Beginning
ผู้รับใช้ที่ได้รับเลือกของพระผู้เป็นเจ้า
42 ดูเถิด ผู้รับใช้ของเรา ผู้ที่เราค้ำจุน
ผู้ที่เราเลือก ซึ่งเป็นผู้ที่จิตวิญญาณของเราชื่นชม
เราได้มอบวิญญาณของเราไว้ให้ท่าน
ท่านจะให้ความยุติธรรมแก่บรรดาประชาชาติ
2 ท่านจะไม่ร้องเสียงดังหรือเปล่งเสียง
หรือให้ผู้คนได้ยินที่ถนน
3 ไม้อ้อที่หักแล้วท่านจะไม่ทำลาย
และไส้ตะเกียงที่ริบหรี่ท่านจะไม่ทำให้ดับ
ท่านจะตัดสินด้วยความยุติธรรม[a]
4 ท่านจะไม่สิ้นกำลังหรือท้อใจ
จนกว่าท่านสถาปนาความยุติธรรมบนแผ่นดินโลก
และหมู่เกาะต่างๆ รอรับคำแนะนำของท่าน”
5 พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้า
พระองค์สร้างฟ้าสวรรค์ให้แผ่กว้างออกไป
ผู้แผ่แผ่นดินโลกและทุกสิ่งที่มีอยู่ในนั้น
ผู้ประทานลมหายใจแก่ประชาชนบนโลก
และประทานวิญญาณแก่บรรดาผู้ที่เดินอยู่บนนั้น
กล่าวดังนี้ว่า
6 “เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้เรียกเจ้าตามความชอบธรรม
เราจะจูงมือเจ้าและรับเจ้าไว้
เพื่อเป็นพันธสัญญาสำหรับชนชาติ
และเป็นแสงสว่างแก่บรรดาประชาชาติ
7 เพื่อเปิดตาที่มืดบอด
เพื่อพาบรรดานักโทษออกจากคุกใต้ดิน
และบรรดาผู้ที่นั่งอยู่ในความมืดออกจากที่คุมขัง
8 เราคือพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นชื่อของเรา
เราจะไม่มอบบารมีของเราให้แก่ผู้ใด
ไม่มอบคำสรรเสริญของเราให้แก่รูปเคารพสลักใดๆ
9 ดูเถิด เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้เกิดขึ้นแล้ว
และบัดนี้เราประกาศให้รู้ถึงเรื่องใหม่ๆ
เราบอกให้พวกเจ้ารู้
ก่อนที่จะเกิดขึ้น”
ร้องเพลงบทใหม่แด่พระผู้เป็นเจ้า
10 จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า
ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จากทุกมุมโลก
ให้ทะเลและสรรพสิ่งที่อยู่ในนั้น
หมู่เกาะต่างๆ และบรรดาผู้อยู่อาศัยในนั้น
11 ให้ถิ่นทุรกันดารและเมืองต่างๆ ส่งเสียงร้อง
หมู่บ้านต่างๆ ที่เคดาร์อาศัยอยู่
ให้บรรดาผู้อยู่อาศัยของเส-ลาร้องเพลงถวายด้วยความยินดี
ให้พวกเขาเปล่งเสียงดังจากยอดเขา
12 ให้พวกเขาถวายเกียรติแด่พระผู้เป็นเจ้า
และประกาศคำสรรเสริญแด่พระองค์ในหมู่เกาะต่างๆ
13 พระผู้เป็นเจ้าเดินออกไปอย่างผู้มีมหิทธานุภาพ
พระองค์กระตุ้นความรักอันแรงกล้าอย่างนักรบ
พระองค์ร้องขึ้นและเปล่งเสียง
พระองค์แสดงอานุภาพของพระองค์ต่อพวกศัตรูของพระองค์
14 “เราเงียบมาเป็นเวลายาวนาน
เรานิ่งเฉยและยับยั้งตัวเอง
เราจะส่งเสียงร้องอย่างหญิงเจ็บครรภ์
เราจะหายใจอ้าปากและกระหืดกระหอบ
15 เราจะทำลายเทือกเขาและเนินเขา
และทำให้พืชผักเหี่ยวแห้ง
เราจะทำให้แม่น้ำกลายเป็นหมู่เกาะต่างๆ
และทำให้แหล่งน้ำเหือดแห้ง
16 และเราจะนำคนตาบอด
ไปในทางที่พวกเขาไม่รู้
เราจะนำพวกเขาไป
ในวิถีทางที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
เราจะทำให้ความมืดที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นแสงสว่าง
ทำที่ขรุขระให้เรียบราบ
เราจะทำสิ่งเหล่านี้
และเราไม่ทอดทิ้งพวกเขา
17 แต่บรรดาผู้ที่วางใจในรูปเคารพสลัก
คือพวกที่พูดกับรูปเคารพที่หล่อขึ้นว่า
‘ท่านเป็นพระเจ้าของเรา’
คนเหล่านี้จะหันกลับในความอับอาย
อิสราเอลไม่ได้ยินและมองไม่เห็น
18 จงฟังเถิด พวกเจ้าที่หูหนวก
และดูเถิด พวกเจ้าที่ตาบอด เพื่อเจ้าจะได้เห็น
19 ใครตาบอดนอกจากผู้รับใช้ของเรา
หรือหูหนวกเช่นเดียวกับผู้ส่งสาสน์ของเราที่เราใช้ไป
ใครตาบอดเช่นเดียวกับผู้มีสันติสุข
หรือตาบอดเช่นเดียวกับผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า
20 เจ้าเห็นหลายสิ่ง แต่ไม่ใส่ใจ
หูของเจ้าเปิด แต่เจ้าไม่ได้ยิน”
21 เพื่อความชอบธรรมของพระองค์
พระผู้เป็นเจ้ายินดีที่จะให้กฎบัญญัติของพระองค์เป็นที่ประจักษ์และ
ยิ่งใหญ่
22 แต่นี่เป็นชนชาติที่ถูกปล้นและยึดมา
พวกเขาทุกคนถูกกับดักอยู่ในหลุม
และถูกซ่อนอยู่ในคุก
พวกเขากลายเป็นของปล้นที่ไม่มีใครช่วยเหลือได้
เป็นทรัพย์ที่ถูกปล้นที่ไม่มีใครพูดว่า “คืนให้ไป”
23 ใครในพวกท่านที่จะเงี่ยหูฟังเรื่องนี้
จะตั้งใจฟังสิ่งที่จะเกิดขึ้น
24 ใครมอบยาโคบให้แก่นักปล้น
หรือมอบอิสราเอลให้แก่พวกปล้นระดม
พวกเรากระทำบาปต่อพระผู้เป็นเจ้ามิใช่หรือ
เมื่อพวกเขาไม่ดำเนินชีวิตในวิถีทางของพระองค์
และไม่เชื่อฟังกฎบัญญัติของพระองค์
25 พระองค์จึงหลั่งความกริ้วอันร้อนแรง
และความรุนแรงของสงครามของพระองค์บนตัวเขา
ทำให้รอบตัวของเขาลุกเป็นไฟ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ
ไฟไหม้ตัวเขาอยู่ แต่เขาก็ยังไม่ใส่ใจ
องค์ผู้ช่วยให้รอดพ้นของอิสราเอล
43 แต่บัดนี้ ยาโคบเอ๋ย พระผู้เป็นเจ้าสร้างท่านขึ้นมา
อิสราเอลเอ๋ย พระองค์ปั้นท่านขึ้นมา
พระองค์กล่าวว่า
“อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว
เราได้เรียกเจ้าตามชื่อ เจ้าเป็นของเรา
2 เมื่อเจ้าเดินผ่านไปทางสายน้ำ
เราจะอยู่กับเจ้า
และผ่านทางแม่น้ำ
มันก็จะไม่ท่วมตัวเจ้า
เมื่อเจ้าเดินผ่านไฟ เจ้าจะไม่ไหม้
และเปลวไฟจะไม่เผาตัวเจ้า
3 เพราะเราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
เราคือผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล ผู้ช่วยให้รอดพ้นของเจ้า
เรามอบอียิปต์ให้เป็นค่าไถ่ของเจ้า
คูชและเส-บาเพื่อแลกเปลี่ยนกับเจ้า
4 เพราะเจ้ามีคุณค่าในสายตาของเรา
เป็นที่ยกย่อง และเรารักเจ้า
เรามอบชีวิตคนทั้งหลายเพื่อเจ้า
และมอบบรรดาชนชาติเพื่อแลกเปลี่ยนกับชีวิตของเจ้า
5 อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า
เราจะนำผู้สืบเชื้อสายของเจ้ามาจากทิศตะวันออก
และเราจะรวบรวมเจ้ามาจากทิศตะวันตก
6 เราจะพูดกับทิศเหนือว่ายอมเสียเถิด
และพูดกับทิศใต้ว่าอย่ายึดหน่วง
นำบรรดาบุตรชายของเรามาจากแดนไกล
และบรรดาบุตรหญิงของเราจากสุดมุมโลก
7 ทุกคนที่ได้รับเรียกว่าเป็นคนของเรา
เราสร้างเขาขึ้นมาเพื่อบารมีของเรา
ซึ่งเราปั้นและสร้างขึ้นมา”
8 จงนำบรรดาผู้มีตาแม้จะตาบอด และ
ผู้มีหูแม้จะหูหนวก ให้ออกมา
9 ประชาชาติทั้งปวงร่วมชุมนุมกัน
และบรรดาชนชาติประชุมร่วมกัน
มีใครในพวกเขาที่จะประกาศเรื่องนี้
และให้พวกเราเห็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้
ให้พวกเขาพาพยานทั้งหลายมาพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขาเป็นฝ่ายถูก
และให้คนอื่นได้ยินและพูดกันได้ว่า “เป็นเรื่องจริง”
10 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า “พวกเจ้าเป็นพยานของเรา
และเป็นผู้รับใช้ของเราซึ่งเราได้เลือกไว้
เพื่อเจ้าจะได้รู้และเชื่อเรา
และเข้าใจว่าเราคือผู้นั้น
ไม่มีพระเจ้าที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อนหน้าเรา
และภายหลังเราก็จะไม่มีเช่นกัน
11 เรานี่แหละคือพระผู้เป็นเจ้า
และไม่มีผู้ช่วยให้รอดพ้นนอกจากเรา
12 เราประกาศ เราช่วยให้รอดพ้น และให้เป็นที่ทราบกันแล้ว
เมื่อไม่มีเทพเจ้าต่างชาติท่ามกลางพวกเจ้า
และพวกเจ้าเป็นพยานของเรา” พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “และเราคือพระเจ้า
13 และนับจากปฐมกาล เราคือผู้นั้น
ไม่มีผู้ใดที่สามารถคว้าไปจากมือของเราได้
เราลงมือกระทำสิ่งใด แล้วใครจะมาขวางได้”
14 พระผู้เป็นเจ้าผู้ไถ่ของท่าน
องค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอลกล่าวดังนี้
“เพื่อพวกเจ้า เราส่งเขาไปยังบาบิโลน
และนำพวกบาบิโลนทั้งปวงลงมาอย่างพวกลี้ภัย
รวมถึงพวกชาวเคลเดียด้วย ลงมาในเรือที่พวกเขาภูมิใจนัก
15 เราคือพระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้บริสุทธิ์ของเจ้า
ผู้สร้างของอิสราเอล กษัตริย์ของเจ้า”
16 พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทำทางในทะเล
ทำทางผ่านในห้วงน้ำลึก
17 ผู้นำรถศึกและม้า
กองทัพและนักรบออกมา
พวกเขานอนลงและลุกขึ้นอีกไม่ได้
พวกเขาสิ้นฤทธิ์และแน่นิ่งดับไปอย่างไส้ตะเกียง
พระองค์กล่าวดังนี้
18 “อย่าจดจำเรื่องเก่าๆ
หรือนึกถึงเรื่องในอดีต
19 ดูเถิด เรากำลังกระทำสิ่งใหม่
ซึ่งผุดขึ้นมาในบัดนี้ เจ้าไม่รู้หรอกหรือ
เราจะสร้างทางในถิ่นทุรกันดาร
และให้เกิดธารน้ำในที่รกร้างว่างเปล่า
20 พวกสุนัขป่าจะให้เกียรติเรา
ทั้งหมาในและนกกระจอกเทศ
เพราะเราทำให้เกิดมีน้ำในถิ่นทุรกันดาร
ให้มีธารน้ำในที่รกร้างว่างเปล่า
เพื่อให้ชนชาติที่เราเลือกมีน้ำดื่ม
21 ชนชาติที่เราปั้นขึ้นเพื่อเราเอง
เพื่อให้พวกเขากล่าวคำสรรเสริญถึงเรา
22 โอ ยาโคบเอ๋ย เจ้าก็ยังไม่ได้ร้องเรียกถึงเรา
แต่อิสราเอลเอ๋ย เจ้าเอือมระอาเรา
23 เจ้าไม่ได้นำแกะสำหรับเผาเป็นของถวายมาให้เรา
หรือมอบเครื่องสักการะเป็นการให้เกียรติเรา
เราไม่ได้ให้เจ้าแบกภาระเรื่องของถวาย
หรือทำให้เจ้าเบื่อหน่ายเรื่องกำยาน
24 เจ้าไม่ได้ใช้เงินซื้ออ้อหอม
หรือทำให้เราพอใจด้วยเครื่องสักการะที่มีไขมัน
แต่เจ้าทำให้เราหนักใจด้วยบาปของเจ้า
เจ้าได้ทำให้เราเอือมระอาด้วยความชั่วของเจ้า
25 เรานั่นแหละคือผู้นั้น
ที่ยกโทษการล่วงละเมิดเพื่อเราเอง
และเราจะไม่จดจำบาปของเจ้า
26 จงนึกถึงเรา เรามาโต้วาจากัน
เจ้าจงยื่นคดีของเจ้า
เพื่อพิสูจน์ว่า เจ้าไม่มีความผิด
27 บิดาต้นตระกูลของเจ้าทำบาป
และบรรดาตัวแทนของเจ้าล่วงละเมิดต่อเรา
28 ฉะนั้น เราจึงทำให้บรรดาผู้นำของสถานที่บริสุทธิ์เป็นที่ดูหมิ่น
และมั่นหมายให้ยาโคบรับความพินาศ
และให้อิสราเอลเป็นที่ดูถูก
พระผู้เป็นเจ้าเลือกอิสราเอล
44 บัดนี้ โอ ยาโคบผู้รับใช้ของเรา จงฟังเถิด
อิสราเอล ผู้ที่เราได้เลือกไว้
2 พระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างเจ้าขึ้นมา
องค์ผู้สร้างเจ้าจากครรภ์
และจะช่วยเหลือเจ้า กล่าวดังนี้ว่า
อย่ากลัวเลย โอ ยาโคบผู้รับใช้ของเรา
เยชูรูนผู้ที่เราได้เลือกไว้
3 เพราะเราจะหลั่งน้ำลงบนแผ่นดินแห้งผาก
และให้เกิดลำธารบนพื้นดินแห้ง
เราจะหลั่งวิญญาณของเราสู่ทายาทของเจ้า
และพรของเราสู่บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเจ้า
4 พวกเขาจะผุดขึ้นท่ามกลางหญ้า
อย่างต้นหลิวที่ข้างลำธารน้ำไหล
5 คนหนึ่งจะพูดว่า ‘เราเป็นของพระผู้เป็นเจ้า’
อีกคนหนึ่งจะร้องเรียกนามของยาโคบ
และอีกคนจะเขียนบนมือของเขาว่า ‘เป็นของพระผู้เป็นเจ้า’
และตั้งชื่ออิสราเอลเป็นชื่อตนเอง”
6 พระผู้เป็นเจ้ากษัตริย์แห่งอิสราเอล และผู้ไถ่ของเขา
พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้
“เราเป็นเบื้องต้น และเราเป็นเบื้องปลาย
และไม่มีพระเจ้านอกจากเรา
7 ใครบ้างที่เป็นเหมือนเรา ให้เขาป่าวประกาศ
ให้เขาประกาศและชี้แจงให้เห็น ณ เบื้องหน้าเราว่า
ได้เกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เราได้สถาปนาชนชาติโบราณ
และอะไรที่จะมาถึง
และให้พวกเขาบอกล่วงหน้าว่า อะไรจะเกิดขึ้น
8 อย่ากลัวหรือหวาดหวั่นเลย
เราเคยบอกเจ้าตั้งแต่กาลก่อน และประกาศเรื่องนี้แล้วมิใช่หรือ
พวกเจ้าเป็นพยานของเรา
มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเราหรือ
ไม่มีศิลาอื่นใด เรารู้ว่าไม่มีเลย”
ความเขลาของรูปเคารพ
9 ทุกคนที่ปั้นรูปเคารพไม่สามารถทำสิ่งใดได้ และสิ่งที่พวกเขาเทิดทูนก็ไร้ประโยชน์ บรรดาผู้ที่เป็นพยานเพื่อพวกเขาไม่สามารถมองเห็นหรือรู้อะไร พวกเขาจะเผชิญกับความอับอาย 10 ใครจะปั้นเทพเจ้า หรือหล่อรูปเคารพโดยไม่ได้ผลกำไร 11 ดูเถิด ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเขาจะต้องอับอาย และช่างฝีมือเป็นเพียงมนุษย์ ปล่อยให้พวกเขามาชุมนุมร่วมกัน ให้พวกเขายืนกราน พวกเขาจะต้องตกตะลึง จะต้องอับอายไปด้วยกัน
12 ช่างตีเหล็กใช้เครื่องมือรมถ่านให้ร้อน เขาใช้แขนที่แข็งแรงขึ้นรูปด้วยค้อน เมื่อเขารู้สึกหิว กำลังของเขาก็ถอยลง และเขาจะเป็นลมถ้าไม่ได้ดื่มน้ำ 13 ช่างไม้ใช้ไม้วัดและใช้ดินสอขีดเครื่องหมาย เขาใช้กบไสไม้ให้เป็นรูปร่างขึ้นมา และขีดเครื่องหมายด้วยวงเวียน เขาสลักให้เป็นรูปร่างมนุษย์คนหนึ่ง ตามความงามของมนุษย์ เพื่อให้อยู่ในบ้าน 14 เขาตัดต้นซีดาร์ เขาเลือกต้นสนไซเปร็สหรือต้นโอ๊กซึ่งเจริญงอกงามได้เองในหมู่ต้นไม้ในป่า เขาปลูกต้นซีดาร์ และฝนช่วยทำให้มันโตขึ้น 15 แล้วมนุษย์ใช้ต้นไม้เป็นเชื้อเพลิง เขาตัดส่วนหนึ่งมาใช้เพื่อให้ความอบอุ่น เขาติดไฟและอบขนมปัง เขาเอาไม้มาทำเป็นเทพเจ้าและนมัสการ เขาทำเป็นรูปเคารพและก้มกราบ 16 ไม้อีกครึ่งหนึ่งเขาใช้ก่อไฟ เพื่อย่างเนื้อสัตว์ และรับประทานจนอิ่มหนำ เขาได้รับความอบอุ่นและพูดว่า “โอ ฉันอุ่นสบาย ฉันเห็นเปลวไฟแล้ว” 17 เขาใช้ไม้ที่ยังเหลืออยู่ทำเป็นรูปเทพเจ้า คือรูปเคารพของเขา และก้มกราบและนมัสการ เขาอธิษฐานต่อรูปเคารพว่า “ช่วยข้าพเจ้าให้รอดเถิด เพราะท่านเป็นเทพเจ้าของข้าพเจ้า”
18 พวกเขาไม่รู้และไม่เห็นแจ้ง เพราะเขาปิดตา จึงทำให้มองไม่เห็น และปิดใจ จึงทำให้ไม่เข้าใจ 19 ไม่มีใครนึกถึง หรือมีความรู้ หรือเห็นแจ้งที่จะพูดว่า “ฉันใช้เผาไฟครึ่งหนึ่ง ฉันใช้อบขนมปังบนถ่านร้อน ฉันย่างเนื้อกินแล้ว และฉันควรจะใช้ไม้ที่เหลือทำสิ่งที่น่ารังเกียจหรือ ฉันควรจะก้มให้กับท่อนไม้หรือ” 20 เขากินขี้เถ้า ใจที่หลงผิดทำให้เขาถูกหลอกลวง และเขาช่วยตัวเองให้รอดไม่ได้ หรือแม้จะพูดว่า “สิ่งที่ฉันถือในมือขวานี้เป็นสิ่งหลอกลวงหรือเปล่า”
พระผู้เป็นเจ้าไถ่อิสราเอล
21 “โอ ยาโคบเอ๋ย จงจดจำสิ่งเหล่านี้ไว้
โอ อิสราเอลเอ๋ย เพราะเจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
เราปั้นเจ้าขึ้นมา เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะไม่ลืมเจ้า
22 เราได้กำจัดการล่วงละเมิดของเจ้าเหมือนกำจัดก้อนเมฆ
และกำจัดบาปของเจ้าเหมือนกำจัดหมอก
จงกลับมาหาเรา
เพราะเราได้ไถ่เจ้าแล้ว”
23 ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลง เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งนี้
โอ โลกเบื้องล่างเอ๋ย จงส่งเสียงร้อง
โอ เทือกเขา ป่าไม้และต้นไม้ทุกต้นเอ๋ย
จงโห่ร้องด้วยเสียงเพลง
เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ไถ่ยาโคบแล้ว
และพระองค์จะสำแดงพระบารมีของพระองค์ในอิสราเอล
24 พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้ไถ่ของเจ้า
ผู้สร้างเจ้านับตั้งแต่อยู่ในครรภ์กล่าวดังนี้
“เราคือพระผู้เป็นเจ้า
ผู้สร้างสรรพสิ่ง
ผู้เดียวที่สร้างฟ้าสวรรค์ให้แผ่กว้างออกไป
ผู้กางแผ่นดินโลกด้วยตัวเราเอง
25 เราทำให้เห็นว่า การอัศจรรย์ของพวกคุยโวโอ้อวดไม่เป็นความจริง
ทำให้บรรดาผู้ทำนายกลายเป็นคนโง่
เราทำให้ผู้เรืองปัญญาให้คำปรึกษาผิดๆ
ทำให้เห็นว่าความรู้ของพวกเขาไร้สาระ
26 เรายืนยันคำพูดของผู้รับใช้ของพระองค์
และทำให้คำของบรรดาผู้ประกาศของพระองค์สัมฤทธิผล
เราเป็นผู้กล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะมีคนอาศัยอยู่’
และกล่าวถึงเมืองต่างๆ ของยูดาห์ว่า ‘จะถูกสร้างขึ้น
และเราจะสถาปนาสิ่งที่ปรักหักพังขึ้นใหม่’
27 เราเป็นผู้กล่าวกับห้วงน้ำลึกว่า ‘จงแห้งเสีย
เราจะทำให้แม่น้ำของเจ้าแห้งเหือด’
28 เรากล่าวถึงไซรัสว่า ‘เขาเป็นผู้เลี้ยงดูฝูงแกะของเรา
และเขาจะทำให้จุดมุ่งหมายทั้งสิ้นของเราสัมฤทธิผล’[b]
และกล่าวถึงเยรูซาเล็มว่า ‘จะถูกสร้างขึ้น’
และกล่าวถึงพระวิหารว่า ‘ฐานรากจะถูกวาง’”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation