Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
อิสยาห์ 23-27

คำพยากรณ์เกี่ยวกับเมืองไทระและไซดอน

23 คำพยากรณ์เกี่ยวกับเมืองไทระ

โอ เรือแห่งเมืองทาร์ชิชเอ๋ย เจ้าร้องไห้ฟูมฟายเถิด
    เพราะเมืองไทระพังทลายสิ้นแล้ว
    ปราศจากบ้านเรือนและท่าเรือ
สิ่งดังกล่าวถูกเผยให้ทราบจากไซปรัส
จงหยุดนิ่งเถิด โอ ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลเอ๋ย
    พ่อค้าของเมืองไซดอนที่เดินเรือทะเลได้ทำให้ท่านมีอย่างบริบูรณ์
รายได้จากการเดินเรือของท่าน
    ซึ่งมาจากเมล็ดข้าวของชิโหร์
เป็นผลเก็บเกี่ยวที่ได้จากแม่น้ำไนล์
    ท่านเป็นพ่อค้าของบรรดาประชาชาติ
โอ ไซดอนเอ๋ย จงอับอายเถิด เพราะทะเลได้พูดแล้ว
    หลักอันแข็งแกร่งแห่งทะเลพูดว่า
“เราไม่ได้เจ็บครรภ์หรือให้กำเนิด
    เราไม่ได้อุ้มชูชายหนุ่ม
    หรือเลี้ยงดูหญิงสาว”
เมื่ออียิปต์ทราบข่าวเกี่ยวกับไทระ
    พวกเขาจะเจ็บปวดที่ได้ยินรายงาน
เรือทั้งหลายควรจะแล่นกลับไปยังทาร์ชิช
    โอ ชาวเมืองที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลเอ๋ย จงร้องไห้ฟูมฟายเถิด
นี่คือเมืองรื่นเริงของท่านหรือ
    เมืองที่ก่อตั้งมานานแล้ว
และชาวเมืองได้ไปตั้งหลักแหล่ง
    ที่แดนไกลหรือ
ใครวางแผนการกล่าวโทษเมืองไทระ
    ซึ่งเป็นผู้แจกมงกุฎ
มีพวกพ่อค้าระหว่างชาติที่เป็นผู้นำ
    มีพวกพ่อค้าภายในอาณาจักรผู้มีเกียรติในแผ่นดิน
พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาได้วางแผนการนี้
    เพื่อทำให้ความภูมิใจในความสูงศักดิ์ลดลง
    เพื่อหลู่เกียรติแห่งความมีเกียรติทั้งหลายของแผ่นดินโลก
10 โอ ธิดาแห่งทาร์ชิชเอ๋ย
    จงข้ามแผ่นดินของท่านไปอย่างข้ามแม่น้ำไนล์
    ไม่มีการยับยั้งอีกต่อไปแล้ว
11 พระองค์ยื่นมือของพระองค์ไปที่ทะเล
    พระองค์ทำให้อาณาจักรสั่นไหว
พระผู้เป็นเจ้าได้บัญชาเกี่ยวกับคานาอันว่า
    พระองค์จะทำให้หลักอันแข็งแกร่งพินาศไป
12 และพระองค์กล่าวดังนี้ว่า
“เจ้าจะไม่รื่นเริงอีกต่อไป
    โอ ธิดาพรหมจารีผู้ถูกบีบบังคับแห่งไซดอน
จงลุกขึ้น จงข้ามทะเลไปยังไซปรัส
    แม้แต่ที่นั่นเจ้าก็จะไม่ได้หยุดพัก”

13 จงดูแผ่นดินของชาวเคลเดีย ไม่มีคนพวกนี้อยู่อีกแล้ว ชาวอัสซีเรียได้ทำให้ที่ของพวกเขาเป็นที่อยู่ของสัตว์ในทะเลทราย พวกเขาก่อเชิงเทินให้สูงขึ้น และริบวังจนเกลี้ยง พวกเขาทำให้เมืองเป็นซากปรักหักพัง

14 โอ เรือแห่งทาร์ชิชเอ๋ย จงร้องไห้ฟูมฟายเถิด
    เพราะหลักอันแข็งแกร่งของท่านพินาศแล้ว

15 ในวันนั้น คนจะลืมไทระไปนานถึง 70 ปี คือนานเท่าช่วงชีวิตของกษัตริย์ท่านหนึ่ง หลังจาก 70 ปีแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับไทระก็เหมือนกับเพลงของหญิงแพศยาคือ

16 “โอ หญิงแพศยาที่คนลืม
    จงหยิบพิณเล็กไป เดินผ่านเข้าไปในเมือง
เล่นเพลงให้ไพเราะ ร้องเพลงของเจ้ามากๆ
    เพื่อคนจะนึกถึงเจ้าบ้าง”

17 หลังจาก 70 ปี พระผู้เป็นเจ้าจะมาหาเพื่อพิจารณาเมืองไทระ และเมืองนั้นจะกลับไปรับจ้างเช่นหญิงแพศยาอีก และจะร่านหาบรรดาอาณาจักรในโลกบนแผ่นดิน 18 ผลกำไรและรายได้ของหญิงแพศยาจะถูกมอบแด่พระผู้เป็นเจ้า และจะไม่ถูกสะสมหรือกักตุนไว้ แต่สินค้าของเมืองจะเป็นเสบียงอาหารอันอุดม และเป็นเสื้อผ้าชั้นดีสำหรับบรรดาผู้ที่รับใช้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า

ตัดสินโทษทั่วแผ่นดินโลก

24 ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าจะกำจัดทุกสิ่งบนโลก
    และทำให้เป็นที่ร้าง
พระองค์จะแปรเปลี่ยนผิวโลก
    และทำให้ผู้อยู่อาศัยกระจัดกระจายไป
และเหตุการณ์จะเกิดกับปุโรหิต
    แบบเดียวกับที่จะเกิดกับประชาชน
จะเกิดกับทาสรับใช้
    แบบเดียวกับที่จะเกิดกับเจ้านาย
จะเกิดกับผู้ซื้อ
    แบบเดียวกับที่จะเกิดกับผู้ขาย
จะเกิดกับผู้ให้ยืม
    แบบเดียวกับที่จะเกิดกับผู้ขอยืม
จะเกิดกับเจ้าหนี้
    แบบเดียวกับที่จะเกิดกับลูกหนี้
แผ่นดินโลกจะร้างและทุกสิ่งจะถูกยึด
    เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวเช่นนั้น

แผ่นดินโลกแห้งเหือดและอ่อนระอา
    โลกจะเศร้าสลดและอ่อนระอา
    ผู้คนในระดับสูงเศร้าสลด
แผ่นดินโลกขาดความบริสุทธิ์
    ก็เพราะผู้ที่อยู่อาศัยในนั้น
พวกเขาละเมิดกฎบัญญัติ
    ฝ่าฝืนกฎเกณฑ์
    และไม่รักษาพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์
ฉะนั้น คำสาปแช่งกลืนกินแผ่นดินโลก
    และบรรดาผู้อยู่อาศัยในโลกรับทุกข์ทรมานตามความผิดของเขา
ฉะนั้นบรรดาผู้อยู่อาศัยในโลกถูกเผาผลาญ
    และเหลือคนรอดชีวิตน้อยมาก
เหล้าองุ่นแห้งเหือด
    เถาองุ่นแห้งเหี่ยว
    ทุกคนที่จิตใจร่าเริงกลับโอดครวญ
เสียงเบิกบานใจของรำมะนาชะงักลง
    เสียงสนุกสนานก็หยุดลง
    เสียงเบิกบานใจของพิณเล็กก็เงียบไป
ไม่มีผู้ใดดื่มเหล้าองุ่นพร้อมกับการขับร้อง
    สุรามีรสขมสำหรับผู้ที่ดื่ม
10 เมืองที่ร้างพังทลายสิ้น
    บ้านทุกหลังปิดตาย ไม่มีใครเข้าไปได้
11 มีเสียงร้องขอเหล้าองุ่นที่ถนน
    ความยินดีทั้งหลายก็กลับกลายเป็นความมืดมน
    ความร่าเริงใจบนแผ่นดินโลกถูกกำจัดจนหมดสิ้น
12 ในเมืองมีแต่ความรกร้าง
    ประตูเมืองถูกพังยับเยิน
13 ในท่ามกลางแผ่นดินโลก
    และบรรดาชนชาติจะเป็นไปอย่างนั้น
ซึ่งจะเป็นเช่นเดียวกับการตีต้นมะกอก
    เช่นเดียวกับการเก็บผลองุ่นที่ตกหล่นหลังการเก็บเกี่ยว

14 ผู้คนส่งเสียงร้องเพลงเมื่อร่าเริงใจ
    เสียงโห่ร้องมาจากทิศตะวันตกก็เพราะความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า
15 ฉะนั้น พวกที่อยู่ทางทิศตะวันออกเอ๋ย จงถวายเกียรติแด่พระผู้เป็นเจ้า
    พวกที่อยู่ตามฝั่งทะเลเอ๋ย จงถวายเกียรติแด่พระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลเถิด
16 พวกเราได้ยินเสียงจากทั่วทุกมุมโลก เป็นเสียงเพลงสรรเสริญ
    แห่งการถวายเกียรติแด่องค์ผู้มีความชอบธรรม
แต่ข้าพเจ้าพูดว่า “ข้าพเจ้าแย่แน่
    ข้าพเจ้าแย่แน่ วิบัติจงเกิดแก่ข้าพเจ้า
เพราะบรรดาผู้ทรยศได้หักหลัง
    ผู้ทรยศได้หักหลังจริงทีเดียว”

17 โอ ผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลกเอ๋ย
    ความน่ากลัว หลุมพราง และกับดักตกอยู่กับท่าน
18 คนที่หนีเมื่อได้ยินเสียงน่ากลัว
    จะตกลงในหลุมพราง
และคนที่ปีนออกจากหลุมพราง
    ก็จะติดกับดัก
เพราะหน้าต่างฟ้าสวรรค์เปิดออก
    และฐานรากของแผ่นดินโลกสั่นสะเทือน
19 แผ่นดินโลกพังทลายราบ
    แผ่นดินโลกถูกแยกออก
    แผ่นดินโลกถูกเขย่าอย่างแรง
20 แผ่นดินโลกเซไปมาเหมือนคนเมาเหล้า
    มันโอนเอนเหมือนกระท่อม
บาปของโลกหนักหน่วงบนโลก
    และโลกก็ล้มลงและจะไม่ลุกขึ้นอีก

21 ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะลงโทษ
    ชาวสวรรค์ในสวรรค์
    และบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลกบนโลก
22 เขาทั้งหลายจะถูกรวมเข้าด้วยกัน
    เหมือนนักโทษในหลุมลึก
พวกเขาจะถูกกักไว้ในคุกใต้ดิน
    และหลายวันหลังจากนั้นพวกเขาจะถูกพิพากษาลงโทษ
23 ดวงจันทร์จะงวยงง
    และดวงอาทิตย์จะอับอาย
เพราะพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาจะครองราชย์
    บนภูเขาศิโยนและในเยรูซาเล็ม
    และพระบารมีของพระองค์จะปรากฏต่อหน้าบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่

คำสรรเสริญแด่พระเจ้า

25 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระนามของพระองค์
เพราะพระองค์ได้กระทำสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ
    ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้นานมาแล้ว
    ด้วยความสัตย์จริงและแน่นอน
เพราะพระองค์ได้ทำให้เมืองพังลงเป็นกองพะเนิน
    ทำให้เมืองที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งกลายเป็นกองซากปรักหักพัง
ป้อมปราการของพวกชาวต่างชาติจะไม่เป็นเมืองอีกต่อไป
    และจะไม่มีวันสร้างมันขึ้นใหม่อีก
ฉะนั้น ชนชาติที่เข้มแข็งจะสรรเสริญพระองค์
    เมืองต่างๆ ของบรรดาประชาชาติที่โหดเหี้ยมจะเกรงกลัวพระองค์
เพราะพระองค์เป็นหลักยึดอันมั่นคงให้แก่คนยากจน
    เป็นหลักยึดอันมั่นคงแก่ผู้ยากไร้ที่มีทุกข์
เป็นที่กำบังจากพายุ
    และร่มเงาจากความร้อน
เพราะลมหายใจของคนโหดร้าย
    เป็นเหมือนพายุพัดเข้าหากำแพง
พระองค์ทำให้เสียงวุ่นวายของชาวต่างชาติเงียบสงบลง
    ดั่งความร้อนในที่แห้ง
ความร้อนที่ถูกเงาเมฆบังเช่นไร
    เพลงของคนโหดร้ายก็ถูกทำให้เงียบลงเช่นนั้น

บนภูเขานี้ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา
    จะเตรียมงานเลี้ยงฉลองให้แก่ชนชาติทั้งปวงอย่างโอ่อ่า
ด้วยอาหารชั้นดี เหล้าองุ่นดีที่สุด
    เนื้อสัตว์มีไขกระดูก เหล้าองุ่นกรองชั้นเยี่ยม
บนภูเขานี้ พระองค์จะกำจัด
    ผ้าที่คลุมชนชาติทั้งปวง
ผืนผ้าที่ปกคลุมประชาชาติทั้งปวง
    พระองค์จะกำจัดความตายให้สิ้นไปตลอดกาล[a]
และพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่จะเช็ดน้ำตาจากทุกใบหน้า
    และพระองค์จะกำจัดความอัปยศอดสูของชนชาติของพระองค์ให้สิ้นไปจากแผ่นดินโลก
เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวดังนั้น

ในวันนั้น จะมีคนพูดกันว่า

“ดูเถิด นี่คือพระเจ้าของเรา
    พวกเราได้รอคอยพระองค์ เพื่อพระองค์จะช่วยพวกเราให้รอดพ้นได้
นี่คือพระผู้เป็นเจ้า พวกเราได้รอคอยพระองค์
    ให้พวกเราดีใจและยินดีที่พระองค์ช่วยให้รอดพ้น”
10 เพราะมือของพระผู้เป็นเจ้าจะสถิตบนภูเขานี้
    และโมอับจะถูกเหยียบย่ำในที่ของเขา
    เหมือนฟางที่ถูกเหยียบย่ำลงในหลุมมูลสัตว์
11 และเขาจะกางมือทั้งสองของเขาในหลุมนั้น
    เหมือนนักว่ายน้ำกางแขนออกว่าย
แต่พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ความเหิมเกริมของโมอับลดลง
    ทั้งๆ ที่มือของเขาช่ำชอง
12 พระองค์จะทำให้กำแพงที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งของเจ้าพังลง
    ทำให้ลดต่ำลงและถูกเหวี่ยงลงบนพื้น
    ถึงธุลีดิน

เพลงสรรเสริญ

26 ในวันนั้น จะมีคนร้องเพลงนี้ในแผ่นดินของยูดาห์

“พวกเรามีเมืองที่แข็งแกร่ง
    พระองค์โปรดให้พวกเรามีความรอดพ้น
    ซึ่งเป็นดั่งกำแพงและที่คุ้มกัน
เปิดประตูกำแพงเถิด
    เพื่อประชาชาติที่มีความชอบธรรม
    และรักษาความเชื่อจะเข้าไปได้
พระองค์ให้เขามีสันติสุขแท้
    จิตใจของเขาอยู่กับพระองค์
    เพราะเขาไว้วางใจในพระองค์
จงไว้วางใจในพระผู้เป็นเจ้าตลอดกาล
    เพราะพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าคือศิลาอันเป็นนิรันดร์
เพราะพระองค์ทำให้บรรดาผู้อยู่อาศัยเบื้องสูงถ่อมลง
    เมืองที่สูงตระหง่าน
พระองค์ทำให้เมืองนั้นตกต่ำลงถึงพื้น
    เหวี่ยงมันลงบนธุลีดิน
และเท้าก็เหยียบย่ำมัน
    เท้าของผู้ถูกบีบบังคับ
    ย่างก้าวของผู้ยากไร้”

หนทางของผู้มีความชอบธรรมจะราบเรียบ
    พระองค์ทำให้ทางของผู้มีความชอบธรรมราบรื่น
โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเรารอคอยพระองค์
    ในทางของความเป็นธรรม
จิตวิญญาณของพวกเราปรารถนาในพระนามของพระองค์
    และระลึกถึงพระองค์
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าใฝ่ฝันถึงพระองค์ในยามค่ำ
    วิญญาณของข้าพเจ้าแสวงหาพระองค์ด้วยใจจดจ่อ
เมื่อมีความเป็นธรรมของพระองค์บนแผ่นดินโลก
    บรรดาผู้อยู่อาศัยของโลกก็เรียนรู้ถึงความชอบธรรม
10 ถ้าคนชั่วร้ายได้รับความเมตตา
    เขาจะไม่เรียนรู้ถึงความชอบธรรม
เขากระทำความชั่วในดินแดนของความชอบธรรม
    และไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า
11 โอ พระผู้เป็นเจ้า มือของพระองค์ยกขึ้น
    แต่พวกเขามองไม่เห็น
ขอให้พวกเขาเห็นความรักอันแรงกล้าของพระองค์ที่มีต่อชนชาติของพระองค์
    ให้เขาได้รับความอับอาย
    ให้ไฟที่มีไว้สำหรับพวกศัตรูของพระองค์เผาผลาญพวกเขาเถิด
12 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะสร้างสันติสุขให้แก่พวกเรา
    เพราะทุกสิ่งที่พวกเรากระทำสำเร็จนั้น
    พระองค์กระทำเพื่อพวกเรา
13 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรา
    นอกจากพระองค์แล้ว แม้เราจะตกเป็นผู้รับใช้เจ้านายอื่น
    แต่พระนามของพระองค์เท่านั้นที่เราระลึกถึง
14 พวกที่ตายแล้วจะไม่ฟื้นคืนชีวิต
    วิญญาณที่ออกจากร่างแล้วจะไม่ทำให้ลุกขึ้นได้อีก
พระองค์ลงโทษพวกเขาและทำให้พินาศ
    แล้วพระองค์ลบความทรงจำที่มีต่อพวกเขาจนหมด
15 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้ขยายประชาชาติให้ยิ่งใหญ่
    พระองค์ได้ขยายประชาชาติให้ยิ่งใหญ่
พระองค์ได้รับพระเกียรติ
    พระองค์ได้ทำให้อาณาเขตของดินแดนนั้นกว้างใหญ่ขึ้น

16 โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาแสวงหาพระองค์ในยามทุกข์เข็ญ
    เมื่อพระองค์ทำโทษพวกเขา
    พวกเขาก็อธิษฐานอย่างแผ่วเบา
17 ดั่งหญิงมีครรภ์
    ที่บิดตัวร้องด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
    เมื่อนางใกล้จะคลอดเช่นไร
พวกเราก็เป็นเช่นนั้น ณ เบื้องหน้าพระองค์ โอ พระผู้เป็นเจ้า
18     พวกเรามีครรภ์ พวกเราบิดตัวด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส
    แต่พวกเราคลอดลมออกมา
พวกเราไม่อาจให้ความรอดแก่แผ่นดินโลก
    และไม่ได้ให้กำเนิดแก่บรรดาผู้อยู่อาศัยในโลก
19 คนตายของท่านจะฟื้นคืนชีวิต
    ร่างของพวกเขาจะลุกขึ้น
พวกท่านที่อยู่ในผงธุลีเอ๋ย
    จงตื่นและร้องเพลงด้วยความยินดี
เพราะหยดน้ำค้างของท่านเป็นน้ำค้างแห่งแสงสว่าง
    และแผ่นดินโลกจะปล่อยคนตายให้ออกมา

20 ประชาชนของข้าพเจ้า จงเข้ามาในห้องของท่านเถิด
    ปิดประตูแล้วเดินหน้าไป
จงซ่อนตัวสักชั่วขณะหนึ่ง
    จนกว่าความขัดเคืองจะผ่านพ้นไป
21 เพราะดูเถิด พระผู้เป็นเจ้ากำลังออกจากที่ของพระองค์
    เพื่อลงโทษบรรดาผู้อยู่อาศัยของแผ่นดินโลกเพราะความชั่วของพวกเขา
และแผ่นดินโลกจะเผยให้เห็นหยาดโลหิตที่ได้พลีไว้
    และจะไม่ปกปิดผู้ถูกฆ่าอีกต่อไป

อิสราเอลได้รับการไถ่

27 ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะถือดาบอันกอปรด้วยความแข็งแกร่งที่ใหญ่ยิ่ง และทรงอานุภาพ ซึ่งจะลงโทษตัวเหรา[b]คืองูที่กำลังเลื้อยหนีไป ตัวเหราคืองูที่เลื้อยเลี้ยวคดเคี้ยวไป และพระองค์จะฆ่ามังกรทะเล

ในวันนั้น

“จงร้องเพลงถึงสวนองุ่นอันอุดม
    เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราเป็นผู้ดูแลสวนองุ่น
    เรารดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
เราเฝ้าสวนนี้ทั้งวันและคืน
    เพื่อไม่ให้ผู้ใดทำร้ายได้
    เราไม่เกรี้ยวโกรธ
แต่ถ้าหากว่ามีพุ่มไม้หนามและต้นหนามที่มาขวางหน้าเรา
    เราก็จะเดินออกไปประจัญกับมัน
    เราจะเผาพวกมันให้มอดไหม้
หรือไม่ก็ให้พวกมันเข้าหาเรา เพื่อขอความช่วยเหลือ
    ให้พวกมันยอมจำนนด้วยดี
    ให้พวกมันยอมจำนนด้วยดี”

ในวันนั้น ยาโคบจะเจาะรากลงไป
    อิสราเอลจะผลิดอกและแตกหน่อ
    และทั่วทั้งโลกจะเต็มไปด้วยผล

พระองค์ลงโทษชนชาติของพระองค์
    เช่นเดียวกับที่พระองค์ลงโทษพวกที่โจมตีพวกเขาไหม
ชนชาติของพระองค์ถูกฆ่า
    เช่นเดียวกับที่พวกฆาตกรถูกฆ่าไหม
พระองค์ราวีอิสราเอลด้วยการให้พวกเขาถูกขับออกไปนอกแผ่นดิน
    พระองค์ขับไล่พวกเขาเพราะความกริ้ว
    เช่นเดียวกับวันที่ลมตะวันออกพัดมา
ฉะนั้น ความผิดของยาโคบจะได้รับการชดใช้ด้วยการนี้
    และนี่จะเป็นผลของการลบล้างบาปของเขาออก
เมื่อเขาทำแท่นบูชาทั้งหมดที่เป็นศิลาให้แตก
    เป็นเสี่ยงๆ เหมือนหินปูนขาวที่ถูกบด
    จะไม่มีเทวรูปอาเชราห์หรือแท่นเผาเครื่องหอมตั้งอยู่อีก
10 เพราะเมืองที่มีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่งถูกทิ้งร้างไว้
    ที่พักอาศัยถูกทอดทิ้งและละทิ้งอย่างถิ่นทุรกันดาร
ลูกโคตัวผู้หากินอยู่ที่นั่น
    มันนอนและเล็มใบไม้ตามกิ่งก้านจนหมดเกลี้ยง
11 เมื่อกิ่งไม้แห้ง มันก็หักหลุดไป
    พวกผู้หญิงก็เก็บเอาไปทำฟืน
นี่แหละพวกคนที่ไร้ความเข้าใจ
    ฉะนั้น องค์ผู้สร้างพวกเขาจะไม่สงสารพวกเขา
    องค์ผู้สร้างพวกเขาจะไม่มีความกรุณาต่อพวกเขา

12 ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะนวดข้าวตั้งแต่แม่น้ำยูเฟรติส ไปจนถึงธารน้ำของอียิปต์ และชาวอิสราเอลเอ๋ย พวกท่านจะถูกรวบรวมเข้าด้วยกันทีละคน 13 ในวันนั้น จะมีเสียงเป่าแตรงอน และบรรดาผู้ที่หลงหายอยู่ในแผ่นดินอัสซีเรียและบรรดาผู้ที่ถูกขับไล่เข้าไปอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ ก็จะมานมัสการพระผู้เป็นเจ้าบนภูเขาที่เยรูซาเล็ม

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation