Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 5-7

พระบัญญัติสิบประการ

โมเสสเรียกประชุมชาวอิสราเอลทั้งหมดและกล่าวว่า “ชาวอิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด กฎเกณฑ์และคำบัญชาที่เราบอกท่านในวันนี้ ท่านจงเรียนรู้ไว้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราทั้งหลายทำพันธสัญญาไว้กับเราที่ภูเขาโฮเรบ พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทำพันธสัญญากับบรรพบุรุษของเรา แต่ทำกับพวกเราซึ่งเป็นพวกเราทุกคนที่มีชีวิตอยู่ในวันนี้ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับพวกท่านต่อหน้าที่ภูเขานั้นจากท่ามกลางเพลิง ขณะที่เรายืนอยู่ระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับพวกท่านในเวลานั้น เพื่อประกาศสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าว เนื่องจากพวกท่านกลัวเพลิงไฟและไม่ได้ขึ้นไปบนภูเขา พระองค์กล่าวว่า

‘เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า คือผู้ที่นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ จากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส

นอกจากเราแล้ว เจ้าจงอย่านมัสการเทพเจ้าใดๆ

อย่าสร้างรูปเคารพหรือสิ่งใดที่มีลักษณะเหมือนสิ่งที่อยู่ในสวรรค์เบื้องบน หรืออยู่ในโลกเบื้องล่าง หรืออยู่ในน้ำใต้โลกให้แก่ตนเอง อย่าก้มกราบหรือบูชาสิ่งเหล่านั้น เพราะเราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า พระเจ้าผู้หวงแหน เราจะทำให้บาปของบิดาตกทอดถึงบุตรของเขาต่อเนื่องไปจน 3 และ 4 ชั่วอายุของผู้ที่เกลียดชังเรา 10 แต่เราจะแสดงความรักอันมั่นคงนับพันๆ ชั่วอายุของผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามบัญญัติของเรา

11 อย่าใช้ชื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้าในทางที่ผิด เพราะพระองค์จะถือโทษต่อคนที่นำชื่อของพระองค์ไปใช้ในทางที่ผิด

12 จงปฏิบัติตนในวันสะบาโตโดยนับว่าเป็นวันบริสุทธิ์ ตามที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้าบัญชาไว้ 13 เจ้าจะลงแรงทำงานทั้งสิ้นของเจ้า 6 วัน 14 แต่วันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโตสำหรับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า เจ้าอย่าทำงานใดๆ ในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเจ้า บุตรชายบุตรหญิง ผู้รับใช้ชายและหญิง โค ลา หรือสัตว์เลี้ยงของเจ้า และผู้อาศัยที่อยู่ในเมือง เพื่อให้ผู้รับใช้ของเจ้าได้หยุดพักเหมือนกับเจ้า 15 จงจำไว้ว่าเจ้าเป็นทาสรับใช้ในแผ่นดินอียิปต์ และพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้านำเจ้าออกจากที่นั่นด้วยอานุภาพและพลานุภาพ ฉะนั้นพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้าบัญชาให้เจ้าปฏิบัติตนในวันสะบาโต

16 จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้าตามที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้าบัญชาไว้ เพื่อเจ้าจะได้มีชีวิตยืนยาว และทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้ามอบให้แก่เจ้า

17 อย่าฆ่าคน

18 อย่าผิดประเวณี

19 อย่าขโมย

20 อย่าเป็นพยานเท็จกล่าวหาเพื่อนบ้านของเจ้า[a]

21 อย่าโลภ[b]อยากได้ภรรยาของเพื่อนบ้านเจ้า หรือโลภอยากได้บ้านเรือนของเพื่อนบ้าน หรือไร่นา ผู้รับใช้ชายและหญิงของเขา โคหรือลาของเขา หรืออะไรก็ตามที่เป็นของเพื่อนบ้านของเจ้า’

22 นี่คือพระบัญญัติที่พระผู้เป็นเจ้าประกาศด้วยเสียงอันดังแก่ที่ประชุมทั้งหมดที่ภูเขา จากใจกลางเพลิง หมอกเมฆและความมืดมิด พระองค์ไม่ได้กล่าวยิ่งไปกว่านั้น แล้วพระองค์เขียนไว้บนศิลา 2 แผ่นมอบให้กับเรา 23 เมื่อท่านได้ยินเสียงจากความมืด และภูเขาก็ลุกเป็นไฟ ท่านและบรรดาหัวหน้าประจำเผ่าและหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของท่านจึงเข้ามาใกล้เรา 24 แล้วพวกท่านพูดว่า ‘พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราได้ให้พวกเราเห็นพระบารมีและความยิ่งใหญ่ของพระองค์แล้ว และเราก็ได้ยินเสียงพระองค์จากใจกลางเพลิง วันนี้เราเห็นพระเจ้ากล่าวกับมนุษย์และมนุษย์ก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ 25 ในเวลานี้ทำไมพวกเราจะต้องเสี่ยงกับความตายเล่า เพลิงไฟขนาดใหญ่เช่นนี้จะทำให้พวกเราไม่รอดแน่ ถ้าหากว่าเราได้ยินเสียงพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราอีก เราจะต้องตายอย่างแน่นอน 26 มีมนุษย์ใดบ้างที่ได้ยินเสียงของพระเจ้าผู้ดำรงอยู่พูดจากเพลิงไฟอย่างที่พวกเราได้ยินและยังมีชีวิตอยู่ได้ 27 ขอให้ท่านเป็นผู้ไปใกล้ๆ เถิด ฟังทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราจะกล่าว แล้วท่านมาบอกให้พวกเราฟังสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราบอกกับท่านในทุกเรื่อง พวกเราจะฟังและปฏิบัติตาม’

28 พระผู้เป็นเจ้าได้ยินสิ่งที่ท่านพูดกับเรา พระองค์จึงกล่าวกับเราว่า ‘เราได้ยินสิ่งที่ประชาชนพวกนี้พูดกับเจ้า ทุกสิ่งที่พวกเขาพูดมานั้นถูกต้องทีเดียว 29 ถ้าใจของพวกเขาเป็นเช่นนั้นได้เสมอไปก็ดีนะ เกรงกลัวเราและรักษาบัญญัติของเราทุกข้อ เพื่อว่าทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับพวกเขาและลูกหลานของเขาไปตลอดกาล 30 เจ้าจงไปบอกพวกเขาให้กลับไปยังกระโจมของตน 31 แต่เจ้าจงยืนอยู่ที่นี่กับเรา แล้วเราจะบอกเจ้าเรื่องบัญญัติ กฎเกณฑ์ และคำบัญชาทั้งสิ้นที่เจ้าควรจะสอนพวกเขา เพื่อให้เขาปฏิบัติตามในแผ่นดินที่เรามอบให้เขาเพื่อยึดครอง’ 32 ฉะนั้นพวกท่านจงระมัดระวังปฏิบัติตามที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านบัญชาให้ท่านกระทำ อย่าหันเหไปจากการปฏิบัติตามกฎบัญญัติ 33 ท่านควรปฏิบัติตามวิถีทางที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้บัญชาไว้ เพื่อจะได้มีชีวิตอยู่ และทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และจะมีอายุยืนอยู่ในแผ่นดินที่ท่านจะยึดครอง

พระบัญญัติที่สำคัญที่สุด

ต่อไปนี้เป็นพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และคำบัญชาที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านบัญชาให้เราสอน เพื่อพวกท่านจะได้ปฏิบัติในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเดินทางข้ามไปยึดเป็นเจ้าของ ท่านจะได้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ด้วยการรักษากฎเกณฑ์และพระบัญญัติของพระองค์ ซึ่งเราบัญชาท่านและบรรดาผู้สืบเชื้อสายไปจนชั่วชีวิต ท่านจะได้มีชีวิตยืนนาน จงฟังเถิด อิสราเอลเอ๋ย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะทวีจำนวนคนขึ้นในดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งตามที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านได้สัญญาไว้

จงฟังเถิด อิสราเอลเอ๋ย พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราเป็นพระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว และจงรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างสุดดวงใจ สุดดวงจิต และสุดกำลังของท่าน[c] ให้บัญญัติที่เราบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจท่าน ท่านจงสั่งสอนสิ่งเหล่านี้กับลูกๆ ด้วยความพากเพียร และจงพูดถึงไม่ว่าจะเป็นเวลานั่งอยู่ในบ้าน หรือเดินไปไหนมาไหน และไม่ว่าจะเป็นเวลาหลับหรือตื่นก็ตาม ท่านจงผูกติดไว้เป็นดั่งเครื่องหมายที่มือของท่าน[d] และเป็นเครื่องเตือนใจที่หน้าผาก และท่านจงเขียนไว้ที่วงกบประตูบ้านท่านและที่ประตูเมือง

10 เมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านนำท่านเข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์ปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ เพื่อยกเมืองทั้งหลายที่ใหญ่และอุดมสมบูรณ์ซึ่งท่านไม่ได้สร้าง 11 มีข้าวของเครื่องใช้เต็มบ้านโดยท่านไม่ต้องหา บ่อที่ขุดไว้แล้วโดยท่านไม่ต้องขุด สวนองุ่นและต้นมะกอกที่ท่านไม่ได้ปลูก และเมื่อท่านมีกินจนอิ่มหนำ 12 ท่านจงระวังไว้ มิฉะนั้นท่านอาจจะลืมพระผู้เป็นเจ้าผู้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส 13 ท่านจงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จงรับใช้พระองค์ และสาบานด้วยพระนามของพระองค์ 14 อย่าหันไปเชื่อเทพเจ้าใดๆ ที่เป็นของบรรดาชนชาติที่อยู่รอบข้างท่าน 15 เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านซึ่งอยู่ในท่ามกลางพวกท่านเป็นพระเจ้าผู้หวงแหน เกรงว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะกริ้วมาก และกำจัดท่านให้พ้นจากแผ่นดินโลก

16 อย่าลองดีกับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เหมือนอย่างครั้งที่ท่านได้ลองดีกับพระองค์ที่มัสสาห์[e] 17 ท่านจงรักษาพระบัญญัติ พันธสัญญา และกฎเกณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างเคร่งครัดตามคำบัญชาของพระองค์ 18 ท่านจงประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะได้เข้าไปยึดครองแผ่นดินอันอุดมซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณว่าจะมอบแก่บรรพบุรุษของท่าน 19 โดยขับไล่ศัตรูทุกคนออกไปให้พ้นหน้าท่าน ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาไว้

20 ในอนาคต เวลาบุตรของท่านถามว่า ‘พันธสัญญา กฎเกณฑ์ และคำสั่งทั้งหลายที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราได้บัญชาพวกท่านไว้มีความหมายอย่างไร’ 21 แล้วท่านจะตอบบุตรของท่านว่า ‘พวกเราเป็นทาสของฟาโรห์ที่ประเทศอียิปต์ และพระผู้เป็นเจ้าพาพวกเราออกจากอียิปต์ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ 22 และพระผู้เป็นเจ้าได้แสดงให้เราเห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ อันยิ่งใหญ่ และสิ่งเลวร้ายที่เกิดกับอียิปต์ ทั้งฟาโรห์และทุกคนในครัวเรือนของท่าน 23 และพระองค์พาพวกเราออกจากที่นั่น เพื่อพระองค์จะได้นำพวกเราเข้าไปและมอบแผ่นดินที่พระองค์ได้ปฏิญาณไว้ว่าจะมอบแก่บรรพบุรุษของเรา 24 และพระผู้เป็นเจ้าบัญชาให้เราปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ ให้ยำเกรงพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา เพื่อคงคุณประโยชน์แก่เราเสมอไป และให้มีชีวิตดังที่เป็นอยู่ในวันนี้ 25 ถ้าเราปฏิบัติตามพระบัญญัติทั้งปวงอย่างเคร่งครัด ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราอย่างที่พระองค์บัญชา แล้วความชอบธรรมก็จะเป็นของพวกเรา’

อิสราเอลเป็นของพระผู้เป็นเจ้า

เวลาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านนำท่านเข้าไปในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะไปยึดครอง และขับไล่ประชาชาติมากหลายไปให้พ้นหน้าท่านคือ ชาวฮิต ชาวเกอร์กาช ชาวอาโมร์ ชาวคานาอัน ชาวเปริส ชาวฮีว และชาวเยบุส 7 ประชาชาติซึ่งมีทั้งจำนวนคนมากกว่าและเข้มแข็งกว่าท่าน เมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านยกคนพวกนี้ให้แก่ท่าน และท่านชนะพวกเขา ท่านต้องกำจัดให้ราบคาบ อย่าทำพันธสัญญาใดๆ และอย่าแสดงความเมตตาต่อพวกเขาด้วย อย่าแต่งงานกับพวกเขา ไม่ว่าจะยกบุตรสาวให้บุตรของเขา หรือรับบุตรสาวมาให้บุตรของท่าน เพราะพวกเขาจะทำให้บุตรของท่านเลิกเชื่อพระผู้เป็นเจ้า แล้วหันไปบูชาบรรดาเทพเจ้า และพระองค์จะกริ้วพวกท่านมาก และจะกำจัดท่านโดยเร็ว ฉะนั้นท่านจงกระทำต่อพวกเขาดังนี้คือ จงทำลายแท่นบูชาของพวกเขา จงทุบเสาหินให้แตก โค่นพวกเทวรูปอาเชราห์[f]ของพวกเขาลงเสีย และเผารูปเคารพสลักของพวกเขา

ด้วยว่า ท่านเป็นชนชาติบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้เลือกท่านให้เป็นชนชาติหนึ่งจากชนชาติทั้งปวงบนแผ่นดินโลก เพื่อให้เป็นสมบัติอันมีค่าของพระองค์ มิใช่ว่า พวกท่านมีจำนวนคนมากกว่าชนชาติทั้งปวง แต่เนื่องจากพระผู้เป็นเจ้ามีความผูกพันกับพวกท่าน พระองค์จึงได้เลือก ด้วยว่า พวกท่านมีจำนวนน้อยที่สุดในบรรดาชนชาติทั้งปวง แต่เป็นเพราะพระผู้เป็นเจ้ารักท่าน และพระองค์รักษาสัญญาที่ได้ปฏิญาณกับบรรพบุรุษของท่าน จึงนำท่านออกมาด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ ให้ท่านหลุดพ้นจากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส จากมือของฟาโรห์กษัตริย์แห่งอียิปต์ ฉะนั้นจงรู้เถิดว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าผู้รักษาคำมั่นสัญญา พระองค์รักษาพันธสัญญาและความรักอันมั่นคงยาวนานนับพันชั่วอายุคนต่อบรรดาผู้ที่รักพระองค์ และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ 10 แต่พระองค์จะทำให้คนที่เกลียดชังพระองค์ประสบกับความพินาศเป็นการตอบแทน พระองค์จะไม่ลังเลกับคนที่เกลียดชังพระองค์ พระองค์จะให้เขาประสบกับความพินาศ 11 ฉะนั้นท่านจงรักษาพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และคำสั่งที่เราบัญชาท่านในวันนี้เพื่อปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

12 ถ้าท่านใส่ใจกับคำสั่งเหล่านี้และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะรักษาพันธสัญญาและความรักอันมั่นคงไว้กับท่าน ตามที่พระองค์ปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน 13 พระองค์จะรักและอวยพร จะเพิ่มจำนวนทายาทของท่านให้มากขึ้น พระองค์จะอวยพรลูกหลานที่เกิดจากท่าน รวมทั้งพืชผลที่ได้จากไร่นา ธัญพืช เหล้าองุ่นและน้ำมันมะกอกอย่างเปี่ยมล้น ลูกโคและลูกแกะจากฝูงในแผ่นดินที่พระองค์ปฏิญาณกับบรรพบุรุษของท่านว่าจะให้แก่ท่าน 14 ท่านจะได้รับพระพรมากกว่าชาติอื่นๆ จะไม่มีชายหรือหญิงคนใดท่ามกลางท่าน หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงของท่านเป็นหมัน 15 และพระผู้เป็นเจ้าจะปกป้องท่านให้พ้นจากโรคภัยทั้งปวง พระองค์จะไม่ให้มีโรคระบาดร้ายแรงอย่างที่ท่านรู้จักในประเทศอียิปต์เกิดกับท่าน แต่พระองค์จะให้เกิดกับทุกคนที่เกลียดชังท่าน 16 แล้วท่านจะกำจัดชนชาติทั้งปวงที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ท่าน อย่าให้สายตาของท่านแสดงความสงสารพวกเขา และอย่าบูชาเทพเจ้าใดๆ ของพวกเขา เพราะนั่นคือกับดัก

17 ถ้าท่านนึกในใจว่า ‘ประชาชาติเหล่านี้ใหญ่ยิ่งกว่าเรา เราจะขับไล่เขาไปได้อย่างไร’ 18 อย่ากลัวพวกเขาเลย แต่ท่านจงจำไว้ว่า พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกระทำอะไรบ้างต่อฟาโรห์และชาวอียิปต์ทั้งปวง 19 ท่านเห็นการทดสอบอันยิ่งใหญ่ด้วยตาของท่าน ปรากฏการณ์อัศจรรย์ สิ่งมหัศจรรย์ อานุภาพ และพลานุภาพ อันเป็นวิธีที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านนำท่านออกมา พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านก็จะกระทำอย่างเดียวกันต่อทุกชนชาติที่ท่านกลัว 20 ยิ่งกว่านั้นพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะส่งฝูงแตนไปไล่และฆ่าพวกที่ยังมีชีวิตอยู่และหลบหนีไปซ่อนตัว 21 อย่าตกใจกลัวพวกเขาเลย เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอยู่ท่ามกลางท่าน พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม 22 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะขับไล่ประชาชาติเหล่านี้ไปให้พ้นหน้าท่านทีละน้อย ท่านอย่ากำจัดพวกเขาโดยเร็ว เพราะเกรงว่าจำนวนสัตว์ป่าจะมีมากเกินไปสำหรับพวกท่าน[g] 23 แต่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะยกพวกเขาให้แก่ท่าน และทำให้เขาว้าวุ่นชุลมุนจนถูกฆ่าตาย 24 แล้วพระองค์จะทำให้กษัตริย์ของพวกเขาตกอยู่ในเงื้อมมือของท่าน และจะทำให้ชื่อของเขาสาบสูญไปจากโลก จะไม่มีผู้ใดยืนต่อต้านท่านได้ ท่านจะฆ่าพวกเขาทุกคน 25 ท่านจะเผารูปเคารพที่เป็นเทพเจ้าของพวกเขาด้วยไฟ อย่าโลภอยากได้เงินหรือทองที่หุ้มสิ่งเหล่านั้น หรือเอาไปเก็บไว้เอง เกรงว่าท่านจะถูกติดกับดัก เพราะเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน 26 อย่านำสิ่งที่น่ารังเกียจเข้าบ้านของท่าน มิฉะนั้นท่านจะพลอยถูกกำหนดให้พินาศเหมือนกับสิ่งนั้น ท่านควรทั้งเกลียดทั้งชังสิ่งเหล่านั้นเป็นที่สุด เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดให้พินาศ

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation