Add parallel Print Page Options

กษัตริย์อาสาของยูดาห์

(2 พศด. 14:1-2; 15:16-19)

ในปีที่ยี่สิบที่เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล อาสาได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ 10 เขาครองบัลลังก์อยู่ในเยรูซาเล็มเป็นเวลาสี่สิบเอ็ดปี ย่าของเขามีชื่อว่ามาอาคาห์ นางเป็นลูกสาวของอาบีชาโลม

11 อาสาทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระยาห์เวห์ เหมือนกับที่ดาวิดบรรพบุรุษของเขาทำ 12 เขาขับไล่พวกผู้ชายขายตัว ตามศาลเจ้าออกไปจากแผ่นดินนี้ และกำจัดพวกรูปเคารพทั้งหมดที่บรรพบุรุษของเขาได้สร้างทิ้งไว้ 13 เขายังปลดมาอาคาห์ แม่ของเขาออกจากตำแหน่งแม่ของกษัตริย์ เพราะนางได้สร้างเสาเจ้าแม่อาเชราห์ที่น่าขยะแขยงขึ้นมาต้นหนึ่ง อาสาโค่นเสาต้นนั้นทิ้งและเผาทิ้งในหุบเขาขิดโรน 14 ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รื้อพวกสถานที่นมัสการทั้งหลายทิ้ง แต่ใจของอาสายังสัตย์ซื่อกับพระยาห์เวห์ตลอดชีวิตของเขา 15 เขานำพวกเงิน ทองและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่เขาและพ่อของเขาได้บนบานไว้ต่อพระยาห์เวห์ มาไว้ที่วิหารของพระยาห์เวห์

อาสาผูกมิตรกษัตริย์ของอารัม

(2 พศด. 16:6, 11-13)

16 ในยุคนั้น อาสากับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลได้ทำสงครามกันอยู่ตลอดเวลา 17 กษัตริย์บาอาชาของอิสราเอลขึ้นไปต่อสู้กับยูดาห์และได้สร้างป้อมรามาห์ขึ้น เพื่อกันไม่ให้ใครเข้าออกจากแผ่นดินของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ 18 กษัตริย์อาสาจึงเอาเงินและทองที่หลงเหลืออยู่ในคลังของวิหารของพระยาห์เวห์ และในวังของเขาเอง แล้วนำไปมอบให้กับพวกเจ้าหน้าที่ ให้เอาไปให้กับกษัตริย์เบนฮาดัดของอารัม ที่ปกครองอยู่ในเมืองดามัสกัส เบนฮาดัดเป็นลูกชายของทับริมโมน ทับริมโมนเป็นลูกชายของเฮซีโอน 19 อาสาให้คนของเขาพูดกับเบนฮาดัดว่า “เรามาเป็นพันธมิตรกันเถิด ให้เหมือนกับที่พ่อของเรากับพ่อของท่านเคยทำกันไว้ ดูสิ เราได้ส่งของขวัญเป็นเงินและทองมาให้ท่าน ขอท่านช่วยเลิกเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์บาอาชาของอิสราเอลด้วยเถิด เพื่อเขาจะได้ยกทัพกลับไปจากเรา”

20 เบนฮาดัดก็ตกลงเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์อาสา และส่งพวกแม่ทัพของกองทัพเขาไปโจมตีเมืองต่างๆของอิสราเอล เขาเอาชนะเมืองอิโยน เมืองดาน เมืองอาเบล-เบธมาอาคาห์ และหมู่บ้านทั้งหมดตามแถบทะเลสาบกาลิลี รวมถึงดินแดนนัฟทาลีทั้งหมดด้วย 21 เมื่อบาอาชารู้เรื่องเข้า เขาก็หยุดสร้างป้อมรามาห์และถอนทัพกลับไปที่ทีรซาห์ 22 แล้วกษัตริย์อาสาก็ได้มีคำสั่งไปถึงชาวยูดาห์ทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ให้พวกเขาไปรื้อเอาหินและไม้ที่ป้อมรามาห์ที่บาอาชาสร้างค้างไว้ แล้วกษัตริย์อาสาก็เอาของเหล่านั้นมาสร้างเมืองเกบาขึ้นในเขตแดนของเบนยามินและสร้างเมืองมิสปาห์ด้วย

23 ส่วนเหตุการณ์อื่นๆที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของกษัตริย์อาสา ความสำเร็จทุกอย่างของเขา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำและเมืองต่างๆที่เขาสร้างขึ้น ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์ แต่ตอนที่เขาแก่ตัวลง เท้าทั้งสองข้างของเขาเป็นโรค 24 แล้วอาสาก็ล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังอยู่กับพวกเขาในเมืองของดาวิด บรรพบุรุษของเขา และเยโฮชาฟัทลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

กษัตริย์นาดับแห่งอิสราเอล

25 นาดับลูกชายของเยโรโบอัมขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ตรงกับปีที่สองที่อาสาเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ นาดับปกครองอยู่เหนืออิสราเอลเป็นเวลาสองปี 26 เขาทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาเดินตามรอยพ่อเขาและทำบาปเหมือนกับพ่อซึ่งทำให้ชาวอิสราเอลหลงไปทำบาปด้วย

27 บาอาชา ลูกชายของอาหิยาห์ จากครอบครัวอิสสาคาร์วางแผนฆ่านาดับ และได้ฆ่านาดับตายที่เมืองกิบเบโธนของชาวฟีลิสเตีย ตอนที่นาดับและอิสราเอลทั้งหมดกำลังล้อมเมืองนั้นอยู่ 28 บาอาชาฆ่านาดับในปีที่สามที่อาสาเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ แล้วบาอาชาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากนาดับ

กษัตริย์บาอาชาของอิสราเอล

29 ทันทีที่บาอาชาขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาได้ฆ่าคนในครอบครัวของเยโรโบอัมทิ้งจนหมด เขาไม่ยอมไว้ชีวิตคนในครอบครัวนี้เลยแม้แต่คนเดียว แต่กลับทำลายพวกเขาจนหมด ซึ่งเป็นไปตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่เคยพูดไว้ผ่านทางอาหิยาห์ชาวชิโลห์ ผู้รับใช้ของพระองค์ 30 เป็นเพราะบาปทั้งหลายของเยโรโบอัมที่ได้ทำไว้ ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้ชาวอิสราเอลพลอยทำบาปไปด้วย และเพราะเขาได้ไปยั่วพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลให้โกรธ

31 เหตุการณ์อื่นๆในยุคสมัยของนาดับและทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้ทำ ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของพวกกษัตริย์แห่งอิสราเอล 32 กษัตริย์อาสาและกษัตริย์บาอาชาทำสงครามกันตลอดเวลาในยุคของพวกเขา

33 ในปีที่สามที่อาสาเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ บาอาชา ลูกชายของอาหิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์อยู่ที่ทีรซาห์ เขาได้ครอบครองอิสราเอลทั้งหมด และเขาครองราชย์อยู่เป็นเวลายี่สิบสี่ปี 34 เขาได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาเดินตามรอยเยโรโบอัม และทำบาปเหมือนกับเยโรโบอัม ซึ่งทำให้ชาวอิสราเอลหลงไปทำบาปด้วย

16 แล้วพระยาห์เวห์ก็ได้พูดต่อต้านบาอาชา ผ่านมาทางเยฮู ผู้พูดแทนพระองค์ เยฮูเป็นลูกชายของฮานานี พระองค์พูดว่า “เรายกเจ้าขึ้นมาจากผงดินและทำให้เจ้าเป็นผู้นำของประชาชนชาวอิสราเอลของเรา แต่เจ้ากลับไปเดินตามรอยของเยโรโบอัมและเป็นต้นเหตุให้ประชาชนชาวอิสราเอลของเราหลงไปทำบาป และพวกเขาก็ยั่วให้เราโกรธด้วยบาปทั้งหลายของพวกเขา ดังนั้น บาอาชา เราจะทำลายเจ้าและครอบครัวของเจ้า และเราจะทำให้ครอบครัวของเจ้าเป็นเหมือนกับครอบครัวเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท พวกหมาจะมารุมกินศพคนของเจ้าที่ตายอยู่ในเมือง และพวกนกบนฟ้าก็จะมากินศพคนที่ตายอยู่ในชนบท”

เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของบาอาชา สิ่งที่เขาได้ทำไปและความสำเร็จของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล บาอาชาตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและถูกฝังไว้ที่ทีรซาห์ และเอลาห์ลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

ในหนังสือนั้นก็มีเรื่องที่พระยาห์เวห์ได้พูดถึงบาอาชาและครอบครัวของเขา ผ่านมาทางเยฮู ผู้พูดแทนพระองค์ ที่เป็นลูกชายของฮานานี เพราะความชั่วทั้งหมดที่บาอาชาทำไปในสายตาของพระยาห์เวห์ เขาทำตัวเหมือนกับครอบครัวของเยโรโบอัม แล้วเขาทำลายครอบครัวนั้นด้วย ทั้งหมดนี้ได้ไปยั่วให้พระองค์โกรธ

กษัตริย์เอลาห์ของอิสราเอล

ในปีที่ยี่สิบหกของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ เอลาห์ลูกชายของบาอาชาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล และเขาครองบัลลังก์อยู่ในทีรซาห์เป็นเวลาสองปี

ศิมรี ผู้บังคับบัญชารถรบครึ่งหนึ่งของเขาวางแผนฆ่าเอลาห์ ในเวลานั้นเอลาห์อยู่ที่เมืองทีรซาห์ เขากำลังเมาอยู่ที่บ้านของอารซา อารซาเป็นผู้ควบคุมดูแลวังที่เมืองทีรซาห์ 10 ศิมรีเข้ามาและฆ่าเอลาห์ ตรงกับปีที่ยี่สิบเจ็ดที่กษัตริย์อาสาปกครองยูดาห์ แล้วศิมรีก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากเอลาห์

กษัตริย์ศิมรีของอิสราเอล

11 ทันทีที่ศิมรีขึ้นเป็นกษัตริย์ เขาฆ่าครอบครัวของบาอาชาตายจนหมด เขาไม่ไว้ชีวิตผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียวไม่ว่าจะเป็นญาติหรือเพื่อนของบาอาชา 12 ดังนั้นศิมรีจึงได้ทำลายครอบครัวของบาอาชาทั้งหมด เรื่องนี้เกิดขึ้นตามคำพูดของพระยาห์เวห์ที่ได้พูดไว้เกี่ยวกับบาอาชา ผ่านทางเยฮูผู้พูดแทนพระเจ้า 13 เพราะบาปทั้งหลายที่บาอาชาและเอลาห์ลูกชายของเขาทำไว้ และเป็นต้นเหตุให้อิสราเอลต้องทำบาปไปด้วย พวกเขาไปกราบไหว้รูปเคารพที่ไร้ค่าเหล่านั้น ซึ่งเป็นการยั่วยุให้พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอลโกรธ

14 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของเอลาห์และทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำ ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล

15 ในปีที่ยี่สิบเจ็ดของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ ศิมรีได้ขึ้นครองราชย์อยู่ในทีรซาห์เจ็ดวัน กองทัพเขาได้หยุดตั้งค่ายอยู่ใกล้กิบเบโธนซึ่งเป็นเมืองของชาวฟีลิสเตีย 16 เมื่อบรรดาชาวอิสราเอลในค่ายได้ยินว่าศิมรีได้วางแผนต่อต้านกษัตริย์และฆ่าเขาตายแล้ว พวกเขาจึงป่าวประกาศให้อมรีซึ่งเป็นแม่ทัพ ขึ้นเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลในวันนั้นที่ในค่าย 17 แล้วอมรีและชาวอิสราเอลทั้งหมดก็พากันถอนทัพออกจากกิบเบโธนและไปล้อมเมืองทีรซาห์ไว้ 18 เมื่อศิมรีเห็นว่าเมืองถูกล้อม เขาจึงเข้าไปในป้อมของวังกษัตริย์ แล้วเผาวังพร้อมกับตัวเอง แล้วเขาก็ตายไปในกองไฟนั้น 19 ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะบาปที่เขาทำ เขาทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์ และเดินตามรอยของเยโรโบอัมที่ทำบาปและเป็นเหตุทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย

20 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของศิมรีและการทรยศของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล

กษัตริย์อมรีของอิสราเอล

21 แล้วประชาชนชาวอิสราเอลก็แตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนให้ทิบนีลูกชายของกีนัทขึ้นเป็นกษัตริย์ และอีกฝ่ายหนึ่งสนับสนุนอมรี 22 แต่คนที่ติดตามอมรีนั้นแข็งแกร่งกว่าฝ่ายของทิบนีลูกชายของกีนัท ดังนั้นทิบนีจึงตายและอมรีก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์

23 ในปีที่สามสิบเอ็ดของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ อมรีขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เขาเป็นกษัตริย์อยู่สิบสองปี โดยช่วงหกปีแรกอยู่ในเมืองทีรซาห์ 24 เขาซื้อเนินเขาสะมาเรียมาจากเชเมอร์ด้วยเงินสองตะลันต์[a] และสร้างเมืองขึ้นเมืองหนึ่งบนเขานั้น และให้ชื่อว่าเมืองสะมาเรีย ตามชื่อของเจ้าของเนินเขาคนก่อน

25 แต่อมรีได้ทำความชั่วในสายตาของพระยาห์เวห์และทำบาปมากยิ่งกว่ากษัตริย์องค์ก่อนๆเสียอีก 26 เขาเดินตามรอยของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัทและทำบาปตามเขา ซึ่งเป็นเหตุทำให้อิสราเอลทั้งหมดพลอยทำบาปไปด้วย พวกเขาไปกราบไหว้รูปเคารพที่ไร้ค่าเหล่านั้น เป็นการยั่วยุพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอลให้โกรธ

27 เหตุการณ์ต่างๆในยุคสมัยของอมรี รวมทั้งสิ่งต่างๆที่เขาทำไปและความสำเร็จของเขา ได้จดบันทึกไว้แล้วในหนังสือประวัติของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอล 28 อมรีตายไปอยู่กับบรรพบุรุษของเขาและศพของเขาถูกฝังอยู่ในเมืองสะมาเรีย และอาหับผู้เป็นลูกชายของเขาก็ขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อจากเขา

กษัตริย์อาหับของอิสราเอล

29 ในปีที่สามสิบแปดของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ อาหับลูกชายของอมรีขึ้นเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เขาครองราชย์อยู่ในเมืองสะมาเรีย ปกครองอยู่เหนืออิสราเอลเป็นเวลายี่สิบสองปี 30 อาหับลูกชายของอมรีทำสิ่งที่ชั่วช้าในสายตาของพระยาห์เวห์มากยิ่งกว่ากษัตริย์องค์ไหนๆที่อยู่ก่อนหน้าเขาเคยทำเสียอีก 31 แค่ทำตามบาปต่างๆของเยโรโบอัมลูกชายของเนบัทนั้นยังน้อยไป เขายังไปแต่งงานกับเยเซเบลลูกสาวของกษัตริย์เอ็ทบาอัลของชาวไซดอน และเริ่มไปรับใช้พระบาอัล และนมัสการพระนั้นอีกด้วย 32 เขาสร้างแท่นบูชาสำหรับพระบาอัลขึ้นในวิหารของพระบาอัลที่เขาสร้างขึ้นในเมืองสะมาเรีย 33 อาหับยังสร้างเสาเจ้าแม่อาเชราห์และยิ่งยั่วพระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลให้โกรธมากยิ่งขึ้นกว่าที่พวกกษัตริย์แห่งอิสราเอลเคยทำมาก่อนหน้าเขา

34 ในสมัยของอาหับ ฮีเอลชาวเบธเอลได้สร้างเมืองเยริโคขึ้นใหม่อีกครั้ง เมื่อเขาสร้างฐานของเมืองนั้น อาบีรัมลูกชายคนแรกของเขาก็ตาย และเมื่อเขาสร้างประตูต่างๆขึ้น เสกุบลูกชายคนสุดท้องของเขาก็ต้องมาตายลงอีก ซึ่งตรงกับคำพูดของพระยาห์เวห์ ที่ได้พูดไว้ผ่านทางโยชูวาลูกชายของนูน[b]

เอลียาห์กับช่วงเวลาที่ฝนแล้ง

17 ขณะนั้นเอลียาห์ผู้พูดแทนพระเจ้าจากเมืองทิชบีที่อยู่ในกิเลอาด ได้พูดกับกษัตริย์อาหับว่า “ข้าพเจ้ารับใช้พระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล พระองค์มีชีวิตอยู่แน่ขนาดไหน ก็ให้แน่ใจขนาดนั้นเลยว่าจะไม่มีฝนหรือน้ำค้างตกลงมาเลยภายในสองสามปีนี้ นอกจากข้าพเจ้าจะสั่งให้มันตกลงมาเท่านั้น”

แล้วพระยาห์เวห์ก็พูดกับเอลียาห์ว่า “ไปจากที่นี่เสีย มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกและหลบซ่อนอยู่ข้างลำธารเครีท ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน เจ้าจะได้ดื่มน้ำจากลำธารนั้น และเราได้สั่งพวกนกกาให้หาอาหารมาเลี้ยงเจ้าที่นั่น” เขาจึงทำตามสิ่งที่พระยาห์เวห์บอกไว้ เขาไปที่ลำธารเครีทที่อยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และอยู่ที่นั่น พวกกาทั้งหลายได้นำขนมปังและเนื้อสัตว์มาให้เอลียาห์ทั้งเช้าและเย็น และเขาก็ดื่มน้ำจากลำธารนั้น

แต่ต่อมาภายหลังลำธารนั้นได้แห้งขอดลง เพราะฝนไม่ตกลงบนแผ่นดินนั้น

Footnotes

  1. 16:24 สองตะลันต์ หรือ 68 กิโลกรัม
  2. 16:34 ตรงกับคำพูด … ลูกชายของนูน ดูใน โยชูวา 6:26