Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)
Version
เอเสเคียล 34-36

ผู้เลี้ยงแกะที่เลี้ยงแต่ปากท้องตัวเอง

34 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดแทนเราต่อต้านพวกผู้เลี้ยงแกะของอิสราเอล ให้บอกกับพวกเขาว่า นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘น่าละอายจริงๆผู้เลี้ยงแกะของอิสราเอลที่เลี้ยงดูแต่ปากท้องตัวเอง ผู้เลี้ยงควรจะเลี้ยงดูปากท้องของฝูงแกะ ไม่ใช่หรือ พวกเจ้ากินนมเปรี้ยวแข็ง นุ่งห่มขนแกะและเลือกแกะตัวอ้วนพีมาฆ่ากินกัน แต่เจ้าไม่เลี้ยงดูปากท้องของฝูงแกะเลย เจ้าไม่ได้เสริมกำลังให้กับตัวที่อ่อนแอ ไม่ได้รักษาตัวที่เจ็บป่วย และเจ้าไม่ได้พันแผลตัวที่บาดเจ็บ เจ้าไม่ได้นำสัตว์ที่หลงทางกลับมา เจ้าไม่ได้ตามหาตัวที่สูญหายไป แล้วพวกเจ้าปกครองพวกที่แข็งแรง[a]อย่างโหดเหี้ยมทารุณ

ดังนั้นพวกมันจึงกระจัดกระจายไปเพราะไม่มีผู้เลี้ยงคอยนำทางและเมื่อพวกมันแตกกระจายไป ก็ตกเป็นอาหารของพวกสัตว์ป่า ฝูงแกะของเรากระจัดกระจายไป แกะของเราเดินเร่ร่อนไปตามเทือกเขาและตามเนินเขาสูงพวกมันกระจัดกระจายไปทั่วผืนแผ่นดินโลก และไม่มีใครออกไปค้นหา หรือตามพวกมันกลับมา’”

ดังนั้น พวกเจ้า พวกผู้เลี้ยงแกะ ให้ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ซะ

8-10 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตบอกว่า “เนื่องจากฝูงแกะของเราตกเป็นเหยื่อและกลายเป็นอาหารของสัตว์ป่าทั้งหลาย เพราะพวกมันขาดผู้เลี้ยงคอยนำทาง แล้วพวกผู้เลี้ยงแกะของเราไม่ยอมค้นหาฝูงแกะของเรา แต่กลับสนใจเลี้ยงดูปากท้องของตัวเองมากกว่าของฝูงแกะ ไอ้พวกผู้เลี้ยงแกะ ให้ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์ซะ อย่างนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด

‘เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะต่อต้านพวกคนเลี้ยงแกะ และเราจะเอาผิดกับพวกเขาสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำกับลูกแกะของเรา เราจะปลดพวกเขาออกจากการเป็นผู้ดูแลฝูงแกะของเรา เพื่อพวกนี้จะไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้อีก เราจะช่วยฝูงแกะของเราให้พ้นจากปากของพวกเขา และพวกแกะจะไม่เป็นอาหารของพวกเขาอีกต่อไป’”

พระเจ้าจะเลี้ยงดูฝูงแกะเอง

11 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราเองจะค้นหาแกะของเราและดูแลพวกมัน 12 คนเลี้ยงแกะที่ดีจะค้นหาฝูงแกะที่กระจัดกระจายของเขาเมื่อเขาอยู่กับฝูงแกะ เราก็จะค้นหาฝูงแกะของเราอย่างนั้นด้วย เราจะช่วยพวกมันให้รอดพ้นออกมาจากสถานที่ต่างๆที่พวกมันกระจัดกระจายไปในวันที่มืดมิดที่ปกคลุมไปด้วยเมฆ 13 เราจะนำพวกมันออกมาจากชนชาติต่างๆและรวบรวมพวกมันจากประเทศทั้งหลาย เราจะนำพวกมันเข้าสู่แผ่นดินของพวกมันเอง เราจะเลี้ยงพวกมันด้วยทุ่งหญ้าตามเทือกเขาของอิสราเอล ตามริมลำธารและตามเขตชุมชนในแผ่นดินนี้ 14 เราจะเลี้ยงดูพวกมันด้วยทุ่งหญ้าอย่างดี และบนภูเขาสูงของอิสราเอล จะมีทุ่งหญ้าให้กับพวกมัน ที่นั่นพวกมันจะนอนลงบนทุ่งหญ้าอย่างดี และจะมีหญ้ากินอย่างอุดมสมบูรณ์ตามเทือกเขาของอิสราเอล 15 เราเองจะเลี้ยงดูแกะของเราและให้พวกมันนอนลง” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

16 “เราจะค้นหาพวกแกะที่หลงหาย เราจะนำพวกที่หลงทางกลับมา เราจะพันแผลตัวที่บาดเจ็บ เราจะเสริมกำลังให้กับตัวที่อ่อนแอ แล้วเราจะเลี้ยงดู[b]พวกแกะที่อ้วนพีและแข็งแรง เราจะเลี้ยงแกะฝูงนี้ด้วยความยุติธรรม

17 ส่วนพวกเจ้า ฝูงแกะของเรา นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘เราจะตัดสินระหว่างแกะตัวนี้กับแกะตัวนั้น และระหว่างพวกแกะตัวผู้กับพวกแพะ 18 เจ้าได้รับการเลี้ยงดูด้วยทุ่งหญ้าอย่างดี แค่นั้นยังไม่พออีกหรือ ทำไมเจ้ายังจะต้องไปเหยียบย่ำทุ่งหญ้าที่เหลือด้วย เจ้าได้ดื่มน้ำที่ใสสะอาด แค่นั้นยังไม่พอหรือยังไง ทำไมเจ้าต้องเอาเท้าไปกวนน้ำที่เหลือจนขุ่นเป็นโคลนด้วย 19 จำเป็นด้วยหรือ ที่ฝูงแกะของเราต้องไปกินสิ่งที่เจ้าเหยียบย่ำ และต้องดื่มสิ่งที่เจ้าใช้เท้ากวนจนขุ่นเป็นโคลน’”

20 ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับพวกแกะตัวอ้วนพีเหล่านั้น “ดูสิ เราเองจะตัดสินโทษระหว่างแกะตัวอ้วนกับแกะที่ผอมแห้ง 21 เพราะเจ้าใช้สีข้างกับไหล่ของเจ้าผลักไสแกะที่อ่อนแอ และใช้เขาของเจ้าขวิดพวกมันจนสามารถไล่พวกมันออกไป 22 เราจะช่วยฝูงแกะของเราให้รอด และพวกมันจะไม่ถูกพวกเจ้าปล้นอีกแล้ว เราจะตัดสินระหว่างแกะตัวนี้กับแกะตัวนั้น 23 เราจะให้ผู้เลี้ยงแกะคนหนึ่งมาปกครองพวกมัน นั่นคือดาวิด[c] ผู้รับใช้ของเราและเขาจะดูแลพวกมันและเป็นผู้เลี้ยงคอยนำทางพวกมัน 24 เรา ยาห์เวห์ จะเป็นพระเจ้าของพวกมัน และดาวิดผู้รับใช้ของเราจะเป็นเจ้าชายในหมู่พวกมัน เรา ยาห์เวห์ลั่นคำพูดออกไปแล้ว

25 เราจะทำข้อตกลงให้พวกมันอยู่เย็นเป็นสุขและกำจัดสัตว์ร้ายออกจากแผ่นดิน เพื่อพวกมันจะได้อาศัยอยู่ในที่โล่งกว้าง และนอนหลับในป่าอย่างปลอดภัย 26 เราจะอวยพรพวกเขา รวมทั้งบริเวณรอบเนินเขาของเรา[d] เราจะส่งฝนให้ตกตามฤดูกาล ฝนแห่งพระพรจะตกลงมา 27 ต้นไม้ตามท้องทุ่งจะเกิดผลและพื้นดินจะให้พืชผลงอกเงยขึ้น พวกเขาจะปลอดภัยอยู่บนแผ่นดินของพวกเขา เมื่อเราทำลายแอกของพวกเขา และช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกที่ทำให้พวกเขาเป็นทาส เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ 28 พวกเขาจะไม่ถูกชนชาติอื่นๆปล้นอีกต่อไป และจะไม่ถูกสัตว์ป่าเขมือบอีก พวกเขาจะอยู่อย่างปลอดภัย และจะไม่มีใครมาทำให้พวกเขาหวาดกลัวได้อีก 29 เราจะจัดหาดินแดนที่มีพืชผลอุดมสมบูรณ์ให้กับพวกเขา พวกเขาจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของความอดอยากในดินแดนนั้น แล้วพวกเขาจะไม่ถูกชนชาติอื่นๆพูดเหยียดหยามอีกต่อไป 30 แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เรา ยาห์เวห์พระเจ้าของพวกเขาอยู่กับพวกเขา และรู้ว่าพวกเขาซึ่งเป็นครอบครัวของอิสราเอลเป็นคนของเรา” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

31 “พวกเจ้าเป็นแกะของเรา เป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของเรา พวกเจ้าเป็นคนของเรา และเราคือพระเจ้าของพวกเจ้า” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

พระยาห์เวห์พูดต่อต้านภูเขาเสอีร์แห่งเอโดม

35 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมว่า “เจ้าลูกมนุษย์ ให้หันหน้าของเจ้าไปทางภูเขาเสอีร์ ให้พูดแทนเราต่อต้านมัน และบอกมันว่า

‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด
ภูเขาเสอีร์ เราต่อต้านเจ้า
    เราจะยื่นมือของเราออกตีเจ้าและทำให้เจ้ารกร้างว่างเปล่า
เราจะเปลี่ยนเมืองต่างๆของเจ้าให้กลายเป็นซากปรักหักพัง
    เจ้าจะรกร้าง
แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์
เพราะเจ้าได้เกลียดอิสราเอลตั้งแต่ยุคโบราณ
และมอบชาวอิสราเอลให้ถูกฆ่า
    ในช่วงที่พวกเขาเผชิญกับความหายนะ
    ในช่วงที่การลงโทษของพวกเขาได้มาถึงจุดสุดยอด’”

พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะมอบพวกเจ้าไปสู่การนองเลือด และมันจะไล่ตามพวกเจ้าไป พวกเจ้าไม่เกลียดการนองเลือด อย่างนั้นการนองเลือดจะไล่ตามพวกเจ้าไป เราจะทำให้ภูเขาเสอีร์กลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่าและจะไม่ให้มีใครเดินทางผ่านไปมาที่นั่น เราจะทำให้เทือกเขาของพวกเจ้าเต็มไปด้วยซากศพที่ถูกฆ่า

พวกที่ถูกฆ่าด้วยดาบจะล้มลงตามพวกเนินเขา หุบเขาและในธารน้ำที่เหือดแห้งของเจ้า เราจะทำให้เจ้าเป็นที่รกร้างตลอดไป เมืองต่างๆของเจ้าจะไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์

10 เป็นเพราะเจ้าได้พูดว่า ‘ชนชาติอิสราเอลและยูดาห์ ประเทศทั้งสอง[e] นี้จะตกเป็นของเรา และเราจะยึดพวกมันไว้’ ทั้งๆที่ เรา ยาห์เวห์จะอยู่ที่นั่นก็ตาม” 11 ดังนั้น พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “เรามีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่า เราจะทำกับเจ้าให้สาสมกับความโกรธและความอิจฉาที่เจ้าได้แสดงออกด้วยความเกลียดชังต่อพวกเขา การที่เราจัดการกับเจ้าอย่างนี้ เราจะทำให้ตัวเราเป็นที่รู้จักในหมู่คนอิสราเอล 12 แล้วเจ้าจะได้รู้ว่า เรา ยาห์เวห์ได้ยินสิ่งต่างๆที่พวกเจ้าพูดดูถูกเทือกเขาของอิสราเอลไว้ เจ้าพูดว่า ‘พวกมันถูกทิ้งให้ร้างและถูกมอบให้พวกเรากลืนกิน’ 13 เจ้าคุยโม้โอ้อวดทับถมเรา และพูดต่อต้านเราอย่างไม่ยั้งคิด และเราก็ได้ยินสิ่งที่เจ้าพูด”

14 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “โลกทั้งโลกจะเฉลิมฉลองรื่นเริงกัน เพราะเราได้ทำให้เจ้ารกร้างว่างเปล่า 15 เพราะเจ้าเฉลิมฉลองรื่นเริงกัน ตอนที่ดินแดนของชาวอิสราเอลกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ภูเขาเสอีร์และเอโดมทั้งหมด ทั้งหมดเลย เราจะทำกับเจ้าอย่างนั้น เจ้าจะต้องรกร้างว่างเปล่า แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์”

พระยาห์เวห์พูดให้กำลังใจเทือกเขาของอิสราเอล

36 “เจ้าลูกมนุษย์ ให้พูดแทนเรากับเทือกเขาของอิสราเอล และบอกพวกเขาว่า ‘เทือกเขาแห่งอิสราเอลเอ๋ย ให้ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์เถิด นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ศัตรูพูดถึงเจ้าไว้ว่า ไชโย เทือกเขาโบราณตกเป็นของพวกเราแล้ว”’”

ดังนั้นให้พูดแทนเราต่อเทือกเขาอิสราเอล ให้บอกไปว่า “นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘พวกเขาได้ทำลายล้างและเข้ามาเหยียบย่ำเจ้าจากทุกๆด้าน จนเจ้าตกเป็นสมบัติของชนชาติอื่นๆและตกเป็นขี้ปากให้ชาวบ้านนินทา และถูกใส่ร้ายป้ายสี’”

อย่างนั้น เทือกเขาแห่งอิสราเอลเอ๋ย ให้ฟังคำพูดของพระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตเถิด นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดกับเทือกเขา เนินเขาทั้งหลาย ลำธารที่เหือดแห้ง หุบเขา กับที่รกร้างว่างเปล่า และเมืองร้างต่างๆที่ถูกปล้นและถูกคนชาติอื่นที่อยู่รอบๆเยาะเย้ย นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “แน่นอน เรากำลังพูดต่อต้านชนชาติอื่นๆที่เหลือ และต่อต้านเอโดมทั้งหมด ด้วยความเร่าร้อนที่จะปกป้องเกียรติของเรา เพราะพวกมันได้ริบเอาแผ่นดินของเราไปเป็นของพวกมันเอง ด้วยความดีอกดีใจ พวกมันปล้นชิงดินแดนไปเป็นทุ่งหญ้าของพวกมัน”

“ดังนั้นให้พูดแทนเราเกี่ยวกับแผ่นดินอิสราเอล และพูดกับบรรดาเทือกเขา เนินเขา ลำธารที่เหือดแห้ง และหุบเขาทั้งหลายว่า ‘นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด เราพูดด้วยความเร่าร้อนที่จะปกป้องเกียรติของเรา เพราะเจ้าถูกชนชาติอื่นๆรังเกียจ’”

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เรายกมือขึ้นสาบานว่า ‘ชนชาติทั้งหลายที่อยู่ล้อมรอบเจ้าจะถูกรังเกียจด้วย’”

“แต่เจ้า เทือกเขาแห่งอิสราเอลเอ๋ย เจ้าจะแตกกิ่งก้านและออกผลให้กับชาวอิสราเอลของเราเพราะพวกเขาจะกลับบ้านในเร็ววันนี้ เราอยู่ฝ่ายเจ้า และจะหันมาสนใจเจ้า เจ้าจะได้รับการไถหว่าน 10 และเราจะให้ประชากรของเจ้าทวีคูณ คือครอบครัวชาวอิสราเอลทั้งหมด เมืองต่างๆจะเต็มไปด้วยผู้คน และซากปรักหักพังทั้งหลายจะได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ 11 เราจะให้จำนวนคนและสัตว์บนเจ้าทวีคูณ และพวกเขารวมทั้งพวกสัตว์เหล่านั้นจะออกลูกหลานและจะมีจำนวนมากมาย เราจะให้ผู้คนมาตั้งถิ่นฐานลงบนเจ้าเหมือนในอดีตและเราจะอวยพรเจ้ามากกว่าแต่ก่อน แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ 12 เราจะทำให้ประชาชน คือประชาชนชาวอิสราเอลของเรา เดินบนเจ้า พวกเขาจะเป็นเจ้าของเจ้า และเจ้าจะเป็นของที่พวกเขามีสิทธิ์ใช้ได้ เจ้าจะไม่มีวันพรากลูกหลานของพวกเขาไปจากพวกเขาได้อีก”

13 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ประชาชนพูดกับเจ้าว่า ‘เจ้าเขมือบผู้คนและเอาลูกหลานไปเสียจากชนชาติของเจ้าเอง’ 14 แต่ต่อไปนี้ เจ้าจะไม่ได้เขมือบผู้คนหรือเอาลูกหลานไปจากชนชาติเจ้าอีกต่อไป” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น 15 “เราจะทำให้เจ้าไม่ต้องฟังคำเยาะเย้ยจากชนชาติอื่นๆอีกแล้ว และไม่ต้องถูกเชื้อชาติอื่นๆรังเกียจ และไม่ต้องเป็นเหตุทำให้ชนชาติตัวเองต้องล่มสลายอีกต่อไปแล้ว” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

พระเจ้าจะปกป้องชื่อเสียงของพระองค์

16 คำพูดของพระยาห์เวห์ได้มาถึงผมอีกว่า 17 “เจ้าลูกมนุษย์ เมื่อชาวอิสราเอลได้อาศัยอยู่ในแผ่นดินของพวกเขาเอง พวกเขาได้ทำให้แผ่นดินนี้สกปรก ด้วยความประพฤติและสิ่งต่างๆที่พวกเขาทำ การกระทำของพวกเขาไม่บริสุทธิ์ในสายตาเราเหมือนผู้หญิงที่มีประจำเดือน[f] 18 เราจึงเทความเดือดดาลของเราลงบนพวกเขา เพราะพวกเขาได้ทำให้แผ่นดินนี้เปื้อนเลือดเหมือนกัน ด้วยการฆ่าคนบริสุทธิ์ และทำให้แผ่นดินนี้สกปรกด้วยรูปเคารพขี้ๆเหล่านั้น 19 เราเคยให้พวกเขากระเจิดกระเจิงไปอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งหลาย พวกเขาได้กระจัดกระจายไปอยู่ตามประเทศต่างๆ เราได้ตัดสินพวกเขาตามความประพฤติและการกระทำของพวกเขาแล้ว 20 และพวกเขาไปที่ไหนก็ตามในท่ามกลางชนชาติต่างๆ พวกเขาได้ทำให้ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเราถูกลบหลู่ เพราะคนเหล่านั้นพูดถึงพวกเขาไว้ว่า ‘คนพวกนี้เป็นคนของพระยาห์เวห์ แต่ก็ยังต้องออกไปจากแผ่นดินของตัวเองอยู่ดี’[g]

21 แต่เรารู้สึกเป็นห่วงชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเรา ที่ครอบครัวชาวอิสราเอลได้ทำให้เสื่อมไปในหมู่ชนชาติที่พวกเขาไปอยู่นั้น 22 ดังนั้นให้บอกกับครอบครัวชาวอิสราเอลว่า นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด ‘ครอบครัวชาวอิสราเอลเอ๋ย เรื่องที่เราจะทำต่อไปนี้ อย่าเข้าใจว่าเราเห็นแก่พวกเจ้านะ จริงๆแล้วเราเห็นแก่ชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ของเรา ที่พวกเจ้าได้ทำให้เสื่อมเสียไปแล้วในหมู่ชนชาติที่เจ้าไปอยู่นั้น 23 เราจะกู้ชื่ออันยิ่งใหญ่ที่ศักดิ์สิทธิ์ของเรานั้นกลับมา ชื่อที่เสื่อมเสียไปแล้วในท่ามกลางชนชาติต่างๆเป็นชื่อที่เจ้าได้ทำให้เสื่อมเสียไปแล้วในหมู่พวกเขา แล้วชนชาติเหล่านั้นจะได้รู้ว่าเราคือยาห์เวห์ เมื่อเราแสดงความศักดิ์สิทธิ์ของเราต่อหน้าต่อตาพวกเขา ตอนนำเจ้ากลับมา’” พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่าอย่างนั้น

24 “เพราะเราจะพาเจ้าออกจากชนชาติต่างๆ เราจะรวบรวมเจ้ามาจากทุกประเทศ และนำเจ้ากลับสู่แผ่นดินของเจ้าเอง 25 เราจะประพรมน้ำสะอาดลงบนเจ้า และเจ้าก็จะสะอาด เราจะชำระเจ้าจากความไม่บริสุทธิ์ทั้งหลาย และจากพวกรูปเคารพขี้ๆของเจ้า 26 เราจะให้หัวใจดวงใหม่แก่เจ้า และเอาวิญญาณใหม่วางไว้ในตัวเจ้า เราจะเอาหัวใจหิน[h]ออกจากเจ้า และให้หัวใจที่มีเลือดเนื้อ[i]แก่เจ้าแทน 27 เราจะใส่พระวิญญาณของเราไว้ในเจ้า[j] และทำให้เจ้ามาทำตามกฎระเบียบต่างๆของเรา และรักษากฎทั้งหลายของเราอย่างเคร่งครัด 28 เจ้าจะอาศัยอยู่ในแผ่นดินที่เราได้ให้ไว้กับบรรพบุรุษของเจ้า เจ้าจะเป็นคนของเราและเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า 29 เราจะช่วยเจ้าให้พ้นจากความไม่บริสุทธิ์ทั้งหลายของเจ้า เราจะให้เมล็ดข้าวงอกงามและเพิ่มขึ้นมากมาย และเราจะไม่นำความอดอยากมาให้กับเจ้าอีก 30 เราจะเพิ่มจำนวนผลไม้บนต้นและพืชพันธุ์ในท้องทุ่ง เพื่อเจ้าจะไม่ต้องอับอายท่ามกลางชนชาติต่างๆเพราะอดอยาก 31 แล้วเจ้าจะได้รู้สึกตัวถึงวิถีทางอันเลวทรามและการกระทำที่ชั่วร้ายของเจ้า เจ้าจะรู้สึกขยะแขยงตัวเองเพราะบาปเหล่านั้นกับการทำตัวที่น่ารังเกียจนั้น”

32 พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูดว่า “ครอบครัวชาวอิสราเอลเอ๋ย เราอยากให้เจ้ารู้ว่า เราไม่ได้ทำสิ่งนี้เพราะเห็นแก่เจ้าหรอก ให้ละอายใจและอับอายต่อการกระทำของเจ้าเถิด”

33 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “ในวันที่เราชำระเจ้าจากบาปทั้งหลายของเจ้า เราจะตั้งรกรากให้พวกเจ้าใหม่ตามเมืองต่างๆและเราจะสร้างซากปรักหักพังทั้งหลายขึ้นมาใหม่ 34 ที่ดินที่รกร้างจะได้รับการไถหว่านแทนที่จะถูกทิ้งร้างอยู่อย่างนั้น ต่อหน้าผู้คนที่เดินผ่านไปมา 35 พวกเขาจะพูดว่า ‘แผ่นดินที่เคยถูกทิ้งร้างนี้กลายเป็นเหมือนสวนเอเดน เมืองต่างๆที่เคยเป็นซากปรักหักพัง รกร้างว่างเปล่า เดี๋ยวนี้กลับมีกำแพงล้อมรอบอย่างแน่นหนาและมีผู้คนอาศัยอยู่’

36 แล้วชาติต่างๆที่อยู่ล้อมรอบเจ้าที่ยังเหลือรอด จะได้รู้ว่า เรา ยาห์เวห์ได้สร้างสิ่งที่เคยถูกทำลายไปแล้วให้กลับคืนมาใหม่ และได้เพาะปลูกลงในที่ที่เคยรกร้างมาแล้วขึ้นใหม่ เรายาห์เวห์ได้ลั่นคำพูดออกไปแล้ว และเราก็จะทำให้สำเร็จ”

37 นี่คือสิ่งที่พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตพูด “เราจะยอมฟังคำอ้อนวอนของครอบครัวชาวอิสราเอลอีก และจะทำสิ่งเหล่านี้เพื่อพวกเขา เราจะทำให้ประชาชนของพวกเขาทวีคูณเหมือนฝูงแกะ 38 พวกเขาจะมีจำนวนมากมายเหมือนฝูงแพะแกะที่นำมาอยู่รวมกันในเมืองเยรูซาเล็ม เพื่อเป็นเครื่องบูชา ในช่วงเทศกาลต่างๆที่กำหนดไว้ แล้วเมืองต่างๆที่เคยพังทลายไป จะเต็มไปด้วยฝูงชน แล้วพวกเขาจะได้รู้ว่า เราคือยาห์เวห์”

Thai New Testament: Easy-to-Read Version (ERV-TH)

พระคริสตธรรมคัมภีร์: ฉบับอ่านเข้าใจง่าย ภาคคำสัญญาใหม่ © 2015 Bible League International