Beginning
การเตือนไม่ให้ไปอียิปต์
42 ครั้นแล้วบรรดาผู้บัญชาการทั้งปวง โยฮานานบุตรคาเรอัค เยซานิยาห์บุตรโฮชายาห์ และประชาชนทั้งปวงตั้งแต่ผู้ด้อยสุดจนถึงผู้มีอำนาจมากที่สุด ก็มาหาเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า 2 และพูดดังนี้ว่า “พวกเราอ้อนวอนขอความเมตตาจากท่าน ขอท่านโปรดอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้พวกเราเถิด เพื่อผู้คนทั้งหมดที่มีชีวิตเหลืออยู่นี้ เนื่องจากพวกเรามีชีวิตเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน อย่างที่ท่านก็เห็น 3 เพื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะได้ชี้ให้พวกเราเห็นว่า เราควรจะไปทางไหนและควรจะทำสิ่งใด” 4 เยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าตอบพวกเขาว่า “เราได้ยินคำขอของพวกท่าน ดูเถิด ข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ตามคำขอของท่าน และอะไรก็ตามที่พระผู้เป็นเจ้าตอบท่าน ข้าพเจ้าก็จะบอกพวกท่าน เราจะไม่นิ่งเฉย” 5 พวกเขาพูดกับเยเรมีย์ดังนี้ว่า “ถ้าหากว่าพวกเราไม่กระทำตามทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสั่งให้ท่านมาแจ้งแก่พวกเรา ขอพระผู้เป็นเจ้าเป็นพยานที่แท้จริงและสัตย์จริงที่ไม่มีใครฝ่าฝืนได้ 6 ไม่ว่าจะเป็นการดีหรือร้าย พวกเราจะเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา พวกเราให้ท่านไปหาพระองค์ เพื่อทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีกับพวกเราเมื่อเราเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา”
7 หลังจาก 10 วันผ่านไป พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ 8 และท่านเรียกประชุมกับโยฮานานบุตรคาเรอัค และบรรดาผู้บัญชาการที่อยู่กับเขา และประชาชนทั้งปวงตั้งแต่ผู้ด้อยสุดจนถึงผู้มีอำนาจมากที่สุด 9 และท่านพูดกับเขาทั้งหลายว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล ผู้ที่ท่านให้ข้าพเจ้าไปเป็นตัวแทนเพื่อขอร้องขอความเมตตากล่าวดังนี้ 10 ‘ถ้าพวกเจ้าอยู่บนแผ่นดินนี้ต่อไป เราก็จะช่วยเสริมสร้างพวกเจ้าขึ้น เราจะไม่โค่นพวกเจ้าลง เราจะปลูกสร้างพวกเจ้า และจะไม่ถอนรากถอนโคน เราเสียใจที่เราให้ความวิบัติเกิดขึ้นกับพวกเจ้า 11 ไม่ต้องกลัวกษัตริย์แห่งบาบิโลนที่พวกเจ้ากลัว พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ไม่ต้องกลัวเขาเพราะเราอยู่กับพวกเจ้า เพื่อช่วยพวกเจ้าให้ปลอดภัย และช่วยให้รอดจากมือของเขา 12 เราจะให้ความเมตตาแก่เจ้า โดยที่เขาจะมีเมตตาต่อเจ้า และปล่อยให้เจ้าอยู่ในแผ่นดินของเจ้าเองต่อไป’ 13 แต่ถ้าพวกท่านพูดว่า ‘พวกเราจะไม่อยู่ในแผ่นดินนี้’ และไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน 14 และถ้าท่านพูดว่า ‘ไม่ พวกเราจะไปอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ เพื่อเราจะไม่ต้องเผชิญกับสงคราม หรือได้ยินสัญญาณแตรงอน หรืออดอยากอาหาร พวกเราจะไปอาศัยอยู่ที่นั่น’ 15 ท่านก็จงฟังคำของพระผู้เป็นเจ้าเถิด โอ ผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยูดาห์เอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ ‘ถ้าพวกเจ้าตั้งหน้าจะไปยังอียิปต์และเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น 16 สงครามที่เจ้ากลัวก็จะตามเจ้าไปที่นั่น ที่แผ่นดินอียิปต์ และความอดอยากที่เจ้ากลัวจะตามหลังพวกเจ้าไปที่อียิปต์อย่างใกล้ชิด และพวกเจ้าจะตายที่นั่น 17 ทุกคนที่ตั้งหน้าไปอียิปต์และเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่นจะตายเพราะสงคราม ความอดอยาก และโรคระบาด จะไม่มีใครเหลืออยู่หรือพ้นจากความวิบัติที่เราจะให้เกิดขึ้นกับพวกเขาได้’
18 เพราะพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ ‘ความกริ้วและการลงโทษของเราที่มีต่อบรรดาผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มเป็นเช่นไร การลงโทษของเราก็จะมีต่อพวกเจ้าเช่นนั้นเมื่อเจ้าไปยังอียิปต์ พวกเจ้าจะเป็นสิ่งที่คนสาปแช่ง เป็นที่น่าหวาดกลัว เป็นคำสาปแช่ง และเป็นที่หัวเราะเยาะ พวกเจ้าจะไม่เห็นที่นี่อีก’ 19 โอ ผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยูดาห์เอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวแก่พวกท่านดังนี้ ‘อย่าไปที่อียิปต์’ ขอให้รับทราบอย่างแน่นอนว่า วันนี้ข้าพเจ้าได้เตือนพวกท่านล่วงหน้าแล้วว่า 20 พวกท่านได้หลงผิดขั้นถึงชีวิตของท่าน เพราะท่านให้ข้าพเจ้าไปหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน พวกท่านพูดว่า ‘โปรดอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราเพื่อพวกเรา และอะไรก็ตามที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรากล่าว ก็ช่วยแจ้งแก่พวกเรา และพวกเราจะกระทำตาม’ 21 และในวันนี้ ข้าพเจ้าได้แจ้งแก่พวกท่านแล้ว แต่พวกท่านไม่ได้เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านในเรื่องใดๆ ที่พระองค์ให้ข้าพเจ้ามาบอกท่าน 22 ฉะนั้น ท่านจงแน่ใจได้ว่า ท่านจะตายเพราะสงคราม ความอดอยาก และโรคระบาดในที่ซึ่งพวกท่านต้องการจะไปอาศัยอยู่”
เยเรมีย์ถูกพาไปยังอียิปต์
43 เมื่อเยเรมีย์พูดทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเขาให้ประชาชนทั้งปวงฟังจบแล้ว คือทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าสั่งให้ท่านแจ้งแก่พวกเขา 2 อาซาริยาห์บุตรโฮชายาห์ โยฮานานบุตรคาเรอัค รวมทั้งพวกผู้ชายใจยโสทุกคน ได้พูดกับเยเรมีย์ว่า “ท่านกำลังพูดเท็จ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราไม่ได้ส่งท่านให้มาพูดว่า ‘อย่าไปอาศัยอยู่ในอียิปต์’ 3 แต่บารุคบุตรเนริยาห์ได้กระตุ้นท่านให้ขัดกับพวกเรา เพื่อมอบเราไว้ในมือของชาวเคลเดีย พวกเขาจะได้ฆ่าพวกเรา หรือไม่ก็จับไปเป็นเชลยที่บาบิโลน” 4 ดังนั้น โยฮานานบุตรคาเรอัค บรรดาผู้บัญชาการ และประชาชนทั้งปวงไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า ด้วยการปฏิเสธที่จะอยู่ในยูดาห์ 5 โยฮานานบุตรคาเรอัคและบรรดาผู้บัญชาการจึงพาผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยูดาห์ทั้งหมดไปยังอียิปต์ ซึ่งพวกเขาเคยถูกขับไล่ไปยังประชาชาติทั้งปวงก่อนหน้านี้ และได้กลับมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินยูดาห์ 6 ทั้งพวกผู้ชาย ผู้หญิง เด็กๆ บรรดาธิดาของกษัตริย์ และทุกๆ คนที่เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารคุ้มกันปล่อยให้อยู่กับเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามผู้เป็นบุตรของชาฟาน รวมทั้งเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า และบารุคบุตรเนริยาห์ 7 และพวกเขาทุกคนก็มาถึงทาปานเหสในแผ่นดินอียิปต์ เพราะไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า
8 และพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ที่ทาปานเหสดังนี้ 9 “จงหยิบก้อนหินขนาดใหญ่ไปซ่อนในปูนสอที่ถนนทางเข้าไปวังของฟาโรห์ในทาปานเหส และทำให้คนยูดาห์เห็น 10 และจงพูดกับพวกเขาว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า ดูเถิด เราจะนำเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนผู้รับใช้ของเรามา และเราจะตั้งบัลลังก์ของเขาบนก้อนหินพวกนี้ที่เราได้ซ่อนไว้ และเขาจะแผ่ปะรำของเขาบนก้อนหิน 11 เขาจะมาโจมตีแผ่นดินอียิปต์ ผู้คนทั้งหลายที่ต้องตายด้วยโรคระบาดก็จะตายด้วยโรคระบาด ที่ต้องถูกจับเป็นเชลยก็จะถูกจับไปเป็นเชลย และที่ต้องตายจากการสู้รบก็จะตายจากการสู้รบ 12 เขาจะเผาวิหารของปวงเทพเจ้าของอียิปต์ และจะขนรูปเคารพไป เขาจะกวาดล้างแผ่นดินอียิปต์จนเกลี้ยง อย่างผู้เลี้ยงดูฝูงแกะกำจัดตัวหมัดออกจากเสื้อคลุมของเขา และเขาจะกลับไปด้วยความมีชัย 13 เขาจะพังเสาหินที่วิหารแห่งดวงอาทิตย์ ซึ่งอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ และเขาจะเผาวิหารทั้งหลายของปวงเทพเจ้า’”
การตัดสินลงโทษเรื่องรูปเคารพ
44 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์เรื่องชาวยูดาห์ทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ ที่มิกดล ทาปานเหส เมมฟิส และในแผ่นดินของปัทโรส 2 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ว่า “พวกเจ้าเห็นความพินาศที่เราทำให้เกิดขึ้นกับเยรูซาเล็มและเมืองต่างๆ ของยูดาห์ ดูเถิด ในวันนี้ เมืองเหล่านี้พังทลายและไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ 3 เพราะพวกเขาประพฤติชั่ว ยั่วโทสะเราด้วยการเผาเครื่องหอมและบูชาปวงเทพเจ้าซึ่งพวกเขาไม่รู้จัก แม้พวกเจ้าเองหรือบรรพบุรุษของพวกเจ้าก็ไม่รู้จัก 4 เราได้ให้บรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าซึ่งเป็นผู้รับใช้ของเราทุกคนมาพูดกับพวกเจ้าอย่างไม่หยุดยั้งว่า ‘โอ อย่ากระทำสิ่งที่น่ารังเกียจที่เราเกลียดชังเช่นนี้’ 5 แต่พวกเขาไม่ได้ฟังและไม่แม้แต่จะเงี่ยหูฟัง เพื่อหันจากความชั่วและไม่เผาเครื่องหอมแก่ปวงเทพเจ้า 6 ฉะนั้น การลงโทษและความกริ้วของเราจึงได้หลั่งออกและพลุ่งขึ้นต่อเมืองต่างๆ ของยูดาห์และที่ถนนในเยรูซาเล็ม จนพังทลายและกลายเป็นที่รกร้าง อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้” 7 และบัดนี้ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ว่า “ทำไมพวกเจ้าจึงกระทำความชั่วอันร้ายแรงเช่นนี้ให้แก่ตนเอง ด้วยการตัดขาดจากผู้ชายและผู้หญิง เด็กและทารก จากท่ามกลางยูดาห์ โดยไม่ให้มีผู้ใดมีชีวิตเหลืออยู่ไว้แก่เจ้าเลย 8 ทำไมพวกเจ้าจึงยั่วโทสะเราด้วยสิ่งที่พวกเจ้าทำขึ้นด้วยมือของเจ้าเอง เผาเครื่องหอมแก่ปวงเทพเจ้าในแผ่นดินอียิปต์ซึ่งเป็นที่พวกเจ้ามาอาศัยอยู่ พวกเจ้าจะถูกตัดขาดและกลายเป็นที่สาปแช่งและเป็นที่หัวเราะเยาะในท่ามกลางประชาชาติทั้งปวงของแผ่นดินโลก 9 พวกเจ้าลืมความชั่วของบรรพบุรุษของตนแล้วหรือ ความชั่วของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ ความชั่วของภรรยาของพวกเขา ความชั่วของพวกเจ้าเอง ความชั่วของภรรยาของพวกเจ้า ที่ได้กระทำในแผ่นดินของยูดาห์และที่ถนนในเยรูซาเล็ม 10 พวกเขาไม่ได้ถ่อมตนแม้กระทั่งในวันนี้ และไม่เกรงกลัวหรือดำเนินตามกฎบัญญัติและกฎเกณฑ์ของเราที่เรากำหนดไว้ให้เจ้าและบรรพบุรุษของพวกเจ้าปฏิบัติตาม”
11 ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ว่า “ดูเถิด เราตั้งใจจะให้เมืองนี้ประสบกับภัยอันตราย จะตัดขาดจากยูดาห์ทั้งหมด 12 เราจะจัดการกับผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยูดาห์ คือพวกที่ตั้งหน้าไปยังแผ่นดินอียิปต์และเข้าไปอาศัยอยู่ที่นั่น และพวกเขาทุกคนจะต้องตาย พวกเขาจะตายจากการสู้รบ และจะตายเพราะความอดอยากในแผ่นดินอียิปต์ นับตั้งแต่ผู้ด้อยสุดจนถึงผู้มีอำนาจมากที่สุด พวกเขาจะตายจากการสู้รบและความอดอยาก และพวกเขาจะเป็นสิ่งที่คนสาปแช่ง เป็นที่น่าหวาดกลัว เป็นคำสาปแช่ง และเป็นที่หัวเราะเยาะ 13 เราจะลงโทษบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ อย่างที่เราได้ลงโทษเยรูซาเล็ม ด้วยการสู้รบ ความอดอยาก และโรคระบาด 14 จนกระทั่งผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยูดาห์ที่มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์จะไม่มีชีวิตรอด หรือหลบหนี หรือกลับไปยังแผ่นดินยูดาห์ได้ พวกเขาอยากจะกลับไปอาศัยอยู่ที่ยูดาห์อีก แต่ก็จะกลับไปไม่ได้ ยกเว้นพวกลี้ภัยบางคนเท่านั้น”
15 ครั้นแล้ว ผู้ชายทุกคนที่ทราบว่าภรรยาของตนได้เผาเครื่องหอมแก่ปวงเทพเจ้า อีกทั้งผู้หญิงทุกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ รวมเป็นกลุ่มใหญ่ ประชาชนทั้งปวงที่อาศัยอยู่ที่ปัทโรสในแผ่นดินอียิปต์จึงตอบเยเรมีย์ดังนี้ว่า 16 “พวกเราจะไม่ฟังคำที่ท่านได้พูดกับเราในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า 17 แต่พวกเราจะทำทุกสิ่งตามที่ได้บอกแล้วว่าเราจะทำ จะเผาเครื่องหอมแก่ราชินีแห่งสวรรค์ จะรินเครื่องดื่มบูชาให้แก่นาง อย่างที่พวกเราและบรรพบุรุษของเรา บรรดากษัตริย์และผู้นำของเราเคยทำในเมืองต่างๆ ของยูดาห์ และที่ถนนในเยรูซาเล็ม เพราะในเวลานั้น พวกเรามีอาหารอย่างสมบูรณ์ เจริญรุ่งเรือง และไม่ได้ทุกข์ร้อนแต่อย่างใด 18 แต่นับจากเวลาที่พวกเราหยุดเผาเครื่องหอมแก่ราชินีแห่งสวรรค์ และหยุดรินเครื่องดื่มบูชาให้แก่นาง พวกเราขาดทุกสิ่ง และตายจากการสู้รบและความอดอยาก” 19 บรรดาผู้หญิงพูดว่า “เวลาที่พวกเราเผาเครื่องหอมและรินเครื่องดื่มบูชาให้แก่ราชินีแห่งสวรรค์ สามีของพวกเราไม่ทราบหรือว่า เราทำขนมเป็นรูปนางและรินเครื่องดื่มบูชาให้แก่นาง”
20 เยเรมีย์จึงพูดกับประชาชนทั้งปวงทั้งชายและหญิง กับประชาชนทุกคนที่ได้ตอบคำถามดังนี้ว่า 21 “พวกท่านและบรรพบุรุษของท่าน บรรดากษัตริย์และผู้นำของท่าน และประชาชนในแผ่นดินได้เผาเครื่องหอมในเมืองต่างๆ ของยูดาห์และที่ถนนในเยรูซาเล็มนั้น ท่านคิดว่า พระผู้เป็นเจ้าจำไม่ได้และไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นหรือ 22 พระผู้เป็นเจ้าทนต่อการกระทำอันชั่วร้ายและน่าชังที่พวกท่านปฏิบัติต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ฉะนั้นแผ่นดินของท่านจึงได้พังทลายและกลายเป็นที่รกร้าง เป็นที่น่าหวาดกลัวและเป็นคำสาปแช่ง ปราศจากผู้อยู่อาศัย อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 23 เป็นเพราะพวกท่านได้เผาเครื่องหอมและทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า และไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า และไม่ดำเนินชีวิตตามกฎบัญญัติ กฎเกณฑ์ และคำสั่งของพระองค์ ความวิบัตินี้จึงได้เกิดขึ้นกับพวกท่าน อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”
24 เยเรมีย์พูดกับประชาชนและผู้หญิงทั้งปวงว่า “คนของยูดาห์ทุกท่านที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์ 25 พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า ‘พวกเจ้าและภรรยาของเจ้าได้กระทำตามที่ท่านเปิดปากประกาศ เมื่อเจ้าพูดว่า “พวกเราจะกระทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ คือเผาเครื่องหอมแก่ราชินีแห่งสวรรค์ และรินเครื่องดื่มบูชาแก่นาง” ฉะนั้นเจ้าก็จงรักษาและทำตามสัญญาของเจ้า’ 26 ฉะนั้น คนของยูดาห์ทุกท่านที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์จงฟังคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ ‘ดูเถิด เราได้ปฏิญาณด้วยนามอันยิ่งใหญ่ของเราว่า เราจะไม่ให้ชาวยูดาห์ผู้ใดทั่วทั้งแผ่นดินอียิปต์กล่าวใช้ชื่อของเราอีกว่า “ตราบที่พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่มีชีวิตอยู่ฉันใด” 27 ดูเถิด เรากำลังดูว่า พวกเขาจะประสบกับภัยอันตราย ไม่ใช่ความปลอดภัย คนของยูดาห์ทุกคนที่อยู่ในแผ่นดินอียิปต์จะตายจากการสู้รบและความอดอยาก จนกว่าไม่มีพวกเจ้าสักคนเหลืออยู่ 28 และบรรดาผู้ที่หนีรอดจากการสู้รบจะกลับจากแผ่นดินอียิปต์ และไปยังแผ่นดินของยูดาห์มีจำนวนน้อยมาก และผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยูดาห์ที่มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์จะรู้ว่า คำกล่าวของผู้ใดจะเป็นจริง ของเราหรือของพวกเขา’ 29 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า ‘สิ่งที่จะพิสูจน์ให้พวกเจ้าเห็นก็คือ เราจะลงโทษพวกเจ้าในที่นี้ เพื่อให้พวกเจ้ารู้ว่า เราจะให้ความวิบัติเกิดขึ้นกับพวกเจ้าตามคำพูดของเราอย่างแน่นอน’ 30 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘ดูเถิด เราจะมอบฟาโรห์โฮฟรากษัตริย์แห่งอียิปต์[a]ไว้ในมือของศัตรูของเขา และในมือของพวกที่ต้องการจะฆ่าเขา อย่างที่เรามอบเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ไว้ในมือของเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนผู้เป็นศัตรูของเขาและต้องการจะฆ่าเขา’”
ข้อความถึงบารุค
45 ในปีที่สี่ของเยโฮยาคิมบุตรโยสิยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ หลังจากที่บารุคบุตรเนริยาห์ได้บันทึกในหนังสือม้วนตามคำพูดของเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าแล้ว เยเรมีย์บอกบารุคว่า 2 “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวกับท่านว่า บารุคเอ๋ย 3 เจ้าพูดว่า ‘วิบัติตกอยู่กับข้าพเจ้า เพราะนอกจากความเจ็บปวดแล้ว พระผู้เป็นเจ้ายังทำให้ข้าพเจ้าเศร้าใจอีก ข้าพเจ้าเหนื่อยล้าด้วยการคร่ำครวญ และไม่บรรเทาลงเลย’ 4 เจ้าจงไปบอกเขาว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ ‘ดูเถิด เราจะโค่นสิ่งที่เราได้สร้าง และเราจะถอนรากสิ่งที่เราได้ปลูก นั่นคือทั้งแผ่นดิน 5 และเจ้าคิดว่าเจ้าจะพิเศษกว่าคนอื่นๆ หรือ อย่าคิดเลยเพราะว่า ดูเถิด เรากำลังนำความวิบัติมาสู่ทุกชีวิต พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น แต่เราจะให้เจ้าเอาชีวิตหนีรอดไปได้ ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนก็ตาม’”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation