Beginning
พระเกียรติสิริกลับคืนสู่พระวิหาร
43 แล้วชายผู้นั้นนำข้าพเจ้ามายังประตูซึ่งหันไปทางตะวันออก 2 และข้าพเจ้าเห็นพระเกียรติสิริของพระเจ้าแห่งอิสราเอลมาจากทางตะวันออก พระสุรเสียงของพระองค์เหมือนเสียงกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และแผ่นดินก็เจิดจ้าด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์ 3 นิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นนี้เหมือนกับนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นในคราวที่พระองค์เสด็จมาทำลายกรุงนั้น และเหมือนนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นริมแม่น้ำเคบาร์ ข้าพเจ้าจึงหมอบกายซบหน้าลงกับพื้น 4 พระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่พระวิหารทางประตูด้านตะวันออก 5 แล้วพระวิญญาณทรงยกข้าพเจ้าขึ้น นำข้าพเจ้ามาที่ลานชั้นใน และพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมทั่วพระวิหาร
6 ขณะที่เขาผู้นั้นยืนอยู่ข้างข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ยินผู้หนึ่งตรัสกับข้าพเจ้าดังมาจากภายในพระวิหาร 7 พระองค์ตรัสว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย บัลลังก์และแท่นวางเท้าของเราอยู่ที่นี่ นี่คือที่ซึ่งเราจะสถิตอยู่ท่ามกลางชนชาติอิสราเอลตลอดไป พงศ์พันธุ์อิสราเอล ไม่ว่าประชาชนหรือกษัตริย์จะไม่ทำให้นามอันบริสุทธิ์ของเราแปดเปื้อนมลทินอีก โดยการนอกใจ[a]และกราบไหว้รูปเคารพ[b]อันไร้ชีวิตของกษัตริย์ของเขาที่สถานบูชาบนที่สูงทั้งหลาย 8 เมื่อพวกเขาวางธรณีประตูถัดจากธรณีประตูของเรา และประตูถัดจากประตูของเรา มีเพียงผนังซึ่งกั้นระหว่างเรากับเขา เขาก็ทำให้นามอันบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทินโดยการกระทำอันน่าชิงชัง ฉะนั้นเราจึงทำลายเขาด้วยความโกรธ 9 บัดนี้ให้เขากำจัดการนอกใจและรูปเคารพอันไร้ชีวิตของเหล่ากษัตริย์ของพวกเขาไปจากเรา แล้วเราจะอยู่ท่ามกลางพวกเขาตลอดไป
10 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวถึงพระวิหารให้ประชาชนอิสราเอลฟัง เพื่อเขาจะละอายใจในบาปของตน ให้เขาพิจารณาแผนผังของพระวิหาร 11 และหากเขาละอายใจในสิ่งทั้งปวงที่ทำไปแล้ว ก็จงแจ้งแผนผังพระวิหาร การจัดเตรียมทางเข้าออก แผนผังทั้งหมด ตลอดจนกฎเกณฑ์[c]และบทบัญญัติต่างๆ จงบันทึกสิ่งเหล่านี้ไว้ต่อหน้าเขา เพื่อเขาจะทำตามแผนผังและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทั้งปวง
12 “นี่เป็นกฎเรื่องพระวิหาร คืออาณาบริเวณโดยรอบบนยอดเขาจะเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด นั่นเป็นกฎของพระวิหาร
แท่นบูชา
13 “นี่เป็นขนาดของแท่นบูชา วัดเป็นหน่วย หน่วยหนึ่งเท่ากับ 1 ศอก[d]กับ 1 ฝ่ามือ[e] ร่องของแท่นบูชานั้นลึก 1 ศอก และกว้าง 1 ศอก ที่ขอบมีริมหนา 1 คืบ[f] ความสูงของแท่นมีดังนี้ 14 จากฐานที่พื้นมาถึงคิ้วล่างของแท่นสูง 2 ศอก กว้าง 1 ศอก[g] และจากคิ้วที่เล็กกว่าขึ้นถึงคิ้วที่ใหญ่กว่าสูง 4 ศอก กว้าง 1 ศอก[h] 15 เตาของแท่นบูชาสูง 4 ศอก[i] และเชิงงอนทั้งสี่ยื่นขึ้นมาจากเตา 16 เตาของแท่นบูชาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 12 ศอก[j] 17 คิ้วบนก็เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 14 ศอก[k] ยกริมรอบหนาครึ่งศอก[l]และมีร่องขนาด 1 ศอกโดยรอบ บันไดแท่นบูชาหันไปทางตะวันออก”
18 แล้วเขากล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ต่อไปนี้คือกฎเกณฑ์เรื่องการถวายเครื่องเผาบูชาและการประพรมเลือดเหนือแท่นในวันที่สร้างเสร็จ 19 เจ้าจงมอบวัวหนุ่มเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปแก่ปุโรหิตชาวเลวีในครอบครัวของศาโดกผู้เข้ามาปฏิบัติงานใกล้ชิดต่อหน้าเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนี้ 20 เจ้าจงเอาเลือดบางส่วนทาที่เชิงงอนทั้งสี่ของแท่นบูชาและที่มุมทั้งสี่ของคิ้วบนและริมโดยรอบ เป็นการชำระแท่นบูชาและลบมลทินแท่นนั้น 21 เจ้าจงใช้วัวหนุ่มเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและเผาในที่ซึ่งกำหนดไว้ในบริเวณพระวิหารนอกสถานนมัสการ
22 “ในวันที่สอง เจ้าจงถวายแพะผู้ที่ไม่มีตำหนิเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และจงชำระแท่นเหมือนเมื่อชำระโดยใช้วัวผู้ 23 เมื่อเจ้าชำระแท่นนั้นเสร็จแล้ว จงถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัวและแกะผู้คัดจากฝูงหนึ่งตัว ทั้งวัวและแกะผู้ต้องไม่มีตำหนิ 24 เจ้าจงถวายสัตว์ทั้งสองต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และปุโรหิตจะเหยาะเกลือบนวัวและแกะผู้ถวายเป็นเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
25 “ตลอดเจ็ดวัน เจ้าจงถวายแพะผู้วันละตัวเพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และจงเตรียมวัวหนุ่มหนึ่งตัวและแกะผู้คัดจากฝูงหนึ่งตัวด้วย สัตว์เหล่านี้ต้องไม่มีตำหนิ 26 ตลอดเจ็ดวันพวกเขาต้องลบมลทินและชำระให้สะอาดเพื่อเป็นการถวายแท่นนั้น 27 เมื่อครบเจ็ดวันแล้ว ตั้งแต่วันที่แปดเป็นต้นไป ปุโรหิตต้องนำเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาของเจ้ามาถวายบนแท่นบูชา แล้วเราจะยอมรับพวกเจ้า พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น”
เจ้านาย ชนเลวี ปุโรหิต
44 แล้วชายผู้นั้นพาข้าพเจ้ามาที่ประตูชั้นนอก ทางด้านตะวันออกของสถานนมัสการ ประตูนั้นปิดอยู่ 2 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “ให้ประตูปิดอยู่อย่างนี้ อย่าเปิด อย่าให้ใครเข้าไปทางนี้ ให้ประตูปิดอยู่ตลอดเวลา เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้เสด็จเข้าไปทางนี้ 3 เจ้านายองค์นั้นองค์เดียวที่สามารถประทับอยู่ตรงทางเข้า เพื่อรับประทานอาหารต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า กษัตริย์นั้นจะเข้าทางมุขหน้าและออกไปทางเดียวกัน”
4 แล้วเขาผู้นั้นพาข้าพเจ้าผ่านประตูด้านเหนือมายังด้านหน้าของพระวิหาร ข้าพเจ้ามองเห็นพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมทั่วพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าก็หมอบกายซบหน้าลงกับพื้น
5 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงมองให้เต็มตา จงฟังให้เต็มหู และจงเอาใจใส่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราบอกเจ้า เรื่องกฎเกณฑ์เกี่ยวกับพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงใส่ใจเรื่องทางเข้าพระวิหารและทางเข้าออกทุกทางของสถานนมัสการ 6 จงกล่าวกับพงศ์พันธุ์อิสราเอลซึ่งชอบกบฏว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า พงศ์พันธุ์อิสราเอลเอ๋ย! พอเสียทีกับการกระทำอันน่าชิงชังทั้งหลายของเจ้า 7 นอกเหนือจากความประพฤติอันน่าชิงชังอื่นๆ แล้ว เจ้ายังพาชาวต่างชาติผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตทั้งกายและใจเข้ามายังสถานนมัสการของเรา เป็นการทำให้วิหารของเรามัวหมอง ในขณะที่เจ้าถวายอาหาร ไขมัน และเลือดแก่เรา เจ้าก็ละเมิดพันธสัญญาของเรา 8 แทนที่จะปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าเกี่ยวกับสิ่งบริสุทธิ์ของเรา เจ้าก็ให้คนอื่นมารับผิดชอบดูแลสถานนมัสการของเรา 9 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า อย่าให้ชาวต่างชาติคนใดที่ไม่ได้เข้าสุหนัตทั้งกายและใจเข้ามาในสถานนมัสการของเรา ห้ามแม้กระทั่งชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในหมู่ชาวอิสราเอล
10 “ ‘ชนเลวีที่ห่างไกลจากเราเมื่อครั้งอิสราเอลหลงผิดไป และที่เตลิดจากเราไปติดตามรูปเคารพต่างๆ จะต้องรับผลที่เกิดจากบาปของพวกเขา 11 เขาอาจจะทำงานรับใช้ในสถานนมัสการของเรา ดูแลประตูพระวิหารและปฏิบัติงานที่นั่น เขาอาจฆ่าสัตว์ เครื่องเผาบูชา หรือเครื่องบูชาต่างๆ ให้ประชาชน และยืนอยู่ต่อหน้าประชาชนและรับใช้พวกเขา 12 แต่เนื่องจากเขาเคยรับใช้ประชาชนต่อหน้ารูปเคารพต่างๆ และทำให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลทำบาป ฉะนั้นเราได้ชูมือปฏิญาณว่าพวกเขาต้องรับผลที่เกิดจากบาปของตน พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 13 อย่าให้เขาเข้ามารับใช้เราอย่างใกล้ชิดในฐานะปุโรหิต หรือเข้ามาใกล้เครื่องบูชาบริสุทธิ์ที่สุดหรือสิ่งบริสุทธิ์ใดๆ ของเรา เขาต้องรับความอัปยศอดสูจากการกระทำที่น่าชิงชังของตน 14 ถึงกระนั้นเราจะตั้งให้เขารับผิดชอบหน้าที่ต่างๆ และงานทั้งปวงในพระวิหาร
15 “ ‘ส่วนปุโรหิตชาวเลวีวงศ์วานของศาโดกผู้ซึ่งยังปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ในสถานนมัสการของเรา เมื่อชาวอิสราเอลหลงไปจากเรานั้น ให้เขามารับใช้ใกล้ชิดยืนอยู่ตรงหน้าเรา ถวายเครื่องบูชาคือไขมันและเลือด พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 16 พวกเขาเท่านั้นที่เข้ามาในสถานนมัสการของเราได้ เราอนุญาตให้พวกเขาเท่านั้นที่เข้ามาใกล้โต๊ะของเรา เพื่อรับใช้ต่อหน้าเราและปฏิบัติหน้าที่เพื่อเรา
17 “ ‘เมื่อเขาจะเข้าประตูลานชั้นใน ต้องสวมเครื่องแต่งกายผ้าลินิน อย่าสวมเครื่องแต่งกายขนสัตว์ใดๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่ที่ประตูต่างๆ ของลานชั้นในหรือภายในพระวิหาร 18 ให้เขาโพกผ้าลินินไว้ที่ศีรษะและสวมเครื่องแต่งกายชั้นในที่ทำจากผ้าลินินรอบเอว ไม่ให้สวมสิ่งใดที่จะทำให้เหงื่อออก 19 เมื่อเขาจะออกมาสู่ลานชั้นนอกที่ประชาชนอยู่ ให้ถอดเครื่องแต่งกายที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ออกวางไว้ในห้องศักดิ์สิทธิ์ และสวมเครื่องแต่งกายอื่นๆ จะได้ไม่เป็นการทำให้ประชาชนศักดิ์สิทธิ์โดยอาศัยเครื่องแต่งกายของพวกเขา
20 “ ‘อย่าให้ปุโรหิตโกนผมหรือปล่อยผมยาว แต่จงตัดผมให้เรียบร้อย 21 อย่าให้ปุโรหิตคนใดดื่มเหล้าองุ่นเมื่อเข้าไปยังลานชั้นใน 22 ห้ามเขาแต่งงานกับแม่ม่ายหรือหญิงที่หย่าร้าง แต่ให้แต่งงานกับหญิงพรหมจารีเชื้อสายอิสราเอลหรือภรรยาม่ายของปุโรหิตเท่านั้น 23 พวกเขาต้องสั่งสอนประชากรของเราถึงข้อแตกต่างระหว่างสิ่งที่บริสุทธิ์และสิ่งที่สามัญ และสอนให้ประชากรรู้จักแยกแยะระหว่างสิ่งที่เป็นมลทินและสิ่งที่สะอาด
24 “ ‘เมื่อมีคดีความ ให้ปุโรหิตทำหน้าที่พิพากษาตัดสินความตามข้อกำหนดของเรา ให้เขารักษาบทบัญญัติและกฎหมายของเราเรื่องเทศกาลต่างๆ ตามกำหนด เขาจะต้องรักษาสะบาโตของเราให้บริสุทธิ์
25 “ ‘ปุโรหิตอย่าทำตัวให้เป็นมลทินโดยเข้าไปใกล้คนตาย เว้นแต่เป็นบิดามารดา บุตรชายบุตรสาว พี่ชายน้องชาย หรือพี่สาวน้องสาวที่ยังไม่มีสามี จึงยอมให้ตนเป็นมลทินได้ 26 หลังจากที่ชำระตัวแล้ว ให้คอยไปอีกเจ็ดวัน 27 ในวันที่จะเข้าไปสู่ลานชั้นในของสถานนมัสการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในสถานนมัสการ เขาจะต้องถวายเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อตัวเอง พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
28 “ ‘เราจะเป็นทรัพย์สมบัติอย่างเดียวของปุโรหิต เขาไม่ต้องถือกรรมสิทธิ์ใดๆ ในอิสราเอล เพราะเราจะเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา 29 ให้เขารับประทานธัญบูชา เครื่องบูชาไถ่บาป เครื่องบูชาลบความผิด จงยกทุกสิ่งทุกอย่างในอิสราเอลที่ถวาย[m]แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าให้เป็นของปุโรหิต 30 ส่วนที่ดีที่สุดของผลแรกและของเครื่องถวายพิเศษทั้งปวงของเจ้าจะเป็นของบรรดาปุโรหิต เจ้าจงมอบธัญญาหารรุ่นแรกแก่พวกเขา เพื่อพรจะอยู่เหนือครัวเรือนของเจ้า 31 ปุโรหิตอย่ารับประทานสัตว์ที่ตายเองหรือถูกสัตว์ร้ายฉีกกัด ไม่ว่าจะเป็นนกหรือสัตว์อื่น
การแบ่งสรรที่ดิน
45 “ ‘เมื่อเจ้าแบ่งสรรดินแดนกรรมสิทธิ์ จงถวายที่ดินส่วนหนึ่งแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ยาว 25,000 คิวบิท[n] และกว้าง 20,000 คิวบิท[o]ทั้งเขตแดนนั้นจะเป็นที่บริสุทธิ์ 2 ในบริเวณนี้ให้มีที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 500 คิวบิท[p] เพื่อเป็นสถานนมัสการและมีที่ว่างโดยรอบเป็นระยะ 50 คิวบิท[q] 3 ในเขตศักดิ์สิทธิ์นี้ จงวัดที่แบ่งออกมาให้ได้ขนาดยาว 25,000 คิวบิท กว้าง 10,000 คิวบิท[r] ในบริเวณนี้จะเป็นสถานนมัสการคืออภิสุทธิสถาน 4 จะเป็นเขตแดนบริสุทธิ์สำหรับบรรดาปุโรหิต ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานนมัสการ และเข้าปรนนิบัติรับใช้อยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าใช้เป็นที่สำหรับบ้านเรือนของปุโรหิตและวิสุทธิสถานของสถานนมัสการ 5 อีกส่วนซึ่งยาว 25,000 คิวบิท และกว้าง 10,000 คิวบิท เป็นของคนเลวีซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในพระวิหาร มอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเขาที่จะสร้างบ้านเมืองเพื่ออยู่อาศัย[s]
6 “ ‘เจ้าจงมอบที่กว้าง 5,000 คิวบิท[t]ยาว 25,000 คิวบิท ต่อจากเขตศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นส่วนของเมืองนั้น ที่นี่จะเป็นของพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด
7 “ ‘ที่ดินแต่ละข้างของเนื้อที่เขตศักดิ์สิทธิ์และทรัพย์สมบัติของเมืองยกให้เป็นของเจ้านาย ทอดออกไปทางตะวันตกและตะวันออก ตลอดความยาวของพรมแดนตะวันตกจดตะวันออกเทียบเท่ากับส่วนที่ยกให้ตระกูลหนึ่ง 8 ที่ดินนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้านายในอิสราเอล และเจ้านายเหล่านั้นจะได้ไม่กดขี่ข่มเหงประชากรของเราอีกต่อไป แต่จะยอมให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลครอบครองดินแดนตามตระกูลต่างๆ
9 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่าบรรดาเจ้านายของอิสราเอลเอ๋ย เจ้าทำเกินเลยมามากพอแล้ว! เลิกกดขี่ข่มเหงและทารุณเถิด จงทำสิ่งที่ถูกต้อง ยุติธรรม และเลิกเสือกไสไล่ส่งประชากรของเราจากกรรมสิทธิ์ของเขา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 10 จงใช้เครื่องชั่งที่เที่ยงตรง เอฟาห์และบัทที่เที่ยงตรง[u] 11 เอฟาห์จะเท่ากับบัท คือเอฟาห์และบัทล้วนเท่ากับหนึ่งในสิบโฮเมอร์ โฮเมอร์เป็นหน่วยมาตรฐานของการตวงทั้งของแห้งและของเหลว 12 1 เชเขล[v] เท่ากับ 20 เกราห์และ 60 เชเขลเท่ากับ 1 มินา[w]
ของถวายและวันบริสุทธิ์
13 “ ‘ของถวายพิเศษที่เจ้าจะต้องนำมามอบให้คือ ข้าวสาลีหนึ่งในหกเอฟาห์จากทุกๆ หนึ่งโฮเมอร์ ข้าวบาร์เลย์ก็หนึ่งในหกเอฟาห์จากทุกๆ หนึ่งโฮเมอร์ 14 ส่วนน้ำมันตวงด้วยหน่วยบัท คือหนึ่งในสิบบัทจากทุกหนึ่งโคร์ (ซึ่งเท่ากับหนึ่งโฮเมอร์หรือสิบบัท) 15 พร้อมทั้งแกะหนึ่งตัวจากทุกสองร้อยตัว จากทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ของอิสราเอล สิ่งเหล่านี้จะใช้เป็นธัญบูชา เครื่องเผาบูชา และเครื่องสันติบูชาเพื่อลบบาปสำหรับประชากร พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 16 ประชากรทั้งหมดจะร่วมกันนำของถวายพิเศษนี้มาสำหรับเจ้านายของอิสราเอล 17 เป็นหน้าที่ของเจ้านายที่จะจัดเตรียมเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และเครื่องดื่มบูชาซึ่งใช้ในเทศกาลต่างๆ วันขึ้นหนึ่งค่ำและสะบาโตทั้งหลาย คือทุกเทศกาลที่กำหนดไว้ของพงศ์พันธุ์อิสราเอล เขาจะจัดเครื่องบูชาไถ่บาป ธัญบูชา เครื่องเผาบูชา และเครื่องสันติบูชาเพื่อลบบาปของพงศ์พันธุ์อิสราเอล
18 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันที่หนึ่งเดือนที่หนึ่ง เจ้าจงเอาวัวหนุ่มปราศจากตำหนิมาเพื่อการชำระสถานนมัสการ 19 ให้ปุโรหิตเอาเลือดของเครื่องบูชาไถ่บาปทาไว้ที่เสาประตูพระวิหาร ที่มุมทั้งสี่ของคิ้วบนของแท่นบูชา และที่เสาประตูของลานชั้นใน 20 จงทำอย่างนี้อีกในวันที่เจ็ดของเดือนนั้น เป็นการลบมลทินของพระวิหารเพื่อผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งทำบาปโดยไม่เจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
21 “ ‘ในวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่ง จงถือเทศกาลปัสกา เจ้าจะกินขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวันของเทศกาล 22 ในวันนั้นเจ้านายจะถวายวัวหนุ่มเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตนเอง และสำหรับประชาชนทั้งหมด 23 ทุกวันตลอดเจ็ดวันของเทศกาล เขาจะถวายวัวหนุ่มเจ็ดตัวและแกะผู้เจ็ดตัว ซึ่งปราศจากตำหนิ เป็นเครื่องเผาบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายแพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 24 เขาจะจัดธัญบูชาควบคู่โดยใช้แป้ง 1 เอฟาห์[x]ต่อวัวหนุ่มหนึ่งตัว และ 1 เอฟาห์ต่อแกะผู้หนึ่งตัว พร้อมทั้งน้ำมัน 1 ฮิน[y] ต่อแป้ง 1 เอฟาห์
25 “ ‘ตลอดเจ็ดวันของเทศกาลนั้น ซึ่งเริ่มในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ด ให้เขาจัดเตรียมเครื่องบูชาไถ่บาป เครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และน้ำมันแบบเดียวกัน
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.