Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
สดุดี 86-89

โปรดสดับคำอธิษฐาน และสอนวิถีทางของพระองค์

คำอธิษฐานของดาวิด

โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดเงี่ยหูของพระองค์ และตอบข้าพเจ้าเถิด
    เพราะข้าพเจ้าขัดสนและยากไร้
ปกป้องชีวิตข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้ามีใจภักดี
    ช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ที่ไว้วางใจในพระองค์ให้รอดพ้นเถิด พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า
โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดเมตตาข้าพเจ้า
    เพราะข้าพเจ้าส่งเสียงร้องต่อพระองค์ตลอดวันเวลา
ให้จิตวิญญาณผู้รับใช้ของพระองค์ยินดีเถิด โอ พระผู้เป็นเจ้า
    จิตวิญญาณข้าพเจ้าอธิษฐานต่อพระองค์
โอ พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ประเสริฐ และให้อภัยเสมอ
    อุดมด้วยความรักอันมั่นคงต่อทุกคนที่ร้องเรียกถึงพระองค์
โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดสดับคำอธิษฐานของข้าพเจ้า
    และฟังคำอ้อนวอนขอความเมตตาของข้าพเจ้า
เวลาข้าพเจ้าทุกข์ยาก ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์
    เพราะพระองค์ตอบข้าพเจ้า

โอ พระผู้เป็นเจ้า ไม่มีผู้ใดในปวงเทพเจ้าที่เป็นเหมือนพระองค์
    และไม่มีกิจการใดๆ เหมือนของพระองค์
โอ พระผู้เป็นเจ้า ประชาชาติทั้งปวงที่พระองค์สร้างจะมา
    และก้มลงกราบ ณ เบื้องหน้าพระองค์
    และพวกเขาจะยกย่องพระนามของพระองค์
10 พระองค์ยิ่งใหญ่และกระทำสิ่งอัศจรรย์
    พระองค์เป็นพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
11 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดสอนวิถีทางของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะได้เดินในความสัตย์จริงของพระองค์
    ให้ข้าพเจ้ายำเกรงพระนามของพระองค์โดยไม่เขวไป
12 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอบคุณพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ
    และข้าพเจ้ายกย่องพระนามของพระองค์ไปตลอดกาล
13 เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อข้าพเจ้านั้นใหญ่ยิ่งนัก
    พระองค์ได้ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากส่วนลึกสุดของแดนคนตาย

14 โอ พระเจ้า พวกที่หยิ่งยโสลุกขึ้นต่อต้านข้าพเจ้า
    คนโหดเหี้ยมตามล่าเอาชีวิตข้าพเจ้า
    คนพวกนี้ไม่คิดถึงพระองค์เลย
15 พระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความสงสารและเมตตา
    ไม่โกรธง่าย แต่อุดมด้วยความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริง
16 โปรดหันมาและมีเมตตาต่อข้าพเจ้า
    ให้พละกำลังของพระองค์แก่ผู้รับใช้ของพระองค์
    และช่วยบุตรของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์ให้รอดพ้นเถิด
17 โปรดให้ข้าพเจ้าเห็นปรากฏการณ์อันแสดงว่าพระองค์โปรดปรานข้าพเจ้า
    เพื่อพวกที่เกลียดชังข้าพเจ้าจะได้เห็นและอับอาย
    โอ พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ได้ช่วยเหลือและปลอบใจข้าพเจ้า

ศิโยน แหล่งกำเนิดของประชาชาติ

ของตระกูลโคราห์ เพลงสดุดี บทเพลง

พระองค์ตั้งฐานรากไว้บนเทือกเขาอันบริสุทธิ์
พระผู้เป็นเจ้ารักประตูของศิโยน
    มากกว่าที่อาศัยทุกแห่งของยาโคบ
โอ เมืองของพระเจ้าเอ๋ย
    เจ้าเป็นที่กล่าวขวัญอย่างน่าสรรเสริญ เซล่าห์

“เราจะประกาศว่า ราหับ[a]และบาบิโลนอยู่ในกลุ่มผู้ที่รู้จักเรา
    แม้แต่ฟีลิสเตีย ไทระ และคูชด้วย
    แล้วจะพูดว่า ‘คนนี้เกิดที่นั่น’”
และจะพูดถึงศิโยนว่า
    “ทุกคนเกิดที่นั่น”
    เพราะองค์ผู้สูงสุดจะเป็นผู้สร้างเมืองนั้น
พระผู้เป็นเจ้าบันทึกในทะเบียนของบรรดาชนชาติว่า
    “คนนี้เกิดที่นั่น” เซล่าห์

บรรดานักร้องและนักร่ายรำต่างพูดกันว่า
    “น้ำพุทั้งหมดของเราอยู่ในศิโยน”

ร้องขอความช่วยเหลือในนาทีวิกฤตของชีวิต

บทเพลง เพลงสดุดีของตระกูลโคราห์ ถึงหัวหน้าวงดนตรีตามเสียงปี่เศร้าโศกา เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของเฮมาน ชาวเอศราค

โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าแห่งความรอดพ้นของข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือทุกวี่วัน และปรากฏตัวต่อหน้าพระองค์ทุกค่ำคืน
ให้คำอธิษฐานของข้าพเจ้ามาอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
    โปรดเงี่ยหูฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า

เพราะจิตวิญญาณของข้าพเจ้าท่วมท้นด้วยความทุกข์
    และชีวิตข้าพเจ้าอยู่ใกล้แดนคนตาย
ข้าพเจ้าถูกนับอยู่ในพวกที่ลงไปในหลุมลึก
    เป็นเหมือนชายที่ไร้กำลัง
เหมือนคนที่ถูกทอดทิ้งไว้กับพวกที่ลงไปยังหลุมลึกแห่งแดนคนตาย
    เหมือนคนถูกแทงที่กำลังนอนอยู่ในหลุมศพ
ซึ่งพระองค์ไม่ระลึกถึงอีกแล้ว
    และถูกตัดขาดจากการดูแลของพระองค์
พระองค์ให้ข้าพเจ้าไปอยู่ที่ก้นหลุมลึก
    ในที่อันมืดมิด ในห้วงน้ำลึก
ข้าพเจ้ารู้สึกว่าพระองค์โกรธเกรี้ยวข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าตั้งตัวไม่ติดเนื่องจากความโกรธของพระองค์ที่เป็นดั่งคลื่นหลายลูก เซล่าห์

พระองค์ทำให้บรรดาเพื่อนสนิทห่างเหินไปจากข้าพเจ้า
    พระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเป็นที่น่าขยะแขยงต่อพวกเขา
ข้าพเจ้าถูกกักขังและไม่อาจหลบหนีไปได้
    นัยน์ตาข้าพเจ้าพร่าไปด้วยความเศร้า
โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าร้องเรียกถึงพระองค์ทุกวี่ทุกวัน
    ข้าพเจ้าชูมือขึ้นถึงพระองค์
10 พระองค์แสดงสิ่งอัศจรรย์เพื่อคนตายหรือ
    แล้วพวกเขาลุกขึ้นสรรเสริญพระองค์ได้หรือ เซล่าห์
11 ความรักอันมั่นคงของพระองค์ถูกประกาศไว้ในหลุมศพหรือ
    และความสัตย์จริงของพระองค์ในความวิบัติหรือ
12 สิ่งอัศจรรย์ของพระองค์เป็นที่รู้จักในความมืดมิดหรือ
    และความชอบธรรมของพระองค์ในดินแดนที่ถูกลืมหรือ

13 โอ พระผู้เป็นเจ้า สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
    ในยามเช้า คำอธิษฐานของข้าพเจ้าอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
14 โอ พระผู้เป็นเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งข้าพเจ้า
    ทำไมพระองค์จึงซ่อนหน้าไปเสียจากข้าพเจ้า
15 นับแต่ครั้งยังเยาว์ ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เจียนตาย
    ข้าพเจ้ารับโทษอันน่ากลัวจากพระองค์จนสิ้นหวัง
16 ความโกรธเกรี้ยวอันร้อนแรงของพระองค์โถมเข้าใส่ข้าพเจ้า
    การกระทำอันน่าสะพรึงกลัวของพระองค์ได้ทำลายข้าพเจ้า
17 ดั่งมีน้ำอยู่ล้อมรอบตัวข้าพเจ้าตลอดวันเวลา
    มันท่วมเสียจนมิดหัวข้าพเจ้า
18 พระองค์ทำให้มิตรสหายและคนรักห่างเหินไปจากข้าพเจ้า
    เพื่อนสนิทข้าพเจ้าคือความมืด

ความรักอันมั่นคงของพระเจ้า

เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของเอธาน ชาวเอศราค

ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักอันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้าไปตลอดกาล
    ข้าพเจ้าจะทำให้ความสัตย์จริงของพระองค์เป็นที่รู้จักไปทุกกาลสมัยด้วยปากของข้าพเจ้า
เพราะข้าพเจ้าได้ประกาศแล้วว่า ความรักอันมั่นคงของพระองค์จะยืนยงตลอดกาล
    พระองค์สร้างความสัตย์จริงอย่างมั่นคงในฟ้าสวรรค์
พระองค์กล่าวว่า “เราได้ทำพันธสัญญากับผู้ที่ได้รับเลือกไว้
    เราได้ปฏิญาณกับดาวิด ผู้รับใช้ของเรา
‘เราจะทำให้เชื้อสายของเจ้าสืบต่อกันไปจนชั่วนิรันดร์กาล
    ทำให้บัลลังก์ของเจ้ามั่นคงทุกชั่วอายุคน’” เซล่าห์

โอ พระผู้เป็นเจ้า สวรรค์ได้สรรเสริญการกระทำอัศจรรย์ของพระองค์
    และความสัตย์จริงของพระองค์ในที่ประชุมของผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย
ด้วยว่า จะหาใครในสวรรค์ที่เท่าเทียมกับพระผู้เป็นเจ้าได้
    ใครบ้างในหมู่ชาวสวรรค์ที่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าเป็นที่น่าเกรงขามอย่างยิ่งในสภาของผู้บริสุทธิ์ทั้งปวง
    ยิ่งใหญ่และเยี่ยมยอดเหนือกว่าใครๆ ที่อยู่รอบข้างพระองค์
พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา
    ใครบ้างเป็นเหมือนพระองค์ พระองค์มีมหิทธานุภาพ โอ พระผู้เป็นเจ้า
    และความสัตย์จริงของพระองค์อยู่โดยรอบพระองค์
คลื่นทะเลอยู่ภายใต้การควบคุมของพระองค์
    เวลาคลื่นสูงขึ้น พระองค์ก็ทำให้สงบลง
10 พระองค์ปราบราหับ[b]จนราบคาบอย่างซากศพ
    พระองค์ทำให้พวกศัตรูกระเจิดกระเจิงด้วยอานุภาพของพระองค์
11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ แผ่นดินโลกก็เช่นกัน
    พระองค์ก่อตั้งโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลกขึ้นมา
12 พระองค์สร้างทิศเหนือและทิศใต้
    ภูเขาทาโบร์และเฮอร์โมนสรรเสริญพระนามของพระองค์ด้วยความยินดี
13 แขนของพระองค์กอปรด้วยฤทธานุภาพ
    มือพระองค์มีพละกำลัง และมือขวายกขึ้นสูง
14 ความชอบธรรมและความเป็นธรรมคือรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
    ความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงตั้งอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
15 ชนชาติที่รู้จักร้องเพลงสรรเสริญก็เป็นสุข
    โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะดำเนินชีวิตในความสว่างของพระองค์
16 เขาจะรื่นเริงใจในพระนามของพระองค์ตลอดวันเวลา
    และจะโห่ร้องในความชอบธรรมของพระองค์
17 เพราะพระองค์เป็นพระบารมีแห่งพละกำลังของพวกเขา
    พระองค์โปรดปรานที่จะชูพละกำลังของพวกเรา
18 โล่ป้องกันเราเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
    กษัตริย์เราเป็นขององค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล

19 นานมาแล้ว พระองค์กล่าวกับผู้ภักดีของพระองค์ในภาพนิมิตว่า
    “เราให้ความช่วยเหลือแก่ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง
    เรายกคนหนึ่งที่ได้เลือกไว้ขึ้นจากชนชาติ
20 เราได้พบดาวิดผู้รับใช้ของเรา
    เราเจิมเขาด้วยน้ำมันอันบริสุทธิ์
21 มือของเราจะค้ำจุนเขาอย่างมั่นคง
    และแขนของเราจะทำให้เขาเก่งกาจ
22 ไม่มีศัตรูใดๆ จะเอาชนะเขาได้
    ไม่มีคนชั่วคนไหนที่จะลบหลู่เขาได้
23 เราจะขยี้พวกข้าศึกต่อหน้าเขา
    และฆ่าคนที่เกลียดชังเขา
24 ความสัตย์จริงและความรักอันมั่นคงของเราจะอยู่กับเขา
    พละกำลังของเขาจะถูกเชิดชูโดยนามของเรา
25 เราจะวางมือข้างหนึ่งของเขาที่ทะเล
    และมือขวาของเขาวางที่แม่น้ำ
26 เขาจะส่งเสียงร้องถึงเราว่า ‘พระองค์เป็นบิดาของข้าพเจ้า
    พระเจ้าของข้าพเจ้า และศิลาแห่งความรอดพ้นของข้าพเจ้า’
27 เราจะให้เขาเป็นบุตรหัวปีของเรา
    ผู้อยู่เหนือบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลก
28 เราจะรักษาความรักอันมั่นคงของเราเพื่อเขาไปตลอดกาล
    พันธสัญญาของเราที่มีต่อเขาจะมั่นคง
29 เราจะสถาปนาเชื้อสายของเขาให้สืบต่อกันไปตลอดกาล
    บัลลังก์ของเขาจะยืนยงตราบที่ท้องฟ้าจะคงอยู่
30 หากว่าผู้สืบเชื้อสายของเขาละเลยกฎบัญญัติของเรา
    และไม่ดำเนินตามคำสั่งของเรา
31 ถ้าพวกเขาฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของเรา
    และไม่รักษาบัญญัติของเรา
32 เราจะลงโทษบาปของพวกเขาด้วยไม้เรียว
    และความชั่วด้วยการเฆี่ยน
33 แต่เราจะไม่พรากความรักอันมั่นคงของเราไปจากดาวิด
    และไม่คืนความสัตย์จริงที่เรามีต่อเขา
34 เราจะไม่ฝ่าฝืนพันธสัญญาของเรา
    หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราได้สัญญาไว้
35 เราได้ปฏิญาณในความบริสุทธิ์ของเราไว้ครั้งเดียวเป็นพอ
    เราไม่หลอกลวงดาวิด
36 เชื้อสายของเขาจะคงอยู่ไปตลอดกาล
    และบัลลังก์ของเขาเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ส่อง ณ เบื้องหน้าเรา
37 และจะได้รับการสถาปนาตลอดกาลอย่างดวงจันทร์
    ที่เป็นพยานอันมั่นคง[c]บนท้องฟ้า” เซล่าห์

38 แต่พระองค์ปฏิเสธและไม่ใยดี
    พระองค์กริ้วผู้ที่พระองค์เจิม
39 พระองค์ยกเลิกพันธสัญญากับผู้รับใช้ของพระองค์
    และทำให้มงกุฎของท่านเป็นมลทิน ตกอยู่ในกองธุลี
40 พระองค์ทลายกำแพงเมืองของท่านลงทุกด้าน
    และทิ้งให้หลักอันแข็งแกร่งต้องพังทลายลง
41 ทุกคนที่ผ่านมาก็ริบทุกสิ่งไปจากท่าน
    ท่านกลายเป็นที่ถูกดูหมิ่นของบรรดาเพื่อนบ้าน
42 พระองค์ได้ยกชูมือขวาของข้าศึกของท่าน
    พระองค์ทำให้ศัตรูทั้งปวงของท่านยินดี
43 พระองค์หันคมดาบของท่าน
    และไม่ช่วยท่านในการสงคราม
44 พระองค์ยุติความยิ่งใหญ่ของท่านลง
    และล้มบัลลังก์ของท่านลงสู่พื้นดิน
45 พระองค์ทำให้วันเวลาในวัยหนุ่มของท่านสั้นลง
    พระองค์ให้ท่านสวมใส่ความอับอาย เซล่าห์

46 โอ พระผู้เป็นเจ้า นานเพียงไร พระองค์จะซ่อนไปตลอดกาลหรือ
    ความกริ้วของพระองค์จะลุกเป็นไฟนานเพียงไร
47 ขอพระองค์ระลึกเถิดว่า ชีวิตคนอยู่ได้นานเพียงไร
    พระองค์ได้สร้างบรรดามนุษยชาติโดยเปล่าประโยชน์เพียงไร
48 มนุษย์คนไหนมีชีวิตอยู่โดยไม่เห็นความตาย
    หรือช่วยชีวิตของตนให้พ้นจากเงื้อมมือของแดนคนตาย เซล่าห์

49 โอ พระผู้เป็นเจ้า ความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่เคยสำแดงเป็นคำปฏิญาณ
    ที่พระองค์ได้ทำไว้กับดาวิดอยู่ที่ไหนแล้ว
50 พระผู้เป็นเจ้า ขอระลึกถึงผู้รับใช้ที่ถูกเย้ยหยัน
    และความรู้สึกในใจที่ข้าพเจ้าต้องรับแบกเพราะการดูหมิ่นของชนชาติจำนวนมาก
51 โอ พระผู้เป็นเจ้า เป็นพวกศัตรูของพระองค์ที่เย้ยหยัน
    เขาเย้ยหยันผู้ได้รับการเจิมของพระองค์ทุกฝีก้าว

52 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์
อาเมน และอาเมน

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation