Add parallel Print Page Options

ราชินีแห่งเชบามาเยี่ยมซาโลมอน

(2 พศด. 9:1-28)

10 เมื่อราชินีแห่งเชบาได้ยินถึงชื่อเสียงของซาโลมอน ที่นำเกียรติยศมาให้กับชื่อของพระยาห์เวห์ นางก็ได้มาทดสอบเขาด้วยคำถามยากๆมากมาย นางมาถึงเมืองเยรูซาเล็มพร้อมกับข้าราชการมากมายของนาง มีฝูงอูฐบรรทุกเครื่องเทศชนิดต่างๆ ทองคำเป็นอันมาก รวมทั้งพลอยมีค่า นางได้มาหาซาโลมอนและได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจนางกับเขา ซาโลมอนตอบคำถามของนางได้หมด ไม่มีสักข้อที่ยากเกินไปจนเขาไม่สามารถอธิบายให้กับนางได้ เมื่อราชินีแห่งเชบาได้เห็นความฉลาดหลักแหลมของซาโลมอน รวมทั้งวังที่เขาได้สร้างขึ้นมา ตลอดจนอาหารต่างๆบนโต๊ะของเขา ที่นั่งของพวกเจ้าหน้าที่ของเขา พวกผู้รับใช้ของเขาที่สวมเสื้อคลุมยาวที่ยืนคอยรับใช้อยู่ พวกผู้ถือถ้วยของเขาและเครื่องเผาบูชาทั้งหลายที่เขาถวายอยู่ในวิหารของพระยาห์เวห์ นางก็รู้สึกตกตะลึงจนลืมหายใจ

นางพูดกับกษัตริย์ว่า “ข่าวที่เราได้ยินตอนอยู่ประเทศของเราเกี่ยวกับความสำเร็จต่างๆและความเฉลียวฉลาดของท่านล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น แต่เราไม่เคยเชื่อสิ่งเหล่านี้มาก่อน จนกระทั่งเราได้มาเห็นกับตาของเราเอง อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เราได้ยินมา ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเฉลียวฉลาดหรือความร่ำรวยของท่าน ท่านก็ยังมีมากกว่าข่าวที่เราได้ยินมา พวกภรรยาของท่าน[a]นี่ช่างได้เกียรติจริงๆ พวกเจ้าหน้าที่ของท่านนี่ช่างได้เกียรติจริงๆ ผู้ที่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าท่านตลอดเวลา และได้ฟังสติปัญญาของท่าน ขอสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ผู้ที่ได้ชื่นชมในตัวท่านและได้วางท่านไว้บนบัลลังก์ของอิสราเอล เป็นเพราะความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพระยาห์เวห์ต่ออิสราเอล พระองค์จึงทำให้ท่านได้ขึ้นเป็นกษัตริย์เพื่อรักษาความยุติธรรมและความถูกต้องไว้”

10 และนางก็ได้ให้ทองคำหนักสี่พันหนึ่งร้อยสี่สิบกิโลกรัม[b] เครื่องเทศจำนวนมาก และพลอยต่างๆให้กับกษัตริย์ และไม่เคยมีการนำเครื่องเทศเข้ามามากมายเท่ากับที่ราชินีแห่งเชบาได้นำเข้ามาให้กษัตริย์ซาโลมอนในครั้งนี้อีกเลย

11 (กองกำปั่นเรือของฮีรามได้นำทองคำมาจากโอฟีร์ และจากที่นั่น เขาได้นำไม้จันทน์แดง[c] บรรทุกกลับมาด้วยหลายลำเรือและเพชรพลอยอีกมากมาย 12 กษัตริย์ได้ใช้ไม้แก่นจันทน์แดงทำเสาสำหรับวิหารของพระยาห์เวห์ และวังของเขา แล้วยังเอาไม้แก่นจันทน์แดงไปทำเป็นพิณเล็ก และพิณใหญ่ให้กับพวกนักร้อง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีใครนำไม้แก่นจันทน์แดงเข้ามา หรือเห็นมากมายอย่างนี้อีกเลย)

13 กษัตริย์ซาโลมอนได้ให้ของทุกอย่างกับราชินีเชบาตามที่อยากได้หรือขอ นอกเหนือจากของขวัญที่กษัตริย์ให้กับนางอยู่แล้ว แล้วนางก็จากไปและกลับไปประเทศของนางพร้อมกับพวกข้าราชการของนาง

14 ทองคำที่ซาโลมอนได้รับมาแต่ละปีมีน้ำหนักประมาณยี่สิบสามตัน[d] 15 ยังไม่รวมรายได้[e] ที่ได้มาจากพวกพ่อค้าและจากการค้าขายต่างๆ และจากพวกกษัตริย์ของอาระเบียและพวกผู้ว่าการทั้งหลายในแผ่นดินนั้น

16 กษัตริย์ซาโลมอนได้สร้างโล่ขนาดใหญ่จำนวนสองร้อยอันที่ทำจากทองคำที่ตีแล้ว โดยใช้ทองคำหนักประมาณเจ็ดกิโลกรัม[f] ต่อโล่หนึ่งอัน 17 เขายังได้สร้างโล่ขนาดเล็กสามร้อยอันที่ทำจากทองคำที่ตีแล้ว โดยใช้ทองคำประมาณเกือบสองกิโลกรัม[g] ต่อโล่หนึ่งอัน กษัตริย์ซาโลมอนได้นำโล่เหล่านี้ไปวางไว้ในวังที่มีชื่อเรียกว่า “ป่าของเลบานอน”

18 แล้วกษัตริย์ก็ได้สร้างบัลลังก์ที่ยิ่งใหญ่ฝังงาช้างและบุด้วยทองคำอย่างดี 19 บัลลังก์นี้มีบันไดหกขั้นและที่พนักพิงมียอดกลม มีที่วางแขนอยู่ที่ด้านข้างทั้งสองข้าง โดยมีสิงห์ยืนอยู่ข้างละหนึ่งตัว 20 และยังมีสิงห์อีกสิบสองตัวซึ่งแต่ละตัวยืนอยู่ที่ปลายสุดทั้งสองข้างของบันไดแต่ละขั้น บันไดมีทั้งหมดหกขั้น ไม่มีอาณาจักรไหนมีของอย่างนี้เลย 21 ถ้วยเครื่องดื่มของซาโลมอนทุกใบล้วนทำจากทองคำ และเครื่องเรือน[h] ทุกอย่างในวังแห่งป่าของเลบานอนก็ทำจากทองคำบริสุทธิ์ทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งใดเลยที่ทำขึ้นจากเงิน เพราะในยุคของซาโลมอนนั้นเงินแทบจะไม่มีค่าอะไรเลย

22 กษัตริย์มีกองเรือกำปั่นซึ่งแล่นอยู่ในทะเลร่วมกับกองเรือของกษัตริย์ฮีราม กองเรือนี้จะกลับมาสามปีครั้งโดยจะบรรทุกทองคำ เงินและงาช้างรวมทั้งลิงใหญ่และลิงบาบูนมาด้วย

23 กษัตริย์ซาโลมอนล้ำหน้ากษัตริย์ทุกองค์ในโลกนี้ ในเรื่องความร่ำรวยและความเฉลียวฉลาด 24 โลกทั้งโลกต่างพากันมาขอเข้าพบซาโลมอน เพื่อที่จะได้ฟังความเฉลียวฉลาดของเขาที่พระเจ้าได้ใส่ไว้ในใจของเขา 25 ปีแล้วปีเล่า ทุกๆคนที่มาต่างก็นำของขวัญมาให้เขา ไม่ว่าจะเป็นเงินหรือทองคำ เสื้อผ้า อาวุธ เครื่องเทศ ม้าหรือล่อ

26 กษัตริย์ซาโลมอนได้สะสมรถรบและม้าไว้มากมาย เขามีรถรบอยู่หนึ่งพันสี่ร้อยคันและมีม้าอยู่หนึ่งหมื่นสองพันตัว เขาได้เก็บรักษาพวกมันไว้ตามเมืองต่างๆที่เขาได้สร้างขึ้นมา และได้เก็บไว้ในเมืองเยรูซาเล็มกับเขาด้วย 27 กษัตริย์ได้ทำให้เงินมีมากมายในเมืองเยรูซาเล็มเหมือนก้อนหิน และทำให้ไม้สนซีดาร์มีอย่างเกลื่อนกลาดเหมือนกับไม้มะเดื่อตามเชิงเขา 28 พวกม้าของกษัตริย์ซาโลมอนก็เป็นม้านำเข้าจากอียิปต์และจากเมืองคูเอ โดยพวกพ่อค้าของกษัตริย์เป็นผู้ซื้อพวกม้าเหล่านั้นมาจากเมืองคูเอ 29 รถรบสามารถนำเข้ามาได้จากอียิปต์ เป็นเงินหนักเกือบเจ็ดกิโลกรัม ต่อคัน และม้าเป็นเงินหนักเกือบสองกิโลกรัม และพวกเขาก็ได้ส่งพวกม้าและรถรบออกไปขายต่อให้กับพวกกษัตริย์ของชาวฮิตไทต์และกษัตริย์ของชาวอารัม ผ่านทางพ่อค้าของกษัตริย์ซาโลมอน

Footnotes

  1. 10:8 พวกภรรยาของท่าน คำนี้อยู่ในฉบับแปลกรีกโบราณ ฉบับฮีบรูที่นิยมใช้กับเขียนว่า คนของท่าน
  2. 10:10 สี่พันหนึ่งร้อยสี่สิบกิโลกรัม หรือแปลตรงๆได้ว่า หนึ่งร้อยยี่สิบตะลันต์
  3. 10:11 ไม้จันทน์แดง เป็นไม้ชนิดพิเศษอย่างหนึ่ง ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าเป็นไม้ประเภทใด
  4. 10:14 ยี่สิบสามตัน หรือแปลตรงๆได้ว่า หกร้อยหกสิบหกตะลันต์
  5. 10:15 รายได้ คือทองคำที่ได้จากบรรดาเรือบรรทุกสินค้าหรือเรือของทารชิช
  6. 10:16 เจ็ดกิโลกรัม หรือแปลตรงๆได้ว่า หกร้อยเชเขล (เหมือนข้อ 29)
  7. 10:17 เกือบสองกิโลกรัม หรือแปลตรงๆได้ว่า สามมิเน (เหมือนข้อ 29)
  8. 10:21 เครื่องเรือน อาจหมายถึงบรรดาจาน เครื่องใช้ต่างๆหรืออาวุธ

ราชินีแห่งเช-บา

10 เมื่อราชินีแห่งเช-บาได้ยินกิตติศัพท์ของซาโลมอน ในเรื่องของพระนามของพระผู้เป็นเจ้า นางจึงเดินทางมาทดสอบท่านด้วยคำปริศนาลึกล้ำ นางมายังเมืองเยรูซาเล็ม พร้อมกับข้าราชบริพารมากมาย ขบวนอูฐแบกทั้งเครื่องเทศ ทองคำ และเพชรนิลจินดามาเป็นจำนวนมาก เมื่อนางมาพบกับซาโลมอน นางก็บอกสิ่งที่อยู่ในใจแก่ท่านจนหมดสิ้น และซาโลมอนก็ไขข้อข้องใจทุกประการ ไม่มีสิ่งใดลึกล้ำเกินกว่าที่ซาโลมอนจะอธิบายแก่นาง ครั้นราชินีแห่งเช-บาได้เห็นว่าคำพูดของซาโลมอนทั้งหมดกอปรด้วยสติปัญญา อีกทั้งวังที่ท่านสร้าง อาหารที่โต๊ะของท่าน เจ้าหน้าที่ชั้นสูงนั่งประจำที่ และการมีต้นห้องคอยรับใช้ เครื่องแต่งกายของพวกเขา พนักงานถวายเหล้าองุ่น และสัตว์ที่ท่านมอบเป็นของถวายที่พระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า ทำให้นางถึงกับตกตะลึง

นางจึงกล่าวกับกษัตริย์ว่า “เรื่องราวที่ข้าพเจ้าได้ยินในแผ่นดินของข้าพเจ้าเอง ความสำเร็จของท่านและสติปัญญาของท่านก็เป็นความจริง แต่ข้าพเจ้าไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน จนกระทั่งได้มาถึงที่นี่และได้เห็นด้วยตาของข้าพเจ้าเอง ดูสิ ข้าพเจ้าได้ยินมาเพียงครึ่งเดียว สติปัญญาและความมั่งคั่งของท่านมากยิ่งกว่าคำบอกเล่าที่ข้าพเจ้าได้ยินมา คนของท่านก็เป็นสุข บรรดาผู้รับใช้ของท่านก็เป็นสุข ที่มีโอกาสได้ฟังคำพูดอันกอปรด้วยสติปัญญาของท่านเรื่อยไป ขอพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้รับพระพรเถิด พระองค์ชื่นชอบในตัวท่าน และให้ท่านครองบัลลังก์ของอิสราเอล เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้ารักอิสราเอลเป็นนิตย์ พระองค์กำหนดให้ท่านเป็นกษัตริย์ เพื่อให้ท่านตัดสินด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม” 10 แล้วนางก็มอบทองคำ 120 ตะลันต์แก่กษัตริย์ และเครื่องเทศมากมาย อีกทั้งเพชรนิลจินดาด้วย ซึ่งในเวลาต่อมา ไม่มีผู้ใดนำเครื่องเทศมามากเท่ากับครั้งที่ราชินีมอบให้แก่กษัตริย์ซาโลมอนอีกเลย

11 นอกเหนือจากนั้นแล้ว หมู่เรือของกษัตริย์ฮีรามที่นำทองคำมาจากโอฟีร์ ก็ได้นำไม้จันทน์และเพชรนิลจินดาจำนวนมากมายจากโอฟีร์ด้วย 12 และกษัตริย์ให้ใช้ไม้จันทน์ทำราวบันไดในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และในวังของกษัตริย์ และให้ใช้ทำพิณเล็กและพิณสิบสายสำหรับบรรดานักร้อง ไม่เคยมีใครนำไม้จันทน์มากมายเช่นนี้เข้ามาหรือเคยเห็นอีกนับจากวันนั้น

13 กษัตริย์ซาโลมอนมอบทุกสิ่งที่ราชินีแห่งเช-บาต้องการ ไม่ว่านางจะขอสิ่งใด นอกเหนือไปจากสิ่งอื่นๆ ที่กษัตริย์ซาโลมอนได้มอบให้นางด้วยน้ำใจกว้างขวาง จากนั้นนางก็กลับไปยังแผ่นดินพร้อมกับบรรดาผู้รับใช้ของนาง

ความมั่งคั่งของซาโลมอน

14 ในแต่ละปี ซาโลมอนได้รับทองคำหนัก 666 ตะลันต์ 15 นอกเหนือจากทองที่พ่อค้าระหว่างประเทศและพ่อค้าภายในอาณาจักรนำมา และจากบรรดากษัตริย์แห่งอาระเบียและเจ้าเมืองทั้งปวงของแผ่นดิน 16 กษัตริย์ซาโลมอนให้คนทำโล่ใหญ่ 200 อันจากทองคำตีด้วยค้อน โล่แต่ละอันใช้ทองคำหนัก 600 เชเขล[a] 17 และท่านให้ทำโล่เล็ก 300 อัน จากทองคำตีด้วยค้อน แต่ละอันใช้ทองคำหนัก 3 มินา[b] และกษัตริย์เก็บโล่ไว้ในตำหนักวนาลัยแห่งเลบานอน 18 กษัตริย์ให้ใช้งาช้างสร้างบัลลังก์ใหญ่หุ้มด้วยทองคำคุณภาพดีที่สุด 19 บัลลังก์มีบันได 6 ขั้น ด้านหลังบัลลังก์ตอนบนเป็นรูปทรงกลม รูปสิงโต 2 ตัวยืนอยู่ข้างๆ เท้าแขนทั้งสอง 20 แต่ละข้างของขั้นบันได 6 ขั้น มีรูปสิงโตยืนอยู่ที่แต่ละขั้น ไม่เคยมีอาณาจักรอื่นใดที่สร้างบัลลังก์ได้เหมือนอย่างนี้ 21 ภาชนะทุกชิ้นสำหรับเครื่องดื่มทำด้วยทองคำ และภาชนะทุกชิ้นของตำหนักวนาลัยแห่งเลบานอนทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดที่ทำด้วยเงิน เพราะเงินในสมัยของซาโลมอนนับว่าไม่มีค่าอะไร 22 ด้วยว่ากษัตริย์มีกองเรือเดินทะเลของเมืองทาร์ชิช โดยล่องไปกับหมู่เรือของฮีราม กองเรือเดินทะเลมักจะขนทองคำ เงิน งาช้าง ลิง และนกยูงมา ทุกๆ 3 ปี

23 ฉะนั้น กษัตริย์ซาโลมอนมั่งคั่งและเปี่ยมด้วยสติปัญญามากกว่ากษัตริย์อื่นๆ ในแผ่นดินโลก 24 และทั่วแผ่นดินโลกปรารถนาที่จะได้เห็นและได้ฟังคำพูดอันกอปรด้วยสติปัญญา ซึ่งพระเจ้าเป็นผู้ปลูกฝังไว้ในจิตใจของท่าน 25 ทุกคนต่างก็นำของบรรณาการอันได้แก่ เครื่องเงินและทองคำ เครื่องแต่งกาย เครื่องอาวุธ เครื่องเทศ ม้า และล่อ มามอบให้จำนวนมากเป็นประจำทุกปี

26 ซาโลมอนสะสมรถศึกและทหารม้า ท่านมีรถศึก 1,400 คัน และทหารม้า 12,000 คน ซึ่งท่านให้ประจำอยู่ที่เมืองเก็บรถศึกทั้งหลาย และให้ประจำอยู่กับกษัตริย์ในเยรูซาเล็มด้วย 27 กษัตริย์ทำให้มีเงินใช้อยู่ทั่วไปในเยรูซาเล็มราวกับใช้ก้อนหิน และท่านมีไม้ซีดาร์มากมายราวกับต้นมะเดื่อในที่ลุ่ม 28 ม้าของซาโลมอนถูกนำเข้ามาจากประเทศอียิปต์และเมืองคูเอ บรรดาพ่อค้าของกษัตริย์ซื้อจากคูเอตามกำหนดราคา 29 รถศึกเป็นสินค้าเข้ามาจากประเทศอียิปต์ ราคาแต่ละคันมีค่าเป็นเงิน 600 เชเขล และม้าราคา 150 เชเขล และพวกเขาก็ส่งออกไปขายให้แก่บรรดากษัตริย์ของชาวฮิตและแก่บรรดากษัตริย์แห่งอารัม[c]

Footnotes

  1. 10:16 1 เชเขล หนักประมาณ 11.4 กรัม
  2. 10:17 150 เชเขล
  3. 10:29 อารัม คือประเทศซีเรียในปัจจุบัน