Add parallel Print Page Options

อ่านกฎบัญญัติให้ฟังทุก 7 ปี

ดังนั้น โมเสสเขียนกฎบัญญัตินี้และมอบให้แก่บรรดาปุโรหิตซึ่งเป็นบุตรของชาวเลวีผู้เป็นฝ่ายหามหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า และแก่หัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ทั้งปวงของอิสราเอล 10 และโมเสสบัญชาพวกเขาว่า “ทุกๆ ปลายปีที่เจ็ดตามกำหนดเวลาของปียกเลิกหนี้สิน ซึ่งอยู่ในระหว่างเทศกาลอยู่เพิง 11 เมื่อชาวอิสราเอลทั้งปวงมาอยู่ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านในสถานที่ซึ่งพระองค์จะเลือก ท่านจงอ่านกฎบัญญัตินี้ให้ชาวอิสราเอลทั้งปวงฟัง 12 ให้ประชาชนชายและหญิง เด็กๆ และคนต่างด้าวที่อยู่ในเมืองของท่านมา เพื่อให้พวกเขาได้ยินและรู้จักเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และจงปฏิบัติตามกฎบัญญัตินี้ทุกประการด้วยความระมัดระวัง 13 และบรรดาบุตรของพวกเขาที่ไม่รู้กฎบัญญัตินี้จะได้ยินและรู้จักเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ตราบเท่าที่ท่านมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะข้ามแม่น้ำจอร์แดนไปยึดครอง”

14 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ดูเถิด ใกล้วันแล้วที่เจ้าจะต้องตาย จงเรียกโยชูวามา และเจ้าทั้งสองมาด้วยกันยังกระโจมที่นัดหมาย แล้วเราจะมอบหมายหน้าที่แก่เขา” ครั้นแล้วโมเสสและโยชูวาก็ไปยังกระโจมที่นัดหมายด้วยกัน 15 แล้วพระผู้เป็นเจ้าก็ปรากฏที่กระโจมในลักษณะของเมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลัก และเมฆก้อนมหึมาดั่งเสาหลักหยุดอยู่ที่ทางเข้ากระโจม

16 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับโมเสสว่า “ดูเถิด เจ้ากำลังจะสิ้นชีวิตไปอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้า และชนชาตินี้จะปันใจไปเชื่อในบรรดาเทพเจ้าต่างชาติประหนึ่งหญิงแพศยาของแผ่นดินที่พวกเขากำลังจะเข้าไปอยู่ พวกเขาจะทอดทิ้งเราและไม่รักษาพันธสัญญาที่เราทำไว้กับพวกเขา 17 ความโกรธของเราจะพลุ่งขึ้นต่อพวกเขาในวันนั้น แล้วเราจะทอดทิ้งเขา และซ่อนหน้าจากเขา พวกเขาจะถูกทำลาย จะประสบกับความเลวร้ายและความทุกข์ยาก เขาจะพูดกันในวันนั้นว่า ‘พวกเราประสบสิ่งเลวร้ายเหล่านี้ก็เพราะพระเจ้าของเราไม่อยู่กับพวกเรามิใช่หรือ’ 18 แล้วเราจะซ่อนหน้าในวันนั้น เพราะพวกเขากระทำสิ่งเลวร้ายทั้งปวง โดยหันเข้าหาบรรดาเทพเจ้า

19 บัดนี้ เจ้าจงเขียนบทเพลงนี้สำหรับพวกเขาและสอนชาวอิสราเอลให้ร้องจนขึ้นใจ เพลงนี้จะเป็นพยานกล่าวโทษชาวอิสราเอลให้เรา 20 เพราะเมื่อเรานำพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้ง ซึ่งเราได้ปฏิญาณไว้ว่าจะให้แก่บรรพบุรุษของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็กินจนอิ่มหนำและอ้วนพี และจะหันเข้าหาบรรดาเทพเจ้า และบูชาสิ่งเหล่านั้น และหันหลังให้เราและไม่รักษาพันธสัญญาของเรา 21 เมื่อพวกเขาประสบกับความเลวร้ายและความทุกข์ยากมากมาย เพลงนี้ก็จะยืนยันต่อหน้าพวกเขาเหมือนเป็นพยาน เพราะบรรดาผู้สืบเชื้อสายของเขาจะไม่ลืมเพลงที่ร้องจากปากตนเอง เพราะเรารู้จุดประสงค์ที่พวกเขามี ก่อนที่เราจะพาพวกเขาเข้าไปในแผ่นดินที่เราได้ปฏิญาณไว้ว่าจะมอบให้” 22 ดังนั้น โมเสสจึงเขียนเพลงนี้ไว้ในวันเดียวกันนั้น และสอนให้แก่ชาวอิสราเอล

23 และพระองค์มอบหมายหน้าที่แก่โยชูวาบุตรของนูนโดยกล่าวว่า “จงเข้มแข็งและกล้าหาญเถิด เพราะเจ้าจะนำชาวอิสราเอลเข้าไปในแผ่นดินที่เราได้ปฏิญาณไว้ว่าจะให้แก่พวกเขา เราจะอยู่กับเจ้า”

24 เมื่อโมเสสเขียนคำกล่าวในกฎบัญญัตินี้ลงในหนังสือจบแล้ว 25 โมเสสบัญชาชาวเลวีผู้เป็นฝ่ายหามหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้าว่า 26 “จงเอาหนังสือกฎบัญญัติฉบับนี้ไปวางไว้ที่ข้างหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เพื่อให้อยู่ที่นั่นเป็นพยานกล่าวโทษท่าน 27 เพราะเราทราบว่าพวกท่านชอบขัดขืนและดื้อรั้นเพียงไร ดูเถิด แม้ว่าขณะนี้เรายังมีชีวิตอยู่กับพวกท่าน พวกท่านก็ยังขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า หลังจากเราตายไปแล้ว พวกท่านจะกระทำยิ่งกว่าเพียงไร 28 จงเรียกหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ทั้งปวงและเจ้าหน้าที่ประจำเผ่าของท่านมาประชุมร่วมกับเรา เราจะได้พูดให้พวกเขาได้ยินด้วยหูของเขาเอง และจะให้ฟ้าดินเป็นพยานกล่าวโทษพวกเขา 29 เพราะเราทราบว่าหลังจากที่เราตายไปแล้ว พวกท่านจะประพฤติอย่างเสื่อมทรามอย่างที่สุด และหันไปจากวิถีทางที่เราได้บัญชาไว้ และจากนั้นสิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับพวกท่าน เพราะท่านจะกระทำสิ่งชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และยั่วโทสะพระองค์ด้วยสิ่งที่ท่านสร้างขึ้น”

Read full chapter