Beginning
อธิษฐานให้ชนชาติของพระองค์รอดพ้นจากศัตรู
เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของอาสาฟ
1 โอ พระเจ้า ทำไมพระองค์จึงทอดทิ้งพวกเราไปตลอดกาล
ทำไมความกริ้วของพระองค์จึงปะทุขึ้นต่อฝูงแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
2 โปรดระลึกถึงคนของพระองค์ที่ได้เลือกไว้แต่เก่าก่อน
ที่พระองค์ได้ไถ่ให้เป็นเผ่าพันธุ์ของผู้สืบมรดกของพระองค์
โปรดระลึกถึงภูเขาศิโยน อันเป็นที่ซึ่งพระองค์เคยพำนัก
3 โปรดก้าวเท้าไปสำรวจสิ่งที่ปรักหักพังเป็นนิตย์
พวกศัตรูได้ทำลายทุกสิ่งในสถานที่บริสุทธิ์
4 พวกข้าศึกได้ตะโกนร้องด้วยชัยชนะท่ามกลางที่ประชุมของพระองค์
พวกเขาตั้งธงชัยขึ้นเป็นสัญลักษณ์ของเขาเอง
5 ดูเหมือนว่าพวกเขายกขวานขึ้น
จามไม้ในป่าทึบ
6 ในทันใดนั้นเขาก็ทำลายส่วนที่เป็นไม้สลักทั้งหมดลง
ด้วยขวานและค้อน
7 พวกเขาเอาไฟเผาที่พำนักของพระองค์
เขาทำให้สถานที่อันเป็นที่ซึ่งพระองค์ได้รับการนมัสการเป็นมลทินไปทุกกระเบียดนิ้ว
8 พวกเขาคิดอยู่ในใจว่า “เรามาทำให้พวกเขาพินาศย่อยยับกันเถิด”
แล้วเขาก็เผาสถานที่ประชุมของพระเจ้าทุกแห่งในแผ่นดิน
9 พวกเราไม่เห็นสัญลักษณ์สำหรับพวกเราเลย
ไม่มีผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าอีกแล้ว
และไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเราทราบว่าจะเป็นเวลานานแค่ไหน
10 โอ พระเจ้า นานเพียงไรที่ศัตรูจะเยาะเย้ยพระองค์
พวกเขาจะดูถูกพระนามของพระองค์ไปตลอดกาลหรือ
11 ทำไมพระองค์จึงยั้งมือขวาของพระองค์ไว้
ยื่นมือออกจากทรวงอกของพระองค์เถิด ทำลายให้จบสิ้นไป
12 โอ พระเจ้า กษัตริย์ของข้าพเจ้าแต่ก่อนเก่า
พระองค์นำความรอดพ้นมายังแผ่นดินโลก
13 พระองค์แยกน้ำทะเลออกด้วยอานุภาพของพระองค์
พระองค์หักหัวฝูงมังกรในน้ำ
14 พระองค์ขยี้หัวตัวเหรา[a]
พระองค์ให้มันเป็นอาหารสำหรับสัตว์ในทะเลทราย
15 พระองค์ทำให้น้ำพุและลำธารมีน้ำไหลพุ่ง
พระองค์ทำให้แม่น้ำที่ไหลอยู่เหือดแห้ง
16 กลางวันเป็นของพระองค์ และกลางคืนก็ยังคงเป็นของพระองค์เช่นกัน
พระองค์สร้างดวงจันทร์และดวงอาทิตย์
17 พระองค์กำหนดเขตแดนของทุกสิ่งบนโลก
ให้มีฤดูร้อนและฤดูหนาว
18 โอ พระผู้เป็นเจ้า ขอพระองค์ตระหนักด้วยว่า พวกศัตรูหัวเราะเยาะพระองค์
และคนโง่พากันเย้ยหยันพระนามของพระองค์
19 อย่ายกชีวิตนกพิราบของพระองค์ให้พวกสัตว์ป่า
อย่าลืมชีวิตของคนยากจนของพระองค์โดยสิ้นเชิง
20 โปรดคำนึงถึงพันธสัญญาของพระองค์
เพราะทุกมุมมืดเต็มด้วยการกระทำอันรุนแรง
21 อย่าปล่อยให้คนที่ถูกบีบบังคับต้องถูกเหยียดหยาม
ให้ผู้ขัดสนและผู้ยากไร้สรรเสริญพระนามของพระองค์
22 โอ พระเจ้า พระองค์โปรดลุกขึ้นสู้ความ
ตระหนักเถิดว่าคนเขลาหัวเราะเยาะพระองค์ตลอดวันเวลา
23 อย่าลืมเสียงร้องของศัตรูของพระองค์
มันคือเสียงก่อกวนของฝ่ายตรงข้ามที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน
พระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน
ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนอง “อย่าทำลาย” เพลงสดุดีของอาสาฟ บทเพลง
1 พวกเราขอบคุณพระองค์ โอ พระเจ้า
พวกเราขอบคุณเพราะพระองค์อยู่ใกล้
ผู้คนประกาศถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์กระทำ
2 พระองค์กล่าวว่า “เราจะเลือกเวลาตามที่ได้กำหนดไว้
เราจะตัดสินด้วยความชอบธรรม
3 เมื่อแผ่นดินโลกและสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกสั่นไหว
เรานั่นแหละเป็นผู้ทำให้ฐานรากมั่นคงไว้ เซล่าห์
4 เราบอกคนขี้อวดว่า ‘อย่าโอ้อวดเลย’
และบอกคนชั่วว่า ‘อย่าเอาพละกำลังของเจ้ามาอวดอ้างเลย
5 อย่ายกพละกำลังของเจ้าขึ้นมาเหนือสิ่งอื่น
หรือเชิดหน้าเวลาพูดจา’”
6 เพราะว่าไม่มีผู้ใดจากทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตก
หรือจากถิ่นทุรกันดารที่จะถูกเชิดจนสูงขึ้นได้
7 เพราะพระเจ้าเป็นผู้ตัดสิน
พระองค์ทำให้คนหนึ่งถ่อมลง และให้อีกคนได้รับการยกย่อง
8 เพราะถ้วยอยู่ในมือของพระผู้เป็นเจ้า
มีเหล้าองุ่นผสมไว้ผุดเป็นฟอง
เวลาพระองค์เทออก พวกคนชั่วทั้งปวงบนแผ่นดินโลกก็พากันดื่ม
อย่างแน่นอน ดื่มจนเกลี้ยง
ไม่เหลือแม้ก้นตะกอนด้วยซ้ำ
9 สำหรับข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะประกาศไปตลอดกาล
ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าของยาโคบ
10 พระองค์จะกำจัดพละกำลังทั้งหมดของคนชั่วร้าย
ส่วนพละกำลังของบรรดาผู้มีความชอบธรรมจะถูกเชิดชูขึ้น
การตัดสินของพระเจ้าผู้มีมหิทธานุภาพ
ถึงหัวหน้าวงดนตรี ด้วยเครื่องสาย เพลงสดุดีของอาสาฟ บทเพลง
1 พระเจ้าเป็นที่รู้จักในยูดาห์
พระนามของพระองค์ใหญ่ยิ่งในอิสราเอล
2 กระโจมของพระองค์อยู่ในซาเล็ม[b]
และที่พำนักของพระองค์อยู่ในศิโยน
3 ณ ที่นั่น พระองค์หักลูกธนูที่กำลังลุกเป็นไฟ
ทั้งโล่ ดาบ และอาวุธยุทธภัณฑ์ เซล่าห์
4 พระองค์สง่างาม
ยิ่งใหญ่กว่าเทือกเขาแห่งนิรันดร์กาล
5 พวกทหารใจเด็ดถูกริบข้าวของจนหมดสิ้น
พวกเขาหลับอยู่ในความตาย
ไม่มีชายผู้กล้าหาญสักคน
ที่สามารถขยับมือได้
6 โอ พระเจ้าของยาโคบ เมื่อพระองค์บอกห้าม
ทั้งม้าและคนขับรถศึกต่างก็นอนตาย
7 โอ พระองค์ พระองค์เป็นที่น่าเกรงขาม
ใครจะสามารถยืน ณ เบื้องหน้าพระองค์ได้เวลาพระองค์กริ้ว
8 พระองค์ประกาศคำตัดสินจากสวรรค์
แผ่นดินโลกเกรงกลัวและเงียบสนิท
9 โอ พระเจ้า เวลาพระองค์ลุกขึ้นตัดสิน
เพื่อให้ผู้ถูกบีบบังคับทั้งปวงบนแผ่นดินโลกรอดพ้น เซล่าห์
10 ด้วยว่า ความฉุนเฉียวของมนุษย์กลับกลายเป็นคำสรรเสริญพระองค์
และความเดือดดาลที่ยังหลงเหลืออยู่นั้น กลับกลายเป็นเครื่องประดับของพระองค์
11 จงทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
ให้ทุกคนที่อยู่รายรอบพระองค์
นำเครื่องบรรณาการมาถวายแด่องค์ผู้น่าเกรงขาม
12 พระองค์ทำให้บรรดาผู้ปกครองบ้านเมืองถูกเหยียดลง
และทำให้บรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลกยำเกรงพระองค์
อุ่นใจเมื่อระลึกถึงความเมตตาของพระเจ้า
ถึงหัวหน้าวงดนตรี ตามทำนองของเยดูธูน เพลงสดุดีของอาสาฟ
1 ข้าพเจ้าส่งเสียงร้องถึงพระเจ้า
ส่งเสียงร้องถึงพระเจ้า หวังจะให้พระองค์ได้ยินข้าพเจ้า
2 ในวันอันทุกข์ยากข้าพเจ้าแสวงหาพระผู้เป็นเจ้า
ในยามค่ำคืนข้าพเจ้ายกมือขึ้นอย่างไม่อ่อนล้า
แต่จิตวิญญาณของข้าพเจ้าไม่ยอมรับการปลอบประโลม
3 ข้าพเจ้าระลึกถึงพระเจ้า และคร่ำครวญ
ข้าพเจ้าใคร่ครวญ แต่วิญญาณของข้าพเจ้าอ่อนระโหย เซล่าห์
4 พระองค์ทำให้ข้าพเจ้ามิอาจหลับตาลงได้
ข้าพเจ้าเป็นทุกข์หนักจนมิอาจเอ่ยปากได้
5 ข้าพเจ้าคิดย้อนไปในวันเก่าๆ
ระลึกถึงปีก่อนๆ ที่เกิดขึ้นนานมาแล้ว
6 ยามราตรีข้าพเจ้าระลึกถึงเพลง
และจะใคร่ครวญอยู่ในใจ
และวิญญาณข้าพเจ้าหมั่นแสวงหา
7 “พระผู้เป็นเจ้าจะปฏิเสธพวกเราเสมอไป
และจะไม่มีวันโปรดปรานอีกต่อไปหรือ
8 ความรักอันมั่นคงของพระองค์จบลงโดยสิ้นเชิงแล้วหรือ
ความสัตย์จริงของพระองค์จะสิ้นความหมายไปแล้วในทุกยุคทุกสมัยหรือ
9 พระเจ้าลืมความกรุณาเสียแล้วหรือ
ความกริ้วของพระองค์ปิดกั้นความสงสารของพระองค์ไปแล้วหรือ” เซล่าห์
10 ดังนั้น สิ่งที่ข้าพเจ้าจะกล่าวก็คือ
“ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าเสียนี่กระไร อานุภาพอันยิ่งใหญ่ขององค์ผู้สูงสุดเปลี่ยนไปเสียแล้ว”
11 ข้าพเจ้าจะนึกถึงสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากระทำ
เพราะข้าพเจ้าจะจำสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์แต่ครั้งเก่าก่อนได้
12 ข้าพเจ้าตริตรองถึงการงานของพระองค์
และใคร่ครวญถึงการกระทำอันเต็มด้วยอานุภาพของพระองค์
13 โอ พระเจ้า วิถีทางของพระองค์บริสุทธิ์
มีเทพเจ้าใดที่ยิ่งใหญ่เท่าเทียมกับพระเจ้าของเรา
14 พระองค์เป็นพระเจ้าผู้แสดงสิ่งมหัศจรรย์
พระองค์ให้พละกำลังเป็นที่ประจักษ์ในบรรดาชนชาติ
15 ด้วยอานุภาพของพระองค์ พระองค์ไถ่ชนชาติของพระองค์
คือลูกหลานของยาโคบและโยเซฟ เซล่าห์
16 เมื่อน่านน้ำแลเห็นพระองค์ โอ พระเจ้า
เมื่อน่านน้ำแลเห็นพระองค์ก็ยำเกรง
และห้วงน้ำลึกสั่นสะเทือน
17 หมู่เมฆหลั่งฝน
ท้องฟ้าส่งเสียงครืนครั่น
ฟ้าแลบแปลบปลาบไปทั่วทุกแห่งหน
18 เสียงฟ้าร้องครืนครั่นมากับพายุหมุน
ประกายจากสายฟ้าทำให้โลกกระจ่าง
แผ่นดินโลกสั่นสะเทือนและสั่นไหว
19 พระองค์นำทางผ่านท้องทะเลไป
พระองค์ก้าวผ่านไปทางทะเลลึก
ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีใครเห็นรอยเท้าของพระองค์
20 พระองค์นำคนของพระองค์ไปเหมือนนำฝูงแกะ
โดยมีโมเสสและอาโรนเป็นผู้บัญชาการ
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation