Previous Prev Day Next DayNext

Beginning

Read the Bible from start to finish, from Genesis to Revelation.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
2 พงศาวดาร 2-5

เตรียมการก่อสร้างพระวิหาร(A)

โซโลมอนบัญชาให้ลงมือสร้างพระวิหารเพื่อพระนามของพระยาห์เวห์ และพระราชวังของโซโลมอนเอง ทรงเกณฑ์คนมาแบกหาม 70,000 คน มาเป็นช่างสกัดหินในภูเขา 80,000 คน และเป็นผู้คุมงาน 3,600 คน

โซโลมอนส่งสาส์นไปทูลกษัตริย์ฮีราม[a]แห่งเมืองไทระว่า

“โปรดส่งซุงไม้สนซีดาร์มาให้ข้าพเจ้า เหมือนที่ท่านเคยส่งมาให้ดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าสำหรับสร้างวัง บัดนี้ข้าพเจ้ากำลังจะสร้างพระวิหารขึ้นเพื่อพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าและถวายแด่พระองค์ เพื่อเผาเครื่องหอมและถวายขนมปังเบื้องพระพักตร์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาทุกเช้าเย็นและในวันสะบาโต วันขึ้นหนึ่งค่ำ และเทศกาลตามกำหนดอื่นๆ แด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปสำหรับอิสราเอล

“พระวิหารที่ข้าพเจ้าจะสร้างขึ้นนี้ยิ่งใหญ่ เพราะพระเจ้าของเราทรงยิ่งใหญ่เหนือกว่าพระอื่นใดทั้งหมด แต่ใครเล่าสามารถสร้างที่ประทับสำหรับพระองค์ แม้ฟ้าสวรรค์สูงสุดก็ยังไม่อาจรองรับพระองค์ได้? แล้วข้าพเจ้าเป็นใครที่จะสร้างพระวิหารเพื่อพระองค์ ได้แต่สร้างสถานที่เผาเครื่องบูชาต่อหน้าพระองค์?

“ฉะนั้นโปรดส่งช่างฝีมือมาให้ข้าพเจ้าซึ่งเชี่ยวชาญงานช่างทอง เงิน ทองสัมฤทธิ์ เหล็ก และงานย้อมและทอผ้าด้วยด้ายสีม่วง สีแดง กับสีน้ำเงิน และเชี่ยวชาญงานสลักเพื่อทำงานร่วมกับช่างฝีมือผู้ชำนาญของข้าพเจ้าในยูดาห์และในกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งดาวิดราชบิดาของข้าพเจ้าเตรียมไว้

“ทั้งขอให้ท่านส่งซุงไม้สนซีดาร์ ไม้สนอื่นๆ และไม้ประดู่จากเลบานอนมาด้วย เพราะข้าพเจ้าทราบว่าคนของท่านเชี่ยวชาญในการตัดไม้ที่นั่น คนของข้าพเจ้าจะทำงานร่วมกับคนของท่าน เพื่อจะได้ซุงจำนวนมาก เพราะพระวิหารซึ่งข้าพเจ้าจะสร้างขึ้นนั้นจะต้องโอ่อ่าและงามตระการ 10 สำหรับคนงานเลื่อยไม้ซุงของท่าน ข้าพเจ้าจะให้ข้าวสาลีตำแล้วประมาณ 4,400 กิโลลิตร[b] ข้าวบาร์เลย์ประมาณ 4,400 กิโลลิตร เหล้าองุ่นประมาณ 440 กิโลลิตร[c] และน้ำมันมะกอกประมาณ 440 กิโลลิตร”

11 กษัตริย์ฮีรามแห่งเมืองไทระส่งสาส์นตอบโซโลมอนว่า

“เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักประชากรของพระองค์ จึงทรงตั้งท่านให้เป็นกษัตริย์ของพวกเขา”

12 แล้วตรัสอีกว่า

“ขอถวายสรรเสริญแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก! ทรงโปรดประทานโอรสที่มีสติปัญญา มีไหวพริบปฏิภาณ และความฉลาดหลักแหลมแก่กษัตริย์ดาวิด เพื่อสร้างพระวิหารถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและวังที่ประทับ

13 “ข้าพเจ้าได้ส่งช่างฝีมือเอกมาให้ท่านคือ หุรามอาบี 14 มารดาของเขาเป็นคนเผ่าดาน ส่วนบิดามาจากไทระ เขาได้รับการฝึกฝนให้เป็นช่างทอง เงิน ทองสัมฤทธิ์ และเหล็ก ทำงานหิน งานไม้ งานย้อมและทอผ้าด้วยด้ายสีม่วง น้ำเงิน และแดง กับผ้าลินินเนื้อดี ทั้งเชี่ยวชาญในการแกะสลักและทำตามแบบที่กำหนด เขาจะทำงานร่วมกับช่างฝีมือของท่านและบรรดาคนที่ดาวิดราชบิดาของท่านจัดไว้

15 “ขอให้ท่านส่งข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ เหล้าองุ่น และน้ำมันมะกอกมาตามที่ได้สัญญาไว้ 16 และพวกข้าพเจ้าจะตัดไม้ซุงจากเลบานอนเท่าที่ท่านต้องการ ผูกเป็นแพล่องมาทางทะเลถึงเมืองยัฟฟา แล้วท่านสามารถขนจากที่นั่นไปกรุงเยรูซาเล็มได้”

17 โซโลมอนทรงทำสำมะโนประชากรคนต่างด้าวทั้งหมดในอิสราเอลตามที่ดาวิดราชบิดาทรงเคยทำ พบว่ามีอยู่ 153,600 คน 18 ทรงกำหนดให้แบกหาม 70,000 คน ทำหน้าที่สกัดหินในภูเขา 80,000 คน และเป็นหัวหน้าคนงาน 3,600 คน

โซโลมอนทรงสร้างพระวิหาร(B)

จากนั้นโซโลมอนทรงเริ่มสร้างพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าบนภูเขาโมริยาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม ที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปรากฏแก่ดาวิดราชบิดาของโซโลมอน เดิมเป็นลานนวดข้าวของอาราวนาห์[d]ชาวเยบุสที่ดาวิดทรงเตรียมไว้ พระองค์ทรงเริ่มการก่อสร้างในวันที่สองเดือนที่สองของปีที่สี่ในรัชกาลของพระองค์

ฐานรากของพระวิหารของพระเจ้าที่โซโลมอนได้วางนั้นยาว 60 ศอก[e] กว้าง 20 ศอก[f] (โดยใช้หน่วยศอกตามมาตรฐานเดิม) มุขที่ด้านหน้าของพระวิหารยาว 20 ศอกตลอดความกว้างของพระวิหาร และสูง 20 ศอก[g]

พระองค์ทรงบุภายในด้วยทองคำบริสุทธิ์ ห้องโถงกรุด้วยไม้สนบุด้วยทองคำบริสุทธิ์ ตกแต่งด้วยลวดลายต้นอินทผลัมและโซ่ พระองค์ทรงตกแต่งพระวิหารด้วยอัญมณีล้ำค่า และทองคำที่ทรงใช้นั้นมาจากเมืองพารวายิม คาน เพดาน วงกบประตู ผนัง และประตูพระวิหาร ล้วนบุด้วยทองคำ และที่ผนังสลักลวดลายเครูบ

ส่วนที่เป็นอภิสุทธิสถาน ความกว้างได้ขนาดกับความกว้างของพระวิหารคือ 20 ศอก ภายในบุด้วยทองคำเนื้อดีหนักประมาณ 21 ตัน[h] หมุดทองคำมีน้ำหนักประมาณ 600 กรัม[i] ส่วนต่างๆ ของชั้นบนก็บุทองคำเช่นกัน

10 ในอภิสุทธิสถาน พระองค์ทรงสร้างเครูบจำลองสองตนหุ้มด้วยทองคำ 11 ช่วงกว้างทั้งหมดของปีกเครูบทั้งสองตนรวม 20 ศอก ปีกข้างหนึ่งของเครูบตัวแรกยาว 5 ศอก[j] จรดกับด้านหนึ่งของผนังห้อง ปีกอีกข้างหนึ่งซึ่งยาว 5 ศอกเช่นกันจรดกับปีกของเครูบอีกตนหนึ่ง 12 ในทำนองเดียวกัน ปีกข้างหนึ่งของเครูบตนที่สองยาว 5 ศอกจรดกับผนังอีกด้านหนึ่ง และปีกอีกข้างหนึ่งซึ่งยาว 5 ศอกเช่นกันจรดกับปีกของเครูบตนแรก 13 ปีกของเครูบเหล่านี้กางออกยาว 20 ศอก ทั้งสองตนยืนหันหน้าไปทางห้องโถง[k]

14 มีม่านทำด้วยผ้าลินินเนื้อดี ปักลวดลายเครูบ ด้วยด้ายสีน้ำเงิน ม่วง และแดง

15 ที่ด้านหน้าของพระวิหาร มีเสาหานสองต้นสูง 35 ศอก[l] มีหัวเสาขนาด 5 ศอก 16 โซโลมอนทรงให้ทำโซ่ระย้า[m]ทองคำติดไว้บนหัวเสา และมีทับทิมหนึ่งร้อยผลห้อยติดกับตาข่าย 17 พระองค์ตั้งเสาไว้ด้านหน้าของพระวิหาร เสาทางใต้ชื่อยาคีน[n] ส่วนเสาทางเหนือชื่อโบอาส[o]

เครื่องใช้ต่างๆ ในพระวิหาร(C)

โซโลมอนทรงสร้างแท่นบูชาทองสัมฤทธิ์กว้างยาวด้านละ 20 ศอก[p] สูง 10 ศอก[q] ทรงให้หล่อขันสาครทรงกลมด้วยโลหะสูง 5 ศอก[r] เส้นผ่าศูนย์กลาง 10 ศอกและเส้นรอบวง 30 ศอก[s] ใต้ขอบขันด้านนอกตกแต่งเป็นลายรูปวัวสองแถว ศอก[t]ละสิบตัว หล่อเป็นเนื้อเดียวกันกับขันสาคร

ขันสาครนี้ตั้งอยู่บนวัวทองสัมฤทธิ์สิบสองตัว หันหลังเข้าหากันตรงกลาง หันหน้าไปทางทิศเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ทิศละสามตัว ขันสาครหนาหนึ่งฝ่ามือ[u] ปากขันเหมือนขอบถ้วยซึ่งเหมือนกับดอกลิลลี่บาน จุน้ำได้ประมาณ 66 กิโลลิตร[v]

จากนั้นพระองค์สร้างอ่างสิบใบ เพื่อใส่น้ำสำหรับล้างเครื่องเผาบูชา ตั้งอยู่ทางทิศใต้และทิศเหนือด้านละห้าใบ ส่วนขันสาครมีไว้ใส่น้ำให้ปุโรหิตใช้ชำระกาย

พระองค์ทรงสร้างคันประทีปทองคำสิบคันหล่อขึ้นตามแบบที่กำหนด และตั้งไว้ในพระวิหารทางทิศใต้และทิศเหนือด้านละห้าคัน

พระองค์ยังทรงสร้างโต๊ะสิบตัว ตั้งไว้ในพระวิหารทางทิศเหนือและทิศใต้ด้านละห้าตัว และหล่ออ่างประพรมทองคำหนึ่งร้อยใบ

จากนั้นทรงสร้างลานสำหรับปุโรหิตและลานใหญ่ ประตูลานหุ้มด้วยทองสัมฤทธิ์ 10 ขันสาครนั้นตั้งอยู่ทางด้านใต้ที่มุมทิศตะวันออกเฉียงใต้

11 พระองค์ยังทรงให้ทำหม้อ ทัพพี และอ่างประพรมด้วย

ในที่สุดหุรามจึงทำงานที่กษัตริย์โซโลมอนทรงมอบหมายในพระวิหารของพระเจ้าสำเร็จครบถ้วน ได้แก่

12 เสาหานสองต้น

หัวเสารูปบัวคว่ำสองหัว

ตาข่ายประดับหัวเสาสองชุด

13 ทับทิมสี่ร้อยผล สำหรับตาข่ายสองชุด (ตาข่ายแต่ละชุดมีทับทิมสองแถวประดับอยู่บนหัวเสารูปบัวคว่ำ)

14 อ่างพร้อมแท่น

15 ขันสาครและวัวสิบสองตัวซึ่งรองรับขัน

16 หม้อ ทัพพี ขอเกี่ยวเนื้อและเครื่องใช้ไม้สอยทั้งหมด

หุรามอาบีได้ทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทั้งหมดถวายกษัตริย์โซโลมอนสำหรับพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยใช้ทองสัมฤทธิ์ขัดเงา 17 กษัตริย์ทรงให้หล่อสิ่งเหล่านี้ขึ้นด้วยเบ้าดินเหนียวในที่ราบแห่งแม่น้ำจอร์แดนระหว่างเมืองสุคคทและเมืองศาเรธาน[w] 18 โซโลมอนทรงสร้างทุกสิ่งเหล่านี้โดยใช้ทองสัมฤทธิ์จำนวนมหาศาลจนไม่ได้ชั่งไว้

19 โซโลมอนยังได้ทรงทำเครื่องใช้ทั้งปวงที่อยู่ในพระวิหารของพระเจ้า ได้แก่

แท่นบูชาทองคำ

โต๊ะสำหรับวางขนมปังเบื้องพระพักตร์

20 คันประทีปทองคำบริสุทธิ์กับตะเกียงให้ลุกโชติช่วงหน้าสถานนมัสการชั้นใน ตามที่ระบุไว้

21 ลวดลายดอกไม้ ตะเกียงและคีมทำด้วยทองคำ (จากทองคำแท่ง)

22 กรรไกรตัดไส้ตะเกียง อ่างประพรม จานชาม และกระถางไฟ ทั้งหมดทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ประตูทองคำของพระวิหารคือประตูชั้นในสู่อภิสุทธิสถานและประตูห้องโถง

เมื่องานทั้งสิ้นที่โซโลมอนทรงทำเกี่ยวกับพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โซโลมอนก็ทรงนำของถวายของกษัตริย์ดาวิดราชบิดา อันได้แก่ เงิน ทองคำ เครื่องใช้ไม้สอยทุกอย่างมาเก็บไว้ในคลังพระวิหารของพระเจ้า

อัญเชิญหีบพันธสัญญาเข้าสู่พระวิหาร(D)

จากนั้นโซโลมอนทรงเรียกบรรดาผู้อาวุโสของอิสราเอล หัวหน้าเผ่าต่างๆ และหัวหน้าครอบครัวทั้งหมดของชนอิสราเอลมาเข้าเฝ้าที่กรุงเยรูซาเล็ม เพื่ออัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาจากศิโยนเมืองดาวิด แล้วผู้ชายอิสราเอลทุกคนก็พากันมาเข้าเฝ้ากษัตริย์ในช่วงเทศกาลในเดือนที่เจ็ด

เมื่อผู้อาวุโสทั้งปวงของอิสราเอลมาถึงแล้ว คนเลวีก็ยกหีบพันธสัญญาขึ้น บรรดาปุโรหิตซึ่งเป็นคนเลวีหามหีบมา พร้อมทั้งเต็นท์นัดพบ และภาชนะเครื่องใช้อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงในนั้น กษัตริย์โซโลมอนและชุมนุมประชากรอิสราเอลทั้งปวงที่มาชุมนุมกันหน้าหีบพันธสัญญาได้ถวายแกะและวัวเป็นเครื่องบูชาจำนวนมากจนนับไม่ถ้วน

จากนั้นปุโรหิตอัญเชิญหีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้าเข้าสู่สถานนมัสการชั้นในของพระวิหารคืออภิสุทธิสถาน และตั้งไว้ใต้ปีกของเครูบ เครูบทั้งสองกางปีกเหนือที่ตั้งหีบพันธสัญญาและปกเหนือหีบกับคานหาม คานหามซึ่งยื่นออกมาจากหีบนี้ยาวมากจนมองเห็นปลายได้จากด้านหน้าของสถานนมัสการชั้นใน แต่มองไม่เห็นจากด้านนอกของวิสุทธิสถาน และคานนั้นก็ยังคงอยู่ที่นั่นจนถึงทุกวันนี้ 10 ในหีบนั้นไม่มีสิ่งใดนอกจากศิลาสองแผ่นซึ่งโมเสสได้ใส่ไว้เมื่ออยู่ที่ภูเขาโฮเรบ ที่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำพันธสัญญากับชนอิสราเอลหลังจากพวกเขาออกมาจากอียิปต์

11 ปุโรหิตทั้งหลายจึงออกมาจากวิสุทธิสถาน ปุโรหิตทั้งหมดในที่นั้นได้ชำระตนให้บริสุทธิ์แล้ว ไม่ว่าจะประจำอยู่หมู่เหล่าใด 12 คนเลวีทั้งปวงซึ่งเป็นนักดนตรีได้แก่ อาสาฟ เฮมาน เยดูธูนและบุตรกับญาติพี่น้องของพวกเขาแต่งกายด้วยผ้าลินินเนื้อดียืนอยู่ทางทิศตะวันออกของแท่นบูชา พวกเขาตีฉาบ บรรเลงพิณใหญ่และพิณเขาคู่ มีปุโรหิต 120 คนเป่าแตร 13 นักแตรและนักร้องได้ประสานกันอย่างกลมกลืนเป็นเสียงเดียวกัน ถวายสรรเสริญและขอบพระคุณองค์พระผู้เป็นเจ้า พร้อมด้วยเสียงแตร ฉาบ และเครื่องดนตรีต่างๆ พวกเขาเปล่งเสียงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้าและร้องเพลงว่า

“พระองค์ประเสริฐ
ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์”

แล้วมีเมฆมาปกคลุมทั่วพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า 14 บรรดาปุโรหิตไม่อาจปฏิบัติหน้าที่เพราะเมฆนั้น เนื่องจากพระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้าปกคลุมอยู่ทั่วทั้งพระวิหารของพระเจ้า

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.