Beginning
1 หนังสือเล่มนี้ เป็นสิ่งที่พระยาห์เวห์บอกกับฮาบากุก ผู้พูดแทนพระเจ้า ผ่านมาทางนิมิต
ฮาบากุกบ่นต่อพระเจ้า
2 พระยาห์เวห์เจ้าข้า จะปล่อยให้ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือไปอีกนานแค่ไหน พระองค์ถึงจะฟัง จะปล่อยให้ข้าพเจ้าร้องว่า “โหดร้ายป่าเถื่อน” ไปอีกนานแค่ไหน พระองค์ถึงจะมาช่วย 3 ทำไมพระองค์ถึงต้องให้ข้าพเจ้าเจอกับความเจ็บปวดและความทุกข์ยากนี้ด้วย ทำไมพระองค์ถึงดูอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร เมื่อมีการกดขี่ข่มเหงและความป่าเถื่อนเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้า มีทั้งการฟ้องร้องและโต้เถียงกันเกิดขึ้น 4 ดังนั้นกฎหมายก็ตายด้านไป และไม่มีใครได้รับความยุติธรรม เพราะคนชั่วก็มีมากกว่าคนดี ดังนั้นความยุติธรรมก็บิดๆเบี้ยวๆไป
พระยาห์เวห์ตอบฮาบากุก
5 พระยาห์เวห์ตอบว่า “มองไปที่ชนชาติต่างๆสิ ดูสิว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าจะต้องอ้าปากค้างพูดไม่ออกเลยล่ะ ที่เราพูดอย่างนี้ ก็เพราะพวกเจ้าจะไม่เชื่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงชีวิตของเจ้า เมื่อเจ้าได้ยินเรื่องนี้ เจ้าก็ยังจะไม่เชื่ออยู่ดี 6 เพราะเรายาห์เวห์ กำลังยกคนบาลิโลนให้มีอำนาจขึ้นมา พวกนี้เป็นชนชาติที่ดุร้ายและป่าเถื่อน พวกมันจะบุกไปทั่วโลก เพื่อยึดเอาดินแดนของคนอื่นมาเป็นของมัน 7 พวกมันน่ากลัวและน่าสยดสยองยิ่งนัก มันตั้งกฎของมันเอง และอวดตัวถือดี 8 พวกม้าของบาบิโลนก็วิ่งเร็วกว่าพวกเสือดาวเสียอีก และดุร้ายยิ่งกว่าหมาป่าในยามค่ำคืน พวกม้าของมันก็วิ่งห้อเหมือนบิน พวกทหารม้าบินมาจากแดนไกล เหมือนอินทรีที่โฉบเหยื่อของมัน 9 พวกมันแต่ละคนมาเพื่อสร้างความรุนแรง พวกมันบุกไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง พวกมันรวบรวมเชลยไว้มากมายมหาศาลเหมือนเม็ดทราย
10 พวกมันหัวเราะเยาะใส่พวกกษัตริย์ต่างๆและมองพวกแม่ทัพทั้งหลายเป็นเรื่องน่าขัน และหัวเราะเยาะป้อมปราการของเมืองต่างๆ พวกมันสร้างเนินดินขึ้นมาเพื่อบุกขึ้นไปยึดป้อมแต่ละอัน”
11 ในทันใดนั้น พระวิญญาณของพระเจ้าก็หายวับไป ผมก็ตกตะลึงและพูดว่า “แต่บาบิโลนพวกนี้ ถือว่าพละกำลังของเขาเองเป็นพระเจ้าของเขา”
ฮาบากุกบ่นเป็นครั้งที่สอง
12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์อยู่มาตั้งแต่โบราณกาลแล้วไม่ใช่หรือ
พระเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ของข้าพเจ้า พระองค์จะไม่ตายไม่ใช่หรือ
ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์เลือกบาบิโลน
เพื่อนำการตัดสินลงโทษของพระองค์มา ใช่อย่างนี้แน่หรือ
ข้าแต่พระศิลา[a] พระองค์ตั้งบาบิโลนขึ้นมาเพื่อตีสอนชนชาติยูดาห์ ใช่อย่างนี้แน่หรือ
13 ดวงตาของพระองค์นั้นบริสุทธิ์เกินกว่าที่จะมองสิ่งชั่วร้าย
และพระองค์ก็ทนดูคนทำผิดไม่ได้
แล้วทำไมพระองค์ถึงทนดูคนทรยศอย่างบาบิโลนได้โดยไม่ทำอะไรเลย
แล้วทำไมพระองค์ถึงได้นิ่งเฉยเมื่อคนชั่วช้ากลืนกินคนที่ดีกว่าเขา
14 พระองค์ทำกับมนุษย์เหมือนกับปลาในทะเล
หรือเหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานตัวเล็กๆที่ไม่มีผู้นำ
15 บาบิโลนจับทุกคนมาด้วยเบ็ดตกปลา เขาลากคนมาด้วยอวน
เขารวบรวมคนมาไว้ในแหตกปลาของเขา
ดังนั้นบาบิโลนจึงกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
16 บาบิโลนจึงฆ่าสัตว์เป็นเครื่องบูชาให้กับอวนของเขา
และเผาเครื่องหอมให้กับแหตกปลาของเขา
เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เขามีเนื้อกินมากมาย
และมีอาหารเอร็ดอร่อยกินกัน
17 แล้วพระองค์จะยังคงปล่อยให้บาบิโลนชักดาบ
ฆ่าฟันชนชาติต่างๆอย่างไร้ความปรานีอย่างนี้หรือ
2 ผมจะยืนเฝ้าดู ผมจะยืนเป็นยาม
และผมจะคอยดูสิว่า พระยาห์เวห์จะพูดอะไรกับผม
และจะคอยดูสิว่าพระองค์จะตอบสิ่งที่ผมกล่าวหาพระองค์ว่ายังไง
พระเจ้าตอบฮาบากุก
2 พระยาห์เวห์ก็ตอบผมว่า “ให้เขียนนิมิตนี้ให้ชัดเจนลงบนพวกแผ่นป้าย เพื่อคนที่อ่านจะอ่านได้อย่างง่ายดายรวดเร็ว 3 ที่เราพูดอย่างนี้ก็เพราะว่า นิมิตนี้ยืนยันถึงเวลาที่กำหนดไว้นั้น มันเป็นพยานถึงจุดจบของพวกบาบิโลนที่กำลังจะมาถึงและมันก็ไม่โกหกด้วย แต่ถ้าดูเหมือนช้า ใจเย็นๆคอยไว้ เพราะวันนั้นจะมาถึงแน่ มันจะไม่สายหรอก 4 คนที่คอยไม่ไหว[b]ก็จะยอมแพ้ไป ไม่ทำตามนิมิตนี้ แต่คนที่ทำตามใจพระเจ้า ก็มีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไปเพราะว่านิมิตนี้เชื่อถือได้[c]
5 แต่ความร่ำรวยจะหลอกลวงคนหยิ่งผยอง และคนโลภที่อ้าปากกว้างเหมือนแดนคนตาย จะไม่มีวันสำเร็จ คนโลภเหมือนความตายที่ไม่เคยหยุดกระหายเหยื่อ คนโลภนั้นรวบรวมชนชาติทั้งหมดมาเป็นของตัวเองและรวบคนทั้งหมดมาเป็นของเขา[d] 6 แต่คนที่เขารวบรวมมานั้นจะแต่งเพลงเยาะเย้ยเขา แต่งนิทานและตั้งคำถามกันล้อเลียนเขา จะมีคนพูดว่า ‘นี่ เจ้า ที่ได้สะสมสิ่งที่ไม่ใช่ของเจ้า และก่อหนี้ไว้มากมาย เจ้าจะทำอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน’
7 ในไม่ช้า เจ้าหนี้จะตามทวงหนี้เจ้า คือคนพวกนั้นที่เจ้ากลัวจนตัวสั่นจะมาปล้นสะดมเจ้า และตอนนั้นก็เป็นตาของเจ้าบ้างที่จะตกเป็นเหยื่อ 8 บาบิโลน เจ้าเคยไปปล้นสะดมชนชาติต่างๆมากมาย ดังนั้นตอนนี้ชนชาติที่เหลือก็จะกลับมาปล้นเจ้าคืน เพราะเจ้าเคยทำให้เลือดของมนุษย์ตก และเจ้าเคยทำทารุณกรรมกับแผ่นดินต่างๆ รวมทั้งเมืองต่างๆและคนที่อยู่ในเมืองเหล่านั้น
9 นี่ เจ้าที่ร่ำรวยจากการฉ้อโกงคนอื่น เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังทำรังอยู่สูงพ้นจากอันตราย แต่ความจริงแล้วการฉ้อโกงนั้น กลับนำความพินาศมาสู่ทั้งบ้านของเจ้า 10 เมื่อเจ้าวางแผนทำลายล้างชนชาติมากมายนั้น เจ้ากำลังวางแผนนำความอัปยศอดสูมาสู่ทั้งบ้านของเจ้าเองและกำลังทำบาปต่อชีวิตตัวเอง 11 หินบนฝาบ้านของเจ้าก็ยังจะร้องต่อว่าเจ้า แม้แต่ขื่อบนหลังคาบ้านของเจ้าเอง ก็ยังจะสะท้อนรับเห็นด้วยกับหินฝาบ้านนั้น
12 นี่ เจ้าที่สร้างเมืองขึ้นมาด้วยเลือดของผู้บริสุทธิ์ เจ้าที่ก่อตั้งเมืองขึ้นมาด้วยความชั่วร้าย 13 ชนชาติเหล่านั้นที่เจ้าได้ชัยชนะมา ทำงานหนักให้กับเจ้าโดยที่พวกเขาไม่ได้อะไรเลย พวกเขาทำงานเหน็ดเหนื่อยแทบตาย แต่สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้นก็จะถูกไฟเผาไปจนหมดเกลี้ยง ความหายนะที่จะเกิดขึ้นนี้ เกิดมาจากพระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น ไม่ใช่หรือ 14 แล้วโลกนี้จะเต็มไปด้วยคนที่รู้จักพระบารมีของพระยาห์เวห์ เหมือนกับน้ำที่เต็มทะเล 15 นี่ เจ้าที่เทความโกรธออกมา[e] แล้วบังคับให้คนอื่นดื่มจากจอกนั้นจนเมา เพื่อเจ้าจะได้ดูความเปลือยเปล่าของเขา[f]
16 เจ้าดื่มความอัปยศอดสูจนอิ่มหนำแทนที่จะดื่มเกียรติยศเข้าไป เจ้าเองก็จะต้องดื่มและเปลือยเปล่าด้วยเหมือนกัน จอกแห่งความโกรธที่พระยาห์เวห์ถืออยู่ในมือขวานั้น ก็จะเวียนมาถึงเจ้าและแทนที่เจ้าจะได้รับเกียรติ ก็จะได้รับความอัปยศอดสู 17 ความโหดร้ายที่เจ้าเคยทำต่อเลบานอนนั้น ก็จะหวนกลับมาหาเจ้า เจ้าเคยทำลายฝูงสัตว์มากมาย เจ้าจะต้องหวาดกลัวที่จะถูกทำลาย เพราะเจ้าเคยทำให้เลือดของมนุษย์ตก และเจ้าทำทารุณกรรมกับแผ่นดินต่างๆรวมทั้งเมืองต่างๆและคนที่อยู่ในเมืองเหล่านั้น”
18 รูปแกะสลักให้ประโยชน์อะไรบ้าง คนถึงได้อยากแกะสลักมันนัก รูปหล่อหรือรูปปั้นของพระปลอมเหล่านั้น ให้ประโยชน์อะไรบ้าง คนสร้างถึงได้ศรัทธานัก เพราะรูปเคารพที่เขาสร้างนั้นแม้แต่จะพูดก็ไม่ได้ 19 นี่ เจ้าที่พูดกับท่อนไม้ว่า “ตื่นได้แล้ว” หรือพูดกับหินที่พูดไม่ได้ว่า “ลุกขึ้นได้แล้ว” พระปลอมนั้นให้คำชี้แนะอะไรเจ้าได้บ้าง มันถูกหุ้มด้วยทองและเงินและไม่มีลมหายใจด้วย 20 แต่พระยาห์เวห์นั้นสถิตอยู่ในวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ โลกทั้งใบเอ๋ย ให้เงียบสงบอยู่ต่อหน้าพระองค์เถิด
ฮาบากุกอธิษฐาน
3 นี่คือคำอธิษฐานของฮาบากุก ผู้พูดแทนพระเจ้า ตามแนวเพลงชิกิโอโนท[g]
2 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ข้าพเจ้าได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ สิ่งที่พระองค์ทำนั้น ทำให้ข้าพเจ้ายำเกรงพระองค์
เมื่อเวลาที่กำหนดนั้นใกล้มาถึงแล้ว
ขอให้พระองค์ทำงานยิ่งใหญ่เหมือนกับที่เคยทำในอดีต
เมื่อเวลาที่กำหนดนั้นใกล้มาถึงแล้ว
ขอให้คนรู้จักฤทธิ์อำนาจของพระองค์อีกครั้ง
ในเวลาที่พระองค์โกรธ อย่าลืมแสดงความเมตตาด้วย
3 พระเจ้ากำลังมาจากเทมาน[h]
พระองค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์กำลังมาจากภูเขาปาราน เซลาห์[i]
พระบารมีของพระองค์ครอบคลุมไปทั่วฟ้าสวรรค์
โลกนี้ก็เต็มไปด้วยความสง่างามของพระองค์
4 ทันใดนั้น ก็สว่างจ้าเหมือนฟ้าแลบ พระองค์ก็ปรากฏขึ้น ในมือถือสายฟ้าแลบ
แล้วพระองค์ซ่อนฤทธิ์อำนาจของพระองค์เข้าไปในกลีบเมฆ
5 โรคระบาดเดินนำหน้าพระองค์ไป
การเจ็บไข้ตามส้นเท้าพระองค์ไป
6 พระองค์ยืนและเขย่าโลกนี้
พระองค์มองดูชนชาติต่างๆ
และพวกเขาก็ตื่นผวาด้วยความกลัว
ภูเขาต่างๆที่เคยอยู่ตลอดมาก็แตกกระจายไป
พวกเนินเขาที่อยู่นิรันดร์ก็จมหายไป
พระองค์ก็เดินตามเส้นทางที่เคยเดินมาในอดีต
7 แทนที่ผมจะเห็นความไม่ยุติธรรมเหมือนเมื่อก่อน ผมกลับเห็นทั้งเต็นท์ของคนคูชัน
และเห็นม่านในเต็นท์ของแผ่นดินมีเดียนสั่นไหวด้วยความกลัว
8 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ที่พระองค์ขับรถรบพร้อมม้าเหล่านั้นของพระองค์ สู่ชัยชนะ
เป็นเพราะพระองค์โกรธต่อแม่น้ำต่างๆหรือ
พระองค์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟต่อแม่น้ำต่างๆหรือ
พระองค์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟต่อทะเลหรือ
9 พระองค์ดึงคันธนูออกจากแล่ง
พระองค์เอาลูกธนูมาใส่ไว้ในสายของมัน
พระองค์แยกโลกออกด้วยแม่น้ำทั้งหลาย เซลาห์
10 เมื่อภูเขาเหล่านั้นมองเห็นพระองค์ก็บิดเบี้ยวไปมาด้วยความเจ็บปวด
เมฆที่หนาทึบก็โปรยน้ำฝนลงมา
ก้นมหาสมุทรก็ส่งเสียงร้อง
คลื่นมหาสมุทรยกมือของมันขึ้นสูงเพื่อท่วมแผ่นดิน
11 ดวงอาทิตย์หยุดส่องแสง ดวงจันทร์หยุดอยู่กับที่
มีแต่แสงจากลูกธนูของพระองค์ที่แล่นออกมาเท่านั้น
สายฟ้าแลบจากหอกของพระองค์ส่องสว่างบนท้องฟ้า
12 พระองค์ได้เหยียบย่ำโลกนี้ด้วยความโกรธแค้น
พระองค์ได้บดขยี้ชนชาติต่างๆด้วยความโกรธ
13 พระองค์ออกไปเพื่อช่วยคนของพระองค์ให้รอด
พระองค์ออกไปเพื่อช่วยกษัตริย์ที่พระองค์ได้เจิมไว้ให้รอด
พระองค์ทุบหลังของคนชั่ว
และดึงเสื้อผ้าเขาออกจากคอถึงก้น เซลาห์
14 แล้วพระองค์ก็เอาลูกธนูของเขาไปเสียบหัวของทหารของเขาเอง
ถึงแม้ว่าพวกทหารนี้บุกเข้ามาเหมือนพายุทราย
เพื่อมาทำให้พวกเรากระจัดกระจายไป
แล้วพวกมันเฉลิมฉลองเหมือนกับคนที่ดักซุ่มเขมือบคนจน
15 พระองค์ยังเหยียบย่ำทะเลด้วยม้าทั้งหลายของพระองค์
ทำให้น้ำจำนวนมากเดือดพลุ่งขึ้นมา
16 ผมได้ยินเรื่องนี้ ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
เมื่อได้ยินเสียง ริมฝีปากผมก็สั่นระริก รู้สึกเหมือนกับกระดูกจะผุพัง และเท้าก็สั่นไปหมด
ผมจะคอยอย่างเงียบๆ
ถึงเวลานั้นที่คนที่มาโจมตีเราจะได้รับความทุกข์ยาก
17 ถึงแม้ต้นมะเดื่อจะไม่ออกดอก
และสวนองุ่นก็ไม่เกิดผล
ถึงแม้ผลของมะกอกเทศเหี่ยวแห้งไป
และท้องทุ่งก็ไม่ผลิตอาหารอะไรเลย
ถึงแม้ว่าจะไม่มีฝูงแกะอยู่ในคอก
และไม่มีฝูงวัวในโรงวัว
18 ผมก็ยังจะชื่นชมยินดีในพระยาห์เวห์ ผมก็ยังจะเฉลิมฉลอง
ในพระเจ้าที่ช่วยผมให้รอดพ้น
19 พระยาห์เวห์ องค์เจ้าชีวิตของข้าพเจ้าเป็นกำลังของข้าพเจ้า
พระองค์ทำให้เท้าของข้าพเจ้ามั่นคงเหมือนเท้ากวาง
และพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าสามารถเดินไปบนยอดเขาได้
ถึงหัวหน้านักดนตรี ให้ร้องเพลงนี้พร้อมกับเล่นเครื่องสาย
1 นี่คือข่าวสารของพระยาห์เวห์ ที่มีมาถึงเศฟันยาห์ลูกของคูชิ ที่เป็นลูกของเกดาลิยาห์ ที่เป็นลูกของอามาริยาห์ ที่เป็นลูกของเฮเซคียาห์ เศฟันยาห์ได้รับข่าวสารนี้ ในช่วงที่โยสิยาห์[a] ลูกของอาโมน เป็นกษัตริย์ปกครองแคว้นยูดาห์
วันแห่งการพิพากษาของพระยาห์เวห์
2 พระยาห์เวห์พูดว่า
“เราจะกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างให้หมดสิ้นไปจากผืนแผ่นดินโลก
3 เราจะกวาดล้างทั้งมนุษย์และสัตว์
เราจะกวาดล้างนกในท้องฟ้าและปลาในทะเล
เราจะกวาดล้างสิ่งต่างๆพวกนั้น ที่ทำให้พวกคนชั่วหลงไปทำบาป[b]
และเราจะกำจัดมนุษย์ให้หมดไปจากผืนแผ่นดินโลก”
พระยาห์เวห์พูดว่าอย่างนั้น
4 เราจะยื่นมือของเราออกมาลงโทษยูดาห์และทุกคนที่อาศัยอยู่ในเยรูซาเล็ม
เราจะกำจัดเศษเดนที่เหลือของพระบาอัลให้หมดสิ้นไปเสียจากสถานที่นั้น
จากท่ามกลางพวกนักบวชของอิสราเอล
เราจะกำจัดพวกนักบวชที่กราบไหว้รูปเคารพให้หมดสิ้นไปจากความทรงจำของทุกคน
5 และเราจะกำจัดคนพวกนั้นที่ขึ้นไปบนดาดฟ้าเพื่อกราบไหว้พระอาทิตย์ พระจันทร์และดวงดาวต่างๆบนท้องฟ้า
เราจะกำจัดคนพวกนั้นที่กราบไหว้และสาบานต่อเรา แล้วยังไปสาบานต่อพระมิลโคม[c]
6 เราจะกำจัดคนพวกนั้นที่หันกลับจากการติดตามพระยาห์เวห์ ที่ไม่ได้แสวงหาพระยาห์เวห์
และไม่ได้ขอคำปรึกษาจากพระองค์
7 ให้นิ่งเงียบอยู่ต่อหน้าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตของผม
เพราะว่าวันของพระยาห์เวห์ใกล้เข้ามาแล้ว
เพราะว่าพระยาห์เวห์จัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้แล้ว และพระองค์แยกคนที่พระองค์ได้เชื้อเชิญไว้แล้วออกมาเป็นพิเศษ
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันแห่งการเซ่นไหว้ของพระยาห์เวห์นั้น
เราจะลงโทษพวกข้าหลวงและพวกสมาชิกของครอบครัวกษัตริย์ และทุกคนที่ใส่เสื้อผ้าของคนต่างชาติ[d]
9 และในวันนั้น เราจะลงโทษทุกคนที่กระโดดข้ามธรณีประตู[e]
และลงโทษคนพวกนั้นที่ทำให้บ้านของกษัตริย์ของเขาเต็มไปด้วยการกดขี่และฉ้อโกง”
10 พระยาห์เวห์พูดว่า “ในวันนั้นจะมีเสียงร้องให้ช่วย จากประตูปลาในเมืองเยรูซาเล็ม
และเสียงร้องคร่ำครวญแห่งความสิ้นหวังจากเขตใหม่ของเมือง
และเสียงแตกร้าวของตึกรามบ้านช่องจากเนินเขา
11 พวกเจ้าที่อาศัยอยู่ในเขตครก ร้องไห้คร่ำครวญซะ
เพราะพวกคนทำการค้าถูกทำลายไปแล้ว พวกพ่อค้าถูกกำจัดแล้ว
12 ในเวลานั้น เราจะเอาตะเกียงค้นหาทั่วเยรูซาเล็ม
และเราจะลงโทษคนพวกนั้นที่พอใจที่จะตกอยู่ในความบาป เหมือนเหล้าองุ่นที่ตกตะกอนเสียไป
คนพวกนั้นคิดในใจว่า ‘พระยาห์เวห์ไม่ทำอะไรเราหรอก ไม่ว่าดีหรือร้าย’
13 ความร่ำรวยของพวกเขาจะถูกปล้น และบ้านของพวกเขาจะถูกทำลาย
พวกเขาจะสร้างบ้านเรือนขึ้นมาแต่จะไม่ได้อยู่
พวกเขาจะปลูกสวนองุ่น แต่จะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นจากสวนพวกนั้น”
14 วันอันยิ่งใหญ่ของพระยาห์เวห์ใกล้เข้ามาแล้ว มันใกล้มาถึงแล้ว และมันจะมาอย่างรวดเร็ว
ในวันของพระยาห์เวห์ เสียงของวันนั้นจะมีแต่ความขมขื่น
ในวันนั้น พวกนักรบจะร้องเสียงดัง
15 วันนั้นจะเป็นวันแห่งความโกรธเกรี้ยว จะเป็นวันแห่งความทุกข์ยากและทรมาน
จะเป็นวันแห่งการทำลายล้างและพินาศ จะเป็นวันแห่งความมืดมิดและสลัว
จะเป็นวันที่เมฆครึ้มและดำทะมึน
16 จะเป็นวันที่เสียงแตรดังกระหึ่มและเสียงร้องทำศึกเข้าประจันบานกับเมืองต่างๆที่มีกำแพงแน่นหนาและหอคอยที่สูงชัน
17 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราจะนำความเดือดร้อนมาให้กับผู้คน และพวกเขาก็จะเดินเหมือนกับคนตาบอด
เพราะคนยูดาห์ได้ทำบาปต่อพระยาห์เวห์ เลือดของพวกเขาจะถูกเทเหมือนฝุ่น และเนื้อหนังของพวกเขาก็จะกระจัดกระจายไปบนดินเหมือนมูลสัตว์
18 แม้แต่เงินและทองของพวกเขาก็ไม่สามารถช่วยชีวิตพวกเขาได้ ในวันแห่งความกริ้วโกรธของพระยาห์เวห์
ในไฟแห่งความหึงหวงของพระองค์นั้น แผ่นดินทั้งหมดก็จะถูกเผาผลาญไป
เพราะพระยาห์เวห์จะบดขยี้ทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินนี้อย่างราบคาบ”
พระยาห์เวห์เรียกให้คนกลับใจเสียใหม่
2 รวบรวมกันเข้ามา เจ้าชนชาติที่เหลือเดน
รวมตัวกันเข้าเหมือนฟาง
2 ก่อนที่พวกเจ้าจะถูกผลักไสออกไป เหมือนกับแกลบที่ถูกลมพัดไป
ก่อนที่ความโกรธแค้นที่เผาผลาญของพระยาห์เวห์จะตกลงมาบนเจ้า
3 พวกเจ้าผู้ต่ำต้อยทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนี้ ให้แสวงหาพระยาห์เวห์
พวกเจ้าที่พยายามทำตามคำสั่งต่างๆของพระยาห์เวห์ ให้แสวงหาความชอบธรรมและแสวงหาความนอบน้อมถ่อมตน
ถ้าเจ้าทำอย่างนั้น ไม่แน่พวกเจ้าอาจจะถูกปิดซ่อนไปจากความโกรธของพระยาห์เวห์ ในวันแห่งความโกรธกริ้วของพระองค์
พระยาห์เวห์จะลงโทษชนชาติทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบอิสราเอล
4 แน่นอนเลยว่า เมืองกาซาจะถูกทอดทิ้ง และเมืองอัชเคโลนจะถูกทำลาย
ชาวเมืองอัชโดดจะถูกขับไล่ออกไปในตอนเที่ยงวัน
และเมืองเอโครนจะถูกถอนรากถอนโคน
5 ความหายนะจะเกิดกับพวกเจ้า ไอ้พวกที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล
และไอ้พวกเจ้าชนชาติเคเรธี
พระยาห์เวห์ได้พูดต่อต้านเจ้าไอ้คานาอัน
แผ่นดินของชาวฟีลิสเตีย พระองค์พูดว่า “เราจะทำลายเจ้าจนไม่เหลือใครสักคนเลย”
6 แล้วชายฝั่งทะเลก็จะกลายเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์
เหมาะสำหรับพวกคนเลี้ยงแกะ และคอกของฝูงแพะแกะ
7 ชายฝั่งทะเลนั้นจะตกเป็นของคนยูดาห์ที่ยังเหลืออยู่
คนยูดาห์ก็จะเลี้ยงฝูงสัตว์ของพวกเขาที่นั่น
ในตอนกลางคืนคนยูดาห์ก็จะนอนในบ้านที่ว่างเปล่าของพวกอัชเคโลน
เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาจะมาหาพวกเขา
และจะอยู่กับพวกเขา และทำให้พวกเขากลับมามีสภาพดีเหมือนเดิม
8 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราได้ยินคนโมอับพูดสบประมาทคนยูดาห์ของเรา
และเราได้ยินคนอัมโมนพูดเยาะเย้ยคนยูดาห์ด้วย คนพวกนี้คุยโวว่าได้ยึดเขตแดนของคนยูดาห์ไว้แล้ว”
9 พระยาห์เวห์ ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้น พระเจ้าของอิสราเอล
จึงพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่นอนฉันใด โมอับจะเป็นเหมือนเมืองโสโดม
และคนอัมโมนก็จะเป็นเหมือนเมืองโกโมราห์
คือจะเป็นผืนดินที่มีแต่วัชพืชขึ้น เป็นบ่อเกลือ และเป็นที่รกร้างตลอดไป
และคนของเราที่เหลืออยู่จะปล้นทรัพย์สมบัติของพวกเขา
ผู้ที่รอดชีวิตของชนชาติเราจะยึดเอาที่ดินทั้งหลายของพวกเขา”
10 สิ่งต่างๆเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับคนโมอับและคนอัมโมน เพื่อตอบแทนความเย่อหยิ่งจองหองของพวกเขา
เพราะพวกเขาดูถูกเหยียดหยาม คนของพระยาห์เวห์ผู้มีฤทธิ์ทั้งสิ้นและโอ้อวดว่าได้ยึดที่ดินของพวกเขาไว้
11 พระยาห์เวห์จะทำให้พวกเขาหวาดกลัว ใช่แล้ว พระองค์จะทำให้พระทั้งหลายของโลกนี้เหี่ยวแห้งตายไป
และชนชาติทั้งหลายทั่วโลกจะก้มลงกราบนมัสการพระองค์ในที่ที่พวกเขาอยู่
12 พระยาห์เวห์พูดว่า “แม้แต่เจ้า ชาวเอธิโอเปีย ก็จะถูกดาบของเราเสียบแทง”
13 พระองค์จะยื่นมือของพระองค์ไปทางเหนือ และทำลายอัสซีเรีย
และพระองค์จะทำลายล้างเมืองนีนะเวห์[f] ทำให้มันแห้งแล้งเหมือนกับทะเลทราย
14 แม้แต่ฝูงนกอีกา และฝูงนกฮูกก็จะมาอาศัยอยู่ตามเสาที่ปรักหักพัง
และจะมีเสียงนกร้องอยู่ตลอดเวลาตามช่องหน้าต่าง
และพวกอีกาจะมายืนอยู่ตามธรณีประตู
เพราะแผ่นไม้สนซีดาร์จะถูกแกะออกจากฝาตึกทั้งหลาย
15 นี่นะหรือ เมืองนีนะเวห์ที่เคยมีแต่ความสนุกสนานครื้นเครง เมืองที่แสนจะปลอดภัยและมั่นคง
เมืองที่เคยคิดในใจว่า “มีแต่ข้าเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีเมืองไหนเหมือนกับข้าอีกแล้ว”
แล้วดูสิ มันพังย่อยยับได้ถึงขนาดนี้ กลายเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าทั้งหลาย
ทุกคนที่เดินผ่านเมืองนี้ ต่างก็ส่งเสียงเยาะและชูกำปั้นเข้าใส่
เมืองเยรูซาเล็มในอนาคต
3 ไอ้กบฏและมลทิน
เมืองที่ชอบกดขี่ข่มเหงคนอื่น
2 เมืองที่ไม่ยอมฟังเสียงพระเจ้า
เมืองที่ไม่ยอมรับคำตักเตือน
เมืองที่ไม่ยอมไว้วางใจในพระยาห์เวห์
เมืองที่ไม่ยอมเข้าใกล้พระเจ้าของเธอ
3 ข้าราชการที่อยู่ในเมืองนี้ต่างก็เป็นเหมือนพวกสิงโตที่แผดเสียงร้องคำราม
พวกผู้พิพากษาในเมืองนี้เป็นเหมือนกับพวกหมาป่าในตอนค่ำคืนที่กัดกินเหยื่อจนไม่เหลืออะไรจนถึงเช้า
4 ผู้พูดแทนพระเจ้าของเมืองนี้ก็เป็นนักตอแหลที่เย่อหยิ่ง พวกเขาไม่น่าไว้ใจ
พวกนักบวชของเมืองนี้ก็ดูหมิ่นต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และตั้งใจตีความกฎคำสอนทั้งหลายให้ผิดเพี้ยนไป
5 แต่พระยาห์เวห์ที่อยู่ในเมืองนี้ยุติธรรม พระองค์ไม่ได้ทำสิ่งที่ชั่วร้าย
ทุกๆเช้า พระองค์ให้ความยุติธรรม
ในรุ่งอรุณ พระองค์ให้ความเป็นธรรมเสมอไม่ขาดสักวัน
แต่คนชั่วไม่รู้จักละอายใจ
6 พระยาห์เวห์พูดว่า “เราได้บดขยี้ประชาชาติของพวกเขา
และพวกหอคอยของพวกเขาต่างก็ถูกทำลายลง
เราทำให้พวกถนนหนทางรกร้าง จนไม่มีใครใช้เดินอีกแล้ว
บ้านเมืองของพวกเขาก็ถูกทำให้รกร้างว่างเปล่าจนไม่มีใครอาศัยอยู่อีกต่อไป”
7 เราพูดกับตัวเองว่า “เจ้าจะต้องเกรงกลัวเราแน่
เจ้าจะต้องได้รับบทเรียนแล้วแน่
เจ้าจะได้เห็นอย่างชัดเจนว่า เราเองได้ลงโทษเมืองนี้”
แต่ความจริงคือ พวกเขายิ่งอยากจะทำสิ่งที่ไม่ได้ยั้งคิดมากขึ้นไปอีก
8 พระยาห์เวห์จึงพูดว่า “ดังนั้น คอยดูเราให้ดี คอยวันที่เราจะลุกขึ้นมาเป็นพยานต่อต้านเจ้า
เพราะเป็นการตัดสินใจของเราที่จะรวบรวมชนชาติต่างๆและอาณาจักรต่างๆ
เพื่อว่าเราจะได้แสดงให้พวกเขาเห็นว่าเราเดือดดาลขนาดไหน และโกรธอย่างร้อนแรงขนาดไหน
เพราะในเพลิงแห่งความหึงหวงของเรา แผ่นดินทั้งหมดนี้จะถูกเผาผลาญ
9 เพราะในเวลานั้น เราจะทำให้คำพูดของผู้คนบริสุทธิ์
เพื่อว่าพวกเขาทุกคนจะได้ออกชื่อของพระยาห์เวห์ และพวกเขาจะได้เคียงบ่าเคียงไหล่กันรับใช้พระองค์
10 ผู้คนจะมาจากที่ไกลโพ้น เลยแม่น้ำทั้งหลายของเอธิโอเปียไปอีก
คนของเราที่ได้กระจัดกระจายไป แต่ยังคงอธิษฐานต่อเรา
คนพวกนี้จะนำของขวัญมาถวายให้กับเรา
11 ในวันนั้น เยรูซาเล็ม เจ้าจะไม่ถูกทำให้อับอาย เพราะการกระทำที่ชั่วช้าทั้งหลายที่เจ้าได้ทำต่อเรา
เพราะในเวลานั้น เราจะเอาพวกที่เย่อหยิ่งจองหองไปจากท่ามกลางเจ้า
เจ้าจะไม่ทำตัวใหญ่โตและสูงส่งอีกต่อไปแล้วบนภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
12 เราจะเหลือแต่คนที่ถ่อมสุภาพและยากจนไว้ท่ามกลางเจ้า
และพวกเขาก็จะแสวงหาที่หลบภัยในนามของพระยาห์เวห์
13 คนอิสราเอลที่เหลืออยู่ก็จะไม่ทำสิ่งที่ชั่วร้าย พวกเขาจะไม่พูดสิ่งที่ไม่เป็นความจริง
และจะไม่เจอลิ้นที่หลอกลวงในปากของพวกเขา
เพราะพวกเขาจะเหมือนกับแกะที่นอนลง
โดยไม่ต้องห่วงว่าจะมีอะไรมาทำร้าย”
เพลงแห่งความสุข
14 นางสาวศิโยนเอ๋ย ร้องเพลงด้วยความยินดีเถิด
อิสราเอลเอ๋ย ตะโกนออกมาด้วยความสุขเถิด
นางสาวเยรูซาเล็มเอ๋ย ชื่นชมยินดี และเฉลิมฉลองกันอย่างสุดใจเถิด
15 พระยาห์เวห์ได้ยกเลิกการลงโทษเจ้าแล้ว
พระองค์เอาศัตรูของเจ้าไปจากเจ้าแล้ว
พระยาห์เวห์ กษัตริย์ของอิสราเอลอยู่ท่ามกลางเจ้า
ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกลัวความหายนะ
16 ในวันนั้น คนจะพูดกับเมืองเยรูซาเล็มว่า
“เมืองศิโยนเอ๋ย ไม่ต้องกลัว
อย่าปล่อยให้มือของเจ้าหมดแรงสิ้นหวังไป
17 พระยาห์เวห์พระเจ้าของเจ้าอยู่ท่ามกลางเจ้า
พระองค์เป็นนักรบผู้ช่วยกู้ชีวิตเจ้า
พระองค์จะร้องเพลงและเฉลิมฉลองเพราะตัวเจ้า
พระองค์จะรื้อฟื้นความรักที่มีต่อเจ้าขึ้นใหม่
พระองค์จะชื่นชมยินดีในตัวเจ้าด้วยเสียงเพลงแห่งความสุข
18 เหมือนที่คนร้องกันในช่วงเทศกาลต่างๆ[g]
พระยาห์เวห์พูดว่า ‘เราจะเอาการหัวเราะเยาะและการดูหมิ่นไปจากเจ้า
เราจะเอาคนที่ชอบทำให้เจ้าเป็นตัวน่าขันไป
19 แน่นอนในเวลานั้น เราจะจัดการกับคนพวกนั้นที่ข่มเหงเจ้า
เราจะช่วยกู้คนพิการ
เราจะรวบรวมคนที่เคยกระจัดกระจายไป
เราจะให้คำสรรเสริญและชื่อเสียงเกียรติยศกับพวกเขาในที่ทุกหนแห่งที่พวกเขาเคยได้รับความอับอายมาก่อน
20 ในเวลานั้น เราจะนำพวกเจ้ากลับมา เมื่อเรารวบรวมพวกเจ้าเข้ามา
แล้วเราก็จะให้คำสรรเสริญและชื่อเสียงกับเจ้าท่ามกลางชนชาติทั้งหลายในโลกนี้
เราจะทำอย่างนี้ต่อหน้าต่อตาเจ้า เมื่อเราทำให้พวกเจ้ากลับมามีสภาพดีเหมือนเดิม’”
พระยาห์เวห์พูดอย่างนั้น
พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International