Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
2 ซามูเอล 4-7

อิชโบเชทถูกฆ่า

เมื่ออิชโบเชทลูกชายซาอูลได้ยินว่า อับเนอร์ตายในเมืองเฮโบรน เขาก็สูญเสียความกล้าหาญ และชาวอิสราเอลทั้งหมดต่างตื่นตกใจกลัว ในเวลานั้นมีชายสองคนมาหาอิชโบเชท ลูกชายของซาอูล ชายสองคนนี้เป็นหัวหน้ากองโจร คนหนึ่งชื่อบาอานาห์ และอีกคนชื่อเรคาบ พวกเขาเป็นลูกชายของริมโมนชาวเมืองเบเอโรท พวกเขามาจากเผ่าเบนยามิน (เมืองเบเอโรทถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคนเผ่าเบนยามิน แต่ชาวเมืองเบเอโรทได้หลบหนีมาที่เมืองกิททาอิมกันหมด และอาศัยอยู่ที่นั่นในฐานะชาวต่างชาติมาจนทุกวันนี้)

โยนาธานลูกชายของซาอูลมีลูกชายชื่อเมฟีโบเชท เมฟีโบเชทมีเท้าพิการทั้งสองข้าง ตอนที่เมฟีโบเชทมีอายุห้าขวบนั้น มีข่าวมาจากเมืองยิสเรเอล ว่าซาอูลและโยนาธานถูกฆ่าตาย พี่เลี้ยงของเมฟีโบเชทอุ้มเขาวิ่งหนี แต่เพราะนางรีบเกินไป จึงทำเขาหล่นลงมาและขาทั้งสองข้างของเขาก็พิการ

ฝ่ายเรคาบและบาอานาห์ลูกชายของริมโมนชาวเบเอโรท ได้ออกเดินทางไปบ้านของอิชโบเชท พวกเขาได้มาถึงที่นั่นในเวลาเที่ยงที่อากาศร้อน ขณะที่อิชโบเชทกำลังนอนพักเที่ยงอยู่ พวกเขาเข้าไปถึงส่วนในของบ้าน ทำเหมือนกับว่าจะเข้าไปเอาข้าวสาลี และพวกเขาก็แทงอิชโบเชทเข้าที่ท้อง แล้วเรคาบกับบาอานาห์พี่ชายของเขาก็หนีไป พวกเขาเข้าไปในบ้านในขณะที่อิชโบเชทกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของเขา พวกเขาได้แทงและฆ่าเขา และหลังจากนั้นพวกเขาได้ตัดหัวอิชโบเชทไปด้วย พวกเขาเดินทางตลอดทั้งคืนในหุบเขาจอร์แดน พวกเขานำหัวของอิชโบเชทไปให้ดาวิดที่เมืองเฮโบรน พวกเขาพูดกับกษัตริย์ดาวิดว่า “นี่คือหัวของอิชโบเชทลูกชายของซาอูล ซาอูลที่เป็นศัตรูของท่าน ที่พยายามฆ่าท่าน วันนี้พระยาห์เวห์ได้แก้แค้นซาอูลและลูกหลานของเขาให้กับท่านผู้เป็นกษัตริย์เจ้านายของข้าพเจ้าแล้ว”

ดาวิดตอบเรคาบและบาอานาห์พี่ชายของเขา ลูกชายของริมโมนชาวเบเอโรทว่า “พระยาห์เวห์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า พระองค์เป็นผู้ที่ทำให้เราพ้นจากความลำบากทั้งหลาย 10 คราวก่อน เมื่อมีคนมาบอกเราว่า ‘ซาอูลตายแล้ว’ เขาคิดว่าเขากำลังนำข่าวดีมาบอก เราได้จับเขาและฆ่าเขาที่ศิกลาก นั่นคือรางวัลที่เราได้ให้สำหรับข่าวของเขา 11 ยิ่งกว่านั้นอีก คราวนี้ ในเมื่อพวกคนชั่วได้ฆ่าคนบริสุทธิ์ในบ้านของเขาและบนเตียงของเขาเอง จะไม่ให้เราฆ่าเจ้าเพราะความตายของเขาและกำจัดเจ้าออกไปจากโลกนี้ได้ยังไงกัน”

12 ดังนั้นดาวิดจึงออกคำสั่งแก่คนของเขา และพวกเขาก็ฆ่าสองคนนั้น ตัดมือและเท้าของสองคนนั้นและแขวนศพของพวกเขาไว้ที่ข้างสระน้ำในเมืองเฮโบรน แต่พวกเขาเอาหัวของอิชโบเชทไปฝังไว้ที่อุโมงค์ฝังศพของอับเนอร์ที่เมืองเฮโบรน

ชาวอิสราเอลยกดาวิดขึ้นเป็นกษัตริย์

(1 พศด. 11:1-3)

อิสราเอลทุกเผ่ามาหาดาวิดที่เมืองเฮโบรนและพูดว่า “พวกเราคือเลือดเนื้อของท่าน ในอดีต เมื่อซาอูลยังเป็นกษัตริย์ปกครองพวกเรา ท่านเป็นผู้หนึ่งที่นำอิสราเอลในการรบ และพระยาห์เวห์ได้พูดกับท่านว่า ‘เจ้าจะเป็นผู้นำทางประชาชนชาวอิสราเอลของเราอย่างผู้เลี้ยงแกะ และเจ้าจะได้เป็นผู้ปกครองพวกเขา’”

เมื่อพวกผู้นำอาวุโสทั้งหมดของอิสราเอลมาหากษัตริย์ดาวิดที่เมืองเฮโบรน กษัตริย์ดาวิดได้ทำสัญญากับพวกเขาที่เมืองเฮโบรนต่อหน้าพระยาห์เวห์ และพวกเขาก็ได้เจิมดาวิดเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล

ดาวิดมีอายุสามสิบปีเมื่อเขาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาครองราชย์อยู่นานสี่สิบปี เขาได้ครอบครองอยู่เหนือยูดาห์ในเมืองเฮโบรน เป็นเวลาเจ็ดปีหกเดือน และในเมืองเยรูซาเล็ม เขาได้ครอบครองอิสราเอลทั้งหมดรวมทั้งยูดาห์ด้วย เป็นเวลาสามสิบสามปี

ดาวิดยึดเมืองเยรูซาเล็ม

(1 พศด. 11:4-9)

กษัตริย์ดาวิดและคนของเขายกทัพไปเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อโจมตีชาวเยบุสที่อาศัยอยู่ที่นั่น ชาวเยบุสบอกกับดาวิดว่า “แกบุกเข้ามาที่นี่ไม่ได้[a] แม้แต่คนตาบอดและคนพิการของเราก็ยังหยุดแกได้” พวกเขาคิดว่า “ดาวิดไม่สามารถบุกเข้าไปในเมืองของพวกเขาได้” แต่ดาวิดก็สามารถยึดป้อมศิโยนไว้เป็นเมืองของดาวิด ได้

ในวันนั้น ดาวิดพูดกับคนของเขาว่า “คนที่จะเอาชนะชาวเยบุสได้ต้องเข้าไปทางท่อส่งน้ำ[b] เพื่อเข้าไปถึง ‘พวกคนพิการและคนตาบอดเหล่านั้น’ ที่เป็นศัตรูของดาวิด”

(นี่คือเหตุที่คนพูดกันว่า “อย่าให้คนตาบอดและคนพิการเข้าไปในวัง[c]”)

ดาวิดก็เข้ายึดเอาป้อมนั้นเป็นที่พักและเรียกมันว่าเมืองของดาวิด แล้วดาวิดก็ได้สร้างเมืองขึ้นรอบๆตั้งแต่พื้นที่ลาดเขา[d] เข้าไปถึงข้างใน 10 ดาวิดยิ่งมีอำนาจมากขึ้นๆเพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นสถิตอยู่กับเขา

ฮีรามสร้างวังให้ดาวิด

(1 พศด. 14:1-2)

11 ฮีรามกษัตริย์ของไทระได้ส่งคนส่งข่าวมาหาดาวิด พร้อมด้วยไม้สนซีดาร์และช่างไม้และช่างก่อหิน และพวกเขาได้สร้างวังให้กับดาวิด 12 ดาวิดรู้ว่าพระยาห์เวห์ได้ตั้งเขาเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และได้ทำให้อาณาจักรของเขาเจริญรุ่งเรืองขึ้น เพื่อประชาชนชาวอิสราเอลของพระองค์

ลูกชายดาวิดที่เกิดในเยรูซาเล็ม

(1 พศด. 3:5-9; 14:3-7)

13 หลังจากที่เขาออกจากเมืองเฮโบรน ดาวิดได้มีเมียน้อยและเมียเพิ่มขึ้นอีกหลายคนในเยรูซาเล็ม และมีลูกชายและลูกสาวเพิ่มขึ้น 14 ชื่อของพวกลูกชายของเขาที่เกิดที่นั่น คือ ชัมมุอา โชบับ นาธัน ซาโลมอน 15 อิบฮาร์ เอลีชูอา เนเฟก ยาเฟีย 16 เอลีชามา เอลียาดา และเอลีเฟเลท

ดาวิดสู้กับชาวฟีลิสเตีย

(1 พศด. 14:8-17)

17 เมื่อชาวฟีลิสเตียได้ยินว่าดาวิดได้รับการเจิมให้เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล พวกเขาจึงยกทัพขึ้นมาสู้รบกับดาวิด แต่ดาวิดรู้เรื่องนี้ก่อนและได้เข้าไปอยู่ที่ป้อม 18 ขณะนั้น ชาวฟีลิสเตียได้มาถึงและกระจายกำลังอยู่ในหุบเขาเรฟาอิม

19 ดาวิดจึงถามพระยาห์เวห์ว่า “ข้าพเจ้าควรขึ้นไปโจมตีชาวฟีลิสเตียหรือไม่ พระองค์จะมอบพวกเขาไว้ในกำมือข้าพเจ้าหรือเปล่า”

พระยาห์เวห์ตอบเขาว่า “ไปเถิด เพราะเราจะมอบชาวฟีลิสเตียไว้ในกำมือเจ้าอย่างแน่นอน”

20 ดาวิดจึงไปที่บาอัล-เปราซิม และเขาก็สู้รบเอาชนะชาวฟีลิสเตียได้ และดาวิดพูดว่า “พระยาห์เวห์ได้บุกทะลวงศัตรูต่อหน้าข้าพเจ้าเหมือนกับน้ำที่พุ่งทะลวงเขื่อนออกมา” จึงเรียกสถานที่นั้นว่า บาอัล-เปราซิม[e] 21 ชาวฟีลิสเตียได้ทิ้งรูปเคารพของพวกเขาไว้ที่นั่น ดาวิดกับคนของเขาได้ขนพวกมันไป

22 ชาวฟีลิสเตียยกทัพขึ้นมาอีกและกระจายกำลังออกในหุบเขาเรฟาอิม

23 ดาวิดจึงถามพระยาห์เวห์อีก และพระองค์ก็ตอบเขาว่า “อย่าบุกเข้าไปตรงๆแต่ให้อ้อมไปด้านหลัง และโจมตีพวกเขาจากพุ่มไม้บาคา[f] 24 ทันทีที่เจ้าได้ยินเสียงเดินทัพที่ยอดพุ่มไม้บาคา ก็ให้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เพราะนั่นหมายถึงพระยาห์เวห์ได้นำหน้าพวกเจ้าออกไปมีชัยเหนือกองทัพชาวฟีลิสเตียแล้ว”

25 ดาวิดจึงทำตามที่พระยาห์เวห์ได้สั่งเขาไว้ และเขาก็โจมตีชาวฟีลิสเตียได้ตลอดทางจากเมืองกิเบโอน[g] ไปจนถึงเกเซอร์

ดาวิดย้ายหีบศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า

(1 พศด. 13:1-14; 15:26–16:3, 43)

ดาวิดได้เลือกทหารที่เก่งกาจของอิสราเอลมาทั้งหมดสามหมื่นคน ดาวิดและคนของเขาออกเดินทางไปที่เมืองบาอาลาห์ในยูดาห์[h] เพื่อไปนำหีบของพระเจ้ามาจากที่นั่น หีบนั้นเป็นของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ระหว่างทูตสวรรค์ที่มีปีกสององค์ พวกเขาตั้งหีบของพระเจ้าไว้บนเกวียนเล่มใหม่ และนำหีบนั้นไปจากบ้านของอาบีนาดับซึ่งอยู่บนเขา อุสซาห์และอาหิโยลูกชายของอาบีนาดับเป็นคนขับเกวียนเล่มใหม่นั้น

เกวียนนั้นบรรทุกหีบของพระเจ้าอยู่บนมัน และอาหิโยเดินนำหน้าเกวียนนั้น[i] ดาวิดและครอบครัวอิสราเอลทั้งหมดกำลังเฉลิมฉลองกันอย่างสุดเหวี่ยงต่อหน้าพระยาห์เวห์ พวกเขาร้องเพลง เล่นพิณเล็ก พิณใหญ่ กลองรำมะนา เครื่องเขย่า และฉาบ[j] เมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวของนาโคน วัวที่ลากเกวียนนั้นเกิดสะดุดขึ้นมา อุสซาห์จึงยื่นมือออกจับหีบของพระเจ้าไว้ พระยาห์เวห์โกรธอุสซาห์ แล้วพระองค์ฟาดเขาตาย อุสซาห์ตายอยู่ที่นั้นต่อหน้าพระองค์ ดาวิดจึงโกรธพระเจ้า เพราะความโกรธของพระยาห์เวห์ได้ระเบิดใส่อุสซาห์ สถานที่แห่งนั้นจึงมีชื่อเรียกว่า เปเรศ-อุสซาห์[k] มาจนถึงทุกวันนี้

ในวันนั้น ดาวิดกลัวพระยาห์เวห์ เขาพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างนี้ เราจะเอาหีบของพระยาห์เวห์มาถึงเราได้ยังไงกัน” 10 เขาจึงไม่ยอมที่จะนำหีบของพระยาห์เวห์มาอยู่กับเขาในเมืองของดาวิด เขาจึงนำหีบนั้นไปไว้ที่บ้านของโอเบด-เอโดมจากเมืองกัท 11 หีบของพระยาห์เวห์จึงอยู่ที่บ้านของโอเบด-เอโดมจากเมืองกัทเป็นเวลาสามเดือน และพระยาห์เวห์ได้อวยพรโอเบด-เอโดมกับครัวเรือนเขาทั้งหมด

12 ขณะนั้นมีคนไปบอกกษัตริย์ดาวิดว่า “พระยาห์เวห์ได้อวยพรครัวเรือนของโอเบด-เอโดมและทุกสิ่งที่เขามี เพราะหีบของพระเจ้าอยู่กับเขา” ดาวิดจึงได้ลงไปนำหีบของพระเจ้าขึ้นมาจากบ้านของโอเบด-เอโดม มาถึงเมืองของดาวิดด้วยความชื่นชมยินดี 13 เมื่อคนที่ทำหน้าที่หามหีบของพระยาห์เวห์เดินไปได้หกก้าว ดาวิดก็ถวายวัวตัวผู้หนึ่งตัวและลูกวัวอ้วนหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชา 14 ดาวิดสวมถุงผ้าทับอกลินินเต้นรำอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์อย่างสุดเหวี่ยง

15 ดาวิดและครอบครัวอิสราเอลทั้งหมดได้นำหีบของพระยาห์เวห์ ขึ้นมาพร้อมกับโห่ร้องและเป่าแตรไปด้วย 16 ในขณะที่หีบของพระยาห์เวห์กำลังเข้าสู่เมืองของดาวิด มีคาลลูกสาวซาอูลมองลงมาจากหน้าต่าง เมื่อนางเห็นกษัตริย์ดาวิดกระโดดโลดเต้นและเต้นรำต่อหน้าพระยาห์เวห์ นางนึกดูถูกเขาอยู่ในใจ

17 พวกเขาได้นำหีบของพระยาห์เวห์มาตั้งไว้ในที่เฉพาะของมันในเต็นท์ที่ดาวิดได้กางไว้ให้ และดาวิดได้เผาสัตว์ทั้งตัวถวายเป็นเครื่องบูชาและถวายเครื่องสังสรรค์บูชาต่อหน้าพระยาห์เวห์

18 หลังจากที่เขาถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสังสรรค์บูชาเสร็จ เขาได้อวยพรให้กับประชาชนในนามของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น 19 แล้วเขาก็แจกขนมปังหนึ่งก้อน เค้กอินทผลัมและเค้กลูกเกดให้กับแต่ละคนในฝูงชนชาวอิสราเอลทั้งหมด ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แล้วประชาชนทั้งหมดก็กลับบ้านของพวกเขา

20 เมื่อดาวิดกลับบ้านเพื่อมาอวยพรคนในครัวเรือนของเขา มีคาลลูกสาวซาอูลออกมาพบเขาและพูดว่า “วันนี้กษัตริย์ของอิสราเอลช่างทำตัวได้โดดเด่นเสียจริง ถอดเสื้อผ้าท่ามกลางสายตาของพวกทาสหญิงรับใช้[l] ของเขา เหมือนคนชั้นต่ำทำกัน”

21 ดาวิดพูดกับมีคาลว่า “เราทำต่อหน้าพระยาห์เวห์ผู้ที่เลือกเรา แทนที่จะเลือกพ่อของเจ้า หรือคนหนึ่งคนใดในบ้านของเขา พระยาห์เวห์เป็นผู้แต่งตั้งเราขึ้นปกครองเหนืออิสราเอลประชาชนของพระองค์ ดังนั้นเราจะเต้นรำและเฉลิมฉลองอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์ 22 เราจะทำสิ่งที่น่าอับอายขายหน้ายิ่งกว่านี้อีก เจ้าอาจจะไม่เคารพเรา แต่พวกทาสหญิงที่เจ้าพูดถึงนั้น จะยังคงให้เกียรติเราอยู่”

23 แล้วมีคาลลูกสาวซาอูลก็ไม่มีลูกจนกระทั่งนางตาย

คำสัญญาที่พระเจ้าให้กับดาวิด

(1 พศด. 17:1-15)

หลังจากที่กษัตริย์ดาวิดเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านแล้ว พระยาห์เวห์ได้ให้เขาพักจากการรบกับศัตรูรอบด้าน กษัตริย์ดาวิดได้พูดกับนาธันผู้พูดแทนพระเจ้าว่า “ดูสิ เราอยู่ที่นี่ ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านที่ทำจากต้นสนซีดาร์ ในขณะที่หีบของพระเจ้า ยังคงอยู่ในเต็นท์”

นาธันตอบกษัตริย์ไปว่า “ในใจท่านคิดอะไร ก็ไปทำตามนั้นเถิด เพราะพระยาห์เวห์สถิตอยู่กับท่าน”

แต่คืนนั้น คำพูดของพระยาห์เวห์มาถึงนาธันว่า

“ให้ไปบอกดาวิดคนรับใช้ของเราว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนี้ เจ้าไม่ใช่คนนั้นที่จะสร้างบ้านให้เราอาศัยอยู่ ตั้งแต่วันที่เราได้นำชาวอิสราเอลออกจากอียิปต์มาจนถึงวันนี้ เราไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้าน เราได้ย้ายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งโดยใช้เต็นท์เป็นที่อาศัย ไม่ว่าเราได้ย้ายไปไหนกับชนชาติอิสราเอลทั้งหมด เราเคยพูดกับพวกผู้นำของอิสราเอลที่เราได้สั่งให้คอยดูแลชาวอิสราเอลคนของเรา หรือเปล่าว่า ทำไมพวกเจ้าถึงไม่ได้สร้างบ้านที่ทำจากไม้สนซีดาร์ให้กับเรา’

ตอนนี้ให้บอกกับดาวิดคนรับใช้ของเราว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นพูด เราได้นำเจ้ามาจากทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ จากการไล่ต้อนฝูงแพะแกะ มาเป็นผู้นำเหนือชาวอิสราเอลคนของเรา เราอยู่กับเจ้าในทุกๆที่ที่เจ้าไป และได้กำจัดศัตรูของเจ้าทั้งหมดไปต่อหน้าเจ้า ตอนนี้เราจะทำให้เจ้าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ในโลกคนหนึ่ง 10 และเราจะหาที่ให้กับชาวอิสราเอลคนของเรา และจะปลูกฝังพวกเขาไว้ที่นั่น เพื่อพวกเขาจะได้สร้างบ้านของตัวเอง และไม่ต้องถูกรบกวนอีกต่อไป คนชั่วทั้งหลายจะไม่สามารถกดขี่ข่มเหงพวกเขาอีกเหมือนที่พวกมันเคยทำตอนที่ชาวอิสราเอลเข้ามาในช่วงแรกนั้น 11 และยังทำเรื่อยมาในสมัยที่เราได้แต่งตั้งพวกผู้นำกู้ชาติ[m] ขึ้นเหนืออิสราเอลคนของเรา เราจะให้เจ้าได้พักจากการรบกับศัตรูทั้งหมดของเจ้า พระยาห์เวห์ได้ประกาศกับเจ้าว่า พระยาห์เวห์เองจะเป็นผู้สร้างบ้านให้กับเจ้า[n]

12 เมื่อวันเวลาของเจ้าจบลง แล้วเจ้าได้ไปนอนพักอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า เราจะตั้งลูกของเจ้าขึ้นมาสืบทอดเจ้า เป็นลูกแท้ๆของเจ้าเอง และเราจะก่อตั้งอาณาจักรของเขา 13 เขาคือคนที่จะสร้างบ้านให้กับชื่อของเรา และเราจะตั้งบัลลังก์ของอาณาจักรเขาให้มั่นคงตลอดไป 14 เราจะเป็นพ่อของเขา และเขาจะเป็นลูกชายของเรา[o] เมื่อเขาทำผิด เราจะใช้คนอื่นมาลงโทษเขา คนเหล่านั้นจะเป็นไม้เรียวของเรา 15 แต่เราจะไม่เอาความรักของเราไปจากเขา อย่างที่เราเคยเอามันไปจากซาอูลผู้ที่เราได้กำจัดไปให้พ้นหน้าเจ้า 16 ครอบครัวของเจ้าและอาณาจักรของเจ้าจะยั่งยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าตลอดไป บัลลังก์ของเจ้าจะถูกก่อตั้งไว้ตลอดไป’”

17 แล้วนาธันก็บอกดาวิด ถึงนิมิตและทุกอย่างที่พระเจ้าได้พูด

ดาวิดอธิษฐานกับพระเจ้า

(1 พศด. 17:16-27)

18 กษัตริย์ดาวิดจึงเข้าไปข้างในเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ และนั่งลงต่อหน้าพระยาห์เวห์และพูดว่า

“ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต ข้าพเจ้าเป็นใครกัน ครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นใครกัน พระองค์ถึงได้อวยพรข้าพเจ้ามากมายขนาดนี้ 19 แต่ดูเหมือนว่ามันยังน้อยไปในสายตาของพระองค์ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์ยังได้พูดถึงอนาคตของครอบครัวของผู้รับใช้พระองค์คนนี้ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์ทำกับข้าพเจ้าราวกับเป็นคนสำคัญมาก 20 ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต มีอะไรอีกไหมที่จะให้ดาวิดทำเพื่อพระองค์ ในเมื่อพระองค์ก็รู้จักผู้รับใช้คนนี้ของพระองค์ดี 21 เพื่อเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์คนนี้[p] พระองค์ได้ทำทั้งหมดนี้ คือเรื่องยิ่งใหญ่นี้[q] และได้เปิดเผยให้ผู้รับใช้ของพระองค์ได้รับรู้เรื่องนี้ด้วย เพราะพระองค์ตัดสินใจว่าจะทำอย่างนั้น 22 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้เป็นพระเจ้า พระองค์ช่างยิ่งใหญ่อะไรเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์ และไม่มีพระเจ้าอื่นอีกนอกจากพระองค์ พวกเราไม่เคยได้ยินเลยว่ามีพระองค์ไหนสามารถทำเรื่องน่าทึ่งทั้งหมดนี้ได้

23 และจะมีใครเป็นเหมือนอิสราเอลชนชาติของพระองค์เล่า ผู้ที่พระองค์ได้ไถ่ออกมาจากการเป็นทาสในอียิปต์[r] เพื่อจะได้มาเป็นประชาชนของพระองค์ พระองค์ได้สร้างชื่อเสียงให้กับพระองค์เอง ด้วยการกระทำอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเหล่านี้เพื่อพวกเขา ด้วยการขับไล่ชนชาติ และพวกพระทั้งหลายของพวกมันออกไปต่อหน้าคนของพระองค์ 24 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ได้ตั้งชาวอิสราเอลให้เป็นคนของพระองค์ตลอดไป และพระองค์ก็กลายเป็นพระเจ้าของพวกเขา

25 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้เป็นพระเจ้า ตอนนี้ ขอให้พระองค์รักษาสัญญาที่เกี่ยวกับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ และครอบครัวของข้าพเจ้า ตอนนี้ ได้โปรดทำตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ 26 เพื่อชื่อเสียงของพระองค์จะได้ยิ่งใหญ่ตลอดไป แล้วคนทั้งหลายจะพูดว่า ‘พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นเป็นพระเจ้าเหนืออิสราเอล’ และขอให้ครอบครัวของดาวิดผู้รับใช้พระองค์ ตั้งมั่นคงอยู่ต่อหน้าพระองค์

27 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์ได้เปิดเผยสิ่งนี้กับข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์ โดยพูดว่า ‘เราจะสร้างบ้าน[s] ให้เจ้า’ นั่นเป็นเหตุที่ข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์ ถึงกล้าอธิษฐานอย่างนี้กับพระองค์ 28 ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์คือพระเจ้า และคำพูดของพระองค์เชื่อถือได้ และพระองค์ได้สัญญาสิ่งดีนี้ให้กับข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์ 29 ตอนนี้ ขอโปรดอวยพรครอบครัวของข้าพเจ้า ผู้รับใช้ของพระองค์ ให้คงอยู่ตลอดไปต่อหน้าพระองค์ เพราะพระองค์ได้พูดอย่างนั้นไว้ ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต อย่างนี้ ครอบครัวของผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับพรตลอดไป ตามคำอวยพรของพระองค์”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International