Beginning
ความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า
11 ดังนั้น ท่านจงรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และปฏิบัติตามข้อกำหนดของพระองค์ กฎเกณฑ์ คำบัญชา และพระบัญญัติของพระองค์เสมอไป 2 วันนี้พวกท่านจงรู้ไว้ว่า ไม่ใช่พวกลูกๆ ของท่านที่รู้และได้เห็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสอนให้มีวินัย แต่เป็นพวกท่านที่ได้เห็นความยิ่งใหญ่ อานุภาพ และพลานุภาพของพระองค์ 3 ปรากฏการณ์อัศจรรย์และการกระทำของพระองค์ที่เกิดขึ้นกับฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์และกับทั่วทั้งแผ่นดินของประเทศ 4 และที่พระองค์กระทำต่อกองทัพของประเทศอียิปต์ ต่อม้าและรถศึกของพวกเขา และพระองค์ทำให้น้ำในทะเลแดงท่วมตัวพวกเขาขณะที่เขาไล่ตามท่านไป และพระผู้เป็นเจ้ากวาดล้างพวกเขามาจนถึงทุกวันนี้[a] 5 และที่พระองค์กระทำต่อท่านในถิ่นทุรกันดารจนกระทั่งท่านมาถึงที่นี่ 6 และที่พระองค์กระทำต่อดาธานและอะบีรามบุตรของเอลีอับผู้สืบมาจากเผ่ารูเบน คือพวกเขาตกลงไปในแผ่นดินที่เปิดแยกออก รวมทั้งทุกคนในครัวเรือน ทั้งกระโจม และสิ่งมีชีวิตทุกชีวิตที่อยู่กับเขาด้วย ชาวอิสราเอลทุกคนก็เห็นเหตุการณ์นั้น[b] 7 พวกท่านได้เห็นการกระทำอันยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าด้วยตาของท่านเอง
8 ฉะนั้น จงปฏิบัติตามพระบัญญัติที่เราบัญชาในวันนี้ เพื่อท่านจะได้เข้มแข็งและเข้าไปยึดครองแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามไปยึดไว้เป็นเจ้าของ 9 และเพื่อท่านจะมีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่านว่าจะมอบให้แก่พวกเขาและแก่บรรดาผู้สืบเชื้อสาย ดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง 10 แผ่นดินที่ท่านกำลังเข้าไปยึดครองนั้นไม่เหมือนกับแผ่นดินของอียิปต์ที่ท่านจากมา ซึ่งเป็นผืนดินที่ท่านต้องลงมือลงแรงหว่านเมล็ดและรดน้ำอย่างปลูกสวนผัก 11 แต่แผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามไปยึดครองเป็นเนินเขาและหุบเขาซึ่งชุ่มฉ่ำด้วยน้ำฝนจากฟากฟ้า 12 เป็นแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านดูแล พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเฝ้าดูอยู่เสมอตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี
13 และถ้าพวกท่านเชื่อฟังพระบัญญัติที่เราบัญชาในวันนี้คือ รักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์อย่างสุดดวงใจและสุดดวงจิตของท่าน 14 พระองค์จะให้แผ่นดินของท่านมีฝนตกตามฤดูกาล มีทั้งฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดู ท่านจะเก็บเกี่ยวธัญพืช เหล้าองุ่น และน้ำมันมะกอกของท่าน 15 และพระองค์จะให้หญ้างอกในทุ่งเพื่อสัตว์เลี้ยงของท่าน และท่านจะมีดื่มกินอย่างอิ่มหนำ 16 จงระวังเถิด มิฉะนั้นใจของท่านอาจจะถูกชักจูงให้หันไปบูชาและกราบนมัสการบรรดาเทพเจ้า 17 พระผู้เป็นเจ้าจะกริ้วพวกท่านมาก จะปิดท้องฟ้า ไม่เอื้อฝน พื้นแผ่นดินก็จะไม่ให้ดอกออกผล แล้วท่านจะตายไปจากแผ่นดินอันอุดมที่พระผู้เป็นเจ้ามอบให้ท่าน
18 ฉะนั้น จงจดจำคำของเราไว้ในใจและจิตวิญญาณของท่านเสมอ และจงผูกติดไว้เป็นดั่งเครื่องหมายที่มือของท่าน และเป็นเครื่องเตือนใจที่หว่างคิ้วของท่าน 19 ท่านจงสั่งสอนสิ่งเหล่านี้แก่ลูกๆ และจงพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นเวลานั่งอยู่ในบ้านหรือเดินไปไหนมาไหน และไม่ว่าจะเป็นเวลาหลับหรือตื่นก็ตาม 20 และจงเขียนไว้ที่วงกบประตูบ้านท่านและที่ประตูเมือง 21 เพื่อจำนวนวันของท่านและของลูกหลานจะทวีขึ้นในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณว่าจะมอบให้แก่บรรพบุรุษของท่าน ตราบที่ฟ้ายังอยู่เหนือโลก 22 เพราะว่าถ้าท่านรักษาพระบัญญัติทั้งสิ้นที่เราบัญชาท่านให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ด้วยการรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ดำเนินตามวิถีทางของพระองค์ และผูกพันอยู่กับพระองค์ 23 แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะขับไล่ประชาชาติเหล่านี้ไปให้พ้นหน้าพวกท่าน และท่านจะยึดครองแผ่นดินของบรรดาประชาชาติที่ยิ่งใหญ่กว่าและเข้มแข็งกว่าพวกท่านเอง 24 ทุกหนแห่งที่ฝ่าเท้าของท่านจะก้าวเหยียบไปจะตกเป็นของพวกท่าน อาณาเขตของท่านจะเริ่มต้นจากถิ่นทุรกันดารไปจรดภูเขาเลบานอน และจากแม่น้ำยูเฟรติสจรดทะเลที่อยู่ทางทิศตะวันตก 25 จะไม่มีใครยืนต่อต้านท่านได้ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะทำให้ผู้คนในแผ่นดินที่ท่านย่างเท้าก้าวไปเกิดความกลัวและหวาดหวั่นในตัวท่านดังที่พระองค์สัญญาท่านไว้
26 ดูเถิด วันนี้เราให้ท่านเลือกระหว่างพระพรและคำสาปแช่ง 27 ถ้าท่านปฏิบัติตามพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ซึ่งเราบัญชาท่านในวันนี้ ก็จะเป็นพระพร 28 แต่ถ้าท่านไม่เชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และออกนอกลู่นอกทางไปจากที่เราบัญชาท่านในวันนี้ แล้วหันไปเชื่อบรรดาเทพเจ้า ซึ่งพวกท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน ก็จะเป็นคำสาปแช่ง 29 และเมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านนำท่านเข้าไปในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดครอง ท่านจงประกาศพระพรที่ภูเขาเกริซิม และคำสาปแช่งที่ภูเขาเอบาล[c] 30 ท่านทราบแล้วว่าภูเขาทั้งสองลูกอยู่โพ้นแม่น้ำจอร์แดนทางด้านตะวันตกของถนน ไปทางทิศที่ตะวันตกดิน ในแผ่นดินของชาวคานาอันที่อาศัยอยู่ในอาราบาห์ใกล้เมืองกิลกาล ข้างๆ ต้นโอกแห่งโมเรห์ 31 ด้วยว่าพวกท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยึดครองแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้ท่าน เมื่อท่านยึดได้ และอาศัยอยู่ที่นั่น 32 จงระมัดระวัง ปฏิบัติให้เป็นตามกฎเกณฑ์และคำสั่งที่เราวางไว้ต่อหน้าพวกท่านในวันนี้ทุกประการ
สถานที่นมัสการแห่งเดียว
12 พวกท่านจงระมัดระวังปฏิบัติให้เป็นตามกฎเกณฑ์และคำสั่งเหล่านี้ในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านได้มอบให้ท่านยึดครองไปตลอดชีวิตของท่านในโลกนี้ 2 จงทำลายสถานที่ทุกแห่งของบรรดาประชาชาติที่นมัสการบรรดาเทพเจ้าของพวกเขา จนไม่ให้เหลือซาก ซึ่งเป็นที่ที่ท่านจะไปยึดครองซึ่งอยู่แถบภูเขาสูง ที่เนินเขาและใต้ต้นไม้เขียวชอุ่มทุกต้น 3 จงทำลายแท่นบูชาของพวกเขา ทุบเสาหินให้แตก เผาพวกเทวรูปอาเชราห์ และโค่นเทวรูปสลักของพวกเขาลงเสีย และทำให้ชื่อของพวกเขาหายสาบสูญไปจากสถานที่เหล่านั้น 4 อย่านมัสการพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านในวิธีเดียวกันกับที่พวกเขากระทำ 5 แต่จงหาสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือกจากเผ่าต่างๆ ของอิสราเอลให้พบ เพื่อยกย่องพระนามของพระองค์และให้เป็นที่พำนักของพระองค์ ท่านจงไปยังที่นั้น 6 และ ณ ที่นั้น ท่านจงนำสัตว์ที่จะเผาเป็นของถวาย เครื่องสักการะ ถวายหนึ่งในสิบ และของถวายที่ท่านบริจาค ของที่สัญญาว่าจะมอบให้ ของที่ให้ด้วยความสมัครใจ ลูกหัวปีจากฝูงโคและฝูงแพะแกะของท่าน 7 และ ณ ที่นั้น ท่านจงรับประทาน ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน พวกท่านและครอบครัวจงยินดีในทุกสิ่งที่ลงแรงกันทำ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้พรท่าน
8 อย่าประพฤติอย่างที่พวกเรากำลังกระทำอยู่ที่นี่ทุกวันนี้ คือทุกคนทำอย่างที่เห็นว่าถูกต้องในสายตาของตนเอง 9 ด้วยเหตุว่าท่านยังไปไม่ถึงที่พำนักและแผ่นดินอันเป็นมรดกซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ท่าน 10 แต่เมื่อท่านข้ามแม่น้ำจอร์แดนไป และอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ท่านเป็นมรดก และเมื่อพระองค์ให้ท่านได้ว่างเว้นจากศัตรูรอบข้างทั้งปวง เพื่อท่านจะได้อาศัยด้วยความปลอดภัย 11 และมีสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือก เพื่อให้เป็นที่สำหรับยกย่องพระนามของพระองค์ที่นั่น จงนำทุกสิ่งที่เราบัญชาพวกท่านคือ สัตว์ที่จะเผาเป็นของถวาย เครื่องสักการะ ถวายหนึ่งในสิบ และของถวายที่ท่านบริจาค ทุกสิ่งที่ท่านสัญญาว่าจะมอบให้แด่พระผู้เป็นเจ้า 12 จงยินดี ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ทั้งตัวท่านและบุตรชายบุตรหญิง ผู้รับใช้ชายและหญิง และชาวเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของพวกท่าน ผู้ไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับท่าน 13 ท่านจงระวังอย่ามอบสัตว์ที่จะเผาเป็นของถวายของท่าน ณ ที่ใดๆ ตามใจชอบ 14 แต่จะเป็นสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะเลือกในเผ่าใดเผ่าหนึ่งของท่าน ที่นั่นแหละจะเป็นสถานที่ซึ่งท่านจะมอบสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย และท่านจะปฏิบัติทุกสิ่งตามที่เราบัญชาท่านไว้
15 อย่างไรก็ดี ท่านฆ่าสัตว์เพื่อรับประทานเนื้อได้มากตามความต้องการภายในเมืองของท่าน ตามแต่พระพรที่ท่านจะได้รับจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ไม่ว่าผู้ใดจะสะอาดหรือไม่สะอาดตามพิธีกรรมก็รับประทานได้ทั้งนั้น เหมือนกับที่ท่านรับประทานเนื้อละองละมั่งหรือเนื้อกวาง 16 เพียงแต่ว่าอย่ารับประทานเลือด ท่านจงให้เลือดไหลดั่งน้ำลงสู่พื้นดิน 17 อย่ารับประทานของที่ท่านมอบให้แด่พระผู้เป็นเจ้าในเมืองที่ท่านอาศัยอยู่ อันได้แก่หนึ่งในสิบของธัญพืช เหล้าองุ่น หรือน้ำมันมะกอก ลูกหัวปีจากฝูงโคและฝูงแพะแกะ หรือของที่ท่านสัญญาว่าจะมอบให้ หรือของที่ให้ด้วยความสมัครใจ หรือของถวายที่ท่านบริจาค 18 แต่ท่านจงรับประทานของเหล่านี้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านในที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือก ทั้งตัวท่าน บุตรชายบุตรหญิง ผู้รับใช้ชายและหญิง และชาวเลวีที่อาศัยอยู่ในเมืองของพวกท่าน และท่านจงยินดี ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าในทุกสิ่งที่ท่านลงแรงทำ 19 จงระวังอย่าทอดทิ้งชาวเลวีตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินของท่าน
20 เมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านขยายอาณาเขตของท่านตามที่พระองค์ได้สัญญาไว้ ท่านพูดว่า ‘เราจะกินเนื้อสัตว์’ เพราะท่านอยากรับประทานเนื้อสัตว์เป็นอย่างยิ่ง แล้วท่านก็รับประทานได้มากเท่าที่ต้องการ 21 ถ้าหากว่าสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะเลือก เพื่อให้เป็นที่สำหรับยกย่องพระนามของพระองค์อยู่ห่างเกินไปสำหรับท่าน ท่านจะฆ่าโคหรือแพะแกะตัวใดในฝูงที่เป็นของท่านซึ่งพระผู้เป็นเจ้าให้ เพื่อรับประทานในเมืองของท่าน ตามที่เราบัญชาท่านแล้ว 22 ท่านรับประทานได้ไม่ว่าผู้ใดจะสะอาดหรือไม่สะอาดตามพิธีกรรมก็รับประทานได้ทั้งนั้น เหมือนกับที่ท่านรับประทานเนื้อละองละมั่งหรือกวาง 23 แต่ว่าอย่ารับประทานเลือด เพราะชีวิตพึงอยู่ได้ด้วยเลือด และท่านอย่ารับประทานชีวิตพร้อมกับเนื้อ 24 อย่ารับประทานเลือด จงให้เลือดไหลดั่งน้ำลงสู่พื้นดิน 25 อย่ารับประทานเลือด แล้วทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่านและลูกหลานที่เกิดมาภายหลังท่าน เมื่อท่านประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า 26 แต่ท่านจงนำเครื่องสักการะบูชาที่ท่านพึงถวาย และของที่ท่านสัญญาว่าจะมอบให้ ไปยังที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าจะเลือก 27 แล้วจงมอบสัตว์ที่จะเผาเป็นของถวายทั้งเนื้อและเลือดบนแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จงเทเลือดสัตว์ที่นำมาสักการะบนแท่นบูชาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ส่วนเนื้อนั้นท่านรับประทานได้ 28 ท่านจงระมัดระวังปฏิบัติให้เป็นตามคำซึ่งเราบัญชาท่านไว้ เพื่อว่าทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่านและลูกหลานที่เกิดมาภายหลังท่านเป็นนิตย์ เมื่อท่านประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
29 เมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกำจัดบรรดาประชาชาติที่ท่านบุกเข้าไปยึดครองดินแดนและอาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเขา 30 หลังจากเขาถึงความพินาศต่อหน้าท่านแล้ว จงระวังอย่าให้ถูกกับดัก ด้วยการถามไถ่เรื่องเทพเจ้าของพวกเขาว่า ‘ประชาชาติเหล่านั้นบูชาบรรดาเทพเจ้าของพวกเขาอย่างไร เราจะทำตามอย่างด้วย’ 31 อย่าประพฤติอย่างนั้นต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เพราะทุกสิ่งที่พวกเขากระทำต่อบรรดาเทพเจ้าของเขาเป็นที่น่ารังเกียจ และพระผู้เป็นเจ้าก็รังเกียจ แม้แต่บรรดาบุตรทั้งชายและหญิง พวกเขายังเผาไฟให้แก่บรรดาเทพเจ้าของเขาเลย
32 ท่านจงระมัดระวังปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เราบัญชาพวกท่านแล้ว อย่าแต่งเติมเสริมคำ หรือตัดให้หดหายไปจากนี้
นมัสการบรรดาเทพเจ้า
13 ถ้าเกิดมีใครสักคนเป็นผู้เผยคำกล่าว หรือเป็นผู้ทำนายฝันมาปรากฏ และบอกท่านเรื่องหมายสำคัญหรือสิ่งมหัศจรรย์ 2 แล้วหมายสำคัญหรือสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาบอกท่านก็เกิดขึ้นจริง และถ้าหากเขาพูดว่า ‘เราหันไปเชื่อบรรดาเทพเจ้ากันเถิด (และท่านเองก็ไม่รู้จักมาก่อน) แล้วเราไปนมัสการกันเถิด’ 3 อย่าฟังถ้อยคำของผู้เผยคำกล่าวหรือผู้ทำนายฝันคนนั้น เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกำลังลองใจว่า ท่านรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างสุดดวงใจและสุดดวงจิตของท่านหรือไม่ 4 ท่านจงดำเนินชีวิตตามพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านและเกรงกลัวพระองค์ ปฏิบัติตามพระบัญญัติและเชื่อฟังพระองค์ จงรับใช้และผูกพันอยู่กับพระองค์ 5 ส่วนผู้เผยคำกล่าวหรือผู้ทำนายฝันจะต้องถูกประหาร เพราะเขาสั่งสอนให้ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกท่าน ผู้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ และให้ท่านหลุดพ้นจากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส เขาทำให้ท่านละจากวิถีทางซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านบัญชาท่านให้ดำเนินตาม ฉะนั้นท่านจงกำจัดคนชั่วร้ายออกไปจากพวกท่าน
6 ถ้าพี่ชายน้องชายของท่านที่เกิดจากมารดาเดียวกัน หรือบุตรชายบุตรหญิงของท่าน หรือภรรยาสุดที่รักของท่านหรือเพื่อนสนิทที่รู้ใจ มาแอบลวงล่อใจท่านว่า ‘เราไปนมัสการบรรดาเทพเจ้ากันเถิด’ ซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จักมาก่อน 7 ปวงเทพเจ้าของบรรดาประชาชาติที่อยู่รายรอบท่าน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลจากตัวท่าน คือไม่ว่าที่ใดในโลกก็ตาม 8 ท่านจะต้องไม่คล้อยตามหรือฟังเขา หรือใจอ่อนสงสารเขา และอย่าแสดงความเมตตาต่อเขาหรือปกปิดความผิดของเขา 9 แต่ท่านจงฆ่าเขา ท่านจงเป็นคนแรกที่ลงมือกำจัดชีวิตเขาเสีย หลังจากนั้นก็ให้คนอื่นลงมือได้ 10 ท่านจงใช้ก้อนหินขว้างให้เขาตาย เพราะเขาพยายามดึงท่านให้ออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ผู้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส 11 และชาวอิสราเอลทั้งปวงจะได้ยินเรื่องราวและเกรงกลัว แล้วจะไม่กระทำความชั่วเช่นนี้ในหมู่พวกท่านอีก
12 ถ้าท่านได้ยินว่าเมืองใดเมืองหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้ท่านอาศัยอยู่ 13 มีคนชั่วมาจากพวกท่านเอง ทำให้ประชาชนในเมืองของพวกเขาหลงผิด โดยพูดว่า ‘เราไปนมัสการบรรดาเทพเจ้ากันเถิด’ ซึ่งท่านไม่รู้จักมาก่อน 14 ฉะนั้นแล้ว ท่านจงไต่ถาม สืบเสาะและสืบสวนให้แน่ชัด ถ้าเป็นความจริงและแน่ใจว่าสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนั้นได้เกิดขึ้นในหมู่พวกท่านจริง 15 ท่านจงฆ่าฟันประชาชนในเมืองนั้น กำจัดทุกคนที่อยู่ที่นั่นรวมทั้งสัตว์เลี้ยงให้ราบคาบด้วยคมดาบ 16 รวบรวมข้าวของที่ริบได้มาไว้ที่กลางลานเมือง จงเผาเมืองและข้าวของที่ริบได้ ดังเช่นสัตว์ทั้งตัวที่เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ให้เป็นกองสลักหักพังเป็นนิตย์ ไม่มีการก่อสร้างขึ้นใหม่อีก 17 อย่าให้สิ่งที่ถวายแล้วติดมือติดไม้ไปกับท่านเลย เพื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าจะหันเหจากความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ และมีเมตตาต่อท่าน สงสารท่าน และเพิ่มจำนวนทายาทของพวกท่านมากขึ้น ตามที่พระองค์ปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน 18 เพราะท่านเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน โดยปฏิบัติตามพระบัญญัติซึ่งเราบัญชาท่านในวันนี้ และประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation