Previous Prev Day Next DayNext

Book of Common Prayer

Daily Old and New Testament readings based on the Book of Common Prayer.
Duration: 861 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
สดุดี 84

(ถึงหัวหน้านักร้อง ทำนองกิททีธ[a] บทสดุดีของบุตรโคราห์)

84 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ที่ประทับของพระองค์งดงามยิ่งนัก!
จิตวิญญาณของข้าพระองค์โหยหา
ปรารถนาที่จะเข้ามายังพระนิเวศขององค์พระผู้เป็นเจ้า
กายใจของข้าพระองค์ร่ำร้องถวิลหาพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่
แม้แต่นกกระจอกยังหาบ้านได้
และนกนางแอ่นยังพบที่ที่จะทำรังพักพิง
และกกลูกอ่อนของมัน
คือที่ใกล้ๆ แท่นบูชาของพระองค์
ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ จอมราชัน และพระเจ้าของข้าพระองค์
ความสุขมีแก่ผู้ที่พำนักในพระนิเวศของพระองค์
พวกเขาสรรเสริญพระองค์ตลอดเวลา
เสลาห์

ความสุขมีแก่ผู้ที่กำลังของเขาอยู่ในพระองค์
ผู้ซึ่งใฝ่ใจมุ่งหน้าไปยังเยรูซาเล็ม
เมื่อเขาเดินผ่านหุบเขาแห่งน้ำตา[b]
พวกเขาทำให้มันกลายเป็นแหล่งน้ำพุ
และฝนฤดูใบไม้ร่วงก็ทำให้ที่นั่นเต็มไปด้วยแอ่งน้ำ[c]
พวกเขามีกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนแต่ละคนได้มาเข้าเฝ้าพระเจ้าในศิโยน

ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ โปรดสดับฟังคำอธิษฐานของข้าพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าของยาโคบ ขอทรงฟังเถิด
เสลาห์
ข้าแต่พระเจ้า โปรดทอดพระเนตรโล่[d]ของข้าพระองค์ทั้งหลาย
ขอทรงมองดูผู้ที่ทรงเจิมตั้งไว้ด้วยความโปรดปราน

10 วันเดียวในพระนิเวศของพระองค์
ก็ดีกว่าพันวันในที่อื่น
ข้าพเจ้าขอเป็นคนเฝ้าประตูประจำพระนิเวศของพระเจ้าของข้าพเจ้า
ดีกว่าอยู่ในเต็นท์ของเหล่าคนชั่ว
11 เพราะพระเจ้าพระยาห์เวห์ทรงเป็นดวงตะวันและโล่กำบัง
องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระคุณและเกียรติ
ไม่มีสิ่งดีอันใดที่ทรงหน่วงเหนี่ยวไว้
จากผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ที่ติ

12 ข้าแต่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ความสุขมีแก่บรรดาผู้ที่วางใจในพระองค์

1 พงศ์กษัตริย์ 19:1-12

เอลียาห์หนีไปภูเขาโฮเรบ

19 อาหับทรงเล่าทุกสิ่งที่เอลียาห์ทำให้พระนางเยเซเบลฟัง และเล่าถึงการที่เอลียาห์ประหารผู้ทำนายของพระบาอัลทั้งหมดด้วยดาบ ดังนั้นเยเซเบลจึงส่งคนมาแจ้งเอลียาห์ว่า “ขอให้พระทั้งหลายจัดการกับเราอย่างสาหัส หากภายในพรุ่งนี้เวลาเดียวกันนี้ เรายังไม่ปลิดชีวิตเจ้าเหมือนที่เจ้าทำกับคนของเรา”

เอลียาห์กลัว[a]จึงหนีเอาชีวิตรอด เขาไปยังเบเออร์เชบาในยูดาห์ และทิ้งคนรับใช้ของเขาไว้ที่นั่น ส่วนเขาเองเดินทางเข้าไปในถิ่นกันดารแต่ลำพัง รอนแรมตลอดวัน แล้วเขาพบต้นซากต้นหนึ่ง จึงนั่งลงใต้ต้นซากนั้นและอธิษฐานให้ตัวเองตายเสีย เขากล่าวว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ทนมามากพอแล้ว ขอทรงเอาชีวิตของข้าพระองค์ไปเถิด ข้าพระองค์ก็ไม่ดีไปกว่าบรรพบุรุษของข้าพระองค์” แล้วเขาก็นอนลงใต้ต้นซากและหลับไป

ทันใดนั้นมีทูตสวรรค์องค์หนึ่งมาแตะต้องตัวเขาและบอกว่า “จงลุกขึ้นและรับประทานอาหาร” เอลียาห์มองไปรอบๆ และเห็นว่ามีขนมปังผิงอยู่บนก้อนหินร้อนๆ และมีน้ำเหยือกหนึ่งอยู่ข้างศีรษะ เขาจึงรับประทานขนมปัง ดื่มน้ำ แล้วล้มตัวลงนอนอีก

ทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาอีกครั้งหนึ่ง แตะต้องตัวเขาและบอกว่า “จงลุกขึ้นและรับประทานอาหารเพราะการเดินทางครั้งนี้เกินกำลังของท่าน” เอลียาห์จึงลุกขึ้นรับประทานและดื่ม ทำให้เขามีกำลังวังชาพอที่จะเดินทางเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืนจนมาถึงโฮเรบภูเขาของพระเจ้า เขาเข้าไปพักแรมค้างคืนในถ้ำแห่งหนึ่งที่นั่น

องค์พระผู้เป็นเจ้า

แล้วพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงเขาว่า “เอลียาห์เอ๋ย เจ้าทำอะไรอยู่ที่นี่?”

10 เอลียาห์ทูลตอบว่า “ข้าพระองค์กระตือรือร้นทุ่มเททำงานเพื่อพระยาห์เวห์พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ชนอิสราเอลได้ละทิ้งพันธสัญญาของพระองค์ รื้อแท่นบูชาของพระองค์ สังหารผู้เผยพระวจนะของพระองค์ด้วยคมดาบ เหลือข้าพระองค์เพียงคนเดียว และบัดนี้พวกเขากำลังพยายามฆ่าข้าพระองค์อีกด้วย”

11 พระองค์ตรัสว่า “จงออกไปยืนต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าบนภูเขา เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้ากำลังจะเสด็จผ่าน”

แล้วมีลมพายุกล้าพัดปะทะภูเขาอย่างรุนแรง ทำให้หินแตกเป็นเสี่ยงๆ ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ประทับอยู่ในลมนั้น หลังพายุก็เกิดแผ่นดินไหว แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ประทับอยู่ในแผ่นดินไหวนั้น 12 และภายหลังแผ่นดินไหวก็เกิดไฟลุก แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ประทับอยู่ในไฟนั้น หลังจากไฟมีเสียงกระซิบอันอ่อนโยน

2 โครินธ์ 3:1-9

นี่เรากำลังจะชมตนเองอีกแล้วหรือ? หรือเราเป็นเหมือนบางคนที่ต้องการจดหมายรับรองจากท่านหรือถือจดหมายรับรองมาหาท่าน? ตัวท่านเองคือจดหมายของเรา จารึกอยู่ที่ดวงใจของเราให้ทุกคนได้รู้และได้อ่าน ท่านแสดงให้เห็นว่าท่านเป็นจดหมายจากพระคริสต์ เป็นผลจากพันธกิจของเรา ไม่ใช่เขียนด้วยหมึกแต่เขียนขึ้นด้วยพระวิญญาณของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ไม่ได้จารึกบนแผ่นศิลาแต่จารึกบนดวงใจมนุษย์

นี่คือความมั่นใจของเราโดยทางพระคริสต์เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ไม่ใช่ว่าเราเองมีความสามารถที่จะอ้างสิทธิ์ในสิ่งใด แต่ความสามารถของเรามาจากพระเจ้า พระองค์ทรงให้เรามีความสามารถที่จะเป็นพันธกรแห่งพันธสัญญาใหม่ ไม่ใช่พันธสัญญาแห่งบทบัญญัติที่จารึกไว้ แต่เป็นพันธสัญญาแห่งพระวิญญาณ เพราะบทบัญญัติประหารชีวิตแต่พระวิญญาณประทานชีวิต

รัศมีแห่งพันธสัญญาใหม่

ถ้าพันธกิจซึ่งนำความตายมา ที่จารึกด้วยตัวอักษรบนแผ่นศิลา ยังมากับรัศมี แม้รัศมีนี้จะจางหายไป แต่ก็เป็นเหตุทำให้ชนอิสราเอลไม่กล้ามองหน้าโมเสส แล้วพันธกิจแห่งพระวิญญาณจะไม่ยิ่งเปี่ยมด้วยรัศมีกว่านั้นหรือ? หากพันธกิจที่ตัดสินโทษมนุษย์ยังเปล่งรัศมี พันธกิจที่นำความชอบธรรมมาให้จะเปล่งรัศมีเจิดจ้ายิ่งกว่านั้นสักเท่าใด!

2 โครินธ์ 3:18

18 และเราทั้งหลายผู้ไม่มีผ้าคลุมหน้าล้วนใคร่ครวญ[a]พระเกียรติสิริขององค์พระผู้เป็นเจ้า เรากำลังรับการเปลี่ยนแปลงให้เป็นเหมือนพระองค์ด้วยรัศมีที่เพิ่มพูนขึ้นทุกที อันเป็นรัศมีซึ่งมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นพระวิญญาณ

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.