Add parallel Print Page Options

การแต่งตั้งเยฮูเป็นกษัตริย์

เอลีชาผู้พูดแทนพระเจ้าได้เรียกชายคนหนึ่งมาจากกลุ่มของผู้พูดแทนพระเจ้าและพูดกับเขาว่า “เอาเสื้อคลุมของท่านเสียบเข้าในเข็มขัด เอาน้ำมันขวดนี้ไปกับท่านและไปที่ราโมท-กิเลอาด เมื่อท่านไปถึงที่นั่น ให้มองหาเยฮู ลูกชายของเยโฮชาฟัทที่เป็นลูกชายของนิมชี ให้ไปพบเขา แยกตัวเขาออกมาจากเพื่อนฝูง และพาเขาเข้าไปในห้องด้านใน เอาขวดน้ำมันนี้ออกมา เทน้ำมันลงบนหัวของเขาและประกาศว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า “เราขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล” แล้วรีบเปิดประตู วิ่งหนีไป อย่าได้เถลไถล’”

ชายหนุ่มผู้พูดแทนพระเจ้าคนนั้น จึงไปที่ราโมท-กิเลอาด เมื่อเขามาถึง เขาได้พบกับพวกผู้นำกองทัพกำลังนั่งอยู่ด้วยกันที่นั่น เขาพูดว่า “ท่านแม่ทัพ เรามีข่าวมาให้กับท่าน”

เยฮูถามว่า “แม่ทัพคนไหนล่ะ”

เขาตอบว่า “ท่านแม่ทัพ ท่านเองนั่นแหละครับ”

เยฮูจึงลุกขึ้นและเข้าไปในบ้าน แล้วคนหนุ่มนั้นก็เทน้ำมันลงบนหัวของเยฮูและประกาศว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าของอิสราเอลพูดว่า ‘เราขอแต่งตั้ง ให้เจ้าเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลประชากรของพระยาห์เวห์ เจ้าต้องทำลายครอบครัวของอาหับเจ้านายของเจ้าเสีย เราจะได้แก้แค้นแทนเลือดของพวกผู้พูดแทนพระเจ้าที่เป็นผู้รับใช้เรา และเลือดของพวกผู้รับใช้พระยาห์เวห์ทุกคนที่ไหลนองด้วยน้ำมือของนางเยเซเบล ครอบครัวทั้งหมดของอาหับจะถูกทำลายล้าง เราจะตัดพวกผู้ชายของอาหับทุกคนออกไปจากอิสราเอลไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไม่ใช่ทาสก็ตาม เราจะทำให้ครอบครัวของอาหับเป็นเหมือนครอบครัวเยโรโบอัมลูกชายของเนบัท และเป็นเหมือนครอบครัวของบาอาชาลูกชายของอาหิยาห์ 10 ส่วนเยเซเบล พวกหมาจะมารุมกินศพของนางบนพื้นดินที่เมืองยิสเรเอลและจะไม่มีใครฝังศพให้นาง’”

พูดจบแล้วเขาก็เปิดประตู วิ่งหนีไป

11 เมื่อเยฮูออกมาหาผู้นำกองทัพของกษัตริย์ พวกนั้นถามเขาว่า “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ทำไมคนบ้าคนนั้นจึงได้มาขอพบท่าน” เยฮูตอบว่า “ท่านก็รู้ๆอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนยังไง ชอบพูดเรื่องไร้สาระ”

12 พวกเขาพูดว่า “ไม่จริงหรอก บอกพวกเรามาเถิด” เยฮูจึงพูดว่า “เขาพูดกับเราว่า ‘พระยาห์เวห์พูดว่า เราขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล’”

13 พวกเขารีบเอาเสื้อคลุมของพวกเขามาปูลงต่อหน้าเยฮูบนขั้นบันไดที่ว่างเปล่าอยู่ แล้วพวกเขาก็เป่าแตรขึ้นและตะโกนว่า “เยฮูคือกษัตริย์”

เยฮูไปยิสเรเอล

14 เยฮูลูกชายของเยโฮชาฟัทที่เป็นลูกชายของนิมชี จึงได้รวบรวมผู้คนขึ้นกบฏต่อโยรัม (ขณะนั้น โยรัมและอิสราเอลทั้งหมดกำลังต่อสู้ป้องกันราโมท-กิเลอาด จากกษัตริย์ฮาซาเอลของอารัม 15 แต่กษัตริย์โยรัมได้กลับมาถึงยิสเรเอลเพื่อรักษาตัวจากบาดแผลที่พวกอารัมได้ทำร้ายเขาไว้จากการรบกับกษัตริย์ฮาซาเอลของอารัม)

เยฮูพูดว่า “ถ้าพวกท่านเห็นด้วยกับสิ่งที่เราทำ อย่าให้ใครหลบออกไปจากเมืองเพื่อไปบอกข่าวในยิสเรเอลได้”

16 แล้วเยฮูก็ขึ้นรถรบของเขาและขับมันไปที่ยิสเรเอล เพราะโยรัมกำลังพักฟื้นอยู่ที่นั่นพอดี ในเวลานั้นกษัตริย์อาหัสยาห์ของยูดาห์ได้ลงไปเยี่ยมเยียนกษัตริย์โยรัม

17 เมื่อคนเฝ้ายามที่ยืนอยู่บนหอคอยในยิสเรเอลเห็นกองทัพของเยฮูกำลังใกล้เข้ามา เขาร้องออกมาว่า “เราเห็นกองทัพจำนวนหนึ่งกำลังใกล้เข้ามา”

กษัตริย์โยรัมจึงออกคำสั่งไปว่า “เตรียมทหารม้าไว้คนหนึ่ง ส่งเขาไปพบคนเหล่านั้นและถามว่า ‘พวกท่านมาอย่างสันติหรือไม่’”

18 ทหารม้าคนนั้นขี่ม้าออกไปพบกับเยฮูและพูดว่า “กษัตริย์สั่งให้มาถามว่า ‘พวกท่านมาอย่างสันติหรือไม่’”

เยฮูตอบไปว่า “ท่านต้องการสันติไปทำอะไร มาติดตามเราเถิด”

คนสังเกตการณ์มารายงานว่า “คนส่งข่าวไปถึงพวกเขาแล้ว แต่ไม่ได้กลับออกมา”

19 กษัตริย์จึงส่งทหารม้าคนที่สองออกไปอีก เมื่อเขาเข้าไปหาคนเหล่านั้น เขาก็พูดว่า “กษัตริย์สั่งให้มาถามว่า ‘ท่านมาอย่างสันติ[a] หรือไม่’”

เยฮูตอบไปว่า “ท่านต้องการสันติไปทำอะไร มาติดตามเราเถิด”

20 คนสังเกตการณ์กลับมารายงานว่า “คนส่งข่าวไปถึงคนพวกนั้นแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้กลับออกมาเหมือนกัน คนขับรถรบนั้นเหมือนกับเยฮู ลูกชายของนิมชี เขาขับเหมือนกับคนบ้า”

21 โยรัมออกคำสั่งไปว่า “เตรียมรถรบให้เรา”

และเมื่อรถรบมาถึง กษัตริย์โยรัมของอิสราเอลและกษัตริย์อาหัสยาห์ของยูดาห์ก็ได้ขับมันออกไป ทั้งสองคนต่างก็ขับรถรบของตัวเองไป เพื่อไปพบกับเยฮู พวกเขามาพบเยฮูบนที่ดินผืนหนึ่งที่เป็นของนาโบทชาวยิสเรเอล

22 เมื่อโยรัมเห็นเยฮูก็ถามขึ้นว่า “เยฮู ท่านมาอย่างสันติหรือเปล่า”

เยฮูตอบว่า “จะมีสันติได้อย่างไร ในเมื่อบรรดารูปเคารพและเวทมนตร์คาถา[b] เหล่านั้นของแม่ท่าน ยังมีอยู่อย่างเกลื่อนกลาด”

23 โยรัมหันรถกลับและหนีไป เขาร้องบอกกับอาหัสยาห์ว่า “อาหัสยาห์ มันทรยศพวกเรา”

24 แล้วเยฮูก็โก่งคันธนูสุดแรงเกิดของเขา ยิงไปถูกโยรัมตรงระหว่างไหล่[c] ลูกธนูปักทะลุหัวใจของโยรัม และเขาก็ล้มลงอยู่ในรถรบของเขา

25 เยฮูได้พูดกับบิดคาร์ที่เป็นเจ้าหน้าที่ประจำรถรบของโยรัมว่า “เอาตัวเขาขึ้นมาและโยนเขาไว้ในที่นาของนาโบทชาวยิสเรเอล จำได้ไหมว่า เรากับท่านเคยขับรถรบร่วมกันตามหลังอาหับพ่อของโยรัมเมื่อครั้งที่พระยาห์เวห์ทำนายเกี่ยวกับเขาไว้ว่า 26 ‘พระยาห์เวห์ประกาศว่า เมื่อวานนี้ เราได้เห็นเลือดของนาโบทและเลือดของบรรดาลูกชายของเขา และพระยาห์เวห์ ประกาศอีกว่า เราจะทำให้เจ้าต้องชดใช้มันบนที่ดินที่เป็นของเขา’ ฉะนั้นในตอนนี้ เอาตัวเขาขึ้นมาและโยนเขาไปบนที่ดินผืนนั้น ตามคำพูดของพระยาห์เวห์”

27 เมื่อกษัตริย์อาหัสยาห์ของยูดาห์ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ก็หลบหนีไปบนถนนที่ไปสู่เบธฮักกาน เยฮูไล่ตามเขาไปและตะโกนว่า “ฆ่ามันด้วย”

พวกเขาทำให้กษัตริย์อาหัสยาห์ได้รับบาดเจ็บอยู่บนรถรบของเขาในระหว่างทางที่จะขึ้นไปเมืองกูร์ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองอิบเลอัม แต่เขาได้หนีไปถึงเมกิดโดและตายที่นั่น 28 บรรดาคนรับใช้ของเขาได้ใช้รถรบบรรทุกศพของเขาไปถึงเมืองเยรูซาเล็มและฝังเขาไว้กับบรรพบุรุษของเขาที่หลุมฝังศพของเขาในเมืองของดาวิด

29 (อาหัสยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์ของยูดาห์ ตรงกับปีที่สิบเอ็ดที่โยรัมลูกชายของอาหับ เป็นกษัตริย์ของอิสราเอล)

ความตายที่น่ากลัวของเยเซเบล

30 แล้วเยฮูก็ไปที่เมืองยิสเรเอล เมื่อเยเซเบลได้ยินเรื่องนี้เข้า นางใช้เครื่องสำอางแต่งที่ตาของนาง และทำผมใหม่และมองออกไปที่หน้าต่างบานหนึ่ง 31 เมื่อเยฮูเข้ามาที่ประตู นางถามว่า “ศิมรี[d] เจ้ามาอย่างสันติหรือ เจ้าฆาตกรผู้ฆ่าเจ้านายของตัวเอง”

32 เยฮูมองขึ้นไปที่หน้าต่างบานนั้น และร้องออกมาว่า “ใครอยู่ฝ่ายเรา ใครบ้าง”

มีขันทีอยู่สองสามคนมองลงมาที่เขา 33 เยฮูจึงพูดว่า “โยนตัวนางลงมาสิ”

พวกเขาจึงโยนนางลงมา เลือดของนางบางส่วนกระเด็นไปติดกำแพงและติดตัวม้าบางตัวที่เหยียบย่ำลงบนตัวนาง 34 เยฮูเข้าไปในบ้าน ไปกินและดื่ม เขาพูดว่า “ดูแลหญิงที่ถูกสาปแช่งคนนั้น และฝังนางไว้ เพราะอย่างไรเสียนางก็เป็นลูกสาวของกษัตริย์”

35 แต่เมื่อพวกเขาออกไปเพื่อที่จะฝังศพนาง พวกเขาก็ไม่พบชิ้นส่วนใดของนางเลย นอกจากหัวกะโหลก เท้าและมือทั้งสองข้างของนาง 36 พวกเขากลับมาบอกเยฮู เยฮูจึงบอกไปว่า “พระยาห์เวห์ได้พูดผ่านทางเอลียาห์ชาวเมืองทิชบีผู้รับใช้พระองค์ว่า บนที่ดินในเมืองยิสเรเอล หมาหลายตัวจะมารุมกินเนื้อของเยเซเบล 37 ศพของเยเซเบลจะกระจัดกระจายไปเหมือนขี้วัวทั่วทุ่งในเขตแดนยิสเรเอล เพื่อจะได้ไม่มีใครบอกได้ว่า ‘นี่คือเยเซเบล’”

Footnotes

  1. 9:19 สันติ เป็นวิธีการทักทายเหมือน “สวัสดี”
  2. 9:22 เวทมนตร์คาถา การใช้เวทมนตร์หรือพลังอำนาจของซาตานเพื่อจะทำในสิ่งชั่วร้าย
  3. 9:24 ระหว่างไหล่ หรือที่หลังของเขา
  4. 9:31 ศิมรี ศิมรีคือผู้ชายคนที่ได้ฆ่าเอลาห์และครอบครัวของบาอาชาในอิสราเอลเมื่อหลายปีก่อน ดูใน 1 พงศ์กษัตริย์ 16:8-12

เยฮูรับการเจิมเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล

เอลีชาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าเรียกชายคนหนึ่งในกลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ามา และบอกเขาว่า “จงเตรียมตัวให้พร้อม เอาผอบน้ำมันนี้ติดมือไปที่ราโมทกิเลอาด เมื่อเจ้าไปถึง ก็ให้ถามหาเยฮูบุตรเยโฮชาฟัทผู้เป็นบุตรของนิมชี และจงไปหาเขา ขอให้เขาปลีกตัวออกมาจากเพื่อนๆ และพาเขาเข้าไปในห้องชั้นใน แล้วเทผอบน้ำมันบนศีรษะของเขา พูดกับเขาว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘เราเจิมเจ้าให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล’ จากนั้นก็รีบเดินหนีออกไป อย่ารีรอ”

ดังนั้น ชายหนุ่มผู้รับใช้ของผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าจึงเดินทางไปยังราโมทกิเลอาด เมื่อไปถึง ดูเถิด บรรดาผู้บังคับกองพันทหารกำลังประชุมกันอยู่ เขาพูดว่า “โอ ท่านผู้บังคับบัญชา ข้าพเจ้ามีข้อความมาส่งให้ท่าน” เยฮูถามว่า “ถึงใครในพวกเรา” เขาตอบว่า “โอ ท่านผู้บังคับบัญชา ข้อความนั้นมีมาถึงท่าน” ท่านจึงลุกขึ้นและเข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มจึงเทน้ำมันบนศีรษะของเขา และพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลกล่าวดังนี้ว่า ‘เราเจิมเจ้าให้เป็นกษัตริย์ปกครองชนชาติของพระผู้เป็นเจ้า คือปกครองอิสราเอล และเจ้าจงทำลายพงศ์พันธุ์ของอาหับนายของเจ้า เพื่อเราจะสนองตอบที่นางเยเซเบลได้สังหารบรรดาผู้รับใช้ คือผู้เผยคำกล่าวของเรา และสังหารผู้รับใช้ทั้งปวงของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยว่า ทั้งพงศ์พันธุ์ของอาหับจะต้องพินาศไป และเราจะกำจัดผู้ชายของอาหับทุกคน ไม่ว่าทาสหรืออิสระในอิสราเอล และเราจะทำให้พงศ์พันธุ์ของอาหับเป็นเหมือนกับพงศ์พันธุ์ของเยโรโบอัมบุตรเนบัท และเหมือนกับพงศ์พันธุ์ของบาอาชาบุตรอาหิยาห์ 10 และพวกสุนัขจะกินร่างของเยเซเบล ในเขตพื้นที่ของยิสเรเอล จะไม่มีใครฝังศพของนาง’” ครั้นแล้วเขาก็เปิดประตูหนีไป

11 เมื่อเยฮูกลับออกไปหาบรรดาผู้รับใช้ของเจ้านายของท่าน พวกเขาถามท่านว่า “ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือ ทำไมคนวิกลจริตนั่นจึงมาหาท่าน” ท่านตอบว่า “พวกท่านก็ทราบดีว่า คนประเภทนั้นพูดเรื่องอะไรบ้าง” 12 พวกเขาพูดว่า “ไม่จริง บอกพวกเรามาเถอะ” เยฮูตอบว่า “เขาพูดกับเราว่า พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า ‘เราเจิมเจ้าให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล’” 13 ในทันใดนั้น พวกเขาทุกคนต่างก็ปลดเสื้อผ้าของตนออก และปูไว้ที่ขั้นบันไดใต้เท้าท่าน และเป่าแตรงอน[a]ประกาศว่า “เยฮูเป็นกษัตริย์”

เยฮูลอบสังหารโยรัมและอาหัสยาห์

14 เยฮูบุตรเยโฮชาฟัทผู้เป็นบุตรของนิมชีจึงคิดกบฏต่อโยรัม (ฝ่ายโยรัมกับชาวอิสราเอลทั้งปวงก็ได้เฝ้าระวังอยู่ที่ราโมทกิเลอาดเนื่องจากการโจมตีของฮาซาเอลกษัตริย์แห่งอารัม 15 แต่กษัตริย์โยรัมได้กลับมาพักฟื้นที่ยิสเรเอลหลังจากที่ต้องบาดเจ็บเพราะชาวอารัม) ดังนั้นเยฮูพูดว่า “ถ้าเป็นความประสงค์ของพวกท่าน ก็อย่าปล่อยให้ผู้ใดเล็ดลอดออกไปจากราโมทกิเลอาด และไปส่งข่าวที่ยิสเรเอล” 16 แล้วเยฮูก็ขึ้นรถศึกไปยังยิสเรเอล เพราะว่าโยรัมนอนป่วยอยู่ที่นั่น และอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ได้ลงมาเยี่ยมโยรัม

17 ทหารยามที่ยืนเฝ้าอยู่บนหอคอยที่ยิสเรเอลเห็นเยฮูกับพรรคพวกกำลังมา จึงพูดว่า “ข้าพเจ้าเห็นคนพวกหนึ่ง” โยรัมพูดว่า “ใช้ทหารม้าออกไปพบพวกเขา และถามเขาว่า ‘ท่านมาอย่างสันติหรือ’” 18 ดังนั้นทหารม้าจึงออกไปพบท่าน และถามว่า “กษัตริย์ถามดังนี้ว่า ‘ท่านมาอย่างสันติหรือ’” เยฮูถามว่า “ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับสันติเล่า ไปข้างหลังโน่น ขี่ม้าตามหลังเรามา” ทหารยามรายงานว่า “ผู้สื่อสาสน์ไปถึงพวกเขาแล้ว แต่เขาไม่กลับมา” 19 ดังนั้น ท่านจึงให้ทหารม้าคนที่สองไป ซึ่งเมื่อไปถึงก็ถามว่า “กษัตริย์ถามดังนี้ว่า ‘ท่านมาอย่างสันติหรือ’” เยฮูตอบว่า “ท่านเกี่ยวข้องอะไรกับสันติเล่า ไปข้างหลังโน่น ขี่ม้าตามหลังเรามา” 20 ทหารยามรายงานอีกว่า “เขาไปถึงพวกนั้นแล้ว แต่เขาไม่กลับมา และการขับรถศึกดูเหมือนวิธีการขับของเยฮูบุตรของนิมชี เพราะเขาขับอย่างบ้าระห่ำ”

21 โยรัมพูดว่า “เตรียมให้พร้อม” พวกเขาเตรียมรถศึกให้พร้อม และโยรัมกษัตริย์แห่งอิสราเอลกับอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ ต่างก็ขับรถศึกของตนออกไปเพื่อปะทะกับเยฮู และได้พบกันในบริเวณที่ดินของนาโบทชาวยิสเรเอล 22 เมื่อโยรัมเห็นเยฮู ท่านถามว่า “เยฮู ท่านมาอย่างสันติหรือ” ท่านตอบว่า “จะมีสันติอย่างไรได้ ตราบที่ยังมีการบูชารูปเคารพและการใช้วิทยาคมของเยเซเบลมารดาของท่านมากมายเช่นนี้” 23 โยรัมก็เบี่ยงบังเหียนไปมาและหนีไป ขณะที่บอกอาหัสยาห์ว่า “อาหัสยาห์ พวกนี้ทรยศเรา” 24 เยฮูโก่งคันธนูอย่างสุดกำลัง และยิงโยรัมระหว่างอก ลูกธนูปักที่หัวใจ ท่านจึงล้มลงในรถศึก 25 เยฮูสั่งบิดคาร์ผู้บังคับการรถศึกของท่านว่า “เอาศพของท่านไปทิ้งในทุ่งนาของนาโบทชาวยิสเรเอล จำได้ไหม เมื่อคราวที่เจ้ากับเราขี่ม้าเคียงกันอยู่ข้างหลังอาหับบิดาของท่าน พระผู้เป็นเจ้าพยากรณ์เรื่องนี้เกี่ยวกับท่าน 26 พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า ‘เมื่อวานเท่าที่เราเห็นนาโบทและบรรดาบุตรของเขาถูกสังหารเช่นไร เราก็จะตอบสนองแก่อาหับบนที่ดินแห่งนี้’ ฉะนั้นจงเอาศพของท่านไปทิ้งบนที่ดินนี้ ตามคำของพระผู้เป็นเจ้า[b]

27 เมื่ออาหัสยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์เห็นเหตุการณ์ ท่านก็หนีไปทางทิศที่จะไปยังเบธฮักกาน เยฮูจึงตามล่าไป และพูดว่า “ยิงท่านด้วยอีกคน” พวกเขาจึงยิงท่านขณะที่อยู่ในรถศึกตรงทางที่จะไปยังกูร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับอิบเลอัม ท่านหนีไปจนถึงเมืองเมกิดโด และสิ้นชีวิตที่นั่น 28 ทหารรับใช้นำศพของท่านขึ้นรถศึกไปยังเมืองเยรูซาเล็ม และบรรจุศพท่านในที่เก็บศพกับบรรพบุรุษของท่านในเมืองของดาวิด

29 ในปีที่สิบเอ็ดของโยรัมบุตรอาหับ อาหัสยาห์เริ่มครองราชย์ที่ยูดาห์

เยฮูประหารเยเซเบล

30 เมื่อเยฮูไปยังยิสเรเอล เยเซเบลก็ทราบเรื่อง นางจึงเขียนตาและตกแต่งผม และมองออกไปทางหน้าต่าง 31 และขณะที่เยฮูเข้าประตูเมือง นางถามว่า “เจ้าก็เหมือนศิมรีผู้สังหารนายตนเอง เจ้ามาอย่างสันติหรือ”[c] 32 ท่านเงยหน้าขึ้น มองดูที่หน้าต่าง และพูดว่า “ใครเป็นฝ่ายเรา มีใครบ้าง” ขันทีสองสามคนมองดูท่าน 33 ท่านจึงสั่งว่า “โยนตัวนางลงมา” ดังนั้นพวกเขาจึงโยนตัวนางลงมา เลือดนางสาดกระเด็นถูกกำแพงและฝูงม้า และม้าทั้งหลายก็เหยียบย่ำร่างของนาง 34 และท่านเข้าไปข้างใน ดื่มและรับประทาน ท่านพูดว่า “จงจัดการกับหญิงที่ถูกแช่งสาปคนนี้ เอานางไปฝัง เพราะนางเป็นบุตรหญิงของกษัตริย์” 35 แต่เมื่อพวกเขาจะไปฝังศพของนาง พวกเขาก็ไม่พบร่างของนาง นอกจากส่วนที่เหลืออยู่คือกะโหลกศีรษะ เท้า และอุ้งมือของนาง 36 เมื่อพวกเขากลับมาแจ้งให้ท่านทราบ ท่านพูดว่า “นี่คือคำของพระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์กล่าวผ่านเอลียาห์ชาวทิชบีผู้รับใช้ของพระองค์ว่า ‘สุนัขจะกินเนื้อเยเซเบลในที่ดินของยิสเรเอล’[d] 37 ศพของเยเซเบลจะเป็นเหมือนมูลสัตว์ในทุ่งนาบนที่ดินของยิสเรเอล จึงไม่มีผู้ใดพูดได้ว่า ‘นี่คือเยเซเบล’”