Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
1 พงศาวดาร 15-17

อัญเชิญหีบพันธสัญญามายังกรุงเยรูซาเล็ม(A)

15 หลังจากดาวิดได้สร้างพระตำหนักต่างๆ สำหรับพระองค์ในเมืองดาวิดแล้ว ดาวิดก็ทรงเตรียมที่สำหรับหีบพันธสัญญาของพระเจ้าและตั้งพลับพลาขึ้นหลังหนึ่ง แล้วดาวิดตรัสว่า “อย่าให้ผู้ใดอื่นเว้นแต่ชนเลวีอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้า เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกพวกเขาให้หามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า และรับใช้อยู่ต่อหน้าพระองค์ตลอดไป”

ดาวิดจึงทรงให้เรียกชุมนุมอิสราเอลทั้งปวงในกรุงเยรูซาเล็ม เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังที่ซึ่งดาวิดจัดเตรียมไว้ แล้วทรงให้วงศ์วานของอาโรนและชนเลวีมาพร้อมหน้ากัน

จากวงศ์วานโคฮาท

อุรีเอลเป็นหัวหน้าและญาติ 120 คน

จากวงศ์วานเมรารี

อาสายาห์เป็นหัวหน้าและญาติ 220 คน

จากวงศ์วานเกอร์โชน[a]

โยเอลเป็นหัวหน้าและญาติ 130 คน

จากวงศ์วานเอลีซาฟาน

เชไมอาห์เป็นหัวหน้าและญาติ 200 คน

จากวงศ์วานเฮโบรน

เอลีเอลเป็นหัวหน้าและญาติ 80 คน

10 จากวงศ์วานอุสซีเอล

อัมมีนาดับเป็นหัวหน้าและญาติ 112 คน

11 แล้วดาวิดทรงบัญชาให้ปุโรหิตทั้งสองคือ ศาโดกกับอาบียาธาร์ และคนเลวีได้แก่ อุรีเอล อาสายาห์ โยเอล เชไมอาห์ เอลีเอล และอัมมีนาดับมาเข้าเฝ้า 12 แล้วตรัสว่า “ท่านทั้งหลายเป็นหัวหน้าตระกูลต่างๆ ของเลวี ท่านและพวกพ้องชาวเลวีจงชำระตนให้บริสุทธิ์และนำหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลมายังสถานที่ซึ่งเราได้จัดเตรียมไว้ 13 ครั้งก่อนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงพระพิโรธพวกเรา เพราะพวกท่านซึ่งเป็นคนเลวีไม่ได้เป็นผู้อัญเชิญหีบพันธสัญญา เราไม่ได้ทูลถามพระองค์ถึงวิธีการที่จะนำหีบมาตามที่ทรงกำหนดไว้” 14 ฉะนั้นเหล่าปุโรหิตและคนเลวีจึงชำระตนเพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล 15 จากนั้นคนเลวีได้ยกหีบพันธสัญญาของพระเจ้าขึ้นบ่าโดยใช้คานหาม ตามที่โมเสสได้สั่งไว้ตามพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า

16 ดาวิดตรัสสั่งบรรดาหัวหน้าของคนเลวีให้แต่งตั้งพี่น้องเป็นนักร้อง เพื่อขับร้องบทเพลงรื่นเริงยินดีคลอเสียงเครื่องดนตรีต่างๆ ได้แก่ พิณใหญ่ พิณเขาคู่ และฉาบ

17 ชนเลวีจึงแต่งตั้งเฮมานบุตรโยเอล แต่งตั้งอาสาฟบุตรเบเรคิยาห์จากหมู่พี่น้องของเขา และแต่งตั้งเอธานบุตรคูชายาห์จากพี่น้องตระกูลเมรารี 18 พี่น้องที่เป็นผู้ช่วยรองลงมาได้แก่ เศคาริยาห์[b] ยาอาซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ เบไนยาห์ มาอาเสอาห์ มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอล[c]ยามเฝ้าประตู

19 นักดนตรีคือเฮมาน อาสาฟ และเอธานเป็นผู้ตีฉาบทองสัมฤทธิ์ 20 เศคาริยาห์ เอซีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล อุนนี เอลีอับ มาอาเสอาห์ และเบไนยาห์เล่นพิณใหญ่คลอตามทำนองอาลาโมท 21 มัททีธิยาห์ เอลีเฟเลหุ มิกเนยาห์ โอเบดเอโดม เยอีเอล และอาซาซิยาห์ เล่นพิณเขาคู่คลอตามทำนองเชมินิท 22 เคนานิยาห์หัวหน้าของคนเลวีรับผิดชอบดูแลการขับร้องเพราะเขาเชี่ยวชาญมาก

23 เบเรคิยาห์และเอลคานาห์เป็นยามประตูเฝ้าหีบพันธสัญญา 24 เชบานิยาห์ โยชาฟัท เนธันเอล อามาสัย เศคาริยาห์ เบไนยาห์ และเอลีเอเซอร์ ล้วนเป็นปุโรหิตผู้เป่าแตรนำหน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า โอเบดเอโดมกับเยฮียาห์ก็เป็นยามประตูเฝ้าหีบพันธสัญญาด้วย

25 ดาวิดและบรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอลและนายทัพนายกองจึงไปอัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาจากบ้านของโอเบดเอโดมด้วยความชื่นชมยินดี 26 เพราะพระเจ้าทรงช่วยคนเลวีที่หามหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า เขาทั้งปวงจึงถวายวัวผู้เจ็ดตัวและแกะผู้เจ็ดตัว 27 ดาวิดพร้อมทั้งคนเลวีทั้งหมดที่อัญเชิญหีบพันธสัญญา คณะนักร้อง และเคนานิยาห์ผู้รับผิดชอบคณะนักร้องต่างก็สวมชุดผ้าลินิน ดาวิดทรงสวมเอโฟดลินินด้วย 28 เป็นอันว่าปวงชนอิสราเอลได้อัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามายังกรุงเยรูซาเล็มท่ามกลางเสียงโห่ร้องชื่นชมยินดี เสียงเป่าเขาแกะและแตร เสียงฉาบ เสียงพิณใหญ่และพิณเขาคู่

29 ขณะที่หีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่เมืองดาวิด มีคาลราชธิดาของซาอูลมองจากหน้าต่าง เห็นกษัตริย์ดาวิดทรงร่ายรำและเฉลิมฉลองก็นึกดูแคลนอยู่ในใจ

16 พวกเขาอัญเชิญหีบพันธสัญญาของพระเจ้ามาตั้งไว้ในพลับพลาซึ่งดาวิดทรงจัดเตรียมไว้ และถวายเครื่องเผาบูชากับเครื่องสันติบูชาต่อหน้าพระเจ้า หลังจากที่ถวายเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาเสร็จแล้ว ดาวิดก็ทรงอวยพรประชาชนในพระนามของพระยาห์เวห์ และประทานขนมปัง อินทผลัมอัด และขนมลูกเกดอย่างละหนึ่งก้อนแก่อิสราเอลทุกคนทั้งชายและหญิง

ดาวิดทรงแต่งตั้งคนเลวีบางคนให้ปฏิบัติงานอยู่หน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยการทูลขอ ขอบพระคุณ และถวายคำสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลได้แก่ อาสาฟเป็นหัวหน้า รองลงมาคือเศคาริยาห์ คนอื่นๆ ได้แก่ เยอีเอล เชมิราโมท เยฮีเอล มัททีธิยาห์ เอลีอับ เบไนยาห์ โอเบดเอโดม และเยอีเอล คนเหล่านี้เล่นพิณใหญ่และพิณเขาคู่ อาสาฟเป็นผู้ตีฉาบ ปุโรหิตเบไนยาห์และยาฮาซีเอลเป่าแตรเป็นประจำหน้าหีบพันธสัญญาของพระเจ้า

บทสดุดีขอบพระคุณของดาวิด(B)

ในวันนั้นดาวิดทรงมอบบทสดุดีขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้าให้อาสาฟกับผู้ช่วยของเขาเป็นครั้งแรกดังนี้ว่า

จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า และร้องทูลออกพระนามของพระองค์
ให้ประชาชาติทั้งหลายได้รู้ถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำ
จงร้องเพลงถวายพระองค์ ร้องสรรเสริญถวายพระองค์
บอกถึงพระราชกิจอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์
10 จงเทิดทูนพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
ให้จิตใจของผู้ที่แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าชื่นชมยินดี
11 จงหมายพึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพลังอำนาจของพระองค์
จงแสวงหาพระพักตร์พระองค์เสมอ

12 จงระลึกถึงปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงกระทำ
ถึงการอัศจรรย์และคำพิพากษาที่พระองค์ทรงประกาศ
13 วงศ์วานอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์เอ๋ย
ลูกหลานของยาโคบที่ทรงเลือกสรรเอ๋ย
14 พระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
การพิพากษาของพระองค์อยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลก

15 พระองค์ทรงระลึกถึง[d]พันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาล
ทรงระลึกถึงพระดำรัสที่ทรงบัญชาไว้ตลอดพันชั่วอายุคน
16 พันธสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับอับราฮัม
คำปฏิญาณที่พระองค์ทรงสัญญากับอิสอัค
17 พระองค์ทรงยืนยันต่อยาโคบเป็นกฎเกณฑ์
ต่ออิสราเอลเป็นพันธสัญญานิรันดร์
18 “เราจะยกดินแดนคานาอันให้เจ้า
ให้เป็นมรดกของเจ้าทั้งหลาย”

19 เมื่ออิสราเอลยังมีจำนวนน้อยนัก
น้อยเหลือเกิน และเป็นเพียงคนแปลกหน้าในดินแดนนั้น
20 พวกเขา[e]ระเหเร่ร่อนจากชนชาติหนึ่งไปอีกชนชาติหนึ่ง
จากอาณาจักรหนึ่งไปอีกอาณาจักรหนึ่ง
21 พระองค์ไม่ทรงยอมให้ใครข่มเหงรังแกเขา
เพราะเห็นแก่เขา พระองค์ทรงกำราบกษัตริย์ทั้งหลาย
22 “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมตั้งไว้
อย่าทำอันตรายใดๆ แก่เหล่าผู้เผยพระวจนะของเรา”

23 ทั่วทั้งโลกจงร้องเพลงถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า
จงประกาศความรอดของพระองค์ทุกๆ วัน
24 จงประกาศพระเกียรติสิริของพระองค์ท่ามกลางประชาชาติทั้งหลาย
ประกาศพระราชกิจล้ำเลิศของพระองค์ท่ามกลางชนชาติทั้งมวล

25 เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงยิ่งใหญ่นัก และควรแก่การสรรเสริญเป็นที่สุด
พระองค์ทรงเป็นที่เคารพยำเกรงเหนือพระทั้งปวง
26 เพราะพระของชนชาติต่างๆ เป็นเพียงรูปเคารพ
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์
27 สง่าราศีและพระบารมีอยู่ต่อหน้าพระองค์
พระเดชานุภาพและความปีติยินดีอยู่ในที่ประทับของพระองค์

28 ทุกครอบครัวในชนชาติทั้งหลายเอ๋ย จงเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด
จงเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าถึงพระเกียรติสิริและพระเดชานุภาพของพระองค์
29 จงเทิดทูนองค์พระผู้เป็นเจ้าตามพระเกียรติสิริที่ควรแก่พระนามของพระองค์
จงนำเครื่องบูชามาต่อหน้าพระองค์
จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าใน[f]สง่าราศีแห่งความบริสุทธิ์ของพระองค์
30 โลกทั้งโลกจงสั่นสะท้านต่อหน้าพระองค์
โลกได้รับการสถาปนาไว้อย่างมั่นคง จะไม่มีวันคลอนแคลน

31 ฟ้าสวรรค์จงชื่นชมยินดี แผ่นดินโลกจงเปรมปรีดิ์
ให้ประชาชาติทั้งหลายกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครอง!”
32 ท้องทะเลและสรรพสิ่งในนั้นจงแซ่ซ้องกังวาน
ท้องทุ่งและทุกสิ่งในนั้นจงร่าเริง
33 แล้วต้นไม้ในป่าจะร้องเพลง
พวกมันจะร้องเพลงอย่างชื่นบานต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า
เพราะพระองค์เสด็จมาเพื่อพิพากษาแผ่นดินโลก

34 จงขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงแสนดี
ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
35 จงร้องทูลพระองค์ว่า “ข้าแต่พระเจ้า องค์พระผู้ช่วยให้รอด ขอทรงช่วยข้าพระองค์ทั้งหลายให้รอด
ขอทรงรวบรวมและกอบกู้ข้าพระองค์ทั้งหลายจากชนชาติต่างๆ
เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะขอบพระคุณพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
เพื่อข้าพระองค์ทั้งหลายจะยกย่องสรรเสริญพระองค์”
36 ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
จากนิรันดร์กาลจวบจนนิรันดร์กาล

แล้วให้ปวงประชากรจงกล่าวว่า “อาเมน” และ “สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า”

37 ดาวิดทรงมอบหมายให้อาสาฟและคณะปฏิบัติหน้าที่อย่างสม่ำเสมอที่หน้าหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยจัดการทุกอย่างให้ครบถ้วนตามข้อกำหนดทุกวัน 38 และให้โอเบดเอโดม และเพื่อนร่วมงาน 68 คนร่วมปรนนิบัติด้วย โอเบดเอโดมบุตรเยดูธูนและโฮสาห์เป็นยามเฝ้าประตู

39 ดาวิดทรงให้ปุโรหิตศาโดกและปุโรหิตคนอื่นๆ ซึ่งรับใช้ร่วมกันกับเขาประจำอยู่ที่พลับพลาขององค์พระผู้เป็นเจ้าบนสถานบูชาบนที่สูงในกิเบโอน 40 เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาบนแท่นบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ทุกเช้าทุกเย็นตามที่บันทึกไว้ในบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ประทานแก่อิสราเอล 41 และให้เฮมาน เยดูธูน กับคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ได้รับเลือกและระบุชื่อไว้เป็นผู้ถวายคำขอบพระคุณแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์” 42 เฮมานกับเยดูธูนรับผิดชอบการเป่าแตร ตีฉาบ และบรรเลงเครื่องดนตรีต่างๆ คลอไปกับบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ บุตรทั้งหลายของเยดูธูนประจำอยู่ที่ประตู

43 จากนั้นประชาชนทั้งหมดก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนดาวิดเสด็จกลับพระราชวังไปอวยพรเชื้อพระวงศ์

คำสัญญาของพระเจ้าต่อดาวิด(C)

17 หลังจากดาวิดเข้าประทับในพระราชวังแล้ว พระองค์ตรัสกับผู้เผยพระวจนะนาธันว่า “ดูเถิด เราอยู่ในวังไม้สนซีดาร์ ในขณะที่หีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่ในเต็นท์”

นาธันทูลตอบว่า “ขอทรงทำตามพระดำริของฝ่าพระบาทเถิด เพราะพระเจ้าสถิตกับฝ่าพระบาท”

ในคืนนั้นมีพระดำรัสของพระเจ้ามาถึงนาธันความว่า

“จงไปบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า เจ้าไม่ใช่ผู้ที่จะสร้างวิหารให้เราอยู่ เราไม่เคยอยู่ในวิหารเลย นับตั้งแต่เรานำอิสราเอลออกมาจากอียิปต์จวบจนทุกวันนี้ เราไปมากับเต็นท์ตลอด ไม่ว่าย้ายไปที่ไหน ไม่ว่าเราไปที่ไหนกับปวงชนอิสราเอล เราเคยออกปากกับผู้นำ[g]คนใดซึ่งเราสั่งให้เลี้ยงดูประชากรของเราหรือว่า “ทำไมไม่สร้างวิหารด้วยไม้สนซีดาร์ให้เรา?”’

“บัดนี้จงบอกดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ตรัสว่า เราพาเจ้าออกมาจากทุ่งหญ้า จากการต้อนฝูงแกะมาปกครองอิสราเอลประชากรของเรา เราอยู่กับเจ้าไม่ว่าเจ้าไปที่ไหนและเราทำลายศัตรูทั้งปวงของเจ้าออกไปให้พ้นหน้าเจ้า บัดนี้เราจะทำให้นามของเจ้าเลื่องลือไปเหมือนนามบุคคลสำคัญทั้งหลายของโลก และเราจัดเตรียมที่แห่งหนึ่งให้อิสราเอลประชากรของเราตั้งรกราก เพื่อเขาจะมีบ้านเรือนเป็นของตนเองและไม่ต้องถูกรบกวนอีก คนชั่วจะไม่มาข่มเหงรังแกพวกเขาอย่างที่เคยทำอีกต่อไป 10 และเป็นอย่างนั้นเรื่อยมานับตั้งแต่เราได้ตั้งผู้นำทั้งหลายปกครองอิสราเอลประชากรของเรา เราจะปราบศัตรูทั้งปวงของเจ้าด้วย

“ ‘เราขอประกาศว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะสถาปนาวงศ์วานสำหรับเจ้า 11 เมื่อเจ้าหมดอายุขัยและล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้าแล้ว เราจะตั้งบุตรชายคนหนึ่งของเจ้าขึ้นครองราชย์ต่อจากเจ้า เป็นบุตรคนหนึ่งของเจ้าเอง และเราจะสถาปนาอาณาจักรของเขา 12 เขาเป็นผู้ที่จะสร้างวิหารให้เรา และเราจะสถาปนาบัลลังก์ของเขาตลอดกาล 13 เราจะเป็นบิดาของเขาและเขาจะเป็นบุตรของเรา เราจะไม่ริบความรักมั่นคงของเราไปจากเขา เหมือนที่เราริบจากผู้ที่ปกครองก่อนหน้าเจ้า 14 เราจะตั้งเขาไว้ในนิเวศและอาณาจักรของเราตลอดไป เราจะสถาปนาบัลลังก์ของเขาไว้ตลอดนิรันดร์’ ”

15 นาธันจึงกราบทูลพระดำรัสทั้งสิ้นที่ทรงเปิดเผยนี้ให้ดาวิดทราบ

คำอธิษฐานของดาวิด(D)

16 จากนั้นกษัตริย์ดาวิดจึงเสด็จเข้าไปประทับนั่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า และทูลว่า

“ข้าแต่พระเจ้าพระยาห์เวห์ ข้าพระองค์เป็นผู้ใดเล่า วงศ์ตระกูลของข้าพระองค์เป็นใครหนอ พระองค์จึงทรงนำข้าพระองค์มาถึงเพียงนี้? 17 และไม่เพียงเท่านี้ ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ยังตรัสถึงอนาคตของวงศ์วานผู้รับใช้ของพระองค์ พระองค์ทรงทอดพระเนตรข้าพระองค์ราวกับว่าเป็นผู้มีเกียรติสูงส่ง ข้าแต่พระเจ้าพระยาห์เวห์

18 “ดาวิดจะกราบทูลอะไรมากไปกว่านี้ได้ที่ทรงให้เกียรติผู้รับใช้ของพระองค์ถึงเพียงนี้? เพราะพระองค์ทรงรู้จักผู้รับใช้ของพระองค์ 19 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ และประทานคำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ เพราะเห็นแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ และตามพระประสงค์ของพระองค์

20 “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า เท่าที่ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ยินมากับหู ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ 21 และมีชนชาติใดเล่าทั่วพิภพที่เสมอเหมือนอิสราเอลประชากรของพระองค์ ซึ่งพระเจ้าของเขาเสด็จมาไถ่ประชากรเพื่อพระองค์เอง และเพื่อนำเกียรติยศมาสู่พระนามของพระองค์ และทรงกระทำการอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม โดยขับไล่ประชาชาติต่างๆออกไปให้พ้นหน้าประชากรของพระองค์ซึ่งพระองค์ทรงไถ่ออกจากอียิปต์ 22 พระองค์ทรงให้อิสราเอลประชากรของพระองค์เป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์เองตลอดนิรันดร์ และข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของพวกเขา

23 “และบัดนี้ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้คำมั่นสัญญาที่ทรงให้ไว้เกี่ยวกับผู้รับใช้และวงศ์วานนั้นได้รับการสถาปนาไว้ตลอดนิรันดร์ ขอทรงกระทำตามพระสัญญา 24 เพื่อการนั้นจะตั้งมั่นอยู่และเพื่อพระนามของพระองค์จะยิ่งใหญ่นิรันดร์ แล้วคนทั้งหลายจะกล่าวว่า ‘พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ พระเจ้าเหนืออิสราเอล ทรงเป็นพระเจ้าของอิสราเอล’ และวงศ์วานดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์จะได้รับการสถาปนาไว้ต่อหน้าพระองค์

25 “ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเปิดเผยแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ว่าจะทรงสถาปนาวงศ์วานเพื่อเขา ดังนั้นผู้รับใช้ของพระองค์จึงกล้าทูลอธิษฐานเช่นนี้ 26 ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า! พระองค์ทรงสัญญาจะประทานสิ่งดีเหล่านี้ให้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์ 27 บัดนี้พระองค์ทรงพอพระทัยที่จะอวยพรวงศ์วานของผู้รับใช้ของพระองค์ให้ยืนยงตลอดไปในสายพระเนตรของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะพระองค์ทรงอวยพรวงศ์วานของข้าพระองค์แล้ว และพวกเขาจะได้รับพระพรของพระองค์สืบไปนิรันดร์”

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.