการะด้วยโคในกิลกาล
    แท่นบูชาของพวกเขาเป็นเหมือนกองหิน
    บนไร่ที่ไถคราดแล้ว
12 ยาโคบหลบหนีไปยังดินแดนอารัม[j]
    อิสราเอลทำงานรับใช้เพื่อจะได้ภรรยาจากที่นั่น
    และเขาเลี้ยงดูฝูงแกะเป็นค่าแรงงานสำหรับนาง
13 พระผู้เป็นเจ้าใช้ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งนำอิสราเอลขึ้นมาจากอียิปต์
    และพระองค์ให้ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าดูแลเขา
14 เอฟราอิมได้ยั่วโทสะพระองค์
    พระผู้เป็นเจ้าของเขาจะให้ความผิดของการหลั่งเลือดตกอยู่กับเขา
    และจะสนองตอบการกระทำอันอัปยศของเขา

พระผู้เป็นเจ้าลงโทษอิสราเอล

13 เวลาที่เอฟราอิมพูด คนอื่นตัวสั่นเทา
    เขาได้รับการยกย่องในอิสราเอล
    แต่เขามีความผิดที่กราบบูชาบาอัลและเขาก็สิ้นชีวิต
และบัดนี้พวกเขาทำบาปมากยิ่งขึ้น
    พวกเขาใช้เครื่องเงินหล่อรูปเคารพให้ตนเอง
ด้วยความชำนาญ
    ล้วนเป็นงานของช่างฝีมือ
มีการพูดถึงพวกเขาว่า
    “คนเหล่านั้นถวายมนุษย์เป็นเครื่องสักการะ
    และจูบรูปเคารพลูกโค”
ฉะนั้น พวกเขาจะเป็นเหมือนละอองน้ำในยามเช้า
    และเป็นเหมือนน้ำค้างยามเช้าตรู่ที่จางหายไป
เป็นเหมือนแกลบที่ปลิวว่อนไปจากลานนวดข้าว
    เป็นเหมือนควันที่ลอดออกไปทางหน้าต่าง

“แต่เราเป็นพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
    ซึ่งนำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์
เจ้าไม่ควรยอมรับพระเจ้าใดนอกจากเรา
    และนอกเหนือจากเราแล้ว
    ไม่มีผู้ใดช่วยให้รอดพ้นได้
เรานั่นแหละเป็นผู้ที่รู้จักเจ้าในถิ่นทุรกันดาร
    ในแผ่นดินอันแห้งผาก
แต่เมื่อพวกเขารับการเลี้ยงดูในทุ่งหญ้า พวกเขาก็อิ่ม
    พวกเขาได้รับจนอิ่มหนำแล้ว
ใจของพวกเขาก็หยิ่งผยองขึ้น
    แล้วก็ลืมเรา
ดังนั้น เราจะเข้าถึงตัวพวกเขาอย่างสิงห์
    เราจะคอยซุ่มที่ข้างทางอย่างเสือดาว
เราจะกระโจนใส่พวกเขาอย่างแม่หมีที่ลูกหมีถูกขโมย
    เราจะฉีกอกพวกเขา
เราจะเขมือบกินพวกเขาอย่างสิงห์
    เหมือนสัตว์ป่าที่ฉีกพวกเขาออกเป็นชิ้นๆ

โอ อิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะถูกทำลาย
    เพราะเจ้าไม่ยอมรับเรา
    ไม่ยอมรับผู้ที่จะช่วยเจ้า
10 บัดนี้กษัตริย์ของเจ้า
    ซึ่งจะช่วยเจ้าให้รอดพ้นในเมืองทั้งหลายของเจ้าอยู่ที่ไหน
    บรรดาผู้นำของเจ้าอยู่ที่ไหน
พวกที่เจ้าพูดถึงดังนี้ว่า
    ‘ให้ข้าพเจ้าได้มีกษัตริย์และผู้นำเถิด’
11 เรามอบกษัตริย์ผู้หนึ่งให้ด้วยความโกรธของเรา
    และเราพรากเขาไปด้วยการลงโทษของเรา
12 ความชั่วของเอฟราอิมถูกเก็บสะสม
    บาปของเขาถูกบันทึกเก็บไว้
13 ความเจ็บปวดเหมือนผู้หญิงในยามคลอดลูกจะเกิดขึ้นกับเขา
    แต่เขาเป็นบุตรชายที่ขาดสติปัญญา
เมื่อถึงกำหนดเวลาคลอด
    เขาไม่ปรากฏตัวที่จุดกำเนิด

14 เราควรจะไถ่พวกเขาคืนจากอำนาจของแดนคนตายหรือไม่
    เราควรจะไถ่พวกเขาให้กลับมาจากความตายหรือไม่
ความตายเอ๋ย ภัยพิบัติของเจ้าอยู่ที่ไหน
    แดนคนตายเอ๋ย เหล็กในของเจ้าอยู่ที่ไหน[k]
    ความเมตตาจะถูกซ่อนเร้นไปจากสายตาของเรา

15 แม้ว่าเขาจะรุ่งเรืองในหมู่พี่น้องของเขา
    ลมทะเลทรายซึ่งเป็นลมของพระผู้เป็นเจ้าจะพัดมา
    พัดจากถิ่นทุรกันดาร
และแหล่งน้ำของเขาจะแห้งเหือดลง
    บ่อน้ำพุของเขาจะแห้งระแหง
สิ่งมีค่าทั้งสิ้นจะถูกปล้นไปจาก
    แหล่งเก็บสมบัติของเขา
16 สะมาเรียจะแบกความผิดของพวกเขา
    เพราะพวกเขาได้ขัดขืนต่อพระเจ้า
และจะล้มตายด้วยดาบ
    ลูกน้อยของพวกเขาจะถูกทำร้ายอย่างเหี้ยมโหด
    และบรรดาผู้หญิงมีครรภ์ของพวกเขาจะถูกฟันที่ท้อง”

วิงวอนเพื่อขอกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า

14 โอ อิสราเอลเอ๋ย จงกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
    เพราะท่านได้สะดุดเนื่องจากความชั่วของท่าน
จงกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า
    พร้อมกับคำพูด
และพูดกับพระองค์ดังนี้ว่า
    “ขอพระองค์ยกโทษบาปทั้งสิ้นของพวกเรา
และกรุณายอมรับพวกเรา
    และเราทั้งหลายจะให้คำสัญญาด้วยปาก
อัสซีเรียจะไม่ช่วยพวกเราให้รอดพ้น
    เราทั้งหลายจะไม่ขี่ม้าศึก
และจะไม่พูดกับสิ่งที่เราทำขึ้นด้วยมือของพวกเราว่า
    ‘พระเจ้าของพวกเรา’ อีกต่อไป
    เพราะพระองค์มีเมตตาต่อเด็กกำพร้า”

“เราจะรักษาพวกเขาให้หายจากการขาดความเชื่อ
    เราจะรักพวกเขาอย่างไม่มีขอบเขต
    เพราะความโกรธของเราได้หันไปจากพวกเขาแล้ว
เราจะเป็นเหมือนหยดน้ำค้างให้แก่อิสราเอล
    เขาจะผลิดอกเหมือนดอกไม้ป่า
    เขาจะหยั่งรากเหมือนต้นไม้แห่งเลบานอน
รากของเขาจะแผ่ออกไป
    ความงามของเขาจะเป็นอย่างต้นมะกอก
    และส่งกลิ่นหอมเหมือนไม้ซีดาห์แห่งเลบานอน
พวกเขาจะกลับมาและอาศัยอยู่ในร่มเงาของเรา
    พวกเขาจะงอกงามเหมือนธัญพืช
พวกเขาจะผลิดอกเหมือนเถาองุ่น
    ความเลื่องลือของพวกเขาจะเป็นเหมือนเหล้าองุ่นแห่งเลบานอน
โอ เอฟราอิมเอ๋ย เราต้องทำอย่างไรกับพวกรูปเคารพอีก
    เรานั่นแหละที่ให้คำตอบและเฝ้าดูแลเขา
เราเป็นเหมือนต้นสนที่เขียวชอุ่ม
    ผลของเจ้ามาจากเรา”

ใครก็ตามที่มีสติปัญญา ก็ให้เขาเข้าใจสิ่งเหล่านี้
    ใครก็ตามที่หยั่งรู้ ก็ให้เขารู้เรื่องเหล่านี้
เพราะวิถีทางของพระผู้เป็นเจ้าถูกต้อง
    และบรรดาผู้มีความชอบธรรมดำเนินในทางนั้น
    แต่บรรดาผู้ที่ล่วงละเมิดกลับสะดุดในทางนั้น

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation