Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สุภาษิต 7-9

สติปัญญาช่วยเจ้าให้พ้นจากการล่วงประเวณี

ลูกเอ๋ย จงรักษาคำพูด
    และถนอมคำบัญญัติของเราไว้กับตัวเจ้าเป็นอย่างดี
จงรักษาคำบัญญัติของเรา และเจ้าจะมีชีวิตคงอยู่
    รักษากฎบัญญัติของเราดั่งแก้วตาของเจ้าเอง
จงมัดติดไว้ที่นิ้วมือของเจ้า
    จารึกไว้บนหัวใจของเจ้า
จงพูดกับสติปัญญาว่า “เจ้าเป็นดั่งพี่สาวของเรา”
    และจงเรียกการหยั่งรู้ว่าญาติสนิทของเจ้า
สองสิ่งนี้จะช่วยเจ้าให้พ้นจากหญิงที่ล่วงประเวณี
    จากหญิงโสเภณีที่มีคำพูดอันระรื่นหู

ด้วยว่าที่หน้าต่างบ้านของเรา
    เรามองผ่านบานเกล็ดออกไป
และได้เห็นหมู่คนเขลา
    เราสังเกตเห็นกลุ่มเยาวชนชาย
    โดยเฉพาะหนุ่มไร้สติผู้หนึ่ง
กำลังผ่านไปทางถนนใกล้มุมที่นางอยู่
    แล้วเขาก็ไปตามทางมุ่งสู่บ้านของนาง
ในยามเย็น ยามโพล้เพล้
    ยามค่ำคืน และในยามดึกสงัด
10 ดูเถิด หญิงผู้หนึ่งออกมาพบกับเขา
    นางแต่งกายดั่งหญิงแพศยาที่ใจเต็มด้วยเล่ห์เหลี่ยม
11 ไร้ความอับอาย และดื้อกระด้าง
    เท้าของนางไม่ติดอยู่กับบ้าน
12 ประเดี๋ยวนางก็ไปอยู่ข้างนอก
    ประเดี๋ยวนางก็อยู่ที่ลานชุมนุม
    และนางเฝ้าคอยอยู่ทุกมุม
13 ครั้นแล้ว นางก็คว้าตัวเขามาและจูบเขา
    แล้วพูดกับเขาด้วยสีหน้าที่ปราศจากยางอายว่า
14 “เรามีเครื่องสักการะแห่งสามัคคีธรรม
    วันนี้เราชดใช้ตามคำสาบานแล้ว
15 ฉะนั้น เราจึงได้ออกมาพบกับท่าน
    กระตือรือร้นที่จะหาท่าน
    และเราก็พบท่านแล้ว
16 เราได้ปูที่นอนของเราด้วย
    ผ้าป่านสีจากประเทศอียิปต์
17 เราได้โปรยที่นอนของเราด้วย
    มดยอบ กฤษณา และอบเชย
18 มาเถิด เราไปดื่มด่ำความรักอันเต็มเปี่ยมของเราจนถึงย่ำรุ่งกันเถิด
    เรามาเล้าโลมกันให้สนุกเถิด
19 ด้วยว่าสามีของเราไม่อยู่บ้าน
    และเดินทางออกไปไกลแล้ว
20 เขานำกระเป๋าเงินติดมือไปด้วย
    และจะกลับมาบ้านในวันเดือนหงาย”

21 นางนำให้เขาหลงผิดด้วยคำชักจูงหลายคำของนาง
    นางใช้ริมฝีปากอันระรื่นของนางเล้าโลมเขา
22 เขาเดินตามนางไปทันที
    เสมือนโคที่เดินไปสู่หลักประหาร
หรือกวางเดินเข้าสู่กับดัก
23     จนกระทั่งลูกศรปักทะลุตับของมัน
เสมือนนกที่ถลำเข้าสู่ที่กับดัก
    และเขาก็ไม่รู้เลยว่านี่คือการที่เขาเอาชีวิตเข้าแลก

24 มาบัดนี้ ลูกๆ เอ๋ย จงฟังเรา
    และเอาใจใส่ต่อคำพูดที่ออกจากปากของเรา
25 อย่าให้ใจของเจ้าหันไปสู่ทางของนาง
    หรือหลงไปในวิถีทางของนาง
26 ด้วยว่า มีหลายคนที่นางได้ทำให้เจ็บถึงแก่ความตาย
    นางทำให้พวกเขาล้มลง และคนที่นางฆ่าก็มีจำนวนมาก
27 บ้านของนางเป็นหนทางแห่งแดนคนตาย
    ซึ่งดิ่งลงสู่ห้วงของความตาย

ผู้ที่พบสติปัญญาพบชีวิต

สติปัญญาไม่เรียกหาหรือ
    และการหยั่งรู้ไม่เปล่งเสียงของเธอหรอกหรือ
เธอยืนอยู่บนยอดสูงข้างทาง
    ตรงทางที่บรรจบกัน
และเธอตะโกนอยู่ที่ข้างประตู ทางที่เปิดเข้าสู่ตัวเมือง
    ณ ที่ประตูทางเข้า
“บรรดาผู้ชายเอ๋ย เราเรียกหาเจ้าทุกคน
    และส่งเสียงของเราถึงบรรดามนุษยชาติทั้งปวง
พวกคนเขลาเอ๋ย จงหยั่งรู้ความฉลาดรอบคอบ
    และคนโง่เอ๋ยจงหยั่งรู้จิตใจ
จงฟังเถิด เพราะว่าเราพูดถึงสิ่งประเสริฐ
    ริมฝีปากของเราเปิดเพื่อพูดถึงสิ่งที่ถูกต้อง
ด้วยว่า ปากของเราพูดความจริง
    ปากของเรารังเกียจสิ่งชั่วร้าย
ทุกคำพูดที่ออกจากปากของเราล้วนเป็นความชอบธรรม
    ปราศจากการหลอกลวงและบิดเบือนในคำพูด
เป็นคำพูดที่ตรงสำหรับผู้หยั่งรู้
    และถูกต้องสำหรับบรรดาผู้มีความรู้
10 จงรับคำสั่งสอนของเราแทนการรับเงินเถิด
    และเลือกเอาความรู้มากกว่าทองคำเนื้อดี
11 ด้วยว่าสติปัญญาดีกว่าเพชรนิลจินดา
    และไม่มีสิ่งอันน่าพึงปรารถนาใดๆ จะเปรียบเทียบกับเธอได้

12 เราคือสติปัญญา เราอยู่ในความฉลาดรอบคอบ
    และเราพบกับความรู้และปฏิภาณ
13 ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือการเกลียดชังความชั่วช้า
    เราเกลียดชังความหยิ่งยโส ความหยิ่งผยอง
    การกระทำอันชั่วร้าย และพูดจาบิดเบือน
14 คำแนะนำและสติปัญญาอันบริบูรณ์เป็นของเรา
    เรามีการหยั่งรู้ พละกำลังเป็นของเรา
15 บรรดากษัตริย์พึ่งเราในการครองราชย์
    และผู้อยู่ในระดับปกครองก็ออกกฎด้วยความชอบธรรม
16 บรรดาราชโอรสพึ่งเราในการปกครอง
    และบรรดาผู้มีอำนาจทุกท่านปกครองด้วยความเป็นธรรม
17 เรารักบรรดาผู้ที่รักเรา
    และบรรดาผู้ที่หมั่นเพียรค้นหาเราก็จะพบเรา
18 ความมั่งมีและเกียรติยศอยู่กับเรา
    รวมทั้งความมั่งคั่งและความชอบธรรม
19 ผลของเราดีกว่าทองคำ หรือแม้แต่ทองบริสุทธิ์
    และได้ผลผลิตที่ดีกว่าเงินเนื้อดี
20 เราเดินในทางแห่งความชอบธรรม
    ท่ามกลางเส้นทางแห่งความยุติธรรม
21 เพื่อให้ความมั่งมีแก่คนที่รักเรา
    และเราจะเติมคลังของพวกเขาให้เต็ม

22 พระผู้เป็นเจ้าสร้างเราขึ้นมาตั้งแต่ปฐมกาลแห่งการสร้างสรรค์ของพระองค์
    นับแต่เริ่มแรกงานของพระองค์
23 เราถูกสร้างสรรค์ขึ้นก่อนกาลใดๆ
    จากยุคปฐมกาลและก่อนเริ่มแรกของแผ่นดินโลก
24 เมื่อครั้งที่ยังไม่มีทะเลลึก
    ไม่มีน้ำพุอันเป็นแหล่งน้ำ เราก็ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว
25 ก่อนที่เทือกเขาจะตั้งมั่น
    และก่อนที่จะมีภูเขาลูกน้อยๆ เราก็กำเนิดแล้ว
26 ก่อนที่พระองค์จะสร้างแผ่นดิน
    ทุ่งโล่งและผงธุลีแรกของโลก
27 เมื่อพระองค์สร้างฟ้าสวรรค์ เราก็อยู่ที่นั่น
    เมื่อพระองค์ขีดเส้นโค้งเหนือผิวทะเลลึก
28 เมื่อพระองค์วางก้อนเมฆไว้บนท้องฟ้า
    และทำให้น้ำพุแห่งทะเลลึกมั่นคงขึ้น
29 เมื่อพระองค์จำกัดขอบเขตทะเล
    เพื่อน้ำจะไม่ล่วงล้ำคำสั่งของพระองค์
เมื่อพระองค์ขีดเส้นฐานรากของแผ่นดินโลก
30     และเราอยู่เคียงข้างพระองค์ดั่งนักออกแบบผู้มีฝีมือ
และพระองค์ยินดีในตัวเราทุกวัน
    สุขสำราญ ณ เบื้องหน้าพระองค์ตลอดเวลา
31 สุขสำราญอยู่บนแผ่นดินโลกของพระองค์
    และมีความยินดีในบรรดามนุษยชาติ

32 บัดนี้ ลูกๆ เอ๋ย จงฟังเรา
    บรรดาผู้เดินตามวิถีทางของเราก็เป็นสุข
33 จงฟังคำสั่งสอนและจงมีสติปัญญา
    อย่าละเลยเสีย
34 โอ ความสุขเป็นของคนที่ฟังเรา
    และเฝ้าระวังอยู่ที่ประตูทุกวัน
    รอคอยอยู่ที่ทางเข้าออกของเรา
35 ด้วยว่า คนที่พบเราก็พบชีวิต
    และได้รับความโปรดปรานจากพระผู้เป็นเจ้า
36 แต่คนที่กระทำผิดต่อเราก็ทำร้ายตนเอง
    ทุกคนที่เกลียดชังเราก็รักความตาย”

ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือการเริ่มต้นของสติปัญญา

สติปัญญาได้สร้างบ้านของเธอเองแล้ว
    เธอได้สกัดหลักค้ำทั้งเจ็ดให้ตั้งตระหง่าน
เธอได้เตรียมฉลองโดยฆ่าสัตว์และผสมเหล้าองุ่น
    เธอจัดโต๊ะไว้ด้วย
เธอได้ส่งสาวใช้ออกไป เธอร้องเรียก
    จากยอดสูงสุดในตัวเมืองว่า
    “ให้บรรดาคนเขลาหันมาทางนี้”
เธอพูดกับคนสิ้นคิดว่า
    “มาเถิด มารับประทานอาหารของเรา
    และดื่มเหล้าองุ่นที่เราผสมไว้แล้ว
จงเลิกจากวิถีทางอันเขลา แล้วจงมีชีวิต
    และดำเนินต่อไปในการหยั่งรู้”
ผู้ตักเตือนคนเย้ยหยันจะได้รับการดูถูกกลับมา
    และผู้ห้ามปรามคนชั่วร้ายจะได้รับการสบประมาท
อย่าตักเตือนว่ากล่าวคนเย้ยหยัน เพราะเขาจะเกลียดเจ้า
    จงตักเตือนว่ากล่าวคนที่มีสติปัญญา แล้วเขาจะรักเจ้า
จงให้คำแนะนำแก่ผู้มีสติปัญญา แล้วเขาก็จะเป็นผู้มีสติปัญญายิ่งขึ้น
    จงสอนผู้มีความชอบธรรม แล้วเขาก็จะเพิ่มพูนการเรียนรู้

10 ความเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าคือจุดเริ่มต้นของสติปัญญา
    และการเรียนรู้วิถีขององค์ผู้บริสุทธิ์คือการหยั่งรู้
11 ด้วยว่า จำนวนวันของเจ้าจะทวีขึ้นได้ก็เพราะเรา
    และจำนวนปีแห่งชีวิตจะเพิ่มพูนขึ้นแก่เจ้า
12 ถ้าเจ้ามีสติปัญญาดี เจ้าก็มีสติปัญญาเพื่อตัวของเจ้าเอง
    ถ้าเจ้าเย้ยหยัน เจ้าก็จะต้องทนทุกข์เอง

13 หญิงโง่ส่งเสียงดัง
    เสเพลและไม่รู้สึกละอาย
14 นางนั่งอยู่ที่ทางเข้าบ้านของนาง
    บนที่นั่งจากยอดสูงสุดในตัวเมือง
15 นางร้องเรียกบรรดาผู้ที่กำลังผ่านมา
    และกำลังไปตามทางของเขาว่า
16     “ให้พวกคนเขลาหันมาทางนี้”
และนางพูดกับคนสิ้นคิดว่า
17     “น้ำที่ขโมยมาได้นั้นหวาน
    และอาหารที่กินในที่ลับก็อร่อย”
18 แต่เขาไม่รู้ว่าบรรดาคนตายอยู่ที่นั่น
    และผู้ที่เป็นแขกของนางตกอยู่ในแดนคนตาย

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation