Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
อพยพ 30-32

แท่นบูชาเผาเครื่องหอม

30 เจ้าจงสร้างแท่นบูชาด้วยไม้สีเสียดสำหรับเผาเครื่องหอม เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างยาวเท่ากันคือ 1 ศอก สูง 2 ศอก เชิงงอนที่มุมแท่นทำจากไม้ชิ้นเดียวกับแท่น เจ้าจงหุ้มแท่นด้วยทองคำบริสุทธิ์ ทั้งด้านบนและด้านข้างโดยรอบ รวมทั้งที่เชิงงอน และเจ้าจงหล่อขอบทองคำรอบแท่น รวมทั้งตีห่วงทองคำ 2 อันติดไว้ที่ใต้ขอบ ให้ห่วงทั้ง 2 อันอยู่ตรงข้ามกัน ใช้สำหรับคล้องไม้คานหาม เจ้าจงสร้างคานหามด้วยไม้สีเสียดหุ้มด้วยทองคำ ตั้งไว้ภายนอกม่านกั้นซึ่งแขวนอยู่ที่หน้าหีบพันธสัญญา คือเบื้องหน้าฝาหีบแห่งการชดใช้บาปที่ปิดบนหีบพันธสัญญาอันเป็นที่ซึ่งเราจะพบกับเจ้า

และอาโรนจะเผาเครื่องหอมที่บนแท่นนั้น ทุกเช้าเวลาเขาขัดเงาดวงประทีป เขาจะเผาเครื่องหอม และเวลาอาโรนจุดดวงประทีปในยามโพล้เพล้ เขาจะเผาเครื่องหอม เป็นเครื่องหอม ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าเสมอไป ตลอดทุกชาติพันธุ์ของเจ้า ที่แท่นบูชานี้ เจ้าอย่าถวายเครื่องหอมที่ต้องห้าม หรือสัตว์ที่จะเผาเป็นของถวาย แม้แต่เครื่องธัญญบูชา และอย่าเทเครื่องดื่มบูชาที่บนแท่นเช่นกัน 10 อาโรนจะลบล้างมลทินที่เชิงงอนของแท่นบูชาปีละครั้ง ให้เขาทำพิธีลบล้างมลทินด้วยเลือดจากเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปปีละครั้งตลอดทุกชาติพันธุ์ของเจ้า แท่นนี้จะบริสุทธิ์ที่สุดสำหรับพระผู้เป็นเจ้า

เงินถวายสำหรับสถานที่บริสุทธิ์

11 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 12 “เวลาเจ้าสำรวจสำมะโนประชากรของชาวอิสราเอล แต่ละคนต้องมอบค่าไถ่สำหรับตนเองแด่พระผู้เป็นเจ้าเวลาที่เจ้านับจำนวนพวกเขา เพื่อป้องกันมิให้ภัยพิบัติเกิดกับเขาเวลาเจ้านับจำนวน 13 ทุกคนที่ลงทะเบียนสำมะโนครัวแล้วจะต้องมอบเงินหนักครึ่งเชเขล ตามมาตราเชเขลของสถานที่บริสุทธิ์ (1 เชเขล หนัก 20 เก-ราห์) ครึ่งเชเขลนี้เป็นเงินถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า 14 คนที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปและถูกนับในการจดทะเบียนสำมะโนประชากรต้องมอบเงินถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า 15 ยามที่เจ้ามอบเงินถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าถือเป็นพิธีชดใช้บาปของตนเอง ดังนั้นคนมั่งมีและคนยากไร้ไม่ต้องจ่ายเกินหรือน้อยไปกว่าครึ่งเชเขลที่กำหนด 16 เจ้าจงเก็บเงินสำหรับพิธีชดใช้บาปจากประชาชนชาวอิสราเอล และกำหนดให้ใช้จ่ายในการรับใช้ในกระโจมที่นัดหมาย เพื่อพระผู้เป็นเจ้าจะได้รำลึกถึงประชาชนชาวอิสราเอลที่ทำพิธีชดใช้บาปให้แก่ตนเอง”

อ่างชำระล้าง

17 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 18 “เจ้าจงหล่ออ่างสำหรับชำระล้างพร้อมฐานด้วยทองสัมฤทธิ์ และวางไว้ระหว่างกระโจมที่นัดหมายกับแท่นบูชา บรรจุน้ำไว้ในอ่าง 19 อาโรนและบรรดาบุตรของเขาจะใช้น้ำในอ่างล้างมือและเท้า 20 เวลาพวกเขาเข้าไปในกระโจมที่นัดหมาย หรือเวลาเข้ามาใกล้แท่นบูชาเพื่อรับใช้ และเผาของถวายด้วยไฟมอบแด่พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะชำระตัวด้วยน้ำ จะได้ไม่ตาย 21 เขาจะล้างมือและเท้า จะได้ไม่ตาย และจงถือเป็นกฎเกณฑ์สำหรับพวกเขาตลอดไป รวมทั้งตัวเขาเองและผู้สืบเชื้อสายของเขาตลอดทุกชาติพันธุ์ของพวกเขา”

น้ำมันเจิม

22 นอกจากนั้นแล้ว พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 23 “จงเอาเครื่องเทศชั้นเยี่ยมคือ มดยอบน้ำหนัก 500 เชเขล อบเชยหอมครึ่งหนึ่งคือ 250 เชเขล และอ้อหอม 250 เชเขล 24 การบูร 500 เชเขล ตามมาตราเชเขลของสถานที่บริสุทธิ์ และน้ำมันมะกอก 1 ฮิน 25 ผสมเข้าด้วยกันเป็นน้ำมันเจิมอันบริสุทธิ์ เป็นเช่นน้ำหอมปรุงโดยช่างทำน้ำหอม คือเป็นน้ำมันเจิมอันบริสุทธิ์ 26 จงใช้เจิมกระโจมที่นัดหมายและหีบพันธสัญญา 27 โต๊ะกับเครื่องตั้งโต๊ะ คันประทีปและเครื่องใช้ประกอบ อีกทั้งแท่นเผาเครื่องหอม 28 และแท่นบูชาที่ใช้เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวายพร้อมกับเครื่องใช้ประกอบทุกชิ้น รวมทั้งอ่างกับฐาน 29 เจ้าจงทำให้สิ่งเหล่านี้บริสุทธิ์ คือบริสุทธิ์โดยบริบูรณ์ อะไรก็ตามที่สัมผัสก็ย่อมจะบริสุทธิ์ไปด้วย 30 แล้วเจ้าจงเจิมอาโรนและบรรดาบุตรของเขา ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์เพื่อรับใช้เราเช่นปุโรหิต 31 จงกล่าวแก่ประชาชนชาวอิสราเอลดังนี้ ‘น้ำมันนี้จะเป็นน้ำมันเจิมอันบริสุทธิ์ของเราตลอดทุกชาติพันธุ์ของเจ้า 32 อย่าใช้เจิมกายคนสามัญ และเจ้าอย่าทำน้ำมันอื่นโดยใช้ส่วนผสมอย่างเดียวกันนี้ นี่เป็นน้ำมันบริสุทธิ์ และจะบริสุทธิ์สำหรับพวกเจ้า 33 ใครก็ตามที่ทำตามส่วนผสมอย่างนี้หรือเจิมน้ำมันนี้ให้กับคนอื่นๆ จะถูกตัดขาดจากชนชาติของเขา’”

เครื่องหอม

34 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงเอาเครื่องเทศหอม คือยางไม้สโทแร็คซ์ แก่นในของหอยทะเลกาบ และมหาหิงค์ เป็นเครื่องเทศหอมผสมกับกำยานบริสุทธิ์ ให้ได้ส่วนผสมอย่างละเท่าๆ กัน 35 ผสมเข้าด้วยกันเป็นเครื่องหอมจากน้ำหอมปรุงโดยช่างทำน้ำหอม เติมเกลือ ทำให้แท้และบริสุทธิ์ 36 จงบดส่วนหนึ่งให้เป็นผงละเอียด แล้ววางไว้ข้างหน้าหีบพันธสัญญาในกระโจมที่นัดหมายซึ่งเป็นที่ที่เราจะพบกับเจ้า เครื่องหอมนี้จะบริสุทธิ์อย่างที่สุดสำหรับพวกเจ้า 37 เครื่องหอมที่เจ้าผสมตามส่วนผสมที่ให้นี้ อย่าทำไว้ให้พวกเจ้าใช้เอง เจ้าจงนับว่าเครื่องหอมนี้บริสุทธิ์สำหรับพระผู้เป็นเจ้า 38 ถ้าผู้ใดปรุงน้ำหอมใช้ตามส่วนผสมนี้จะถูกตัดขาดจากชนชาติของเขา”

ช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ

31 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ดูสิ เราได้เลือกเบซาเลลบุตรอุรีซึ่งเป็นบุตรของฮูร์จากเผ่ายูดาห์ และเราได้ให้เขาเปี่ยมด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า ให้มีความสามารถและความฉลาด มีความรู้และงานฝีมือช่างทุกชนิด เพื่อทำงานออกแบบอย่างมีศิลปะ ซึ่งทำด้วยทองคำ เงิน และทองสัมฤทธิ์ งานเจียระไนเพชรนิลจินดาสำหรับฝังตัวเรือน งานแกะสลักไม้ และงานฝีมือช่างทุกชนิด ดูเถิด เราได้แต่งตั้งให้โอโฮลีอับบุตรอาหิสะมัคจากเผ่าดาน และเราได้ให้บรรดาผู้เชี่ยวชาญมีความสามารถ เพื่อเขาจะได้ทำทุกสิ่งตามที่เราสั่งเจ้าไว้ คือกระโจมที่นัดหมาย หีบพันธสัญญากับฝาหีบแห่งการชดใช้บาป เครื่องใช้ทั้งหมดในกระโจม เช่นโต๊ะกับเครื่องตั้งโต๊ะ คันประทีปทองคำบริสุทธิ์กับเครื่องใช้ประกอบทุกชิ้น และแท่นเผาเครื่องหอม แท่นบูชาที่ใช้เผาสัตว์เพื่อเป็นของถวายพร้อมกับเครื่องใช้ประกอบทุกชิ้น รวมทั้งอ่างกับฐาน 10 เครื่องแต่งกายเย็บด้วยฝีมือประณีต เครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์สำหรับอาโรนปุโรหิต และเครื่องแต่งกายสำหรับบุตรของเขา เพื่อให้พวกเขารับใช้เป็นปุโรหิต 11 ใช้น้ำมันเจิมและเครื่องหอมสำหรับวิสุทธิสถาน พวกเขาควรทำตามที่เราบัญชาเจ้าไว้ทุกประการ”

วันสะบาโต

12 แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า 13 “จงบอกชาวอิสราเอลดังนี้ ‘พวกเจ้าจงรักษาวันสะบาโตของเราไว้ เพราะเป็นเครื่องเตือนใจระหว่างเรากับพวกเจ้าไปตลอดทุกชาติพันธุ์ของเจ้า เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่าเราคือพระผู้เป็นเจ้าที่ทำให้เจ้าบริสุทธิ์

14 พวกเจ้าจงรักษาวันสะบาโตไว้ เพราะเป็นวันบริสุทธิ์สำหรับเจ้า ทุกคนที่ไม่เคารพก็จะถูกลงโทษถึงตาย ผู้ใดก็ตามที่ทำงานในวันนั้น ผู้นั้นจะถูกตัดขาดจากชนชาติของเขา 15 เจ้ามีวันทำงาน 6 วัน แต่ในวันที่เจ็ดเป็นวันสะบาโตเพื่อพักผ่อนอย่างแท้จริง เป็นวันบริสุทธิ์สำหรับพระผู้เป็นเจ้า ผู้ใดก็ตามที่ทำงานในวันสะบาโตจะถูกลงโทษถึงตาย 16 ฉะนั้น ชาวอิสราเอลจะรักษาวันสะบาโต ฉลองวันสะบาโตตลอดทุกชาติพันธุ์ของเขา เป็นเช่นพันธสัญญาตลอดไป 17 เป็นเครื่องเตือนใจชั่วนิรันดร์กาลระหว่างเรากับชาวอิสราเอลว่าพระผู้เป็นเจ้าได้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกใน 6 วัน และในวันที่เจ็ดพระองค์หยุดพักจากการทำงาน และได้พักผ่อน’”

18 ครั้นพระองค์กล่าวกับโมเสสที่ภูเขาซีนายจบแล้ว พระองค์มอบแผ่นพระบัญญัติ 2 แผ่นเป็นแผ่นศิลาซึ่งจารึกด้วยนิ้วมือของพระเจ้าเอง

ลูกโคทองคำ

32 เมื่อประชาชนเห็นว่าโมเสสยังล่าช้าอยู่และไม่ลงมาจากภูเขา จึงรวมกลุ่มกันไปหาอาโรนและบอกท่านว่า “ลุกขึ้นเถิด ช่วยสร้างเทวรูปให้เราเพื่อนำหน้าพวกเราไปเถิด ไม่รู้ว่าโมเสสคนที่ได้นำเราออกมาจากอียิปต์เป็นอะไรไปแล้ว”

อาโรนตอบพวกเขาว่า “ไปปลดต่างหูทองคำออกจากหูภรรยาและบุตรชายบุตรหญิงของพวกเจ้าเสีย แล้วเอามาให้เรา” ดังนั้นประชาชนทั้งหมดต่างก็ปลดต่างหูทองคำออกจากหูของตนมาให้อาโรน ท่านรับของจากทุกคนที่ยื่นให้ แล้วใช้เครื่องมือตีทองเข้าด้วยกัน แล้วหล่อเป็นรูปลูกโค พวกเขาพูดว่า “โอ อิสราเอล นี่คือบรรดาเทพเจ้าของเจ้าที่นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์” ครั้นอาโรนเห็นเช่นนั้นจึงสร้างแท่นบูชาไว้ตรงหน้ารูปลูกโค และประกาศว่า “จะมีงานฉลองแด่พระผู้เป็นเจ้าในวันพรุ่งนี้” ประชาชนลุกขึ้นแต่เช้าตรู่และนำสัตว์มาให้เผาเป็นของถวาย และมอบของถวายเพื่อสามัคคีธรรม ผู้คนนั่งลงดื่มกินแล้วลุกขึ้นเฮฮากัน

แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “จงลงไป เพราะประชาชนของเจ้าที่เจ้าได้นำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์เสื่อมทรามไปแล้ว พวกเขาหันหลังให้กับวิถีทางที่เราสั่งให้ปฏิบัติอย่างรวดเร็ว เขาหล่อรูปลูกโคขึ้นตัวหนึ่งให้พวกเขาเอง แล้วยังนมัสการและถวายเครื่องสักการะแก่ลูกโค พวกเขาพูดว่า ‘โอ อิสราเอล นี่คือบรรดาเทพเจ้าของเจ้าที่นำเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์’” แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “เราเห็นคนพวกนี้แล้ว ดูเถิด เป็นคนหัวรั้น 10 ฉะนั้น คราวนี้ปล่อยให้เป็นเรื่องของเรา ความกริ้วของเราจะพลุ่งขึ้นต่อพวกเขา และเราจำต้องกำจัดพวกเขาเสียให้สิ้น แล้วเราจะให้ประชาชาติที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นมาจากตัวเจ้า”

11 แต่โมเสสอ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านว่า “โอ พระผู้เป็นเจ้า เหตุใดความกริ้วของพระองค์จึงพลุ่งขึ้นต่อชนชาติของพระองค์ พระองค์ได้นำพวกเขาออกจากแผ่นดินอียิปต์ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่และพลานุภาพของพระองค์ 12 เหตุไฉนจะให้ชาวอียิปต์พูดได้ว่า ‘พระองค์นำชนชาติของพระองค์ออกจากแผ่นดินอียิปต์ แล้วลวงมาฆ่าเสียที่ภูเขา และเพื่อกำจัดพวกเขาไปจากแผ่นดินโลก’ ขอโปรดยับยั้งความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ และเปลี่ยนใจโดยอย่าให้สิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นกับคนของพระองค์เลย 13 ขอพระองค์รำลึกถึงคำปฏิญาณที่พระองค์เองได้ให้ไว้กับอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์ว่า ‘เราจะเพิ่มผู้สืบเชื้อสายให้แก่เจ้ามากยิ่งขึ้น มากมายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า และเราจะให้ดินแดนที่เราได้สัญญาไว้แก่บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเจ้า และพวกเขาจะได้รับเป็นมรดกไปตลอดกาล’”[a] 14 พระผู้เป็นเจ้าจึงเปลี่ยนใจ และไม่ทำให้สิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นดังที่หมายไว้ว่าจะกระทำต่อชนชาติของพระองค์

15 โมเสสกลับลงไปจากภูเขาถือแผ่นพระบัญญัติ 2 แผ่นไว้ในมือ แต่ละแผ่นมีคำเขียนทั้ง 2 ด้าน 16 แผ่นศิลาทั้งสองเป็นผลงานของพระเจ้า และข้อความจารึกเป็นงานจารึกของพระเจ้า สลักบนแผ่นศิลา 17 ครั้นโยชูวาได้ยินเสียงประชาชนร้องตะโกนจึงพูดกับโมเสสว่า “มีเสียงเหมือนเกิดสงครามที่ค่าย” 18 โมเสสตอบว่า “ไม่ใช่เสียงตะโกนของการมีชัย หรือเสียงร้องของการพ่ายแพ้ แต่เราได้ยินว่าเป็นเสียงร้องเพลง” 19 ทันทีที่โมเสสเข้าไปใกล้ค่ายก็เห็นรูปลูกโคและการเต้นรำทำเพลง โมเสสเดือดดาลมากจึงโยนแผ่นศิลาทิ้งลงกับพื้น และทำให้แผ่นศิลาแตกที่เชิงเขา 20 ท่านเอารูปลูกโคที่พวกเขาหล่อไว้มาเผาไฟ ทุบจนแหลกละเอียด โรยลงในน้ำ แล้วบังคับให้ประชาชนของอิสราเอลดื่ม

21 โมเสสพูดกับอาโรนว่า “ประชาชนพวกนี้ทำอะไรกับท่าน ท่านจึงเป็นเหตุให้พวกเขากระทำบาปมหันต์เช่นนี้” 22 อาโรนตอบว่า “ขอท่านอย่าเดือดดาลไปเลยนะ ท่านก็รู้จักคนเหล่านี้ดีว่าเขามีใจจะทำสิ่งเลวร้ายอยู่แล้ว 23 พวกเขาพูดกับเราว่า ‘ช่วยสร้างเทวรูปให้เราเพื่อนำหน้าพวกเราไปเถิด ไม่รู้ว่าโมเสสคนที่ได้นำเราออกมาจากอียิปต์เป็นอะไรไปแล้ว’ 24 เราบอกพวกเขาว่า ‘ใครมีทองคำก็ปลดออกมา’ เขาก็ให้เรามา เราจึงโยนลงไปในไฟ แล้วก็เป็นลูกโคตัวนี้ออกมา”

25 เมื่อโมเสสเห็นว่าประชาชนไม่อยู่ในระเบียบ และอาโรนปล่อยให้พวกเขากระทำตามใจชอบจนเป็นที่เย้ยเยาะของศัตรูของพวกเขา 26 โมเสสจึงยืนที่ประตูทางเข้าค่ายและพูดว่า “ใครเป็นฝ่ายพระผู้เป็นเจ้าก็มาอยู่ที่นี่” บรรดาบุตรของเผ่าเลวีก็รวมกลุ่มกันไปหาโมเสส 27 แล้วท่านบอกพวกเขาว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวว่า ‘ชายทุกคนจงสะพายดาบ ตระเวนให้ทั่วค่ายทุกประตู จงฆ่าพี่น้องของเจ้า มิตรสหาย และเพื่อนบ้านของตัวเอง’” 28 แล้วบรรดาบุตรของเลวีก็ทำตามคำของโมเสส ในวันนั้นมีคนเสียชีวิตราว 3,000 คน 29 โมเสสพูดว่า “วันนี้พวกท่านได้รับเลือกให้รับใช้พระผู้เป็นเจ้า เพราะท่านต่อต้านบุตรและพี่น้องของตน พระองค์ให้พรแก่ท่านในวันนี้”

30 วันรุ่งขึ้นโมเสสพูดกับประชาชนว่า “พวกท่านได้กระทำบาปมหันต์ บัดนี้เราจะขึ้นไปหาพระผู้เป็นเจ้า อาจจะเป็นไปได้ที่เราจะขอให้พวกท่านได้รับการอภัยโทษ” 31 ดังนั้น โมเสสกลับขึ้นไปพูดกับพระผู้เป็นเจ้าว่า “ได้โปรดเถิด ประชาชนกระทำบาปมหันต์ที่สร้างเทวรูปทองคำให้ตนเอง 32 บัดนี้ขอพระองค์ยกโทษบาปให้แก่พวกเขา หากไม่ ก็ขอโปรดลบชื่อข้าพเจ้าออกจากหนังสือที่พระองค์บันทึก” 33 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวตอบโมเสสว่า “ผู้ใดกระทำบาปต่อเรา เราจะลบชื่อคนนั้นออกจากหนังสือของเรา 34 แต่เวลานี้เจ้าจงไปเถิด นำประชาชนไปยังที่ซึ่งเราบอกเจ้าไว้แล้ว ดูเถิด ทูตสวรรค์ของเราจะไปล่วงหน้าเจ้า อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันลงโทษ เราก็จะลงโทษบาปของพวกเขา”

35 แล้วพระผู้เป็นเจ้าให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับประชาชนเหล่านั้น เพราะพวกเขานมัสการรูปลูกโคที่อาโรนหล่อขึ้นมา

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation