Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เอเสเคียล 43-45

พระบารมีปรากฏในพระตำหนัก

43 แล้วท่านนำข้าพเจ้าไปยังประตูที่หันไปทางทิศตะวันออก และข้าพเจ้าเห็นพระบารมีของพระเจ้าของอิสราเอลมาจากทิศตะวันออก และสุรเสียงของพระองค์ดังประดุจกระแสน้ำไหลแรงกล้า และแผ่นดินโลกสว่างไสวด้วยพระบารมีของพระองค์ ภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นเป็นเหมือนภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าเคยเห็นเมื่อพระองค์มาเพื่อทำลายเมือง และเหมือนภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าเคยเห็นที่ข้างแม่น้ำเคบาร์[a] และข้าพเจ้าซบหน้าลงกับพื้น ขณะที่พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าเข้าไปในพระตำหนักทางประตูที่หันไปทางทิศตะวันออก พระวิญญาณพาข้าพเจ้าขึ้นไป และพาข้าพเจ้าเข้าไปในลานพระตำหนัก ดูเถิด พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าปรากฏทั่วพระตำหนัก

ขณะที่ชายผู้นั้นยืนอยู่ข้างข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของผู้หนึ่งพูดกับข้าพเจ้า ซึ่งเป็นเสียงที่มาจากพระตำหนัก พระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย นี่เป็นสถานที่สำหรับบัลลังก์ของเรา และเป็นที่สำหรับใต้ฝ่าเท้าของเรา เป็นที่เราจะพำนักในท่ามกลางชาวอิสราเอลไปตลอดกาล พงศ์พันธุ์อิสราเอลและบรรดากษัตริย์ของพวกเขาจะไม่มีวันทำให้นามอันบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินด้วยการทำตนดั่งหญิงแพศยา และด้วยรูปเคารพของบรรดากษัตริย์ที่สถานบูชาบนภูเขาสูงอีก เมื่อพวกเขาวางธรณีประตูของพวกเขาที่ข้างธรณีประตูของเรา และตั้งวงกบประตูของพวกเขาที่ข้างวงกบประตูของเรา มีแต่เพียงผนังกั้นระหว่างเราและพวกเขา พวกเขาทำให้นามอันบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินด้วยการปฏิบัติอันน่ารังเกียจ เราจึงได้ทำลายพวกเขาด้วยความโกรธของเรา บัดนี้ จงให้พวกเขาเลิกทำตนเป็นหญิงแพศยาและด้วยรูปเคารพของบรรดากษัตริย์ และเราจะอยู่ในท่ามกลางพวกเขาไปตลอดกาล

10 บุตรมนุษย์เอ๋ย จงอธิบายเรื่องตำหนักแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล พวกเขาจะได้ละอายในบาปของตน เพื่อจะได้พิจารณาแผนผังตำหนัก 11 และพวกเขาจะละอายในทุกสิ่งที่ได้กระทำ จงบอกให้พวกเขารู้แบบของตำหนัก ให้พวกเขารับรู้ว่าควรจะสร้างอย่างไร ทางเข้าและทางออกอยู่ที่ไหน และรายละเอียดทุกอย่าง จงให้พวกเขารับรู้ข้อปฏิบัติและกฎบัญญัติทั้งสิ้น จงเขียนสิ่งเหล่านี้ให้พวกเขาเห็น เพื่อให้ทุกคนรักษาข้อปฏิบัติและกฎเกณฑ์ทั้งสิ้น และปฏิบัติตาม 12 กฎบัญญัติตำหนักคือ ที่รอบบริเวณบนยอดภูเขาจะบริสุทธิ์ที่สุด ดูเถิด นี่เป็นกฎบัญญัติตำหนัก

แท่นบูชา

13 การวัดขนาดแท่นบูชา (แต่ละศอกคำนวณได้เท่ากับ 1 ศอกกับ 1 ฝ่ามือ) ฐานแท่นลึก 1 ศอก และกว้าง 1 ศอก มีขอบรอบริมฐานกว้าง 1 คืบ นี่คือความสูงของแท่นบูชา 14 จากขอบที่อยู่บนพื้นถึงสันล่างสูง 2 ศอก กว้าง 1 ศอก และจากสันเล็กถึงสันใหญ่สูง 4 ศอก กว้าง 1 ศอก 15 ฐานพื้นเตาผิงที่แท่นบูชาสูง 4 ศอก ตอนบนมีเขาสัตว์เป็นเชิงงอน 4 เชิงงอน 16 ฐานพื้นเตาผิงเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวเท่ากันคือ 12 ศอก 17 สันตอนบนเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเช่นกัน กว้างยาวเท่ากันคือ 14 ศอก มีริมกว้างครึ่งศอกโดยรอบ และฐาน 1 ศอกโดยรอบ ขั้นบันไดของแท่นบูชาหันไปทางทิศตะวันออก”

18 และท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย นี่คือกฎเกณฑ์สำหรับแท่นบูชา ในวันที่สร้างแท่นบูชาเพื่อมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย และการสาดเลือดที่แท่น 19 เจ้าจงมอบโคหนุ่มจากฝูงเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปแก่บรรดาปุโรหิตซึ่งเป็นชาวเลวีจากเชื้อสายศาโดก พวกเขาเข้าใกล้เราเพื่อรับใช้เรา พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น 20 เจ้าจงใช้เลือดป้ายเชิงงอนทั้งสี่ของแท่นบูชา และมุมทั้งสี่ของสันตอนบน และริมโดยรอบ เมื่อทำดังนี้ เจ้าจะทำแท่นบูชาให้บริสุทธิ์ และลบล้างมลทินจากแท่น 21 เจ้าจงเอาโคสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปไปเผาในบริเวณที่กำหนดไว้ของตำหนัก ซึ่งอยู่นอกที่พำนัก 22 และในวันที่สอง เจ้าจงถวายแพะตัวผู้ปราศจากตำหนิเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และจะต้องทำแท่นบูชาให้บริสุทธิ์ อย่างที่ทำให้บริสุทธิ์จากการใช้โค 23 เมื่อเจ้าทำแท่นให้บริสุทธิ์แล้ว เจ้าจงถวายโคหนุ่มปราศจากตำหนิจากฝูงโคและแกะตัวผู้ปราศจากตำหนิ 24 เจ้าจงถวายสัตว์เหล่านั้น ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า และบรรดาปุโรหิตจะโรยเกลือบนสัตว์ และเผาสัตว์เพื่อเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า 25 เจ้าจงจัดเตรียมและถวายสิ่งเหล่านี้ทุกวันเป็นเวลา 7 วันคือ แพะตัวผู้เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป โคหนุ่มจากฝูงและแกะตัวผู้ปราศจากตำหนิจากฝูง 26 บรรดาปุโรหิตจะทำพิธีลบล้างมลทินให้กับแท่น และชำระล้างแท่นเป็นเวลา 7 วัน เพื่อทำให้แท่นบริสุทธิ์ 27 และหลังจากนั้น ตั้งแต่วันที่แปดเป็นต้นไป บรรดาปุโรหิตจะมอบสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายของเจ้า และของถวายเพื่อสามัคคีธรรมของเจ้า และเราจะพอใจในตัวเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น

ประตูสำหรับผู้ยิ่งใหญ่

44 แล้วท่านพาข้าพเจ้ากลับไปยังประตูด้านนอกของที่พำนัก ซึ่งหันไปทางทิศตะวันออก ประตูนั้นปิดอยู่ และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “ประตูนี้จะต้องปิดไว้ จะต้องไม่เปิด และไม่ให้ผู้ใดเข้ามาทางนี้ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลได้เข้ามาทางนี้ ฉะนั้นประตูนี้จะต้องปิดไว้ ผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นเป็นผู้นั่งที่ด้านในของประตูเพื่อรับประทานขนมปัง ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า เขาจะต้องเข้าทางมุขประตูที่ทางเข้า และจะออกไปทางเดียวกัน”

แล้วท่านพาข้าพเจ้าเข้าทางประตูด้านเหนือ ไปยังด้านหน้าพระตำหนัก ข้าพเจ้ามองดู และดูเถิด พระบารมีของพระผู้เป็นเจ้าปรากฏทั่วพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และข้าพเจ้าซบหน้าลงกับพื้น และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงใช้ตาของเจ้าสังเกตดูให้ดี และใช้หูฟัง จงใส่ใจในทุกสิ่งที่เราบอกกับเจ้าในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ของตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าและกฎบัญญัติทั้งสิ้น และจงใส่ใจให้ดีในเรื่องทางเข้าตำหนักและทางออกจากที่พำนักทุกแห่ง และจงบอกพงศ์พันธุ์ที่ขัดขืน คือพงศ์พันธุ์อิสราเอลว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘โอ พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย พอได้แล้วกับการกระทำที่น่าชังทั้งสิ้นของพวกเจ้า ด้วยการยอมให้ชาวต่างชาติ ซึ่งไม่ได้เข้าสุหนัตทางใจและทางร่างกายมาอยู่ในที่พำนักของเรา ไม่เคารพตำหนักของเราในขณะที่พวกเจ้าถวายอาหาร ไขมัน และเลือดให้แก่เรา พวกเจ้าไม่รักษาพันธสัญญาของเรา พวกเจ้ากระทำสิ่งเหล่านี้ซึ่งนอกเหนือไปจากการกระทำที่น่าชังทั้งสิ้น และแทนที่พวกเจ้าจะจัดการเรื่องสิ่งบริสุทธิ์ของเรา เจ้าได้ให้คนอื่นทำหน้าที่แทนในที่พำนักของเรา’”

พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ชาวต่างชาติที่ไม่ได้เข้าสุหนัตทางใจและทางร่างกายจะต้องไม่เข้ามาในที่พำนักของเรา แม้ว่ามีบางคนที่อยู่ท่ามกลางชาวอิสราเอลก็ตาม 10 แต่ว่าชาวเลวีห่างเหินไปจากเราเมื่ออิสราเอลหลงหายไปจากเราและไปเชื่อในรูปเคารพ พวกเขาจะต้องรับโทษเพราะบาปของตนเอง 11 และจะรับใช้ในที่พำนักของเรา ดูแลที่ประตูตำหนักและรับใช้ในตำหนัก พวกเขาจะฆ่าสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายและถวายเครื่องสักการะให้ประชาชน และจะยืนต่อหน้าประชาชนเป็นการรับใช้พวกเขา 12 แต่เป็นเพราะเขาเหล่านั้นรับใช้ประชาชนต่อหน้ารูปเคารพ และทำให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลสะดุดในความชั่ว ฉะนั้นเราได้ยกมือขึ้นปฏิญาณเกี่ยวกับพวกเขาว่า พวกเขาจะต้องรับโทษเพราะบาปของตนเอง” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 13 “พวกเขาจะต้องไม่เข้ามาใกล้เราเพื่อรับใช้เราอย่างปุโรหิต หรือมาใกล้สิ่งบริสุทธิ์ของเราหรือสิ่งที่บริสุทธิ์ที่สุด แต่พวกเขาจะต้องรับความอับอายกับการกระทำที่น่าชังของพวกเขาเอง 14 แต่เราจะให้พวกเขาจัดการดูแลวิหาร รับใช้ในทุกเรื่องที่จำเป็นจะต้องทำในนั้น

กฎสำหรับปุโรหิต

15 บรรดาปุโรหิตซึ่งเป็นชาวเลวีและเป็นผู้สืบเชื้อสายของศาโดก และจัดการดูแลที่พำนักของเราเมื่อประชาชนของอิสราเอลหลงหายไปจากเรา จะต้องมาใกล้เราเพื่อรับใช้เรา และพวกเขาจะมายืน ณ เบื้องหน้าเราเพื่อถวายไขมันและเลือด” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 16 “พวกเขาจะเข้ามาในที่พำนักของเรา และมาที่โต๊ะของเราเพื่อรับใช้เรา และจะปฏิบัติงานของเรา 17 เมื่อพวกเขาเข้าทางประตูลานตำหนัก พวกเขาจะต้องสวมเครื่องแต่งกายผ้าป่าน จะต้องไม่สวมสิ่งใดที่มีขนสัตว์ขณะที่รับใช้ที่ประตูลานตำหนักหรือในตำหนัก 18 และจะสวมผ้าป่านโพกศีรษะ และสวมเครื่องแต่งกายชั้นในผ้าป่าน จะต้องไม่สวมกายด้วยสิ่งใดที่ทำให้เหงื่อออก 19 และเมื่อออกไปยังลานชั้นนอกที่ประชาชนอยู่ พวกเขาจะถอดเครื่องแต่งกายที่สวมในการปฏิบัติงาน และวางไว้ในห้องบริสุทธิ์ และสวมเสื้อผ้าตัวอื่น มิฉะนั้นความบริสุทธิ์จากเครื่องแต่งกายจะไปติดที่ประชาชน 20 พวกเขาจะต้องไม่โกนศีรษะหรือปล่อยให้ผมยาว แต่จะต้องขลิบผมบนศีรษะ 21 ปุโรหิตจะต้องไม่ดื่มเหล้าองุ่นเมื่อเข้ามาในลานตำหนัก 22 จะไม่แต่งงานกับหญิงม่ายหรือหญิงที่หย่าร้างแล้ว แต่จะเป็นพรหมจารีที่เป็นเชื้อสายของพงศ์พันธุ์อิสราเอล หรือเป็นหญิงม่ายของปุโรหิตที่ได้เสียชีวิตแล้ว 23 พวกเขาจะสอนประชาชนของเราถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งบริสุทธิ์และสิ่งไม่บริสุทธิ์ และจงให้พวกเขารู้จักจำแนกแยกแยะระหว่างสิ่งสะอาดและสิ่งที่เป็นมลทิน 24 ในกรณีที่มีการโต้แย้ง พวกเขาจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินความ และตัดสินตามการตัดสินความของเรา จะรักษากฎบัญญัติและกฎเกณฑ์ในกฎเทศกาลทั้งสิ้นของเราที่กำหนดไว้ และจะต้องรักษาวันสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์ 25 เหล่าปุโรหิตจะต้องไม่ทำตัวให้เป็นมลทินด้วยการเข้าใกล้คนตาย อย่างไรก็ตาม ถ้าคนตายเป็นบิดา มารดา บุตรชาย บุตรหญิง พี่น้องผู้ชายหรือพี่น้องผู้หญิงที่เป็นโสด ก็ให้พวกเขาเป็นมลทินได้ 26 หลังจากที่เขาหายจากการเป็นมลทินแล้ว เขาจะต้องรออีก 7 วัน 27 และในวันที่เขาเข้าไปในสถานที่บริสุทธิ์ ในลานตำหนัก เพื่อรับใช้ในสถานที่บริสุทธิ์ เขาจะต้องถวายเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนั้น

28 “มรดกของพวกเขาคือ เราเป็นมรดกของพวกเขา และพวกเจ้าจะต้องไม่ให้สิ่งใดแก่พวกเขาเป็นเจ้าของในอิสราเอล เราเป็นมรดกของพวกเขา 29 พวกเขาจะรับประทานจากเครื่องธัญญบูชา เครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป และของถวายเพื่อไถ่โทษ ทุกสิ่งที่ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าในอิสราเอลจะเป็นของพวกเขาได้ 30 ผลแรกชนิดดีที่สุดจากสิ่งที่เก็บเกี่ยวได้ ของถวายทุกชนิดของพวกเจ้าจะเป็นของบรรดาปุโรหิต เจ้าจะต้องมอบแป้งรุ่นแรกแก่บรรดาปุโรหิต เพื่อครัวเรือนของเจ้าจะได้รับพร 31 บรรดาปุโรหิตจะต้องไม่รับประทานนกหรือสัตว์ที่ตายเองหรือถูกสัตว์ป่าขย้ำตาย

พื้นที่บริสุทธิ์

45 เมื่อพวกเจ้าได้รับส่วนแบ่งที่ดินเป็นมรดก เจ้าจงแบ่งส่วนหนึ่งถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ ได้ขนาดยาว 25,000 ศอก กว้าง 20,000 ศอก ทั่วพื้นที่จะเป็นที่บริสุทธิ์ จากที่ดินดังกล่าว จงใช้ส่วนหนึ่งขนาด 500 ศอกรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสำหรับสถานที่บริสุทธิ์ และมีบริเวณเปิดโล่งรอบๆ ขนาด 50 ศอกด้วย จากบริเวณที่วัดแล้วนี้ เจ้าจงวัดส่วนหนึ่งให้ได้ขนาดยาว 25,000 ศอก กว้าง 10,000 ศอก ซึ่งที่พำนักคืออภิสุทธิสถานจะอยู่ในที่ส่วนนี้ ส่วนนี้จะเป็นส่วนบริสุทธิ์ของแผ่นดิน สำหรับบรรดาปุโรหิต ซึ่งรับใช้ในที่พำนักและเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้าเพื่อรับใช้พระองค์ และจะเป็นที่สำหรับบ้านเรือนของพวกเขา และเป็นสถานที่บริสุทธิ์สำหรับที่พำนัก พื้นที่อีกส่วนมีขนาดยาว 25,000 ศอก กว้าง 10,000 ศอกจะเป็นของชาวเลวีซึ่งรับใช้ในตำหนัก เพื่อให้เขาเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้และอาศัยอยู่ในเมือง

พวกเจ้าจะต้องมอบที่ดินให้แก่เมืองนั้นให้ได้ขนาดกว้าง 5,000 ศอก ยาว 25,000 ศอก ซึ่งอยู่ชิดกับที่ซึ่งแบ่งให้เป็นพื้นที่บริสุทธิ์ ส่วนนี้จะเป็นของพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งปวง

ส่วนที่เป็นของผู้ยิ่งใหญ่

ผู้ยิ่งใหญ่จะมีที่ดินขนาบทั้งสองข้างของพื้นที่บริสุทธิ์กับส่วนที่เป็นของเมือง พื้นที่ด้านตะวันตกยื่นไปทางทิศตะวันตกและพื้นที่ด้านตะวันออกยื่นไปทางทิศตะวันออก ที่ปลายเขตพื้นที่ทั้งด้านเหนือและด้านใต้ของที่ดินทั้งสองผืนนี้ติดกับที่ดินของเผ่า ผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ในอิสราเอล และบรรดาผู้ยิ่งใหญ่จะไม่กดขี่ข่มเหงประชาชนของเราอีกต่อไป แต่จะยอมให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลเป็นเจ้าของที่ดินตามส่วนแบ่งของแต่ละเผ่า”

พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “โอ บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราเอลเอ๋ย จงกำจัดความรุนแรงและการกดขี่ข่มเหง และปฏิบัติด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม จงหยุดขับไล่ชนชาติของเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น

10 “พวกเจ้าจงใช้เครื่องวัดตวงที่เที่ยงตรง เอฟาห์ที่เที่ยงตรง[b] และบัทที่เที่ยงตรง[c] 11 ทั้งเอฟาห์และบัทต้องเป็นการวัดตวงที่เหมือนกัน คือบัทตวงได้หนึ่งในสิบโฮเมอร์ และเอฟาห์ตวงได้หนึ่งในสิบโฮเมอร์ โฮเมอร์ต้องเป็นมาตรฐานของการวัดตวง 12 น้ำหนัก 20 เก-ราห์เท่ากับ 1 เชเขล[d] 1 มินาหนักเท่ากับ 60 เชเขล

13 ของถวายที่พวกเจ้าจะมอบคือ ข้าวสาลีหนึ่งในหกเอฟาห์ต่อ 1 โฮเมอร์ และข้าวบาร์เลย์หนึ่งในหกเอฟาห์ต่อ 1 โฮเมอร์ 14 สัดส่วนน้ำมันที่กำหนดไว้ จงวัดเป็นบัท หนึ่งในสิบบัทต่อ 1 โคร์[e] (โคร์เหมือนเครื่องตวงโฮเมอร์คือมี 10 บัท) 15 และแกะ 1 ตัวต่อ 200 ตัวจากฝูงที่อยู่ในทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มของอิสราเอล สิ่งเหล่านี้จะใช้เป็นเครื่องธัญญบูชา สัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย และของถวายเพื่อสามัคคีธรรม เพื่อทำพิธีชดใช้บาปให้แก่ประชาชน” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 16 “ประชาชนทั้งปวงในแผ่นดินจำเป็นต้องมอบของถวายนี้แก่ผู้ยิ่งใหญ่ในอิสราเอล 17 ผู้ยิ่งใหญ่นี้มีหน้าที่จัดหาสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย เครื่องธัญญบูชา และเครื่องดื่มบูชาในงานเทศกาล ในวันข้างขึ้น และวันสะบาโต งานเทศกาลทั้งสิ้นที่กำหนดไว้ของพงศ์พันธุ์อิสราเอล เขาจะต้องจัดหาเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป เครื่องธัญญบูชา สัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย และของถวายเพื่อสามัคคีธรรม เพื่อทำพิธีชดใช้บาปให้แก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล”

18 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ในวันแรกของเดือนแรก เจ้าจงเอาโคหนุ่มปราศจากตำหนิจากฝูงมา เพื่อทำที่พำนักให้บริสุทธิ์ 19 ปุโรหิตจะเอาเลือดจากเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปป้ายวงกบประตูตำหนัก ป้ายทั้งสี่มุมของสันตอนบนของแท่นบูชา และเสาประตูของลานตำหนัก 20 และในวันที่เจ็ดของเดือนเดียวกัน เจ้าจงทำด้วยวิธีเดียวกันให้กับคนที่กระทำบาปโดยไม่ตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการ พวกเจ้าจงทำพิธีลบล้างมลทินให้กับตำหนัก

21 ในวันที่สิบสี่ของเดือนแรก เจ้าจงฉลองเทศกาลปัสกา และเจ้าจงรับประทานขนมปังไร้เชื้อในระยะ 7 วัน 22 ในวันนั้น ผู้ยิ่งใหญ่จะจัดหาโคหนุ่มเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปให้แก่ตนเองและให้แก่ประชาชนทั้งปวงในแผ่นดิน 23 และทุกวันในระหว่าง 7 วันของเทศกาล เขาจะต้องจัดหาโคและแกะตัวผู้ปราศจากตำหนิอย่างละ 7 ตัวเพื่อเป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า และแพะตัวผู้เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป 24 เขาจะต้องจัดหาเครื่องธัญญบูชาจำนวน 1 เอฟาห์ต่อโคหนุ่มแต่ละตัว และ 1 เอฟาห์ต่อแกะตัวผู้แต่ละตัว พร้อมกับน้ำมัน 1 ฮิน[f]ต่อ 1 เอฟาห์

25 ในวันที่สิบห้าของเดือนเจ็ด ตลอด 7 วันของเทศกาล เขาจะต้องจัดหาสิ่งเดียวกันสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป สัตว์ที่เผาเป็นของถวาย เครื่องธัญญบูชา และน้ำมัน”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation