Beginning
เยเรมีย์อยู่ในบ่อเก็บน้ำ
38 เชฟาทิยาห์บุตรมัทธาน เก-ดาลิยาห์บุตรปาชเฮอร์ ยูคาลบุตรเชเลมิยาห์ และปาชเฮอร์บุตรมัลคิยาห์ทราบมาว่า เยเรมีย์กำลังพูดกับประชาชนทั้งปวงดังนี้ 2 “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘ผู้ที่อยู่ในเมืองนี้จะตายด้วยการต่อสู้ การอดอยาก และด้วยโรคระบาด แต่ผู้ที่ออกไปพบกับพวกชาวเคลเดียจะมีชีวิตคงอยู่ และจะเอาชีวิตหนีรอดไปได้ และมีชีวิตอยู่ 3 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า เมืองนี้จะถูกมอบไว้ในมือของกองทัพของกษัตริย์แห่งบาบิโลน และจะถูกยึดไป’” 4 บรรดาผู้นำพูดกับกษัตริย์ดังนี้ว่า “ฆ่าชายผู้นี้เถิด เพราะเขากำลังทำลายกำลังใจเหล่าทหารที่ยังเหลืออยู่ในเมืองนี้และประชาชนทั้งปวง ด้วยการพูดสิ่งเหล่านี้กับพวกเขา เพราะชายผู้นี้ไม่หวังดีต่อประชาชนเลย แต่กลับหวังร้ายต่อพวกเขา” 5 กษัตริย์เศเดคียาห์ตอบว่า “ดูเถิด เขาอยู่ใต้อำนาจของพวกท่าน กษัตริย์ไม่สามารถจะขัดขวางพวกท่านได้” 6 ดังนั้น พวกเขาจึงจับเยเรมีย์ไป และใช้เชือกหย่อนท่านลงในบ่อเก็บน้ำของมัลคิยาห์บุตรของกษัตริย์ บ่อนั้นอยู่ที่ลานทหารยาม เป็นบ่อน้ำแห้งซึ่งมีแต่โคลน เยเรมีย์จึงจมลงในโคลน
เยเรมีย์ขึ้นจากบ่อน้ำ
7 เมื่อเอเบดเมเลคขันทีชาวคูชผู้อยู่ในวังกษัตริย์ ทราบว่าเยเรมีย์ถูกบังคับให้อยู่ในบ่อน้ำ ขณะนั้นกษัตริย์กำลังนั่งอยู่ที่ประตูเบนยามิน 8 เอเบดเมเลคออกไปจากวังของกษัตริย์ และพูดกับกษัตริย์ว่า 9 “เจ้านายผู้เป็นกษัตริย์ ชายเหล่านี้ได้ทำสิ่งชั่วร้ายต่อเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าในทุกเรื่อง เขาให้เยเรมีย์ลงไปอยู่ในบ่อเก็บน้ำ ท่านจะต้องหิวตายที่นั่น เพราะไม่มีอาหารเหลืออยู่ในเมืองแล้ว” 10 กษัตริย์จึงสั่งเอเบดเมเลคชาวคูชว่า “พาชาย 30 คนจากที่นี่ไปกับเจ้า และช่วยดึงเยเรมีย์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าออกจากบ่อเก็บน้ำก่อนที่เขาจะตาย” 11 ดังนั้น เอเบดเมเลคจึงพาพวกผู้ชายไปยังวังของกษัตริย์กับเขา เขาเอาเศษผ้าและเสื้อเก่าจากห้องใต้คลัง พร้อมกับหย่อนเชือกลงในบ่อเก็บน้ำให้เยเรมีย์ 12 เอเบดเมเลคชาวคูชบอกเยเรมีย์ว่า “ใช้เศษผ้าหนุนระหว่างใต้รักแร้กับเชือก” เยเรมีย์ก็ทำตาม 13 แล้วพวกเขาก็ใช้เชือกดึงเยเรมีย์ขึ้นออกจากบ่อน้ำ เยเรมีย์อยู่ที่ลานทหารยามต่อไป
เยเรมีย์ให้คำเตือนแก่เศเดคียาห์อีก
14 กษัตริย์เศเดคียาห์ให้คนไปตามเยเรมีย์มาพบท่านที่ทางเข้าที่สามของพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์กล่าวกับเยเรมีย์ดังนี้ “เรามีสิ่งหนึ่งที่อยากจะถามท่าน ท่านอย่าปกปิดเรา” 15 เยเรมีย์ตอบเศเดคียาห์ดังนี้ “ถ้าข้าพเจ้าบอกท่าน แล้วท่านจะไม่ฆ่าข้าพเจ้าหรือ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าให้คำแนะนำ ท่านก็จะไม่ฟังข้าพเจ้า” 16 กษัตริย์เศเดคียาห์สาบานกับเยเรมีย์เป็นการส่วนตัวดังนี้ “พระผู้เป็นเจ้าผู้ให้ชีวิตแก่พวกเรา ตราบที่พระองค์มีชีวิตอยู่ฉันใด เราจะไม่ฆ่าท่านและไม่มอบท่านไว้ในมือของบรรดาผู้ที่ต้องการจะฆ่าท่าน”
17 เยเรมีย์จึงตอบเศเดคียาห์ดังนี้ “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า ถ้าท่านยอมจำนนต่อบรรดาผู้นำของกษัตริย์แห่งบาบิโลน ท่านก็จะไม่ถูกฆ่า และเมืองนี้จะไม่ถูกไฟเผา ทั้งตัวท่านและครอบครัวก็จะรอดชีวิต 18 แต่ถ้าท่านไม่ยอมจำนนต่อบรรดาผู้นำของกษัตริย์แห่งบาบิโลน เมืองนี้ก็จะถูกมอบไว้ในมือของชาวเคลเดีย และพวกเขาจะเผาเมือง และท่านจะไม่รอดจากมือของพวกเขา” 19 กษัตริย์เศเดคียาห์บอกเยเรมีย์ว่า “เรากลัวชาวยูดาห์ที่ได้ยอมจำนนแก่ชาวเคลเดีย เรากลัวว่าเราจะถูกมอบตัวให้แก่พวกเขา และจะถูกทำร้าย” 20 เยเรมีย์ตอบว่า “ท่านจะไม่ถูกมอบตัวให้แก่พวกเขา เวลานี้ท่านจงเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าในสิ่งที่ข้าพเจ้าบอกท่าน และทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีกับท่าน และท่านจะรอดชีวิต 21 แต่ถ้าท่านไม่ยอมจำนน ภาพนิมิตที่พระผู้เป็นเจ้าให้ข้าพเจ้าเห็นก็คือ 22 ดูเถิด ผู้หญิงทุกคนที่เหลืออยู่ในวังของกษัตริย์แห่งยูดาห์กำลังถูกนำตัวออกไปยังบรรดาผู้นำของกษัตริย์แห่งบาบิโลน พวกเขาพูดถึงท่านดังนี้ว่า
‘เพื่อนทั้งหลายของท่านที่ท่านไว้วางใจได้หลอกลวงท่าน
และทำตามที่พวกเขาต้องการ
เท้าของท่านจมอยู่ในโคลน
พวกเขาทอดทิ้งท่านไป’
23 บรรดาภรรยาและบุตรชายของท่านจะถูกนำออกไปมอบแก่ชาวเคลเดีย และท่านเองจะหนีไม่รอดจากมือของพวกเขา แต่จะถูกกษัตริย์แห่งบาบิโลนจับกุม และเมืองนี้จะถูกไฟไหม้”
24 แล้วเศเดคียาห์พูดกับเยเรมีย์ว่า “อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้ แล้วท่านจะไม่ตาย 25 ถ้าบรรดาผู้นำทราบว่าเราได้พูดกับท่าน และพวกเขามาหาท่านเพื่อถามท่านว่า ‘บอกพวกเราเถิดว่า ท่านพูดอะไรกับกษัตริย์ และกษัตริย์พูดอะไรกับท่านบ้าง อย่าปกปิดพวกเรา และพวกเราจะไม่ฆ่าท่าน’ 26 ท่านจงบอกพวกเขาว่า ‘ข้าพเจ้าน้อมตัวลงด้วยคำขอร้องต่อกษัตริย์ว่า ท่านจะไม่ส่งข้าพเจ้ากลับไปที่บ้านของโยนาธานให้ไปตายที่นั่น’” 27 แล้วผู้นำทั้งปวงมาหาเยเรมีย์ และถามท่าน ท่านก็ตอบพวกเขาตามที่กษัตริย์สั่ง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่พูดกับท่านอีก เพราะไม่มีใครทราบว่าท่านพูดสิ่งใดกับกษัตริย์ 28 เยเรมีย์จึงอยู่ที่ลานทหารยามต่อไปจนถึงวันที่เยรูซาเล็มถูกยึด
เยรูซาเล็มถล่ม
39 ในปีที่เก้าของรัชสมัยเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ในเดือนที่สิบ เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนและกองทัพของท่านทั้งหมดมาโจมตีเยรูซาเล็มและยึดไว้ได้ 2 ในปีที่สิบเอ็ดของรัชสมัยเศเดคียาห์ วันที่เก้าของเดือนที่สี่ กำแพงเมืองถูกพังลง 3 ครั้นแล้วผู้นำทั้งหมดของกษัตริย์แห่งบาบิโลนจึงเข้าไปนั่งที่ประตูกลาง รวมทั้งเนอร์กัลชาเรเซอร์ สัมการ์เนโบ สาร์เสคิมผู้บัญชาการ เนอร์กัลชาเรเซอร์ผู้นำ ร่วมกับผู้นำอื่นๆ ทั้งหมดของกษัตริย์แห่งบาบิโลน 4 เมื่อเศเดคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์และทหารทั้งหมดเห็นพวกเขา ก็พากันหนีออกไปจากเมืองในเวลากลางคืน ไปทางสวนของกษัตริย์ ผ่านทางประตูเมืองระหว่าง 2 กำแพง และพวกเขาไปทางที่จะไปอาราบาห์ 5 แต่กองทัพของชาวเคลเดียไล่ตามพวกเขาไป และจับกุมเศเดคียาห์ได้ในที่ราบเยรีโค เมื่อพวกเขาจับตัวท่านได้แล้วก็นำไปส่งให้เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนที่เมืองริบลาห์ในอาณาเขตของฮามัท และเนบูคัดเนสซาร์ประกาศโทษแก่ท่าน 6 กษัตริย์แห่งบาบิโลนสังหารบรรดาบุตรชายของเศเดคียาห์ที่ริบลาห์ต่อหน้าท่าน และกษัตริย์แห่งบาบิโลนสังหารบรรดาผู้นำของยูดาห์ทั้งหมด 7 เศเดคียาห์ถูกควักลูกตา และถูกล่ามโซ่ไปยังบาบิโลน 8 ชาวเคลเดียเผาวังกษัตริย์และบ้านประชาชน และพังกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม 9 เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารคุ้มกันได้กวาดต้อนประชาชนที่เหลืออยู่ในเมืองและพวกที่ยอมจำนนแก่เขา รวมทั้งประชาชนที่ยังเหลืออยู่ให้ไปเป็นเชลยที่บาบิโลน 10 เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารคุ้มกันไม่ได้จับกุมคนยากจนบางคนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน แต่ให้พวกเขาอยู่ต่อในแผ่นดินของยูดาห์ และในขณะเดียวกันก็ยังให้สวนองุ่นและไร่นาแก่พวกเขาด้วย
พระผู้เป็นเจ้าช่วยเยเรมีย์ให้รอด
11 เนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์แห่งบาบิโลนบัญชาผ่านเนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารคุ้มกันเรื่องเยเรมีย์ว่า 12 “จงพาตัวเขาไป ดูแลเขาให้ดี และอย่าทำร้ายเขา เขาขอสิ่งใดก็จงทำตามนั้น” 13 ดังนั้น เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารคุ้มกัน เนบูชัสบานผู้บัญชาการ เนอร์กัลชาเรเซอร์ผู้นำ และบรรดาผู้นำทั้งหมดของกษัตริย์แห่งบาบิโลน 14 ให้คนไปนำเยเรมีย์มาจากลานทหารยาม และให้ท่านอยู่ในความดูแลของเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามผู้เป็นบุตรของชาฟาน เพื่อให้เขาพาท่านกลับบ้าน ท่านจึงได้อาศัยอยู่ท่ามกลางประชาชน
15 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ขณะที่ท่านถูกกักขังที่ลานทหารยามดังนี้ 16 “จงไปบอกเอเบดเมเลคชาวคูชว่า ‘พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า ดูเถิด เราจะให้ความวิบัติเกิดขึ้นกับเมืองนี้ตามคำพูดของเรา ไม่ให้รับความเจริญ และจะเกิดขึ้นต่อหน้าเจ้าในวันนั้น 17 พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เราจะช่วยเจ้าให้รอดชีวิตในวันนั้น และเจ้าจะไม่ถูกมอบไว้ในมือของบรรดาผู้ที่เจ้ากลัว 18 เพราะเราจะช่วยเจ้าให้รอดชีวิตอย่างแน่นอน และเจ้าจะไม่ถูกฆ่า และเจ้าจะเอาชีวิตหนีรอดไปได้ เพราะเจ้าได้ไว้วางใจเรา พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น’”
เยเรมีย์อยู่ต่อในยูดาห์
40 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเยเรมีย์ หลังจากที่เนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารคุ้มกันได้ปล่อยท่านไปจากรามาห์ เขาเห็นว่าเยเรมีย์ถูกล่ามโซ่ในหมู่เชลยที่มาจากเยรูซาเล็มและยูดาห์ ซึ่งกำลังถูกคุมตัวไปเป็นเชลยที่บาบิโลน 2 ผู้บัญชาการทหารคุ้มกันพาเยเรมีย์มา และพูดดังนี้ว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านลั่นวาจาถึงความพินาศของที่แห่งนี้ 3 พระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้ความพินาศเกิดขึ้นและกระทำตามที่พระองค์กล่าวไว้ เพราะพวกท่านเองทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้า และไม่เชื่อฟังพระองค์ เรื่องจึงได้เกิดขึ้นกับพวกท่าน 4 ดูเถิด วันนี้เราปลดโซ่จากมือท่าน และปล่อยท่านให้เป็นอิสระ ถ้าท่านเห็นว่าเป็นการดีที่จะไปยังบาบิโลนกับเรา ท่านก็มากับเรา และเราจะดูแลท่านเป็นอย่างดี แต่ถ้าท่านเห็นว่าเป็นการกระทำผิดที่จะไปยังบาบิโลนกับเรา ท่านก็อย่ามา ท่านก็เห็นแล้วว่าแผ่นดินทั้งหมดอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านไปที่ไหนก็ได้ตามที่ท่านเห็นว่าดีและเหมาะควร” 5 ในเมื่อเยเรมีย์ยังอยู่ที่นั่น เขาพูดต่ออีกว่า “ท่านกลับไปหาเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามผู้เป็นบุตรของชาฟาน ผู้ที่กษัตริย์แห่งบาบิโลนแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการของเมืองต่างๆ ในยูดาห์ และท่านไปอาศัยอยู่กับเขาท่ามกลางประชาชน หรือไม่ก็ไปยังที่ที่ท่านต้องการ” ดังนั้นผู้บัญชาการทหารคุ้มกันจึงให้อาหารแก่เยเรมีย์ติดตัวไป พร้อมกับให้ของขวัญและปล่อยท่านไป 6 ครั้นแล้ว เยเรมีย์จึงไปหาเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามที่มิสปาห์ และอาศัยอยู่กับเขาท่ามกลางประชาชนที่เหลืออยู่ในแผ่นดิน
7 เมื่อบรรดาผู้บัญชาการและเหล่าทหารที่ประจำอยู่ในทุ่งโล่งทราบว่า กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้แต่งตั้งเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามให้เป็นผู้ว่าราชการของแผ่นดิน และได้ให้เขาปกครองคนที่ยากจนที่สุดในแผ่นดินทุกเพศทุกวัย ซึ่งไม่ถูกจับไปเป็นเชลยที่บาบิโลน 8 พวกเขาจึงพากันไปหาเก-ดาลิยาห์ที่มิสปาห์ อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ โยฮานานบุตรคาเรอัค เสไรยาห์บุตรทันหุเมท บรรดาบุตรของเอฟายชาวเนโทฟาห์ เยซานิยาห์บุตรตระกูลมาอาคาห์ และเหล่าทหารของพวกเขา 9 เก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามผู้เป็นบุตรของชาฟานสาบานต่อชายเหล่านั้นและเหล่าทหารว่า “อย่ากลัวที่จะรับใช้ชาวเคลเดีย จงอาศัยอยู่ในแผ่นดิน และรับใช้กษัตริย์แห่งบาบิโลน แล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดีกับท่าน 10 สำหรับเราแล้ว เราจะอาศัยอยู่ที่มิสปาห์ เพื่อเป็นผู้แทนของพวกท่านให้กับชาวเคลเดียที่จะมาหาเรา ส่วนพวกท่านจงสะสมเหล้าองุ่น ผลไม้ฤดูร้อน และน้ำมัน และเก็บไว้ในภาชนะ และอาศัยอยู่ในเมืองที่พวกท่านยึดไป” 11 ในขณะเดียวกัน ชาวยูดาห์ทั้งปวงที่อยู่ในโมอับและท่ามกลางชาวอัมโมน ในเอโดม และในอาณาเขตอื่นๆ ทราบว่ากษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ให้ผู้คนจำนวนหนึ่งมีชีวิตเหลืออยู่ในยูดาห์ อีกทั้งแต่งตั้งเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามผู้เป็นบุตรของชาฟานให้เป็นผู้ว่าราชการปกครองพวกเขา 12 และชาวยูดาห์ทั้งปวงออกไปจากทุกที่ซึ่งพวกเขาถูกขับไล่ให้ไปอยู่ แล้วก็กลับมายังยูดาห์ ไปหาเก-ดาลิยาห์ที่มิสปาห์ พวกเขาเก็บสะสมเหล้าองุ่นและผลไม้ฤดูร้อนได้มากมาย
13 โยฮานานบุตรคาเรอัคและบรรดาผู้บัญชาการที่อยู่ในทุ่งโล่งมาหาเก-ดาลิยาห์ที่มิสปาห์ 14 และพูดกับเขาว่า “ท่านทราบไหมว่า บาอาลิสกษัตริย์ของชาวอัมโมนได้ให้อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์มาฆ่าท่าน” แต่เก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามไม่เชื่อพวกเขา 15 โยฮานานบุตรคาเรอัคจึงพูดกับเก-ดาลิยาห์เป็นการลับที่มิสปาห์ดังนี้ว่า “โปรดให้เราไปฆ่าอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ และจะไม่มีใครทราบเรื่องนี้ ทำไมท่านจึงจะยอมให้เขาฆ่าท่าน ซึ่งจะทำให้ชาวยิวทั้งปวงที่อยู่รอบตัวท่านกระเจิดกระเจิงไป และผู้ที่มีชีวิตเหลืออยู่ของยูดาห์จะพลอยวอดวายไปด้วย” 16 แต่เก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามพูดกับโยฮานานบุตรคาเรอัคว่า “ท่านอย่าทำอย่างนั้นเลย เพราะสิ่งที่ท่านกำลังพูดเกี่ยวกับอิชมาเอลนั้นไม่เป็นความจริง”
เก-ดาลิยาห์ถูกฆ่า
41 ในเดือนที่เจ็ด อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ผู้เป็นบุตรของเอลีชามา ซึ่งมีเลือดเนื้อเชื้อไขกษัตริย์และเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำของกษัตริย์ มากับชาย 10 คนเพื่อพบกับเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามที่มิสปาห์ และขณะที่เขาทั้งหลายกำลังรับประทานอาหารที่มิสปาห์ 2 อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์พร้อมกับชาย 10 คนก็ลุกขึ้นและใช้ดาบฆ่าเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคามผู้เป็นบุตรของชาฟาน และเขาก็สิ้นชีวิต เขาเป็นผู้ที่กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้แต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการในแผ่นดิน 3 อิชมาเอลยังได้ฆ่าชาวยูดาห์ทุกคนและทหารชาวเคลเดียซึ่งบังเอิญอยู่กับเก-ดาลิยาห์ที่มิสปาห์ด้วย
4 วันรุ่งขึ้น ก่อนที่จะมีใครทราบเกี่ยวกับการฆาตกรรมของเก-ดาลิยาห์ 5 มีชาย 80 คนมาจากเชเคม ชิโลห์ และสะมาเรีย ชายเหล่านั้นโกนเครา เสื้อผ้าที่สวมก็ขาด กรีดเนื้อตัวเอง นำเครื่องธัญญบูชาและกำยานมาถวายที่พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 6 อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ออกจากมิสปาห์มาพบพวกเขา และร้องไห้ขณะที่มาพบชายเหล่านั้นและพูดดังนี้ “เข้ามาสิ มาหาเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคาม” 7 เมื่อชายเหล่านั้นเข้าไปในเมือง อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์กับคนของเขาจึงสังหารพวกเขาและโยนร่างลงในบ่อเก็บน้ำ 8 แต่มี 10 คนในกลุ่มพูดกับอิชมาเอลว่า “อย่าฆ่าพวกเราเลย เพราะเรามีข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ น้ำมัน และน้ำผึ้งเก็บซ่อนไว้ในนา” ดังนั้นเขาจึงไว้ชีวิตและไม่เอาชีวิตพวกเขาพร้อมกับเพื่อนร่วมทาง
9 บ่อเก็บน้ำที่อิชมาเอลโยนร่างของพวกผู้ชายที่เขาได้สังหาร รวมทั้งร่างของเก-ดาลิยาห์ด้วยนั้น เป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่กษัตริย์อาสาให้ขุดไว้สำหรับป้องกันการโจมตีของบาอาชากษัตริย์ของอิสราเอล อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์โยนศพลงในบ่อจนเต็ม 10 แล้วอิชมาเอลก็จับตัวประชาชนที่อยู่ในมิสปาห์ไปเป็นเชลย บรรดาธิดาของกษัตริย์และทุกคนที่เหลืออยู่ที่มิสปาห์ ซึ่งเนบูซาระดานผู้บัญชาการทหารคุ้มกันได้มอบให้อยู่ใต้การดูแลของเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคาม อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์จับตัวพวกเขาไปเป็นเชลย และเริ่มข้ามน้ำไปยังเขตแดนของชาวอัมโมน
11 แต่เมื่อโยฮานานบุตรคาเรอัคและบรรดาผู้บัญชาการทราบเรื่องชั่วร้ายทั้งสิ้นที่อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ได้กระทำ 12 พวกเขาจึงให้พรรคพวกของตนไปด้วยเพื่อต่อสู้กับอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ พวกเขาจู่โจมอิชมาเอลที่สระน้ำใหญ่ในกิเบโอน 13 ครั้นประชาชนทั้งปวงที่อยู่กับอิชมาเอลเห็นโยฮานานบุตรคาเรอัคและบรรดาผู้บัญชาการมาด้วยกัน พวกเขาก็ดีใจมาก 14 ดังนั้นประชาชนทั้งปวงที่อิชมาเอลได้ต้อนไปเป็นเชลยจากมิสปาห์จึงหันกลับไปร่วมกลุ่มกับโยฮานานบุตรคาเรอัค 15 แต่อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์กับชาย 8 คนหนีรอดไปจากโยฮานานได้ และไปหาชาวอัมโมน 16 โยฮานานบุตรคาเรอัคและบรรดาผู้บัญชาการที่อยู่กับเขา จึงพาประชาชนที่เหลือซึ่งรอดชีวิตจากมิสปาห์กลับมาหลังจากที่อิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ได้ฆ่าเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคาม โยฮานานนำบรรดาทหาร ผู้หญิง เด็ก และขันทีกลับจากกิเบโอน 17 เขาเหล่านั้นไปอยู่ที่เกรูธ-คิมฮามใกล้เบธเลเฮม โดยที่ตั้งใจจะไปยังอียิปต์ 18 เพื่อหลบหนีชาวเคลเดีย เขาเหล่านั้นกลัวชาวเคลเดีย ก็เพราะอิชมาเอลบุตรเนธานิยาห์ได้ฆ่าเก-ดาลิยาห์บุตรอาหิคาม ซึ่งกษัตริย์แห่งบาบิโลนแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการของแผ่นดิน
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation