Beginning
หุบเขาแห่งกระดูกแห้ง
37 มือของพระผู้เป็นเจ้าสถิตกับข้าพเจ้า และพระองค์นำข้าพเจ้าออกมาด้วยพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า และให้ข้าพเจ้ามาอยู่กลางหุบเขา ซึ่งเต็มไปด้วยกระดูกคนตาย 2 พระองค์นำข้าพเจ้าไปวนเวียนที่กองกระดูก ดูเถิด มีกระดูกมากมายบนหุบเขา กระดูกพวกนี้แห้งมาก 3 พระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย กระดูกเหล่านี้มีชีวิตหรือไม่” และข้าพเจ้าตอบว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์เท่านั้นที่ทราบ” 4 แล้วพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “จงเผยความให้แก่กระดูกเหล่านี้ บอกพวกเขาว่า โอ กระดูกแห้งเอ๋ย จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า 5 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวกับกระดูกเหล่านี้ว่า ดูเถิด เราจะทำให้ลมหายใจเข้าไปในตัวพวกเจ้า เพื่อพวกเจ้าจะได้มีชีวิต 6 และเราจะโยงเส้นเอ็นในตัวเจ้า และจะทำให้บังเกิดเลือดเนื้อบนตัวเจ้า และหุ้มเจ้าด้วยหนัง และใส่ลมหายใจในตัวพวกเจ้า เพื่อให้พวกเจ้ามีชีวิตขึ้นมา และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า”
7 ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเผยความตามที่ได้รับคำบัญชา และขณะที่ข้าพเจ้าเผยความ ก็เกิดมีเสียง ดูเถิด เป็นเสียงเขย่า และกระดูกก็ประกอบเข้าด้วยกัน กระดูกปะติดปะต่อกัน 8 และดูเถิด ข้าพเจ้ามองดู เห็นเส้นเอ็นบนกระดูก และกระดูกมีเลือดเนื้อที่หุ้มด้วยหนัง แต่ว่ากระดูกเหล่านั้นไม่มีลมหายใจ 9 แล้วพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “จงเผยความกับลมหายใจ บุตรมนุษย์เอ๋ย จงเผยความและพูดกับลมหายใจ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า โอ ลมหายใจเอ๋ย จงมาจากลมทั้งสี่ และระบายลมหายใจบนคนตายเหล่านี้ เพื่อให้พวกเขามีชีวิต” 10 ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงเผยความตามที่พระองค์บัญชาข้าพเจ้า และลมหายใจก็เข้าไปในตัวพวกเขา พวกเขาก็มีชีวิตและลุกขึ้นยืน เป็นกองทัพที่ใหญ่มาก
11 แล้วพระองค์กล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย กระดูกเหล่านี้คือพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด ดูเถิด พวกเขาพูดว่า ‘กระดูกของพวกเราแห้งหมด และเราสิ้นหวังหมดแล้ว พวกเราถูกตัดขาดจริงทีเดียว’ 12 ฉะนั้น จงเผยความและบอกพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะเปิดหลุมศพของพวกเจ้า และทำให้พวกเจ้าฟื้นขึ้นมาจากหลุม โอ ชนชาติของเราเอ๋ย เราจะนำพวกเจ้าเข้าไปยังแผ่นดินของอิสราเอล 13 และพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าเมื่อเราเปิดหลุมศพของพวกเจ้า และทำให้พวกเจ้าฟื้นขึ้นมาจากหลุม โอ ชนชาติของเราเอ๋ย 14 และเราจะใส่วิญญาณของเราไว้ในพวกเจ้า และพวกเจ้าจะมีชีวิต และเราจะให้พวกเจ้าไปอยู่ในแผ่นดินของตนเอง แล้วพวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้พูดและเราจะกระทำตามนั้น” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา พวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา
15 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า 16 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงเอาไม้มาอันหนึ่งและเขียนบนไม้ดังนี้ ‘เป็นของยูดาห์และทุกคนที่ชาวอิสราเอลมีสัมพันธไมตรีด้วย’ และเอาไม้อีกอันหนึ่งมาและเขียนบนไม้ว่า ‘ไม้ของเอฟราอิม ซึ่งเป็นของโยเซฟและพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งปวงที่มีสัมพันธไมตรีด้วย’ 17 และรวมไม้ทั้งสองเข้าด้วยกันให้เป็นอันเดียว เพื่อให้ไม้ทั้งสองเป็นหนึ่งเดียวกันในมือของเจ้า 18 และเมื่อชนร่วมชาติของเจ้าพูดกับเจ้าว่า ‘ท่านจะไม่บอกให้เราทราบหรือว่า ท่านหมายถึงอะไร’ 19 เจ้าจงบอกพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ดูเถิด เรากำลังจะเอาไม้ของโยเซฟ (ซึ่งอยู่ในมือของเอฟราอิม) และของบรรดาเผ่าพันธุ์อิสราเอลที่มีสัมพันธไมตรีด้วย และเราจะรวมไม้ของยูดาห์เข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เป็นไม้อันเดียว เพื่อพวกเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันในมือของเรา 20 เมื่อพวกเขาเห็นไม้ทั้งสองที่เจ้าเขียนอยู่ในมือของเจ้า 21 จงพูดกับพวกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ดูเถิด เราจะนำชาวอิสราเอลออกมาจากบรรดาประชาชาติที่พวกเขาไปอยู่ด้วย และเราจะรวบรวมพวกเข้ามาจากทุกแห่งหน เพื่อนำให้ไปอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเอง 22 และเราจะทำให้พวกเขาเป็นประชาชาติเดียวในแผ่นดิน บนภูเขาของอิสราเอล และกษัตริย์ผู้เดียวเท่านั้นที่จะเป็นกษัตริย์ปกครองทุกคน และพวกเขาจะไม่เป็นสองประชาชาติอีกต่อไป และจะไม่ถูกแบ่งออกเป็นสองอาณาจักรอีกต่อไป 23 พวกเขาจะไม่ทำตนให้เป็นมลทินเพราะรูปเคารพและสิ่งอันน่าชัง หรือเพราะการล่วงละเมิดอีก แต่เราจะช่วยพวกเขาให้หลุดพ้นจากบาปซึ่งเป็นเหตุให้สิ้นความเชื่อ เราจะชำระล้างพวกเขา และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
24 ดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นกษัตริย์ปกครองพวกเขา และทุกคนจะมีผู้เลี้ยงดูฝูงแกะคนเดียว พวกเขาจะดำเนินชีวิตตามคำบัญชาของเรา และระมัดระวังที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของเรา 25 พวกเขาจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เรามอบให้ยาโคบผู้รับใช้ของเรา ซึ่งบรรพบุรุษของพวกเจ้าอาศัยอยู่ ทั้งพวกเขาและบุตรหลานต่อๆ กันไปจะอาศัยอยู่ที่นั่นไปตลอดกาล และดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาไปตลอดกาล[a] 26 เราจะทำพันธสัญญาแห่งสันติกับพวกเขา ซึ่งจะเป็นพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์กับพวกเขา และเราจะให้พวกเขามีความมั่นคงอยู่ในแผ่นดินและทวีจำนวนคนขึ้น และเราจะให้ที่พำนักของเราอยู่ท่ามกลางพวกเขาตลอดไป 27 กระโจมที่พำนักของเราอยู่กับพวกเขา และเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นชนชาติของเรา[b] 28 แล้วบรรดาประชาชาติจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า ผู้ชำระอิสราเอลให้บริสุทธิ์ เมื่อที่พำนักของเราอยู่ท่ามกลางพวกเขาตลอดกาล”
เผยความกล่าวโทษโกก
38 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงหันหน้าสู่โกกในแผ่นดินมาโกก หัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของเมเชคและทูบัล และเผยความกล่าวโทษเขา 3 และจงพูดว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘ดูเถิด โกกเอ๋ย เราต่อต้านเจ้า เจ้าเป็นหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของเมเชคและทูบัล 4 เราจะทำให้เจ้าหันกลับไปและใช้เบ็ดเกี่ยวขากรรไกรของเจ้า และเราจะลากเจ้าออกมา พร้อมด้วยกองทัพของเจ้าทั้งหมด ม้าและทหารม้าพร้อมอาวุธ ประชาชนจำนวนมากต่างถือโล่ ดั้ง และใช้ดาบ 5 เปอร์เซีย คูช และพูตจะอยู่ด้วยกับพวกเขา ทุกคนมีโล่และหมวกเหล็ก 6 โกเมอร์และกองทหารของเขาทั้งหมด และเบธโทการ์มาห์จากเหนือสุดพร้อมด้วยกองทหารทั้งหมด ชนชาติจำนวนมากอยู่กับเจ้า
7 จงเตรียมพร้อม จงพร้อมอยู่เสมอ เจ้าและประชาชนของเจ้าทั้งหมดที่มารวมกันอยู่รอบข้างเจ้า จงเฝ้าระวังเพื่อพวกเขา 8 ระยะหนึ่งหลังจากนั้นเจ้าจะถูกเรียกตัว หลายปีต่อมาเจ้าจะบุกแผ่นดินแห่งหนึ่งซึ่งได้รับการฟื้นฟูจากสงคราม ประชาชนในแผ่นดินนั้นถูกรวบรวมมาจากหลายชนชาติและนำกลับมาสู่ภูเขาของอิสราเอล ซึ่งถูกทิ้งให้ร้างเป็นเวลานาน พวกเขาถูกนำมาจากบรรดาชนชาติ และบัดนี้ทุกคนก็อาศัยอยู่อย่างปลอดภัย 9 เจ้าจะรุกไปข้างหน้าอย่างพายุ เจ้าจะเป็นดั่งก้อนเมฆที่เคลือบคลุมแผ่นดิน เจ้าและกองทหารของเจ้าทั้งหมด ชนชาติจำนวนมากอยู่กับเจ้า’”
10 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ในวันนั้นจะมีความคิดผุดขึ้นในใจของเจ้าและเจ้าจะวางแผนการชั่วร้าย 11 และเจ้าจะพูดว่า ‘เราจะขึ้นไปต่อสู้กับแผ่นดินที่หมู่บ้านต่างๆ ที่ไม่มีกำแพงขวางกั้น เราจะโจมตีประชาชนที่มีสันติซึ่งอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย พวกเขาทุกคนอาศัยอยู่โดยไม่ต้องมีกำแพง ไม่มีประตูและดาล 12 เราจะปล้นและริบของไป และจะโจมตีที่อยู่อาศัยของผู้คนซึ่งเมื่อก่อนเคยเป็นที่ร้าง โจมตีชนชาติที่ถูกรวบรวมมาจากบรรดาประชาชาติ และบัดนี้พวกเขามีฝูงสัตว์และสินค้า และอยู่อาศัยในแหล่งซึ่งเป็นศูนย์กลางของแผ่นดินโลก’ 13 เช-บา เดดาน บรรดาพ่อค้าแห่งทาร์ชิช และบรรดาผู้นำทั้งปวงจะพูดกับเจ้าว่า ‘ท่านมาเพื่อปล้นของหรือ ท่านได้ให้ผู้คนของท่านเตรียมริบของไป ขนเงินและทอง และต้อนฝูงสัตว์และขนสินค้า เป็นการยึดของที่ปล้นมาอย่างนั้นหรือ’”
14 ฉะนั้น บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงเผยความและบอกโกกว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ “ในวันนั้น เมื่ออิสราเอลชนชาติของเราอยู่อาศัยอย่างปลอดภัย เจ้าจะไม่รู้หรือ 15 เจ้าจะมาจากที่ของเจ้า ซึ่งอยู่ไกลสุดทางทิศเหนือ เจ้าจะมากับบรรดาชนชาติจำนวนมาก ทุกคนขี่ม้ามา ประชาชนกลุ่มใหญ่ กองทัพซึ่งเก่งกล้า 16 เจ้าจะมาโจมตีอิสราเอลชนชาติของเรา ดั่งก้อนเมฆที่เคลือบคลุมแผ่นดิน ในวาระที่จะถึง เราจะนำเจ้ามาโจมตีแผ่นดินของเรา โอ โกกเอ๋ย บรรดาประชาชาติจะรู้จักเรา เมื่อเราแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเราบริสุทธิ์ต่อหน้าพวกเขาโดยผ่านตัวเจ้า”
17 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “เจ้ามิใช่หรือที่เราพูดถึงในสมัยก่อนโดยผ่านผู้รับใช้ของเรา คือบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าที่อยู่ในอิสราเอลในเวลานั้นได้เผยความเป็นเวลาหลายปีว่า เราจะนำเจ้ามาโจมตีพวกเขา 18 แต่ในวันนั้น วันที่โกกจะมาโจมตีแผ่นดินอิสราเอล” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนี้ว่า “การลงโทษของเราพลุ่งขึ้นในความโกรธของเรา 19 เพราะความหวงแหนของเราและความกริ้วที่ลุกเป็นไฟของเรา เราประกาศว่า ในวันนั้นจะมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแผ่นดินของอิสราเอล 20 หมู่ปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ สัตว์ในทุ่งนา สัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนพื้นดิน และทุกคนบนแผ่นดินโลกจะครั่นคร้าม ณ เบื้องหน้าเรา ภูเขาจะถล่มลง หน้าผาจะพังลง และกำแพงทุกแห่งจะพังทลายบนพื้นดิน 21 เราจะให้มีการปะทะกับโกกบนภูเขาของเราทุกลูก ดาบของผู้ชายทุกคนจะต่อสู้ฆ่าฟันกันและกัน” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 22 “เราจะลงโทษเขาด้วยโรคระบาดและการหลั่งเลือด เราจะหลั่งฝนให้เกิดกระแสน้ำ พายุลูกเห็บ กำมะถันและไฟลงบนตัวเขาและกองทหารของเขา และบนบรรดาชนชาติจำนวนมากที่อยู่กับเขา 23 ดังนั้น เราจะแสดงความยิ่งใหญ่และความบริสุทธิ์ของเรา และให้เป็นที่รู้จักในสายตาของประชาชาติจำนวนมาก แล้วพวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
39 บุตรมนุษย์เอ๋ย เจ้าจงเผยความกล่าวโทษโกก และจงพูดว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า ‘ดูเถิด โกกเอ๋ย เจ้าเป็นหัวหน้าผู้ยิ่งใหญ่ของเมเชคและทูบัล 2 และเราจะทำให้เจ้าหันกลับไปและลากเจ้าไปข้างหน้าด้วย และเราจะนำเจ้าขึ้นไปจากที่ไกลสุดทางทิศเหนือ และส่งเจ้าไปโจมตีภูเขาของอิสราเอล 3 แล้วเราจะกระทบคันธนูออกจากมือซ้ายของเจ้า และทำให้ลูกธนูหลุดจากมือขวาของเจ้า 4 เจ้าจะตกจากภูเขาของอิสราเอล ทั้งตัวเจ้า กองทหารของเจ้า และบรรดาชนชาติที่อยู่กับเจ้า เราจะให้เจ้าเป็นเหยื่อของนกจำพวกกินซากศพทุกชนิด และให้แก่สัตว์ป่าขย้ำกิน 5 เจ้าจะล้มลงในทุ่งโล่ง เพราะเราได้พูดแล้ว’” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 6 “เราจะให้ไฟเผามาโกกและเผาบรรดาผู้ที่อยู่อาศัยอย่างปลอดภัยที่หมู่เกาะ และพวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า
7 เราจะให้นามอันบริสุทธิ์ของเราเป็นที่รู้จักในท่ามกลางอิสราเอลชนชาติของเรา และเราจะไม่ยอมให้นามอันบริสุทธิ์ของเราถูกดูหมิ่นอีกต่อไป และบรรดาประชาชาติจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า ผู้บริสุทธิ์ในอิสราเอล 8 ดูเถิด มันกำลังจะมาถึง และกำลังจะเกิดขึ้น” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น “วันนี้เป็นวันที่เราได้พูดแล้ว
9 แล้วบรรดาผู้อยู่อาศัยในเมืองต่างๆ ของอิสราเอลจะออกไปและใช้อาวุธเป็นเชื้อเพลิงและเผาให้หมด โล่และดั้ง คันธนูและลูกธนู หอกและหลาว พวกเขาจะใช้อาวุธเหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงนานถึง 7 ปี 10 พวกเขาไม่จำเป็นต้องเก็บฟืนจากทุ่งนาหรือตัดไม้ป่า เพราะพวกเขาจะใช้อาวุธเป็นเชื้อเพลิง และพวกเขาจะปล้นระดมบรรดาผู้ที่ปล้นระดมพวกเขา และริบข้าวของจากบรรดาผู้ที่ริบไปจากพวกเขา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
11 “ในวันนั้น เราจะให้สุสานแก่โกกในอิสราเอล ในหุบเขาของนักเดินทาง ไปทางทิศตะวันออกของทะเล สุสานนั้นจะขวางกั้นทางของนักเดินทาง เพราะโกกและกองทหารของเขาจะถูกฝังอยู่ที่นั่น ดังนั้นที่นั่นจะชื่อว่า ฮาโมนโกก[c] 12 พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะฝังพวกเขาเป็นเวลานานถึง 7 เดือน เพื่อชำระแผ่นดิน 13 ประชาชนทั้งปวงของแผ่นดินจะฝังพวกเขา และพวกเขาจะระลึกถึงวันนั้นว่า เป็นวันที่เราแสดงบารมีของเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 14 “พวกเขาจะกำหนดให้คนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปตรวจตราทั่วแผ่นดิน และฝังศพที่ยังถูกปล่อยทิ้งไว้ เพื่อชำระแผ่นดินให้สะอาด และปฏิบัติต่อไปเช่นนี้เป็นเวลา 7 เดือน 15 ขณะที่คนกลุ่มนี้ตรวจตราแผ่นดินให้ทั่ว เขาจะต้องปักเครื่องหมายที่ข้างกระดูกมนุษย์ที่พบ เพื่อให้ผู้ฝังจัดการฝังกระดูกในหุบเขาแห่งฮาโมนโกก 16 (ฮาโมนนาห์ เป็นชื่อเมืองที่นั่นด้วย) พวกเขาจะชำระแผ่นดินให้สะอาดดังกล่าว
17 และตัวเจ้าเอง บุตรมนุษย์เอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวว่า จงร้องบอกนกทุกชนิดและสัตว์ป่าทั้งหมดว่า ‘จงมารวมกัน และมาอย่างพร้อมเพรียงกันจากรอบด้าน เพื่อฉลองเครื่องสักการะที่เราเตรียมให้พวกเจ้าแล้ว เป็นเครื่องสักการะครั้งยิ่งใหญ่บนภูเขาของอิสราเอล พวกเจ้าจะกินเนื้อและดื่มเลือด 18 พวกเจ้าจะกินเนื้อของพวกทหารกล้า และดื่มเลือดของบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินโลก เลือดแกะตัวผู้ ลูกแกะตัวผู้ แพะตัวผู้ โคหนุ่ม ทุกตัวล้วนเป็นสัตว์อ้วนพีของบาชาน 19 พวกเจ้าจะกินไขมันจนกระทั่งอิ่มหนำ และจะดื่มเลือดจนกระทั่งเมา ที่งานฉลองเครื่องสักการะซึ่งเรากำลังเตรียมให้พวกเจ้า 20 พวกเจ้าจะอิ่มหนำด้วยม้าและสารถี ทหารกล้าและนักรบหลายประเภทที่โต๊ะของเรา’ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
21 และเราจะให้บารมีของเราเป็นที่ประจักษ์แก่บรรดาประชาชาติ และประชาชาติทั้งปวงจะเห็นการตัดสินโทษของเราที่เราได้กระทำ และมือของเราที่ได้กระหน่ำลงบนพวกเขา 22 พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป 23 และบรรดาประชาชาติจะรู้ว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลถูกจับไปเป็นเชลยก็เพราะความชั่วของพวกเขา เพราะไม่ภักดีต่อเรา เราจึงซ่อนหน้าไปจากพวกเขา และมอบไว้ในมือของเหล่าศัตรู และทุกคนล้มตายด้วยคมดาบ 24 เรากระทำต่อพวกเขาตามความไม่บริสุทธิ์และการล่วงละเมิดของพวกเขา และเราซ่อนหน้าไปจากพวกเขา”
พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่จะให้อิสราเอลคืนสู่สภาพเดิม
25 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “บัดนี้เราจะให้ความอุดมสมบูรณ์ของยาโคบคืนสู่สภาพเดิม และมีเมตตาต่อพงศ์พันธุ์อิสราเอลทุกคน และเราหวงแหนนามอันบริสุทธิ์ของเรา 26 พวกเขาจะลืมความละอายและความไม่ภักดีทั้งสิ้นที่ได้แสดงต่อเรา เมื่อพวกเขาอยู่อาศัยอย่างปลอดภัยในแผ่นดินที่ไม่มีใครทำให้หวาดกลัว 27 เมื่อเราได้นำพวกเขากลับมาจากบรรดาชนชาติ และได้รวบรวมพวกเขาจากดินแดนของเหล่าศัตรู เราจะแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของเราต่อหน้าประชาชาติจำนวนมากโดยผ่านพวกเขา 28 แล้วพวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขา เพราะถึงแม้ว่า เราส่งพวกเขาออกไปเป็นเชลยในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ เราก็จะรวบรวมพวกเขาเพื่อกลับไปยังแผ่นดินของพวกเขาเอง โดยไม่มีผู้ใดถูกปล่อยทิ้งไว้ 29 เราจะไม่ซ่อนหน้าไปจากพวกเขาอีกต่อไป เพราะเราจะหลั่งวิญญาณของเราบนพงศ์พันธุ์อิสราเอล” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation