Add parallel Print Page Options

ซาโลมอนสร้างวิหาร

(2 พศด. 3:1-14; 4:1-10, 19-22; 5:1)

เป็นเวลาสี่ร้อยแปดสิบปี[a] หลังจากที่ชาวอิสราเอลได้อพยพออกมาจากประเทศอียิปต์ ในเดือนศิฟ ซึ่งเป็นเดือนที่สองของปี ตรงกับปีที่สี่ที่ซาโลมอนเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ซาโลมอนได้เริ่มสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้น วิหารที่กษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างขึ้นให้พระยาห์เวห์นั้นมีขนาดยาวหกสิบศอก[b] กว้างยี่สิบศอก[c] และสูงสามสิบศอก[d] ด้านหน้าของห้องโถงใหญ่ของวิหาร มีระเบียงที่ยื่นออกมาสิบศอก และมีความกว้างยี่สิบศอกซึ่งเท่ากับความกว้างของวิหารพอดี พระองค์ได้สร้างช่องหน้าต่างแคบๆหลายบานไว้ด้านบนของผนังวิหาร[e] ช่องหน้าต่างนี้ด้านในเล็กกว่าด้านนอก ซาโลมอนได้สร้างห้องโดยรอบ ติดกับผนังรอบห้องโถงใหญ่และห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ห้องพวกนี้มีสามชั้น ฝาผนังด้านนอกของห้องโถงใหญ่นั้น ด้านล่างหนากว่าด้านบนเป็นหยักบ่าเข้าไป เพื่อจะได้วางไม้คาน ไม้คานจะได้ไม่ทะลุฝาผนังเข้าไป จึงทำให้พวกห้องด้านบนกว้างกว่าพวกห้องด้านล่าง พวกห้องชั้นล่างสุดกว้างห้าศอก[f] ชั้นที่สองกว้างหกศอก[g] และชั้นที่สามกว้างเจ็ดศอก[h] ในการก่อสร้างวิหารนี้ จะใช้แต่หินที่ได้รับการตัดแต่งเรียบร้อยแล้วจากเหมืองหินเท่านั้น ก็เลยไม่มีเสียงค้อน หรืออีเต้อ หรือเครื่องมืออื่นๆที่ทำจากเหล็ก

ทางเข้าห้องพวกนี้ อยู่ที่ชั้นหนึ่ง ตรงด้านทิศใต้ของวิหาร ข้างในมีบันไดขึ้นจากชั้นหนึ่งไปชั้นสอง และจากชั้นสองไปชั้นสาม

ซาโลมอนก็ได้สร้างวิหารนั้นจนเสร็จสมบูรณ์ พระองค์ได้สร้างหลังคาวิหาร โดยมีขื่อและแผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนซีดาร์ 10 แล้วพระองค์ได้สร้างพวกห้องที่ล้อมรอบวิหารจนเสร็จ แต่ละห้องสูงห้าศอก และมีพวกไม้คานที่ทำจากสนซีดาร์วางพาดอยู่บนหยักบ่าของฝาผนังวิหาร

11 คำพูดของพระยาห์เวห์มาถึงซาโลมอนว่า 12-13 “ถ้าหากเจ้าทำตามกฎต่างๆของเรา ทำตามข้อบังคับทุกข้อและรักษาคำสั่งทุกอย่างของเรา และใช้ชีวิตตามนั้น เราก็จะทำตามคำสัญญาที่เราได้ให้ไว้กับดาวิดพ่อของเจ้า เราจะอาศัยอยู่ในท่ามกลางชาวอิสราเอลในวิหารนี้ที่เจ้ากำลังสร้างขึ้น และเราจะไม่ละทิ้งประชาชนชาวอิสราเอลของเรา”

14 ซาโลมอนจึงได้สร้างวิหารหลังนั้นจนเสร็จสมบูรณ์

15 พระองค์ใช้แผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนซีดาร์ กรุผนังด้านในที่ทำจากหินโดยรอบ ตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดาน และปูทับพื้นหินทั้งหมดในวิหารด้วยแผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนสามใบ 16 ที่ด้านในสุดของวิหาร พระองค์ใช้แผ่นกระดานที่ทำจากไม้สนซีดาร์กั้นห้องขึ้นมาตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน มีขนาดยาวยี่สิบศอก เพื่อให้เป็นห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 17 ห้องโถงใหญ่ด้านหน้ามีขนาดยาวสี่สิบศอก[i] 18 ภายในวิหารใช้ไม้สนซีดาร์ที่แกะสลักลายน้ำเต้า[j] และลายดอกไม้บานกรุไว้จนหมด ไม่เห็นส่วนที่เป็นหินเลย

19 ซาโลมอนได้สร้างห้องศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านในสุดของวิหารจนเสร็จ เพื่อใช้เป็นที่วางหีบแห่งข้อตกลงของพระยาห์เวห์ 20 ห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนี้มีขนาดยาวยี่สิบศอก[k] กว้างยี่สิบศอกและสูงยี่สิบศอก เขาใช้ทองคำบริสุทธิ์บุทับไว้ที่ด้านในของห้อง และเขาได้สร้างแท่นเผาเครื่องหอมที่ทำจากไม้สนซีดาร์ตั้งไว้ตรงหน้าห้องนี้ และเอาทองบุแท่นเผาเครื่องหอมนี้ 21 ซาโลมอนบุทองคำบริสุทธิ์ไว้ที่ด้านในของวิหาร และใช้โซ่ทองคำกั้นไว้ที่หน้าห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่ได้บุทองคำไว้แล้ว 22 แล้วด้านในของวิหารก็บุทองคำไว้ทั้งหมด แท่นเผาเครื่องหอมที่ตั้งอยู่หน้าห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ก็บุทองคำด้วย

23 ภายในห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เขาได้ใช้ไม้มะกอกสร้างเป็นทูตสวรรค์มีปีก ไว้สององค์ แต่ละองค์มีความสูงสิบศอก 24 ปีกข้างหนึ่งของทูตองค์แรก มีความยาวห้าศอก ปีกอีกข้างหนึ่งยาวห้าศอก วัดจากปลายปีกข้างหนึ่งไปถึงปลายปีกอีกข้างหนึ่งยาวสิบศอก 25 ทูตสวรรค์มีปีกองค์ที่สองก็วัดได้สิบศอกด้วย ทั้งสององค์มีขนาดและรูปร่างเหมือนกัน 26 ทูตสวรรค์มีปีกทั้งสององค์นั้นสูงสิบศอกเท่ากัน 27 ซาโลมอนได้วางทูตสวรรค์มีปีกทั้งสององค์ไว้ภายในห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ปีกข้างหนึ่งของทูตสวรรค์ทั้งสองนั้นแตะกันอยู่ตรงกลางห้อง ส่วนปีกอีกข้างของทูตทั้งสองนั้นก็ไปติดกับฝาผนังแต่ละด้าน 28 และทูตสวรรค์มีปีกทั้งสององค์นั้นก็มีทองคำบุอยู่

29 บนฝาผนังด้านในของห้องโถงใหญ่และห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุดนั้น มีทั้งรูปทูตสวรรค์มีปีก รูปต้นอินทผลัม และดอกไม้บาน สลักอยู่มากมาย 30 พื้นของห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด และห้องโถงใหญ่ของวิหาร บุด้วยทองคำ 31 ตรงทางเข้าของห้องศักดิ์สิทธิ์ที่สุด คนงานได้เอาไม้มะกอกมาสร้างเป็นประตูขึ้นสองบาน และทำกรอบประตูเป็นรูปห้าเหลี่ยม[l] 32 ซาโลมอนให้พวกช่างทำบานประตูทั้งสองนั้นจากไม้มะกอก และแกะสลักรูปทูตสวรรค์มีปีก ต้นปาล์มและดอกไม้บานไว้มากมาย และบุด้วยทองคำ

33 ตรงทางเข้าห้องโถงใหญ่ พวกเขาได้ใช้ไม้มะกอกมาทำกรอบประตูเป็นรูปสี่เหลี่ยม 34 พวกเขาได้เอาไม้สนสามใบมาสร้างเป็นสองประตู แต่ละประตูก็มีบานประตูสองบานที่พับได้ 35 พวกช่างได้แกะสลักลายทูตสวรรค์มีปีก ต้นปาล์มและดอกไม้ไว้บนบานประตูเหล่านั้น และบุด้วยทองคำ

36 แล้วพวกช่างก็ได้เอาหินที่ตัดแต่งแล้วมาสร้างเป็นกำแพงล้อมรอบลานด้านในไว้ กำแพงแต่ละด้านสร้างขึ้นด้วยหินที่ตัดแต่งแล้วสามชั้น กับไม้สนซีดาร์อีกหนึ่งชั้น

37 พวกเขาเริ่มก่อสร้างวิหารของพระยาห์เวห์ขึ้นในเดือนศิฟ (เป็นเดือนที่สองของปี) ซึ่งตรงกับปีที่สี่ที่กษัตริย์ซาโลมอนเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล 38 วิหารสร้างเสร็จในปีที่สิบเอ็ดที่ซาโลมอนเป็นกษัตริย์ ในเดือนบูล (ซึ่งเป็นเดือนที่แปดของปี) วิหารก็สร้างเสร็จตามรายละเอียดที่ได้กำหนดไว้ทุกอย่าง ซาโลมอนได้ใช้เวลาในการสร้างวิหารทั้งหมดเจ็ดปี

Footnotes

  1. 6:1 สี่ร้อยแปดสิบปี ประมาณ 960 ปีก่อนพระเยซูมาเกิด
  2. 6:2 หกสิบศอก หรือ 31.5 เมตร
  3. 6:2 ยี่สิบศอก หรือ 10.5 เมตร
  4. 6:2 สามสิบศอก หรือ 15.75 เมตร สำเนาภาษากรีกโบราณเขียนไว้ว่า 25 ศอก
  5. 6:4 หน้าต่าง … วิหาร อาจจะหมายถึงหน้าต่างที่มีลวดลายฉลุ
  6. 6:6 ห้าศอก หรือ 2.6 เมตร
  7. 6:6 หกศอก หรือ 3.2 เมตร
  8. 6:6 เจ็ดศอก หรือ 3.7 เมตร
  9. 6:17 สี่สิบศอก หรือ 21 เมตร
  10. 6:18 น้ำเต้า พืชชนิดหนึ่งมีเถายาว ผลของมันมีลักษณะเหมือนเหยือกน้ำและเมื่อทิ้งไว้นานจะแข็งขึ้นจนเหมือนไม้
  11. 6:20 ยี่สิบศอก หรือ 10.5 เมตร
  12. 6:31 กรอบประตูเป็นรูปห้าเหลี่ยม คงหมายถึงบนประตูทำจากไม้สามชิ้น ทรงป้านไม่ใช่เป็นปลายแหลม

ซาโลมอนสร้างพระตำหนัก

ในปีที่สี่ร้อยแปดสิบ หลังจากที่ชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์แล้ว นับเป็นปีที่สี่แห่งการปกครองอิสราเอลของซาโลมอน ในเดือนศิฟ คือเดือนที่สอง ท่านจึงเริ่มสร้างพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พระตำหนักที่กษัตริย์ซาโลมอนสร้างเพื่อพระผู้เป็นเจ้า มีความยาว 60 ศอก กว้าง 20 ศอก และสูง 30 ศอก มุขที่หน้าพระตำหนักชั้นนอกของพระวิหารยาว 20 ศอก เท่ากับความกว้างของพระตำหนัก และลึกจากด้านหน้าพระตำหนัก 10 ศอก ท่านให้สร้างขอบหน้าต่างเป็นส่วนเว้าเข้าไปจากกำแพงด้านนอก รอบผนังด้านนอกของพระตำหนัก ท่านสร้างห้องเสริมรอบๆ พระตำหนักชั้นนอกและพระตำหนักชั้นใน มีหลายห้องที่สร้างไว้โดยรอบ ห้องชั้นล่างสุดกว้าง 5 ศอก ชั้นกลางกว้าง 6 ศอก และชั้นที่สามกว้าง 7 ศอก ผนังรอบนอกของพระตำหนักมีเชิงสร้างไว้โดยรอบ เพื่อไม่ต้องสอดคานรับน้ำหนักไว้ที่ผนังพระตำหนัก

หินที่ใช้สร้างพระตำหนักเป็นหินที่แต่งแล้วจากเหมือง เพื่อไม่ให้มีเสียงค้อน ขวาน หรือเครื่องมือเหล็กชนิดใดในพระตำหนัก ขณะที่กำลังก่อสร้างอยู่

ทางเข้าชั้นล่างสุดอยู่ทางทิศใต้ของพระตำหนัก มีบันไดขึ้นไปบนชั้นกลางและชั้นที่สามได้ ดังนั้นท่านสร้างพระตำหนักจนเสร็จ ท่านใช้คานและแผ่นไม้ซีดาร์กรุเพดาน 10 ห้องเสริมแต่ละชั้นที่ท่านสร้างรอบพระตำหนักมีความสูง 5 ศอก ซึ่งเชื่อมติดกับพระตำหนักด้วยไม้ซีดาร์

11 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับซาโลมอนว่า 12 “เรื่องตำหนักที่เจ้ากำลังสร้างอยู่ ถ้าเจ้าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา เชื่อฟังคำบัญชา และรักษาคำบัญญัติของเรา เราก็จะปฏิบัติต่อเจ้าตามสัญญาที่เราได้ให้แก่ดาวิดบิดาของเจ้า 13 และเราจะอยู่กับลูกหลานของอิสราเอล และจะไม่ทอดทิ้งอิสราเอลชนชาติของเรา”

14 ดังนั้นซาโลมอนสร้างพระตำหนักจนเสร็จ 15 ท่านให้กรุผนังข้างในพระตำหนักด้วยกระดานไม้ซีดาร์ตั้งแต่พื้นถึงเพดาน และท่านให้ใช้ไม้สนปูทับพื้นพระตำหนัก 16 ท่านสร้างด้านหลังของพระตำหนักด้วยกระดานไม้ซีดาร์สูง 20 ศอกตั้งแต่พื้นถึงเพดาน และท่านสร้างห้องนี้ให้เป็นพระตำหนักชั้นใน คืออภิสุทธิสถาน 17 พระตำหนักชั้นนอกซึ่งอยู่ด้านหน้าของพระตำหนักชั้นในยาว 40 ศอก 18 ไม้ซีดาร์ภายในพระตำหนักแกะสลักรูปน้ำเต้าและดอกไม้บาน เป็นไม้ซีดาร์ทั้งหมด โดยมองไม่เห็นหินเลย 19 ท่านเตรียมพระตำหนักชั้นในไว้ภายในพระวิหาร เพื่อเป็นที่ตั้งหีบพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า 20 พระตำหนักชั้นในมีขนาดยาว 20 ศอก กว้าง 20 ศอก และสูง 20 ศอก และท่านให้กรุด้วยทองคำบริสุทธิ์ และหุ้มแท่นบูชาไม้ซีดาร์ด้วยทองคำเช่นกัน 21 ซาโลมอนกรุภายในพระตำหนักด้วยทองคำบริสุทธิ์ ท่านให้ใช้โซ่ทองคำขึงที่ทางเข้าพระตำหนักชั้นในซึ่งกรุด้วยทองคำ 22 ท่านให้กรุทั่วพระตำหนักด้วยทองคำ จนเสร็จบริบูรณ์ และให้ใช้ทองคำหุ้มแท่นบูชาที่อยู่ในพระตำหนักชั้นในด้วย

23 ภายในพระตำหนักชั้นใน ท่านให้ทำตัวเครูบ 2 รูปด้วยไม้มะกอก[a] แต่ละรูปสูง 10 ศอก 24 เครูบมีปีกยาวปีกละ 5 ศอก วัดจากปลายปีกข้างหนึ่งถึงปลายปีกอีกข้างหนึ่งได้ 10 ศอก 25 เครูบทั้งสองมีลักษณะและขนาดที่เท่ากัน 26 เครูบแต่ละรูปสูงเท่ากันคือ 10 ศอก 27 ท่านให้ตั้งเครูบไว้ที่ห้องในสุดของพระตำหนัก ปีกของเครูบทั้งสองกางออก ปลายปีกของเครูบทั้งสองจรดกันตรงกลางพระตำหนัก ส่วนปีกอีกข้างจรดผนัง 28 และท่านให้ใช้ทองคำหุ้มตัวเครูบ

29 ท่านให้แกะสลักผนังพระตำหนักชั้นในและพระตำหนักชั้นนอก เป็นตัวเครูบ ต้นอินทผลัม และดอกไม้บาน 30 พื้นพระตำหนักชั้นในและพระตำหนักชั้นนอกก็ให้กรุด้วยทองคำ

31 ท่านให้ทำประตูที่ทางเข้าพระตำหนักชั้นในด้วยไม้มะกอก ประตูตอนบนและวงกบประตูบรรจบกันเป็นรูปห้าเหลี่ยม 32 ท่านให้แกะสลักประตูไม้มะกอกทั้งสองเป็นรูปเครูบ ต้นอินทผลัม และดอกไม้บาน แล้วท่านก็ให้หุ้มเครูบและต้นอินทผลัมด้วยแผ่นทองคำ

33 ท่านให้ทำวงกบประตูที่ทางเข้าพระตำหนักชั้นนอกด้วยไม้มะกอกเป็นรูปสี่เหลี่ยมด้วย 34 ประตูสองบานใช้ไม้สน ประตูทั้งสองบานเป็นประตูบานพับ 35 และท่านให้แกะสลักประตูเป็นเครูบ ต้นอินทผลัม และดอกไม้บาน และหุ้มรูปที่แกะสลักด้วยทองคำให้เรียบ 36 ท่านให้สร้างกำแพงล้อมลานใน ด้วยหินที่แต่งแล้วก่อขึ้น 3 ขั้นกับคานไม้ซีดาร์ 1 ขั้น

37 ในปีที่สี่ของสมัยซาโลมอน ท่านให้วางฐานรากพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าในเดือนศิฟ 38 ในปีที่สิบเอ็ด พระตำหนักสร้างเสร็จในเดือนบูล คือเดือนที่แปด ตามรายละเอียดที่ระบุไว้ ใช้เวลาสร้าง 7 ปี