Add parallel Print Page Options

พระเยซูทำนายถึงความตายของพระองค์

(มธ. 16:21-28; ลก. 9:22-27)

31 แล้วพระเยซูเริ่มสอนให้พวกเขารู้ว่า “บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายอย่าง พวกผู้นำชาวยิว พวกหัวหน้านักบวช และพวกครูสอนกฎปฏิบัติจะไม่ยอมรับเขา และเขาจะต้องถูกฆ่า แต่เขาจะฟื้นขึ้นมาอีกในวันที่สาม” 32 พระองค์เล่าเรื่องนี้ให้พวกเขาฟังอย่างชัดเจน เปโตรจึงดึงพระองค์ไปข้างๆแล้วต่อว่าพระองค์ที่พูดอย่างนั้น 33 พระองค์ก็หันไปดูพวกศิษย์แล้วดุเปโตรว่า “ไปให้พ้น ไอ้ซาตาน เพราะแกไม่ได้คิดแบบพระเจ้า แต่คิดแบบมนุษย์”

34 พระองค์เรียกชาวบ้านกับศิษย์เข้ามาแล้วพูดว่า “ถ้าใครอยากจะติดตามเรา คนนั้นต้องเลิกตามใจตัวเอง และแบกไม้กางเขนของตัวเองตามเรามา 35 คนที่อยากจะเอาตัวรอดจะไม่รอด แต่คนที่ยอมสละตัวเองเพื่อเราและข่าวดีนั้นจะรอด 36 มันจะได้กำไรตรงไหน ถ้าได้โลกทั้งใบ แต่ตัวเองถูกทำลายไป 37 เขาจะเอาอะไรไปแลกเพื่อจะได้ตัวเองกลับคืนมาหรือ 38 ในยุคชั่วร้ายนี้ ถ้าคนไหนอับอายที่จะยอมรับเราและถ้อยคำของเรา บุตรมนุษย์ ก็จะอับอายที่จะยอมรับคนนั้นด้วยเหมือนกันในวันที่บุตรมนุษย์เสด็จกลับมาพร้อมกับสง่าราศีของพระบิดาและพร้อมกับเหล่าทูตสวรรค์ที่ศักดิ์สิทธิ์”

แล้วพระองค์พูดกับพวกเขาว่า “เราจะบอกให้รู้ว่า มีบางคนในที่นี้จะยังไม่ตาย จนกว่าจะได้เห็นอาณาจักรของพระเจ้ามาพร้อมกับฤทธิ์เดชเสียก่อน”

พระเยซูแจ้งมรณกาลของพระองค์ไว้ล่วงหน้า

31 พระเยซูเริ่มสั่งสอนพวกเขาว่าบุตรมนุษย์ต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการ และพวกผู้ใหญ่ บรรดามหาปุโรหิต และอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติจะไม่ยอมรับ และพระองค์จะถูกประหารชีวิต แต่หลังจากนั้น 3 วันก็จะฟื้นคืนชีวิตอีก 32 พระองค์กล่าวให้ฟังอย่างชัดเจน และเปโตรก็พูดทัดทานพระองค์เป็นการส่วนตัว 33 พระองค์มองดูเหล่าสาวกแล้วก็ห้ามเปโตรว่า “เจ้าซาตาน จงไปให้พ้น เพราะเจ้าไม่คิดในมุมของพระเจ้า แต่คิดจากมุมมองของมนุษย์”

34 พระเยซูเรียกฝูงชนมาร่วมกับเหล่าสาวกของพระองค์และกล่าวว่า “ถ้าใครปรารถนาที่จะตามเรามา เขาต้องไม่เห็นแก่ตนเอง และแบกไม้กางเขนของเขา และติดตามเราไป 35 เพราะใครก็ตามที่ต้องการช่วยชีวิตของตนให้รอดจะสูญเสียชีวิตนั้นไป แต่ใครก็ตามที่ยอมเสียชีวิตของเขาเพื่อเราและเพื่อข่าวประเสริฐก็จะมีชีวิตที่รอดพ้น 36 จะมีประโยชน์อันใด หากคนหนึ่งได้ทั้งโลกมาเป็นของตน แต่ต้องเสียชีวิตของเขาไป 37 คนหนึ่งสามารถเอาอะไรมาแลกเปลี่ยนกับชีวิตของตนได้ 38 ใครก็ตามในช่วงกาลเวลาที่ผิดประเวณีและชั่วโฉดนี้ มีความอายเพราะเราและคำพูดของเรา บุตรมนุษย์ก็จะมีความอายเพราะเขาเช่นกัน ในเวลาที่ท่านมาด้วยสง่าราศีของพระบิดาของท่าน พร้อมด้วยบรรดาทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์”

พระองค์กล่าวกับพวกเขาว่า “เราขอบอกความจริงกับเจ้าว่า บางคนที่ยืนอยู่ที่นี่จะไม่รู้รสความตายก่อนที่จะเห็นอาณาจักรของพระเจ้ามาด้วยฤทธานุภาพ”