Beginning
นิมิตหุบเขากระดูกแห้ง
37 พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือข้าพเจ้า และทรงนำข้าพเจ้าออกมาโดยพระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงวางข้าพเจ้าไว้ที่กลางหุบเขาแห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยกระดูก 2 พระองค์ทรงพาข้าพเจ้าท่องไปในหมู่กระดูก และข้าพเจ้าเห็นกระดูกเกลื่อนกลาดทั่วพื้นหุบเขา เป็นกระดูกที่แห้งมาก 3 พระองค์ตรัสถามข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย กระดูกเหล่านี้จะกลับมีชีวิตได้ไหม?”
ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิต พระองค์แต่ผู้เดียวที่ทรงทราบ”
4 แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “จงเผยพระวจนะแก่กระดูกเหล่านี้ว่า ‘กระดูกแห้งเอ๋ย จงฟังพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า! 5 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสแก่กระดูกเหล่านี้ว่า เราจะให้ลมปราณ[a]เข้าสู่เจ้า แล้วเจ้าจะกลับมีชีวิต 6 เราจะร้อยเอ็นของเจ้าและให้เจ้ามีเลือดเนื้อ แล้วเอาผิวหนังคลุมเจ้า เราจะใส่ลมปราณให้เจ้าและเจ้าจะมีชีวิต แล้วเจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’ ”
7 ข้าพเจ้าจึงเผยพระวจนะตามที่พระองค์ตรัสสั่ง ขณะที่ข้าพเจ้าเผยพระวจนะอยู่ มีเสียงดังกรุกกริก และกระดูกต่างๆ มาประสานต่อเข้าด้วยกัน 8 ข้าพเจ้ามองดูก็เห็นเอ็นและเลือดเนื้อก่อตัวขึ้นเหนือกระดูกและผิวหนังคลุมทั้งหมดไว้ แต่ร่างเหล่านั้นยังปราศจากลมปราณ
9 แล้วพระองค์ตรัสแก่ข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงเผยพระวจนะแก่ลมปราณ จงกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ลมปราณเอ๋ย จงมาจากลมทั้งสี่ทิศ และเข้าสู่ร่างที่ถูกสังหารเหล่านี้เพื่อพวกเขาจะมีชีวิต’ ” 10 ข้าพเจ้าจึงเผยพระวจนะตามที่พระองค์ตรัสสั่ง แล้วลมปราณก็เข้าสู่ร่างเหล่านั้น พวกเขาจึงมีชีวิต ลุกขึ้นยืน และกลายเป็นกองทัพใหญ่
11 แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “บุตรมนุษย์เอ๋ย กระดูกเหล่านี้คือพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด พวกเขากล่าวว่า ‘กระดูกของเราแห้งกรัง ความหวังของเราสูญสิ้น เราถูกทำลายแล้ว’ 12 ฉะนั้นจงเผยพระวจนะแก่พวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ประชากรของเราเอ๋ย เราจะเปิดหลุมฝังศพของเจ้าและนำเจ้าออกมา เราจะพาเจ้ากลับสู่ดินแดนอิสราเอล 13 เมื่อนั้นแหละประชากรของเราเอ๋ย เจ้าจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์เมื่อเราเปิดหลุมฝังศพของเจ้าและนำเจ้าออกมา 14 เราจะใส่วิญญาณของเราไว้ในเจ้าและเจ้าจะมีชีวิตอยู่ เราจะให้เจ้าตั้งรกรากในดินแดนของเจ้าเอง เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์ได้ลั่นวาจาไว้และเราก็ทำตามนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น’ ”
ชาติเดียวกษัตริย์เดียว
15 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 16 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงเอาไม้อันหนึ่งมาและเขียนลงว่า ‘ของยูดาห์กับอิสราเอลซึ่งเป็นพวกพ้อง’ และเอาไม้อีกอันหนึ่งมาเขียนลงว่า ‘ของเอฟราอิม ของโยเซฟและวงศ์วานอิสราเอลทั้งหมด ซึ่งเป็นพวกพ้อง’ 17 จงประกอบไม้ทั้งสองเข้าด้วยกัน ให้เป็นไม้อันเดียวอยู่ในมือของเจ้า
18 “เมื่อพี่น้องร่วมชาติของเจ้าถามเจ้าว่า ‘เจ้าจะไม่บอกเราหรือว่าที่เจ้าทำเช่นนั้นหมายความว่าอะไร?’ 19 จงบอกพวกเขาว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่าเราจะเอาไม้ของโยเซฟซึ่งอยู่ในมือของเอฟราอิมและไม้ของเผ่าต่างๆ ของชนอิสราเอลที่เป็นพวกพ้อง ประกอบเข้ากับไม้ของยูดาห์ให้เป็นไม้อันเดียวกันอยู่ในมือของเรา 20 จงชูไม้ทั้งสองอันที่เจ้าเขียนไว้ต่อหน้าพวกเขา 21 และบอกพวกเขาว่าพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เราจะนำชนชาติอิสราเอลออกมาจากชาติต่างๆ ที่พวกเขาไปนั้น เราจะรวบรวมพวกเขามาจากรอบทิศ พากลับสู่ดินแดนของพวกเขา 22 เราจะทำให้พวกเขาเป็นชนชาติเดียวในดินแดนนั้น ให้อยู่บนภูเขาต่างๆ ของอิสราเอล จะมีกษัตริย์องค์เดียวปกครองเหนือพวกเขาทั้งหมด พวกเขาจะไม่แยกเป็นสองชาติหรือสองอาณาจักรอีกต่อไป 23 พวกเขาจะไม่ทำตัวให้เป็นมลทินด้วยรูปเคารพต่างๆ หรือเทวรูปอันชั่วช้าสามานย์ หรือด้วยการล่วงละเมิดใดๆ ของพวกเขา เพราะเราจะช่วยไม่ให้พวกเขาหวนกลับไปทำบาปอีก[b] เราจะชำระล้างพวกเขา พวกเขาจะเป็นประชากรของเราและเราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา
24 “ ‘ดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นกษัตริย์ปกครองพวกเขา พวกเขาจะมีผู้เลี้ยงคนเดียว พวกเขาจะปฏิบัติตามบทบัญญัติของเราและใส่ใจทำตามกฎหมายของเรา 25 พวกเขาจะอาศัยในดินแดนซึ่งเรามอบให้แก่ยาโคบผู้รับใช้ของเรา ดินแดนซึ่งบรรพบุรุษของพวกเจ้าอาศัยอยู่ พวกเขากับลูกหลานจะอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดไป และดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นเจ้านายของพวกเขาตลอดไป 26 เราจะทำพันธสัญญาแห่งสันติภาพกับพวกเขาเป็นพันธสัญญานิรันดร์ เราจะสถาปนาพวกเขาไว้และทวีจำนวนของพวกเขา เราจะตั้งสถานนมัสการของเราไว้ท่ามกลางพวกเขาตลอดไป 27 ที่พำนักของเราจะอยู่ท่ามกลางพวกเขา เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาจะเป็นประชากรของเรา 28 เมื่อนั้นชนชาติทั้งหลายจะรู้ว่า เราผู้เป็นพระยาห์เวห์ทำให้อิสราเอลเป็นชนชาติบริสุทธิ์ เมื่อสถานนมัสการของเราอยู่ท่ามกลางพวกเขาตลอดไปเป็นนิตย์’ ”
คำพยากรณ์กล่าวโทษโกก
38 พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงข้าพเจ้าว่า 2 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงมุ่งหน้าประณามโกกแห่งดินแดนมาโกก เจ้านายคนสำคัญแห่ง[c]เมเชคและทูบัล จงพยากรณ์กล่าวโทษเขา 3 และกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า โกกเจ้านายคนสำคัญแห่งเมเชค[d]และทูบัลเอ๋ย เราเป็นศัตรูกับเจ้า 4 เราจะทำให้เจ้าหันกลับ จะเอาเบ็ดเกี่ยวขากรรไกรของเจ้า และลากเจ้าออกไปพร้อมกองทัพทั้งปวงของเจ้าคือม้าและพลม้าซึ่งมีอาวุธครบมือ ทั้งกองกำลังมหึมาที่ถือโล่น้อยใหญ่และทุกคนที่กวัดแกว่งดาบ 5 เปอร์เซีย คูช[e] และพูตจะไปด้วย ทุกคนล้วนถือโล่และสวมหมวกเกราะ 6 พร้อมทั้งโกเมอร์กับทหารทั้งปวง และทั้งเบธโทการมาห์จากภาคเหนืออันไกลโพ้นกับทหารทั้งปวง มีหลายประชาชาติที่ร่วมกับเจ้า
7 “ ‘เจ้ากับกองกำลังทั้งปวงที่ชุมนุมกันรอบเจ้า จงเตรียมพร้อมและรับคำสั่งเกี่ยวกับพวกเขา 8 หลายวันผ่านไปเจ้าจะถูกเรียกมารบ อีกหลายปีข้างหน้าเจ้าจะบุกดินแดนซึ่งว่างเว้นจากสงคราม ซึ่งประชากรดินแดนนั้นถูกรวบรวมมาจากหลายชาติสู่ภูเขาต่างๆ ของอิสราเอลซึ่งถูกทิ้งร้างมานาน พวกเขาถูกพามาจากชาติต่างๆ บัดนี้เขาทั้งหมดอาศัยอยู่อย่างปลอดภัย 9 เจ้ากับกองทหารทั้งปวงและชนหลายชาติที่ร่วมกับเจ้าจะยกพลขึ้นไปรุกกระหน่ำอย่างพายุ เจ้าจะเป็นเหมือนเมฆปกคลุมดินแดนนั้น
10 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันนั้นความคิดจะแวบเข้ามาในใจของเจ้าและเจ้าจะคิดก่อการร้าย 11 เจ้าจะกล่าวว่า “เราจะบุกดินแดนซึ่งหมู่บ้านต่างๆ ไม่มีปราการ เราจะโจมตีชนชาติซึ่งรักสงบและไม่ระแวงภัย เขาทั้งปวงอาศัยอยู่โดยปราศจากกำแพง ประตู และดาลประตู 12 เราจะปล้นและริบข้าวของ และรบกับที่ปรักหักพังซึ่งบัดนี้มีคนอยู่อาศัย และสู้กับประชากรที่รวบรวมมาจากชาติต่างๆ ซึ่งร่ำรวยด้วยฝูงสัตว์และผลผลิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ใจกลางดินแดนนั้น” 13 เชบากับเดดาน และบรรดาพ่อค้าวาณิชของทารชิชและหมู่บ้านทั้งหมดของมัน[f]จะกล่าวแก่เจ้าว่า “ท่านมาปล้นชิงหรือ ท่านระดมพลมาริบข้าวของหรือ มาขนเงินทอง ริบฝูงสัตว์ ผลผลิตต่างๆ และยึดของเชลยไปมากมายหรือ?” ’
14 “ฉะนั้นบุตรมนุษย์เอ๋ย จงพยากรณ์และกล่าวแก่โกกว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันนั้นเมื่ออิสราเอลประชากรของเราอาศัยอยู่อย่างสงบ เจ้าจะไม่สังเกตเห็นหรือ? 15 เจ้าจะมาจากถิ่นของเจ้าในภาคเหนือไกลโพ้น ทั้งเจ้าและชาติต่างๆ ที่ร่วมกับเจ้า ทุกคนล้วนขี่ม้ามาเป็นกองกำลังยิ่งใหญ่และเป็นกองทัพเข้มแข็งยิ่งนัก 16 เจ้าจะบุกมาสู้กับอิสราเอลประชากรของเราเหมือนเมฆปกคลุมดินแดน โกกเอ๋ย ในกาลข้างหน้าเราจะนำเจ้ามาสู้รบกับดินแดนของเรา เพื่อชนชาติทั้งหลายจะรู้จักเราเมื่อเราสำแดงความบริสุทธิ์ของเราผ่านทางเจ้าต่อหน้าต่อตาพวกเขา
17 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า เจ้าเป็นผู้นั้นไม่ใช่หรือที่เรากล่าวถึงในสมัยก่อนผ่านทางผู้รับใช้ของเรา คือบรรดาผู้เผยพระวจนะของอิสราเอล? ในเวลานั้นพวกเขาพยากรณ์อยู่หลายปีว่าเราจะนำเจ้ามาสู้กับพวกเขา 18 ในวันนั้นจะเกิดเหตุการณ์ดังนี้คือ เมื่อโกกโจมตีดินแดนอิสราเอล เราจะบันดาลโทสะรุนแรง พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 19 โดยความร้อนใจและความเดือดดาล เราขอประกาศว่าเมื่อถึงเวลานั้น จะเกิดแผ่นดินไหวอย่างร้ายแรงในดินแดนอิสราเอล 20 ปลาในทะเล นกในอากาศ สัตว์บก สัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดและมนุษย์บนพื้นผิวโลกจะสั่นสะท้านต่อหน้าเรา ภูเขาทั้งหลายจะคว่ำทลาย หน้าผาแตกเป็นเสี่ยงๆ และกำแพงทุกแห่งทลายราบกับพื้น 21 เราจะเกณฑ์ดาบเล่มหนึ่งมาสู้กับโกกบนภูเขาทุกแห่งของเรา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น ดาบของทุกคนจะฟาดฟันกับพี่น้องของตน 22 เราจะลงโทษเขาด้วยโรคระบาดและการนองเลือด เราจะเทฝนห่าใหญ่ ลูกเห็บ และไฟกำมะถันลงใส่โกกและกองทหารของเขาตลอดจนชนชาติต่างๆ ที่ร่วมกับเขา 23 เราจะแสดงความยิ่งใหญ่และความบริสุทธิ์ของเราเช่นนี้ และเราจะสำแดงตนให้เป็นที่รู้จักต่อหน้าต่อตาชนชาติทั้งหลาย เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์’
39 “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงเผยพระวจนะกล่าวโทษโกกว่า ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า โกกผู้เป็นเจ้านายคนสำคัญแห่งเมเชค[g] และทูบัลเอ๋ย เราเป็นศัตรูกับเจ้า 2 เราจะทำให้เจ้าหันกลับและลากเจ้าไป เราจะนำเจ้ามาจากเหนือสุดและส่งเจ้ามารบกับภูเขาต่างๆ ของอิสราเอล 3 แล้วเราจะฟาดให้คันธนูหลุดจากมือซ้ายของเจ้า และทำให้ลูกธนูร่วงจากมือขวาของเจ้า 4 เจ้าและทหารทั้งหมดกับชนชาติต่างๆ ที่ร่วมกับเจ้าจะล้มลงบนภูเขาทั้งหลายของอิสราเอล เราจะยกเจ้าให้เป็นอาหารของแร้งกาและสัตว์ป่าทั้งปวง 5 เจ้าจะล้มลงในทุ่งกว้างเพราะเราได้ลั่นวาจาไว้แล้ว พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนี้ 6 เราจะส่งไฟลงมาบนมาโกกและบนบรรดาคนที่อาศัยอยู่อย่างปลอดภัยตามดินแดนชายฝั่งทะเล และพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์
7 “ ‘เราจะทำให้นามอันศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นที่รู้จักในท่ามกลางอิสราเอลประชากรของเรา เราจะไม่ปล่อยให้นามอันศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกลบหลู่อีกต่อไป และประชาชาติทั้งหลายจะรู้ว่าเราผู้เป็นพระยาห์เวห์คือองค์บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล 8 วันนั้นกำลังจะมาถึงแล้ว! เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น นี่เป็นวันที่เราได้ลั่นวาจาไว้
9 “ ‘แล้วบรรดาคนที่อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ของอิสราเอลจะออกไปเก็บอาวุธมาเผาเป็นเชื้อเพลิง ทั้งโล่น้อยใหญ่ คันธนู ลูกธนู กระบองศึกและหอก เขาจะใช้อาวุธเหล่านี้เป็นเชื้อเพลิงตลอดเจ็ดปี 10 เขาไม่จำเป็นต้องเก็บฟืนจากทุ่งหรือตัดฟืนจากป่า เพราะจะใช้อาวุธทั้งหลายเป็นเชื้อเพลิงและเขาจะปล้นผู้ที่ปล้นเขา และจะแย่งชิงผู้ที่แย่งชิงของของเขา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
11 “ ‘ในวันนั้นเราจะจัดสุสานให้โกกในอิสราเอล เป็นหุบเขาของคนที่เดินทางไปทางตะวันออกมุ่งหน้าสู่[h]ทะเลนั้น[i] มันจะกีดขวางทางของคนที่สัญจรไปมาเพราะโกกและกองกำลังทั้งหมดของเขาจะถูกฝังไว้ที่นั่น ผู้คนจะเรียกที่นั่นว่าหุบเขาฮาโมนโกก[j]
12 “ ‘พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะฝังศพพวกเขาตลอดเจ็ดเดือนเพื่อชำระแผ่นดินให้สะอาด 13 ประชาชนทุกคนจะช่วยกันฝังศพพวกเขาและวันที่เราได้รับเกียรติสิรินั้น จะเป็นวันรำลึกสำหรับพวกเขา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
14 “ ‘จะมีการว่าจ้างคนให้ชำระดินแดนนั้นสม่ำเสมอ บางคนก็จะไปทั่วแดน บางคนก็ฝังศพคนที่ตายเกลื่อนอยู่ตามพื้นดิน เมื่อสิ้นเจ็ดเดือนแล้ว พวกเขาจะเริ่มออกค้นหา 15 ขณะไปทั่วดินแดนใครเห็นกระดูกของคน ก็จะเอาเครื่องหมายปักไว้ข้างๆ รอจนคนขุดหลุมมาฝังกระดูกนั้นในหุบเขาฮาโมนโกก 16 (ที่นั่นจะมีเมืองหนึ่งชื่อฮาโมนาห์[k]) พวกเขาจะชำระแผ่นดินให้สะอาดเช่นนี้แหละ’
17 “บุตรมนุษย์เอ๋ย พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า จงร้องเรียกนกและสัตว์ป่าทุกชนิดว่า ‘จงมาชุมนุมกันอย่างพร้อมหน้าจากทุกทิศเถิด มากินของสังเวยที่เราเตรียมไว้ให้ เป็นการสังเวยครั้งใหญ่บนภูเขาต่างๆของอิสราเอล เจ้าจะได้กินเนื้อและดื่มเลือดที่นั่น 18 เจ้าจะกินเนื้อของผู้เกรียงไกร และดื่มเลือดของบรรดาเจ้านายของโลก ราวกับเขาเหล่านั้นเป็นแกะผู้ ลูกแกะ แพะและวัวผู้ ล้วนแต่เป็นสัตว์อ้วนพีจากบาชาน 19 เจ้าจะกินไขมันจนอิ่มแปล้และดื่มเลือดจนเมามายจากเครื่องสังเวยที่เราเตรียมไว้ให้เจ้า 20 ที่โต๊ะของเรา เจ้าจะกินม้า พลม้า บุรุษผู้เกรียงไกร และนักรบทุกประเภทจนอิ่มหนำ’ พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น
21 “เราจะสำแดงเกียรติสิริของเราท่ามกลางชนชาติต่างๆ และมวลประชาชาติจะเห็นโทษทัณฑ์ที่เราบันดาล และเห็นมือที่เราฟาดพวกเขา 22 ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป พงศ์พันธุ์อิสราเอลจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของเขา 23 และประชาชาติทั้งหลายจะรู้ว่าประชากรอิสราเอลตกเป็นเชลยเพราะบาปของตน เพราะพวกเขาไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา เราจึงซ่อนหน้าจากพวกเขา และมอบพวกเขาให้ศัตรู แล้วเขาทั้งหมดก็ล้มตายด้วยคมดาบ 24 เราจัดการกับพวกเขาตามมลทินและการล่วงละเมิดของพวกเขา และเราซ่อนหน้าจากพวกเขา
25 “ฉะนั้นพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า บัดนี้เราจะนำยาโคบกลับจากการเป็นเชลย[l] และเราจะเวทนาสงสารประชากรอิสราเอลเพราะ เราหวงแหนนามอันศักดิ์สิทธิ์ของเรา 26 พวกเขาจะลืมความอัปยศอดสูและความไม่ซื่อตรงทั้งปวงที่พวกเขาแสดงต่อเรา เมื่อพวกเขาอาศัยอยู่อย่างปลอดภัยในดินแดนของตน โดยไม่มีใครทำให้พวกเขาหวาดกลัว 27 เมื่อเรานำพวกเขากลับมาจากชาติต่างๆ และรวบรวมมาจากนานาประเทศของฝ่ายศัตรู เราจะสำแดงตัวเราเองว่าบริสุทธิ์ผ่านทางพวกเขาต่อหน้าประชาชาติทั้งหลาย 28 เมื่อนั้นพวกเขาจะรู้ว่าเราคือพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขา เพราะถึงแม้เราส่งพวกเขาไปเป็นเชลยท่ามกลางชนชาติต่างๆ เราจะรวบรวมพวกเขากลับมายังดินแดนของตนเองโดยไม่ปล่อยทิ้งไว้สักคนเดียว 29 เราจะไม่ซ่อนหน้าจากพวกเขาอีกแล้ว เพราะเราจะเทวิญญาณของเราเหนือพงศ์พันธุ์อิสราเอล พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น”
Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.