Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
อพยพ 19-21

ที่ภูเขาซีนาย

19 หลังจากชาวอิสราเอลออกเดินทางจากแผ่นดินอียิปต์ไปแล้ว เมื่อถึงวันแรกของเดือนที่สาม พวกเขาก็มาถึงถิ่นทุรกันดารซีนาย เมื่อชาวอิสราเอลเดินทางออกจากเรฟีดิมมาจนถึงถิ่นทุรกันดารซีนาย พวกเขาก็ได้ตั้งค่ายอยู่ที่เชิงเขาในถิ่นทุรกันดาร โมเสสขึ้นไปพบกับพระเจ้า และพระผู้เป็นเจ้าก็เปล่งเสียงจากภูเขาเรียกท่าน และกล่าวว่า “จงบอกครอบครัวของยาโคบ และจงบอกชาวอิสราเอลว่า เจ้าได้เห็นสิ่งที่เรากระทำต่อชาวอียิปต์ และเราประคับประคองเจ้าไว้ดั่งอยู่บนปีกนกอินทรีได้อย่างไร จนกระทั่งนำเจ้าออกมาอยู่กับเราที่นี่ บัดนี้ถ้าพวกเจ้าเชื่อฟังเสียงเราและรักษาพันธสัญญาของเรา เจ้าก็จะเป็นสมบัติอันมีค่าของเราท่ามกลางชนชาติทั้งปวง ด้วยเหตุว่าโลกทั้งโลกเป็นของเรา และพวกเจ้าจะเป็นอาณาจักรแห่งปุโรหิตทั้งหลาย และเป็นประชาชาติที่บริสุทธิ์ นี่คือสิ่งที่เจ้าจะต้องพูดกับชาวอิสราเอล”

ดังนั้น โมเสสจึงเรียกประชุมบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของประชาชน และบอกเรื่องที่พระผู้เป็นเจ้าได้สั่งท่านไว้ แล้วประชาชนต่างก็ตอบเป็นเสียงเดียวว่า “เราจะทำทุกสิ่งตามที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้” โมเสสจึงรายงานกับพระผู้เป็นเจ้าตามคำพูดของประชาชน พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ดูเถิด เราจะมาพบกับเจ้าท่ามกลางเมฆหนาทึบ เพื่อให้ประชาชนได้ยินเสียงที่เราพูดกับเจ้า ตั้งแต่นี้ไปเขาจะเชื่อเจ้าด้วย”

โมเสสจึงบอกประชาชนตามที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้ 10 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงบอกให้ประชาชนชำระตัวให้บริสุทธิ์ทั้งวันนี้และพรุ่งนี้ และพวกเขาต้องซักเสื้อผ้า 11 จงเตรียมให้พร้อมภายในวันที่สาม เพราะวันที่สามพระผู้เป็นเจ้าจะลงมาที่ภูเขาซีนายต่อหน้าประชาชนทั้งปวง 12 เจ้าต้องกำหนดเขตแก่ประชาชนโดยรอบบริเวณและบอกว่า ‘อย่าขึ้นไปบนภูเขาหรือแม้แต่จะแตะต้องเชิงเขา ใครที่แตะต้องภูเขาจะต้องตาย 13 เขาจะถูกหินขว้างจนตายหรือไม่ก็ถูกยิงด้วยธนู และก็อย่าให้ใครถูกต้องตัวคนนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์ที่แตะต้องเชิงเขา ก็อย่าให้มีชีวิตอยู่เลย’ แต่เมื่อได้ยินเสียงแตรงอน[a]เป่ายาวๆ ก็ให้พวกเขาขึ้นมาบนภูเขา” 14 โมเสสจึงลงจากภูเขาไปหาประชาชน บอกให้พวกเขาชำระตัวให้บริสุทธิ์และซักเสื้อผ้าด้วย 15 ท่านพูดกับประชาชนว่า “จงเตรียมตัวให้พร้อมในวันที่สาม จงอยู่ห่างผู้หญิงเข้าไว้”

16 เช้าของวันที่สามก็เกิดฟ้าแลบฟ้าร้อง มีเมฆหนาก้อนหนึ่งปกคลุมอยู่บริเวณภูเขา เสียงแตรงอนดังกึกก้องจนทำให้ประชาชนทั้งปวงที่อยู่ในค่ายหวาดกลัว 17 โมเสสพาประชาชนออกจากค่ายเพื่อไปพบกับพระเจ้า และพวกเขาก็ยืนกันอยู่ที่เชิงเขา 18 ภูเขาซีนายทั้งลูกมืดครึ้มด้วยหมอกควัน เพราะพระผู้เป็นเจ้าลงมาอยู่ที่นั่นในรูปลักษณ์ของเปลวไฟ ควันพลุ่งขึ้นเหมือนควันจากเตาผิง และภูเขาทั้งลูกก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง 19 ขณะที่เสียงแตรงอนดังขึ้นเรื่อยๆ โมเสสพูดและพระเจ้าตอบท่านเป็นเสียงฟ้าร้อง 20 พระผู้เป็นเจ้าลงมายังภูเขาซีนาย ณ ที่ยอดเขา และพระผู้เป็นเจ้าเรียกโมเสสขึ้นไปที่ยอดภูเขา โมเสสก็ขึ้นไป

21 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ลงไปเตือนประชาชนว่าอย่าล้ำเขตเข้ามาจ้องดูพระผู้เป็นเจ้า มิฉะนั้นพวกเขาจะพากันตายหลายคน 22 แล้วให้บรรดาปุโรหิตที่เข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้าชำระตัวให้บริสุทธิ์ด้วย มิฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะลงโทษพวกเขา” 23 โมเสสพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “ประชาชนจะขึ้นมาบนภูเขาซีนายไม่ได้ เพราะพระองค์กำชับไว้แล้วว่า ‘จงกำหนดเขตรอบภูเขาให้เป็นที่บริสุทธิ์’” 24 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า “ลงไปเถิด แล้วพาอาโรนขึ้นมากับเจ้าด้วย แต่อย่าให้บรรดาปุโรหิตและประชาชนล้ำเขตขึ้นมาถึงพระผู้เป็นเจ้า มิฉะนั้นเราจะลงโทษพวกเขา” 25 ดังนั้น โมเสสจึงลงไปบอกประชาชน

พระบัญญัติสิบประการ

20 พระเจ้ากล่าวตามคำพูดดังนี้ว่า

“เราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า คือผู้ที่นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์ จากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส

นอกจากเราแล้ว เจ้าจงอย่านมัสการเทพเจ้าใดๆ

อย่าสร้างรูปเคารพหรือสิ่งใดที่มีลักษณะเหมือนสิ่งที่อยู่ในสวรรค์เบื้องบน หรืออยู่ในโลกเบื้องล่าง หรืออยู่ในน้ำใต้โลกให้แก่ตนเอง อย่าก้มกราบหรือบูชาสิ่งเหล่านั้น เพราะเราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า พระเจ้าผู้หวงแหน เราจะทำให้บาปของบิดาตกทอดถึงบุตรของเขาต่อเนื่องไปจน 3 และ 4 ชั่วอายุของผู้ที่เกลียดชังเรา แต่เราจะแสดงความรักอันมั่นคงนับพันๆ ชั่วอายุของผู้ที่รักเราและปฏิบัติตามบัญญัติของเรา

อย่าใช้ชื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้าในทางที่ผิด เพราะพระองค์จะถือโทษต่อคนที่นำชื่อของพระองค์ไปใช้ในทางที่ผิด

จงระลึกถึงวันสะบาโตโดยนับว่าเป็นวันบริสุทธิ์ เจ้าจะลงแรงทำงานทั้งสิ้นของเจ้า 6 วัน 10 แต่วันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโตสำหรับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า เจ้าอย่าทำงานใดๆ ในวันนั้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเจ้า บุตรชายบุตรหญิง ผู้รับใช้ชายและหญิง หรือแม้แต่สัตว์ใช้งานของเจ้า และคนต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในเมืองของเจ้า 11 เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้าได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทะเลและทุกสิ่งที่มีอยู่ในที่เหล่านั้นในเวลา 6 วัน แล้วพระองค์พักผ่อนในวันที่เจ็ด ฉะนั้นพระผู้เป็นเจ้าให้พรวันสะบาโตและทำให้เป็นวันบริสุทธิ์

12 จงให้เกียรติบิดามารดาของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้มีชีวิตยืนยาวในแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้ามอบให้แก่เจ้า[b]

13 อย่าฆ่าคน

14 อย่าผิดประเวณี

15 อย่าขโมย

16 อย่าเป็นพยานเท็จกล่าวหาเพื่อนบ้านของเจ้า[c]

17 อย่าโลภ[d]อยากได้บ้านเรือนของเพื่อนบ้านเจ้า อย่าโลภอยากได้ภรรยาของเพื่อนบ้านเจ้า หรือผู้รับใช้ชายและหญิงของเขา โคหรือลาของเขา หรืออะไรก็ตามที่เป็นของเพื่อนบ้านของเจ้า”

18 เมื่อประชาชนเห็นฟ้าร้อง ฟ้าแลบและได้ยินเสียงแตรงอน อีกทั้งเห็นควันพลุ่งขึ้นจากภูเขา พวกเขาก็กลัวจนตัวสั่นและยืนอยู่ห่างๆ 19 พลางพูดกับโมเสสว่า “ท่านพูดกับเราเถิด เราจะฟัง แต่อย่าให้พระเจ้าพูดกับเราโดยตรงเลย เพราะเกรงว่าพวกเราจะถึงกาลวิบัติ” 20 โมเสสพูดกับประชาชนว่า “อย่ากลัวเลย เพราะพระเจ้ามาทดสอบท่าน เพื่อท่านจะได้ยำเกรงพระองค์ และไม่ทำบาป” 21 ประชาชนยืนอยู่ห่างๆ ในขณะที่โมเสสเดินเข้าไปใกล้ความมืดมิดที่พระเจ้าสถิต

รูปเคารพและแท่นบูชา

22 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “เจ้าจงพูดกับชาวอิสราเอลว่า ‘พวกเจ้าเองเห็นแล้วว่า เราได้พูดกับเจ้าจากท้องฟ้า 23 อย่าหล่อเทวรูปเงินขึ้นมาเทียบเคียงข้างเรา และอย่าหล่อเทวรูปทองคำให้ตนเองเช่นกัน 24 แต่จงใช้ดินก่อเป็นแท่นบูชาสำหรับเรา และถวายเครื่องสักการะด้วยแกะและโคที่จะเผาเป็นของถวายและเนื้อสัตว์ที่เป็นของถวายเพื่อสามัคคีธรรม ที่ใดก็ตามที่เราหมายจะให้เจ้าระลึกถึงชื่อของเรา เราก็จะมาหาเจ้าและอวยพรเจ้า 25 และถ้าเจ้าจะใช้หินก่อเป็นแท่นบูชาสำหรับเรา เจ้าก็อย่าสร้างขึ้นจากหินที่แต่งแล้ว เพราะหากว่าเจ้าใช้เครื่องมือแต่งหิน เท่ากับเจ้าทำให้หินเป็นมลทิน 26 และอย่าขึ้นสู่แท่นบูชาของเราทางขั้นบันได เพราะคนจะเห็นกายของเจ้าที่ไม่ปกปิดให้มิดชิด’

21 ต่อไปนี้เป็นคำสั่งที่เจ้าจะต้องแจ้งให้พวกเขารู้ เวลาเจ้าซื้อทาสชาวฮีบรู เขาจะรับใช้ได้นานถึง 6 ปี แต่พอปีที่เจ็ด เขาจะเป็นอิสระโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ถอนอะไรเลย ถ้าเขามาเพียงลำพัง เขาก็ไปเพียงลำพังคนเดียว แต่ถ้าเขามากับภรรยา เขาก็ควรพาภรรยาไปด้วย ถ้านายของเขาหาภรรยาให้เขา และนางมีบุตรชายบุตรหญิงกับเขา ทั้งภรรยาและลูกๆ ของนางจะต้องเป็นของนาย และเขาจะต้องไปเพียงลำพัง ถ้าทาสผู้นั้นบอกว่า ‘ข้าพเจ้ารักนาย ภรรยาและลูกๆ ของข้าพเจ้า และไม่ต้องการมีอิสระ’ นายของเขาจะต้องให้เขาไปหาพระเจ้า ให้เขาไปที่ประตูหรือวงกบประตู นายของเขาจะเจาะหูเขาข้างหนึ่งด้วยเหล็กแหลม แล้วเขาจะรับใช้นายของเขาไปตลอดชีวิต

ถ้าชายใดขายบุตรหญิงของตนเป็นทาส เธอจะไม่ได้รับการปลดปล่อยให้มีอิสระเหมือนทาสชาย ถ้านายไม่พอใจจะรับเธอไว้เป็นภรรยา เขาก็จะต้องให้บิดาซื้อเธอกลับไป เขาจะไม่มีสิทธิ์ขายเธอให้กับชนชาติอื่น เพราะเขาไม่ได้ให้ความเป็นธรรมแก่เธอ ถ้าเขาตกลงใจจะให้เธอเป็นของบุตรชายของเขา เขาจะต้องปฏิบัติต่อเธอเสมอด้วยบุตรหญิง 10 ถ้าเขามีภรรยาเพิ่มขึ้นอีก ก็ต้องไม่ลดจำนวนอาหาร เสื้อผ้าหรือสิทธิ์ของภรรยาคนเก่าให้น้อยลง 11 ถ้าหากว่าเขาไม่ปฏิบัติทั้ง 3 ข้อนี้ต่อเธอ เธอจะเป็นอิสระโดยไม่ต้องเสียเงิน

การทำร้ายผู้อื่น

12 ใครก็ตามที่ทุบตีผู้อื่นจนตายต้องรับโทษถึงตาย 13 แต่ถ้าเขาไม่ได้ตั้งใจทำ และพระเจ้าปล่อยให้เกิดขึ้น เราก็จะเลือกที่แห่งหนึ่งเพื่อให้เขาหลบหนีไปอยู่ได้ 14 แต่ถ้าผู้ใดทำร้ายผู้อื่นโดยจงใจฆ่าให้ตาย เจ้าจะลากตัวเขาไปจากแท่นบูชาของเรา ให้เขาต้องโทษถึงตายได้

15 ใครก็ตามที่ทุบตีบิดามารดาของตนต้องรับโทษถึงตาย

16 ใครก็ตามที่ลักตัวคนไปขายหรือถูกจับได้ว่า คนที่ถูกลักไปอยู่ด้วยกับเขา เขาจะต้องรับโทษถึงตาย

17 ใครก็ตามที่สาปแช่งบิดามารดาของตนจะได้รับโทษถึงตาย[e]

18 ถ้าคนวิวาทกัน คนใดคนหนึ่งขว้างก้อนหินหรือชกอีกคนด้วยหมัดจนบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่ถึงตาย 19 ถ้าเขายังลุกขึ้นยันไม้เท้าเดินไปมาได้อีก คนที่ทุบตีเขาก็จะพ้นโทษ แต่จะต้องชดใช้ค่าป่วยการและเป็นธุระจนกว่าเขาจะหายดี

20 หากชายใดทุบตีทาสชายและทาสหญิงของตนด้วยไม้จนตายคามือ เขาจะต้องถูกลงโทษ 21 แต่ถ้าทาสนั้นมีชีวิตอยู่ได้ต่ออีกวันสองวัน เขาจะไม่ถูกลงโทษ เพราะทาสเป็นสมบัติของเขา

22 ถ้าผู้ชายต่อสู้กัน แล้วหญิงมีครรภ์ต้องแท้งลูกด้วยเหตุจากถูกลูกหลง แต่ไม่ได้มีรอยบาดเจ็บอื่นใด คนที่ทำให้นางแท้งต้องถูกปรับตามแต่สามีของหญิงผู้นั้นจะเรียกร้อง เขาจะต้องจ่ายตามที่ผู้ตัดสินความเห็นสมควร 23 แต่ถ้านางเกิดบาดเจ็บสาหัส เจ้าจะต้องทดแทนชีวิตด้วยชีวิต 24 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน[f] มือต่อมือ เท้าต่อเท้า 25 รอยไหม้ต่อรอยไหม้ บาดแผลต่อบาดแผล รอยช้ำต่อรอยช้ำ

26 ถ้าชายใดชกต่อยที่นัยน์ตาของทาสชายหรือทาสหญิงของตนจนนัยน์ตาบอด เขาจะต้องปล่อยทาสให้มีอิสระเป็นการชดใช้ตา 27 ถ้าเขาทำให้ทาสต้องฟันหลุด ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ตาม เขาจะต้องปล่อยทาสไปให้มีอิสระเป็นการชดใช้ฟัน

28 ถ้าโคขวิดชายหรือหญิงจนตาย โคตัวนั้นต้องถูกหินขว้าง แล้วห้ามรับประทานเนื้อของมัน เจ้าของโคก็จะไม่ถูกลงโทษ 29 แต่ถ้าโคตัวนั้นเคยขวิดคนมาก่อน และมีการเตือนเจ้าของแล้ว แต่เขาไม่ขังมันไว้ เมื่อมันขวิดชายหรือหญิงคนใดจนตาย มันก็ต้องถูกหินขว้าง รวมทั้งเจ้าของก็ต้องได้รับโทษถึงตายด้วย 30 ถ้าเขาถูกเรียกร้องให้ชดใช้เป็นเงิน เขาจะต้องแลกชีวิตคืนด้วยการจ่ายเงินตามคำเรียกร้อง 31 ถ้าโคตัวนั้นขวิดลูกชายหรือลูกหญิง มันก็รับโทษตามกฎเดียวกันนี้ 32 ถ้าโคขวิดทาสชายหรือหญิง เจ้าของโคต้องจ่ายเหรียญเงินหนัก 30 เชเขล[g]แก่นายของทาส แล้วโคก็จะถูกหินขว้างตาย

33 ถ้าชายใดเปิดบ่อทิ้งไว้หรือขุดบ่อแล้วไม่ปิดปากบ่อ เมื่อโคหรือลาตกลงไปในนั้น 34 เจ้าของบ่อต้องจ่ายค่าเสียหายแก่เจ้าของสัตว์ และสัตว์ที่ตายก็ตกเป็นของเขา

35 ถ้าโคของชายคนหนึ่งทำร้ายโคของอีกคนหนึ่งจนตาย ทั้ง 2 คนต้องขายโคที่เป็นอยู่ แล้วแบ่งเงินกัน ส่วนโคที่ตายแล้วก็แบ่งเนื้อกัน 36 แต่ถ้ารู้ว่าโคนั้นเคยขวิดอะไรมาก่อน และเจ้าของไม่ได้ขังมันไว้ ค่าเสียหายที่เขาจะต้องใช้คือโคเป็นๆ ส่วนสัตว์ที่ตายแล้วก็ตกเป็นของเขา

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation