Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 พงศาวดาร 28-31

กษัตริย์อาหัสปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 16:1-20)

28 อาหัสมีอายุยี่สิบปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มสิบหกปี เขาไม่เหมือนกับดาวิดบรรพบุรุษของเขา เขาไม่ได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ อาหัสเจริญรอยตามพวกกษัตริย์ของชนชาติอิสราเอล และยังหล่อพวกรูปเคารพขึ้นมา เพื่อสักการะบูชาพระบาอัลด้วย เขาเผาเครื่องบูชาในหุบเขาเบนฮินโนม[a] และเอาพวกลูกชายของเขาไปเผาไฟเป็นเครื่องบูชา เลียนแบบการกระทำอันน่าขยะแขยงของพวกชนชาติทั้งหลาย ที่พระยาห์เวห์ได้ขับไล่ออกไปตอนที่อิสราเอลย้ายเข้ามาอยู่ อาหัสถวายเครื่องสัตวบูชาและเผาเครื่องหอมตามสถานนมัสการต่างๆตามยอดเขาและใต้ต้นไม้ใบร่มทั้งหลาย

ดังนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา จึงมอบเขาไว้ในกำมือของกษัตริย์ชาวอารัม พวกชาวอารัมเอาชนะเขาและกวาดต้อนประชาชนจำนวนมากไปเป็นเชลยในเมืองดามัสกัส พระเจ้ายังมอบอาหัสให้ไปตกอยู่ในกำมือของกษัตริย์เปคาห์แห่งอิสราเอล ซึ่งได้ลงมือฆ่าคนของเขามากมาย เปคาร์ลูกชายของเรมาลิยาห์ และกองทัพของเขาฆ่าทหารยูดาห์ตายไปหนึ่งแสนสองหมื่นคนในวันเดียว เพราะยูดาห์ละทิ้งพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา ศิครีนักรบผู้กล้าชาวเอฟราอิมฆ่ามาอาเสอาห์ลูกชายของกษัตริย์อาหัส รวมทั้งอัสรีคัมที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลวัง กับเอลคานาห์ที่เป็นใหญ่รองลงมาจากกษัตริย์อาหัส

กองทัพอิสราเอลจับตัวญาติพี่น้องของพวกเขาเองที่อาศัยอยู่ในยูดาห์ไว้เป็นจำนวนสองแสนคน มีทั้งผู้หญิง ลูกชายลูกสาว และยังขนเอาข้าวของจำนวนมากมายกลับไปเมืองสะมาเรีย เมื่อกองทัพอิสราเอลกลับมาที่สะมาเรีย ก็มีผู้พูดแทนพระยาห์เวห์คนหนึ่งชื่อโอเด็ดออกมาพบกับพวกเขาและพูดว่า “เพราะพระยาห์เวห์ พระเจ้าที่บรรพบุรุษของพวกท่านนับถือ โกรธชาวยูดาห์มาก พระองค์ถึงได้มอบพวกยูดาห์ไว้ในกำมือของพวกท่าน แต่พวกท่านกลับสังหารหมู่พวกเขาด้วยความเคียดแค้นที่รู้ไปถึงสวรรค์ 10 และตอนนี้พวกท่านยังกะจะเอาพวกผู้ชาย ผู้หญิงชาวยูดาห์และเยรูซาเล็มมาเป็นทาสของพวกท่านอีก อย่างนี้ ตัวพวกท่านเองไม่ใช่หรือที่กำลังทำบาปต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน 11 ตอนนี้ฟังเราให้ดี ให้ส่งพวกพี่น้องเหล่านี้ของท่านที่ท่านได้จับมาเป็นเชลยกลับบ้านของพวกเขาไปเถิด เพราะความโกรธที่ดุเดือดของพระยาห์เวห์กำลังอยู่เหนือพวกท่านแล้ว”

12 แล้วพวกผู้นำในเอฟราอิมบางคน เช่น อาซาริยาห์ลูกชายของโยฮานัน เบเรคิยาห์ลูกชายของเมซิลเลโมท เยฮิสคียาห์ลูกชายของชัลลูม และอามาสาลูกชายของหัดลัย ได้เข้ามาขวางกองทัพที่เพิ่งกลับมาจากสงคราม 13 พวกเขาพูดว่า “พวกท่านต้องไม่เอาเชลยพวกนี้มาที่นี่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะทำผิดต่อหน้าพระยาห์เวห์ หรือพวกท่านกะจะเพิ่มความผิดบาปของพวกเราให้มากยิ่งขึ้นไปอีกหรือ เพราะความผิดของพวกเราตอนนี้ก็ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว และความโกรธอันดุเดือดของพระองค์กำลังอยู่เหนือชนชาติอิสราเอล”

14 ดังนั้นพวกทหารจึงปล่อยพวกเชลย และคืนของที่ยึดมาได้ต่อหน้าพวกเจ้าหน้าที่และคนที่มาชุมนุมกันทั้งหมด 15 ผู้นำทั้งสี่คนนี้พาพวกเชลยไป และเอาเสื้อผ้าที่ทหารอิสราเอลยึดมานั้นมาให้กับพวกเชลยทุกคนที่กำลังเปลือยกายอยู่ได้สวมใส่ พวกเขาหารองเท้าให้ รวมทั้งจัดหาอาหารและเครื่องดื่มมาให้กิน และยังเอาน้ำมันมาทารักษาบาดแผลให้กับพวกเขาด้วย เชลยที่ร่างกายอ่อนแอก็ให้ขี่ลาไป แล้วพวกเขาก็พาคนเหล่านี้กลับไปยังบ้านของพวกเขาที่เยริโค ซึ่งเป็นเมืองแห่งต้นปาล์ม แล้วผู้นำทั้งสี่คนนี้ก็กลับสะมาเรีย

16-17 ในเวลาเดียวกันนั้น พวกชาวเอโดมมาโจมตียูดาห์อีกและกวาดต้อนเชลยไป ดังนั้น กษัตริย์อาหัสจึงได้ไปขอความช่วยเหลือจากกษัตริย์อัสซีเรีย 18 พวกชาวฟีลิสเตียโจมตีเมืองต่างๆที่ตั้งอยู่แถบเชิงเขาและในเนเกบของยูดาห์ พวกเขายึดเมืองเบธเชเมช เมืองอัยยาโลน เมืองเกเดโรท เมืองโสโค เมืองทิมนาห์และกิมโซ รวมทั้งหมู่บ้านที่อยู่รอบๆเมืองเหล่านั้นไว้ 19 พระยาห์เวห์ทำให้ยูดาห์ต้องเจอกับปัญหา เพราะกษัตริย์อาหัสของยูดาห์เป็นต้นเหตุ เพราะเขาส่งเสริมความชั่วร้ายในยูดาห์และไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ 20 กษัตริย์ทิกลัท-ปิเลเสอร์แห่งอัสซีเรียมาหากษัตริย์อาหัส แต่ไม่ได้มาช่วยกษัตริย์อาหัสหรอก แต่มาสร้างปัญหาให้ 21 อาหัสเอาของมีค่าจากวิหารของพระยาห์เวห์ จากวังกษัตริย์ และจากพวกเจ้าชาย และนำมันไปให้กับกษัตริย์อัสซีเรีย แต่มันก็ไม่ได้นำความช่วยเหลืออะไรมาให้เขาเลย

22 ในช่วงที่กษัตริย์อาหัสเจอกับปัญหาความยุ่งยากนั้น กษัตริย์อาหัสกลับยิ่งไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ 23 เขาถวายเครื่องบูชาให้แก่พวกพระของดามัสกัสที่เอาชนะเขา เพราะกษัตริย์อาหัสคิดว่า “เป็นเพราะพวกพระเหล่านี้ได้ช่วยเหลือกษัตริย์ของพวกอารัม เราจะถวายเครื่องสัตวบูชาให้กับพวกพระเหล่านี้ เพื่อพระเหล่านี้จะได้มาช่วยเหลือเราด้วย” แต่พระพวกนี้กลับทำให้เขาและชนชาติอิสราเอลทั้งหมดล่มจม

24 อาหัสได้รวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในวิหารของพระเจ้าและขนพวกมันออกมาหมด เขาปิดประตูวิหารของพระยาห์เวห์ และตั้งแท่นบูชาขึ้นตามหัวมุมถนนทุกเส้นในเมืองเยรูซาเล็ม 25 ในทุกๆเมืองของยูดาห์ เขาก็สร้างสถานที่นมัสการไว้มากมาย เพื่อเผาเครื่องสัตวบูชาให้กับพระอื่นๆซึ่งเป็นการยั่วยุความโกรธของพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา

26 เหตุการณ์อื่นๆในสมัยของกษัตริย์อาหัส และการกระทำทั้งหมดของเขา ตั้งแต่ต้นจนจบ ได้ถูกจดบันทึกไว้ในหนังสือพงศ์กษัตริย์แห่งยูดาห์และอิสราเอล 27 อาหัสตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขา และศพของเขาถูกฝังอยู่ในเมืองเยรูซาเล็ม แต่ไม่ได้รวมอยู่ในหลุมฝังศพของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล แล้วเฮเซคียาห์ลูกของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

กษัตริย์เฮเซคียาห์ปกครองยูดาห์

(2 พกษ. 18:1-3)

29 เฮเซคียาห์มีอายุยี่สิบห้าปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ และเขาครองบัลลังก์อยู่ในเมืองเยรูซาเล็มยี่สิบเก้าปี แม่ของเขาชื่อว่าอาบียาห์เป็นลูกสาวของเศคาริยาห์ เขาทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์เหมือนกับที่ดาวิดบรรพบุรุษของเขาทำ

ในเดือนที่หนึ่งของปีแรกที่เฮเซคียาห์ขึ้นครองบัลลังก์ เขาเปิดประตูทั้งหลายของวิหารของพระยาห์เวห์ และซ่อมแซมประตูเหล่านั้น เขาเรียกพวกนักบวชและชาวเลวีให้มาชุมนุมกันที่ลานด้านตะวันออก และพูดว่า

“ชาวเลวี ฟังทางนี้ เตรียมตัวท่านและวิหารนี้ของพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษท่านให้พร้อมสำหรับการงานอันศักดิ์สิทธิ์ ให้ย้ายพวกของที่เสื่อมเสียทั้งหมดออกไปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ บรรพบุรุษของพวกเราไม่ซื่อสัตย์ พวกเขาทำชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเรา และละทิ้งพระองค์ พวกเขาหันหน้าหนีไปจากสถานที่อยู่อาศัยของพระยาห์เวห์[b] และหันหลังให้กับพระองค์ พวกเขายังปิดประตูทุกบานที่ระเบียงทางเดินและดับตะเกียงเหล่านั้นลง พวกเขาไม่ยอมเผาเครื่องหอมหรือถวายเครื่องเผาบูชา ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้กับพระเจ้าของอิสราเอล ดังนั้นความโกรธของพระยาห์เวห์จึงตกอยู่บนชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็ม พระองค์ทำให้พวกเขากลายเป็นสิ่งที่น่ากลัว น่าสยดสยอง และน่าเยาะเย้ย เหมือนกับที่พวกท่านเห็นแล้วด้วยตาของพวกท่านเอง นี่ก็เป็นเหตุที่บรรพบุรุษของพวกเรา ถึงได้ล้มตายลงด้วยดาบ และลูกชายลูกสาวและเมียของพวกเราถึงได้ถูกจับตัวไป 10 ตอนนี้ เราตั้งใจที่จะทำสัญญากับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล เพื่อความโกรธอันดุเดือดของพระองค์จะได้หันเหไปจากพวกเรา 11 ลูกๆเอ๋ย อย่าได้เสียเวลาอีกเลย เพราะพระยาห์เวห์ได้เลือกพวกท่านให้มายืนอยู่ต่อหน้าพระองค์และรับใช้พระองค์ คอยทำพิธีและเผาเครื่องหอมให้กับพระองค์”

12 แล้วชาวเลวีเหล่านี้ก็เริ่มทำงาน

พวกที่มาจากชาวโคฮาทคือ มาฮาทลูกชายของอามาสัย และโยเอลลูกชายของอาซาริยาห์

พวกที่มาจากชาวเมรารีคือ คีชลูกชายของอับดี และอาซาริยาห์ลูกชายของเยฮาลเลเลล

พวกที่มาจากชาวเกอร์โชนคือ โยอาห์ลูกชายของศิมมาห์ และเอเดนลูกชายของโยอาห์

13 พวกที่เป็นลูกหลานของเอลีซาฟานคือ ชิมรีและเยอูเอล

พวกที่เป็นลูกหลานของอาสาฟคือเศคาริยาห์และมัทธานิยาห์

14 พวกที่เป็นลูกหลานของเฮมานคือเยฮีเอลและชิเมอี

พวกที่เป็นลูกหลานของเยดูธูนคือเชไมอาห์และอุสซีเอล

15 เมื่อพวกเขาเรียกชุมนุมพวกพี่น้องของเขา และได้เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการงานอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว พวกเขาจึงเข้าไปชำระวิหารของพระยาห์เวห์ให้บริสุทธิ์ตามที่กษัตริย์ได้สั่งไว้ ตามคำสั่งของพระยาห์เวห์ 16 พวกนักบวชได้เข้าไปข้างในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระยาห์เวห์เพื่อชำระให้มันบริสุทธิ์ พวกเขานำของทุกอย่างที่เป็นมลทินที่พวกเขาพบในวิหารของพระยาห์เวห์ออกไปไว้ที่ลานของวิหารของพระยาห์เวห์ แล้วพวกชาวเลวีได้ขนของเหล่านี้ไปที่หุบเขาขิดโรน 17 พวกเลวีก็เริ่มเตรียมวิหารของพระยาห์เวห์สำหรับการงานอันศักดิ์สิทธิ์ขึ้นในวันที่หนึ่งของเดือนที่หนึ่ง พอวันที่แปดของเดือนเดียวกัน พวกเลวีก็เตรียมมาจนถึงที่ระเบียงทางเดินของพระยาห์เวห์ และภายในอีกแปดวัน พวกเขาก็เตรียมวิหารของพระยาห์เวห์สำหรับการงานอันศักดิ์สิทธิ์ จนทุกอย่างเสร็จสิ้นลงในวันที่สิบหกของเดือนที่หนึ่ง

18 แล้วพวกเขาก็ไปเข้าพบกษัตริย์เฮเซคียาห์และรายงานว่า “พวกเราได้ทำให้วิหาร ของพระยาห์เวห์ทั้งหมดบริสุทธิ์แล้ว ทั้งแท่นบูชาสำหรับเครื่องเผาบูชากับเครื่องใช้ทั้งหมด รวมทั้งโต๊ะสำหรับวางขนมปังศักดิ์สิทธิ์ กับเครื่องใช้ทั้งหมดของมัน 19 พวกเราได้จัดเตรียมและทำให้เครื่องใช้ทั้งหมดพร้อมสำหรับการงานอันศักดิ์สิทธิ์ เครื่องใช้เหล่านี้ กษัตริย์อาหัสได้ย้ายออกไป เพราะความไม่ซื่อสัตย์ของเขาต่อพระยาห์เวห์ในขณะที่เขาเป็นกษัตริย์อยู่นั้น ตอนนี้พวกเราได้เอาของเหล่านั้นกลับมาวางไว้ต่อหน้าแท่นบูชาของพระยาห์เวห์แล้ว”

20 เช้าตรู่ของวันต่อมา กษัตริย์เฮเซคียาห์รวบรวมเจ้าหน้าที่ในเมือง แล้วพากันขึ้นไปที่วิหารของพระยาห์เวห์ 21 พวกเขานำวัวตัวผู้เจ็ดตัว แกะตัวผู้เจ็ดตัว ลูกแกะตัวผู้เจ็ดตัวและแพะตัวผู้เจ็ดตัวไปเป็นเครื่องบูชาชำระล้างสำหรับราชวงศ์นี้ สำหรับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และสำหรับชาวยูดาห์ กษัตริย์สั่งพวกนักบวชที่เป็นลูกหลานของอาโรนให้บูชาสิ่งเหล่านี้บนแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ 22 ดังนั้นพวกเขาจึงฆ่าวัวตัวผู้เหล่านั้น แล้วพวกนักบวชก็เอาเลือดของพวกมันมาสาดใส่แท่นบูชา ต่อจากนั้น พวกเขาก็ฆ่าแกะตัวผู้ทั้งหมด และสาดเลือดของพวกมันใส่แท่นบูชา แล้วพวกเขาก็ฆ่าลูกแกะตัวผู้แล้วสาดเลือดของพวกมันใส่แท่นบูชา 23 ส่วนพวกแพะตัวผู้ที่เป็นเครื่องบูชาชำระล้างถูกนำไปไว้ต่อหน้ากษัตริย์และคนในที่ชุมนุม แล้วพวกเขาก็วางมือลงบนตัวพวกมัน 24 แล้วพวกนักบวชก็ฆ่าแพะเหล่านั้น และถวายเลือดของพวกมันบนแท่นบูชา เป็นเครื่องบูชาชำระล้าง เพื่อชำระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทนประชาชนอิสราเอลทั้งหมด เพราะกษัตริย์ได้สั่งให้มีการเผาเครื่องบูชาและถวายเครื่องบูชาชำระล้างสำหรับชาวอิสราเอลทั้งหมด

25 เฮเซคียาห์ได้ให้ชาวเลวีอยู่ประจำในวิหารของพระยาห์เวห์ โดยให้ถือฉาบ พิณใหญ่และพิณเล็ก อย่างที่กษัตริย์ดาวิด กาดที่เป็นคนของกษัตริย์ที่เห็นนิมิตได้ และนาธันผู้พูดแทนพระเจ้า ได้กำหนดไว้ คำสั่งนี้มาจากพระยาห์เวห์ที่สั่งผ่านทางผู้พูดแทนพระเจ้าทั้งหลายของพระองค์ 26 ดังนั้นพวกชาวเลวีจึงยืนอยู่พร้อมด้วยพวกเครื่องดนตรีของดาวิด และพวกนักบวชก็ถือแตรอยู่ 27 เฮเซคียาห์ออกคำสั่งให้ถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชา เมื่อเริ่มเผา ก็เริ่มร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์ไปด้วย พร้อมๆกับการเป่าแตร และเล่นเครื่องดนตรีของกษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอล 28 คนในที่ชุมนุมทั้งหมด ก็ก้มลงกราบนมัสการ ในขณะที่พวกนักร้องร้องเพลง และพวกคนเป่าแตรก็เป่าแตรไป ทุกอย่างนี้ดำเนินไปเรื่อยๆจนกระทั่งการเผาเครื่องเผาบูชาสิ้นสุดลง

29 เมื่อการบูชาเสร็จสิ้นลงแล้ว กษัตริย์และทุกๆคนก็คุกเข่าลงและนมัสการ 30 กษัตริย์เฮเซคียาห์กับพวกเจ้าหน้าที่ของเขาสั่งให้ชาวเลวีสรรเสริญพระยาห์เวห์ด้วยบทเพลงที่ดาวิดและอาสาฟผู้ที่เห็นนิมิตได้เขียนไว้ พวกเขาก็ร้องเพลงสรรเสริญด้วยความดีใจและก้มหัวลงนมัสการ 31 แล้วเฮเซคียาห์พูดว่า “ตอนนี้พวกเจ้าได้อุทิศตัวให้กับพระยาห์เวห์แล้ว ให้นำพวกเครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาขอบคุณ มาที่วิหารของพระยาห์เวห์กันเถิด” ดังนั้นคนในที่ชุมนุมจึงได้ถวายเครื่องสัตวบูชาและเครื่องบูชาขอบคุณ และทุกๆคนต่างก็ถวายเครื่องเผาบูชาด้วยความเต็มใจ 32 เครื่องเผาบูชาที่คนในที่ชุมนุมนำมานั้น มีวัวตัวผู้เจ็ดสิบตัว แกะตัวผู้หนึ่งร้อยตัว และลูกแกะตัวผู้สองร้อยตัว ของเหล่านี้เป็นเครื่องเผาบูชาให้กับพระยาห์เวห์ 33 พวกสัตว์ที่ได้อุทิศให้เป็นเครื่องสัตวบูชารวมแล้วมีวัวตัวผู้หกร้อยตัว แกะกับแพะสามพันตัว 34 แต่มีนักบวชไม่เพียงพอที่จะมาช่วยกันถลกหนังของพวกเครื่องเผาบูชา ดังนั้น พวกญาติๆเลวีที่เป็นผู้ชายจึงมาช่วยพวกเขาจนเสร็จงาน และจนกว่านักบวชคนอื่นๆจะชำระตัวเอง เพราะในการชำระตัวชาวเลวีจริงจังยิ่งกว่าพวกนักบวช 35 มีเครื่องเผาบูชาอย่างล้นเหลือ และพวกไขมันของเครื่องสังสรรค์บูชา และเครื่องดื่มบูชาที่มากับเครื่องเผาบูชาด้วย ดังนั้นงานรับใช้ในวิหารของพระยาห์เวห์จึงได้รับการฟื้นฟูกลับขึ้นมาอีกครั้ง 36 เฮเซคียาห์กับประชาชนทั้งหมดต่างก็ดีใจมาก กับสิ่งที่พระเจ้าได้ทำให้กับประชาชนของพระองค์ เพราะมันสำเร็จลงอย่างรวดเร็ว

เฮเซคียาห์ฉลองเทศกาลปลดปล่อย

30 เฮเซคียาห์ส่งข่าวสารไปถึงชาวอิสราเอล และชาวยูดาห์ทั้งหมด และยังเขียนจดหมายไปถึงชาวเอฟราอิม[c]และชาวมนัสเสห์ โดยเชิญพวกเขาให้มาที่วิหารของพระยาห์เวห์ในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลวันปลดปล่อย ให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล กษัตริย์กับพวกเจ้าหน้าที่ของเขา และคนในที่ชุมนุมทั้งหมดในเมืองเยรูซาเล็มตัดสินใจที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเดือนที่สอง พวกเขาไม่สามารถเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยในเวลาปกติได้ เพราะมีนักบวชที่ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้วไม่เพียงพอ และประชาชนก็ไม่ได้มาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็ม ทั้งกษัตริย์และคนในที่ชุมนุมต่างเห็นดีด้วยกับแผนการณ์นี้ พวกเขาลงมติให้ประกาศไปทั่วอิสราเอล ตั้งแต่เมืองเบเออร์เชบาไปจนถึงเมืองดาน เพื่อเรียกประชาชนให้มาที่เมืองเยรูซาเล็ม เพื่อมาเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยให้กับพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอล มีประชาชนไม่กี่คนที่เคยเฉลิมฉลองเทศกาลปลดปล่อยนี้มาก่อน ตามอย่างที่กฎได้สั่งไว้ กษัตริย์สั่งให้คนส่งข่าวเดินทางไปทั่วทั้งแผ่นดินอิสราเอลและยูดาห์ พร้อมกับจดหมายของกษัตริย์และพวกเจ้าหน้าที่ของเขา จดหมายนี้มีข้อความว่า

“ประชาชนชาวอิสราเอลทั้งหลาย กลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลเถิด พระองค์จะหันกลับมาหาพวกท่านที่ยังเหลืออยู่ และหลบหนีจากพวกกษัตริย์อัสซีเรีย อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษและพวกพี่น้องของพวกท่านที่ไม่ยอมซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา พระองค์จึงได้ทำให้พวกเขากลายเป็นสิ่งน่าสยดสยอง อย่างที่พวกท่านเห็นแล้วนั้น อย่าดื้อดึงเหมือนกับที่บรรพบุรุษของพวกท่านเป็น ให้ยอมฟังพระยาห์เวห์ และมาถึงยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ทำให้ศักดิ์สิทธิ์ตลอดไป ให้รับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เพื่อว่าความโกรธอันดุเดือดของพระองค์ จะได้หันเหออกไปจากพวกท่าน ถ้าพวกท่านกลับมาหาพระยาห์เวห์แล้ว คนที่จับพวกพี่น้องและลูกๆของพวกท่านไปจะเกิดความสงสารพวกเขา และพวกพี่น้องเหล่านั้นจะได้กลับมาสู่แผ่นดินแห่งนี้ เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่านนั้นมีความเมตตากรุณา พระองค์จะไม่หันหน้าไปจากพวกท่าน ถ้าพวกท่านกลับมาหาพระองค์”

10 พวกคนส่งข่าวได้ออกจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งในเอฟราอิมและมนัสเสห์ ไปจนถึงเศบูลุน แต่ประชาชนกลับดูถูกและเยาะเย้ยพวกเขา 11 อย่างไรก็ตาม คนบางกลุ่มในเผ่าของอาเชอร์ มนัสเสห์และเศบูลุน ก็ถ่อมตัวพวกเขาลง และเดินทางไปที่เมืองเยรูซาเล็ม 12 ส่วนในยูดาห์ มือของพระเจ้าก็ได้มาอยู่บนประชาชน เพื่อทำให้พวกเขาเป็นใจเดียวกัน ที่จะทำสิ่งที่กษัตริย์และพวกเจ้าหน้าที่ได้สั่งไว้นั้นตามคำพูดของพระยาห์เวห์

13 ฝูงชนกลุ่มใหญ่มากมาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ ในเดือนที่สอง 14 พวกเขารื้อแท่นบูชาทั้งหลาย รวมทั้งแท่นเผาเครื่องหอมของพวกพระปลอมในเมืองเยรูซาเล็มออกไปทิ้งในหุบเขาขิดโรน 15 พวกเขาฆ่าลูกแกะตัวผู้สำหรับเทศกาลวันปลดปล่อยในวันที่สิบสี่ของเดือนที่สอง พวกนักบวชและชาวเลวีต่างก็รู้สึกละอายใจ พวกเขาจึงชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ และนำเครื่องเผาบูชามาที่วิหารของพระยาห์เวห์ 16 แล้วพวกเขาก็ไปทำหน้าที่ตามปกติที่ได้กำหนดไว้ในกฏของโมเสสคนของพระเจ้า พวกนักบวชได้ประพรมเลือดที่ชาวเลวีนำมาให้ 17 เพราะมีคนอีกหลายคนในฝูงชนนี้ที่ยังไม่ได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์ ชาวเลวีจึงต้องฆ่าลูกแกะตัวผู้ของเทศกาลปลดปล่อยสำหรับพวกที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีชำระล้าง และไม่สามารถถวายลูกแกะตัวผู้ให้กับพระยาห์เวห์ได้

18 ถึงแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่มาจากเผ่าเอฟราอิม มนัสเสห์ อิสสาคาร์และเศบูลุน ยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ แต่พวกเขาก็เข้าร่วมกินในเทศกาลปลดปล่อยด้วย ซึ่งขัดกับกฎที่เขียนไว้ แต่เฮเซคียาห์ได้อธิษฐานอ้อนวอนให้กับพวกเขาว่า “ขอพระยาห์เวห์ผู้ทรงดี โปรดอภัยให้กับทุกๆคน 19 ที่ตั้งจิตตั้งใจแสวงหาพระเจ้า คือพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่บริสุทธิ์ตามกฎทั้งหลายของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ตาม” 20 และพระยาห์เวห์ก็ได้ยินเฮเซคียาห์และให้อภัยกับประชาชนพวกนั้น 21 ชาวอิสราเอลที่มาชุมนุมกันในเมืองเยรูซาเล็มเฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ เป็นเวลาเจ็ดวันด้วยความรื่นเริงยินดี ในขณะที่ชาวเลวีและพวกนักบวชร้องเพลงให้กับพระยาห์เวห์ทุกๆวัน คลอไปกับการเล่นเครื่องดนตรีเพื่อสรรเสริญพระองค์ 22 เฮเซคียาห์พูดให้กำลังใจกับชาวเลวีทั้งหมด ผู้ที่มีความเข้าใจเป็นอย่างดีในงานรับใช้พระยาห์เวห์ เพราะในช่วงเจ็ดวันนั้น พวกเขาได้กินจากส่วนแบ่งที่เป็นของพวกเขา และได้ถวายเครื่องสังสรรค์บูชา และได้สรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา

23 แล้วคนในที่ชุมนุมทั้งหมด ต่างก็เห็นด้วยที่จะฉลองงานเทศกาลต่อไปอีกเจ็ดวัน ดังนั้น พวกเขาจึงฉลองกันต่ออีกเจ็ดวันอย่างสนุกสนาน 24 กษัตริย์เฮเซคียาห์แห่งยูดาห์ ได้จัดหาวัวตัวผู้หนึ่งพันตัว และแกะกับแพะเจ็ดพันตัวมาให้กับคนในที่ชุมนุม และพวกเจ้าหน้าที่ก็ได้จัดหาวัวตัวผู้หนึ่งพันตัว และแกะกับแพะหนึ่งหมื่นตัวมาให้เหมือนกัน มีพวกนักบวชหลายคนได้ชำระตัวเองให้บริสุทธิ์แล้ว 25 คนในที่ชุมนุมทั้งหมดของยูดาห์ พร้อมทั้งพวกนักบวชและชาวเลวีและคนทั้งหมดที่มาชุมนุมกันจากทั่วทั้งอิสราเอล รวมทั้งพวกชาวต่างชาติที่มาจากอิสราเอลและพวกที่ได้อาศัยอยู่ในยูดาห์ ต่างก็พากันชื่นชมยินดี 26 พวกเขาสนุกสนานกันอย่างมากในเมืองเยรูซาเล็ม เพราะตั้งแต่ยุคของซาโลมอนลูกชายของกษัตริย์ดาวิดแห่งอิสราเอลเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนในเมืองเยรูซาเล็ม 27 พวกนักบวชกับชาวเลวียืนให้พรประชาชน และพระเจ้าก็ได้ยินพวกเขา เพราะคำอธิษฐานของพวกเขาไปถึงสวรรค์ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พระองค์อาศัยอยู่

เฮเซคียาห์ทำลายรูปเคารพ

31 เมื่องานเฉลิมฉลองสิ้นสุดลง ชาวอิสราเอลที่อยู่ที่นั่นต่างก็ออกไปยังเมืองต่างๆของยูดาห์ แล้วพวกเขาก็ไปทุบรูปปั้นหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจนแตกละเอียด และไปโค่นพวกเสาของพระอาเชราห์ลง พวกเขาทำลายสถานที่นมัสการต่างๆและบรรดาแท่นบูชาที่มีอยู่ทั่วทั้งยูดาห์และเบนยามิน รวมทั้งในเอฟราอิมและในมนัสเสห์ด้วย หลังจากที่พวกเขาได้ทำลายพวกมันทิ้งจนหมดแล้ว ชาวอิสราเอลก็กลับไปยังบ้านเมืองของพวกเขา

เฮเซคียาห์แบ่งพวกนักบวชกับชาวเลวีออกเป็นกลุ่มๆตามหน้าที่ของพวกเขาในฐานะนักบวชและชาวเลวี เพื่อคอยถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชา คอยทำพิธีเพื่อขอบคุณและร้องเพลงสรรเสริญอยู่ตามประตูของที่อยู่อาศัยของพระยาห์เวห์[d] กษัตริย์ได้ให้สัตว์ของกษัตริย์เอง สำหรับใช้เป็นเครื่องเผาบูชาในตอนเช้าและตอนเย็น และให้เป็นเครื่องเผาบูชาในวันหยุดทางศาสนาตามที่ได้เขียนไว้ในกฎของพระยาห์เวห์ เฮเซคียาห์สั่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรูซาเล็มให้แบ่งผลผลิตและสิ่งของของพวกเขาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวี เพื่อพวกนักบวชและชาวเลวีจะได้อุทิศตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อทำในสิ่งที่กฎของพระยาห์เวห์สั่งให้พวกเขาทำ ทันทีที่คำสั่งนี้ออกมา ชาวอิสราเอลก็ได้มอบพืชผลชุดแรก เหล้าองุ่นใหม่ น้ำมันและน้ำเชื่อมผลไม้ และผลผลิตทั้งหมดจากทุ่งนาของพวกเขาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวีอย่างมากมาย พวกเขาได้แบ่งของหนึ่งในสิบของทุกสิ่งทุกอย่างมา พวกคนอิสราเอลและยูดาห์ที่อาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆของยูดาห์ ได้นำหนึ่งในสิบของฝูงวัวและแพะแกะ รวมทั้งหนึ่งในสิบของผลผลิตของเขาให้เป็นของขวัญศักดิ์สิทธิ์ที่อุทิศให้กับพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา มาให้กับพวกนักบวชและชาวเลวีเป็นกองพะเนิน

ประชาชนเริ่มทำสิ่งนี้ในเดือนที่สามและสิ้นสุดในเดือนที่เจ็ด เมื่อเฮเซคียาห์กับพวกเจ้าหน้าที่ของเขามาเห็นกองของเหล่านี้ พวกเขาก็สรรเสริญพระยาห์เวห์ และอวยพรให้ประชาชนชาวอิสราเอล

เฮเซคียาห์ถามพวกนักบวชและชาวเลวีเกี่ยวกับกองของเหล่านี้ 10 อาซาริยาห์หัวหน้านักบวชจากครอบครัวของศาโดกตอบว่า “เป็นเพราะประชาชนเริ่มที่จะเอาของขวัญเหล่านี้มาให้ที่วิหารของพระยาห์เวห์ พวกเราจึงมีพอกินและมีเหลือให้กับคนอื่น เพราะพระยาห์เวห์ได้อวยพรให้กับประชาชนของพระองค์ จึงมีของเหล่านี้มากมายจนล้นเหลือ”

11 เฮเซคียาห์สั่งให้พวกนักบวชเตรียมห้องเก็บของไว้ให้พร้อมในวิหารของพระยาห์เวห์ และพวกเขาก็เตรียมห้องไว้เรียบร้อย 12 แล้วพวกนักบวชก็นำของขวัญเหล่านี้เข้าไปเก็บไว้อย่างซื่อสัตย์ ของพวกนี้เป็นส่วนแบ่งที่คนนำมาถวาย คือหนึ่งในสิบของผลผลิตของพวกเขา โคนานิยาห์ชาวเลวีทำหน้าที่ดูแลของเหล่านี้ และชิเมอีน้องชายของเขาอยู่ในตำแหน่งรองลงมา 13 โคนานิยาห์กับชิเมอีน้องชายของเขา เป็นผู้ควบคุมดูแลคนเหล่านี้ คือ เยฮีเอล อาซาซิยาห์ นาหัท อาสาเฮล เยรีโมท โยซาบาด เอลีเอล อิสมาคิยาห์ มาฮาทและเบไนยาห์ กษัตริย์เฮเซคียาห์และอาซาริยาห์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลวิหารของพระเจ้า เป็นผู้เลือกคนเหล่านี้ขึ้นมา 14 โคเรลูกชายของอิมนาห์ชาวเลวี เป็นผู้ดูแลประตูฝั่งตะวันออก เขาทำหน้าที่ดูแลเครื่องบูชาที่ผู้คนสมัครใจเอามาถวายพระยาห์เวห์เอง และเขาก็ยังรับผิดชอบในการแจกของที่คนเอามาถวายให้กับพระยาห์เวห์และของขวัญที่อุทิศให้กับพระองค์ 15 เอเดน มินยามิน เยชูอา เชไมอาห์ อามาริยาห์ เชคานิยาห์ เป็นผู้ช่วยของโคเร คนพวกนี้รับใช้อย่างสัตย์ซื่อในหัวเมืองต่างๆที่พวกนักบวชอาศัยอยู่ พวกเขาก็แจกของให้กับพี่น้องของเขาตามกลุ่มต่างๆของพวกเขา แจกให้กับทั้งคนหนุ่มและคนแก่เท่ากัน 16 ผู้ชายเหล่านี้ยังแจกของที่เก็บมานี้ให้กับผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่สามปีขึ้นไป ที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อตระกูลต่างๆของเลวี คือทุกคนที่เข้าไปในวิหารของพระยาห์เวห์ เพื่อทำเวรตามหน้าที่ประจำวัน ที่ได้รับมอบหมายและตามกลุ่มเวรของพวกเขา 17 นักบวชก็ได้รับส่วนแบ่งของเขาจากของที่คนเอามาถวายพระยาห์เวห์ ตามครอบครัวที่ได้ลงทะเบียนไว้ตามรายชื่อตระกูลต่างๆของเลวี คนเลวีที่มีอายุยี่สิบปีขึ้นไปก็จะได้รับส่วนแบ่งของเขาตามกลุ่มและความรับผิดชอบ 18 ลูกเล็กๆของเลวี เมีย และลูกชายลูกสาวของเขา ก็จะได้รับส่วนแบ่งด้วย เลวีทุกคนที่มีรายชื่ออยู่ในประวัติครอบครัวเลวีก็จะได้รับส่วนแบ่งนี้ เพราะพวกเขาสัตย์ซื่อที่จะรักษาตัวเองให้บริสุทธิ์ และพร้อมที่จะรับใช้ 19 ลูกหลานของอาโรนบางคน คือพวกนักบวช มีไร่นาอยู่ใกล้เมืองต่างๆที่พวกเลวีอาศัยอยู่ และลูกหลานของอาโรนบางคนก็อาศัยอยู่ในเมือง แต่ละเมืองเหล่านี้ก็จะมีการเลือกชื่อพวกผู้ชายขึ้นมา เพื่อแบ่งของที่เก็บรวบรวมมานี้ให้กับลูกหลานของอาโรน และแบ่งให้กับพวกผู้ชายและคนที่มีรายชื่อในประวัติครอบครัวของเลวี

20 อย่างนี้ กษัตริย์เฮเซคียาห์ก็ทำสิ่งที่ดีเหล่านั้นในยูดาห์ เขาได้ทำสิ่งที่ดี ถูกต้องและสัตย์ซื่อต่อหน้าพระยาห์เวห์ พระเจ้าของเขา 21 งานทุกอย่างที่เขาเริ่มก็สำเร็จด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับใช้ในวิหารของพระเจ้า และการเชื่อฟังกฎและคำสั่งต่างๆและการติดตามพระเจ้าของเขา เฮเซคียาห์ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดด้วยสิ้นสุดใจของเขา

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International